เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๕๐

วันที่รัชกาล ๗๓๒๙ วัน ๓ ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๔ ธันวาคม ๒๔๓๑)

เวลาย่ำค่ำ เสดจออกพระที่นั่งอมรินทร ขึ้นพระแท่น กรมมหาดไทยอ่านบอกเมืองนครราชสีมา ๓ ฉบับ เรื่องผู้ร้ายปล้นสวนหมากพระคลัง ๑ เรื่องผู้ร้ายปล้นจีนเหมงกับจีนลูกค้าซึ่งพากันเขนเกวียน ๑๗๐ เล่ม บรรทุกสินค้าไปถึงหนองหว้าเอน ๑ ความ ๒ เรื่องนี้ยังสืบจับผู้ร้ายอยู่ อีกฉบับหนึ่งว่า มีผู้ร้ายปล้นเงินค่านา ๕ ชั่ง ๑ ตำลึง ซึ่งนายรอดเสนานำไปฝากเจ้าเมืองพิมายหารับไม่ แล้วรักษาไว้เองที่หอนั่งพระภักดีศรีขันธสีมาเจ้าเมืองพิมาย ถ้าสืบจับผู้ร้ายได้จะบอกเข้ามาครั้งหลัง กับได้ส่งบอกเจ้าเมืองพิมาย คำให้การนายรอดมาด้วย ฉบับ ๑ ว่ามีผู้ร้ายปล้นบ้านขุนพินิจ จับได้อ้ายเทียอ้ายสาย ผู้ร้ายซัดถึงจีนคงแลพรรคพวกซึ่งหนีไปอยู่เมืองศรีโสภณ แต่งให้กรมการไปจับตัวพวกผู้ร้าย พระพิทักษบุรพทิศ พูดบิดเบือนไป

บอกเมืองศรีโสภณว่า ได้สืบจับจีนคง พวกผู้ร้ายปล้นขุนพินิจอยู่ ยังไม่ได้ตัว กับได้ตัวอ้ายเป้าซึ่งผู้ร้ายซัดมาถึงตามหลวงบันเทาทุกขราษฎ์บอกมาชำระเปนสัจ ซัดว่าหลวงแพ่งเปนผู้ใช้ บัดนี้หลวงแพ่งหนีไป ได้ส่งคำให้การอ้ายเป้ามาด้วย

บอกกรุงเก่า ขอคนข้อมือขาวที่ต้องคดีไปเปนเลขคงเมือง ด้วยไม่มีเหมือนเมืองอื่น

กับบอกเมืองนครสวรรค ฉบับ ๑ เมืองอุไทย ฉบับ ๑ เมืองมโนรมย์ ฉบับ ๑ ความต้องกันว่า ตามที่โปรดให้หลวงอนุรักษภูเบศรไปผูกปี้ข้อมือจีนปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐ นั้นได้แต่งกรมการกำกับตามเคยแล้ว เมืองนครสวรรค์ผูกได้จีนจรจีนคงเมือง ๑๐๐ คน เกบคนละ ๑ ตำลึง ได้เงิน ๕ ชั่ง เมืองอุไทยธานี จีน ๖๐๐ คนๆละ ๑ ชั่ง ๕ สลึง ได้เงิน ๓๐ ชั่ง ๓ ตำลึง ๒ บาท เมืองมโนรมย์ ได้จีน ๑๐๒ คนๆละ ๑ ตำลึง ได้เงิน ๒ ตำลึง ๑ บาท ๑ เฟื้อง ทั้งค่าฎีกาด้วย ๓ ราย มอบให้ข้าหลวงมาแล้ว แล้วแจกเบี้ยหวัดกรมพระตำหรวจ กรมอาษา ๖ เหล่า แล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๓๓๐ วัน ๔ ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๕ ธันวาคม ๒๔๓๑)

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท ออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกเมืองสระบุรีถวายพระราชกุศลในการที่โปรดเกล้า ฯ ให้ทอดกฐินวัดสมุหประดิษฐาราม วัดเขาแก้ว

บอกเมืองพรหมบุรี ถวายพระราชกุศลในการรับรองพระสงฆซึ่งไปตรวจการพระพุทธสาสนา

บอกเมืองศุโขไทย ขอพระราชทานที่ผูกพัฒสิมาวัดมอญ แขวงเมืองสำโรง ยาว ๘ วา กว้าง ๕ วา

บอกหลวงสุริยามาตย ข้าหลวงผูกปี้ข้อมือจีนจำนวนปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐ คือกรุงเก่า จีน ๑๐๐๐ คน ได้เงิน ๕๐ ชั่ง เมืองสระบุรี จีน ๕๐๐ ได้เงิน ๒๐ ชั่ง เมืองลบบุรี จีน ๕๐๖ คน ได้เงิน ๒๕ ชั่ง เมืองย่างทอง จีน ๕๐๐ ได้เงิน ๒๐ ชั่ง เมืองพรหมบุรี จีน ๒๐๐ ได้เงิน ๑๐ ชั่ง เมืองอินทรบุรี จีน ๒๐๐ ได้เงิน ๑๐ ชั่ง เมืองสรรคบุรี จีน ๒๐๐ ได้เงิน ๑๐ ชั่ง ได้แต่งกรมการคุมมาส่ง เปนภอเที่ยว รวม ๗ เมือง แต่เมืองสิงหบุรีนั้นจีนน้อย ต่อสิ้นจำนวนจะแต่งกรมการคุมมาส่ง หลวงสุริยามาตยข้าหลวงขอกลับ

บอกกรุงเก่าว่า ณ วัน ๔ ๙ ค่ำ เปนวันอาทิตยยกมาอยู่ราษีสิงห ฝนตก ๑๑ ครั้ง รองได้น้ำมากกว่าปีกุนนพศก ๑๗๐ เซน แลบอกราคาเข้าตามเคย

อีกฉบับหนึ่ง บอกตามที่พระอาทิตยยกมาอยู่ราษีดุลย์ แลสิ้นราษีดุลย์ กระลาโหมอ่านบอกเมืองนครเขื่อนขันธ์ เรื่องผู้ร้ายปล้นนายชิดอำแดงลง ยังสืบจับผู้ร้ายอยู่ ฉบับ ๑

อีกฉบับ ๑ เรื่องผู้ร้ายยิงนายชื่นตาย ยังไม่ได้ตัวผู้ร้าย

แล้วกรมหมื่นนเรศกราบถวายบังคมลาไปส่งพระเจ้าลูกเธอ ๔ พระองค์ คือ พระองค์กิติยากร พระองค์รพีพัฒนศักดิ์ พระองค์ประวิตรวัฒโนดม พระองค์จิระประวัติวรเดช หม่อมเจ้าจรูญศักดิ์กฤษดากร หม่อมเจ้าบวรเดช ในกรมหมื่นนเรศ ๒ กราบถวายบังคมลาออกไปเล่าเรียนวิชาประเทศยุโรปต่อไป พระยาพิพัฒโกษานำหลวงนิพัทธกุลพงษกราบถวายบังคมลาไปเปนอัตเตเชทูตสยามเมืองอังกฤษ ขุนวิจิตร กัปตันเปลี่ยน กราบถวายบังคมลาไปอยู่ด้วยพระเจ้าลูกเธอ พระสถลรัฐยาธิบาลประแดงจันทอักษร กราบถวายบังคมลาไปกับกรมหมื่นนเรศ พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำพระมหาสังขกรมหมื่นนเรศแลพระเจ้าลูกเธอ ๔ พระองค์ หม่อมเจ้า ๒ องค์ แลพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณช้างเผือกสยามชั้นที่ ๔ ภูษณาภรณ แก่หม่อมเจ้าเพิ่ม ๑ ช้างเผือกชั้นที่ ๕ ทิพยาภรณแก่ขุนวิจิตรวรสาสน์ ๑ กัปตันเปลี่ยน ๑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารคือ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าไชยยันตรมงคล เปนราชองครักษยศเสมอนายร้อยเอกในทหารบก หลวงฤทธินายเวร เปนนายพันตรีในกรมทหารบก ๑ ขุนวิทธยานุกุลกระวี เปนนายร้อยตรีในกรมทหารบก ๑ ขุนชิตสรการเปนนายร้อยตรีในกรมทหารบก ๑ นายสวาศ มหาดเล็กหลานเจ้าพระยาภูธราภัย เปนนายร้อยตรีในกรมทหารบก นายเถือนายสิบเอก เปนนายร้อยตรีในกรมทหารบก ๑

โปรดให้แจกเบี้ยหวัดกรมลูกขุน กรมพระอาลักษณ กรมภูษามาลา แลอื่นๆ แล้วเสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๓๓๑ วัน ๕ ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๖ ธันวาคม ๒๔๓๑)

วันนี้งดพระราชทานเบี้ยหวัดเพราะมีการเฉลิมพระชนมพรรษากรมสมเดจพระสุดารัตนราชประยูร เวลาย่ำค่ำแล้ว เจ้านาย ข้าราชการเข้าไปพร้อมกัน สวดนอัคคหายุศุมธรรม พระอริยมุนีกับถานาวัดราชประดิฐ รวม ๕ รูป เวลา ๒ ทุ่มเสศ เสดจลงจนเวลา ๔ ทุ่มเสศ สวดมนตจบ เจ้านายข้าราชการกลับออกมา

ในการทำบุญครั้งนี้ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริห์กับสมเดจกรมพระจักรพรรดิ สมเดจกรมพระภาณุว่า กรมสมเดจพระสุดารัตนหายประชวนขึ้นครั้งนี้เปนที่ทรงยินดีมาก จึงโปรดให้ทำกระจาดของหลวง ๑ ของสมเดจกรมพระองค์ละกระจาด รวม ๓ เปนเครื่องกัณฑ์เทศในงานนี้ เปนกระจาดขนาดกลาง ๑ เล็ก ๒ ตั้งโรงที่น่าตำหนัก ๓ โรง แต่เปนของบริโภคกับเงินพุ่มยอดกระจาด

วันที่รัชกาล ๗๓๓๒ วัน ๖ ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๗ ธันวาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้า พระสงฆที่สวดสเดาะเมื่อคืนนี้รับพระราชทานฉันที่ตำหนักกรมสมเดจพระสุดารัตน

เวลาเช้า ๒ โมงเสศ พระเจ้าลูกเธอ ๔ พระองค์ แลกรมหมื่นนเรศ แลผู้ที่จะไปตามเสดจพระเจ้าลูกเธอ แลอื่น ๆ เสดจจากท่าราชวรดิฐไปลงเรือใหญ่ที่ปากน้ำ สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจลงส่งเสด็จที่ตำหนักแพ เจ้านายไปส่งที่ปากน้ำบ้าง ที่ท่าราชวรดิฐบ้าง

เวลา ๒ ทุ่ม มีการสวดมนตรายใหญ่ที่ตำหนักกรมสมเดจพระสุดารัตน เวลาทุ่มเสศ เสด็จลงทรงประเคนไตรพระสงฆที่สวดมนตนั้น กรมพระปวเรศ กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ถานาเปรียญ ธรรมยุติกนิกาย มหานิกาย รามัญ รวม ๗๑ รูป เจ้านายข้าราชการเข้าไปเหมือนกัน ๔ ทุ่มเสศเลิก

วันที่รัชกาล ๗๓๓๓ วัน ๗ ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๘ ธันวาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้าพระสงฆที่สวดมนตที่ตำหนักกรมสมเดจพระสุดารัตนเมื่อคืนนี้รับพระราชทานฉัน เวลาบ่าย ๔ โมง ๑๔ นาที พระฤกษ์สรงน้ำพระพุทธมนต พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชหัตถถวายพระพรแลเงินพระคลังใน ๗๑ ชั่ง เท่าพระชนมพรรษา ชามเงินกับเข้าสำรับ ๑ ต้นไม้ทองต้น ๑ เงินต้น ๑ แล้วกรมหมื่นประจักษ สั่งคลังนอกเติมเข้าไปอีก ๗๑ ชั่ง เลยเปนปีละ ๒ ชั่งไป เวลาค่ำมีเทศนาสมเดจพระพุทธโฆษาจาริย กัณฑ์ ๑ พระองค์เจ้าอรุณ กัณฑ์ ๑ พระธรรมวโรดม กัณฑ์ ๑ เครื่องกัณฑ์ กระจาดใหญ่ทั้ง ๓ กัณฑ์

  1. 1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๕ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช

  2. 2. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤดากร

  3. 3. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช

  4. 4. มหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

  5. 5. หม่อมเจ้าเพิ่ม ลดาวัลย์

  6. 6. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย

  7. 7. เจ้าพระยาภูธราภัย (นุช บุณย์รัตพันธ์)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ