ปางที่ ๘ กฤษณาวตาร

[๗๕]ร่าย

๏ จักดำเนินนิทาน ปางแปดท่านจะเห็น พอเปนเค้าโดยย่อ ข้อความฃ้างต้นนี้ มีแถลงเหตุไว้ ว่าทำไมพิษณู ผู้เปนจอมอมเรศร์ จึ่งเสด็จจอวตาร ดำนานกล่าวความไว้ ว่าในกรุงมถุรา มีพญาทรงราชย์ นามประกาศอุคระเสน เปนราชาธิบดี มีมหิษีแสนงาม นามกรรณีกัลยา แต่ว่าไร้โอรส กาลกำหนดหนึ่งวาร นงคราญไปเที่ยวป่า หลงคณานารี เทวีเที่ยวตามค้น อสูรตนหนึ่งไซร้ ได้เห็นนางรูปงาม ก็มีความเสนหา แปลงกายาอย่างดี เหมือนสวามีนงเยาว์ เฃ้าหานางพลางชวน ทรามสงวนสมพาศ ต่อนั้นราชเทวี มีพระครรภเทียวหนอ พอถึงกาลกำหนด เกิดโอรสหนึ่งองค์ นามว่ากงส์กุมาร มีสันดานแสนหยาบ ชอบทำบาปชังบุญ ปราศจากคุณสมบัติ กษัตริย์ผู้บิดา และมาตาเดือดร้อน จะสั่งสอนเท่าใด บ่มิได้ฟังเชื่อ เมื่อพระกงส์เติบใหญ่ ได้ทูลพระบิดา ว่าพระองค์เคารพ รามราฆพเปนนิตย์ ฃ้าเห็นผิดทำนอง พระควรตรองดูว่า อันรามราฆพไซร้ มิใช่เทพมเหนทร์ เปนแต่เพียงกะษัตริย์ ดำรงรัฐผู้หนึ่ง ซึ่งไม่ดีกว่าเรา ไม่ควรเคารพเห็น เปนสรณะเลยนา พระบิดาฟังบุตร์ ก็สุดเสียหฤทัย และท่านไท้ตอบความ ว่ารามเปนพระเจ้า รำงับเศร้าโศกแท้ แม้มิให้บูชา ฃ้าเปนบุถุชน จะฃ้ามพ้นสงสาร ผ่านทุกข์ได้ฉันใด ได้ฟังคำดำรัส กงส์ก็ขัดข้องจิต คิดขบถคดต่อ พระพ่อผู้ทรงราชย์ ถอดนรนาถนั้นลง ขึ้นทรงราชย์เองไซร้ แล้วให้บ่าวประกาศ แด่ทวยราษฎร์ทั้งหมด ให้งดการบูชิต บพิตร์รามราฆพ ให้เคารพศิวะ พระมหาเทพแทน พศกแสนเดือดร้อน อนาทรทั่วด้าว เพราะท้าวกงส์ข่มเหง บ่ยำเกรงบาป แสนหยาบคายร้ายกาจ ทั้งอมาตย์มนตรี ที่สุจริตธรรมธร ก็ถอนจากตำแหน่ง ตั้งแต่งผู้เป็นพาล สันดานหยาบขึ้นให้ กดขี่ไพร่ทั่วหน้า อีกราชาชอบคบ แทตย์ทานพใจพาล ใช้เที่ยวรานรังแก ทำร้ายแก่ผู้ที่ มีศีลาจารวัตร์ ใครทำขัดหฤทัย เกลียดชังใครก็ตาม กงส์ผู้ทรามนิสัย ใช้อสูรทำร้าย ชนทั้งหลายลำเค็ญ บ่ร่มเย็นเช่นเคย บ่เสบยสักน้อย คอยแต่กลัวภัยถึง ดังนี้จึ่งนิรสุข เป็นทุกข์ทั่วเขตไซร้ ทวยราษฎร์บ่มิได้ เกษมสันต์ ฯ

โคลง ๔

๏ ปางนั้นจึ่งแม่พระ ธรณี
รู้สึกเหลืออดทน อีกแล้ว
แปลงรูปอย่างคาวี และรีบ
ไปสู่บรรพตแก้ว สุเมรุ
๏ ทูลสุเรนทร์ว่าอ้า เหลือทน
อันพวกนิสัยพาล มากแท้
กำเริบณสากล แสนทุกข์ ทั่วนา
ธรรมสุจริตแล้ว เริดหนี
๏ ฃ้านี้ก็เดือดร้อน รำคาญ
จึ่งอยากจะใคร่จร จากด้าว
ไปอยู่ณบาดาล แดนต่ำ
ขออนุญาตท้าว เพื่อไป
๏ สหัสสนัยน์ทราบแล้ว จึ่งพา
ทวยเทพระเห็จไป ไม่ช้า
เผ้าองค์พระพรหมา ทูลเหตุ
เชิญช่วยดับทุกข์หล้า ปราบพาล
๏ ท่านท้าวสี่พักตร์นั้น จึ่งชวน
ทวยเทพไปไกลาศ บรรพต
เฝ้าศิวะอิศวร ตรัสปรึก ษาแฮ
ศิวะตอบมธุรส วาจา
๏ ว่าเห็นควรให้เทพ วิษณู
เสด็จไปดับเข็ญ อีกครั้ง
เห็นชอบจึ่งพระผู้ เปนใหญ่
ชวนเทพบ่รอรั้ง รีบไป
๏ ถึงไวกูณฐ์เฝ้าพระ นารายน์
ศิวะกล่าวคำทูล ท่านไท้
แทนทวยเทพทั้งหลาย วอนวิษ ณุนา
โปรดช่วยปวงสัตว์ให้ สุขสราญ
๏ อวตารอีกครั้ง เปนคน
ไปปราบกงส์ผู้เปน เศิกเสี้ยน
ให้ทั่วทั้งสากล เปนสุข
ล้างเหล่าอริเหี้ยน เหือดหาย
๏ นารายน์รับจะได้ เสด็จลง
ไปเกิดเปนลูกวะ สุเทพ [๗๖]
ยาทพกษ์ตริย์วงศ์ จันทระ
เพื่อสกลโลกเสพย์ สุขศานต์
๏ ฟังท่านดำรัสแล้ว ดีใจ
ทวยเทพต่างตนรับ ว่าจะ
ต่างองค์แบ่งภาคไป สู่โลก มนุษแล
เพื่อช่วยรับภาระ พิษณุ ฯ

ร่าย

๏ อยู่มาวันหนึ่งนา พญากงส์ทรงรถ จรดเที่ยววนะ พร้อมวสุเทพตัวดี และเทวกีนงคราญ ภูบาลยินสำเนียง เสียงส่งจากฟากฟ้า ว่าเออเธอแสนเขลา ไม่รู้เท่าถึงการ กุมารที่แปดของ นางนวลลอองที่พา มาด้วยบัดนี้แล แน่จะฆ่าเธอตาย กงส์ใจร้ายได้ฟัง คั่งแค้นชักดาพพลัน หมายฟันเทวกี แต่บัดนี้จึ่งพระ วสุเทพทูลว่า อ้ามหากษัตริย์ อย่าตัดเกศเมียฃ้า ถ้าแม้ยกชีพให้ เมื่อใดนางคลอดบุตร์ ฃ้าจะรุดรีบส่ง แด่พระองค์ทุกคน จุมพลอย่าสงสัย กงส์จึ่งได้พอจิต ยกชีวิตโฉมศรี แต่ต่อนี้ตั้งใจ เพื่อมิให้พลาดพลั้ง จึ่งสั่งจัดทหาร เฝ้าทวารตำหนัก ที่พักเทวกี และมีคำสั่งไว้ ว่าเมื่อใดเทวี มีโอรสธิดา ให้นำมาถวาย เพื่อทำลายชีพล้าง ตัดทางที่ศัตรู จะมีอยู่รอดได้ แต่เทพไทพิษณู ผู้รู้ทุกสิ่งสรรพ์ พลันสั่งโยคะนิทรา [๗๗] มิ่งมายาศักดิ์ขลัง ให้ไปยังบาดาล รับลูกมารแขงขัน หิรัณยกศิปู จู่ไปเฃ้าครรภ์ศรี เทวกีนงคราญ นับกุมารหกองค์ เพื่อท้าวกงส์ใจพาล จับประหารชีวี ถึงที่คำรบเจ็ด เศษะนาคอันเปน เช่นภาคแห่งเราไซร้ จะได้ไปเฃ้าท้อง เจ้าต้องคอยดูนา จวนเวลาจะคลอด จงรับปลอดปราศภัย เปลี่ยนไปสู่ครรภ์ดี แห่งโรหิณีโฉมตรู ผู้อยู่โคกุลนั้น แล้วจะพลันมีฃ่าว ระบือฉาวว่านาง ศรีสอางค์แท้งแล้ว ลูกจะแคล้วโพยภัย ได้อยู่ช่วยเราปราบ บำราบพาลภายหน้า [๗๘] อันว่าตัวเราไซร้ จะได้ไปกำเนิด เกิดเป็นลูกเทวี ที่คำรบแปดไซร้ ส่วนเจ้าไปเฃ้าครรภ์ เมียนันทะโคบาล นามขนานยโสทา ครั้นเวลาประเสริฐ เรากำเนิดแล้วไซร้ จะดลใจขัตติยะ วสุเทพรับเรา เอาไปยังยโสทา รับเจ้ามาแทนที่ ฃ้างเทวกีอนงค์ เมื่อกงส์ทราบเหตุว่า กัลยาตลอดบุตร์ จะรีบรุดไปพลัน จับเด็กนั้นโดยโกรธ พิโรธแรงนักหนา แล้วจะปาเด็กลง ตรงศิลาก้อนใหญ่ เพื่อให้เด็กดับขันธ์ แต่บัดนั้นเจ้าจง เหาะตรงสู่อัมพร จอมอมรจะพบ และเคารพเจ้านา เพราะว่าเธอจะถือ ว่าเจ้าคือมหา มายาศักดิ์ของเรา เจ้าจงจำคำสั่ง ประพฤติดังบอกไว้ ให้กิจสัมฤทธิ์ได้ ทุกอัน เจ้าเอย ฯ

โคลง ๔

๏ ต่อนั้นกิจก็ได้ เปนไป
ตามพระเปนเจ้าสั่ง เสร็จสิ้น
กุมารเกิดเมื่อใด ก็ถูก
เฃาจับประหารดิ้น ดับลง
๏ องค์ที่เจ็ดนั้นโยค นิทรา ย้ายแฮ
ไปจากเทวกี ส่งเฃ้า
ครรภ์โรหิณีนา รีรัตน์
และประสูติเปนเจ้า พลราม
๏ ครั้นตามกำหนด เทวกี
ก็ประสูติบุตร์องค์ อัษฏมะ
งามเลิดและฉวี คล้ามอยู่
จึ่งเรียกพระกฤษณะ ยศยง
๏ องค์วสุเทพผู้ บิดา
รับกุมารรีบหนี จากเหย้า
ฃ้ามลำยมุนา โดยด่วน
ถึงทับนันทะเฃ้า ไปพลัน
๏ ที่นั้นเอาลูกน้อย ลงวาง
ฃ้างยโสทานา รินั้น
แล้วอุ้มธิดานาง เกิดใหม่
โดยด่วนเสด็จดั้น กลับสถาน
๏ ทหารที่อยู่เฝ้า ตำหนัก
ยินเด็กร้องก็รีบ บอกเหตุ
ฝ่ายกงส์บมิพัก ผันผ่อน
เดินดุ่มจากนิเวศน์ ตะบึง
๏ พอถึงจับเด็กน้อย เกิดใหม่
ออกนอกตำหนักจันทน์ บัดนั้น
และขว้างเด็กลงไป กับศิ ลาแล
ว่าอย่าอยู่เพื่อกั้น กีดกู
๏ ภูธรมองเด็กนั้น ตกใจ
เพราะว่าแทนที่จะ มอดม้วย
กลับผุดลุกทันใด และเหาะ
ขึ้นสู่ฟากฟ้าด้วย ฤทธี
๏ บัดนี้ร่างใหญ่ล้ำ ราวผา
มีแปดกรน่ากลัว ใช่น้อย
แปดหัดถ์จับศัสตรา วุธแกว่ง
ร้องตะโกนกล่าวถ้อย ทนง
๏ เหวยกงส์มึงมุ่งล้าง ชีพกู
แต่จะสมประสงค์ บ่ได้
เพราะวีระราชผู้ บังเกิด แล้วแฮ
คงจะล้างมึงไซร้ แน่นา
๏ พญากงส์ทราบเค้า ขัดใจ
จึ่งสั่งพวกเสนา มาตย์ให้
เที่ยวเสาะแสวงไป โดยทั่ว
คามเขตจังหวัดใกล้ มถุรา
๏ ทารกใดกอบด้วย สิริลักษณ์
ให้จับเด็กประหาร ชีพล้าง
เพื่อเด็กที่มีศักดิ์ สามารถ
บ่มิให้ตกค้าง อยู่กวน
๏ ส่วนวสุเทพทั้ง เทวกี
กงส์นึกไม่น่ากลัว อีกแล้ว
จึ่งถอนทหารที่ คุมอยู่
วสุเทพสุดแผ้ว ผ่องใจ
๏ รีบไปบอกฃ่าวให้ นันทะ
ไปจากมถุรา เร็วรีบ
ก่อนที่ทหารพระ ทรงราชย์
มาเพื่อเผด็จชีพ กุมาร
๏ โคบาลพร้อมด้วยยะ โสทา
พาพระกฤษณะเร็ว รีบร้น
พร้อมโรหิณีนา รีอีก
โอรสนางนั่นพ้น ราชภัย
๏ ไปอยู่ณหมู่บ้าน โคกุล
ในหมู่พวกโคบาล พรั่งพร้อม
บำรุงซึ่งพระสุน ทโรรส
จัดพวกบริวารล้อม รักษา ท่านนา ฯ

ร่าย

๏ เมื่อคราพระกฤษณะ และพระพลรามพี่ ยังมีชนม์เยาว์วัย ได้สำแดงปฏิหาร หลายประการนักหนา นำมาเล่าที่นี้ มีแต่บางเรื่องหนอ พอเป็นอุทาหรณ์ แม้เมื่อก่อนอดนม ก็อุดมฤทธา เช่นคราหนึ่งยักษี มีชื่อปูตะนา จำแลงมาเปนนาง รูปสำอางค์สรวยสุด เหมือนมนุษเฃ้าไป ให้กฤษณะกินถันย์ โดยนมนั้นเปนพิษ จงจิตให้วายปราณ แต่กุมารวิเศษ แผลงเดชดูดแรงนัก ยักษิณีเหลือทน ก็วายชนม์เพราะช้ำ บ่อาจทำร้ายได้ กุมารไซร้แสนแรง เข้มแขงใครไม่ทัน วันหนึ่งอสุรา ชื่อตฤณาวรรตร้าย แปลงกายเปนลมบ้า หอบพากฤษณะไป แต่เธอไซร้แผลงฤทธิ์ ทำอมิตร์ตกครืน ลงยังพื้นดินตาย ใครมุ่งร้ายต้องแพ้ แลวันหนึ่งเล่นซน ลักนมข้นเนยใส กินแล้วไซร้มิหนำ ทำหม้อแตกอีกนา ยโสทาขัดใจ อรไทยเอาทาม ผูกเอวล่ามติดไว้ กับอ่างใหญ่ใบหนึ่ง จึ่งกฤษณะกระชาก เดินลากอ่างตามหลัง จนกระทั่งอ่างใหญ่ ไปขัดอยู่ระหว่าง กลางพฤกษาใหญ่คู่ เธอลากลู่ต่อไป จนไม้ใหญ่ถอนราก ยากที่จะผูกไว้ จึ่งได้นามะกร ทาโมทรดังนี้ อนึ่งมีฤทธิ์เดช วิเศษแต่เยาวมา เช่นคราหนึ่งรบงู ที่อยู่ย่านธารา ยมุนาใกล้บ้าน พวกโคบาลสถิต นาคเรืองฤทธิ์ชื่อว่า กาลียะเรืองศักดิ์ พิษแรงนักพ่นไป ถูกที่ใดไหม้พลัน ดังนั้นผู้อาศัย ในถิ่นนั้นเดือดร้อน ก่อนที่กฤษณะไป ไม่มีใครต้านทาน แต่กุมารสามารถ เก่งกาจบ่ยอมกลัว สละตัวเพื่อดับ ระงับทุกข์สหาย ผันผายสู่นที รบกาลิยะแรง กาจกำแหงเดชะ ชำนะนาคตัวกาจ เอาบาทเหยียบหัวไว้ จะฆ่าให้วายปราณ แต่บริวารนาคขอ โทษผัวพ่อและนาย ฦๅสายโปรดกรุณา แต่ว่าขับนาคให้ ออกไปสู่สาคร ดับร้อนสมปรารถนา ยังอสุราแรงร้าย อีกหลายตนจงใจ ไปสังหารกฤษณะ แต่พระกลับปราบมัน อนึ่งนั้นกล่าวว่า พระกฤษณาวตาร ชอบการหยอกเย้าเล่น เช่นเมื่อใดโคปี นารีเลี้ยงโคไซร้ ลงไปเพื่อสนาน ในธารยมุนา ทั้งพัสตรากองไว้ กฤษณะไซร้เก็บผ้า ขึ้นพฤกษานั่งอยู่ ดูโคปีทั้งหลาย เปลือยกายมางอนง้อ ขอผ้านุ่งห่มไซร้ ก็บ่ได้คืนผ้า จนกว่านางจะได้ ปีนขึ้นไปและขอ เธอล้อหลอกหยอกเย้า แล้วเอาผ้าส่งให้ อยู่มาได้หลายปี บัดนี้รู้สึกฤทธิ์ คิดทดลองกับอินทร์ ผู้เปนปิ่นสวรรค์ ชวนนันทะโคบาล ให้งดการพลี องค์วัชรีเปนใหญ่ ให้ไหว้ขุนคิรี ศรีโควรรธนะ อธิบายเหตุว่า อันจอมผาไพศาล ให้อาหารอันดี แด่คาวีอุดม โคให้นมแด่เรา เฃาควรรับพลี ดังนี้ครั้นนันทะ เชื่อกฤษณะแล้วไซร้ เธอขึ้นไปยืนอยู่ ที่ยอดภูผาใหญ่ ได้รับของพลี ดีๆกินอิ่มหนำ แล้วทำเปนประสาท พรพิลาศนานา ฝ่ายอมราธิราช เห็นบังอาจเช่นนั้น เทวันขัดเคืองใจ บันดาลให้วลาหก ตกหลายห่ามาหมาย ท่วมทำลายโคบาล และประหารคาวี แต่บัดนี้กฤษณะ พระยกเขาโควรรธน์ เอาดัชนีเชิดไว้ ให้กันประดุจฉัตร์ คนและสัตว์อาศัย ใต้ร่มพ้นฝนราน ท่านได้ยืนเชิดเขา เอาไว้ได้เจ็ดวัน องค์อินทร์นั้นยอมแพ้ แต่นั้นได้ฉายา ว่าตุงคีศะไซร้ คือเป็นใหญ่ยิ่งเฃา อีกหนึ่งเล่าวัชรี มีความพอหฤทัย ที่เธอได้อารักษ์ พิทักษ์โคพ้นภัย จึ่งให้ซึ่งฉายา เรียกว่าอุเปนทระ ยกกฤษณะนั้นไซร้ ให้เป็นน้ององค์อินทร์ ทั่วทั้งถิ่นธรณี จะมีใครเทียมทัน กฤษณะนั้นสุดหา อันพจนาสรรเสริญ เพื่อจะเยินเกียรติยอ บ่มีพอเที่ยงแท้ พระประเสริฐเลิดแล้ เลอสรร ฯ [๗๙]

โคลง ๓

๏ ครั้นเมื่อเจริญวัย เติบใหญ่รุ่นหนุ่มแล้ว
รูปงามวิจิตร์แผ้ว ผ่องศรี
๏ พวกโคปีชื่นชม นิยมรักท่านแท้
และพระกฤษณะ โปรดเฃา มากนา
๏ รับเอาเปนชายา กว่าเจ็ดหรือแปดไซร้
นอกนั้นอีกก็ได้ สมาคม
๏ พระนิยมการรำ ระบำแบบชื่ออ้าง
มณฑลนฤตยะสล้าง สนุกดี
๏ ระบำนี้ชายพลาง จับหัตถ์นางจรดเลี้ยว
เปนโอกาศเพื่อเกี้ยว กันสราญ
๏ เพื่อนงคราญนานา ไม่น้อยหน้าสักน้อย
พระแบ่งภาคนับร้อย ออกพลาง
๏ จับมือนางทุกคน จึ่งบ่บ่นงอดเง้า
เพราะคิดว่าพระเจ้า โปรดตน
๏ การดนตรีชำนาญ ทั้งท่านทั้งพี่ไท้
ทรงขลุ่ยเสนาะได้ บรรเลง เพื่อนแล
๏ พระเก่งทางมายา หาใครบ่เปรียบไท้
อาจแปลงแบ่งภาคได้ สมดัง จิตฮา
๏ เช่นครั้งหนึ่งราชา เมียอายัณโฆษได้
ทูลว่าสามิไซร้ ออกหึงส์
๏ พระจึ่งบอกอุบาย แด่โฉมฉายล่วงรู้
บ่ต้องวิตกผู้ ผัวเลย
๏ ยามเชยชมกันอยู่ สามีจู่เกือบใกล้
จึ่งพระกฤษณะไท้ จำแลง
๏ แปลงรูปเปนกาลี เทวีฤทธิ์เลิดไซร้
และราธานั่งไหว้ บูชา
๏ ฝ่ายอายัณโฆษนัน เห็นภรรยากราบไหว้
การเคลือบแคลงจิตไซร้ เหือดหาย
๏ ทั่วทั้งหลายโคปี ที่จงรักท่านนั้น
ท่านช่วยได้สู่ชั้น แมนสรวง
๏ อีกปวงชายผู้มี ความภักดีต่อแล้ว
ท่านก็ได้โปรดแผ้ว บาปสรรพ์
๏ ทั่วกันได้ประสบ สุคติภพเมื่อม้วย
สมจิตสัมฤทธิ์ด้วย บารมีท่านแล ฯ [๘๐]

โคลง ๒

๏ พระจะมีสุขแท้ หากปลอดอริแล้
คอยราน  
๏ กงส์ใจพาลรั่วรู้ ข่าวว่าบังเกิดผู้
กาจไกร  
๏ ใช้อสูรทนง จงจิตไปเพื่อล้าง
ชีวิตวีระอ้าง เกียรติอึง
๏ หนึ่งอริษฏะห้าว เปนพฤษภอคร้าว
เฃ้าไป  
๏ แต่ไท้ข่มเฃาด้วย แรงหักศอยักษ์ม้วย
มอดชนม์  
๏ อีกตนเปนมิ่งม้า ชื่อเกศินเก่งกล้า
ไปราน  
๏ พระประหารชีพม้วย ชำนะอริด้วย
เดชา  
๏ เชษฐาพลเทพนั้น ก็เปนวีระชั้น
อุดม [๘๑]  
๏ สมควรเปนเพื่อนไซร้ แห่งพระกฤษณะไท้
ธำรง เดชนา ฯ  

โคลง ๔

๏ ฝ่ายกงสะราชเหี้ยม โหดหนัก
ทราบเหตุว่าอสูร ทิ่ใช้
กลับไปพ่ายแพ้ศักดิ์ กฤษณะ
จึ่งคิดจงล้างให้ สมถวิล
๏ ภูมินทร์เตรียมพร้อมซึ่ง อุบาย
ต่างๆล้วนเห็นว่า เก่งแท้
ไว้ใช้เพื่อทำลาย กฤษณะ
อีกพระพลเทพแม้ มากรุง
๏ โดยมุ่งร้ายเช่นนี้ จึ่งสั่ง
อะกรุระไปเชิญ พี่น้อง
ให้เสด็จมายัง กรุงใหญ่
เพื่อพบญาติพวกพ้อง พงศ์พันธุ์
๏ พร้อมกันจะได้เล่น กรีฑา
พอรื่นรมย์สมาน มิตระจิต
อีกสองกุมารา ก็จะ
ได้แสดงเดชฤทธิ์ ลองดู
๏ อะกรูระรับราช บรรหาร
ไปสู่พฤนทาพน ไม่ช้า
ถึงจึ่งแถลงการณ์ โดยสัตย์
บอกอุบายเจ้าหล้า ปองผลาญ
๏ สองกุมารดั่งนี้ รู้ตัว
แต่เพราะเปนวีระ เก่งกาจ
จึ่งบ่คิดกลัว จนสัก นิดเลย
รับจะไปสู่ราช ธานี
๏ใกล้บุรีได้พบ หนึ่งชาย
ผู้พนักงานซัก ฟอกผ้า
กุมารมุ่งจิตหมาย ลองจิต
จึ่งกล่าวขอพัสตร์ฃ้า เถิดหนอ
๏ ฟังขอชายนั้นตอบ คำไป
ว่านี่ผ้าทรงพระ ผ่านเผ้า
ใครใช้ร่วมจัญไร มากละ พ่อเอย
อย่าอวดดีนักเจ้า จะตาย
๏ ฟังชายตอบเช่นนั้น พิโรธ
จึ่งจับกระจาดมา และรื้อ
ผู้ซักก็แสนโกรธ ดุด่า
พลางจับกระจาดยื้อ แย่งกัน
๏ โดยพลันสองพี่น้อง ต่อยตี
ตบเตะพนักงาน ซักผ้า
จนช้ำชอกอินทรีย์ แสนเจ็บ
เฃาก็ล้มขว้ำหน้า ตายลง
๏ สององค์เลือกพัสตระ ภูษา
ผลัดเปลี่ยนผ้าที่ปอน เก่าแล้ว
ชวนกันเสด็จคลา ไคลต่อ
มุ่งสู่ธานีแก้ว มถุรา
๏ ครานั้นชายหนึ่งผู้ ค้าขาย
บุบผะชาติในกรุง ใหญ่ไซร้
เห็นสองพี่น้องชาย นั้นรัก
จึ่งยื่นดอกไม้ให้ กุมาร
๏ อวตารโปรดแท้ อวยพร
แต่บุรุษผู้ขาย ดอกไม้
ให้สุขสโมสร ตลอดชีพ
และเมื่อมรณะให้ ไปสวรรค์
๏ ครั้นเดินต่ออีกได้ พบนาง
หลังค่อมชื่อกุพชา รีบเต้า
กระเดียดกระจาดพลาง เดินมุ่ง
ไปสู่นิเวศน์เจ้า ธานี
๏ นางนี้นำเครื่องพระ สุคนธ์
เพื่อจะไปส่งใน วังรัตน์
กฤษณะกล่าวยุบล ขอเครื่อง หอมแฮ
นางค่อมก็บ่ขัด แบ่งถวาย
๏ ฦๅสายนึกชอบพระ หฤทัย
จึ่งประสาทพระพร บัดนั้น
ให้หลังค่อมโกงไซร้ ตรงยืด
และรูปนางอั้นตั้น กลายสรวย
๏ ด้วยความปราโมทย์แท้ จึ่งนาง
เชิญกษัตริย์สองเสด็จ สู่เหย้า
ถึงแล้วกฤษณะพลาง ผูกรัก
แนบสนิทชิดเคล้า คลึงสมร
๏ พักนอนจนรุ่งเช้า จึ่งไป
สู่ที่สังเวียนกรี ฑะแล้
ท้าวกงส์ธสั่งให้ เตรียมสรรพ
เพื่อจะให้เธอแพ้ และตาย
๏ อุบายขั้นต้นบ่ สมหวัง
เพราะเมื่อกฤษณะกับ พี่ปล้ำ
นักมวยสุดแขงขลัง กลับพ่าย
และระทมล้มซ้ำ วอดชนม์
๏ จุมพลสั่งขับช้าง ตกมัน
ออกไล่แทงกฤษณะ อีกด้วย
แต่กฤษณะแขงขัน สู้คช
สารกลับดับชีพม้วย มรณา
๏ พญากงส์โกรธแม้น เพลิงผลาญ
สั่งพวกทหารฆ่า จุ่งได้
กฤษณะโลดทยาน ขึ้นพลับ พลาแล
ฟันฟาดกงส์บ่ไว้ ชีวัน
๏ บัดนั้นกราบชนก ชนนี
พ่อแม่ก็กอดพระ ลูกแก้ว
ท้าวกงส์วอดชีวี ลงบัด นั้นฤา
ก็หมดอริแล้ว ในวงศ์
๏ องค์กฤษณะจึ่งเฃ้า ไปทูล
อุคระเสนราชา เก่าไซร้
ให้กลับรับไอสูรย์ สมบัติ
และอยู่เพื่อรับใช้ ราชา
๏ ศึกษายุทธศาสตร์ วิธี
ต่อพระอาจารย์ผู้ ฉลาด
ชื่อสานทิปนี พราหมณ์เอก
บ่เนิ่นก็สามารถ ชัยชาญ ยิ่งแล ฯ

ร่าย

๏ ต่อแต่กาลนั้นมา ราชาชราสันธ์ จอมขัณฑ์มคธเขต ทรงเดชเปนบิดา แห่งชายาทั้งสอง ของท้าวกงส์นั้นไซร้ ขัดใจก่อการศึก อธึกยกโยธา มามถุราแก้แค้น แทนท้าวกงส์ผู้ตาย แต่ก็พ่ายแพ้ฤทธิ์ แห่งพระกฤษณะไซร้ ล่าถอยไปหลายครา ต่อมามีศัตรู จู่มาอีกทางหนึ่ง ซึ่งกำแหงฤทธี นี้คือกาละยวัน ราชันเจ้าไพรัช กษัตริย์ผู้เปนใหญ่ ในยวนะประชา ฝ่ายกฤษณาวตาร ได้รบรานหลายครั้ง อ่อนกำลังพลไกร ใคร่ครวญดูเห็นว่า มถุราธานี เปนบุรีใหญ่มาก ยากที่จะรักษา จึ่งไปหาที่ใหม่ อันเปนชัยภูมิดี พบที่ใกล้สมุท ในเขตคุร์ชระราษฎร์ จะสามารถป้องกัน โดยมั่นคงอยู่ได้ จึงไปสร้างบุรี มีพร้อมป้อมปราการ ทั้งธารล้อมรอบไว้ ให้นามนครว่า ทวาระกากรุงไกร แล้วจึ่งได้อพยพ ครอบครัวครบทุกสิ่ง ทั้งมถุราเวียงเก่า เฃ้าไปอยู่เวียงใหม่ ดังนี้ไซร้ช่วยญาติ ปราศจากยุทธะภัย และทรงชัยสิ้นห่วง ทั้งปวงญาติวงศา จึ่งตั้งหน้าคิดการ รานรบสู้ไพรี วีระกษัตริย์ไปท้า กาละยวันให้ตาม ซุ่มซามเซอะเสียเชิง ละเลิงไล่กฤษณะ พระหนีสู่คูหา แฝงกายาในนั้น อันที่ปากถ้ำนี้ มีบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งชื่อมุจุกุนท์ ผู้มีคุณสมบัติ คือเทพตรัสให้พร . ว่าเมื่อนอนหลับอยู่ แม้ใครจู่ต้องกาย ให้ตายเพราะเพลิงผลาญ ครั้งนั้นกาละยวัน ผลุนผลันเฃ้าคูหา มาพบบุรุษนั้น พลันเตะเฃ้าโดยแรง บัดนั้นแสงเพลิงวาม เปลวเพลิงลามลุกไหม้ ทันใดกาละยวัน ล้มที่นั้นสิ้นชีพ กฤษณะรีบออกไป ยังทัพใหญ่ขู่เข็ญ ให้ยอมเปนทาสแล้ว ดังนี้แลจึ่งแผ้ว ศตรู หนึ่งนา ฯ

โคลง ๔

๏ มาอยู่เวียงใหม่แล้ว ไป่นาน
ใคร่จะมีชายา ร่วมห้อง
ฟังข่าวเรื่องนงคราญ นางหนึ่ง
ซึ่งพระรู้สึกต้อง หฤทัย
๏ ทรามวัยเอกนี้ชื่อ รุกมิณี
ลูกภิษมะกะจอม วิทรรถ
งามเลิดประเสริฐศรี โสภาคย์
อีกพระมรรยาทสรรพ พิไลย
๏ ให้ไปขอเพื่อได้ ครองขวัญ
แต่รุกมินพี่นาง ขัดข้อง
เพราะเหตุชราสันธ์ ยงยุ
จึ่งมิยอมให้น้อง สมใจ
๏ กลับให้รีบหมั้นกับ ศิสุบาล
ผู้ญาติกฤษณะเอง นั้นไซร้ [๘๒]
และเร่งรัดจัดงาน อภิเษก
โดยด่วนเพื่อจะได้ ตัดความ
๏ กลับลามลุกขึ้นใหญ่ เกินหมาย
เพราะกฤษณะบ่ยอม พ่ายแพ้
ไปลอบลักโฉมฉาย พาจาก เวียงนา
วันก่อนวันฤกษ์แล้ สมจินต์
๏ รุกมินยกทัพติด ตามนาง
กฤษณะรบมีชัย ชิตได้
หากเห็นแก่สุรางค์ ที่รัก
พระจึ่งยกชีพให้ เชษฐา
๏ ต่อมาวันหนึ่งนั้น สัตรา ชิตแฮ
กษัตริย์ยาทพญาติ หนึ่งได้
มากรุงเอกทวารา วติ
เพื่อเยี่ยมกฤษณะไท้ ราชา
๏ สัตราชิตนี้สิ เจ้าของ
แห่งสยะมันตะกะ เลิดแก้ว
ใครถือรัตนะรอง เรืองนี่
รวยทรัพย์อีกทั้งแผ้ว พหุภัย [๘๓]
๏ สงสัยว่ากฤษณะ จะปอง แก้วนา
จึ่งสัตราชิตฝาก มิ่งแก้ว
ให้ไว้แด่พระน้อง ประเสนะ
หวังว่าคงจะแผ้ว ภยา
๏ แต่ว่าพระน้องบาป มากมี
เมื่อรับแก้วเอาไป ป่าด้วย
ไปประสบซึ่งสีห์ ตัวกาจ
กัดประเสนะม้วย ชีวัน
๏ สิงห์นั้นคาบแก้ววิ่ง สู่ไพร
ชามพะวานจอมหมี พบแล้ว
ฆ่าสิงห์นั่นบรรลัย และคาบ
สยะมันตะกะแก้ว ไปสถาน
๏ เกินกาลควรแล้วที่ ประเสน
จะกลับจากดงบ่ กลับไซร้
พวกญาติเริ่มจะเห็น ไม่ชอบ กลเลย
คิดว่ากฤษณะได้ ลอบปลง
๏ องค์พระกฤษณะรู้ ว่าเฃา
ออกระแวงกันอยู่ เช่นนี้
ชวนญาติรีบใต่เต้า ตามสกด
รอยบาทซึ่งนำชี้ มรรคา
๏ มาถึงซึ่งศพประ เสนะ
เห็นชัดซึ่งเหตุตาย แน่แล้ว
แต่แก้วเอกวะระ บ่พบ
จึ่งสกดตามแก้ว ต่อไป
๏ ได้พบสิงห์ศพกลิ้ง กลางผลู
แต่สยะมันตะกะ บ่พบ
จึ่งสกดรอยดู ไปอีก
จนกระทั่งประสบ คูหา
๏ หน้าถ้ำหมีน้อยหนึ่ง นั่งอยู่
และกฤษณะได้เห็น เล่นแก้ว
พระจึ่งเสด็จจู่ เฃ้าปาก ถ้ำแล
ชามพะวานกลั่นแกล้ว ยืนขวาง
๏ ปางนั้นกฤษณะกับ จอมหมี
สู้รบกันด้วยแรง ฤทธิ์แกล้ว
ญี่สิบเอ็ดราตรี แย่งยุทธ์
หมีพ่ายและส่งแก้ว ถวาย
๏ อีกหมายพึ่งกฤษณะ ภูมี
ชามพะวานจึ่งวอน ท่านไท้
รับชามพะวดี นางลูก สาวนา
เปนพระชายาไซร้ สืบไป
๏ ทรงชัยนำแก้วสู่ สัตรา ชิตแล
เธอก็แสนปรีดี มากแท้
ยกสัตยะภามา นางลูก
ถวายแด่กฤษณะแล้ อีกนา
๏ อันว่าเหตุนี้จึ่ง อีกกษัตร์
ชื่อศตะธนู ยาทพ
บังเกิดโกรธเคืองขัด จิตมาก
เพราะชวดนางเลิดลบ สกุลวงศ์
๏ จงจิตคิดแก้เผ็ด จงหนัก
รอเมื่อสัตราชิต หลับแล้ว
ปลงชีพอีกลอบลัก ดวงรัตน์
รีบรุดพายอดแก้ว นั่นหนี
๏ ภูมีกฤษณะกับ พลราม
รีบติดตามศตะ ธนุส
ครั้นทราบว่าถูกตาม ติดติด
ศตะธนูรุด รีบคลา
๏ ไปหาญาติเอกอะ กรูระ
และฝากซึ่งสยะมัน ตักไว้
ดังนี้เมื่อกฤษณะ ตามติด
สู้รบและฆ่าให้ วายปราน
๏ ภูบาลไปพบแก้ว สำคัญ
จึ่งเมื่อกลับมาพบ พี่ไท้
เกิดเหตุวิวาทกัน เพราะพี่
หาว่าน้องซ่อนไว้ โดยโกง
๏ ผึงโผงพลเทพกริ้ว อนุชา
ว่าไม่ขออยู่ร่วม พระน้อง
ไปอยู่มิถิลา แหล่งรัฐ
เพื่อจะมิให้ต้อง สมาคม
๏ บรมจักรกฤษณ์เศร้า เสียใจ
บ่งดการสืบสวน เรื่องแก้ว
จนอะกรุระใข ความสัตย์
พระจึ่งได้ปลอดแผ้ว นินทา
๏ ครานี้มีข้อทุ่ง เถียงกัน
ใครจะควรครอบครอง มิ่งแก้ว
กฤษณะว่าเธอนั้น เมียมาก
หมื่นหกพันเศษแล้ว ไป่ประสงค์
๏ ฝ่ายอนงค์สัตยะ ภามา
เปนธิดาสัตรา ชิตแล้
แต่พระภัสดาว่า หากรับ แก้วฤา
ก็อาจรับโทษแท้ ฉับพลัน
๏ ดังนั้นจึ่งพร้อมจิต มอบมณี
ให้อะกรูระครอง แต่นั้น
แลพลเทพดี กับอนุช [๘๔]
กลับอยู่ชิดเช่นชั้น ก่อนมา ฯ

ร่าย

๏ ครานี้ขอย้อนความ ตามตำนานเล่าไว้ ว่าเมื่อไท้กฤษณะ ย้ายพระนครหลวง อีกปวงประยูรวงศา มาทวารกาไป่นาน จึ่งมัฆวานมาวอน เชิญภูธรทรงชัย ไปช่วยปราบไพรี มีนามนรกาสูร ผู้สมบูรณ์ฤทธิ์ศักดิ์ สำนักมันสถิต ปราคช๎โยติษปุระ แสนเกะกะห้าวหาญ ขุนมารเที่ยวฉุดคร่าห์ พาดรุณนารี ลูกมุนีพราหมณา เทพธิดาจากสวรรค์ ลูกราชันมากไซร้ ไปขังในบุรี อันเปนที่แขงขัน อีกมันแย่งฉัตร์ชัย ไปจากพระวรุณ แล้วซ้ำวุ่นวายหนัก ลักพระกรรณาภรณ ของบังอรอทิติ บัดนี้สิปราถนา ไอราพตคชาธาร แม้มัฆวานมิให้ มันไซร้จะยกพล ไปรอนรณยุทธนา อมราวดี วัชรีจึ่งขอให้ กฤษณะไปบำราบ อสูรหยาบตนนั้น กฤษณะพลันรับใช้ และไปยงยุทธนา ฆ่านรกาสูรได้ และเฃ้าในบุรี พบสัตรีที่ยักษ์ ลักไปขังไว้นั้น หมื่นหกพันร้อยนาง รูปสำองค์น่ารัก ทรงศักดิ์แบ่งภาคา โดยมายาวิธี เฃ้าสู่ที่บรรทม พิรมย์ร่วมสมร กับบังอรพร้อมกัน หมื่นหกพันร้อยถ้วน แล้วชวนกลับกรุงไกร ดังนี้ไท้อธิราช ได้บาทบริจา ริกาเพิ่มมาพลัน หมื่นหกพันเศษร้อย แต่ละนางแช่มช้อย น่าชม ฯ

โคลง ๓

๏ สมเด็จพระมัฆวาน ท่านชอบใจจึ่งได้
เชิญพระกฤษณะให้ เยี่ยมสวรรค์
๏ ครั้งนั้นสัตยะภามา ไปด้วยราชะไซร้
เห็นปาริชาตไม้ มิ่งงาม
๏ มีความโลภเหลือดี มารศรียุให้
กฤษณะท่านไท้ ชลอมา
๏ ฝ่ายอินทราธิราช ตามภูวนาถแย่งไม้
แต่กลับแพ้ท่านไท้ ล่าหนี ฯ [๘๕]

๏ อนึ่งมีกล่าวไว้ ในมหาภารตะ ว่ากฤษณะนั้นไซร้ ได้เปนมิตรสมาน กับปาณฑพกษัตริย์ [๘๖] บุรุษรัตน์ได้ไป ในงานสวยัมพร แห่งบังอรกฤษณา [๘๗] ธิดาท้าวทรุบท ยงยศครอบครองขัณฑ์ ปัญจาละแดนไกล ได้ช่วยชี้ขาดว่า สุดาแห่งนเรนทร์ ควรเปนของอรชุน ผู้มีคุณสมบัติ ปรากฎชัดครั้งนั้น ครั้งปาณฑพกษัตริย์ ครองอินทระปรัสถ์ธานี ภูมีได้ไปหา และพากันเฃ้าไป ในปาณฑพอรัญ ที่นั้นองค์กฤษณะ กับพระอรชุนได้ ไปช่วยพระอัคนี ที่ต้องการเผาดง แต่องค์อินทร์คัดค้าน แลบันดาลวลาหก ตกดับเปลวอัคคี ครั้นสองวีระช่วย ด้วยฤทธาสามารถ อัคนีอาจชำนะ พระวัชรินสมใจ และได้เผาดงแล้ว แสนผ่องแผ้วหฤทัย ให้บำเหน็จกฤษณะ ด้วยจักร์วัชระนาถ สำหรับปราบพาลา อีกคทาบรรฦๅ ชื่อเกาโมทะกี ดังนี้มีของขลัง รวมทั้งศังข์สนั่น ชื่อปัญจะชันยะ ซึ่งกฤษณะได้มา โดยฆ่าขุนยักษ์ที่ มีนามเรียกเช่นนั้น จึ่งแขงขันนักหนา อนึ่งคราบพิตร์ ยุธิษเฐียรเธอใฝ่ ทำงานใหญ่ประกาศ นามว่าราชสูยะ กฤษณะยุเธอว่า ถ้าหวังให้พิธี สัมฤทธิ์ดีทุกสถาน ต้องไปรานรบฆ่า ชราสันธ์ทรงยศ จอมมคธผู้ผิด ยุธิษเฐียรเชื่อฟัง ยกกำลังไปพลัน ชราสันธ์ปราชัย ตายลงในสงคราม สมดังความปราถนา แห่งราชากฤษณะ โดยพระมุ่งพยาบาท มคธราชมานาน ครั้นถึงงานพิธี มีกษัตริย์มาช่วย ด้วยกันมากนักหนา ครานั้นศิสุบาล ผู้งุ่นง่านแค้นเคือง ด้วยเรื่องเก่ามีมา กล่าววาจาหยาบคาย กล่าวร้ายแรงเกะกะ กฤษณะเหลืออดกลั้น พลันขว้างจักร์เรืองรัตน์ ตัดหัวศิสุบาล วายปราณเพราะปากร้าย หนึ่งฦๅสายได้ไป ในเมื่อดวดพนัน กันระหว่างปาณฑพ กับโกรพราชัน ครั้นเมื่อปาณฑพแพ้ แลต้องยกกฤษณา ให้เปนทาสีแล้ว นางแก้วถูกเฃาลาก กระชากผ้าจากกาย ฦๅสายช่วยนิรมิตร์ พัสตราปิดกายพลัน ครั้นเมื่อจะประเดิม เริ่มภารตะยุทธ์ กฤษณะรุดรีบไป เฃ้านั่งในสภา พยายามห้ามศึก ชวนให้นึกตรึกตรอง แต่พี่น้องไม่ฟัง ตั้งจิตทำสงคราม ห้ามศึกไม่สมหมาย ฦๅสายไม่ยอมช่วย ด้วยฝ่ายใดโดยตรง ส่วนพระองค์ยอมเปน เช่นนายสารถี ขับพาชีเทียมรัถ แห่งกษัตร์อรซุน สุนทรวีระขลัง ส่วนกำลังทัพไท้ ให้ยุธิษเฐียรขอ ยืมไปต่อยุทธนา ในเวลาสงคราม ช่วยโดยความคิดดี มีอุบายบอกให้ ปาณฑพกษัตริย์ได้ ชำนะ เศิกแล ฯ

โคลง ๔

๏ จะขอกล่าวเรื่องอีก พอเปน
ตัวอย่างแห่งเดชะ อำนาจ
ของพระกฤษณะเห็น เหลืออัศ จรรย์แล
แม้แต่ศิวะราช ปราชัย
๏ ท้าวไทกฤษณะนั้น มีบุตร์
ชื่อปรัทยุมนะลูก นางเอก
หลานชื่ออนิรุทธ์ ลูกลูก
รูปวิไลยรุจิเรข ฦๅชา
๏ อุษานางลูกท้าว กรุงพาณ
ครองนครโสณิต ปุระ
สุบินว่าชายชาญ ชาติกษัตริย์
เฃ้าสู่ห้องแล้วละ หลีกไป
๏ ทรามวัยตื่นแล้วบอก นงคราญ
นามพิจิตร์เลขา พี่เลี้ยง
แม้มิพบชายชาญ ชู้รัก
อุระจะแตกเพี้ยง ถูกตี
๏ พี่เลี้ยงวาดรูปให้ นางสรร
แต่รูปใครนางก็ ไม่ชี้
จนถึงรูปราชัน อนิรุทธ์
จึ่งบอกว่าชายนี้ ที่เห็น
๏ เช่นนั้นนางพี่เลี้ยง เปนจิต
ไปรับอนิรุทธ์ รีบเต้า
ยังเวียงราชโสณิต ยามดึก
พาสู่ปราสาทเฃ้า เคียงสมร
๏ ภูธรพาณะเจ้า จอมมาร
ทราบเหตุก็ขัดใจ ไม่น้อย
ตรัสสั่งเหล่าทวยหาญ ไปจับ
ตัวมนุษกระจ้อย ฉับพลัน
๏ กุมภัณฑ์เฃ้าแวดล้อม หวังจับ
แต่อนิรุทธ์แรง ฤทธิ์สู้
ทหารยักษ์ก็กลับ วายชีพ
สิ้นคิดไปบอกผู้ นายตน
๏ จุมพลพาณะกริ้ว โกรธกราด
รีบรุดเร็วไปเอง บัดนั้น
ขว้างนาคะบาศปราศ ไปมัด
อนิรุทธ์อึดอั้น อัดใจ
๏ ให้เอาตัวมัดไว้ ประจาร
เปนเยี่ยงแก่เทวา มนุษ
แล้วจึ่งจะประหาร ฟันฟาด
ผู้ฮึกเหิมให้สุด ชีวัน
๏ ข่าวนั้นกระทบโสต วีระ ราชแฮ
พระตรัสชวนพลราม พี่แก้ว
อีกองค์ปรัทยุมนะ ไปช่วย
อนิรุทธ์ให้แผ้ว ปลอดตาย
๏ ฝ่ายพาณะนั้นไม่ ประมาท
จึ่งรีบเชิญศิวะ ช่วยรบ
อีกขันทะเทพราช เรืองเดช
มาช่วยเพื่อสมทบ กำลัง
๏ ขลังแขงแรงฤทธิ์สู้ ฤทธิ์กัน
ศิวะและกุมาร เดชห้าว
ยามมารบประชัน กฤษณะ
บ่อาจต่อต้านท้าว จอมคน
๏ จุมพลขว้างจักร์แก้ว ตัดกร
พาณะฃาดทั้งพัน หมดแล้ว
จะขว้างอีกไปรอน เศียรยักษ์
และคงจะไม่แคล้ว จักร์ไป
๏ แต่ไท้ศิวะเจ้า ขอโทษ
ฝ่ายกฤษณะมีชัย อยู่แล้ว
จึ่งกรุณาโปรด ตามที่ ขอแล
ตรัสเรียกซึ่งจักร์แก้ว กลับมา
๏ พาอนิรุทธ์ทั้ง อุษา
จากนครโสณิต กลับแคว้น
เรื่องนี้แสดงว่า วีระ
ใดเปรียบกฤษณะแม้น ไป่มี ฯ

ร่าย

๏ บัดนี้ขอตัดความ ตามตำนานยาวนัก จักแถลงเรื่องไท้ ให้พิสดารอีกนั้น เปนอันพ้นวิสัย ขอลัดไปตอนท้าย ว่าฦๅสายกฤษณะ เมื่อพระได้บำราบ อสูรหยาบมากมาย อีกคนร้ายมากมวล สมควรกลับคืนไป ไวกูณฐ์เทพยสถาน ตามตำนานเล่ามา ว่ามีพวกกุมาร ผู้วงศ์วารยาทพ ไปรบกวนดาบส มีนารทเปนต้น โดยความซนคนอง ปองจะล้อฤษี ดังนี้แต่งศามพะ ลูกกฤษณะองค์หนึ่ง ซึ่งยังรุ่นเยาว์วัย ให้แม้นเหมือนนารี พาไปที่ดาบส กล่าวพจน์ถามฤษี ว่าหญิงนี้คลอดลูก ทายถูกฤาเจ้าขา ว่าจะเปนอะไร ดาบสไซร้แสนโกรธ พิโรธตอบวาจา ว่าลูกนั้นจะต้อง เปนตะบองไพศาล ประหารโคตร์ยาทพ ให้ลบลับดับไป ต่อนั้นไซร้คทา ออกมาจากศามพะ อุคระเสนสั่งพลัน ตำไม้นั้นป่นปี้ เปนธุลีแล้วไป ทิ้งที่ในสาคร แต่ก่อนถึงวารี ธุลีหล่นลงบ้าง ที่หาดฃ้างธารา ไม่ช้าเปนไม้อ้อ กอดกล้วนแหลมแท้ แลสะเก็ดหนึ่งร้าย รูปเหมือนปลายหอกไซร้ ใครทำลายไม่แหลก สะเก็ดแปลกนี้เฃา เอาโยนลงธารา มีปลาหนึ่งกลืนไว้ ต่อไปประมงหนึ่ง จึ่งจับปลานั้นและ แหวะท้องพบชิ้นไม้ ซึ่งให้แก่นายพราน นามขนานชระ เอาสะเก็ดนั่นไซร้ ติดศรแทนเหล็กใช้ สืบมา ฯ

โคลง ๔

๏ ถึงครายาทพจะ สิ้นโคตร์
ลางหลากๆปรากฎ มากแท้
ดูดังสุระโกรธ กริ้วกราด
ยาทพจนสุดแก้ สุดใข
๏ ท้าวไทกฤษณะจึ่ง ชวนญาติ
ไปฝั่งทเลหนี เคราะห์ร้าย
แต่นี่แหละกลับพลาด ถนัด
และโทษแห่งการย้าย พลันเห็น
๏ เปนคราวที่ทุกข์ร้อน รำคาญ
ยาทพจึ่งชวนกัน ดื่มเหล้า
ยามเมาก็ต่างพาล วิวาท กันแฮ
เริ่มแต่เพียงหยอกเย้า ยั่วกัน
๏ ครั้นโทโษเกิดขึ้น ต่างคน
ถอนซึ่งอ้อริมหาด นั่นแล้
ใช้แทงทิ่มกันจน วายวอด
สุดที่ใครจะแก้ จะใข
๏ แลไปเห็นพี่น้อง และญาติ
ต่างประหารกันเอง และล้ม
นอนตายอยู่เกลื่อนหาด เศร้าจิต
จึ่งพระกฤษณะก้ม พักตร์ศัลย์
๏ ครานั้นชระผู้ พรานไพร
ได้พะเอินเดินผ่าน ที่นั้น
เห็นกฤษณะรำไร คิดว่า มฤคแฮ
ยิงจากระยะสั้น ถูกองค์
๏ ล้มลงและไม่ช้า ชีวัน
ก็ดับลงที่ริม สมุท
เสียแรงเก่งกาจกั่น กว่ากษัตร์ ใดใด
อนิจจาม้วยมุด สุดทราม
๏ ข้อความประวัติท้าว กฤษณะ
ฃ้าเก็บมากล่าวเพียง ย่อสั้น
เพราะเหตุที่เหลือจะ เก็บหมด ได้นอ
ประวัติกฤษณะนั้น มากมาย
๏ นารายน์ปางแปดนี้ จบลง
ตามที่ดนูพอ แต่งได้
แม้ว่าท่านประสงค์ ทราบพิส ดารฤๅ
เชิญอ่านเองอีกให้ จุใจ ท่านเทอญ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ