คำฉันท์คชกรรมประยูร
ของ หลวงราขวังเมือง แต่งในรัขกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
อินทรวิเชียร ฉันท์ ๑๑
๑๏ ขอถวายศิโรรัตน์ | สิริสวัสดิสาทร |
ปัญจางค์ชุลีวร | วิสุทธิโอฬาร |
๒๏ แห่งองค์ชิโนนาถ | ทศพลยอดญาณ |
นำสัตวสงสาร | นิเวศพ้นมฤตยู |
๓๏ เปนที่พำนักนิตย | วรเทพแผ่นภูว |
โลเกศ ณ ดาลดู | ประเสริฐสวัสดิสถาผล |
๔๏ เนาวโลกอุดรธรรม์ | ธำรงรักษนรชน |
สดับแสดงก็ลุดล | บทโมกขนฤพาน |
๕๏ ทังสงฆอัษฎาง | ควิสุทธิใจอาริย์ |
โปรดโลกยสงสาร | วรเทพยสบสรรพ์ |
๖๏ ไตรรัตนเรืองโลก | ยโลเกศไกวัล |
ขอถวายกฤษดาอัญ | ชุลีโอนศิโรจร |
๗๏ อิกองคศุลี | สฤษดิรักษเรืองพร |
เปนปิ่นคณนิกร | วรเทพธาดา |
๘๏ อภิวันทเรืองฤทธิ | พิษณุนาถนาถา |
ครองโลกยโลกา | สิทธิศักดิสังหาร |
๙๏ วรวรรณโลเกศ | กมเลศเลอญาณ |
ขอถวายกฤษดาญมาลย | นรเทพเพ็ญพูน |
๑๐๏ ขอแสดงดำเนิรใน | คชกรรมประยูร |
เลอลักษณบริบูร | ณประเภทไภยพาล |
๑๑๏ ไตรรัตนเรืองเทพ | หิมเวศพระการย์ |
ขอพระแสดงสาร | ศุภสวัสดิมานมี ฯ |
ฉบัง กาพย์ ๑๖
๑๒๏ จักกล่าวคชลักษณพิทธี | เปนพาหนะโกสีย์ |
ธิราชไท้ธำรง | |
๑๓๏ ชื่อเอราวัณแมนนง | คลเลิศแลอง |
คเผือกผผ่องพรรณราย | |
๑๔๏ มีเศียรสามสิบสามฉาย | มานมุขแลกาย |
นุภาพพ้นคเชนทรา | |
๑๕๏ หนึ่งคิรีเมขล์ไตรดา | สามเศียรสี่บา |
ทาธรเศวตยรรยง | |
๑๖๏ หนึ่งเทพยี่สิบหกองค์ | นิมิตเปนมาดงค์ |
แลเทพยเผือกผ่องพรรณ | |
๑๗๏ จักกล่าวช้างในหิมวันต์ | สิบหมู่อันสรรค์ |
ประเสริฐลักษณอลงก์ | |
๑๘๏ ชื่อช้างฉัททันต์แลองค์ | จักรพรรดิเสร็จทรง |
ในจักราภพ บ มิขาม | |
๑๙๏ สามล้านหกแสนหมื่นสาม | ร้อยห้าสิบตาม |
โดยโยชนผาดผันผาย | |
๒๐๏ แต่เช้าถึงเช้า บ มิงาย | กำลัง บ มิคลาย |
มีพรรณภาคยเงินงาม | |
๒๑๏ อุโบสถตระกูลมีนาม | จักรพรรดิทรงตาม |
กำแพงจักราพาฬผัน | |
๒๒๏ ไปเช้าคืนเที่ยงสุริยัน | บ มิเหมือนฉัททันต์ |
พรรณภาคยคือทองโสภี | |
๒๓๏ ช้างเหลืองชื่อเหมหัตถี | พรายพรรณคือสี |
สุพรรณเรืองอาภา | |
๒๔๏ สีดั่งอัญชันดวงผกา | ศุภลักษณลีลา |
มงคลหัตถีฦๅนาม | |
๒๕๏ ชื่อคันธหัตถีเงื่อนงาม | สีกฤษณาสาม |
สิ่งมูตรแลมูลตัวหอม | |
๒๖๏ บิงคัลสีสุริยะเสด็จจอม | อุทัยเทพนอม |
ยุคุนธรบรรพตพราย | |
๒๗๏ สีสรรพเทียมทองพรรณราย | ศุภลักษณโฉมฉาย |
มีนามชื่อดามพหัตถี | |
๒๘๏ มีพรรณเผือกผ่องคือสี | ไกรลาสคีรี |
ชื่อบัณฑระนามใน | |
๒๙๏ ช้างหนึ่งนามคังไคย | สีดุจชลไหล |
อุทกธารารมย์ | |
๓๐๏ กาฬวกะหัตถีสม | บูรณ์ดำอุดม |
แลพรายคือนิลภูผา | |
๓๑๏ เสร็จกล่าวช้างในหิมวา | สิบหมู่อันปรา- |
กฏสัมฤทธิสำแดง | |
๓๒๏ จะกล่าวอัฐทิศแจ้งแจง | คชลักษณเรืองแรง |
ตระศักดิลักษณโสภา | |
๓๓๏ ช้างหนึ่งมีนามไอยรา | พตพรรณเมฆา |
แลเท้าก็กลมดุจฉัตร | |
๓๔๏ เท้าหลังเล็บเสมอเรียงรัตน์ | มีชงฆสิงหทัด |
แลชงฆสิงหะยืนยัน | |
๓๕๏ ตัวใหญ่คือภูเขาทงัน | ตาใหญ่มีพรรณ |
คือดาวประกายพรึกพราย | |
๓๖๏ งายาวขึ้นขวาต้นปลาย | งวงงามคือกาย |
ภุชงคราชเรืองฤทธิ์ | |
๓๗๏ หลังราบปลายหูต้องติด | หน้าหลังเพียลพิต |
กระหมวดทังสองสูงไขย | |
๓๘๏ สุรสังขเกรียงศับทเอาใจ | หางบังคลองใน |
ประจำบูรพทิศาศานต์ | |
๓๙๏ บุณฑฤกบัวขาวเบิกบาน | งาใหญ่สั้นป้าน |
แลสีคือสังขใสสด | |
๔๐๏ เล็บงามท้องคือผนด | รำยวลเมฆปรากฏ |
ห้าวหาญ บ เหือดเรืองณรงค์ | |
๔๑๏ เศียรใหญ่ควรคู่แต่องค์ | จักรพรรดิเสด็จทรง |
อาคเนย์ประจำทิศา | |
๔๒๏ ชื่อพราหมณเฉกฉันอาภา | โลหิตองคา- |
พยพแลใหญ่ตางาม | |
๔๓๏ คอกลมเสียงศัตรูขาม | กาหลแตรตาม |
สถิตยทักษิณโดยหมาย | |
๔๔๏ กระมุทสีกระมุทพรรณราย | โสดสูงสวดกาย |
หูอ่อนแลน้อยเสียงแตร | |
๔๕๏ งางอนเดือนสามค่ำแล | ห้าวหาญ บ แปร |
ประจำ ณ ทิศหรดี | |
๔๖๏ อังชันมีสีคือสี | อังชันคีรี |
สีงามสะดวกใหญ่งา | |
๔๗๏ เสียงดั่งลมพัดรนภา | ไม้ไผ่มีอา- |
นุภาพประจิมยืนยุกติ์ | |
๔๘๏ บุษปทันต์พรรณสีสลาสุก | ผิวละเอียดกระมุข |
คอใหญ่แลงามเรืองรัง | |
๔๙๏ งาน้อยขึ้นขวาสีสังข์ | เสียงเมฆยืนยัง |
พายัพคะนองกล้าหาญ | |
๕๐๏ สีใบตองแก่ชื่อสาร | วโภมสงสถาน |
ใส่เสื้อแลลักษณตัวกลม | |
๕๑๏ หน้าใหญ่งาน้อยยาวสม | เสียงนกกระเรียนรมย์ |
ประดุจอุดรทิศา | |
๕๒๏ สุประดิษฐ์สีเมฆสนทยา | ผนดท้องนาคา |
คือผนดอุทรเรืองแรง | |
๕๓๏ งาซื่อสีดุจบัวแดง | ขนปากยาวแครง |
อัณฑโกศอ่อนอิสาน | |
๕๔๏ เสร็จช้างอัฐทิศโดยการ | จะกล่าวคชาธาร |
อัฐคชเรืองรณพอง | |
๕๕๏ สังขทันต์พรรณภาคยเทียมทอง | งาน้อยงอนสอง |
เสียงไก่แลอึ่งเวสันต์ | |
๕๖๏ เสียงพยัคฆเวภารสำทัญ | ยืนกลางทิศกัน |
พิฆเนไภยเบียนบร | |
๕๗๏ สีสังข์ชื่อเศวตพระพร | บัวโรยบวร |
มีนามประทุมหัตถี | |
๕๘๏ ชื่อเศวตคชรัตนคือสี | ตองอ่อนแห้งมี |
เผือกสามประการใสสุทธิ์ | |
๕๙๏ ช้างหนึ่งมีนามโคบุตร | แกล้วกลางรณยุทธ |
หางกลมคือโคจรดดิน | |
๖๐๏ พลุกสดำมีงาขวาถวิล | โทนทอกโยนยิน |
กำลังกำเลาะฦๅชา | |
๖๑๏ ชื่องอนพลุกสดำงอนงา | ถวีรถขึ้นขวา |
ประเสริฐลักษณเรืองณรงค์ | |
๖๒๏ ท้ายสิงห์มีนามสิงหชงฆ์ | เท้าหน้าสูงสรง |
ต่ำท้ายแลเท้าเรียวงาม | |
๖๓๏ ชมลบปรบหูต้องตาม | ฝ่ายหน้ามีนาม |
ลบชมเมื่อปรบไปหลัง | |
๖๔๏ นพสุบรรณเท้างวงงาทัง | หางยาวอิกอัง- |
คชาตจรดธรณี | |
๖๕๏ ครบกระจอกเล็บยี่สิบสี | ล้ำแก้วมณี |
แลเท้าแลห้าพรรณราย | |
๖๖๏ เสร็จในอัฐคชเรืองฉาย | จะแจ้งภิปราย |
คชลักษณเลิศลาวัณย์ | |
๖๗๏ ช้างหนึ่งมีนามเอกทันต์ | งอกเพดานผัน |
งาเวียดไปงอนเบื้องขวา | |
๖๘๏ ประทุมทันต์ยกงวงเห็นงา | รูปทรงคเชนทรา |
ก็สั้นทุกสิ่งงวงหาง | |
๖๙๏ งอกเสมอไพรงาสำอาง | รูปไข่ไก่วาง |
เนียมโทแลสั้นกายา | |
๗๐๏ งาสั้นกว่าหน้างวงกา | ยาสั้นครบปรา- |
กฏนามชื่อเนียมตรี | |
๗๑๏ ปลายงางอนพร้อมมีศรี | ชื่อพาลจักรี |
กำลังกำเลาะฦๅชา | |
๗๒๏ กระหมวดสูงในนามชื่อพญา | ช้างหางหูสา |
พิลาสสรรพดูงาม | |
๗๓๏ สิงคาลษรจักรในนาม | ตระกูลกระษัตริย์พราหมณ์ |
ประเสริฐลักษณเรืองณรงค์ | |
๗๔๏ ภาษจักรต้นงาใหญ่ยง | ปลายงาเรียวประจง |
จำรัสจำรูญรวยรี | |
๗๕๏ ชื่อรัตนกุมพลนั้นมี | งารอมเสียดสี |
งาขวาก็ขึ้นเบื้องบน | |
๗๖๏ แม้นมีช้างโทษโดยยล | พันหนึ่งอาจประจญ |
บำบัดวิบัตินานา | |
๗๗๏ งาซ้ายเสมอหน้างวงงา | ขวายาวโอบมา |
กอดเอาหน้างวงดูงาม | |
๗๘๏ ชื่ออ้อมจักราพาฬตาม | สารโฉลกโดยนาม |
ประกอบกำลังมหิมา | |
๗๙๏ ช้างชื่อคชลักษณงา | ขวาทับซ้ายพา |
ก่ายเกี้ยวแลกอดงวงลง | |
๘๐๏ ชนช้างย่อมองทะนง | ยกเท้ายอชง- |
ฆโจมแลจ้วงโจนสรรพ | |
๘๑๏ รมทนต์พระธรรมธรบังคับ | ต้นงาขวาทับ |
งาซ้ายแลงอนโสภา | |
๘๒๏ จัตุรศกกระหมวดสูงสองงา | ต้นนั้นเดียวมา |
แลปลายเปนสี่เกลากลม | |
๘๓๏ มีมุขคือพิฆเนศม | ลักษณเลิศตัวกลม |
มีนามพิฆเนศวร | |
๘๔๏ เสาวโรจกายแดงเปนนวล | ปลายปากเม้นมวล |
ดังปากแขกเต้าสีผจง | |
๘๕๏ ชื่อจัตุรสกุมภมีชงฆ์ | ทังสี่ใหญ่ยิ่ง |
คอกลมตระศักดิพรรณราย | |
๘๖๏ ชื่อจุมปราสาทนั้นปลาย | งาแดง บ มิคลาย |
ก็ดูประเสริฐแสงสี | |
๘๗๏ อุรกุมภใหญ่โดยมี | ชื่อขับไพรี |
สำเนียงคือกลองบันฦๅ | |
๘๘๏ เสียงสังข์ดุจสรสังข์คือ | เสียงเมฆครึกครือ |
แลนามเมฆครรชิต | |
๘๙๏ โกญจนาทเสียงนกกระเรียนพิศ | หูเปนขอบสนิท |
ชื่อกุมภประเจียดสำแดง | |
๙๐๏ ตัวใหญ่สงสถานเงินแรง | ดุจใส่เสื้อแจง |
ชื่อดำพงถนิมในนาม | |
๙๑๏ สีขาวกระทั่วกายงาม | สมพงถนิมตาม |
กระกูลกระษัตริย์โสภี | |
๙๒๏ สีดั่งเขาเขียวงามขจี | ชื่อเทพคีรี |
แลลักษณเลิศลาวัณย์ | |
๙๓๏ สีดั่งเขาขาวชื่อจันทร | คีรีมีพรร- |
ณเหลืองคือทองโสภี | |
๙๔๏ ช้างเหลืองชื่อปิงคลหัตถี | นิลหัตถีมี |
ดั่งนิลรัตนเรืองพราย | |
๙๕๏ นิลทันต์งาดำงอนฉาย | เหมทันต์พรรณราย |
มีงาอันเหลืองคือทอง | |
๙๖๏ หนึ่งเศวตจักษุเรืองรอง | ขาวดุจแก้วกรอง |
นัยน์ตาพิลึกพึงขาม | |
๙๗๏ นิลจักษุตาดุจนิลงาม | เหมจักษุนาม |
มีตาอันเลื่อมเหลืองฉาย | |
๙๘๏ มีตาดุจแก้วแสงสาย | กระกลับกระกลอกพราย |
ชื่อรัตจักษุมงคล | |
๙๙๏ ชื่อนิลนขาเล็บกล | แก้วนิลโสภณ |
เล็บขาวชื่อเศวตนขา | |
๑๐๐๏ หนึ่งเหมเล็บเหลืองสา | ทรรัตน์นขา |
มีเล็บคือแก้วแวววาม | |
๑๐๑๏ หนึ่งชื่อเล็บรอบโดยนาม | มีเล็บรายงาม |
รอบบาทคเชนทรโสภา | |
๑๐๒๏ ยืนเหยียบเปนห้านขา | ครั้นยกบาทา |
แลเห็นเปนเล็บรอบราย | |
๑๐๓๏ เสร็จในศุภลักษณโดยหมาย | จะแจ้งภิปราย |
ประเสริฐอำนวยวงศ์ | |
๑๐๔๏ อำนวยไอยราพตพงศ์ | สีดุจเมฆทรง |
กำลังมีงาสี่งา | |
๑๐๕๏ หางยาวเล็บขาวโสภา | งามดุจไอยรา |
พตพิพิธเรืองณรงค์ | |
๑๐๖๏ พ่อชื่อไอยราพตพงศ์ | แม่นั้นนามวงศ์ |
ชื่ออัพมุโสภา | |
๑๐๗๏ สีแม่ดุจสีเมฆปรา | กฏในเมฆา |
ศุภลักษณพร้อมดูงาม | |
๑๐๘๏ อำนวยบุณฑฤกแดงดามพ์ | ตัวยาวใหญ่งาม |
แม่ชื่อบิงคลาโดยมี | |
๑๐๙๏ วรรณาแห่งนางหัตถี | เหลืองแก่โสภี |
พิศพร้อมทังกายโอฬาร์ | |
๑๑๐๏ อำนวยกระมุทกายา | สีสัตบุษป์ปรา- |
กฏก้านก็มีหลากหลาย | |
๑๑๑๏ ตัวดำเปนกระทังกาย | ลางสำลานหมาย |
ลางดำคือคิรีสีสุทธ์ | |
๑๑๒๏ ห้าช้างนี้อำนวยกระมุท | กำลังฤทธิรุทร |
แม่ชื่ออนูปกะมา | |
๑๑๓๏ สีนั้นแดงทั่วกายา | ละเอียดอ่อนโสภา |
สวัสดิลักษณรูจี | |
๑๑๔๏ อำนวยอัญชันโสภี | วรรณดั่งเมฆี |
หัวคอแลงวงใหญ่งาม | |
๑๑๕๏ ปรมาถีมีลักษณโดยนาม | สบศัตรูขาม |
แม่ชื่อดามพวัณณี | |
๑๑๖๏ กายแม่นั้นแดงโดยมี | เฉกทองแดงสี |
พิศลักษณะลํ้าโสภา | |
๑๑๗๏ อำนวยบุษปทันตรจนา | สีสังขโสภา |
หน้าเต็มสนับงางาม | |
๑๑๘๏ งาเหลืองสีทองคำนาม | หนึ่งงาเหลืองทราม |
เฉกทองอันงามมีพรรณ | |
๑๑๙๏ อำนวยทังสองคชกรรม์ | ฝ่ายแม่นามสรรค์ |
ชื่อว่าพังศุภทันตี | |
๑๒๐๏ กายขนายงามขาวใสศรี | พร้อมสรรพอินทรีย์ |
นิราศโทษ บ มิพาน | |
๑๒๑๏ อำนวยสารวโภมเสริฐสาร | สีบัวแดงตระการ |
ตาแลเล็บบริบูรณ์ | |
๑๒๒๏ แม่นั้นมีลักษณตระกูล | สีเขียวจำรูญ |
ชื่อลิงคณากิริณี | |
๑๒๓๏ อำนวยสุประดิษฐศรี | ตัวสูงเขียวขจี |
ปากหางแลตัวคองาม | |
๑๒๔๏ แม่อัญชนวดีมีนาม | กายาสีงาม |
ประเสริฐลักษณอินทรีย์ | |
๑๒๕๏ เสร็จสิ้นคชลักษณโสภี | จุทัศรังสี |
พิเศษอำนวยพงศ์ | |
๑๒๖๏ สารนี้บพิตรผู้ทรง | พระคุณใหญ่ยง |
ผู้ข้าชื่อราชวังเมือง | |
๑๒๗๏ ตรัสสอนทุกสิ่งเนาเนือง | ประโยชน์ให้เรือง |
คุโณประการนานัตถ์ | |
๑๒๘๏ จึ่งมีพระบัณฑูรตรัส | ให้แต่งสารสวัสดิ์ |
คเชนทรลักษณโสภี | |
๑๒๙๏ ศักราชพันร้อยสิบปี | มะโรงเชษฐมาสี |
สำเร็จนิพันธโดยจรึง |
ช้างโทษ
๑๓๐๏ ปีศาจนี้ไตรตรึงษ์ | คชลักษณพึง |
ลักษณร้ายสำแดง | |
๑๓๑๏ ชื่อทุยหางสั้นบมิแวง | ศอกหนึ่งมีแปรง |
ขนงอกประชุมต้นหาง | |
๑๓๒๏ งาเน่าแลงต้นผอมบาง | หนึ่งชื่อทำปาง |
ลักษณร้ายมิดี | |
๑๓๓๏ มีหน้าง้ำเงื้อมคือคีรี | เตี้ยหน้าสั้นมี |
แลเนื้อกระเพื่อมหนังยาน | |
๑๓๔๏ สวานลอดท้องประปราน | มิได้โดยสาร |
แลหนังคือม้วนเสื่อเวียน | |
๑๓๕๏ หนึ่งชื่อพำลาอาเจียณ | หุบปาก บ มิเนียน |
แลเห็นต้นงาทังสอง | |
๑๓๖๏ ด้วยเหตุฝีปากยาวยอง | ชื่อพำลาฮอง |
ลักษณร้ายบัดสี | |
๑๓๗๏ หนึ่งชื่อพาหุนมิดี | คาบไม้หญ้ามี |
แลคอเปนร่องน้ำขัง | |
๑๓๘๏ หนึ่งชื่อชนโกลนแลปนัง | งาขาวซีดซัง |
ทังรูปโฉมอัปรีย์ | |
๑๓๙๏ เมื่อเดินดุจแม่กิริณี | คลองเท้าหน้ามี |
อำเพอคือช้างเฒ่าเดิน | |
๑๔๐๏ หัวเชือนตาถลกมุ่งเมิล | เบื้องท้ายสูงสะเทิน |
แลเห็นก็เปนจังไร | |
๑๔๑๏ ช้างหนึ่งชื่อละลุมสังไกย | กระหมวดนั้นเลื่อนไป |
ก็เป็นอันเดียวด้วยกัน | |
๑๔๒๏ คือดั่งจอมปลวกงอกทงัน | ไม่มีร่องอัน |
กี่พาดกังเวียรวางขอ | |
๑๔๓๏ ช้างหนึ่งชื่อว่าพลุกพอ | งาผันต้นยอ |
แลเห็น บ สมด้วยกาย | |
๑๔๔๏ ช้างหนึ่งชื่อพลุกแบกวันวาย | งาแตกต้นปลาย |
แลร้าวสรายโดยเห็น | |
๑๔๕๏ ช้างหนึ่งชื่อสะดุ้งนาคเปน | เล็บเน่ากลวงเหม็น |
แลดุจหลุดแยงยล | |
๑๔๖๏ ปากนั้นปลายเปนหลายกล | ปากงูเงือกดล |
อุสุภร้ายสำแดง | |
๑๔๗๏ ช้างหนึ่งมีนามพลุกแจง | โทษนั้นรันแซง |
พิการหลากหลายดล | |
๑๔๘๏ งาแดงดั่งชาดสุริยน | บังคลองทวารตน |
แลหางนั้นคดเลี้ยวไป | |
๑๔๙๏ งานั้นเปนปล้องร่องไร | ดั่งหน่อไม้ไผ่ |
ที่คนหันปอกเปลือกเสีย | |
๑๕๐๏ หางนั้นยาวยานเวียดเวีย | เลงแลเลือกเสีย |
อย่าเอามาเลี้ยงแปมปน | |
๑๕๑๏ หนึ่งสวามิฆาตโดยกล | หน้าราบแยงยล |
คือแว่นประทับหน้าสาร | |
๑๕๒๏ ส่วนตานั้นโสดสาธารณ์ | คล้องต้องอะเหลาะการ |
เปนโทษเทียรบัดเดียว | |
๑๕๓๏ หนึ่งนามนครฆาตงวงเรียว | แต่ต้นงวงเพรียว |
ตรลอดจนปลายพึงเหน | |
๑๕๔๏ งวงยาวดุจดั่งภุชเคนทร | องคุลีคเชน- |
ทรก็เวียดบมิงาม | |
๑๕๕๏ ศีรษะเท่าท้ายเทียมทาม | ภักษหญ้ารวกราม |
แลก้มกระพองกุมกิน | |
๑๕๖๏ คชหนึ่งตระดุ้งนาคิน | หัวท้ายเจียนจินต์ |
แลสูง บ สมดูดาล | |
๑๕๗๏ กลางตัวต่ำต้อยพิการ | เฉกอัฒจันทร์พาล |
ประเภทพึงพิตเพียล | |
๑๕๘๏ คชหนึ่งนาคพันธบันเวียร | ขนองโกงสี่เศียร |
แลต่ำ บ สมกายา | |
๑๕๙๏ งวงสั้นองคุลีบมิคลา | แท้ทู่สองงา |
แลเอื้อมเอาภักษ์โอนตน | |
๑๖๐๏ คชหนึ่งชื่อบิเดาะอำพล | ถันตรีเต้ากล |
โดยศาสตรกล่าวสาธารณ์ | |
๑๖๑๏ นมสามนามยักษ์กลีการ | อุบัติในทรวงดาล |
ก็ชื่อปิศาจกิลา | |
๑๖๒๏ แม้งอกปากคาง บ มิคลา | ชื่อโศกกลิกา- |
ลโทษพันฦกฦๅไกร | |
๑๖๓๏ ผิงอกข้างข้างเรียงไป | นั้นเรียกนามไภย |
กลีลักษณสำแดง | |
๑๖๔๏ ผิงอกซึ่งท้องเรียงแซง | ถึงหลังอกแฝง |
ที่เท้าแลหางเปรียบปุน | |
๑๖๕๏ เมื่อคชดำเนิรงุยงุน | บ มิงามโดยคุณ |
แลโทษอันร้ายพึงพิศ | |
๑๖๖๏ ผูใดได้คล้องต้องติด | เปนโทษเนืองนิตย์ |
แก่หมอผู้คล้องอัปรีย์ | |
๑๖๗๏ นามหนึ่งทมพลุก บ มิดี | งาสั้นใหญ่มี |
แลปลายคือเสี้ยมแสนตาว | |
๑๖๘๏ อกคชท้องหย่อนยานยาว | งวงแวงโสดสาว |
ทังหนังแลหน้ายานยูร | |
๑๖๙๏ ช้างชื่อสุประพลุกทารูณ | สองงาเปรียบปูน |
ประเบียดแลเปรตามกัน | |
๑๗๐๏ หางนั้นคดเคี้ยวคือวัลย์ | เกี้ยวเลี้ยวผูกพัน |
ประเภทพึงอัปรีย์ | |
๑๗๑๏ แสดงลักษณอันร้ายราวี | โดยศาสตรามี |
นิพนธเบื้องเบาราณ | |
๑๗๒๏ ช้างหนึ่งขดวนศุกขพิการ | คือหมอแลควาญ |
ไปคล้องเอาลูกโขลงคลา | |
๑๗๓๏ หนึ่งคล้องต้องบาศพามา | แต่พนทุรา |
แลคลอดดนัยในเวียง | |
๑๗๔๏ เทียรโทษโดยบุรพเผดียง | อย่าไว้โรงเรียง |
อุบาทว์อุบัติคือไฟ | |
๑๗๕๏ ช้างหนึ่งชื่อกาจับใบ | หูใหญ่ยานใน |
เบื้องใต้คือดั่งปีกกา | |
๑๗๖๏ ตานั้นลักลานเหลือกหา | เหตุลักษณกรรณา |
ชื่อกันแอกกุมเพียงพิศ | |
๑๗๗๏ คชหนึ่งชื่อพินายเรืองฤทธิ์ | โทษนั้นพิพิธ |
อำเพออันร้ายพึงปละ | |
๑๗๘๏ มานพลุกฝ่ายเฉวียงดั่งพระ | พิฆเนกชำนะ |
แก่พิฆนไภยทังผอง | |
๑๗๙๏ มีอำเพอต่างต่างมักคะนอง | ชาญชนงาสอง |
ก็แก้พินายเปนนิตย์ | |
๑๘๐๏ งาหนึ่ง บ มิงอกชื่อสิทธ | พินายเพียงพิศ |
แลทรลักษณนานา | |
๑๘๑๏ งอกเสมอสนับพลุกโดยตรา | ชื่อพัทพินายนา |
ลักษณร้ายอจินต์ | |
๑๘๒๏ หนึ่งงาดั่งขนายชื่ออินทร์ | กลีพีนายถวิล |
แลโทษนั้นมากมาย | |
๑๘๓๏ หนึ่งงาขวางปากดั่งหมาย | นาสดึกพินาย |
แลชื่ออันดับโดยกูล | |
๑๘๔๏ ช้างหนึ่งนามชื่อทรหูล | ท้องนั้นยานยูร |
แลหนังนั้นยานยุ้ยยาย | |
๑๘๕๏ กระดูกหลังคดเคี้ยวดูกาย | ทุรลักษณบรรยาย |
พยศย่อมสาธารณ์ | |
๑๘๖๏ หนึ่งคชลันดาดยูรมาน | ชิวหายาวยาน |
แลเทียมปลายปาก บ มิงาม | |
๑๘๗๏ ต้นลิ้นสีสรากใหญ่ลาม | อ้าปากเดินทราม |
แลหลัง บ ราบต้นงา | |
๑๘๘๏ หนึ่งนามบงกินทุพลา | หูสองซ้ายขวา |
แลข้างหนึ่งสั้นเสียแสดง | |
๑๘๙๏ หลังนั้นเปนกระทดพดแพง | หางดุจวัลย์แวง |
แลเกี้ยวกระหวัดพฤกษา | |
๑๙๐๏ หนึ่งนามตระบังบัด บ มิคลา | งาขวาเกกขวา |
แลซ้ายก็เกกโดยเฉวียง | |
๑๙๑๏ ต้นงาคดพลิ้วบิดเบียง | ขึ้นตามกันเกียง |
ประหลาดทังผองไอยรา | |
๑๙๒๏ ขี่ท้ายแลดูเห็นงา | เสมอหูซ้ายขวา |
แลขี่เบื้องกลางเห็นเสมอ | |
๑๙๓๏ คชหนึ่งนามกลีอำเพอ | งาสองเปรเปรอ |
แลกางออกนามบังบัด | |
๑๙๔๏ คชหนึ่งมีสมญาคัด | ธรณีดลบัด |
แลงานั้นแนบงวงลง | |
๑๙๕๏ หัวต่ำเท้าหลังสูงสง | เท้าหน้าลดลง |
ดังนบเคารพธรณิน | |
๑๙๖๏ เมื่อเดิรย่างเท้าเหยียบดิน | ห่อนเสมอยลยิน |
ยกชํ้าจึ่งย่างบทจร | |
๑๙๗๏ สี่เท้าไขว่กันซับซอน | ผมบางเล็บงอน |
แลหางก็ยาวสุดสุง | |
๑๙๘๏ หลังราบแต่ท้ายคอคุง | โดยศาสตรกำนุง |
แลลักษณร้ายอัปรีย์ | |
๑๙๙๏ คชหนึ่งโยนยักบัดสี | โยนหัวงวงตี |
อุระแลเยื้องไปมา | |
๒๐๐๏ ยกเท้าบมิได้ตรงตรา | แหงนหัวเหลือกตา |
ถลนเถลือกจัญไร | |
๒๐๑๏ ปรบหูแกว่งหางแว่นไว | อยู่ บ มิสุขใจ |
บังคลองแลตัวไผ่ผอม | |
๒๐๒๏ อำเพอนี้โทษควรดอม | ลักษณร้ายแมมมอม |
สรรพโทษมหัต | |
๒๐๓๏ คชหนึ่งมีนามบัญญัติ | ชันบันเชษฐรัด |
แลตัว บ มิได้พึงพอ | |
๒๐๔๏ ทั้งสี่เท้านั้นเวียดวอ | ท้ายหลังคุงคอ |
แลราบเสมอกันไป | |
๒๐๕๏ มานโรมรายพรัดยืดใย | เล็บงอนขึ้นไป |
แลท้องก็ยานใหญ่เหน | |
๒๐๖๏ หนึ่งนามกำปบกำโบลเปน | ต้นคางเล็บเหน |
ประจักษ์แก่ตาอย่าจง | |
๒๐๗๏ เขฬะหยดย้อยยืดลง | ไหลบมิขาดคง |
ก็ดูอุบัติอัพลา | |
๒๐๘๏ ตัวขาวด่างทั่วกายา | ถ่ายมูลหนักมา |
ดังชนอันเทชลธาร | |
๒๐๙๏ รดตัวแข้งขาลานปาน | โดยศาสตรเบาราณ |
แลห้าม บ มานไชยโชค | |
๒๑๐๏ คชหนึ่งนามบันลายโศก | ปรายอยู่นิตยโลกย |
ทังหลายจึงพึงไภยภิต | |
๒๑๑๏ พังพลายดุจเดียวควรคิด | โทษนั้นพิพิธ |
โดยศาสตรกล่าวเบาราณ | |
๒๑๒๏ หนึ่งนามตระดกกันทุยธาร | หน้าดุจหน้าฟาน |
แลหางนั้นยาวลากดิน | |
๒๑๓๏ คชหนึ่งชื่อสุครีปสพิล | คอสั้นคางถวิล |
ดูใหญ่แลเห็น บ มิสม | |
๒๑๔๏ หางยาวคดคอดไป่กลม | หน้าพ่วงบวมธม |
แลดูดั่งเน่าพึงชัง | |
๒๑๕๏ ที่นั่ง บ มิราบโดยหวัง | สนับหางย้อยยัง |
แลเดินยักเยิดผาดผัน | |
๒๑๖๏ คชหนึ่งสมญารัตทันต์ | งาเล็บแดงฉัน |
คือชาติยางคูนเตรียบตรา | |
๒๑๗๏ ดุจแสงสูริเยนทรมหา | เลิงเลอเมฆา |
อันแรกอรุโณทัย | |
๒๑๘๏ หนึ่งนามคชาทิพาไสย | มานแร่งระใบ |
ดั่งชาติโคเพลาะพรรค์ | |
๒๑๙๏ มักคุกเท้านอนกลางวัน | หนังหย่อนยานอัน |
ดั่งเหนียงระมาดคือเขน | |
๒๒๐๏ หนึ่งนามแบกเคียวจำเปน | พังพลาย บ มิเว้น |
บ ถึงกำหนดมีมัน | |
๒๒๑๏ ทุรลักษณ์อันร้ายครามครัน | หนังนั้นอัศจรรย์ |
คือหนังระมาดอันเขียน | |
๒๒๒๏ เปนเกล็ดเรียบร้อยวนเวียน | ไภยโทษจำเนียร |
แก่หมอผู้คล้องฤๅแคลง | |
๒๒๓๏ เสร็จจบทุรลักษณสำแดง | ไตรตรึงษ์กิจแจง |
ให้โลกยเหนด้วยดี | |
๒๒๔๏ คชหนึ่งหีนชาติอัปรีย์ | รูปนั้นดีหลี |
ประเล่ห์ดั่งรูปกาสร | |
๒๒๕๏ งาสั้นงวงเรียวหลอบหลอน | หน้าดั่งสุกร |
แลเท้าประมาณคืบเดียว | |
๒๒๖๏ เสียงดุจเสียงเม่นป่งเปียว | เอียดเอียดเครียดเครียว |
แลร้องวิกลอัปลักษณ์ | |
๒๒๗๏ ตาแดงดุจกล่ำคร่ำนัก | กินปูเปนภักษ์ |
สถิตยังริมสมุทรไท | |
๒๒๘๏ หนึ่งชื่อตฤปสมุทรตฤปไพร | พิการจังไร |
อย่าพึงมาเลี้ยงในคาม | |
๒๒๙๏ เมื่อจักกินหญ้ารวกราม | ดื่มอาโปปาม |
แลกินด้วยปากปานโค | |
๒๓๐๏ ช้างใดเสียงดุจเสียงโส | นัขพยัคโฆ |
เสียงแรดแลสำเนียงฟาน | |
๒๓๑๏ ผิไว้แต่ครู่เดียวดาล | ดุจเพลิงกาลผลาญ |
บ ควรจะไว้โรงรมย์ | |
๒๓๒๏ ชอบปล่อยเสียป่าทุรคม | อย่าพึงนิยม |
เป็นยานจักเลี้ยงขุนขัง | |
๒๓๓๏ บาปคชลักษณนี้ทัง | มวลกล่าวโดยหวัง |
ประสงคให้รู้โทษทัณฑ์ | |
๒๓๔๏ ย่อมเกิดแต่กระกูลพวกพรรค์ | อัคนีพงศ์อัน |
อุบาทวอุบัติ บ มิดี | |
๒๓๕๏ เสร็จแสดงบาปลักษณอัปรีย์ | แปดสิบทัศมี |
ในศาสตรกล่าวบรรยาย | |
๒๓๖๏ ผสมสารสุภลักษณ์โดยหมาย | บาปลักษณโดยร้าย |
เปนหกจำพวกคณา | |
๒๓๗๏ ถ้วนร้อยเจ็ดสิบคชา | โดยศาสตรอันอา- |
จาริยกล่าวบริบูรณ์ ฯ |