เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๕๐

วันที่รัชกาล ๗๒๑๑ วัน ๔ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๘ สิงหาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้ออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๑๒ วัน ๕ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๙ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยนำใบบอกพระพิเรนทรเทพ ข้าหลวงเมืองนครราชสิมาว่าด้วยเกณไพร่แลขุนหมื่น ๒๐๐๐ คน ตัดไม้รเนียดใหญ่ ๒ กำ ยาว ๘ ศอก คนละ ๕ ท่อน ได้ ๑๐๐๐๐ ให้ฝังรเนียดตามช่องกำแพง ตัดแล้วบ้างยังบ้าง ยังทำเสมออยู่

พระยาศรีสิงหเทพนำพระยาสุนทรสงครามเมืองสุพรรณบุรี กราบถวายบังคมลาไปว่าราชการบ้านเมือง พระราชทานโต๊ะทองคำกาทองคำเปนเสื้อผ้าเปนเครื่องยศ

พระวรเดชศักดาวุธ นำหลวงสิทธินายเวร ๑ นายสรรพวิไชยหุ้มแพร ๑ มิสเตอกูเล ๑ กราบถวายบังคมลาไปจัดซื้อม้า ณ เกาะออศเตเลีย มาใช้ราชการ

เวลา ๕ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๑๓ วัน ๖ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๐ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกพระยามหาอมาตยข้าหลวงว่าได้เร่งให้พระยาสุรินทรภักดี เมืองสุรินทร เกบเงินส่วยเมืองสุรินทรเมืองขึ้นจำนวนปีรกาสัปตศก บีจออัฐศก ปีกุนนพศก ได้เงิน ๑๑๗ ชั่ง ๗ ตำลึง ๒ บาท คิดแทนเร่วหาบละ ๕ ตำลึง รวมเร่วหนัก ๔๖๙ บาท ๕๕ สลึง ส่งมาฉบับ ๑ กับใบบอกพระราษฎรบริหารเมืองกมลาไศรย ขอพระราชทานศิลาน่าเพลิงพระราชทานเพลิงศพราชวงษ ฉบับ ๑

กรมท่าอ่านบอกพระยาสมุทบุรานุรักษเมืองสมุทปราการ ว่าพระยาอ่างทองมีสูตรนารายน์มาว่า มีผู้ร้ายปล้นเรือนหลวงอินอาญา เกบทรัพยไป ๓๒ ชั่ง จับได้อ้ายเต่าผู้ร้าย รับเปนสัตยซัดอ้ายจีนแก้ว จีนพูน อ้ายอิน อ้ายโคก คนเมืองสมุทปราการ พระยาสมุท สืบจับได้ ๓ คน แต่อ้ายโคกหนีไป ได้ถามอ้ายจีนแก้วจีนพูนอ้ายอินรับเปนสัตย จึงส่งตัวขึ้นมาทั้งของกลางที่จับได้ด้วย

พระราชทานสัญญาบัตร หม่อมราชวงษสอาด เปนหลวงพิทักษมานพ คุมเดกชามหาดเล็ก นา ๖๐๐ ขุนศิลปสาตรา เลื่อนเปนหลวงศิลปสาตราปลัดกรมกองแก้วจินดา นา ๔๐๐ หมื่นรักษาสมุท เปนขุนวิชิตภักดี ปลัดกรมท่าขวาฝ่ายพระราชวังบวร นา ๔๐๐ ท้าววรบุตรว่าที่อุปฮาด เปนพระศรีสงครามเจ้าเมืองเลย ขึ้นเมืองหล่มศัก เวลา ๕ ทุ่ม เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๑๔ วัน ๗ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๑ สิงหาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้เสดจออก

วันที่รัชกาล ๗๒๑๕ วัน ๑ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๒ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมืองน่าน ถวายพระราชกุศลทำบุญสงกรานต แลว่าด้วยพระยาสุรศักดิเชิญตราขึ้นไปถึง ได้มอบเครื่องราชอิศริยยศช้างเผือกสยามชั้นที่ ๓ ให้เจ้าราชวงษแล้ว กับว่าเจ้าอุปราช เจ้าราชบุตรเมืองน่านถึงแก่กรรม ได้ให้เจ้าน้อยบุญหลงบุตรเจ้าอุปราชคุมเครื่องยศเจ้าอุปราชเจ้าราชบุตรลงมาส่ง อีกฉบับ ๑ ว่าได้ข่าวม้าประหลาดลายดำลายขาว (คือผ่าน) ที่เมืองพง ๑ เมืองไทร ๑ จึงแต่งคนไปซื้อมาได้ม้า ๑ ราคา ๓๑๐ แถบ แต่ที่เมืองพงนั้นให้ช้างแลกไป ช้าง ๑ จึงให้เจ้าน้อยบุญหลงคุมลงมาถวาย กับใบบอกพระยาศุโขไทยว่าเจ้าน้อยบุญหลงคุมม้าขาวมีลายดำมาถึงเมืองพิไชย ม้าตัวย่อมป่วย ได้ภักรักษาอาการหาคลายไม่ ม้าล้มม้า ๑

กรมมหาดไทยนำนายน้อยบุญหลง นายน้อยมโนรส นายหนานสาร นายหนานอักเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท

พระราชทานเครื่องราชอิศริยยศ มงกุฎสยามชั้นที่ ๑ มหาสุราภรณแก่กรมหมื่นดำรงราชานุภาพแล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๑๖ วัน ๒ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๓ สิงหาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้ออกขุนนาง เสดจลงชั้นต่ำแล้วเสดจที่ประชุม

วันที่รัชกาล ๕๒๑๗ วัน ๓ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๔ สิงหาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้ออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๑๘ วัน ๔ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๕ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้พระนางเจ้าไม่ทรงพระสบายบ้าง เวลาค่ำพระเจ้าอยู่หัวออกประพาศสวนสราญรมย์ จนดึกเสดจกลับ

วันที่รัชกาล ๗๒๑๙ วัน ๕ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๖ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้พระนางเจ้าไม่ทรงพระสบาย ไม่ได้เสดจออกขุนนาง พระอาการที่พระนางเจ้าพระวรราชเทวีทรงพระประชวรนั้น ให้ทรงพระกตุกไปตามพระบาทแลพระกร แลเปนวันละหลายครั้ง

วันที่รัชกาล ๗๒๒๐ วัน ๖ ๑๐ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๗ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้ออกขุนนาง พระนางเจ้าพระวรราชเทวีไม่ทรงสบาย

พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ข้าราชการสยามรับเครื่องราชอิศริยยศยี่ปุ่น ด้วยกรมหลวงเทวะวงษได้รับหนังสือไวซเคาน์เอากี ผู้ว่าราชการแทนเสนาบดีว่าการต่างประเทศเมืองยี่ปุ่น ว่าสมเดจพระเจ้าเอมเปอเรอยี่ปุ่นโปรดพระราชทานเครื่องราชอิศริยยศของยี่ปุ่น ชื่อไรซิงซัน (อาทิตยอุไทย) แก่ข้าราชการกรุงสยามในการที่รับรองเจ้าชายเจ้าหญิงอัคกีหิโตโกมาสุ ในเวลาเข้ามากรุงสยามโดยอัทธยาไศยอันดี ส่งเครื่องราชอิศริยยศมาด้วย จึงทรงพระกรุณาโปรดให้ผู้มีชื่อเหล่านั้น รับประดับกายตามธรรมเนียมตราเครื่องราชอิศริยยศ คือ

ชั้นที่ ๑ กรมหมื่นประจักษศิลปาคม

ชั้นที่ ๓ หม่อมเจ้าวัฒนา ในกรมหมื่นสิทธิ

ชั้นที่ ๓ หม่อมราชวงษใหญ่สุวพันธุ ในพระองค์เจ้าสาย

ชั้นที่ ๓ พระยาอนุกูลสยามกิจ กงซุลสยามที่เมืองสิงคโปร์

ชั้นที่ ๔ หลวงวิชิตรสรสาตร

ชั้นที่ ๔ หลวงสิทธินายเวร

ชั้นที่ ๔ หลวงฤทธิจักรกำจร

ชั้นที่ ๕ หลวงนายฤทธิ เอดเดอแกมป์

ชั้นที่ ๕ จมื่นสราภัย เอดเดอแกมป์

วันที่รัชกาล ๗๒๒๑ วัน ๗ ๑๑ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๘ สิงหาคม ๒๕๓๑)

วันนี้ไม่ได้เสดจออกเลย พระนางเจ้าพระวรราชเทวีไม่ทรงสบาย

วันที่รัชกาล ๗๒๒๒ วัน ๑ ๑๒ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๙ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้ออกขุนนาง พระนางเจ้าไม่ทรงพระสบายเหมือนกัน

วันที่รัชกาล ๗๒๒๓ วัน ๒ ๑๒ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๐ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้เสดจออกขุนนาง พระนางเจ้าพระวรราชเทวีไม่ทรงพระสบายเหมือนวานนี้ เปนแต่เสดจลงชั้นต่ำประเดี๋ยวหนึ่งเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๒๔ วัน ๓ ๑๓ ๙ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๑ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้า ๔ โมงครึ่ง พระเจ้าอยู่หัวเสดจออกทางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานเสด็จไปประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เจ้านายข้าราชการที่มาเฝ้าส่งเสด็จเฝ้าพร้อมกัน

พระยาจ่าแสนบดี นำนายพึ่ง นายร้อยเอก กับนายร้อยโท ๒ นายร้อยตรี ๒ ในกรมทหารบกกราบถวายบังคมลาไปหัดทหารเมืองนครจำปาศักดิ

พระยานรินทรนำพระยายุทธการโกศล พระยาเกไดสวรินทร กราบบังคมลากลับไปเมืองไทรบุรี

ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเครื่องราชอิศริยยศมงกุฎสยามชั้นที่ ๑ มหาสุราภรณ แก่กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค ๑ เครื่องราชอิศริยยศมงกุฎสยาม ชั้นที่ ๓ มัณฑนาภรณ แก่หลวงอังคณิศรพลารักษ ๑

พระราชทานสัญญาบัตร หลวงอังคณิศร เปนพระอังคณิศรพลารักษ กรมยุทธนาธิการ นาคง ๓๐๐๐ หลวงฤทธิจักรกำจร เปนจมื่นสรฤทธิพฤฒิไกร กรมทหารมหาดเล็ก นาคง ๑๕๐๐ ขุนสัณหการโกศล เปนหลวงสัลยุทธวิธีกรร กรมยุทธนาธิการ นา ๘๐๐ นายเป๋าเปนหลวงฤทธิจักรกำจร กรมยุทธนาธิการ นา ๘๐๐ นายต่วนเปนหลวงสารภัณฑวิสุทธิ กรมยุทธนาธิการ นา ๘๐๐ นายคงเปนหลวงบริคุตวรภัณฑ์ กรมยุทธนาธิการ นา ๘๐๐ นายสรรมหาดเล็กเวรเดช เปนขุนชิตสรการ กรมยุทธนาธิการ นา ๕๐๐ ขุนอินทรประสาท เปนหลวงกันภยุบาทว์ รักษาพระองค์ปืนทองปรายขวา นา ๘๐๐ นายเจ๊กเปนหลวงพิทักษนราธิราช รักษาพระองค์ใหม่ขวา นา ๘๐๐ นายหรุ่นเปนหลวงราชานุรักษ รักษาพระองค์ฝ่ายพระราชวังบวร นาคง ๘๐๐ นายพึ่ง เปนหลวงพิทักษนรินทร รักษาพระองค์ฝ่ายพระราชวังบวรนาคง ๘๐๐ พันเทพราช เปนพระอุทัยเทพชน กรมพระกระลาโหม นา ๘๐๐ หมื่นสิทธิวัฒนา เปนหลวงสกลธนารักษา กรมพระกระลาโหม นา ๖๐๐ หลวงอุดมภักดี เปนพระวิชิตชลธาร จางวางฝีพายขวา นา ๑๐๐๐ หลวงพิทักษพลพาย เปนหลวงสุนทรพิรมย์ ปลัดจางวาง ฝีพายขวา นา ๔๐๐ หมื่นภักดีชุมพล สมุหบาญชีกลาง เปนหลวงอุดมภักดี ปลัดจางวางฝ่ายฝีพายซ้าย นา ๔๐๐ นายกระวี เปนขุนสุนทรลิขิต กรมพระอาลักษณ นา ๖๐๐

ทรงสั่งกรมหลวงเทวะวงษด้วยราชการแล้วเสดจลงเรือพระที่นั่ง เวลาเช้า ๕ โมง กรมหลวงเทวะวงษ นำหมอวิลลิศ เฝ้าในเรือพระที่นั่ง ตรวจพระอาการพระนางเจ้าพระวรราชเทวี แล้วออกเรือพระที่นั่งเวลาเช้า ๕ โมงครึ่ง ขึ้นไปกลับเรือพระที่นั่งที่น่าวัดเทวราชกุญชร แล้วล่องไปปากน้ำเจ้าพระยาแล่นต่อไป เวลา ๔ ทุ่มถึงที่ทอดสมอเกาะสีชังประทับแรมที่นั่น

  1. 1. พระพิเรนทรเทพ (ทองคำ สีห์อุไร) ภายหลังอุปสมบท

  2. 2. เจ้าอนันตรวรฤทธิเดช (อนันตยศ) ถึงพิราไลยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๔

  3. 3. พระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) ภายหลังเป็นจอมพลและมหาอำมาตย์เอก

  4. 4. ในรัชกาลที่ ๕ ทรงสถาปนาพระยศขึ้นเป็น พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัฒนาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒

  5. 5. พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ ชั้น ๒ พระองค์เจ้ารองทรง กรมหมื่นสิทธิสุขุมการ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ