ประสงค์ กับพาหนะร่วมใจไปถึงที่หมายแล้ว เขาโดดลงจากหลังม้า ส่งบังเหียนให้กับคนงานคนหนึ่ง พระอาทิตย์เวลานี้มีเมฆสีน้ำเงินบดบังอยู่ แต่กระนั้นแสงยังส่องให้เห็นผิวเนื้อของเหล่าคนงานดำเป็นมัน ประสงค์เดินไปที่ ๆ มีช้างนับตั้ง ๕๐ เชือกขึ้นไปกำลังเข็นซุงอยู่ เขาบงการอะไรสองสามคำ ซึ่งผู้รับคำสั่งตั้งใจฟังอย่างนอบน้อม แล้วเดินไปยังห้องซึ่งเขาอาศัยเป็นการทำการในทางหนังสือ เป็นห้องสี่เหลี่ยมปลูกลงกับดิน พื้นปูกระดาน ฝาทำด้วยไม้สัก มีชาย ๑๐ คนอยู่ในห้องนั้น ๆ ต่างลุกขึ้นยืนทำความเคารพ ประสงค์รับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาตรงไปที่โต๊ะส่วนตัว หยิบกระดาษขึ้นมาปึกใหญ่ ตั้งใจจะทำกิจการที่ค้างอยู่ แต่สมองไม่อนุญาต หน้าต่างของห้องนั้นเปิดอยู่ทุกบาน ถึงกระนั้นประสงค์ก็ยังร้อนจนหายใจไม่ออก เขาฉวยหมวกกลับสวมศีรษะ แล้วผลุนผลันออกจากห้องไปอีก ทำให้บุรุษที่อยู่ในห้องนั้นมองตามด้วยประหลาดใจ

“ผู้จัดการพื้นเสียอีกแล้ว !” นายนวลเลขานุการของบริษัทพูด

“ถ้าเจ้าพวกกุลีรวนกันอีกละกระมัง ไม่มีมานานแล้วเทียวนะ” สมุห์บัญชีออกความเห็น

ชายอีกคนหนึ่ง โต๊ะตั้งอยู่กับหน้าต่างมองเห็นลำน้ำที่มีซุงลอยอยู่ ค้านว่า “ไม่ใช่หรอกเมื่อกี้ยังพูดกับนายชมดี ๆ อยู่เลย เห็นจะเรื่องยุ่งมาจากบ้าน”

“ทะเลาะกับเจ้าคุณหรือ ?” นายสุขพนักงานในบริษัท ซึ่งเป็นคนใหม่ถาม

“ไม่มีวันละ !” นายนวลว่า “คุณประสงค์นับถือบิดาราวกับพระเจ้า เจ้าคุณก็รักลูกราวกับดวงตา พ่อลูกคู่นี้ไม่เคยทะเลาะกันเลย ฉันอยู่ที่นี่ตั้งแต่ก่อนคุณประสงค์กลับจากนอกอีก”

“คุณประสงค์อายุเท่าไรแล้วนะ ?” นายสุขถาม

“เห็นจะเกือบ ๓๐” นายนวลตอบ

“กลับจากนอกมาได้กี่ปี ?”

“๓ ปีแล้ว”

“พอมาถึงก็เป็นผู้จัดการเทียวหรือ ?”

“ยัง เป็นผู้ช่วยก่อน สักหกเดือนกว่า ๆ เจ้าคุณก็ลาออก ขออนุญาตบริษัทให้ลูกชายเป็นผู้จัดการแทน ส่วนท่านเวลานี้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา”

“เจ้าคุณ เป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่มิใช่หรือ ?”

“แน่ละ เมื่อแรกท่านมีแชร์เพียงพันเดียวเท่านั้น เมื่อท่านเป็นเทศาอยู่น่ะ ต่อมาท่านถูกย้ายไปเป็นปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย พออายุราชการได้ ๓๐ ปี ท่านลาออกมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่นี่ เวลานั้นท่านมีอายุครบ ๕๐ ปี แต่ยังแข็งแรงราวกับคนอายุ ๔๐ ท่านเข้ารับหน้าที่ในกิจการของบริษัท ต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ท่านเป็นคนกว้างขวาง และเคยเป็นข้าราชการชั้นสูง เพราะฉะนั้นท่านจึงจัดการของบริษัทให้ดำเนินได้ดี มีผู้ถือแชร์สองสามคน ไม่ไว้ใจท่านเพราะเห็นว่าแก่ ประกอบกับเวลานั้นสินค้าไม้สักตกต่ำเลยประกาศขายแชร์ของตัว เจ้าคุณบำรุงรับซื้อไว้ทั้งสิ้น เพราะคาดรู้ล่วงหน้าว่ากิจการจะเจริญขึ้นแทนทรุดลง ตั้งแต่นั้นท่านก็เลยมีหุ้นมากกว่าใคร ๆ”

“ท่านเห็นจะมั่งมีมากนะ?”

“แน่ละ !” นายนวลรับเสียงหนักแน่นภูมิใจ ที่มีคนเอาใจใส่ฟังเรื่องที่ตัวรู้ละเอียดแต่ผู้เดียว เลยลืมเมื่อยปาก เขาพูดต่อไปน้ำลายเป็นฟอง “บิดาของเจ้าคุณเป็นเจ้าพระยา เอ ! ลืมชื่อเสียแล้ว รู้สึกเสียใจที่จำไม่ได้”

“เอาเถอะ ไม่เอาชื่อก็ได้” นายสุขใจร้อน

“เจ้าพระยาคนนั้นมั่งมีมากมาย เพราะมรดกที่ได้มาจากเจ้าคุณบิดาเป็นเจ้าพระยาเหมือนกัน เจ้าพระยาสมัยนั้นกินเมืองเทียวนะ แล้วมรดกนั่นจะตกเป็นของคุณประสงค์คนเดียว”

นายสุขกลืนน้ำลาย เขาเป็นผู้ดีเหมือนกัน แต่ทวดของเขาไม่เคยกินเมือง และรู้สึกเสียใจแทนตัวเองตะหงิดๆ

“ทรัพย์สมบัติคิดเป็นเงินสักเท่าใดนะ”

“ ไอ้นั่นบอกยาก แต่เมื่อก่อนเจ้าคุณจะเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่นั้น ท่านซื้อแชร์เป็นจำนวนเงิน ๔๐๐,๐๐๐ เศษ”

“แหม ! มันไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย !” พูดแล้วนายนวลก้มหน้าทำงานต่อไป ไม่ต้องสงสัยว่าผู้ที่อยู่ในห้องนั้นจะต้องคิดถึงผู้ที่ถูกกล่าวขวัญด้วยความเห็นต่าง ๆ กัน

ส่วนตัวประสงค์เอง ขณะนี้ยืนพิงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความไตร่ตรอง ความคิดชนิดเดียวอยู่ในหัวสมอง “หล่อนเป็นคู่หมั้นของเขา จะต้องเป็นไปตลอดกาล แต่เมื่อหล่อนไม่ยอม เขาจะทำอย่างไร ใช้วิธีบังคับก็ไม่ได้ เจ้าคุณไมตรีพิทักษ์ก็บอกอยู่โต้ง ๆ ว่าท่านไม่บังคับ ในตอนท้ายจดหมายท่านบอกว่าเป็นคนใจอ่อน พร้อมกับวิงวอนขอโทษ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าท่านอยากให้บุตรีแต่งงานกับชายที่หล่อนเลือกเอง แต่ส่วนประสงค์เล่า เขาก็รักหล่อนมาจนถอนไม่ขึ้นเสียแล้ว รักตั้งแต่ยังเยาว์อยู่ด้วยกัน ซึ่งเวลานั้นก็คงเป็นความรักฉันพี่รักน้อง เมื่อมยุรีอุบัติมาได้ ๕ ปีเศษ มารดาของหล่อนซึ่งเป็นชาติอเมริกันทางมารดา และไทยทางบิดาก็ถึงแก่กรรมลง เจ้าคุณไมตรีฯ จึงทั้งรักและสงสารบุตรดังดวงใจ ต่อมาอีกสองปี ท่านถูกเลือกเป็นราชทูตสยามประจำสหปาลีรัฐอเมริกา ประจวบกับเวลาที่เจ้าคุณบำรุงฯ ย้ายเข้ามารับหน้าที่ปลัดทูลฉลองในกรุงเทพฯ เจ้าคุณทั้งสองปู่เดียวกัน และเคยอยู่โรงเรียน มีความรักร่วมใจกันมาแต่น้อย มารดาของประสงค์จึงรับเลี้ยงมยุรีไว้ ขณะที่บิดาของหล่อนจะต้องไปอยู่ต่างประเทศ เวลานั้นประสงค์มีอายุ ๑๓ ปี เขาไม่มีน้อง เพราะฉะนั้นจึงเจ้ากี้เจ้าการกับมยุรีนัก สตางค์ที่ได้เป็นค่าขนมรายวันนั้นเขาอุตส่าห์อดออมเอาไว้ซื้อตุ๊กตาหรือโชโคเลตมากำนัลหล่อนทุก ๆ วันเสาร์ที่เขากลับบ้าน เด็กทั้งสองรักกันมาก หนหนึ่งเมื่อเจ้าคุณบำรุง ฯ เขียนจดหมายถึงเจ้าคุณไมตรี ฯ เรื่องมยุรี ท่านได้ติดตลกแถมท้ายด้วยเรื่องที่เด็กทั้งสองรักกัน และขอหมั้นมยุรีให้กับประสงค์ เจ้าคุณไมตรี ฯ ยอมตกลงตั้งแต่นั้นเรื่องจึงกลายเป็นจริง ถึงกับหมั้นกันเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยจดหมายซึ่งประสงค์ยังรักษาไว้จนเดี๋ยวนี้ ส่วนของหมั้นนั้นยังไม่ได้ให้เป็นหลักฐาน นอกจากห้อยคออักษรไขว้ทองลงยาขอบเพชร ซึ่งมีชื่อเจ้าคุณปู่ของประสงค์เอง อันที่จริงเวลานั้นประสงค์ก็ยังมิรู้เรื่องตราบจนมารดาของเขาเสียแล้วเมื่อประสงค์มีอายุ ๑๘ และได้กำหนดจะไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส ท่านบิดากลัวว่าเขาจะไปเหลวใหลกับหญิงฝรั่ง ท่านจึงได้แจ้งให้ทราบว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว ประสงค์ก็ยังคงรักมยุรีอยู่มิได้เสื่อมคลาย เมื่อได้ทราบเรื่องจึงผูกจิตผูกใจยิ่งขึ้นจนเดี๋ยวนี้ แต่ส่วนหล่อน ! อา ! บัดนี้หล่อนเปลี่ยนไปสักเพียงไรแล้วว่าถึงส่วนใจหล่อนรักคน ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ตัวเขา ส่วนเขายิ่งรู้ว่าหล่อนไม่รัก ก็ยิ่งมานะจะเอาเป็นกรรมสิทธิ์ให้ได้ แต่ด้วยวิธีไหนเล่า....ความคิดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในสมองทันใด ก่อนจบจดหมายของท่าน พระยาไมตรี ฯ ได้รำพันถึงการขัดข้องในเรื่องไม่มีผู้ต่างหูต่างตา ท่านว่าการทอผ้าขายนั้นเจริญดี แต่ท่านเหน็ดเหนื่อยมาก เสียดายที่ไม่มีบุตรชายไว้ต่างหูต่างตา และท่านอิจฉาเพื่อนของท่าน ท่านขอร้องให้เจ้าคุณช่วยหาคนให้สักคนที่พอไว้ใจ ท่านว่าถึงแม้ท่านจะอยู่ในกรุงเทพ ฯ ก็จริง แต่ท่านได้ยินว่าผู้ที่มาทำงานที่บริษัทป่าไม้โดยมากเป็นคนดี ท่านอิจฉาเจ้าคุณบำรุง ฯ

“ได้การ ! เราต้องไปหา ไปดูว่ามยุรีจะเป็นอย่างไร !” ประสงค์บอกกับตัวเอง ดวงหน้าค่อยชื่นขึ้น เขานิ่งคิดกะการต่อไป เมื่อตกลงใจแล้วรู้สึกว่าโล่งอกขึ้นมาก เขาขยับตัวจากที่ เดินบ่ายหน้าไปสู่ที่ทำการดังเดิม

ค่ำวันนั้น เมื่อรับประทานแล้ว ขณะที่บิดาลุกจากโต๊ะ ประสงค์ลุกขึ้นบ้าง ขว้างบุหรี่ที่กำลังสูบอยู่ทิ้งเสียแล้วพูดว่า

“คุณพ่อครับ เชิญไปห้องหนังสือสักประเดี๋ยว”

เจ้าคุณมองดูบุตรชายเป็นทีถาม แต่ไม่ปริปากว่ากระไร เมื่อท่านเข้าไปในห้องหนังสือแล้ว ประสงค์เชิญให้ท่านนั่งที่โต๊ะของเขาแล้วหยิบกระดาษเขียนหนังสือขึ้นมาส่งให้ท่าน พร้อมกับพูดว่า “โปรดกรุณาเขียนหนังสือตามนี้หน่อยนะครับ”

เจ้าคุณประหลาดใจถามว่า

“ก็ทำไมไม่เขียนเสียเอง แล้วให้พ่อเซ็นเล่า และก่อนอื่นจดหมายถึงใครกันนะ”

“คุณพ่ออ่านดูก่อนซีครับ”

“ข้าไม่อ่าน ขี้เกียจ เขียนมาเถอะแล้วจะเซ็นให้”

“ผมเขียนไม่ได้ดอกครับ พิธีจะแตกเสียหมด จดหมายนี้ถึงเจ้าคุณไมตรี”

“มันอะไรกันนะนี่นะ บอกซีข้าจะเขียนให้”

ประสงค์ยิ้มอย่างนึกสนุกที่ท่านบิดาต้องโยกโย้เสียก่อน หยิบกระดาษขึ้นวางตรงหน้าท่าน แล้วเอาปากกาจิ้มหมึกให้ เขาเริ่มบอก

จังหวัดสวรรคโลก

วันที่....เดือน….พ.ศ….

ฉัตร์ ที่รัก

ตามจดหมายของเธอเล่าเรื่องมยุรีให้ฟังนั้นฉันได้บอกประสงค์รู้แล้ว มันเสียใจ เพราะมันเคยรักมยุรีมาแต่เด็ก แต่เมื่อผู้หญิงเขาไม่รักมันก็จนปัญญา อย่างไรก็ดี มันบอกว่า ขอให้รอไปอีกสักหกเดือน เมื่อมยุรีไม่ปลงใจจริง ๆ มันก็จะยอมถอนหมั้นให้ ฉันเองไม่ประหลาดที่มยุรีไม่ยอมแต่งงานกับประสงค์ เป็นธรรมดาของผู้หญิง อะไรที่บังคับให้ทำก็ไม่อยาก ถ้าห้ามก็ยิ่งจะทำ เธอมีลูกคนเดียวย่อมรักมากทั้งกำพร้าแม่มาแต่เล็ก ฉันเห็นใจเธอ ฉันเองก็รักประสงค์ราวกับดวงใจ รักยิ่งกว่าตัวของฉันเอง....”

ถึงประโยคนี้ เจ้าคุณหยุดเขียนถามว่า “เอ็งรู้ได้ยังไงว่าข้ารักเอ็งมากกว่าตัวของข้า”

ประสงค์นิ่ง “ถ้าไม่เป็นจริงก็แก้เสียใหม่ได้ครับ” เขาพูดเฉยๆ

“อ้ายเอ็งละมันจองหอง บอกต่อไปซี”

ประสงค์หัวเราะแล้วบอกต่อไป

“เป็นอันว่า เราต่างคนต่างอย่านึกถึงมันเลยปล่อยไปแล้วแต่ใจเด็ก”

“เจ้าตัดสินใจดีมาก” เจ้าคุณพูด ใช้ปากกาเขี่ยกับปากขวดหมึก “เป็นความจริงอย่างที่เขียนรึ อย่าทำให้เสียผู้ใหญ่ในภายหลังนะ”

“ผมรับรองว่าจริงทุกประการ”

“ดีละ บอกต่อไป”

“........ที่นี้เรามาพูดกันถึงเรื่องคนที่เธอให้ช่วยหาให้ ฉันจะส่งไปให้สักคนหนึ่ง”

อีกครั้งหนึ่ง เจ้าคุณหยุดเขียน เงยหน้าขึ้นถามว่า “เอ๊ะ ฉันจะเอาคนที่ไหนไปให้เขายะ”

“มีซิครับ เขียนให้จบก่อน แล้วผมจะเรียนให้ทราบ”

บิดายอมจำนน

เป็นคนขยันและแข็งแรง เขาเท่ากับสมบัติส่วนหนึ่งของฉันเลี้ยงมาเป็นลูก เธอไว้ใจเขาได้เท่ากับไว้ใจในฉันเอง ส่วนเงินเดือนแรก ๆ เพียง ๕๐ บาท ก็เห็นจะพอ ความรู้ในภาษานั้นดีพอที่จะจัดการสั่งข้าวของแทนเธอได้ บัญชีทำได้บ้าง แต่ไม่ใช่วิชาที่เคยเรียนสำหรับอาชีพ โทรเลขมาบอกกำหนดจะให้เขาไปเมื่อไร ส่วนตัวเองเตรียมพร้อมแล้ว

ดีใจที่กิจการของเธอเจริญดี การทอผ้าบ้านเราออกจะถอยลง สู้ชาวต่างประเทศไม่ได้ เมื่อคนมีหลักฐานดีคิดทำขึ้นอีก น่าจะกลับรุ่งเรืองขึ้นโดยเร็ว ลูกชายของฉันกับตัวฉันเองสบายดี ประสงค์กราบมาแทบเท้าคุณอา

ผู้ซื่อสัตย์ต่อเธอเสมอ

ถนอม

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ