กัณฑ์จุลพน
- สุนัขเจตบุตรเห็นชูชกก็รุมไล่กัด ชูชกหนีปีนขึ้นต้นไม้
- นายเจตบุตรเห็นก็ขู่ว่าจะยิงด้วยหน้าไม้ ชูชกไหวดีแก้ว่า เป็นทูตของพระเจ้ากรุงสญชัย เจตบุตรเชื่อ ผูกสุนัขเข้ากับโคนไม้ ต้อนรับชูชก ถามว่าอะไรอยู่ในย่าม ชูชกชี้ไปที่กลักพลิกกลักงาว่า นี่คือกลักพระราชสาร
- เจตบุตรเชิญชูชกขึ้นไปบนเรือน ให้กินเนื้อย่างจิ้มนํ้าผึ้ง แล้วก็พาออกไปชี้มรรคา
- เจตบุตรพรรณนาพรรณไม้ อันมีในป่าหิมพานต์แล้วบอกทางที่จะไปสู่เขาวงกฏ และว่าจะไปพบกับอจุตฤษี.
๏ เอวํ เจตปุตฺโต พฺราหฺมณํ โภเชตฺวา ฯ ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ทวยทรงศีลวิสุทธิ์ เจตปุตฺโต อันว่าเจตบุตรลุทธพนจรก ยังชูชกชีชรา ให้กินโภชนาหาร ด้วย ประการดั่งนี้แลแล้ว ฯ ปาเถยฺยตฺถาย ตสฺส มธุโน ตุมฺพญฺเจว ปกฺกมิคสตฺถิญฺจ ทตฺวา เจตบุตรก็ดำแลงแปลงปล้องไม้ ให้นํ้าผึ้งเป็นผอก ตวงเต็มบอกภอพ่าง เนื้อยองย่างภอพยง ประโยชน์เป็นสบยงภอแพ่ง ตกแต่งให้แก่พราหมณ์นั้น โสดแล มคฺเค เปตฺวา ทกฺขิณหตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา จึ่งให้พราหมณ์อยู่แนบ แทบทางที่จะกว่า พรานป่ายอใดสดำ มหาสตฺตสฺส วสโนกาสํ อาจิกฺขนฺโต อาห เมื่อจะแนะนำวงวัศที่พระมหาสัตว์เสด็จอยู่นั้น ก็ซั้นสวดคาถาดังนี้ เอส เสโล มหาพฺรหฺเม ดูกร พราหมณ์ เขาขยวงามลออ ดาดดำถมอทมื่น ไม้ไล่หื่นห่อมฉํ ปพฺพโต คนฺธมาทโน สมตรยกคันธมาทน์ โดยด้ามอาทิสวคนธ์ ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา ตรมวลใดแดนราช พระบาทแพศยันดร สห ปุตฺเตหิ สมฺมติ กับสองอรหน่อเหน้า มัทรีเกล้ากษัตรีย์ ธาเรนฺโต พฺราหฺมณวณฺณํ ทรงเพศชีอยู่เถื่อน งามเงื่อนพร้อม เพรียงพรหม อาสทญฺจ มสญฺชฏํ ลบํศิวภัศมบรรัษจองชฎาธาร จมฺมวาสี ฉมา เสติ ภักสังวารนุ่งหนังเสือ ไสยาศนเหนือแผ่นดิน ชาตเวทํ นมสฺสติ ปรดิทินเงื่อนปรเตยก ไหว้ไฟเฟกเปลวเปล่ง บำเพ็ญเพ่งพยรธรรมอยู่นั้น เอเต นีลา ปทิสฺสนฺติ เห็นขยวหลยวแต่ไกล กันลองไพรอํพน นานาผลธรา ทุมา ไม้มีผลต่างต่าง ช่อช้อย ช่างแชรงดวง อุคฺคตา อพฺภกูฏาว สุดสรวงสูงวิเวก จอมจิ้มเมฆพยู่ห์ นีลา อญฺชนปพฺพตา สรพู่ขยวพรายเพรา ดูดุจเขานิลาญชัน ธวสฺสกณฺณา ขทิรา หูกวางพรรค์กระแบก ตคยรแมกมี่มีสาง สาลา ผนฺทนมาลุวา สรคร้อยางรังราย ทรสายกิ่งชื้อชัฏ สมฺปเวเธนฺติ วาเตน ต้องลมลัดลันโทน ทบท่าวโอนลันทวย สกึ ปีตาว มาณวา ปรยบชายมวยมึกเหล้า เมากลิ้งเกล้าเกลือกเดิร อุปริ ทุมปริยาเยสุ นกหคเหินเหลือแหล่ จับไม้แซ่ขันขาน สงฺคีติโยว สุยฺยเร สัตว์บันสารเสียงศรี ดุจดนตรีสารสวรรค์ นชฺชุหาโกกิลา สงฺฆา ดุเหว่าพรรค์ภูลโดก นกลางโบกบินฉวาง สมฺปตนฺติ ทุมา ทุมํ รี่ร้องวางโผผาย จับไม้กรายเกริ่นก้อง อฺวหยนฺเตว คจฺฉนฺตํ สารดุจร้องรยกคน อันเดิรหนทางเหนื่อย สาขาปตฺตสมีริตา ไม้ไล่เฉื่อยสยงก้อง เพื่อลมต้องกิ่งใบ รมยนฺเตว อาคนฺตํ คนมาไกลแกล่ใกล้ อยุดอยู่ได้แรงรมย์ โมทยนฺติ นิวาสนํ เย็นเฉื่อยฉํสังวาส ห่อนใคร่คลาศคลาคืน ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา ด้าวใด หืนหรรษาโมทย ด้าวน้นนโพธิสำนักนิ สหปุตฺเตหิ สมฺมติ ด้วยลูกรักแลเมียมิ่ง นักธรรมยิ่งใจบุนย์ ธาเรนฺโต พฺราหฺมณวณฺณํ อดุลด้วยเพศพรต จำศีลสงดบำเทอง อาสทญฺจ มสญฺชฏํ เถกองกุณฑวิธี โมลีเทอดชฎาธาร จมฺมวาสี ฉมา เสติ สำราญปล่ยวเปล่าอาศน์ แฝกเฝื่อคาดคาครอง ชาตเวทํ นมสฺสติ โหมกุณฑ์กองสการ อ้างองค์อาริยปรเตยก ตั้งวิเวกวักกรรม อยู่นั้น ฯ
๏ ตโต อุตฺตรึปิ อสฺสมปทํ วณฺเณนฺโต อาห ฯ เจตปุตฺโต อันว่า เจตบุตรลุทธไพรทเมิน เมื่อจะสรรเสรอญห้องหิมเวศ ที่พระเพศยันดรตรัส อันวิวัธวิเวก อุตฺตรึ อเนกบรรยาย ก็ภิปรายด้วยพระคาถาดังนี้ อมฺพา กปิตฺถา ปนสา ดูกรทชีพราหมณ์ ไม้ม่วงงามมขวิดขนุน สาลา ชมพู วิเภทกา รังรยงหว้าพึงภุญช์ พิเภทเพจผกากาญจน หรีตกี อามลกา สมอหมากขามป้อม พกค่าค้อมทั้งลำลาญ อสฺสตฺถา พทรานิ จ โพบายตรบอกบาน พุทราหวานวังเวงใจ จารุติมฺพรุกฺขา เจตฺถ พลับทองลังลองเลือง ผลเรืองรังรองไร นิโคฺรธา จ กปิตฺถนา หมากสังสรลมไทร ใบทรสุมทรสายศาล มธุมธุกา เถวนฺติ ทรางสุกลูกช้อยโชด ลิ้มไล้โอชกระเอบหวาน นีเจ ปกฺกา จุทุมฺพรา เดื่อดองบมานมาน ดานดื่นลูกถูกไขขจร ปาเรวตา ภเวยฺยา จ กล้วยหอมกล้วยงาช้าง ลูกอ้าอ้างงากุญชร มุทฺทิกา จ มธุตฺถิกา กล้วยตีบแตงนวลอร คอนเครือสรล้างบ้างปลีแปลน มธุํ อเนลกํ ตตฺถ ผึ้งรวงบมีแม่ ผึ่งผืนแผ่พยงผูกแขวน สกมาทาย ภุญฺชเร ใคร่กินบเยียแคลน ในดงแดนดูหลากหลาย อญฺเตฺถ ปุปฺผิตา อมฺพา พวงพู้นไม้ม่วงอื่น ช่อช้อยชื่นแชรงสอสวาย อญฺเ ติฏฺนฺติ โทวิลา โรยดวงพวงผลพลาย หลายหลั่นปลูกบปูนปาน อญฺเ อามา จ ปกฺกา จ อ่อนแก่ห่ามดิบสุก ช่อช้อยชรุกระโยงยาน ภิงฺควณฺณา ตทูภยํ กบขนองสองสัณฐาน ปานปรยบม่วงสุกใสขจี อเถตฺถ เหฏุา ปุริโส ชายใดเดอนแหบให้ นั่งภายใต้เปรมปรีดิ์ อมฺพปกฺกานิ คณฺหติ เลือกกินโดยอิษฎ์ ม่วง กิ่งแปล้ปลิดถึงมือ อามานิ เจว ปกฺกานิ สุกดิบดกกิ่งก้อม พกค่าค้อมคู่ใบถือ วณฺณคนฺธรสุตฺตมา กลิ่นรศพันเลอศลือ คือรศฟ้าไล้ลูกงาม อเตว เม อจฺฉริยํ อัศจรรย์ในป่ากว้าง กว่าอกอ้าง กูอ่านความ หิงฺกาโร ปฏิภาติ มํ ฟังแฮ ทชีพราหมณ์ คือโคมยามกระอึกอึง เทวานมิว อาวาโส อาวาศคือวาศพ ลบโลกไตร ตรึงษ์ โสภติ นนฺทนูปโม ไม้ไหล้เลอดแลพึง คำนึงนันทโนทยาน วิเภทกา นาฬิเกรา พราวตาลตรการกล รศคนธเจือจาน ขชฺชุรีนํ พฺรหาวเน ไพรพฤกษ์พิลาศ สถาน หื่นหอมหวานวางเวงใจ มาลาว คนฺถิตา นฺติ บุษปมาลยบานแกล้งกรอง ในกันลองกันลงไพร ธชคฺคาเนว ทิสฺสเร ช่อช้อยกวะแกว่งไกว คือธงไชยโบกโบย บน นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ ดอกไม้หลายแสงโสด บานช่วงโชติทั้งไพรพน นภํตาราจิตามิว พยงพื้นในนภดล ดำกลดาดด้วยดวงดาว กุฏชีกุฏฺตครา กฤษณาแล กอโกฐ ไม้มูกโสดตระศักดิ์สาว ปาฏลิโย จ ปุปฺผิตา แคแจรเจอรอญจราว แคฝอย ขาวแข่งแบ่งบาน ปุนฺนาคา คิริปุนฺนาคา งั่วนาวทรนาวเนก กรูดฉุรเฉกจรุงธาร โกวิฬารา จ ปุปฺผิตา ทองหลางสรล้างกาญจน์ บานเรืองรุ่งคือเพลิงพราย อุทฺทาลกา โสมรุกฺขา ชยพฤกษมรุํรยง เพจพวงพยง พิโดรถวาย อคลุ ภลฺลิยา พหู ตาเสือ ชรมยงชายหมายมหวดมหาดแหน ปุตฺตชีวา จ กุกฺกุฏา คำไก่ ไตรโตรดตร่างกิ่ง กระช่างเฉกไม้แมน อสนา เจตฺถ ปุปฺผิตา ประดู่ดื่นหมื่นแสน ดอกดาดแดนด้าวอาศรม กุฏชา สรฬานีปา เตงแต้วมูกมันช้อย สรลสยดสร้อยรำเพยลม โกสมฺพา ลพุชาธวา กรเบาสำลอสรลํ ตรแบกลมตรบัดโบย สาลา จ ปุปฺผิตา ตตฺถ รังร่มดวงบานชื่น ศาลารื่นเมื่อลมโชย ปลาลขลสนฺนิภา ดอกไม้อันบานโรย โกยกลู่กลาดคือลาญใน ตสฺสาวิทูเร โปกฺขรณี สระโบษขรณี ใกล้กุฎีเจ้าจอมไตร ภูมิภาเค มโนฺรเม เปนที่จำเริญใจ นํ้าสระใสหมดมุลทิน ปทุมุปฺปลสญฺฉนฺนา อาเกียรณ์อุบลบัทม์ สโรชรัตนรวยริน เทวานมิว นนฺทเน พยงสระสำอางอินทร อันชื่อนันทโบษขร อเถตฺถ ปุปฺผรสมตฺตา รศมาลยบานหื่นหอมขจร กลบสร้อยสระสร ตระหลบคืออบชลธาร โกกิลา มญฺชุภาณิกา โกกิลเรื่อยร้องสยงหวาน ถ้อถ้อยบันสาร เสนาะสโนควังเวง อภินาเทนฺติ ตํ วนํ พันฦกกึกก้องอลเวง ป่าเปนบันเลง แลฟัง บันลุงลาญทรวง อุตุสมฺปุปฺผิเต ทุเม ไม้ไหล้หลายพรรค์เพลจพวง เพยียบุษปบานดวง เมื่อกาลระดูดูดี ภสฺสนฺติ มกรนฺเทหิ เรณูร่วงรายโรยขจี จากเกษรศรี สุรศเร้ารวดขจร โปกฺขเร โปกฺขเร มธู อยาดอยดมฤธุรศเอมอร มฤธุโบษขร ก็มีในสระบัวบง อเถตฺถ วาตา วายนฺติ มารุตรำเพยพานลง ลาดพฤกษไพรรหง ก็หวรยังสร้อยสระฉนยร ทกฺขิณา อถ ปจฺฉิมา พัดแต่ทักษิณ ฉวัดฉวยร ประจิมวงวยร เปนทักขิณามณฑล ปทุมกิญฺชกฺขเรณูหิ ลอองโอชสาโรชรศคนธ์ ขจรจรุงจรบล ตรเลอศตรลบอบอาย โอกิณฺโณ โหติ อสฺสโม เกสรเสารพโปรยปราย อาศรมดุจถวาย ภิเณษหื่นหอมขจร ถูลา สิงฺฆาฏกา เจตฺถ กระจับใหญ่มีในโบษขรเท่าศีษะกาษร และใบบแรงภักษภุญช์ สํสาทิยา ปสาทิยา สุทธสาลีโอทยอดูล มีมากมายมูล ก็ภูลในสร้อยสรสรรค์ มจฺฉกจฺฉปพฺยาวิทฺธา เต่าปลาจริจราวจรจรัล เปนพวกพวกพรรค์ก็หว้ายลลยบเลมไคล พหู เจตฺถ มุปยานกา ปูเปี้ยวเที่ยวคลํ่าสระใส เห็นตัวแต่ไกลก็มีก็มากหลากหลาย มธุํ ภิเสหิ สวติ มฤธุรศบัวบทมบันลาย จากง้วนเหง้าหมาย สุรสแม้นมาธูร ขีรํ สปฺปิ มุฬาลิภิ อรพินธุนพนิดเพ็ญภูล บทมบันลายมูน ก็ภูลทุกพรรณพึงชม สุรภิ ตํ วนํ วาติ ป่านั้นหรรษาหื่นหอมฉํ เรื่อยเรื่อยรวยลม รำพายรำเพยรศมาลย์ นานาคนฺธสเมริตํ กลั้วกลิ่นจวงจันทร์จรุงธาร กลิ่นบุษปแบ่งบาน บันเทองบันเทาทรหวร สมฺโมทิเตว คนฺเธน ชายใดเดอรร้อนรนนจวน จวบสร้อยสรสวร ก็หายกัลหายหื่นหรรษ์ ปุปฺผสาขาหิ ตํ วนํ หันหื่นชื่นชมบุษบรรณ บุษบาเบญพรรณ ก็หอมกระหลบอบองค์ ภมรา ปุปผคนฺเธน หมู่แมลงผึ้งพรรณกันลง เมาซาบเชยบงษุ์สุวรรณเรณูนวล สมนฺตามภินาทิตา หอมหื่นชื่นบุษปจันทร์จวน อื้ออื้ออึงอวร กันลงกันลึงคลึงคนธ์ ฯ อเถตฺถ สกุณา สนฺติ อนึ่ง โสดนกนานานนต์ จับแจโจษจล สะพรักสะพรยกสระศรี นานาวณฺณา พหู ทิชา เกิดแต่ไข่ขาวขยวขจี แดงเหลืองหลายศรี พิจิตรขนแข่งขยน โมทนฺติ สห ภริยาหิ เคล้าคลอคู่เคียงชรมยร ใช้สลาบหรรหยนดันเหิมกระสรรสยวสนน อญฺมญฺํ ปกูชิโน ถ้อเถื่อนเพื่อนภาษากัน ร้องรับขานขัน ตระศักดิ์ตระสยกพรยกไพร ธอยู่นั้น ฯ นนฺทิกา ชีวปุตฺตา จ ชีวปุตฺตา ปิยา จ โน ปิยา ปุตฺตา ปิยา นนฺทา ทิชา โปกฺขรณีฆราติ อาทินี เตสํ นามานิ ดูกรพราหมณ์ นกหนึ่งนามเปนอาทิ์ นันทิกชาติ์ทิชากร เตสุ หิ ปมา สามิ เวสฺสนฺตร อิมสฺมึ วสนฺโต นนฺทาติ วทนฺติ ก็ร้องถวายพระพรเปนประถม แต่บรมนเรศเวศยันดรดิลก ด้วยพิหคภาษา ดังนี้ สามิ เวสฺสนฺตร ข้าแต่พระผู้ผงรแผ่นแผ้ว จงเจ้ากูอย่ารู้แคล้วความสุข ให้นฤทุกข์นฤโทษ นฤไภยโสดสำราญ ในสุรสถานดำหนักพน อย่ารู้วิจลสักอันเลยพ่อฮา ฯ ชีวปุตฺตา จ เมาะ ทุติยา ตฺวญฺจ สุเขน ชีวปุตฺตา จ เตติ วทนฺติ พรรคหนึ่งนกชื่อชีวปุตตา คํรพชรไมมามเหมื่อย อเอื่อยอื้ออวยไชย ข้าแต่พระไกรกฤษดิกระษัตรี ขอเจ้ากูจงทรงพระพิรียเจริญผล สกลสัตว์สบสังวาศ พำนักนินารถอยู่เย็น เพื่อเปนศิริสวัสดิ์ ธจงเสวยศุขด้วยสองรัตนราชเอารส ให้พระยศยิ่งยืนโยค อย่าร้อนโรคลำเค็ญ สักคาพเลย พ่อฮา ฯ ตติยา ตฺวญฺจ ปิยา ปุตฺตา เจติ วทนฺติ นกพวกพรรณที่สาม มีนามปิยาปุตตา ชุมกันมานะมี่ระรี่ร้องถวายพร ข้าแต่พระผู้อดิศรณสัตวโลกย์ จงท้าวธอาโภคภิรมยรักษ์ พระชาลีลักษณ์เลิศลูกยา แก้วกัณหาลูกหญิง อยู่ศุขสิงสังวาศ อีกนางนารถมัทรี ดาบศนีนงโพธ เสวอยศุขจิโรจอย่ารู้เศร้า ยืนต่อท้าวอวสาน ข้าสํภารพึ่งอยู่เย็น วายวิเวรวิวาท บอาฆาฏอคากัน เพราะพระถวัลถวิลโลเกษ อย่าประเหตุสักคราเลอย พ่อฮา ฯ จตุตฺถา ตฺวญฺจ ปิยา นนฺทา จ เตติ วทนฺติ นกหนึ่งชื่อปิยานันทาสกูณ มาคํรพจตูรสรดื้นสรดัด อื้นอวยพระพร แด่พระแพศยันดรซะแซ่ ข้าข้อยแด่ธเจ้าหล้าธล้ยงฟ้าดินเย็น เพื่อพระเปนฉัตรแก้ว ฉัตรกั้งแผ้วแผ่นไตร สบสมัยไมตรีราช ถ้วนหน้าสาธุ์พำนักนิ์ จงพระจอมจักรมาปรีดา ด้วยพระกัณหาชาลี เกรษนีนางนักพรต มัทรียศยอดไท้ ให้เจริญชนม์ชีพ อยู่ศุขสืบหย่ารู้เศร้า อย่ารู้เถ้ารู้ตาย อย่ากันหายสักคาพเลอย พ่อฮา ฯ ทิชา โปกฺขรณีฆรา อันว่าฝูงพิหคากรทั้งปวง อยู่รังรวงรยงรอบ ริมคันขอบโบษขรณีในที่นั้น โสดแล ฯ มาลาว คนฺถิตา นฺติ ดูกรพราหมณ์ ดอกไม้งามเงื่อนแต้ม แชรงยอดแย้มผกาแจรง ธชคฺคาเนว ทิสฺสเร จาวจำแทงจำเทิด โฉมฉินเฉิดเฉกธง นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ ขยวขาวดงแดงดาษ โอภาศพรรณพึงชม กุสเลหิ สุคนฺถิตา เกิดเองสํเสมอแต่งร้อยรอบแห่งสระศรี โบษขรณีนั้นนพราหมณ์ ยตฺถ เวสฺสนฺตโร ราชา อารามใดที่ธเสด็จดล ชีก็จยลเยืองพระตำหนัก สห ปุตฺเตหิ สมฺมติ ท้าวธเสด็จด้วยลูกรักแลเมียแก้ว มัทรีแล้วเลอศนาง ธาเรนฺโต พฺราหฺมณวณฺณํ เว้นวางเครื่องครองกระษัตร พรหมจรรย์จรัสเจรอญผล อาสทญฺจ มสญฺชฏํ ถืออาสทญขอก่ยว จองชฎาช่ยวโหมอาหุดี จมฺมวาสี ฉมา เสติ จัมมวาสีไสยาศน์ แผ่นดินดาษใบไม้ ชาตเวทํ นมสฺสติ เปลวไฟไท้ธนบอนนต์ แทนทศพลปรเตยกนั้น ฯ
๏ เอวํ เจตปุตฺเตน เวสฺสนฺตรวสนฏฺาเน อกฺขาเต ชูชโกปิ ตุสฺสิตฺวา อันว่าชีชูชกเถ้าฝอก ครั้นได้ยินเจตบุตรบอกตำบลสิ้นเสร็จ ที่พระศรีสรรเพชญ์แพศยันดรดิลก เถ้าก็อิ่มอกอิ่มใจ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต เมื่อจะปราไสยตอบ ขอบแก่นายพราน ก็สวดสารพระคาถา ดังนี้
อิทญฺจ เม สตฺตุภตฺตํ | มธุนา ปฏิสํยุตํ |
มธุปิณฺฑิกา จ สุกตาโย | สตฺตุภตฺตํ ททามิ เตติ |
๏ สตูตูเต้าเถื่อน | ถือมา |
เคล้าคลุกมธุราเอม | โอชอ้อย |
แม่นางมิ่งมิดดา | ผดุงแต่ง |
เขือขอบใจข้อยให้ | แก่เจ้าจงเอา กินเทิญ |
ตํ สุตฺวา เจตปุตฺโต อาห อันว่านายพรานเจตบุตร ฟังพราหมณ์วุฒิกล่าวดังนั้น กซั้นผคตวาจก แก่ชีชูชกคืน ดั่งนี้ ฯ ตุมฺเหว สมฺพลํ โหตุ อันว่าเข้าสตูที่ทบอกทแบ่ง จงเปนแพ่งเปนภักษ์ ท่านเทิญ นาหํ อิจฺฉามิ สมฺพลํ รับแกล้งกล่าวแก่กู กูก็บยินดี ดูที่จะเอา โสดเลอย อิโตปิ พฺรหฺเม คณฺหาหิ แต่นี้เถ้าจากกูไกล จงเอาไปเปนสํพลังเล่าเทอญ คจฺฉ พฺรหฺเม ยถาสุขํ โดยหวังธลีลาศ จำอย่าคลาสคำกูสั่งนี้ อยํ เอกปที เอติ อันว่าผลูนี้บแพร่งบแพร่ จุเต้าแต่ตีนดยว เดอรแล อุชุํ คจฺฉติ อสฺสมํ ทางเที่ยวแซ่วซื่อเฉพาะ พอบงเบาะบริเวณ พระนเรนทรราชฤๅสิทธิ์ เสด็จตั้งพิทธีอยู่นั้นโสดแล ฯ อิสีปิ อจฺจุโต ตตฺถ ธก็จะพบฤๅษีตนหนึ่ง แทบท่ามกึ่งกลางหน อนนตนามอรรจุต ปงฺกทนฺโต รชสฺสีโร ฟันขาวสุดสิโรเพศ เกล้ากลุ่มเกษธุลีเลือน ธาเรนฺโต พฺราหฺมณวณฺณํ เหมือนเพศพรหมพรํ่าพร้อม ชฎิลด้อมเดินดง อาสทญฺจ มสญฺชฏํ สังวาลบงบ่าฉวยง จองชฎาดยงดูดาษ จมฺมวาสี ฉมา เสติ จำมาวาศนอนแผ่น ใบไม้แท่นยมไผท ชาตเวทํ นมสฺสติ ไหว้ไฟใจวิเวก เงื่อนปรเตยกศรีอริยนั้น ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปุจฺฉสฺสุ โส เต มคฺคํ ปวกฺขตีติ ดูกร พราหมณ์ จงธถามทางตยาคต ยังพระดาบศตนนั้น ธก็จะบอกบั้นพิถี ให้ทชีทุกประการ โสดแล ฯ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าสํเด็จพระมารพยศน์ ผู้กลยดเกลศราค ก็มีพุทธพากยโองการ แก่ภิกษุบริพารทั้งผอง ดังนี้ อิทํ สุตฺวา พฺรหฺมพนฺธุ เจตํ กตฺวา ปทกฺขิณํ อุทคฺคจิตฺโต ปกฺกามิ เยนาสิ อจฺจุโต อิสีติ ฯ ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ ทวยพงษ์พวกสราพก ชูชโก อันว่าเถ้าชูชกชีโฉด พฺรหฺมพนฺธุ เมาะ พฺราหฺมณปุตฺโต เค้าโคตรเผ่าพันธุพราหมณ์ สุตฺวา ครั้นได้ฟังความเสร็จสุด อิทํ เมาะ เจตปุตฺตวจนํ คำเจตบุตรบอกบรรยาย เจตํ กตฺวา ปทกฺขิณํ เถ้าก็ผันผายประทักษิณสามรอบ ขอบแก่นายพราน อุทคฺคจิตฺโต เมาะ โสมนสฺสปตฺโต มีกมลเบิกบานบันเทิงเริงรื่น ดันเหิมหื่นหรรษาโมทย์ อ้าบัดนี้กูจะลุลาภโสดเสร็จสม คเณแม่นมิอย่า อิสิ อันว่าทางท่าป่าดง พงพนัศลิ่วลี่ ที่พระฤๅษีศีลวิสุทธ ชื่อว่าอรรจุตใจอจล อสิ เมาะ อโหสิ แลมีพิริยเจริญผลบำเพ็ญฌาณ เยน เมาะ ทิสาภาเคน ในพนกรรดารด้าวแดนใดนั้นโสด ปกฺกามิ เถ้าก็ตระโหมดมุ่งเมอล ตกตีนเดอรซซ่อง ยังชั้นช่องวไว่ทายเท้าไผ่ผผํ้า ท่องทางถํ้าทิวเทิน ข้ามเขาเขินไพรพนอง ลำลองเดอรโดดดยว แขงขํ่าขยวครยวเคร่ง ราคาแรงเร่งบมิอยุด ดลแดนกุฏิพระอรรจุตเจ้าใจอารยนั้น ฯ
จุลฺลวนวณฺณนา นิฏฺิตา
จุลพน ๓๕ พระคาถาจบเสร็จ
พระสรรเพชญ์บันทูล ก็บริบูรณ์พระธรรมเท่านี้แล ฯ