เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๕๐

วันที่รัชกาล ๗๒๗๑ วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๗ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้าโมง ๔๕ มินิต พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงเขจรจิรประดิฐ สิ้นพระชนม์ที่วังพระองค์เจ้าสายสนิทวงษ พระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้จำเดิมแต่ประสูตรมาก็มีพระโรคติดพระกายพระฉวีไม่บริบูรณมาแล้ว พระโรคกำเริบขึ้นจึงสิ้นพระชนม์

เวลาค่ำสมเดจพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระภาณุพันธุวงษวรเดช แลพระเจ้าน้องยาเธอหลายพระองค์ได้ไปประชุมพร้อมกันที่วังพระองค์เจ้าสาย เชิญพระศพลงหีบทองทึบขึ้นวอช่อฟ้ามีเครื่องสูงกลองชนะแตรสังขคู่แห่ทหารเรือถือโคมหิ้วแห่มาเข้าประตูสำราญราษฎ์มาวัดราชบพิตร เชิญหีบพระศพขึ้นบนการเปรียญ มีสดัปกรณผ้าไตร ผ้าขาวพับของหลวง แลของเจ้านาย แล้วเชิญลงฝังที่สวนดอกไม้วัดราชบพิตร ที่ริมพระเจดียพระองค์เจ้าอรองค์อรรคยุพา มีประโคมกลองชนะแตรสังข ๓ วัน

วันที่รัชกาล ๗๒๗๒ วัน ๒ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๘ ตุลาคม ๒๔๓๑)

โปรดให้มีการดินเนอหลวงพระราชทาน มองซิเยอ นาเยอ มินิสเตอเรสิเดน ทูตเบลเยียม เปนเกียรติยศ โปรดให้เชิญพระบรมวงษานุวงษ ข้าราชการ ราชทูต มาประชุมพร้อมกันในเวลา ๒ ทุ่ม เสดจออกที่พระที่นั่งจักรกรีองค์ตวันออก ดำรัสอยู่กับพระบรมวงษานุวงษ ข้าราชการ ราชทูต ครู่หนึ่ง เสดจประทับโต๊ะเสวย มีแผนที่ต่อไปดังนี้

 

หลวงวิชิตสรสาตร

 

หลวงฤทธินายเวร

   

พระยามหามนตรี

หม่อมราชวงษ์ใหญ่

พระวิภาค

พระองค์ปฤษฎางค์

พระยานรรัตน

เจ้าฟ้ากรมขุน

พระวิสูตรสาครดิฐ

พระองค์ศรีเสาวภางค์

เจ้าพระยาภาณุวงษ

กรมสรรพสิทธ

กูลด์กงซุลอังกฤษ

กรมหลวงพิชิต

ทูตเบลเยียม

กรมหมื่นนเรศ

กรมหลวงเทวะวงษ

ที่ประทับ

กรมหมื่นประจักษ

สมเดจกรมพระภาณุ

แกมเปอแมนทูต

กรมหมี่นอดิศร

เคาน์คาราเดก

กรมหมื่นสมมต

เจ้าพระยาพลเทพ

พระองค์วรวรรณ

กรมหมื่นดำรง

พระองค์โสณบัณฑิตย

พระยาพิพัฒ

พระองค์เจ้าขจร

พระยาอนุชิต

เจ้าวัฒนา

พระยาสมุท

พระวรเดช

พระราชวรินทร์

 

จมื่นไชยาภรณ์

 

เสวยแล้ว เสดจออกมาประทับตรัสอยู่ที่พระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์ตวันออกจน ๔ ทุ่มเสศ ราชทูตถวายบังคมลากลับไป พระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่อีกครู่หนึ่ง เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๗๔ วัน ๔ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๐ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้ามีการเลี้ยงพระราชาคณะ พระครูรามัญ ๕ ไทย ๕ ที่สวดมนตพิธีคเชนทรัศวสนานที่พระที่นั่งสุทธัยสวริยปราสาท มียืนจตุรงคินิเสนาที่ท้องสนามไชยในเวลาเช้าด้วย

เวลาบ่าย เข้ามายืนที่พระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทด้วยเพราะเปนราชประเพณีโบราณว่า สมเดจพระบรมราชเทวี พระสนม ราชบริพาร ซึ่งทรงพระครรภ์ ต้องออกรับน้ำอิศวรเวทวิศณุมนต์ของพราหมณ์พฤฒิบาศในการพิธีนี้ แลต้องทอดพระเนตรจัตุรงคินิเสนา เพื่อเปนสวัศดิมงคลแด่พระราชกุมารพระราชกุมารี ซึ่งยังประดิษฐานอยู่ในพระครรภ์ เพราะในครั้งนี้สมเดจพระบรมราชเทวีทรงครรภ์ ต้องเสดจรับน้ำแลทอดพระเนตรกระบวนดังได้กล่าวแล้ว จึงได้มีจัตุรงคินิเสนาทางนี้ด้วย

เวลาเยน สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจออกทอดพระเนตรแห่เดินกระบวนคเชนทรัศวสนานตามธรรมเนียม พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสดจออก

เสดจลงชั้นต่ำตามเคย

วันที่รัชกาล ๗๒๗๕ วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๑ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ออกแขกเมือง ๙ เมือง

เสดจขึ้นจากแขกเมืองแล้ว เสดจลงชั้นต่ำตามธรรมเนียมทั้งที่ประชุมด้วย

วันที่รัชกาล ๗๒๗๖ วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๒ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลายามเสศ เสด็จออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านศุพอักษรพระเจ้านครเชียงใหม่ แลใบบอกพระยาเพชรพิไชยความต้องกันว่า พระยาราชเดชดำรงเจ้าเมืองเชียงแสน จะขอพาบุตรหลานลงมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท จึงให้พระยาราชเดชดำรงลงมาตามคำขอ

แล้วพระราชเดชดำรงกับบุตรเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระยาราชเดชได้จัดนอรมาดใหญ่ทูลเกล้า ๆ ถวาย มีพระราชปฏิสัณฐานถึงการบ้านเมืองว่าเข้าในเมืองภอเลี้ยงกันฤๅไม่ กราบบังคมทูลว่า ภอเลี้ยงกันตลอดปี รับสั่งถามว่าในบ้านเมืองมีคนเท่าไร ทูลว่า ๑๕๐๐ ครัว รับสั่งถามถึงเงี้ยวเขิน ได้ความว่ามีมาอยู่ประมาณ ๔๐๐๐ แลปนเปบังคับลำบากมาก รับสั่งถามถึงไข้เจบในบ้านเมือง ได้ความว่าเบาบางมิสู้มีมากนัก

กรมท่านำพระยาสุนทรบุรีศรีพิไชยสงครามเมืองนครไชยศรี ถวายบังคมลาออกไปว่าราชการบ้านเมือง พระราชทานโต๊ะทองคำ กาทองคำ เสื้อผ้าเปนเครื่องยศ

กรมมหาดไทยนำนายน้อยบุญหลง นายน้อยมโนรศ นายหนานสาร เมืองน่าน ซึ่งคุมลงมากราบถวายบังคมลากลับไปบ้านเมือง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้บอกกับเจ้านครเมืองน่านว่าทรงยินดีที่เจ้าเมืองน่านส่งม้ามาถวายเปนอันมาก

พระยานรินทรนำหลวงอนันตสมบัติ หลวงอุดมสมบัติ ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ถวายผ้าพื้นแล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๗๗ วัน ๗ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๓ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เสดจลงชั้นต่ำตามธรรมเนียม ไม่ได้ออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๗๘ วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๔ ตุลาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้ออกขุนนาง สมโภชเดือนพระเจ้าลูกเธอ ซึ่งประสูตรเมื่อวัน ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก พระราชทานนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสมัยวุฏฐิวโรดม

วันที่รัชกาล ๗๒๗๙ วัน ๒ ๑๐ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๕ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลายามเสศ เสด็จออกขุนนาง พระราชทานสัญญาบัตร นายวงษมหาดเล็ก เปนนายรองสรรพวิไชย มหาดเล็กเวร ๑ นายเทียนเปนขุนเลขานุกรกรมพระอาลักษณ ๑ หลวงนาเมืองไชยนาท เปนพระศรีสิทธิกรม ผู้ว่าราชการเมืองมโนรมย์ ๑ หลวงจินดารักษ กรมมหาดไทย กราบถวายบังคมลาคุมเงินขึ้นไปส่งกองทับเมืองนครหลวงพระบาง แล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๘๐ วัน ๓ ๑๑ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๑๖ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสดจออกประทับพระที่นั่งพุดตานท้องพระโรงกลาง เจ้านาย ข้าราชการเฝ้าตามธรรมเนียมออกแขกเมือง มีประโคมตามประเพนี กรมพระกระลาโหม นำแขกเมืองตานีเมืองหนองจิก ซึ่งได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตรให้พระศรีบุรีรัฐพินิจผู้ช่วยราชการเปนเจ้าเมืองตานีมีนามตำแหน่งว่า พระยาวิชิตภักดีศรีสุรวังษารัตนาณาเขตรประเทศราชเมืองตานี ๑

พระพิพิธภักดีผู้ช่วยราชการเปนพระยาพิทักษ์ธรรมสุนทรนริสร สุรบดินทรนรินทรภักดี ผู้ทำนุบำรุงแลที่ปฤกษาราชการของพระยาตานี ๑ ตนกูมหมัดเปนพระศรีบุรีรัฐพินิจรายามุดา เมืองตานี ๑ ตนกูตะเงาะ บุตรเจ้าพระยาวิเชียรคิรี (สัง) เปนพระยาเพชราภิบาลนฤเบศร์วาปีเขตรมุจลินทร นฤบดินทรสวามิภักดี เจ้าเมืองหนองจิก ๑ เลื่อนหลวงอนันตสมบัติเปนพระอนันตสมบัติ ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา ถือศักดินา ๑๐๐๐ ไร่ พระราชทานสัญญาบัตร แล้วพระราชทานพรแก่ผู้ซึ่งรับพระราชทานสัญญาบัตรทั่วกัน แล้วเสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๘๑ วัน ๔ ๑๒ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๗ ตุลาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้เสดจออกขุนนางไม่มีอะไร

วันที่รัชกาล ๗๒๘๒ วัน ๕ ๑๓ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๑๘ ตุลาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้ออกขุนนาง แลลงชั้นต่ำเหมือนกัน

วันที่รัชกาล ๗๒๘๓ วัน ๖ ๑๔ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๙ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาวันนี้เปนดิถีตามจันทรคติคล้ายวันพระมหาประสูตรพระบาทสมเดจพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดการบำเพ็ญพระราชกุศลที่พระที่นั่งอมรินทร

เช้า ๕ โมง สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจออกทรงประเคน พระสงฆวัดอนุโลมในพระบรมอัษฐิ ๒๐ รูป รับพระราชทานฉัน

บ่าย ๓ โมง เสดจออกทรงทอดผ้าไตรสดัปกรณพระสงฆที่ฉันสดัปกรณแล้วมีรายร้อยอีก ๑๐๐

พระองค์เจ้าโสนบัณฑิตย์ กราบถวายบังคมลาไปเมืองนครเชียงใหม่ พระราชทานน้ำพระมหาสังข ตรามหาสุราภรณ หีบลงยา พระแสงดาบฝังทอง ฉลององค์เยียระบับ ๒ องค์ เงินรองราชการ ๕๐ ชั่ง

พระองค์เจ้าสายสนิทธวงษ กราบถวายบังคมลาไปยุโรป พระราชทานน้ำพระมหาสังข แลตั๋วสำคัญเงินพระคลังข้างที่ พระราชทานเปนการในพระองค์สาย ๕๐ ชั่ง

กรมมหาดไทยนำพระราชวรินทร พระศรีเสนา จมื่นไชยาภรณ หลวงวิชิตรสรสาตร หลวงราชนรารักษ หลวงราญรอนอริราช นายรองสรรพวิไชย ขุนเลขานุกร นายเสงี่ยม ขุนสิทธิพรหมา หลวงสุวรรณ ทหารรักษาองค นายสาย นายแดง นายเล็ก คเดดทหาร นายทองเท่ง นายยวง นายกระจ่าง มหาดเล็ก กราบถวายบังคมลาไปตามเสดจพระองคโสณบัณฑิตย พระราชทานเสื้อเข้มขาบ อัตลัดทั่วกัน

กรมท่านำหม่อมราชวงษใหญ่สุวพรรณ หม่อมราชวงษเปียกราบถวายบังคมลาไปกับพระองค์สาย

พระราชทานสัญญาบัตรนายเสงื่ยม เปนหลวงสิลปสารสราวุธ ๑ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณช้างเผือกสยาม ที่ ๔ ภูษณาภรณแก่พระจินดาจักรรัตน ๑ มงกุฎสยาม ที่ ๔ ภัทราภรณ หลวงกำจัดไพรินทร ๑ หลวงเสนาภักดี ๑ มงกุฎสยาม ชั้นที่ ๕ วิจิตราภรณ หลวงดำรงธรรมสาร ๑ หม่อมราชวงษสิทธิ นายร้อยเอก ๑ จ่าแรงรับราชการ ๑ แล้วเสดจขึ้น

เวลายามเสศเสดจออก เวลาค่ำสวดมนตจบแล้ว สดัปกรณ์ผ้าเชดปากธูปเทียน แล้วพระพรหมมุนี ถวายเทศทานมัยกัณ ๑ เวลา ๕ ทุ่มเสศ เสดจลงลอยพระประทีป

วันที่รัชกาล ๗๒๘๔ วัน ๗ ๑๕ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๐ ตุลาคม ๒๔๓๑)

วันนี้เปนวันสวรรคตพระบาทสมเดจพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจออกทรงประเคน เวลาบ่าย เสดจออกสดัปกรณผ้าไตรพระสงฆวัดราชประดิษฎ ๒๐ รูป แล้วสดัปกรณร้อย

พระราชทานเงินค่าเช่าตึกวัดประยุรวงษแก่พระเจ้าน้องยาเธอ แลสมเดจพระบรมโอรสาธิราช ซึ่งมีส่วนเงินค่าเช่าตึกนั้น

พระราชทานตราตั้งกรรมสัมปาทิกสภาหอสมุดวชิรญาณตามกฎหมายหอสมุด ในปีนี้สมาชิกเลือกสมเดจพระบรมโอรสาธิราชเปนสภานายก พระราชทานตราตั้งสมเดจพระบรมโอรสาธิราชเปนสภานายก ๑ กรมหมื่นดำรงเลขาธิการ ๑ กรมหมื่นสมมตเปนเหรัญญิก ๑ พระองค์ไชยานุชิต เป็นสาราณียกร ๑ พระองค์ศรีเสาวภางค์ เปนบรรณารักษ ๑ พระยาศรีสิงหเทพเปนผู้ช่วยเหรัญญิก ๑ หม่อมเจ้าประภากรเปนผู้ช่วยบรรณารักษ ๑ หลวงอินทรมนตรี เปนผู้ช่วยปฏิคม ๑ ยังค้างปฏิคมผู้ช่วยสาราณียกร เพราะกรมหมื่นสถิตย พระยาภาสกรวงษ์๑๐ไม่ได้มา แล้วเสดจขึ้น

เวลาค่ำ เสดจออกสวดมนตยามเสศ แล้วพระธรรมไตรโลกาจาริย ถวายเทศนาศิลมัยกัณ ๑ เวลา ๕ ทุ่ม เสดจลงลอยพระประทีป

วันที่รัชกาล ๗๒๘๕ วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๑ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้า ๓ โมง พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชาย๑๑ประสูตร

เจาจอมมารดาเกษร

เวลาเช้า ๕ โมง เลี้ยงพระกาลานุกาลออกพรรษา พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสดจออก สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจไปเวลาค่ำมีเทศนาภาวนามัยที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระโพธิวงษ๑๒ถวายไม่ได้ออก

เวลา ๕ ทุ่มเสศ เสดจลงลอยพระประทีป

วันที่รัชกาล ๗๒๘๖ วัน ๒ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๒๒ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสดจออกแขกเมืองมลายู ๙ เมือง ซึ่งคุมต้นไม้ทองเงินเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย เฝ้ากราบบังคมทูลลา

พระราชทานเครื่องยศแก่เจ้าเมืองแขกที่ตั้งใหม่เมื่อวัน ๑๑ ๑๑ ค่ำ คือพระยาวิชิตรภักดี เจ้าเมืองตานี ผอบทองคำ ๑ คนโททองคำ ๑ กระโถนทองคำ ๑ เปนเครื่องยศ พระยาเพชราภิบาลเมืองหนองจิก ถาดหมาก คนโททองคำ เปนเครื่องยศ พระอนันตสมบัติเมืองสงขลา ถาดหมาก คนโททองคำ เป็นเครื่องยศ แล้วเสดจขึ้น

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสดจออกหอสมุดวชิรญาณ ประทับปฤกษาจัดการพร้อมด้วยกรรมสัมปทิก แลสมาชิกบางคน พระราชทานตราตั้งกรมหมื่นสถิตยเปนปฏิคม ๑ พระยาภาสกรวงษเปนผู้ช่วยสาราณียกร ๑ เวลา ๕ ทุ่มเสศ เสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๘๗ วัน ๓ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๓ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาค่ำสมโภชสามวันพระเจ้าลูกเธอ ซึ่งประสูตร ณ วัน ๑๑ ค่ำ ตามธรรมเนียม ไม่ได้ออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๘๘ วัน ๔ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๔ ตุลาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้เสดจออกไม่ทรงสบายพระเนตร สั่งเลิกเสดจพระราชทานกระฐิน

วันที่รัชกาล ๗๒๙๖ วัน ๕ ๑๒ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑ พฤศจิกายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่ายโมงเสศ เสดจออกทางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท พระราชทานหีบลงยาพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ ๑ หีบ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณช้างเผือก ชั้นที่ ๔ แลโต๊ะกาทองแก่พระพิรมยราชา ๑ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณมงกุฎสยาม ชั้นที่ ๔ หลวงอนุชิตพิทักษ ๑ เสดจพระราชดำเนินพระราชทานพระกระฐินกระบวนราบ วัดราชประดิษฐ์ที่ ๑ สมเดจพระพุทธโฆษาจาริย์ครองกระฐิน สมเดจกรมพระภาณุพันธุวงษวรเดช ถวายบริขาร แล้วเสด็จวัดจักรวัติที่ ๒ พระวรญาณมุนี๑๓ครองกระฐิน กรมหมื่นนเรศถวายบริขาร เวลาจวนค่ำ โปรดให้เว้นวัดสำพันธุวงษาราม ซึ่งเดิมกะเปนที่ ๓ นั้นเสีย แล้วเสดจไปทอดพระกระฐินวัดประทุมคงคา ซึ่งเดิมกะเปนที่ ๔ นั้น สมเดจพระพุฒาจาริยครองกระฐิน กรมหลวงพิชิต ถวายบริขาร พระอินอนุจรเปนพระมีพรรษามากชรา ได้พระราชทานไตรปีก่อนแล้ว ปีนี้ถวายพระพรว่าชราพาธมาก โปรดพระราชทานคิลานภัตร เดือนละ ๔ บาท ตามแบบโบราณ แล้วเสดจกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง การกระฐินวันนี้เปนวันแรก เพราะเลื่อนมาแต่วันแรม ๕ ค่ำ แลวันนี้เสดจบ่ายไปก็เพราะเสวยยาพระบังคนยังเดินอยู่จึงเสดจบ่ายไป วันนี้สรวมเสื้อเยียรบับ นุ่งผ้าม่วงศรีน้ำเงินแก่

วันที่รัชกาล ๗๒๙๗ วัน ๖ ๑๓ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒ พฤศจิกายน ๒๔๓๑)

วันนี้เว้นการเสด็จพระราชทานพระกระฐินตามอย่างเช่นเคยงด วันแรม ๗ ค่ำ ทุกปี เวลา ๒ ทุ่มเสศ สมเดจพระบรมโอรสาธิราช แลสมเดจพระเจ้าลูกเธอ เสดจทอดพระเนตรเซอคัส นอกนั้นไม่มีอันใด

วันที่รัชกาล ๗๒๙๘ วัน ๗ ๑๔ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๓ พฤศจิกายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่ายโมงเสศ เสดจพระราชดำเนินกระบวนพยุหยาตรา พระราชทานพระกระฐินวัดพระเชตุพน ที่ ๑ พระพิมลธรรม๑๔ครองกระฐิน กรมขุนบดินทร๑๕ ถวายบริขาร แล้วเสด็จพระราชดำเนินวัดราชบุรณ ที่ ๒ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ ๑๖ถวายบริขาร แล้วเสดจพระราชดำเนินวัดราชบพิธ ที่ ๓ สมเดจพระบรมโอรสาธิราช ถวายบริขาร เมื่อเสรจการพระกระฐินแล้วประทับพลับพลาเปลื้องเครื่องเสวยเครื่องว่าง แล้วเสดจประทับวัดสุทัศน์เทพวราราม ที่ ๔ เมื่อเสดจเข้าพระอุโบสถภอย่ำค่ำ พระราชทานพระกระฐิน พระธรรมวโรดม๑๗ครองกระฐิน กรมขุนเจริญผลภูนสวัสดิ๑๘ถวายบริขาร แล้วเสดจกลับพระบรมมหาราชวังเวลาทุ่มเสศ วันนี้แต่งตัวอย่างพยุหยาตราทุกปี

  1. 1. พระเจ้าลูกเธอ ซึ่งประสูติเมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๔๒๕ แล้วสิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษาได้ ๔ เดือน ในเจ้าจอมมารดาโหมด

  2. 2. ประถมาภรณ์มงกุฎไทยในบัดนี้

  3. 3. เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราขวงศ์เปีย มาลากุล)

  4. 4. พระพรหมมุนี (เหมือน สุมิตฺโต) วัดบรมนิวาศ

  5. 5. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป

  6. 6. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์

  7. 7. พระยาศรีสิงหเทพ (อ่วม)

  8. 8. หม่อมเจ้าประภากร มาลากุล

  9. 9. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๓ พระองค์เจ้าเนาวรัตน์ กรมหมื่นสถิตย์ธำรงสวัสดิ์

  10. 10. เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค)

  11. 11. พระองค์เจ้าชายอิศริยาภรณ สิ้นพระขนม์ในรัชกาลที่ ๕ พระชนมพรรษา ๔ ปี

  12. 12. พระโพธิวงศาจารย์ (ฤทธิ) วัดบพิตรพิมุข ภายหลังเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ครองวัดอรุณราชวราราม

  13. 13. พระวรญาณมุนี (เสง) ภายหลังเป็นพระโพธิวงศาจารย์ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๓

  14. 14. พระพิมลธรรม (อ้น) มรณภาพ พ.ศ. ๒๔๓๒

  15. 15. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๓ พระองค์เจ้าสิงหรา กรมขุนบดินทร์ไพศาลโสภณ

  16. 16. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์

  17. 17. พระธรรมวโรดม (แดง) ภายหลังเป็นสมเด็จพระวันรัต ครองวัดสุทัศนเทพวราราม

  18. 18. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชัน้ ๓ พระองค์เจ้าชมพูนุท กรมหมื่นเจริญผลพูลสวัสดิ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ