เดือน ๘๘ จุลศักราช ๑๒๕๐

วันที่รัชกาล ๗๑๘๑ วัน ๒ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๙ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง พระวิจารณอาวุธอ่านบอกพระยาฤทธิสงครามเมืองไทรบุรี เรียนพณผู้ว่าราชการกรมพระกระลาโหม เรื่องจีนวิวาทกันที่ตำบลลุเกมความต้องกับบอกพระอนุรักษโธธาข้าหลวงที่อ่านเมื่อวัน ๒ ๘ ค่ำ

พระยาศรีสิงหเทพ นำจ่าเร่งงานรัดรุดกราบถวายบังคมลาไปช่วยพระยาศุโขทัยรับราชการที่เมืองพิไชย แลนำกะเลเกรี่ยงกราบถวายบังคมลา พระราชทานเสื้อผ้าเปนเกียรติยศ

ในหมู่นี้มีความที่ฆราวาศฟ้องกล่าวโทษพระภิกษุสงฆในพระอารามต่างๆ ชุกชุม ว่าต้องปฐมปาราชิกบ้าง ตติยปาราชิกบ้าง พระสงฆต่อพระสงฆวิวาทฆ่ากันตายบ้าง มีมากขึ้นในหมู่นี้ มีความเรื่องหนึ่งเกิดที่วัดมหรรณพาราม โจท ๒ คน ฟ้องพระมหาสุ่นว่า เสพเมถุนเปนปาราชิกกับสตรี ๒ คน มาได้ ๒ ปีเสศแล้ว เมื่อวันตั้งพระสงฆพระเทพมุนีเจ้าอาวาศเข้ามาฉัน มีพระราชดำรัสถามก็ถวายพระพรเลือนไป ทางพระราชดำริห์ว่าพระเทพมุนีไม่ดูแลการพระอารามมีความผิด โปรดให้ลดนิตยภัตรลงเท่าเมื่อยังเปนเปรียญอยู่ไปปีหนึ่ง จึงให้คงได้รับพระราชทานเท่าตำแหน่งเทพ แลให้ประกาศแก่พระสงฆเจ้าอาวาศให้ตรวจตราห้ามปรามพระสงฆอย่าให้ประพฤติชั่วร้ายต่อไป ประกาศลงวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๘ ๘ ปีชวดสัมฤทธิศก

วันที่รัชกาล ๗๑๘๒ วัน ๓ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๐ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้เสดจออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๑๘๓ วัน ๔ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๑ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้เสดจออกขุนนาง เปนแต่เสดจลงที่ชั้นต่ำ แลที่วิมานรัถยา

วันที่รัชกาล ๗๑๘๔ วัน ๕ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๒ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

ไม่ออกขุนนางเหมือนกัน

วันที่รัชกาล ๗๑๘๕ วัน ๖ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๓ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกพระยาคธาธรเมืองพระตะบอง ว่าตังแกมองแข่งหลวงมณีรจนากับพวก มีศรัทธาสร้างพระอุโบสถที่บ่อสำรอง ขอพระราชทานที่ผูกพัทธสิมา กว้าง ๑๐ วา ยาว ๑๒ วา ๒ ศอก กับขอสร้างพระเจดียบนเนินเขาที่บ่อดินเหนียวแห่งหนึ่ง กับใบบอกหลวงประชากรบริรักษ ปลัดเมืองอินทบุรี ว่านายต่าย ขุนพรหมเสนา ขึ้นไปเดินนาไปเกบเงินค่านาตามลำภังตน ไม่บอกให้กรมการกำนันกำกับราษฎรร้องกล่าวโทษว่าเรียกเงินค่าเผาบาทละไพนอกท้องตรา ได้ตักเตือนว่าให้มาทำการพร้อมด้วยกรมการก็ขัดแขงเสีย ฯ โปรดให้ต่อว่ากรมนา

กรมพระกระลาโหมอ่านหนังสือบอกพระยาศรีธรรมราชว่า พระยาพิพิธภักดีเมืองกลันตันแต่งให้พระรัษฎาธิบดีบุตรบุรุศพิเสศ ๑ ตนกูมุดาน้องพระรัษฎา ๑ ตนกูหลงสนีผู้บุตรพระรัษฎา ๑ ศรีตวันกรมการ ๕ นาย ไพร่ ๓๒ คน รวม ๔๐ คน เข้ามากรุงเทพ ฯ ตามท้องตราพระคชสีหที่จะโปรดเกล้า ฯ ให้พระรัษฎารับเกียรติยศนั้น กับหนังสือพระยาพิพิธภักดี พระยากลันตันว่าด้วยมีตราพระคชสีหโปรดเกล้า ฯ ออกไปว่าจะโปรดเกล้า ฯ ให้พระรัษฎาธิบดีบุตรบุรุศพิเสศมีเกียรติยศขึ้นอีกตามที่พระยาเดชานุชิตทำหนังสือขอพระราชทานไว้นั้น บัดนี้ได้แต่งให้พระรัษฎาธิบดีตนกูมุดา ตนกูหลงสนีเข้ามากรุงเทพฯ

โปรดให้เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในวัน ๑ ค่ำ

พระราชทานสัญญาบัตร พันพุฒทนุราชเปนพระวรพุฒิโภคัย ในกรมมหาดไทย นา ๘๐๐ นายเลื่อนมหาดเล็กเปนหลวงอภัยพิจารณ ในกรมมหาดไทย นา ๖๐๐ นายจำเนียรภักดีนายเวรเปนขุนนิพิฐราชการ

พระยาพิพัฒโกษานำจมื่นราชามาตยปลัดกรมพระตำรวจในซ้าย กราบถวายบังคมลาไปเปนข้าหลวงรักษาเมืองนนทบุรี แล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๑๘๖ วัน ๗ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๔ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกพระยาพิไชยรณรงค์สงครามเมืองสระบุรี ว่าด้วยเกิดผู้ร้ายปล้นราษฎรในแขวงเมืองสระบุรี ๒ รายสืบจับได้ตัวผู้ร้ายมาชำระเปนสัตย ซัดพวกเพื่อนยังสืบจับไม่ได้ตัวบ้าง เปนคนต่างเมืองบ้าง ถ้าได้ตัวไปชำระได้ความประการใดจะบอกมาภายหลัง

แล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๑๘๗ วัน ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๕ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ พระเจ้าอยู่หัวเสดจออกประทับพระที่นั่งพุดตาลทองคำภายใต้พระมหาเสวตรฉัตรท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรกรีพร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษ ข้าราชการ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทพร้อมกัน เจ้าพนักงานประโคมตามธรรมเนียม

ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว เจ้าพนักงานกรมวัง กรมพระกระลาโหม นำแขกเมืองกลันตัน คือ พระรัษฎาธิบดีบุตรบุรุศพิเสศ ๑ ตนกูมุดา ๑ ตนกูหลงสนิ ๑ ศรีตวันกรมการเมืองกลันตัน เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แขกเมืองกลันตันจัดได้ทองคำหลอมหนัก ๔๐ ตำลึงแขก พิมเสนหนัก ๒ ชั่งจีน ผ้าโสร่งไหม ๒๐ ผืน ขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวาย มีพระราชดำรัสปฏิสันฐาน ๓ นัด แล้วเสดจขึ้น

เวลาค่ำ เสดจลงชั้นต่ำ พระราชทานผ้าโสร่งไหมที่พระรัษฎาธิบดีทูลเกล้า ฯ ถวายนั้น แก่เจ้านายหลายคน

วันนี้แห่พระปรีชาเฉลิมไปวัดเฉลิมพระเกียรติ ถานา ๒ อันดับ ๒

วันที่รัชกาล ๗๑๘๘ วัน ๒ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๖ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เสดจพระราชดำเนินประพาศพระราชอุทธยานสราญรมย์ ตั้งแต่เวลาบ่าย ๕ โมง จนเวลา ๕ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๑๘๙ วัน ๓ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๗ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลายามเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกพระกำพุชว่าที่พระพิทักษบุรทิศผู้ว่าราชการเมืองศรีโสภณเรื่องผู้ร้ายฆ่าคนตายฉบับ ๑

กรมพระกระลาโหมอ่านบอกพระยาตรังคภูมาภิบาลว่าด้วยไปถึงเมืองตรัง เชิญท้องตราอ่านให้กรมการอำเภอฟัง แล้วได้รับว่าราชการเมืองต่อไป

เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๑๙๐ วัน ๔ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๘ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาย่ำค่ำ เสด็จออกแขกเมืองกลันตันเหมือนวัน ๑ ค่ำ กรมวัง กรมพระกระลาโหมนำพระรัษฎาธิบดี ตนกูมุดา ตนกูหลงสนิ เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสัญญาบัตร ให้พระรัษฎาธิบดีนำไปพระราชทาน เลื่อนพระยากลันตันเปนพระยาเดชานุชิต ผู้กำกับคู่แลราชการเมืองกลันตัน ๑ พระราชทานให้พระรัษฎาธิบดีเปนพระยาพิพิธภักดีเจ้าเมืองกลันตัน ๑ ตนกูมุดาเปนพระโยธีประดียุทธรายามุดา ๑ ตนกูหลงสนิเปนพระรัษฎาธิบดีบุตรบุรุศพิเสศ ๑

แล้วพระราชทานพระบรมราโชวาทในการทนุบำรุงญาติพี่น้อง แลรักษาราชการบ้านเมืองต่อไปเปนอันมากแล้ว เสดจขึ้น

เวลาทุ่มเสศ เสดจออกที่ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรรี สมโภชหม่อมเจ้าที่จะผนวชภิกษุสามเณร ๓ องค์ คือหม่อมเจ้าเทโพ ในกรมขุนภูวไนย ๑ หม่อมเจ้าอบเชยในกรมหมื่นมเหศวร ๑ ทรงผนวชภิกษุ หม่อมเจ้าชายหนูผนวชสามเณร ๑ สมโภชแล้วพระราชทานน้ำสังขทรงเจิมพระราชทานทั้งสอง

แล้วพระราชทานสัญญาบัตรทหาร ๒๒ คน คือเปนนายพลเอก (เยเนอราล) สมเดจกรมพระภาณุพันธุ ๑ ฯ เปนนายพลตรี (เมเยอเยเนอราล) ๓ คือ กรมหมื่นประจักษ กรมหมื่นดำรง เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรวม ๓ ฯ เปนนายพลจัตวา (บริเคเดียเยเนอราล) ๑ กรมหมื่นอดิศรฯ เปนนายพันเอก (เคแนล) ๒ คือ พระวรเดช ๑ หลวงอัคนิสร ๑ ฯ เปนนายพันตรี (เมเยอ) ๑ หลวงนครไภยพิเฉท ฯ นายร้อยเอก (กัปตัน) ๖ คือ ขุนสัณหการโกศล ๑ หลวงวิเสศสุรการ ๑ หลวงวิชิตรสรสาตร ๑ หลวงสโมสร ๑ นายต่วน ๑ นายคง ๑ ฯ เปนนายร้อยโท (เลปเตอแนนต) ขุนวิสุทธราช ๑ ขุนอมรศักดาวุธ ๑ หม่อมราชวงษสนิท ๑ นายเภา ๑ ฯ เปนนายร้อยตรี (สับเลบเตอแนนต) นายวร ๑ ขุนผดุงศรีตุลาอาศน์ ๑ ขุนอาจอัคนิกร ๑ นายปาน ๑

พระราชทานสัญญาบัตร แล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๑๙๑ วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑๙ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาเพนแล้ว เจ้าพนักงานเชิญหม่อมเจ้าเทโพ หม่อมเจ้าอบเชย ที่จะทรงผนวชภิกษุ หม่อมเจ้าหนูน้อยที่จะผนวชสามเณร ไปขึ้นเกยโปรยเงินเฟื้องแล้วเข้าไปบรรพชาอุปสมบทในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาศดาราม ในคณะสงฆ ๓๐ รูป มีพระพรหมมุนีเปนอุปัชฌาย

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสดจออกห้องดรออิงรูม พระสงฆราชาคณะนำหม่อมเจ้าพระเทโพ หม่อมเจ้าพระอบเชย หม่อมเจ้าเณรหนู เข้ามารับบริขารเครื่องกุฎีแล้วเสดจขึ้น

เวลา ๓ ยาม ๕๔ นาที สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีประสูตรสมเดจพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิง

แห่พระสุวรรณวิมลสิล ๑ ถานา ๒ เปรียญ ๑ อันดับ ๒ จากวัดศาลาปูน ๗ พระครูโยคานุกูล วัดพนัญเชิง ๑ รวม ๘ รูป ไปวัดสุวรรณดาราราม

วันที่รัชกาล ๗๑๙๒ วัน ๖ ๑๒ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๐ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ทรงพระกรุณาโปรดให้จัดการบำเพญพระราชกุศล ในการที่พระอรรคชายาเธอ พระองคเจ้าเสาวภาคนารีรัตน สิ้นพระชนมบันจบครบปี ๑ จัดการที่พระที่นั่งสุทธัยสวริย์ เจ้าพนักงานเชิญพระอัษฐิขึ้นสถิตยบนบุศบกทองคำเหนือพระแท่นแว่นฟ้าทองคำ มีเครื่องสูงแลเครื่องประดับตั้งตามพระเกียรติยศ แลมีกลองชนะประโคมตามเวลา

เวลาเช้า ๕ โมง พระเจ้าอยู่หัวเสดจออกพระที่นั่งสุทธัยสวริย ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตร หม่อมเจ้าพระพุทธบาท แลเจ้าอธิการวัดราษฎร รวม ๓๐ รูป พระสงฆฉันแล้ว ทรงทอดผ้าไตรย่ามแพรสดัปกรณ ๒๐ รูป โปรดให้สมเดจเจ้าฟ้าจันทราทรงทอดสดัปกรณ ๑๐ รูป แลทรงประเคนพัดรองแก่เจ้าอธิการต่าง ๆ บางรูป แล้วมีสดัปกรณผ้าขาวพับ ๑๐๐ รูป แล้วเสดจขึ้น

เวลาย่ำค่ำ โปรดให้สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจออกทรงโปรยฉลากแลผลมนาว พระราชทานพระบรมวงษานุวงษ แล้วโปรดให้ทิ้งทานพุ่มกามพฤกษทั้ง ๔ พุ่ม เวลาทุ่มเสศเสดจออกสวดมนตร พระสงฆสวดสัต์ตปริต แล้วมีเทศนากัณฑ์หลวงกัณฑ์ ๑ พระมหาเปียถวาย กัณฑ์ของสมเดจพระเจ้าลูกเธอกัณฑ์ ๑ พระมหาน้อยถวายของไทยทานพระฉันนั้น ถวายเงินองค์ละ ๕ ตำลึง ของข้างใน กัณฑ์เทศเจ้าภาพผ้าไตรย่ามเงิน ๑๐ ตำลึง กัณฑ์หลวงไตรบริขารเงิน ๕ ตำลึง เทศนาจบแล้วทรงดอกไม้เพลิง เวลา ๒ ยาม เสดจขึ้น

การมโหรสพมีโขน ๑ โรง หุ่น ๑ โรง หนัง ๒ โรง ไม้ลอยญวนหก รำโคม มังกร สิงโต ดอกไม้เพลิงต่าง ๆ

วันที่รัชกาล ๗๑๙๓ วัน ๗ ๑๓ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๑ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาวันนี้มีงานในการพระราชกุศลเหมือนวานนี้ พระสงฆที่ฉันพระธรรมวโรดม กับเจ้าอธิการ รวม ๓๐ รูป เวลาเช้าไม่เสดจออก โปรดให้เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพรเสดจออกมาเลี้ยงพระสงฆ

วันนี้เปนวันสิ้นพระชนม์พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน ตามสุริยคติกาล

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสดจออกทรงโปรยแลสวดมนตเทศนาเหมือนเวลาวานนี้ วันนี้พระมหาแพวัดสุทัศน์ เทศกัณฑ์หลวง พระมหาจ่าย เทศนากัณฑ์เจ้าภาพ เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันนี้มีสวดมนต์ฉลองเทียนพรรษาที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไม่ได้เสดจออก

วันที่รัชกาล ๗๑๙๔ วัน ๑ ๑๔ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๒ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

วันนี้มีการพระราชกุศลอีกวันหนึ่ง เวลาเช้าไม่เสดจออก พระสงฆที่ฉันวันนี้ พระองค์เจ้าพระอรุณ๑๐ แลเจ้าอธิการวัดธรรมยุติกาที่มิใช่พระอารามหลวง แลเจ้าอธิการวัดมหานิกาย รวม ๓๐ รูป การทั้งปวงเหมือนวานนี้

เวลาเช้าเลี้ยงพระฉลองเทียนที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไม่ออกเหมือนกัน

เวลาบ่าย ๔ โมงเสศ มีการสมโภชสามวัน สมเดจพระเจ้าลูกเธอที่ประสูตใหม่ พระบรมวงษานุวงษเข้าไปพร้อมกัน

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จออกพระที่นั่งสุทธัยสวริยปราสาท มีการเหมือนวานนี้ พระเทศวันนี้ พระมหาแสง วัดโสมนัศ กัณฑ์หลวง หม่อมเจ้าเณรพร้อม๑๑เปรียญ ถวายเทศกัณฑ์เจ้าภาพ ยามเสศเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๑๙๕ วัน ๒ ๑๕ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๓ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาย่ำรุ่งกับ ๔๔ นาที เจ้าจอมมารดาแสประสูตรพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชาย๑๒

เวลาเช้า ๒ โมง เสดจออกวัดพระศรีรัตนสาศดารามในการถวายพุ่มแต่พระสงฆที่รับพระราชทานฉันยังไม่มา จึงทรงจุดเทียนพรรษาแลถวายพุ่มพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกฎแลพระอื่น ๆ แล้วเสดจกลับ

เวลาเช้า ๕ โมง เจ้าพนักงานเลี้ยงพระสงฆราชาคณะ ๓๐ รูป แล้วโปรดให้ถวายพุ่มแลเทียนร้อยตามธรรมเนียมเหมือนทุกปีมา

วันที่รัชกาล ๗๑๙๖ วัน ๓ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๔ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาบ่าย ๕ โมง เสดจออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท กรมพระกระลาโหมนำ พระยาพิพิธภักดีศรีสุลต่านมหมัด รัตนานุชิตสิทธิสุนทรบวรรวิวังษา พระยากลันตัน ๑ พระโยธีประดียุทธรายามุดา ๑ พระรัษฎาธิบดีบุตรบุรุศยพิเสศ ๑ กราบถวายบังคมลากลับไปบ้านเมือง

พระราชทานเจียดทอง คนโททอง กระโถนทอง แก่พระยากลันตัน ๑ พระราชทานถาดหมาก คนโททอง พระโยธีประดียุทธรายามุดา ๑ พระราชทานถาดหมาก คนโททอง พระรัษฎาธิบดี ๑

แลพระราชทานเสื้อผ้าแก่ศรีตวันกรมการอีก ๕ นาย แลดำรัสพระราชปฏิสันฐานโดยควรแล้วเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสดจออกพระที่นั่งจักรกรีองค์ตวันออก กรมหลวงเทวะวงษนำมิสเตอ กุสซัลออศเตรีย เฝ้ากราบถวายบังคมลากลับไปยุโรป ทรงพระกรุณาโปรดจะพระราชทานเครื่องราชอิศริยยศมงกุฎสยาม มัณฑนาภรณ๑๓ เฝ้าอยู่ครูห์นึ่ง กราบถวายบังคมลากลับไป

วันที่รัชกาล ๗๑๙๗ วัน ๔ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๕ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลาวันนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเดจพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนารถ๑๔ เสดจไปถวายพุ่มวัดบวรนิเวศวิหาร

ไม่ได้เสดจออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๑๙๘ วัน ๕ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๖ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

วันนี้สมโภชสามวันพระเจ้าลูกเธอ ซึ่งประสูตรเมื่อวัน ๒ ๑๕ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิศก

วันที่รัชกาล ๗๑๙๙ วัน ๖ ๘๘ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๗ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

ไม่เสดจออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๐๐ วัน ๗ ๘๘ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๘ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

ไม่ได้เสดจออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๐๑ วัน ๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒๙ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านบอกพระสำเร็จสมบัติข้าหลวง ว่าด้วยไปชำระความนายอากรจับนำสุราเสรจแล้วฉบับ ๑ กับใบบอกพระยาพิไชยรณรงคสงครามเมืองสระบุรีว่า หลวงศรีสรภูมยกกระบัตรถึงแก่กรรม ตำแหน่งที่ว่างอยู่ ขอพระราชทานหลวงพลผู้น้อง หลวงยกกระบัตร เปนหลวงศรีสรภูมยกกระบัตรรับราชการต่อไป

กรมพระกระลาโหมนำใบบอกกราบบังคมทูล บอกหลวงอนันตสมบัติผู้ช่วยหลวงอินทรเดชราชภักดียกกระบัตรเมืองสงขลา ส่งทองคำส่วยบุตรจีน จำนวนปีจอ อัฐศก บุตรจีน ๑๘๓ คน ทองคนละ ๑ สลึง ๑ เฟื้อง เปนทองหนัก ๑๗ ตำลึง ๒ สลึง ๑ เฟื้อง ให้นายพ่วงมหาดเล็กคุมเข้ามาส่ง

กรมพระกระลาโหมนำพระยาราชวังสรรกรมอาษาจาม พระเสนหามนตรี ผู้ช่วยเมืองนครศรีธรรมราช กราบบังคมลาเชิญสัญญาบัตรท้องตรานำตั้งแลเครื่องยศไปพระราชทานพระยาเดชานุชิต เมืองกลันตัน แลขอรับพระยากลันตัน พระโยธีประดียุทธรายามุดา พระรัษฎาธิบดีบุตรไปส่งด้วย

แลนำพระฤทธิไกรเกรียงเดชผู้ช่วยราชการเมืองไทร พระอินทวิไชย ตนกูมหมัด เมืองสตูน กราบถวายบังคมลากลับไปเมือง

พระราชทานสัญญาบัตรหลวงบริคุตวรภัณฑ์ เปนพระดรุณรักษา๑๕ ปลัดจางวาง มหาดเล็ก นา ๑๐๐๐ พันเทพภักดีเปนพระวิชิตมนตรี กรมกระลาโหมฝ่ายพระราชวังบวร นา ๔๐๐ นายไชยขรรค์เปนพระรักษาเทพ เจ้ากรมพระตำรวจสนมซ้ายฝ่ายพระราชวังบวร นา ๑๒๐๐ นายเขียวมหาดเล็กเวรศักดิ เปนขุนธารารศวิเสศ พนักงานน้ำร้อนกรมมหาดเล็ก นา ๓๐๐ หมื่นนราสารวัด เปนขุนวิจิตรสุนทรการ กรมธรรมการ ถือศักดินา ๕๐๐

กับกรมมหาดไทยนำพระนครจันทึกกราบถวายบังคมลาด้วย

วันที่รัชกาล ๗๒๐๒ วัน ๒ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๓๐ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง ไม่มีใบบอก พระราชทานสัญญาบัตรข้าราชการพลเรือน ๓ นาย คือ จมื่นจงภักดีองค์ขวา เปนพระยาสุพรรสงครามรามพิไชยเมืองสุพรรณบุรี นา ๓๐๐๐ พระไกรสรสงคราม ปลัดจางวาง เปนพระยาราชเดชะ นายกองส่วยเสาเขมรเมืองราชบุรี ฝ่ายพระราชวังบวร นา ๖๐๐ หลวงสำแดงสรผลาญ เปนหลวงจำนงพลภักดี กรมกระลาโหม ฝ่ายพระราชวังบวร นา ๓๐๐

พระราชทานสัญญาบัตรทหารอีก ๔๗ นาย มีพระชลธุทธเปนต้น ถ้าจะดูในราชกิจจา เล่ม ๕ แผ่นที่ ๒๐ น่า ๑๖๑

วันที่รัชกาล ๗๒๐๓ วัน ๓ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ์๒๑ศก ๑๒๕๐

(๓๑ กรกฎาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่มีอันใด เวลาเยนเสดจพระราชดำเนินประพาศสวนสราญรมย์จนกลางคืนจึงเสด็จกลับ

วันที่รัชกาล ๗๒๐๔ วัน ๔ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๑ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้ออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๐๕ วัน ๕ ๑๐ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๒ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ไม่ได้ออกขุนนาง

วันที่รัชกาล ๗๒๐๖ วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๓ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้ออกขุนนาง พระยาไชยวิชิต๑๖ ผู้รักษากรุงเก่าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทได้ ไม่ต้องทูลเบิกอย่างเมืองอื่น

วันที่รัชกาล ๗๒๐๗ วัน ๗ ๑๒ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๔ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลาค่ำมีการสวดพระพุทธมนตที่พระที่นั่งอาภรณพิโมกขปราสาท พระราชาคณะถานานุกรม ๕ รูป ในการที่จะทรงหล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาสมปฏิมาปีนี้ แลพระสมาธิแลเทวะรูปพระพฤหัศบดี ซึ่งประจำพระชนมพรรษาตามคัมภีร์มหาทักษา เวลา ๒ ทุ่มโปรดให้สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจทรงจุดเทียนเครื่องนมัศการ พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสดจพระราชดำเนิน

วันที่รัชกาล ๗๒๐๘ วัน ๑ ๑๓ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๕ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลาเช้า ๔ โมง พระเจ้าอยู่หัวเสดจออกพระที่นั่งอาภรณพิโมกขปราสาท ทรงจุดเทียนนมัศการ แล้วทรงเททองหล่อพระพุทธรูปแลเทวะรูปซึ่งได้ว่าไว้ในเวลาวานนี้แล้วโปรดให้พระองค์เจ้าจิระประวัติวรเดช ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตแลไทยทาน พระเจ้าอยู่หัวเสดจขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จออกประทับพระที่นั่งพุดตานทองคำในท้องพระโรงพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทตามธรรมเนียม เสดจออกแขกเมืองพร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือน เจ้าพนักงานนำแขกเมืองกลันตันเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แล้วอ่านบอกพระยาพิพิธภักดีเมืองกลันตันว่าแต่งให้หวันกาเต หวันยะโกบ หวันอิดิเรด หวันหมัดตาฟา ๔ นาย คุมต้นไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการ จำนวนปีชวดสัมฤทธิศก เข้ามาถวาย คือ ต้นไม้ทองเงินคู่ ๑ สูงต้นละ ๖ ศอก ๕ นิ้ว เครื่องราชบรรณาการแหวนรูปดอกมพร้าว ๒๐ วง หอกปลอกทองคำ ๑๐ คู่ ผ้าขาวยาว ๕๐ ศอก ๔๐ ภับ

มีพระราชปฏิสัณฐานภอควรแล้วเสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๐๙ วัน ๒ฯ๑๔ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๖ สิงหาคม ๒๔๓๑)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยนำบอกพระยาไตรเพชรรัตนเมืองนครสวรรคว่าวัน ๖ ๑๓ ๔ ค่ำ ปีกุนนพศก เวลา ๓ ยาม ผู้ร้ายเอาเพลิงจุดเรือนหลวงศรีสรศักดิ ได้ช่วยกันดับหาดับไม่ เพลิงลามไหม้เรือนพระยานครสวรรคเก่าแลเรือนหลวงนาเพลิงไหม้ปืนหลวง ๑๓ บอก ฎีกาเบิกจ่ายเข้าหลวง ๕๖๔ ฉบับ สำนวนความ ๒๕ เรื่อง ครั้นเดือนห้าปีชวดยังเปนนพศก ผู้ร้ายทิ้งเพลิงเรือนขุนจ่าเมือง อีกสำนวนความไหม้ ๒๐ เรื่อง ยังสืบเอาตัวผู้ร้ายอยู่

กรมท่าอ่านบอกจมื่นราชามาตย ข้าหลวงเมืองนนทบุรีว่าตั้งแต่ขึ้นไปรักษาเมืองนนทบุรีมาแต่วัน ๑ ๘ ค่ำ จนวัน ๑ ๑๔ ๘ ค่ำ เกิดผู้ร้ายปล้นบ้านราษฎร ๒ ราย ปล้นวัดบัว ๑ ราย รวม ๓ ราย ได้คิดตามสืบจับได้ตัวผู้ร้าย ๕ คน รับเปนสัตย ซัดเพื่อนอีก ๖ คน หลบหนียังคิดตามสืบจับต่อไป

พระราชทานสัญญาบัตร นายเสถียรรักษา ปลัดวัง เปนจมื่นจงภักดีองค์ขวานา ๘๐๐ นายพินิจราชการเปนนายสเถียรรักษา ปลัดวังซ้าย นา ๖๐๐ หม่อมราชวงษผัน เปนหลวงอำนาจณรงคราญ กัปตันทหารปืนใหญ่ทหารรักษาพระบรมมหาราชวัง นา ๘๐๐ นายแต้ม เปนหลวงบำราญปัจจามิตร กัปตันพระบรมมหาราชวัง นา ๘๐๐ จีนหยูบุตรพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ภุก) เปนหลวงอุดรภัณฑ์พานิช กรมท่าซ้าย นา ๔๐๐ จีนลี่ฉาย บุตรพระยาพิศาลผลพานิช เปนหลวงภัทรผลภักดี กรมท่าซ้าย นา ๔๐๐ หลวงพลกรมการ เปนหลวงศีรสระภูมยกกระบัตรเมืองราชบุรี นา ๕๐๐

เวลา ๕ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๒๑๐ วัน ๓ ๑๕ ค่ำ ปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก ๑๒๕๐

(๗ สิงหาคม ๒๔๓๑)

วันนี้เสดจออกประพาศสวนสราญรมย์ จนเวลาค่ำจึงเสดจกลับ

  1. 1. พระยาศรีสิงหเทพ (อ่วม)

  2. 2. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๓ พระองค์เจ้าสุบรรณ กรมขุนภูวนัยนฤเบนทราภิบาล

  3. 3. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ พระองค์เจ้านพวงศ์ วรองค์เอกอรรคมหามกุฎ ปรมุตราโชรส พรมหมื่นมเหศวรศิววิลาศ

  4. 4. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ พระองค์เจ้าสุขสวัสดิ์ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช

  5. 5. สมเด็จเจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณพิมลรัตนวดี สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๑

  6. 6. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๕ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์

  7. 7. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๕ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์

  8. 8. เป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ในรัชกาลที่ ๘ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ สถิต ณ วัดสุทัศน์เทพวราราม

  9. 9. เป็นสมเด็จพระวันรัต เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ สถิต ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

  10. 10. พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร สถิต ณ วัดราชบพิธ พระนามเดิม หม่อมเจ้ากระจ่าง ลดาวัลย์

  11. 11. หม่อมเจ้าพร้อม ลดาวัลย์

  12. 12. พระองค์เจ้าเขจรจิรประดิษฐ์ สิ้นพระชนม์ในปีที่ประสูตินั้นเอง พระชนมพรรษาสองเดือนเศษ

  13. 13. คือ ตริตาตรณ์มงกุฎไทย ในปัจจุบัน

  14. 14. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๕ เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

  15. 15. พระดรุณรักษา (กัน) บุตรกลีบ ผู้สร้างวัดกันมาตุยาราม

  16. 16. พระยาไชยวิชิต (สิงห์โต ศกุนะสิงห์) ภายหลังเป็นพระยาเพชรพิไชย เป็นบุตรพระยาอาหารบริรักษ์ (นก)

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ