กัณฑ์วนประเวศน์
- เมื่อพระเวสสันดร พระราชทานม้ารถหมดทุกสิ่งแล้ว จึงตรัสแก่พระนางมัทรีว่าพี่จะอุ้มพ่อชาลีเจ้าจงอุ้มแก้วกัณหา พากันเสด็จดำเนินโดยสถลมรรคาบรรลุถึงเมืองเจตราช
- พวกเจ้าเจตราชทราบข่าวเสด็จพระเวสสันดร พากันเสด็จมาเฝ้า ทูลถวายพระนครให้ครอบครอง พระองค์มิได้ทรงรับ
- เจ้าเจตราช ส่งเสด็จพระเวสสันดรไปเขาวงกฏแล้วทรงตั้งนายเจตบุตรพรานไพรให้เป็นนายด่านรักษาประตูป่า
- พระเวสสันดรเสด็จถึงอาศรมในบริเวณเขาวงกฏ ซึ่งท้าวสักกเทวราชให้วิสสุกรรมนิรมิตไว้ แล้วทรงเพศเป็นดาบส พระนางมัทรีก็ทรงเพศเป็นดาบสินี บำเพ็ญพรตอยู่ในพระอาศรมนั้น
เต ปฏิปเถ อาคจฺฉนฺเต มนุสฺเส ทิสฺวา อันว่าพระมหากระษัตรทงงสองแลพระราชบุตร ยลมนุษย์ทงงหลาย ทวยหญิงชายฝูงราษฎร์ มาโดยมารคอนน เฉพาะพิถี พ่างกษัตรียาภิมุขเมื่อนั้น ฯ กุหึ วงฺกตปพฺพโตติ ปุจฺฉนฺติ ท้าวธก็ถาม ดงงนี้ ดูกรมนุษยทงงผอง อันว่าท้องเขาวงกฏการญ อยู่สถิตสถานตำบลใด นิวสิ้น ฯ มนุสฺสา ทูเรติ วทนฺติ อันว่ามนุษยทงงหลาย จึ่งจะกล่าวท่าวทูล แด่ พระนเรนสูรว่าดงงนี้ บพิตร อันว่าเขาวงกาจลประมาณ อยู่ทุรัศสถานกว่าชื่นแล ฯ เตน วุตฺตํ เหตุการณน้นนท่ยงแท้ อันว่าพระพุทธเจ้าผู้แปล้ปราบพลมาร ก็มีพุทธโองการ แก่สงฆ์นิกรทงงหลาย ด่งงนี้ ยทิ เกจิ มนุชา เอนฺติ อนุมคฺเค ปฏิปเถ มคฺคนฺเต ปฏิปุจฺฉาม กุหึ วงฺกตปพฺพโต ฯ โภ สาริปุตฺต ดูกรพระธรรมเสนาบดี ศรีสาริบุตร อุดมอาริยอรหันต์ เกจิ มนุชา ยทิ เอนฺติ ผิแลคนผู้ใดใครใครก็ดี แลมา อนุมคฺเค โดยปริษฎาคมามารค ปฏิปเถ ในทางราชลีลา โดยรถยาภิมุข มยํ อันว่าตูผู้ทนทุกข์ลำบาก ไพร่ขับพรากจากพระนคร ปฏิปุจฺฉาม คมนมคฺคํ ตูก็ถามพิถยันดรลิ่วลี่ที่ทางตูเสด็จ เต มนุเช แก่คนผู้เคจฉาเคจฉทางท่อง อิติ วจเนน ด้วยคำถ่องดงงนี้ โภนฺโต มหาชนา ดูกรมหาชน พู้นพี้จงสูบอกบถ วงฺกตปพฺพโต อันว่าเขาวงกฏกันดาร กุหึ าเน โหติ มีในสถานที่ใดด่งงน้นน สูเร่งซ้นนบอกแก่ตู หนึ่งรา เต ตตฺถ อมฺเห ปสฺสิตฺวา เขาเห็นตูทงงสี่กระษัตร ในทางพลัดเมืองไปปล่ยวน้นน กลูนํ ปริเทวิยุํ เขาก็ไห้พิลาปลาลศ กราบกรุณา ทุกฺขนฺเต ปฏิเวเทนฺติ เขาก็บอกความทุกขทรเหล แก่ตูผู้บันเดนบันเดอรเท้า ฯ ทูเร วงฺกตปพฺพโต บพิตร อันว่าเขาวงกฏอยู่ไกล แต่นี้ไปลิ่วลี่แล มคฺคสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ในสองข้างทางท่อง ยังซ้นนซ่องวงกาจล วิวิธผลธาริโน ไม้มีผลต่างๆ ย้อยยำย่างสุกใสทุกแห่งโสด รุกฺเข ทิสฺวา ทารกา โรทนฺติ อันว่าราชกุมารท้งงสองกระษัตร ตรบัดเห็นลูกไม้ ก็ไห้หวนวอนเอาแก่พระราชบิดา ท่านแล ฯ มหาสตฺตสฺสานุภาเวน ผลธาริโน รุกฺขา โอนมิตฺวา ด้วยอานุภาพพระศรีสรรเพ็ชญ์ สมเด็จไท้ทศพล อันว่าไม้มีผลค่าค้อม ก็น้อมนวยทวยทอดมาเอง เมื่อน้นน หตฺถสมฺผสฺสํ อาคจฺฉนฺติ มาบให้ห่างพ่างพระหัตถ์ พระโพธิสัตว์ผู้มีสํภารโสดแล ฯ ตโต สุปกฺกผลาผลานิ อุจฺจินิตฺวา เตสํ เทนฺติ อันดับน้นน อันว่าพระผู้เผ่าศรีสัมพุทธาทิตย์ ธก็ปลิดเอาลูกไม้จากศาขยอันทำนวย อวยแต่พระราชกุมารทงงสองโสดแล ฯ ตํ ทิสฺวา มทฺที สพฺพงฺคโสภนา อันว่าเจ้ามัทรีผู้งามพิเสศ คร้นนแลทอดพระเนตรแยงยลกลอานุภาพ พระผู้ปราบพลมาร ด่งงน้นน ก็ซ้นนกล่าวสรรเสรอญ เยอนยศษจรรย อันบ่ห่อนเห็น แลมาเห็นเปนปรากฏด่งงนี้ เตน วุตฺตํ เหตุการณน้นน อันว่าบ้นนพระคาถานี้ แลพระผู้นี้บาปบานบุญ อดุลยเดชโชไชย ไตรภพนารถ แกล้งประกาศแก่สงฆ์ทงงหลาย ด่งงนี้ ยทิ ปสฺสนฺติ ปวเน ทารกา ผลิเต ทุเม ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร เทฺว ทารกา อันว่าราชกุมารกุมาริกา ยทิ ปสฺสนฺติ เมาะ ยทา ปสฺสนฺติ ในกาลเมื่อใด ผิแลได้ทอดตาเห็นตรบัด ทุเม ผลิเต ไม้ลำลัดลูกซรุก แห่งไพรภิรุกขดูสรดักสรดื้น ปวเน เมาะ มหาอรญฺเ ในพ่างพื้นอรัญญิก อันวิวิกวนาลีเลอศน้นน เตสํ ผลานํ เหตุมฺหิ อุปโรเทนฺติ ทารกา เทฺว ทารกา อันว่าแก้วแก่นกัณหาชาลีราชบงงอร อุปโรทนฺติ เมาะ ปริเทวนฺติ ก็ไห้หวนวอนเอาบมิอย่า เตสํ ผลานํ เหตุมฺหิ เหตุลูกไม้ป่าเปนบนนเลง วงงเวงใจกว่าชื่นแล โรทนฺเต ทารเก ทิสฺวา ไม้ทงงหลายพาลโพธ เห็นกษัตรสองโรทร้องประปราน อุพฺพิคฺคา วิปุลา ทุมา ดาลสํเพศพนนฦก ลคึกเกรอกกรุณา สยเมโวนมิตฺวาน อ่อนเองมาปรตยาก น้อมนวยสาขยถวายผล อุปคจฺฉนฺติ ทารเก ใกล้หัตถ์ ดลดนุช สองวิสุทธเพาพาล ฯ
อิทํ อจฺเฉรกํ ทิสฺวา นางนงคราญคร้นนซ่า อัศจรรย์ป่าเปนลาง อพฺภูตํ โลมหํสนํ ปางนี้ใครค่าแจ้ง แลมาแกล้งเกอดกลัวแสยง สาธุการํ ปวตฺเตสิ แครงคํรพยบววบาท ไหว้นรนารถนักบุญ มทฺที สพฺพงฺคโสภนา อรอดุลยยศยิ่ง งามสบสิ่งสรรพางค์ อจฺเฉรํ วต โลกสฺมึ ด่งงนี้ ปางเปนเหตุ ทุกทางเทศมีมา อพฺภูตํ โลมหํสนํ เกษาแสยงสยบกรีดิ์ มีมรีดฤๅแลมามี เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน ด้วยพระพิริยพระพ่าห์ ท้ายผู้ผ่าพลมาร สยเมโวนตา ทุมาติฺ ไม้ตระการรยงร่ม บุญท้าวข่มก็โอนเอน อ่อนแลฯ
เชตุตฺตรนครโต สุวณฺณคิริตาโล นาม ปพฺพโต ปญฺจโยชนานิ อันว่าหนทางแต่เชตุดร แลจะไปถึงศิขรสุพรรณคิรีดาล มีประมาณห้าโยชน์ แล ตโต โกนฺติมารา นาม นที ปญฺจโยชนานิ อันว่าหนทางแต่สุพรรณคิรีดาล แลจะไปถึงนทีธารชื่อโกนติมารานที มีประมาณห้าโยชน์แล ตโต มารญฺชนคิรี นาม ปพฺพโต ปญฺจโยชนานิ แต่โกนติมารานที แลจะไปถึงมารัญชนบรรพต โดยกำหนดว่าไว้ก็ได้ห้าโยชน์ แล ตโต นาฬิทณฺฑพฺราหฺมณคาโม ปญฺจโยชนานิ แต่มารัญชนคิรี แลจะไปถึงนาฬีทัณฑพราหมณคามน้นนโสด ก็ได้ห้าโยชน์แล ตโต มาตุลนครํ ทสโยชนานิ แต่ป่าน้นนแลจะไปถึงมาตุลยพิไสย ไกลสิบโยชน์แล อิติ ตํ รฏฺํ เชตุตฺตรนครโต ตึสโยชนานิ โหนฺติ อันว่าหนทางแต่เชตุดร แลจะไปถึงมาตุลยนคร สามสิบโยชน์ประมาณ ด้วยประการด่งงนี้ ฯ เทวตา ตํ มคฺคํ สงฺขิปึสุ อันว่าเทพยดาก็ปรานีกระษัตรท้งงสี่ ก็บันทึกที่หนทางน้นนเข้ามา บมิให้ทุราทวาร ด่งงก่อนเลอย ฯ เต เอกทิวเสเนว มาตุลนครํ สมฺปาปุณึสุ อันว่ากระษัตรทั้งสี่ตน เสด็จวันเดียวดลมาตุลยนคร พระภูธรก็นฤทุกขแล ฯ เตน วุตฺตํ เหตุการณน้นน อันว่าพระผู้มีญาณยศยิ่ง จึ่งบนนทูรคาถาด่งงนี้ สงฺขิปึสุ ปถํ ยกฺขา อนุกมฺปาย ทารเก ฯ ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ทวยทรงศีลสงงวร ยกฺขา เมาะ อรญฺเ อธิวตฺถา เทวตา อันว่าเทพยดารักษากรถ้วนหมู่ อรญฺเ อธิวตฺถา อนนอยู่ในป่าพระหิมพานต์ พฤกษกันดารไพรยูร สงฺขิปึสุ ปถํ เมาะ เวสฺสนฺตรสฺส คมนมคฺคํ จึ่งบ่นนมูลมรรคา ที่พระมหาสัตว์จะเสด็จไป อนุกมฺปาย เมาะ อนุกมฺปตฺถาย เหตุอาไลยลาลศ ทารเก เมาะ ทารกานํ กำสรดแก่สองราชกุมาร อนนจะข้ามทุรัศทวาร ยาวโยชน์น้นน นิกฺขนฺตทิวเสเนว เจตรฏฺมุปาคมุนฺติ ฯ เต จตฺตาโร ขตฺติยา อันว่า กระษัตรท้งงสี่พระองค์ ฯ อุปาคมุํ เสด็จข้ามดงดลบหึง เจตรฏฺํ ถึงเมืองมาตุลยนคร อันอดิสรในเจตราษฎร์ นิกฺขนฺตทิวเสเนว ในเมื่อท้าวธเสด็จยุรยารตออกแล้ว เชตุตฺตรนครโต จากเมืองแก้ว พระสรรเพชญ์ภูธร อันชื่อเชตอุดดรเมืองมิ่ง อุปคจฺฉนฺตา จ ปน เชตุตฺตรนครโต ปาตราสสมเย นิกฺขมิตฺวา เสร็จเสวยงายไคลคลาส ธก็เสด็จจากราชธานี บุรีรมยท่านน้นน สายณฺหสมเย เจตรฏฺํ มาตุลนครํ สมฺปตฺตา ในกาลเมื่อสายาหยูรยาตร ธก็เสด็จถึงมาตุลยบุรีย อันเปนอธิบดีแก่เจตราษฎร์น้นน ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระไตรโลกนารถ อีกอดีตชาติสํเร็จ เสร็จสํริทธิ์พระคาถา แก่พระญาพระญาติให้ปรตยักข์ แก่ทักษิณยทงงหลายด่งงนี้ เต คนฺตวา ทีฆมทฺธานํ เจตรฏฺมุปาคมุํ อิทฺธํ ผีตํ ชนปทํ พหุมํสสุโรทกํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพารอริยสงฆ์ เต จตฺตาโร ขตฺติยา อันว่ากระษัตรทงงสี่พระองค์อนาถ ฯ คนฺตฺวา เสด็จแคล้วคลาสคลาไป ทีฆมทฺธานํ เมาะ ทูรมคฺคํ ทิศมารคอันไกล พ้นพิไสยลิ่วลี่ อุปาคมุํ ท้าวทงงสี่เสด็จดล แดนดรมวลตรบัด เจตรฏฺํ ด้าวเจตรัฎสิมาคมนาคมน อํพลด้วยจีนจาม พราหมณ์ชวารามัญ อันพิไสยไทเทศ นานาเพศทุกปลาก พวกพ้องภาคพาณิช อิทธํ เมาะ สมิทฺธํ อันสมิทธยารถรีปรียกปนก ผีตํ ดาลผิดกดูเกษม เปรมประชากรเกษตร ธนธญฺหิรญฺสุวณฺณวตฺถาลงฺการาทีหิ อันมีประเภท สทำเนือปร ธนธัญญาหาร พระหาไชย ไกรด้วยแก้วเกือบกอง เงินแลทองกว่าโกฏิ ชนปทํ เมาะ พหุชนสมากุลํ อันโจษจรรยสรรพสมากูลมูนมอง แลเนืองนองด้วยมนุษยชาติ ดยรดาษด้าวชคดี นรนารีคชคน อีกดิถยลประเทศสปรเวศบมิม้วย พหูมํสํสุโรทกํ เมาะ พหูหิ มํเสหิ สุราทีหิ อุทเกหิ สมนฺนาคตํ อันกอปรด้วยมางษมัศยาหารสุราบานบานิโยทก ให้อิ่มอกอาณาราษฎร์ถ้วนหน้า สาธุสรรเสรญถึงทุกเมื่อแล ฯ
๏ ตทา มาตุลนคเร สฏฺิขตฺติยสหสฺสานิ วสนฺติ ในกาลเมื่อน้นน อันว่า กษัตรทงงหกหมื่นตน อันอยู่ในตรมวลเมืองมาตุลยนครน้นน มหาสตฺโต อนฺโตนครํ อปวิสิตฺวา อันว่าพระมหาสัตว์ก็บมิได้เสด็จประเวศ ในนคเรศมาตุลยกันดาล อนนเปนสถานพระภูธรท้งงหลายอยู่น้นน นครทฺวาเร สาลายํ นิสีทิ ท้าวธก็เสด็จในศาลาสถาน อันอยู่แทบทวารเมืองมาตุลยนครน้นน อถสฺส ปาเทสุ รชํ ปุญฺชิตฺวา เมื่อน้นนนางก็ลูบบทบางษุบาท แห่งสมเด็จนรนารถนายก เสียโสดแล ปาเท สมฺพาหิตฺวา เจ้าก็ลูบคลำขยำพระบาทบรมบพิตรน้นน ฯ เวสฺสนฺตรสฺส อาคตภาวํ ชานาเปสฺสามีติ นางก็รำพึงพึงกู ให้ชาววยงดยงพรจมาน อนนมาแห่งพระมหาสัตว์ โสดเทอญ สาลโต นิกฺขมิตฺวา เจ้าก็ยกย่าง ออกพ้นพ่างบรรณศาลยน้นน ตสฺส จกฺขุปเถ สาลทฺวาเร อฏฺาสิ นางก็ยืนอยู่แนบ แทบทวารบรรณศาลา เนตรากริดีย ฟุ้งพิถียประชาชน อนนจะแยงยลท่านน้นน นครํ ปวิสนฺติโย จ นิกฺขมนฺติโย จ อิตฺถิโย ตํ ทิสฺวา ปริวารยึสุ อันว่าฝูงวิลาสินี สัตรีทั้งหลาย อันเข้าออกนอกพระนคร ครั้นเห็นบวรเจ้ามัทรีทิพยลักษณ ก็มีบริรักษบริบาล เปนบริพารยยุ่งแล ฯ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระอนนตทิวร อมรแมนมานุษย ปรมุธาญชลี ก็มีพระเสาวนีแก่สิขากามทงงหลาย ด่งงนี้ เจติโย ปริกรึสุ ทิสฺวา ลกฺขณมาคตํ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุนิกร อันอรเอาอนุสาศน์ เจติโย อันว่าชาวในเจตราษฎร์ สรดื้นสรดัก ทิสฺวา ครั้นเขาเห็นปรตยักขเต็มตา นํ มทฺทึ ลกฺขณํ นางพญาเยาวโยค โฉมลํ้าโลกยสาวสวรรค์ อาคตํ อันมาถับถึงพลัน พอสายัณหรเรื่อย ปริกรึสุ ก็มาอยู่มเมื่อยแห่ห้อมล้อมเปนบริพาร นางนงคราญผู้มีบุญยยุ่งแล สุขุมาลี อยํ อยฺยา อ้าด่งงจริงเจ้ามัทรี ท่านเคยสุขุมาลีลอององค์ ปตฺติกา ปริธาวติ ด่งงฤๅเจ้ามาเดอรดงอนาถ ลำบากบาทบววทอง วยฺหาหิ ปริยายิตฺวา โฉมลำยองเลอศแล้ว เคยเสด็จด้วยคานหามแก้วเก้าอี้ อ้าบัดนี้แม่มาเดอรดิน สิวิกาย รเถน จ สีพิกากิรินทไกรอาศน กวยนแก้วราชรจนา สาชฺช มทฺที อรญฺสฺมึ บัดนี้เจ้ามาในพรหารญ โออนาถนาจลดํเนอร ปตฺติกา ปริธาวติ เดอรด้วยบาทบศุข ป่งป่าทุกท้องธาร โสดแล ฯ มหาชโน เวสฺสนฺตรญฺจ มทฺทิญฺจ เทฺว ปุตฺเต จสฺส อนาถคมเนน อาคเต ทิสฺวา อันว่ามหาชน ครั้นแลยลพระมหาสัตว์และเจ้ามัทรี แลสองกุมารกุมารีอันมาด้วยดำเนอรบท ก็กำสรดด่งงนี้ คนฺตฺวา ราชูนํ อาจิกฺขิ เขาก็เอาพรจมานสารอาดูร ไปทูลแด่ท้าวเจตราชทงงหลาย เมื่อนั้น เต สฏฺิสหสฺสา ราชาโน โรทนฺตา ปริเทวนฺตา ตสฺส สนฺติกํ อาคมึสุ อันว่ากรุงเจตราชท้งงหกหมื่น ก็ตื่นตรนกนํ้าตาตกบมิขาด ก็ไปยังสำนักนิพระบาทพระโพธิสัตว์ โสดแล อันว่า พระมุนีมเหษีสาศดา ก็บนนทูรคาถาด่งงนี้ ตํ ทิสฺวา เจตปาโมกฺขา ดูกรอารย์ อันว่าภูบาลเจตราช ครั้นเห็นพระบาทพระเพศยันดร อนนมาอนุจรพิบัติองค์ โรทมานา อุปาคมุํ ทรงกรรแสงสงโรท ก็ไปยังสำนักนิพระโพธิไท้ทรงธรรม์ กจฺจิ นุ เทว กุสลํ ความนฤสัลยนฤโศก นฤโรคร้อนธยงงมี กจฺจิเทว อนามยํ นฤทุกข ทินทนโทษ ยงงได้โสดสำราญองค์ กจฺจิ ปิตา อโรโค เต เหง้าสุริยวงษบิดรราช ยงงนฤพยาธิ์นฤภัย สิวีนญฺจ อนามยํ ความอนามัยอับปรี แห่งสีพีราษฎร์มณฑล โก เต พลํ มหาราชฝูงรี้พลทาษไท้ บัดนี้ท้าวธไว้แห่งหนใด โก นุ เต รถมณฺฑลํ กวยนแก้วไกวรถคลี บัดนี้ท้าวธบขี่ขับผยอง อนสฺสโก อรถโก ม้าลำยองรถมาศ บัดนี้ ท้าวธเปลื้องปราศไปไกล ทีฆมทฺธานมาคโต ทางทยวไทจรหลํ่า บทนนคํ่าแล ธรดล กจฺจามิตฺเตหิ ปกโต เจ้าจุํพลภูมิศร์ รอยไพริศ ร้ายกำจัดจร อนุปฺปตฺโตสิมํ ทิสนฺติ ยยวภูธรทนยาก แลมาถึงทิศาภาคด้าวแดนตูอยู่นี้ อถ เนสํ ราชูนํ มหาสตฺโต อาคตการณํ กเถนฺโต อาห อันดับน้นน พระมหาสัตว์ ก็จะบอกการยาคัดแห่งพระองค์ แก่พงษพญาเจตราช ท้าวธก็มีพระสาศนสนองคืน ด่งงนี้
กุสลญฺเจว เม สมฺมา ดูกรเพื่อนพญา นิราพาธก็บมีแก่เรา อโถ สมฺมา อนามยํ ทุกขกำเดาอาดูร บจำรูญราชหฤทัย อโถ ปิตา อโรโค เม พระสญชยบพิตร สวัสดิจิตรศุขจิโรจ สิวีนญฺจ อนามยํ โทษทุกขรัญชวน บมิรัญจวนใจ ชาวสีพีพล อหํ หิ กุญฺชรํ ทชฺชํ ส่วนตนกูผู้เปนกษัตร ก็ให้ทวีรถรัตนเปนทาน อีสาทนฺตํ อุรูฬฺหวํ วารณทันตทำนวยอวยไชยชํนินรินทร์ เขตฺตญฺญุํ สพฺพยุทฺธานํ อันรู้ภูมินทรสถาน ที่จรบาลบรราช สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ ตัวตรดาษ ดํรยรัตน เปนสารสวัสดิมงคล ปณฺฑุกมฺพลสญฺฉนฺนํ บัณฑุรกำพลพรนาศ ปริศฎางพาดแพรพรรณ ปภินฺนํ สตฺตุมทฺทนํ เมามรรมทธแกล้วกล้า อาจข่มฆ่าเศอกแสยง ทนฺตึ สวาลวีชนึ สงครามแครงฟ้งเฟือด งาเงือดฟ้าฟฟ่ายหาง เสตํ เกลาสสทิสํ สุทธเสดางคดูดาษ พ้ยงไกรลาศลลาจันทร์ สเสตจฺฉตฺตํ สุปาเธยฺยํ กำราลพรรณรายรัตน์ อิกเสวตรฉัตรเสลาทอง สาถพฺพนํ สหตฺถิปํ ทงงนายจำลองแลควาญคช หมอเอาสถผสํผสาร อคฺคยานํ ราชวาหึ เปนอัครยานผายผงาด สารทรงราชเรือง มหิมา พฺราหฺมณานํ อาทาสหํ กูศรัทธาทายาทย ให้แล้วขาดแก่พราหมณ์ ตสฺมึ เม สิวิโย กุทฺธา ห้ยมน้นน ความคนโกรธ แกล้งกลับโทษแก่กู ปิตา จุปหโต มโน ทงงพระภูบดีบิดาก็บันดาล บิดลทานราชหฤทัย อวรุทฺธสิ มํ ราชา ขับภูไคลคลาเทศ เมืองช้อยเชตุดรแดน วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํ บแนน กูก็จะกว่า เขาแก้วว่าวงกาจล โอกาสํ สมฺมา ชานาถ ตรมวนใดท้าวธบอก ที่กูจะสร้างศอกศีลสงวน วเน ยตฺถ วสามฺหเสติ ดงใดควรแก่เราราช จะเสด็จไปสร้างสาธุ์จรรยา จงมหากษัตรทงงหลาย บอกรา ฯ ตโต ราชาโน อาหํสุ ท้าวพญาทงงหลาย จะถวายโภชนาหาร ก็ทูลสารแด่พระมหาสัตว์ ด้วยคาถาด่งงนี้
สฺวาคตนฺเต มหาราช บพิตร ท้าวธเสด็จมาเขษมสาธุ์ เพื่อตูข้าเหนราช เหนหรรษ์ อโถ เต อทุราคตํ พอสายัณห์เรื่อยรีบ พ้ยงสมีปเมืองดยว อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต ธงทยวฉัตรศรีเศก เชอญธมาเปนเจ้าเอกไอสูรย์ ยํ อิธตฺถิ ปเวทย ทรัพย์ใดดูรลลํ้าโลกย ท้าวธอาโภคตูข้าขอถวาย สากํ ภิสํ มธุํ มํสํ บพิตร ยงงผักทงงหลายแลเนื้อนฤโทษ ภิงสระสโรชแปมมฤธุรศ สุทฺธํ สาลีนโมทนํ โอทนหมวดขาวถ่อง สาลีผ่องสุทธใส ปริภุญฺช มหาราช เครื่องเสวยใดดูตระการ เชิญพระภูบาลบริโภค ปาหุโน โนสิ อาคโตติ เจ้าจอมโลกยรงงแรก มาเปนแขกแก่ตู ด่งงนี้ ฯ ตโต เวสฺสนฺตโร อาหฺ พระธราธาร ก็มีพระราชโองการแก่กษัตรทงงหลาย ด่งงนี้ ปฏิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ เครื่องใดท้าวธบูชิต เราก็ปฏิคคหิตด้วยศรัทธา สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ ย่อมอคาการควรกษัตร เสพพัศดุเป็นบังคล อวรุทฺธสิ มํ ราชา พระสญชัยยินราษฎร์ แกล้งบัพพาชกูไกล วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํ กูก็จะไปยังวงกฏ เอชคตคืนดยว โอกาสํ สมฺมา ชานาถ ท้าวก็ครยวทูลข่าว บอกกล่าวห้องหิมพานต์ วเน ยตฺถ วสามฺหเสติ ป่าใดดาลยงเยือก กูก็จะเกลือกเต้าตื่นไป ป่าน้นน ฯ เต ราชาโน อาหํสุ อันว่าท้าวเจตราชทงงหลาย ก็ทูลด้วยอภิปรายตน ด่งงนี้ อิเธว ตาว อจฺฉสฺสุ บพิตรเชอญเสด็จในสถานนี้ก่อน เพื่อตูข้าห่อนเห็นพระองค์ เจตรฏฺเ รเถสภ เชอญท้าวธมาทรงธรณิศ ล้ยงกษีดิศรโดยธรรม์ ยาว เจตา คมิสฺสนฺติ กว่าพลพรรค์ชาวเจต ลุประเทศท้าวสญชัย รญฺโ สนฺติกยาจิตุํ เพื่อจะไปถวายนมัศกราบเกล้า ขอโทษเจ้าใจบุญ นิชฺฌาเปตุํ มหาราชํ เพื่ออย่าให้ท้าวธฟุนไฟโกรธ จงรู้ว่าท้าวธหาโทษบมิได้สักอัน สิวีนํ รฏฺวฑฺฒนํ ท้าวธล้ยงจตุรพรรค์ล้ำโลกัฎ สิวีรัวัฒนนิรันดร ตํ ตํ เจตา ปุรกฺขตฺวา พวกตูภูธรหกหมื่น ก็จะตั้งเปนเจ้าหื่นมไหสวรรย์ ปตีตา ลทฺธปจฺจยา ครั้นตูได้ธมาเปนเจ้า ก็จะชมชื่นเท้าวันตาย ปริวาเรตฺวาน คจฺฉนฺติ ตูทงงหลายเหลือแหล่ ก็จะแหนแห่ท้าวธเมือเมือง เอวํ ชานาหิ ขตฺติยาติ ท้าวธอย่าเคืองใจเลยพ่อ ใข่ตูข้าฬ่อลวงพลาง ปางนี้ท้าวธดำรัส ตรัสเองทรพ่อฮา ฯ
๏ มหาสตฺโต อาห อันว่าท้าวผู้เผ่าตถาคต ก็มีพระพจน์ด้วยคาถาด่งงนี้ มา โว รุจิตฺถ คมนํ จงฝูงท้าวอย่าท่าว ไปทูลข่าวขัดใจกู รญฺโ สนฺติกยาจิตุํ สูอย่าป่วยไปขอโทษ การกษัตรโกรธฤๅวาย นิชฺฌาเปตุํ มหาราชํ เพื่อจะให้ท้าวธหายหฤทัยคยด ว่ากูบได้กยจการกิจ ราชาปิ ตตฺถ นิสฺสโร โทษบพิตรท้าวธก็ฟุน คุณอันชอบท้าวธบเห็น อจฺจุคฺคตา หิ สิวิโย ความเข็ญใครยุญาติ ฝูงร้ายราษฎร์รังทำ พลคฺคา เนคมา จ เย หมู่ดำนาดำไร่ พ่อค้าไพร่พระนคร เต ปธํเสตุมิจฺฉนฺติ เขาก็จะขับพระภูธรบิตฤราช จากปราสาทปรางทอง ราชานํ มม การณาติ มามูลมองมี่กึก เปนศึกใหญ่หยาวเมือง เพื่อกูรำคาญเคืองใจ ไพร่นั้น ฯ
๏ เต ราชาโน อาหํสุ อันดับน้นน อันว่าท้าวเจตราชทงงหลาย ก็ถวายนมัศการ ก็ทูลสารด้วยคาถา ด่งงนี้ สเจ เอสา ปวตฺเตตฺถ บพิตร แม้พระบาทบมิไป ยังเชตุตราลัยคืนเล่าไซ้ รฏฺสฺมึ รฏฺวฑฺฒนํ หฤทัยท้าวธอุทโยค ย่อมเล้ยงโลกย์โดยธรรม์ อิเธว รชฺชํ กาเรหิ เชอญธเสวอยไอสวรรย์สมบัติ ในเจตรัษบ้านบริมณฑล เจเตหิ ปริวาริโต พลพญายุพราช ก็จะดยรดาษล้อมเปนบริพาร อิทฺธํ ผีตญฺจิทํ รฏฺํ แท่งธนสารแสนโกฏิ เมืองตูข้าโสด สํฤทธิ อิทฺโธ ชนปโท มหาราษฎรบริตเพ็ญภูล พิบูลยเบอกสิมา มตึ กโรหิ ตฺวํ เทว เชอญธกรุณาแก่ตูข้า ก็จะตั้งหน้าที่จะบำเรอ รชฺชสฺส มนุสาสิตุนฺติ เพื่อพระเสมอพระมุนีนารถ ก็จะสอน ประชาราษฎรให้เห็นธรรม วิเศษนั้น ฯ ตโต เวสฺสนฺตโร อาห อันว่า พระผู้เปน ปิ่นเกล้าราชตรกูล ก็มีพระบันทูรด้วยคาถา ด่งงนี้ น เม ฉนฺโท มติ อตฺถิ ดูกร ท้าวเจตราชกรุงกษัตร ใจกูบมิใคร่เสวยสมบัติสักอัน รชฺชสฺส มนุสาสิตุํ เพื่อจะ สอนราษฎรกรรม์ให้ชอบ ใครแลจะขอบใจกู ปพฺพาชิตสฺส รฏฺสฺมา สูอย่าป่วยให้ กินเมือง เขาก็จะขับหนีเนืองนิรันดร เจตปุตฺตา สุณาถ เม พวกภูธรเจตราช จงมาฟังพระสาศนกูสนอง อตุฏฺา สิวิโย อสฺสุ พลทงงสองสีพีราษฎ์ ก็จะบาดเนื้อ บาดใจฟุน พลคฺคา เนคมา จ เย ไพร่ฟ้าขุนนางใหญ่ ชาวนาไร่ฤศยา ปพฺพาชาติสฺส รฏฺสฺมา เขาก็จะว่าพญานี้มีโทษ เรากริ้วโกรธขับหนี เจตา รชฺเชภิเสจยุํ บัดนี้ท้าวธรณีหกหมื่น แลมาตื่นตั้งเปนนาย อสมฺโมทิยํปิ โว อสฺส ความสหาย สองเสน่ห์ ก็จะสนเท่ห์ท้ยนทำเข็ญ อจฺจนฺตํ มม การณา เพราะกูเปนประเดยก ปรตยันตเอกไอสวรรย์ สิวีหิ ภณฺฑนญฺจาปิ ความชํเลาะกนนก็จแรก ความประแกกกนนก็จริน วิคฺคโห เม น รุจฺจติ สองแผ่นดินดาลโกรธ บมิควรแก่ตูผู้จะมล้าง ปลิโพธภายใน อถสฺส ภณฺฑนํ โฆรํ วิเคราะห์ใจเจ็บแสบ ก็จะเปนส้ยนแปลบปลาบแทง สมฺปหาโร อนปฺปโก ก็จะต่อตาวแยงยุทธใหญ่ บช้าใช่สามาญ เอกสฺส การณา มยฺหํ เพราะกูดยวดาลโทษ ก็จะให้สองชาวเจ้าโกรธแก่กัน หึเสยฺย พหุโก ชโน ต่างพลขันธ์เข่นฆ่า หอกดาบกล้ากลางรงค์ ปฏิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ เครื่องบันจงธประสาท กูก็รับด้วยอาตมศรัทธา สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ ควรแก่เราผู้มาเปนแขก ย่อมสูแผกพึงชม อวรุทฺธสิ มํ ราชา พระราชบิดาสมพลไพร่ ขับกูไปล่เมืองมา วงฺกํ คจฺฉามิ ปพฺพตํ กูก็จะไปยังวงกาจล อยู่ตรมวนไพรพง โอกาสํ สมฺมา ชานาถ จงทวยเท้าประกาศ ห้องหิมวาศน้นนแก่กู วเน ยตฺถ วสามฺหเสติ ป่าใดดูอติเรก ควรแก่กูผู้จะสร้างวิเวกวักกรรมอยู่น้นน ฯ เอวญฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต อเนกปริยาเยน ยาจิโตปิ รชฺชํ น อิจฺฉิ อันว่าพระมหาสัตว์ แลกษัตริย์ท้าวธรณีนิมนตรายาจน์ เพื่อจะให้ท้าวธเสวยราชสมบัติ ด้วยอเนกบรรยายก็ดี ท้าวธก็บมิอิษฏิ์ที่จะสถิตย์ ในราไชสวรรย์ โสดเลอย อถสฺส เจตราชาโน อันดับน้นน อันว่าท้าวเจตราชทงงหลาย ก็ถวายเครื่องบูชาบรรณาการ อันมเหาฬาร แก่ท่านแล ฯ โส อนฺโตนครํ อันว่าพระมหาบุรุษราช ธก็บมิปรารถนาที่จะประเวศน์ ยังเมืองท้าวเจตราชท้งงหลาย โสดเลอย ฯ
๏ อถ นํ สาลเมว อลงฺกริตฺวา อันว่ากษีดิศร สุริยทงงหลายผู้มียศ ก็ อลงกตศาลา ที่พระมหาสัตว์เสด็จอยู่น้นน สาณิยา ปริกฺเขปํ กตฺวา แล้วก็ประดับ ศาล ด้วยพิดานดาวทอง นาคตระกองสายสาณีรูจีจำรัส ฉวัดฉวยนวยนวัง เปน ผนงงรอบแล มหาสยนํ ปญฺาเปตฺวา ก็ลาดพระกำราล สถานพระบรรธมที่ พระศรีสํพุทธาทิตย ท้าวธเสด็จสถิตยอยู่น้นน สพฺเพ ราชาโน อารกฺขํ กตฺวา ปริวารยึสุ กรุงเจตราชเปนบริพาร ก็บริบาลพระโพธิสัตว์อยู่แล ฯ โส เอกรตฺตึ วสิตฺวา เตหิ สงฺคหิตารกฺโข สาลายํ สยิตฺวา อันว่าพระโพธิสัตว์ แลท้าวเจตราชทงงหลาย แห่ห้อมล้อมเปนบริรักษ ธก็พำนักนิในศาลา สิ้นราตรีหนึ่งแล ฯ ปุนทิวเส ปาโตว นฺหาตฺวา ครั้นอุทัยทินกร พระภูธรก็โสรจสรง ชำระองค์โดยจิตร์แล นานคฺครสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา ธก็เสวอยพระกระยาหาร อันนานัประการต่างต่างแล ฯ เตหิ ราชูหิ ปริวุโต สาลโต นิกฺขมิ พระภูมิธิบดีเจตราช ดยรดาษหน้าหลังหลาม ทงงทักษิณพามพิพิธ โดยเสด็จอนุยาทิตยยาตรา จากศาลาลยน้นน เตสฏิฺสหสฺสขตฺติยา เตน สทฺธึ ปณฺณรสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา อันว่าท้าวเจตราชทงงหกหมื่น หื่นหรรษาโมทย์ ก็ไปโดยมารคสิบห้าโยชน์สมรรถ ด้วยพระมหาสัตว์แล วนทฺวาเร ตฺวา ก็อยู่ในชั้นช่อง ที่ทางจะท่องเทา สู่เขาวงกฏน้นน ปุรโต ปณฺณรสโยชนมคฺคํ อาจิกฺขนฺตา อาหํสุ ท้าวเจตราชก็บอกบถ บัณรสโยชน์แด่พระโพธิสัตว์ ให้ธตรัสจงแจ้ง ก็แกล้งกล่าวคาถา ทูลพระกรุณาด่งงนี้ ตคฺฆ เต มยมกฺขาม ยถาปิ กุสลา ตถา เทว บพิตร ข้าแต่พระชคัตรยาพดงพงษประภาสกร มยํ อันว่าตูข้าพํพวกภูธรทงงหลาย กุสลา เมาะ เฉกา ก็ดยงดำรัสตรัสตรา รู้สารอรรถโอวาท โดยบุรพาทิภูบาล ยถา ประการด่งงฤๅนี้วไส้ อกฺขาม เมาะ วกฺขาม ก็จำบอกถไถ้ถแถ้ แต่ตามเพรงพรํ่าพร้อง ตํ ปเทสํ ห้องพิมพานต์อาวาศ ที่มูลมารคทุราคม ตคฺฆ เมาะ เอกํเสน โดยนุกรมบุรพราวรวด ซึ่งแสวงผนวชบวชเปนอาริย ตถา ด้วยประการด่งงนี้ ราชิสี ยตฺถ สมฺมนฺติ ประเทศใดธนรนารถสถิตย์ ทรงบรรพชิตสร้างศรีลาศรย อาหุตคฺคี สมาหิตา ย่อมมีในกรรคตา บูชาชวาลยวิธี กุณฑ์ เอส เสโล มหาราช บพิตร ขุนเขาขยวชรอํ่า อรถ่ำพู้นเห็นมา ปพฺพโต คนฺธมาทโน ทรงคนธาสิบสิ่ง จึงรยกคันธมาทน์มิ่งไม้มีพรรณ ยตฺถ ตฺวํ สห ปุตฺเตหิ บาทบรรพตพระบาท เสด็จด้วยสองรักราชน้อยนงพาล สห ภริยาย อจฺฉสิ อีกประการเทวีศ เหง้ากระษีดีศรดวงสมร ตํ เจตา อนุสาสึสุ พลภูธรนรนารถ แส้งอนุสาศนเตือนใจ อสฺสุเนตฺตา รุทมฺมุขา น้ำตาใครข้ากล้นน นบท่านชั้นทูลสนอง อิโต คจฺฉ มหาราช เชอญธเสด็จโดยคลองทิศาภาค แต่นี้จากตูไกล อุชุํ เยนุตฺตรามุโข ก็ไปโดยอุตตราภิมุขย ทางอุชุกเชราะธาร อถ ทกฺขสิ ภทฺทนฺเต ธจะเห็นไศลสถานหนึ่ง อันน้นนกึ่งกลางหน เวปุลฺลํ นาม ปพฺพตํ ชื่อวิบุลาจลจรฟ่ยว อยู่ปล่ยวข้างทางเทอญ นานาทุมคณากิณฺณํ พฤกษาเจรอญจราวดอก สรดื้นงอกรยงรนน สีตจฺฉายํ มโนรมํ พนนแสงเทาท่ยงชาย สรลายร่มรยงรมย์ ตมติกฺกมฺม ภทฺทนฺเต ข้ามพนมวิบุเลศ ป่าประเวศวนนดยว อถ ทกฺขสิ อาปกํ บทันครยวยามครึ่ง ก็จะเห็นแม่นํ้าอันหนึ่งไหลมา นทึ เกตุมตึ สํญาชื่อเกตุมดี นทีธารทรหวล คมฺภีรํ คิริคพฺภรํ ยันยงยวนไหลหล่อ ในทางท่อเขาเขียว ปุถุโลมมจฺฉากิณฺณํ ชลจรทยวทึกทำ บรู้กี่ส่ำล่าเลมไคล สุปติตฺถํ มโหทกํ ดยรถประไพบบก บูรโณทกบบาง ตตฺถ นฺหาตฺวา ปิวิตฺวา จ เชอญธเสด็จกลาง สรงสรนาน เสวอยทึกธารสรอาด อสฺสาเสตฺวา สปุตฺตเก ท้าวธก็โลมพระราชเอารส ชํชลหมดมุทิล อถ ทกฺขสิ ภทฺทนฺเต ถัดน้นนพระนรินทร์ก็จะบงพระไนยน์ โดยแชรไชชรชงงวารพน นิโคฺรธํ มธุวิปฺผลํ ธก็จะยลนิยโครธ ต้นตรโมจมีรส รมฺมเก สิขเร ชาตํ ร่มบังหมดหมื่นช้าง พูนพ่างข้างเขาหลวง สีตจฺฉายํ มโนรมํ ทิพฉายฉวงฉินฉัตร ใบชรอัดอรชร อถ ทกฺขสิ ภทฺทนฺเต อันดับน้นนธก็ยลบรรพต เอกปรากฏกันดาลไพร นาลิกํ นาม ปพฺพตํ นามไธยอทึก ชื่อนาลึกไศลเลณ นานาทิชคณากิณฺณํ ปักษีเสนนาเนก ทงงครุธเวกเวหา เสลํ กึปุริสายุตํ แท่งเดียวตราตรึงแผ่น กินนรีแอ่นกินนราการ ตสฺส อุตฺตรปุพฺเพน โดยอิสาณนาลึก ทางเท้าทึกอนุจร มุจลินฺโท นาม โส สโร มีสระษรโสถลา สํญาชื่อมุจลินทร์ ปุณฺฑรีเกหิ สญฺฉนฺโน อันประดับด้วยอรพินธุเนานึก บุณฑรึกจงกล เสตโสคนฺธิเยหิ จ อีกอุบลพนนฦกนิ์ เสาวคนธึกพนนฦๅ โส วนํ เมฆสงฺกาสํ ป่าคือเมฆพยู่ห ท้าวธเสด็จสู่อาไศรย ธุวํ หริตสทฺทลํ หญ้าแพรกไพรสรดิ้ว สูงสี่นิ้วนิรันดร สีโหวามิสเปกฺขีว ท้าวธคือไกรษรงามสง่า เสด็จเข้าป่าเปนชี วนสณฺฑํ วิคาหิย เดอรดุจสีหตรศักดิ์ แสวงหาภักษ์กลางพน ปุปฺผรุกเขหิ สญฺฉนฺนํ อารญสร้อยสรพู่ ธรณีรู่ดวงดยรถ์ ผลรุกฺเขหิ จูภยํ บุษปผลผยรถ์กองกิ่ง สองสิ่งไม้มีพรรณ ตตฺถ พินฺทุสฺสรา วคฺคู อันอนรรค์ด้วยพิหคากร พินธุสรสยงมาทูร นานาวณฺณา พหู ทิชา พรรณากูลนาเนก ปีกเพียงเลขลายงาม กูชนฺตมุปกูชนฺติ ร้องโดยยามสรุโนก ถ้อถอยโบกบินฉวาง อุตุสมฺปุปฺผิเต ทุเม จับพฤกษางกูรกัลพุม โดยกุสุมฤดูกาล คนฺตวา คิริทุคฺคานิ ครั้นภูบาลเสด็จเทา ทางเชราะเขาขนองไพร นทีนํ ปภวานิ จ มีชลไหลบเอื้อน บเปื้อนแชะชํ่าชล โส อทฺทส โปกฺขรณึ ท้าวธก็จะยลสระสโรช อันชื่อโบษขรณี กรญฺชกกุธายุตํ อันมีทรุมทํทุมแลไหล้ กุ่มบกใคร้ศรักสาร ปุถุโลมมจฺฉากิณฺณํ อันตระการด้วยชลจร มกรกุมภ์มินมัจฉกุรุมกรรกฎนลโปไลย สุปติตฺถํ มโหทกํ ดยรถประไพพิจิตร วรวาริตบรบูล สมญฺจ จตุรสฺสญฺจ เปนจดูรโกณก ครรโภทกเพ็ญพยง สาธุํ อปฺปฏิคนฺธิยํ นํ้าล้นลยงเอมโอช คนธาโมทยกํจร ตสฺสา อุตฺตรปุพฺเพน โดยอิสาณนานดรแห่งสโรช สระโบษขรณี ปณฺณสาลํ อมาปย เชอญต้งงบรรณศาล ฤๅษีพิศาล ในที่สถานพิสุทธิ์ อันอุดดมพิเศษเทอญ ฯ ปณฺณสาลํ อมาเปตฺวา อุญฺฉาจริยาย อีหถาติ ฯ เทว บพิตร ข้าแต่ตนุชาธิราชท้าว สญชัย ตุมฺเห อันว่าเจ้ากูผู้จะไคลคลาศ ปราศจากตูข้าไปนาน ปณฺณสาลํ อมาเปตฺวา ครั้นธสร้างบรรณศาลสำฤทธิ์ ยาเปตฺวา จงธรักษาชีวิตรโดยธรรม กรรมกสิณภาวนาภาพ อุญฺฉาจริยาย ด้วยลุลาภแสวงหา สรรพาหารรบศ อปฺปมตฺตา จงเจ้ากูสรคตครองศีลสาธุ์ ท้าวธอย่ามีประมาทสักอัน อีหถ เมาะ อารทฺธวิรียา หุตฺวา จงท้าวธทรงพิริย พิบรรษนาเนานิจ ตั้งใจจิตรโคษดม ตสฺสํ ปณฺณสาลายํ ในอาศรมอาศน์สนุกนิ อย่ารู้มีทุกข์สักอัน พ่อฮา ฯ เอวํ เจตราชาโน ตสฺส ปณฺณรสโยชนมคฺคํ อาจิกฺขิตฺวา อันว่าท้าวเจตราชก็มีพจนาโรจ หนทางสิบห้าโยชนสมรรถ แต่พระโพธิสัตว์ด้วยประการดังนี้ ตํ อุยฺโยเชตฺวา ก็ส่งสมเด็จบรมโลกั พระโพธิสัตว์เข้าไป ป่าน้นน เวสฺสนฺตรสฺส อนฺตรายภยา ท้าวเจตราชก็ดำรัสดังนี้ เหตุภีตภยันตราย แต่พระเพศยันดร อันว่าปรปักษผู้ใด จงอย่าได้ลุกลาภ ปราบดลสถาน เพื่อจะประหารประหร พระเพศยันดรราชน้นน เอกํ พฺยตฺตํ สุสิกฺขิตํ เจตปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ก็ให้หานายเจตบุตร ลุทธกเนสาท อันฉลาดฉลยว ในทางทยวทุกช่องน้นน ตาต ตฺวํ คจฺฉนฺเต อาคจฺฉนฺเต จ ปริคณฺหาหีติ กลอยบงงคับคำนับ ดงงนี้ ดูกรนายเจตบุตร จงมีรวังระไว มานุษย์อันจะไปจะมา ในมารคาลยนี้เทอญ ฯ วนทฺวาเร อารกฺขณตฺถาย เปตฺวา กรุงเจตราชภูบาล ครั้นประดิสถาน เจตบุตรลุทธกเปนนายกพน ในตำบลปตูผลูมรรคา เพื่อจะให้รักษาป่าน้นนแลแล้ว ฯ สกนครํ ปจฺจาคมึสุ ท้าวเจตราชหกหมื่น คฤๅนรี้พลอื้ออึง ก็เสด็จถึงวยงเล่าแล ฯ
๏ เวสฺสนฺตโร สปุตฺตทาโร คนฺธมาทนํ ปตฺวา ส่วนพระผู้มีบุญ กับด้วยดรุณดรุณี อีกเจ้ามัทรีก็ลีลาศ ถึงคันธมาทน์บรรพตน้นน ตํทิวสํ ตตฺถ วสิตฺวา ธก็เสด็จจ้งงจรด ในคันธมาทน์บรรพตสถาน เป็นอาทิวารวันหนึ่งแล ตโต อุตฺตราภิมุโข วิปุลปพฺพตปาเทน คนฺตฺวา รุ่งน้นนธก็เสด็จโดยอุตราภิมข ดำเนอรยคดิยร ยาตร ดลบาทบรรพตคตครรไลย ลยบตีนไพบูลย์บรรพตน้นน เกตุมตีนทีตีเร นิสีทิตฺวา ธก็เสด็จเอาอาศนสำราญ แทบธารเขตร เกตุมดีนทีธิกน้นน วนจรเกน ทินฺนํ มธุรมํสํ ขาทิตฺวา ธก็เสวอยเนื้อและนํ้าผึ้งอันพิเศษ อันนายเจตรบุตรพราน ถวายเปนบรรณาการบพิตรน้นน ตสฺส สุวณฺณสูจึ ทตฺวา ธก็ถอดพระอินท์ปิ่นมาศ ประสาทแก่นายพนจรน้นน ตตฺถ นฺหาตฺวา ปิวิตฺวา ท้าวธก็โสรจสรงพระปาณี ใน เกตุมดีนทีธิกน้นน ปฏิปสฺสทฺธทรโถ คร้นนธละห้อยกัลหายอันสรรพาดูร ก็จำรูญ ในพระองค์ท่านน้นน นทึ อุตฺตริตฺวา แล้วธก็เสด็จจากชลดลฉนยร อันอากยรณด้วยศิลาลาด รองพระบาทพระบรมบพิตรน้นน สานุปพฺพตสฺส สิขเร ิตสฺส ธก็เสด็จเอาอาศน บัดแม่งแห่งต้นไทร อันอาศรัยแก่สิงขรคีรีสาณุบรรพตน้นน นิโคฺรธผลานิ ขาทิตฺวา ธก็เสวอยผลนิโครธ ต่างพระโภชนาหารแล อุฏฺาย คจฺฉนฺโต แล้วธก็ลุกจากอาศน์ นิยโครธาวาศวิไสย ก็ลีลาไปโสดแล นาลิกํ นาม ปพฺพตํ ปตฺวา ท้าวธก็เสด็จไปบหึง ก็ถึงนาลิกบรรตน้นน ตํ ปริหรนฺโต ท้าวธก็เสด็จไป โดยดำเนอรเทอนเทา ลยบข้างเขานาลิกน้นน มุจลินฺทสรํ คนฺตวา ธก็เสด็จดล ดำบลมุจลินทร์สระน้นน สรตีเรน ปุพฺพุตฺตรกณฺณํ ปตฺวา ก็ถึงมุจลินทร์อันหนึ่ง กึ่งนทีเสลาสถานนาสิกาจลน้นน เอกปทิกมคฺเคน วนฆฏํ ปวิสิตฺวา ท้าวธก็เสด็จ เต้าเข้ายงงวงกฏ โดยบททยว ดยวบาทจรน้นน ตํ อติกฺกมฺม ท้าวธก็เสด็จข้ามพงพี พ้นพิถียคลองแคบน้นน คิริวิทุคฺคานํ นทีนํ ปภวานํ ปุรโต จตุรสฺสโปกฺขรณึ สมฺปาปุณิ ท้าวธก็เสด็จดลตระบัดร จตุรัศโบษขรณี อันมีในพ่างแพนก นํ้าแซรก อัจโลธรชรธารา มาแต่ตรมวนพหลนทีธาร ประวาลชลบมิขาดน้นน
๏ ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการิ ทสฺเสสิ ในกาลนั้น อันว่า บ้นนบัณฑุกัมพลรัตนาศอาศนอัมเรสูร ก็สำแดงอูณหาการ ดาลอัศจรรย์โสดแล ฯ
๏ อถ สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา อันว่าพระอินทร์ก็ดำริห์ตริตรัส ก็รู้การณ์อันอุบัติด่งงน้นน มหาสตฺโต หิมวนฺตํ ปวิฏฺโ พระอินทร์ก็จินดานุญาณเสร็จ อันว่าท้าวผู้หน่อสรรเพ็ชญ์ เสด็จสู่พนพิศาล หิมพานต์ประเทศน้นน ตสฺส วสนฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏฺตีติ อันว่ากูก็พึง ถวายสํนึงสํนักนิ์ แต่ท้าวผู้ตัณหักกษยประลยบาป ปราบเบญจพิธมาร อยู่น้นน วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา คร้นนธรำพึงโดยอัตโนมดี ธก็รยกสูรสิลบีมาเมื่อน้นน อิติ วตฺวา ธก็มีอินทรานุสาศน์ด้วยพลนน แก่พิศวกรรม์ด่งงนี้ คจฺฉ ตาต ตฺวํ วงฺกตปพฺพตกุจฺฉิมฺหิ รมณีเย าเน อสฺสมปทํ มาเปตฺวา เอหีติ ดูกรพระพิศวกรรม์ จงไปสรรค์อาสมบท ในท้องวงกฏกันดาร อันพิศาลสรนุกนิ์ ปลุกตาโลกย์ เพื่อจะให้ท้าวผู้ยศโยคเสด็จสถิตย์ สำฤทธิ์แล้วแลธมาเล่าเทอญ วิสฺสกมฺมํ เปเสสิ พระอินทร์อันเปนเจ้า แก่อมราสวรรค์ ก็ใช้พระพิศวกรรม์ไป โสดแล ฯ
๏ โศ สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อันว่าเทพวัฑฒกี ก็รับสุเรสูรเสาวนีว่าสาธุแล เทวโลกโต โอตริตฺวา สุเรารสจากสุราลัย รลัดไดดยวก็ดลดิน โสดแล ตตฺถ คนฺตวา ก็ผยองไปยงงไพร พระหิมพานตประเทศนั้น เทฺว ปณฺณสาลาโย เทฺว จงฺกเม รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ จ มาเปตฺวา ก็นฤมิตรบรรณศาลาสองอัน ก็สรรค์ ที่ธจะจรจงกรมทงงคู่ ก็รจนาที่อยู่รัศตินทิวไทวย ดูประไพพิจิตรแล จงฺกมโกฏิยํ เตสุ เตสุ าเนสุ นานาปุปฺผวิจิตฺเต ปุปฺผคจฺเฉ กทลิวนานิ จ ทสฺเสตฺวา แล้วก็ รจิตรกุสุม ชุํนุํเปนกอ ลออดวงต่างต่าง บให้ห่างให้ชิด พรรณพิพิธไพโรจอีก โจษจรรพราย พิบัลยพิบุษย อุดดมสถานน้นนๆ ทุกแห่งแหล่งหววจงกรมอาศนอาศรม สรนุกนิน้นนๆ สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทตฺวา ก็ลำดับเครื่อง บรรพชิต บริษการไว้ในบรรณศาลน้นน โสดแล เย เกจิ ปพฺพชิตุกามา อิเม คณฺหนฺตูติ อกฺขรานิ ลิขิตฺวา พระพิศวกรรม ก็จารอักษรทงงหลาย ลายลิขิตไว้ใน บรรณศาลด่งงนี้ ผิบุคคลผู้ใด ใครแลจะปรารถนา ทรงผนวชบวชบรรพชิต ครั้น อ่านลิขิตจงเอาเครื่องบริษการ ในสถานนี้โภค เทอญ ฯ อมนุสฺเส จ เภรวสทฺเท มิคปกฺขิโน จ ปฏิกฺกมาเปตฺวา อันว่าพระพิศวกรรม ก็ยงงไปศาจผีเสื้อเนื้อแลนก อันมีเสียงตรดกพึงภีต บมิให้กีดให้ก้อง บมิให้ร้องระงี่มี่ระงม ก็ขับหนีจากอาศรม พระศรีสรรเพ็ชญ์ ที่ท้าวธเสด็จอยู่น้นน สกฏฺานเมว คโต แล้วธก็คลาไคล สู่ที่ ไพชยนต์สถานแห่งท่านแล ฯ
๏ มหาสตฺโตปิ เอกปทิกมคฺคํ ทิสฺวา ส่วนพระมหาสัตว์ครั้นเห็นเสร็จ ทาง ที่ธจะเสด็จดำเนอรผเชอญมารค เมอลมวลบาทจุจร ยงงภยันดรกันดาร อันเทพนฤมานนฤมิตน้นน ปพฺพชิตานํ วสนฏฺานํ ภวิสฺสตีติ สลฺลกฺเขตฺวา ธก็รู้ว่าอาวาศประดิษฐ์ เปนที่สถิตสถาพร แห่งสรมณสรสรนุกนิน้นน มทฺทิญฺจ ปุตฺเต เจ อสฺสมปททฺวาเร เปตฺวา ธก็ไว้นางหน่อไท้แทบทวารอาศรมบท แลสองเอารสราชน้นน สยํ อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ส่วนท้าวธก็เสด็จเข้าไป ในสถานพิหารพิจิตรนั้น อกฺขรานิ โอโลเกตฺวา ธก็เลงลายเลข อันสุรดิเรกจารไว้ ในบรรณศาลาน้นน โสดแล สกฺเกน ทิฏฺโสฺมีติ สกฺกทตฺติยภาวํ ตฺวา ธก็รู้ด่งงนี้ อันว่ากูนี้อินทรเห็น ปรตยักษ์ ว่ากูจะพํนักในอาศรมบทนี้ ปณฺณสาลทฺวารํ วิวริตฺวา ปวิสิตฺวา ธก็เบิกใบทวารบรรณศาล เข้าไปบอยู่เลย ขคฺคญฺจ ธนุญฺจ อปเนตฺวา ธก็ปลดปลงกํพล พระขรรค์ แลกุทันอาวุธไว้ในที่น้นน สาฏกํ โอมุญฺจิตฺวา ธก็ผลัดแผลงแครงเครื่อง อันบริสุทธิ์ ทุษฐพรรณออกแล รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา ธก็ทรงผ้าฝาดราษตวาจีร เครื่องทรงศีลเปนดาบศแล อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา ธก็พังพาต อชินะจรรมหนังป่า เปลื้องพระพาหุข้างเดียวออกแล ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา แล้วท้าวธก็ทรงชฎามณฑล ถวลพัตรบริสุทธน้นน อิสิเวสํ คเหตฺวา ธก็เอาเพศบรรพชิต เป็นฤๅษีสิทธิ์สํฤทธิแล กตฺตรทณฺทํ อาทาย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ธก็ทายทัณฑ์จรจรดบทออก สู่นอกบรรณศาลาลยน้นน ปพฺพชิตสิรึ สมุฏฺหนฺโต ธก็เกิดปรีดารมย์ ชื่นชมบรรพชิตเพศ อันพิเศษพิสุทธนั้น อโห สุขํ ปรมสุขํ ปพฺพชฺชา เม อธิคตาติ ฯ โพธิสตฺโต อันว่าพระโพธิสัตว์ ผู้จะหวังตรัสเปนพระชนะแก่พลมาร อุทานํ อุทาเนนฺโต ธก็มีพระราชโองการชื่นชม อิติ เปนปฐมด่งงนี้ ปพฺพชฺชา ที่แท้อันว่าบรรพชิต ทรงพิริยสิทธิสมาธิ์ เม อธิคตา แลกูแกล้งปรารถนาลุแล้ว แผ้วมุทิลโทษนฤทุกข์ อโห สุขํ โอ้เปนศุขหนักหนา ปรมสุขํ หาศุขอื่นอันจะเปรียบปานมิได้เท่า เว้นไว้แต่ศุขในนฤพาน เมื่อใดกูได้ตรัสแก่สรรเพ็ชดาญาณ ก็จะลุลาภแล จงฺกมํ อารุยฺห ธก็เสด็จขึ้นเหนือพ่างพื้นภูมิจงกรม ชมที่จะภาวนากษิณกรรมน้นน อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ธก็จงกรมไปมา ตั้งเอกรรคตาจิตรทุกเมื่อแล
๏ ปจฺเจกพุทฺธสทิเสน อุปสเมน ปุตฺตทารานํ สนฺติกํ อคมาสิ จึ่งไปยงงสํนักนิ์เจ้ามัทรี แลสองกุมารกุมารี อันมีรูปากฤติยบริสุทธ ดุจพระปรเตยกพุทธเสด็จมา ในที่น้นน ฯ มทฺที เทวีปี โอโลเกนฺตี สญฺชานิตฺวา ส่วนเจ้ามัทรี ก็ทอดพระเนตรปรตยักษ์ ก็รู้ลักษณะว่า พระโพธิสัตว์แล มหาสตฺตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา นางก็ลันโทลศิโรราบ กราบแทบพระบาทพระโพธิสัตว์ โสดแล วนฺทิตฺวา โรทิตฺวา นางก็ถวายบังคม ลบมพิลาลศกำสรดไปมา โสดแล เตเนว สทฺธึ อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา นางก็เอาเอารสราช ตามพระบาทเข้าไป ยงงอาศรมบทน้นน อตฺตโน ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา รตฺตวากจีรํ นิวาเสตฺวา นางก็อํลาพระฤๅษี ก็ลีลายังบรรณศาลาแห่งตน โสดแล อิสินีเวสํ คณฺหิ นางก็อรเอาพระผนวช บวชเปนดาบศดาบศินี โสดแล เต ปจฺฉา ปุตฺเตปี ตาปสกุมารเก จำเนียรนางก็บวช สองราชเอารสเป็นดาบศดาบศินี โสดแล จตฺตาโรปิ ขตฺติยา วงฺกตปพฺพตกุจฺฉิยํ วสึสุ อันว่า กระษัตริย์ทงงสี่พระองค์ เสด็จอยู่ในท้องวงกฏบรรพตาราม โสดแล ฯ
๏ อถสฺสา มทฺที มหาสตฺตสฺส วรํ ยาจิ อันดับน้นน เจ้ามัทรีก็ขอพรแต่พระโพธิสัตว์ พระแพศยันดรด่งงนี้ เทว ตุมฺเห ผลาผลตฺถาย อรญฺํ อคนฺตวา บพิตร เชอญท้าวธอย่าพนประเวศน์ เหตุจะเดอรหาผลาผลภักษ์ สักสิ่งสักอันเลอย พ่อฮา ปุตฺเต คเหตฺวา อิเธว โหถ จงบพิตรค่อยครองเอารส สถิตย์ในอาศรมบทนี้ โสดเทอญ อหํ ผลาผลํ อาหริสฺสามีติ ไว้ตูข้าขวน ผลาผลมาเปนกักษ์ บำเรอรักษ์ แต่พระบาทเทอญ ตโต ปฏฺาย สา อรญฺโต ผลานิ อาหริตฺวา จับเดิมแต่น้นนไป นางก็เข้าสู่พนาลยเลมล่า อุสสาหะแสวงหาลูกไม้ ใหญ่น้อยได้แต่ป่าน้นน ตโต ชเน ปฏิชคฺคิ เจ้าก็เอามาบํเรอ เผยอภักษ์แต่ภรัษดาษ แลสองราชเอารสน้นน ฯ โพธิสตฺโตปิ ตํ วรํ ยาจิ ส่วนพระภรรดาธิราช ก็พร่ำยาจน์แด่เจ้ามัทรี อันมีประการด่งงนี้ ภทฺเท มทฺทิ มยํ อิโต ปฏฺาย ปพฺพชิตา นาม ดูกรเจ้ามัทรี จำเดิมแต่นี้ไป อันว่าเราอาไศรยแก่บรรพชิตอันอุกฤษสํญา บมีจุลาจลสักสิ่งเลย อิตฺถี จ นาม พฺรหฺมจริยสฺส มลํ ชื่อว่าวรรณิดา ย่อมให้เปนศีลาวิบัติ แก่ผู้จะครองบรมรรถมิตตาภาวนา แห่งบรรพชากรรมน้นน ตฺวํ อิโต ปฏฺาย อกาเล มม สนฺติกํ มา อาคจฺฉาหีติ จับเดิมแต่นี้ไป จงเจ้าอย่าไคลคลามาสู่ตูใช่การ สถานสำนึงพี่นี้ สา สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิ อันนางพระญา ก็รับพระกฤษฎีกากำหนด แห่งพระดาบศว่า สาธุแล ฯ
๏ มหาสตฺตสฺส เมตฺตานุภาเวน สมนฺตา ติโยชเน าเน สพฺเพ ติรจฺฉานาปิ อญฺมญฺํ เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภึสุ อันว่าสัตว์ติรัจฉาน อันมีในสถานสามโยชน ก็ยงงบงงเกิดมโนทยไมตรีแก่กันไปมา เหตุอานุภาพภาวนาจตุรพรหมวิหาร แห่งพระผู้มีสมภารบพิตรน้นน ฯ มทฺที เทวี ปาโต วุฏฺาย ส่วนเจ้ามัทรีก็นิสยาศย ลุกจากอาศนที่น่งงนอนน้นนแล ทนฺตกฏฺํ ทตฺวา นางก็ถวายไม้เสวอยพระทนต์ เปนบังคลแก่ท่านแล ปานียปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา นางก็ตกแต่งพระทึกเสวอย เสร็จสรรพ ลำดับพระทึกสรง บนนจงอบโอช ด้วยคนโธสธุบาบุษปน้นน มุโขทกํ อาหริตฺวา เจ้าก็เอาน้ำชำระสระพระภักตร ปรักฏพระลาลาด มาถวายแด่พระราชฤๅษีสิทธิ์แล อสฺสมปทํ สมฺมชฺชิตฺวา เจ้าก็ชำระอังกรกราด สถานาวาศอาศรมบทน้นน เทฺว ปุตฺเต ปิตุ สนฺติเก เปตฺวา แล้วนางก็ไว้วางพระราชเอารส ในสำนักนิพระดาบศบพิตรน้นน ปจฺฉึ ขณิตฺติญฺจ อาทาย องฺกุสหตฺถา อรญฺํ ปวิสิตฺวา แลมีมือกุํกุณีแล ขอขุดธงง ก็ท่องยงงไพรกันดาร เอามูลผลาหารในพนาลี เต็มกุณีนางนารถน้นน สายณฺหสมเย อรญฺโต อาคนฺตฺวา ในกาลเมื่อสายาห เจ้าก็มาแต่ป่ายงง ลำพงง พระกุฎีด่งงเก่าแล ปณฺณสาลายํ ผลาผลานิ เปตฺวา เจ้าก็ดำกลผลาผลอนนหาได้ ไว้ในบรรณศาลาน้นนแล นฺหาตฺวา ปุตฺเต นหาเปสิ ครั้นเช้าเล่าเจ้าก็สรงสนาบน์ อาบพระราชเอารสแก่แม่น้นน ฯ อถ จตฺตาโร ขตติยา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิตฺวา อนนดับน้นน อันว่ากระษัตรทั้งสี่พระองค์ ก็น่งงแนบแทบทวาร บรรณศาลลิขิตน้นน ผลาผลํ ปริภุญฺชนฺติ ก็บริโภคผลาผล เปนบังคลพระกระยาเสวอยแต่ท่านแล ตโต มทฺที เทฺว ปุตฺเต คเหตฺวา ถัดน้นนนางก็ตระกองท้งงสองกระษัตรแก่แม่น้นน อตฺตโน ปณฺณสาลํ คจฺฉติ เจ้าก็ไปสู่คฤหาลยแห่งตนเล่าแล อิมินาว นิยาเมน เต จตฺตาโร ขตฺติยา อันว่ากระษัตรทั้งสี่พระองค์ อนนเปนพงษ์ประภาศ กร วสึสุ ก็สิงสโมสร สระมรรคภาค สตฺตมาเส สิ้นสมาบทวิสัตทศวาร เอาตรึงษ์หารได้ สัปตมาศ ปพฺพตกุจฺฉิมฺหิ ในครรภาศที่วงกฏ โดยนิยมมิยตนยาย สิ้นสายสาร อรรถธรรม์ พระสรรเพ็ชญ์บนนทูร บริบูรณ์พระธรรมเท่านี้ ฯ
วนปเวสนกณฺฑํ นิฏฺิตํ พระคาถา ๕๗ พระคาถาจบบริบูรณ์ ฯ