เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๕๐

วันที่รัชกาล ๗๒๕๑ วัน ๒ ๑๒ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๗ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๒ โมง เรือพระที่นั่งอุบลบุรพทิศข้ามสันดอนเข้ามาถึงเมืองสมุทปราการ ทอดเรือพระที่นั่งที่น่าพระสมุทเจดีย์ เสดจขึ้นบนพระสมุทเจดียทรงปิดทองพระพุทธรูปยืน ๑ นั่ง ๒ แล้วเสดจพระราชดำเนินกลับทรงเรือพระที่นั่งแล่นขึ้นมาจนเวลาทุ่มเสศ เรือพระที่นั่งถึงน่าพระตำหนักแพ เรือเทียบไม่ได้ต้องทอดกลางน้ำ พระเจ้าอยู่หัวแลสมเดจพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี พระวรราชเทวี สมเดจพระเจ้าลูกเธอ เสดจลงเรือพระที่นั่งเก๋งเสดจมาขึ้นท่าพระตำหนักแพ ประทับบนพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย รับสั่งกับพระบรมวงษานุวงษที่มารับเสดจ โปรดพระราชทานกฤชแก่สมเดจกรมพระภาณุพันธุ เล่ม ๑ กรมหลวงเทวะวงษ ๑ แล้วรับสั่งกับข้าราชการที่มารับเสดจแล้วเสดจขึ้นมาประทับพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทอดพระเนตรพระที่นั่งซึ่งโปรดให้พระองค์เจ้าทองแถมซ่อมใหม่ แล้วทรงจุดเทียนเครื่องนมัศการ สมเดจพระพุฒาจาริย์ ถวายศิล แล้วพระราชาคณะผู้ใหญ่ ๑๐ รูป สวดพระพุทธมนตในการที่จะยกพระมหาเสวตรฉัตรในเวลาพรุ่งนี้ พระสงฆสวดมนตยังไม่จบ พระเจ้าอยู่หัวเสดจขึ้น

เสดจลงสมโภชสามวัน พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าชาย ซึ่งประสูตร ณ วัน ๕ ๑๐ ค่ำ แล้วเสดจขึ้น

วันนี้ผู้ซึ่งต้องเกณแต่งซุ้มตามโคมในพระบรมมหาราชวังในการเฉลิมพระชนมพรรษาเข้ามาแต่งตั้งเตรียมการทั้งปวงทั่วกัน

วันที่รัชกาล ๗๒๕๒ วัน ๓ ๑๓ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๘ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาเช้า ๕ โมง โปรดให้สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจออกทรงประเคนพระสงฆที่สวดมนตเมื่อคืนนี้รับพระราชทานฉัน เวลาเกือบเที่ยงเสดจออกพระที่นั่งอมรินทร ทรงบันจุพระบรมธาตุในพระพุทธรูปสมาธิสำหรับพระพฤหัศบดี ภอได้พระฤกษโปรดให้ยกพระมหาเสวตรฉัตรขึ้นประดิษฐานที่พระแท่นเสวตรฉัตร พระสงฆสวดไชยมงคล เจ้าพนักงานประโคมพินพาทย์แลยิงปืนมหาฤกษมหาไชย มหาจักร มหาปราบยุค ๒๑ นัด แล้วเสดจประทับตรัสกับพระบรมวงษานุวงษ ครู่หนึ่งเสดจทรงประเทนบริขาร พระสงฆถวายอนุโมทนาถวายพระพรลาไปพระเจ้าอยู่หัวเสดจขึ้น

เริ่มการเฉลิมพระชนม์พรรษาในวันนี้ เจ้าพนักงานจัดการที่พระที่นั่งไพศาลตั้งพระแท่นไม้ม่านแลพื้นสีเหลือง เชิญพระมหาโพธิ พระนาคปรก แลพระสมาธิ ซึ่งมาแต่เมืองนครศรีธรรมราช ๒ องค์ พระพุทธรูปนาคปรก พระสมาธิ สำหรับเทวดา และเทวะรูปพระพฤหัศบดี พระเสาร์ซึ่งเปนพระรักษา แลพระอุ้มบาต เทวะรูปพระพุฒิแซกตั้งด้วย พระแท่นไม้ตั้งข้างเหนือ ข้างใต้ตั้งพระแท่นมณฑล ในนั้นตั้งพระพุทธบุศยรัตนน้อย พระไชยรัชกาลที่ ๔ พระเจดีย์ธาตุลังกา พระไชยเนาวโลห พระไชยวัฒน์องค์น้อย มีเครื่องนมัศการแลพระครอบต่างๆ ด้วย น่าพระแท่นทั้งสองมีพระแท่นทรงกราบตั้งม้าเครื่องนมัศการ เครื่องทั้งปวงนี้ตั้งทางทิศตวันออกสิ้น มีตู้เทียนข้างพระองค์ ๒ ตู้

ในพระที่นั่งอมรินทรนั้น บนพระแท่นเสวตรฉัตรตั้งพระไชยรัชกาลประจุบันพระประจำวันพระประจำปีพระชนมพรรษา ที่พระแท่นออกขุนนาง ตั้งพระครอบพระเกี้ยวแลเทียนพระมหามงคลเท่าพระชนษา แลมีพุ่มดอกไม้สดด้วย แลตั้งตู้เทียนข้างพระองค์ ๒ ตู้ บนพระที่นั่งบุศบกตั้งพระมหาพิไชยมงกุฎแลเครื่องราชกกุธภัณฑด้วย เวลาค่ำจุดโคมไฟทั้งซุ้มในพระบรมมหาราชวังทั่วไป

เวลา ๒ ทุ่มเสศ เสดจออกทางพระที่นั่งจักรกรี เสดจวัดพระศรีรัตนสาสดารามมีการสวดมนตแลสเดาะพระเคราะห์ตามแบบโบราณ ทรงจุดเทียนแล้ว เสดจกลับประทับพระที่นั่งอมรินทร ทรงจุดเทียนแล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ โปรดไห้นิมนตพระสงฆที่จะสวดมนตเข้าไป ทรงประเคนย่ามผ้าไตรสลับแพรแด่พระสงฆ ๕ รูป พระสงฆครองผ้าแล้วสวดมนต มัคควิภังอัคคัปปสาทสูตร ทรงแจกผ้าพื้น ผ้าโสร่ง มีดตอก ม่อทอง แก่เจ้านาย พระสงฆสวดมนตจบแล้วโปรดให้เจ้านายลงไปดูสิ่งของต่างๆ คือผ้านุ่งห่มต่างๆ เครื่องอาวุธต่างๆ ของใช้สอยต่าง ๆ ที่มาแต่เมืองชั้นในแลเมืองแขก โปรดให้จัดซื้อมาสำหรับมิวเซียมแล้วเจ้านายกลับออกมา

วันที่รัชกาล ๗๒๕๓ วัน ๔ ๑๔ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ์๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๙ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาเช้า ๕ โมง เสดจออกพระที่นั่งไพศาลทักษิณ โปรดให้นิมนตพระที่สวดมนตเมื่อคืนนี้เข้าไป ทรงประเคน พระสงฆรับพระราชทานฉัน ๕ รูป มีสังเวยเทวดาด้วย พระสงฆฉันแล้วทรงประเคนบริขารภอสมควรพระสงฆถวายอนุโมทนาถวายพระพรลาไป พระเจ้าอยู่หัวเสดจขึ้น

เวลาบ่ายทรงพระกรุณาโปรดให้สมเดจพระเจ้าลูกเธอทรงแจกเงินคนชราที่น่าพระที่นั่งจักรกรี ๒๐๐ แจกข้างใน ๒๐๐ เจ้านายแจกที่มิวเซียม ๓๘๖ คน รวมแจกวันนี้ ๔๒๖๑ คน

เวลาค่ำจุดไฟตามโคมทั้งในพระบรมมหาราชวังแลลำน้ำทางบกทั่วไป

วันที่รัชกาล ๗๒๕๘ วัน ๒ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๒๔ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ มีการสมโภชเดือนพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชายซึ่งประสูตรวัน ๒ ๑๕ ค่ำ พระราชทานพระนามว่าพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชายเขจรจิระประดิษฐ พระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้ไม่ใคร่ทรงสบายด้วย

เวลายามหนึ่ง กรมทหารบกทหารเรือได้เชิญพระบรมวงษานุวงษ ข้าราชการแลทูตกงซุลต่างประเทศพ่อค้านายห้างไปประชุมฟังดนตรีที่ศาลายุทธนาธิการ ได้ประชุมกันจนเวลา ๘ ทุ่มเลิก เมื่อเวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจพระราชดำเนินไปประทับที่ประชุมแลเสดจทอดพระเนตรทั่วไปทั้งบริเวณยุทธนาธิการ ทอดพระเนตรอยู่ครู่หนึ่งเสดจขึ้นรถพระที่นั่งแลมีพระราชดำรัสสรรเสริญกรมยุทธนาธิการ ที่สมเดจพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์น้อย แลผู้ช่วยทั้งปวงได้จัดการดีขึ้นเปนอันมาก แล้วเสดจกลับพระบรมมหาราชวัง

วันที่รัชกาล ๓๒๕๙ วัน ๓ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๕ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๒ โมงเสส โปรดให้สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจไป มีเทศนาที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระธรรมวโรดม ถวายเทศนารัตนสูตร พระองค์เจ้าอรุณนิภาคุณากร ถวายเทศนาเมตตสูตร กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ถวายเทศนาเทวดาอุทิศ ๓ กัณฑ์ ในการเฉลิมพระชนมพรรษา

เวลาบ่าย ๕ โมง เสดจออกทางพระที่นั่งจักรกรี เสด็จไปประทับท่าราชวรดิฐ เสดจลงเรือพระที่นั่งเก๋ง เสดจไปประทับบ้านเจ้าพระยารัตนบดินทรเสดจที่น่าเรือน เสดจขึ้นไปประทับตรัสด้วยอาการป่วยจักษุมืดของเจ้าพระยารัตนบดินทรอาการก็ไม่กระไรนัก มืดไม่เหนข้างเดียว เสดจประทับอยู่ครู่หนึ่งเสดจกลับ ทรงเรือพระที่นั่งมาประทับท่าบ้านเจ้าพระยาภาณุวงษ ทรงพระราชยานเสดจไปประทับบ้านเจ้าพระยาสุรวงษ เสดจขึ้นไปเยี่ยมเจ้าพระยาสุรวงษป่วยเปนโรคภายในอาการมาก เสดจประทับตรัสอยู่ครู่หนึ่งเสดจกลับพระบรมมหาราชวัง

มีการเลี้ยงพระเจ้าลูกเธอข้างใน ในการเฉลิมพระชนมพรรษา

วันที่รัชกาล ๗๒๖๐ วัน ๔ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๒๖ กันยายน ๒๔๓๑)

วันนี้เสด็จลงชั้นต่ำ แลที่ประชุม ไม่ได้เสดจออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๖๑ วัน ๕ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๗ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทพร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษ ข้าราชการ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท

ครั้นเมื่อประโคมเสดจออกสุดเสียงแล้ว เจ้าพนักงานกรมวังกรมพระกระลาโหมนำศรีตวันกรมการเมืองกลันตัน ๔ นาย ซึ่งนำต้นไม้ทองเงินเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวายนั้น เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทกราบถวายบังคมลากลับไปเมืองกลันตัน พระเจ้าอยู่หัวดำรัสพระราชทานพรแด่พระเดชานุชิต พระยาพิพิธภักดี เจ้าเมืองกลันตัน ในการที่แต่งต้นไม้เงินทองเข้ามามิให้เสียประเพณี แลดำรัสปฏิสัณฐานศรีตวันกรมการภอสมควร แล้วเสดจขึ้น

เสดจลงชั้นต่ำในเวลาค่ำด้วย แลมีการสวดมนตที่พระตำหนักสมเดจพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี ในการที่จะสมโภชเดือนสมเดจพระเจ้าลูกเธอวันพรุ่งนี้ พระบรมวงษานุวงษเข้าไปประชุมพร้อมกัน

วันที่รัชกาล ๗๒๖๒ วัน ๖ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๘ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาเช้าเลี้ยงพระที่ตำหนักสมเดจพระนางเจ้า แลทรงเครื่องตามประเพณีโบราณ เวลาบ่ายมีการสมโภชเดือนเหมือนอย่างเช่นเคยมีมา พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระนามสมเดจพระเจ้าลูกเธอว่า สมเดจพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิราภรณโสภณพิมลรัตนวดี

วันที่รัชกาล ๗๒๖๓ วัน ๗ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๙ กันยายน ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ พระเจ้าอยู่หัวเสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์ตวันออก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษวโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศนำเคานต์ คาราเด็ก ชาเยเดอแฟร์ฝรั่งเศศ เฝ้ากราบถวายบังคมลาไปเยี่ยมกรุงฝรั่งเศศครั้งหนึ่ง พระเจ้าอยู่หัวดำรัสพระราชปฏิสัณฐานภอสมควรแล้ว ถวายคำนับ กลับออกมาลาจากที่เฝ้า พระเจ้าอยู่หัวเสดจขึ้น

เวลาเกือบย่ำค่ำ เสดจออกท้องพระโรงพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท มีพระบรมวงษานุวงษข้าราชการเฝ้าตามธรรมเนียมออกแขกเมือง ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว เจ้าพนักงานกรมวัง กรมพระกระลาโหมนำศรีตวัน กรมการเมืองตรังกานู เมืองระแงะ ซึ่งคุมต้นไม้ทองเงิน เครื่องราชบรรณาการเข้ามาทูลเกล้า ฯ ถวาย เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท

พระยานรินทรอ่านใบบอกพระยาพิไชยภูเบนทรเจ้าเมืองตรังกานูว่า แต่งให้อุรังกายอเดหวาอินดารา แลศรีตวันกรมการ ๓ นาย รวม ๔ นาย คุมต้นไม้ทองเงิน เครื่องราชบรรณาการ จำนวนปีชวดสัมฤทธิศก เข้ามาขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย กับใบบอกพระยาภูผาภักดีศรีประกาศ เจ้าเมืองระแงะ ว่าแต่งให้แม่กองมันดาไรศรีตวันกรมการ ๔ นาย คุมต้นไม้ทองเงิน เครื่องราชบรรณาการ บีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก เข้ามาขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวาย

พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสปฏิสัณฐานภอสมควรแล้ว เสดจขึ้น การที่รับแขกเมืองวันนี้เหมือนคราวก่อน ๆ มา

วันที่รัชกาล ๗๒๖๔ วัน ๑ ๑๐ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๓๐ กันยายน ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้เสดจออกขุนนาง เสดจลงชั้นต่ำ แลโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสาย เชิญเสดจพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าเขจรจิระประดิษฐ์ ไปรักษาพยาบาลที่วัง เพื่อรับอากาศดี แลพระยาบาลดีดีด้วย พระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้จำเดิมแต่ประสูตรก็ประสูตรยาก แลไม่ใคร่ทรงสบาย พระฉวีพระกายไม่บริบูรณ พระอาการนั้น ๔ วัน ไม่ทรงสบายครั้งหนึ่ง หมอกุมารถวายพระโอสถช้านานแล้วไม่เปนปรกติได้

วันที่รัชกาล ๗๒๖๕ วัน ๒ ๑๑ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑ ตุลาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้เสดจออกขุนนาง เสดจในที่ประชุม กรมหลวงเทวะวงษทูลเรื่องกงสุลอังกฤษ แจ้งความว่าเกาวเมนต์อังกฤษคิดจะปราบปรามพวกยางแดงซึ่งอยู่ในอาณาเขตรพม่าให้เรียบร้อย พวกยางแดงนี้ตั้งอยู่ในอาณาเขตรของไทยในปลายเขตรเมืองนครเชียงใหม่ด้วย ถ้าคอเวอนเมนต์สยามจะปราบปรามทั้งฝ่ายสยามแล้ว ก็จะมีประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย และจะเปนการช่วยคอเวอนเมนต์อังกฤษด้วย กับว่าพระยาเพชพิไชย ข้าหลวงกับพระอภิบาลประเพณีตระลาการศาลต่างประเทศเมืองเชียงใหม่ ต่างคนต่างกล่าวโทษกัน ตกลงให้พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย ขึ้นไปจัดการที่เมืองนครเชียงใหม่ พระเจ้าอยู่หัวทรงเหนด้วย กำหนดจะให้ไปในข้างแรมเดือน ๑๑

วันที่รัชกาล ๗๒๖๖ วัน ๓ ๑๒ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก ๑๒๕๐

(๒ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย จัดการที่จะรับราชทูตเบลเยียม ซึ่งตั้งเข้ามาใหม่ มีข้าราชการ ตำรวจ ทหาร มหาดเล็ก แต่งเตมยศเฝ้าในพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์ตวันออก มีทหารปืนเลกรับที่น่าพระที่นั่งจักรกรี ๑๐๐ แตรวง ๑ ทหารปืนใหญ่ประจำประตูวิเสศไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี ประตูละคู่

เวลาบ่าย ๔ โมง เสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท ทรงเครื่องเตมยศทหาร เครื่องราชอิศริยยศช้างเผือกสยาม เจ้าพนักงานกรมวัง แลกรมหลวงเทวะวงษวโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ นำมองซิเออ ลยอน เวอกเฮ เดอนาเยอ มินิศเตอเรสิเดนของกรุงเบลเยียม เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มองซิเออ ลยอน เวอกเฮ เดอนาเยอ ราชทูตทูลเกล้า ฯ ถวายพระราชสาสน์สมเดจพระเจ้าลิวโปลด์ที่ ๒ พระเจ้ากรุงเบลเยียมต่อพระหัตถ ในพระราชสาสน์ตราตั้งนั้นมีความว่า สมเดจพระเจ้ากรุงเบลเยียม มีพระราชประสงคจะทรงบำรุงทางพระราชไมตรีในระหว่างกรุงสยามกับกรุงเบลเยียมให้เจริญยิ่งขึ้น จึ่งทรงตั้ง ม.ล. เวอกเฮ เดอ นาเยอ เปนมินิสเตอเรสิเดน มาอยู่ในสำนักนิ์กรุงจีน แลไปมาเยี่ยมเยียนกรุงสยามเนือง ๆ ทรงรับพระราชสาสนไว้แล้ว มีพระราชดำรัสปฏิสัณฐานในการเดินทางภอควรแล้ว ราชทูตถวายคำนับกลับออกจากที่เฝ้า

เวลาค่ำเสดจลงชั้นต่ำประเดี๋ยวหนึ่ง เสดจพระราชดำเนินวัดพระศรีรัตนสาสดาราม สวดมนตพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒสัตยา พระสงฆ ๓๘ รูป พระสงฆสวดมนตยังไม่ทันจบ เสดจกลับ

วันที่รัชกาล ๗๒๖๗ วัน ๔ ๑๓ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๓ ตุลาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้าพระสงฆที่สวดมนตเมื่อคืนนี้รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งสุทธัยสวริย์แล้วเข้ามาวัดพระศรีรัตนสาศดาราม

เวลาบ่ายโมงเสส เสด็จออกวัดพระศรีรัตนสาศดารามในที่ประชุมพระบรมวงษานุวงษ ข้าราชการ ซึ่งจะได้รับพระราชทานน้ำพระพิพัฒนสัตยา การทำพิธีอย่างใดก็ได้พรรณามาแต่เดือน ๕ แล้ว ในเดือนสิบนี้ก็เหมือนกันกับเมื่อเดือน ๕ แลทุก ๆ ปีที่ล่วงแล้ว แต่ในปีนี้ราชทูตเบลเยียมมาเฝ้าอยู่ในพระอุโบสถด้วย เมื่อเสรจการถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาแล้ว เสดจมาประทับพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงฉลองพระองค์ครุยเสดจออกประทับพระที่นั่งสนามจันทร ถวายบังคมพระบรมอัษฐิพร้อมกัน

เวลาค่ำมีการสวดพระพุทธมนตพิธีสารท พระสงฆราชาคณะ พระครูเปรียญ พระมหาดเล็ก รวม ๔๕ รูป พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จออกทรงจุดเทียน

  1. 1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4 กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ

  2. 2. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ศรี) วัดปทุมคงคา

  3. 3. พระองค์เจ้าชายสมัยวุฒิวโรดม ในเจ้าจอมมารดาพร้อม สิ้นพระชนม์ในปีต่อมา พระชนมพรรษาปีเศษ

  4. 4. กระทรวงกลาโหม

  5. 5. สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช

  6. 6. เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกศาธิบดี (ท้วม บุนนาค)

  7. 7. เจ้าพระยาสุรวงศ์วัยวัฒน์ (วร บุนนาค)

  8. 8. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ เป็นแพทย์ประจำพระองค์ และได้บัญชากรมทหารเรือด้วย

  9. 9. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๕ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ