บทมนตร์คัดเชิง
๑เรียบเรียงใหม่ตามฉันทลักษณ์
๏ มโหทโร มหากาโย | คชพกฺโตฺร๒ มหพฺพโล |
นาโค นาคยชโย โหติ | ศิวปุตฺโต มหิทฺธิโก |
คชธโร (คชธโร)๓ | คชสิทฺธิ๔ ภวนฺตุ เต |
เอกทนฺตปรมรํโส | นาคภรณภูสิโต |
กมฺมธาโร กมฺมธาโร | กมฺมสิทฺธิ๕ ภวนฺตุ เต |
๏ โอม เห เห เห คชลกฺข (ณ) เตเชน คชฺโช คชสฺวาห
คำแปล
ช้างรูปร่างสูงใหญ่และท้องใหญ่ ยืนสง่างามน่าเกรงขาม มีกำลังมาก เป็นบุตรของพระศิวะ มีฤทธิ์มาก งาข้างหนึ่งเปล่งรัศมี ประดับด้วยกระพัดลยาง (เครื่องประดับช้าง) เป็นช้างที่สามารถนำชัยชนะมาให้ในการสู้รบ ขอความสำเร็จในการทำคชกรรมพิธีครั้งนี้ จงมีแก่ท่าน
โอม เห เห เห คช สวาหะ
-
๑. นายเกษียร มะปะโม นักภาษาโบราณ ๘ ว. เรียบเรียงตามฉันทลักษณ์ แปล และอธิบายศัพท์ ↩
-
๒. ต้นฉบับท่านใช้ว่า.....ภกฺโตร เมื่อพิจารณาดูรากศัพท์ ภกฺโตร นี้น่าจะมาจากศัพท์ภาษาสันสกฤตที่ว่า วกฺตฺร แปลง ว เป็น พ จึงเป็น พกฺตฺร แปลว่า หน้า เมื่อนำมาต่อกับศัพท์ว่า คช จึงเป็น คชพกฺตฺร แล้วนำไปประกอบวิภัติปัจจัยตามหลักภาษาบาลี จึงเป็น “คชพกฺโตฺร” ความหมายของคำว่า “หน้า” นี้น่าจะสัมพันธ์กับศัพท์อื่น ๆ เช่น มโหทโร มหากาโย ที่ท่านผู้ประพันธ์นำมาเรียงไว้ในประโยคเดียวกัน การที่ท่านนำศัพท์บาลีกับสันสกฤตมาต่อเชื่อมในลักษณะเช่นนี้ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นทั่วไป ↩
-
๓. เติมเข้ามาเพื่อให้เป็นเต็มบาทตามข้อกำหนดของฉันท์ ↩
-
๔. ที่ถูกน่าจะเป็น.....สิทฺธี เพราะข้อบังคับของปัฐยาวัตรฉันท์ห้ามนำ ส และ น คณะมาใช้ในคำที่ ๒ - ๓ - ๔ ในบาทคู่ แต่ที่เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะโบราณท่านอาจจะเขียน อี เป็น อิ หรือ อิ เป็น อี ก็ได้ ซึ่งมีตัวอย่างปรากฏทั้งในหนังสือสมุดไทยและใบลานทั่วไป ↩
-
๕. ที่ถูกน่าจะเป็น.....สิทฺธี เพราะข้อบังคับของปัฐยาวัตรฉันท์ห้ามนำ ส และ น คณะมาใช้ในคำที่ ๒ - ๓ - ๔ ในบาทคู่ แต่ที่เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะโบราณท่านอาจจะเขียน อี เป็น อิ หรือ อิ เป็น อี ก็ได้ ซึ่งมีตัวอย่างปรากฏทั้งในหนังสือสมุดไทยและใบลานทั่วไป ↩