กัณฑ์ฉกษัตริย์
- พระเวสสันดร ได้ยินเสียงไหยรถคชแสนยากร ทรงตกพระทัยไหวหวาดว่า ปัจจามิตรจะมาจับพระองค์ จึงชวนพระมัทรีเสด็จขึ้นเนินเขา พระนางกราบทูลว่าเป็นทัพของพระเจ้ากรุงสญชัยเสด็จมารับ สมตามที่ท้าวสักกเทวราชประทานพร.
- เมื่อหกกษัตริย์พร้อมกันที่พระอาศรม ต่างก็ทรงโศกสลดที่พลัดพรากจากกัน จนถึงวิสัญญีภาพ.
- สหชาติโยธาเฝ้าพระเวสสันดร ทูลเชิญเสด็จกลับพระนคร.
ฉขัติยบรรพ
๏ ชาลีกุมาโรปิ มุจฺจลินฺทสรตีเร ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา แม้อันว่าพระชาลีภูบดีดไนยนารถ ดรุณเรศราชกุมาร ยงงบริพารพลทงงผองกองทัพ ให้ยับย้งงต้งงโชมโรมราชี มีคู่ค่ายเขื่อนขันธ์ สุพรรณพระพลาไชยสถาน แทบท่าพิศาลสระสินธุ์ อนนชื่อว่ามุจลินทสระสิตน้นน จุทฺทส รถสหสฺสานิ อาคตมคฺคาภิมุขาเนว ปาเปตฺวา ยงงรถประทยบรงงรอง ยงงรถทองรงงเรข อเนกนับสิบสี่พนน อนันต์ นับสิบสี่หมู่ ธให้คืนหน้าสู่สถลมารค ทางทุเรศราชลีลามาน้นน ตสฺมึ ตสฺมึ ปเทเส สีหพฺยคฺฆทีปิขคฺคาทีสุ อารกฺขํ สํวิทหิ แต่งกองล้อมกองแล่น แต่งกองแกว่นกอง ตระเวน เกนพลทหารแหนช้นนนอก เกนพลหอกแหนช้นนใน รักษระไวระวงง ระแวด สัตว์ร้ายแรดเสือสีห์ อนนมีในที่น้นนน้นน โสดแล หตฺถีอาทีนํ สทฺโท มหา อโหสิ อันว่าพาหนะสำนยง สยงดุรงค์รถคชเปนอาทิ์ ก็หวั่นหวาดไหวสเทือน ทงงป่าแล ฯ อถ มหาสตฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ลำดัพน้นน อันว่าพระมหาสัตว์ทรงฟงง พาหนะประนงงนี่สยง พยงพายุพัดพนนฦก จินฺเตตฺวา ท้าวธก็รำพึง คนึงนึกดงงนี้ กินฺนุ โข เม ปจฺจามิตฺตา โอด่งงอาตมมาใส่ใจ ฤๅพวกไพริศแม่นม่นน มิอย่าเลอย มม ปิตรํ ฆาเฏตฺวา มล้างชนกากูแล้ว ชิงเอาเมืองแก้วกูเล่า แลฤๅ มมตฺถาย อาคตาติ ยงงตามมาเพื่อประโยชน์ จะรนนทำโทษแก่กู อีกนี้ มรณภยภีโต ธกลววมรณไภยภีต ภักตร์เศร้าซีดเสียใจ สลดแล มทฺทึ อาทาย ภาภัควะดีมัทรีอรอดูลย์ จากอดิศูรศาลาไลยน้นน ปพฺพตํ อารุยฺห ขึ้นสู่สูงศิขร ซอกซอนซ่อนพระองค์แอบอยู่แล เสนํ โอโลเกสิ บังพระไนยนรินทร์ เลงพลพฤนธามาตย์ ราชจัตุรงคราชยร อากยรณ์ด้วยนิกรขนัด อัศวลงการสารอลงกฏ รถยรรยงธงยรรยอง หางยูงทองระยับระยาบ ววาบแสงสาตรา ศรีสารพาภรณ์พิจิตร พิพิธพรรโณภาศ เลื่อมเลื่อมมาศหมวกมณี ส่ำโยธีอธึก แลพิฦกเลือนตา กว่าชื่นแล ฯ
๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระพิชิตมารมุนี ศรีวิสุทธสมาธิ์ อุดมอาทิ์อรหันต์ ยงงพระสธรรม์ประทีปแก้ว ส่องแสงแผ้วพุทธเพไนย ดงงนี้ เตสํ สุตฺวาน นิคฺโฆสํ ภีโต เวสฺสนฺตโร อหุ ฯ ฟงงราสงฆ์ เวสฺสนฺตโร อันว่าพระผู้เผ่าพงษ์สรรเพ็ชญ์ สมเด็จบรมนเรศเพศยันดร สุตฺวาน นิคฺโฆสํ คร้นนพระภูธรธได้ยิน สยงพลพฤนพรักพรยกถึง ภีโต เมาะ ตพฺพเสน ภยปฺปตฺโต ตกตลึงลานใจหวาด ลุอำนาจมฤตยู ปพฺพตํ อภิรูหิตฺวา ขึ้นบนภูเขาขยว สูงลิ่วหลยวแลพลาง ภีโต เสนํ อุทิกฺขติ ดูเสนางคนิกาย กนนเหิมหายหว่นนหว่า ขวัญป่าบินบอยู่เลอย อิงฺฆ มทฺทิ นิสาเมหิ นิคฺโฆโส ยาทิโส วเน ฯ มทฺที ดูกรเจ้ามัทรีมณีนาฎน้องรัก อิงฺฆ ดงงพี่ตักเตือนสติเจ้าแล้ว นิสาเมหิ เมาะ อุปธาเรหิ แก้วกูจงคำนวนควรคนึงคเนดู สกเสนา วา ปรเสนา วา พลสัตรูฤๅพลเรา นี้ณะเจ้า นิคฺโฆโส สยงปานใดดงงสท้าน คือจะค้านค่นไพรสเทือน อาชานิยา หสิยนฺติ ธุลีเลือนตระหลบหล้า ม้าร้องร่าเรองคนอง ธชคฺคาเนว ทิสฺสเร ทิวธงทองโบกสบัด ชารีฉัตรชุมสายสลอน จามรมาศกลิ้งกลด เห็นปรากฏแต่ตา บารนี้ อิเม นูน อรญฺมฺหิ มิคสงฺฆานิ ลุทฺทกา วรคุราหิ ปริกฺขิปิตฺวา โสพฺเภ ปาเตตฺวา ตาวเท ฯ นูน ดงงเรามาตริตฤก อิเม ลุทฺทกา อนนหมู่หมู่มฤคลุทธพรานป่า ปริกฺขิปิตฺวา อนนมาล้อมมาล่ามิคากร อรญฺมฺหิ ในวนัศวนาดรแดน วาคุราหิ ด้วยข่ายขึงแขวนบ่วงไขว่ แร้วรายใส่แซรงทาง โสพเภ ปาเตตฺวา ตาวเท ต่างขู่ขับคอยเขม้น ยงงเนื้อให้ตื่นเต้นตกขุม ขณะน้นน วิกฺโกสมานา ติปฺปาหิ หนฺติ เนสํ วรํ วรํ วิกฺโกสมานา เมาะ อสพฺภาหิ อกฺโกสมานา รุมกนนตบมือตรหวาด กล่าวฉกาจคำฉกรรจด่า ดงงนี้ หนถ สูจงฟนนจงเชือด กอบกินเลือดแล่เนื้อเถือเอาหนงง ท้งงตับไตหววใจมนนด้วยเทอญ วรํ วรํ เมาะ ถูลํ คุกคามขบฟนนกระกร้ยว ล้ยวไล่แล่นแหลนแส่ เลือกเอาแต่ตัวพีพี พยงป้นนน้นน ติปฺปาหิ เมาะ ติกฺขิณาหิ มิคมรณสตฺตีหิ จับจะรีระริบคม แทงระดมด้วยหอก ตอกด้วยหลาว ตาวตัดหวว ตววเด็จดิ้น สิ้นชีวิตร ยถา ฉนนใดดงงกูคิดกูคนึง ทนนทึงทุกทำนยบ ตถา มยํ อทูสกา ปรยบคือตนตูแล้ ที่แท้โทษปรตยาก อรญฺเ อวรุทฺธกา เขาขับพราก พระบุรินทร์ มาอยู่ยงงไพรสิณฑ์ สันโดษ อมิตฺตหตฺถคตา คาบนี้โสดเข้าสู่ เงื้อมมือหมู่ปัจจามิตร ปสฺส ทุพฺพลฆาตกํ เจ้าจงดูกูลำบากจิตเจ็บ บารนี้ ไร้รี้พลพันธุอนาถ ฤๅจะรอดอาตม ล่วงอาชญาข้าศึกเลอย ฯ
๏ สา ตตฺส วจนํ สุตฺวา อันว่าเจ้ามัทรี ดาบศินีนางกระษัตริย์ เมื่อได้ฟงง อรรถคาถา แห่งบรมราชาธิเบศ เชฏฐสวามิตรัสด่งงน้นน เสนํ โอโลเกนฺติ เจ้าก็ เพ่งพระไนยยล พลจดูรสระดักสระดื้น พ่างภูมิพื้นหิมพานต์เพียนแล สกเสนาย ภวิตพฺพนฺติ เข้าใจแจ้งปรตยักษ์ ใช่ปรปักษ์ปัจจามิตร พลบพิตรพณเกล้า กูไซ้ ฯ มหาสตฺตํ อสสาเสนฺตี เมื่อจะประโลมโนมน้าวปลุกหฤทัยท้าวผู้ภรรดา ก็กราบทูล ด้วยคาถา ด่งงนี้ อมิตฺตา นปฺปสเหยฺยุํ อคฺคีว อุทกณฺณเว ฯ เทว ข้าแต่พระนเรศูรอิศรพงษ จงธอย่าทุกขอย่าท่าว จงธอย่ากล่าวกลววแกลน อมิตฺตา อันว่า ปัจจามิตรหมื่นแสน แดนถึงโกฏิโสดไซร้ ซึ่งจะเยียใดได้ฤๅมี อคฺคีว เมาะ ยถาติ ณุกฺกาทิโก ดุจอัคคีคบคาจุด นํ้าซรึ้งสุดแสนวา ตาเปตุํ น สกฺโกติ ไป่ยงงสาครให้แห้งเหือด ชลขเดาเดือดดาลฟอง ตถา อนนด่งงทำนองทำนูนทูลทำนยบ ตูข้าปรยบอุประไมย ยํ วรํ อันว่าพระพรอันใดน้นนโสด อินทรออกโอฐอวย อนุญาต ตุยฺหํ ประสาทแก่ท้าวธแปดสิ่ง ปางปริตยาคมิ่งเมียขวัญ ตเทว ตฺวํ วิจินฺเตหิ บพิตร จงหรรษาโมท มานมาโนศนึกในพร อปิ โสตฺถิ อิโต สิยา ความสถาวรเสวอยสวัสดิ ภูลเพิ่มพัฒนจะพึงมี ตโต พลนิกายโต แต่พลพิรียอมาตย อนนจะมาเชิญพระบาทบรมภูธร คืนนครเชดุดร รัตนราชธานี สีพีภพมณฑล ท่านน้นน ฯ
๏ อถ มหาสตฺโต ลำดัพน้นน อันว่าพระมหาบุริศราช เมื่อได้ฟงงนางนาฏนงถ่าวท่าวทูล ด่งงน้นน โสกํ ตนุํ ปนูทหิตฺวา ความกลววกล้นนกลืนหาย ทุกขบงงวายวาง โศกแล้ว ปพฺพตา โอรุยฺห ก็เสด็จแคล้วไคลคลา จากอจลาจรหลํ่า ลยบลงตํ่าตีนเขา สทฺธึ ตาย มทฺทิยา กับด้วยเยาวยุพราช องค์อรอาตมชายา ท่านน้นน ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ บพิตรธก็น่งงแนบ แทบพระทวาร บรรณศาลวาสี โสดแล อิตราปิ อตฺตโน ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ ส่วนเจ้ามัทรีก็สถิตย์ แทบระจิตทวาราวาศ อนนเปนคฤหาศแห่งเจ้าน้นน ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระภูริเบญจาญาณวิกสิต ยงงอำมฤตย์รศธรรมเมศ ธรรมภิเสศภิเศกสรง พงษพระญาพระญาติ ด้วยพระสาศนสนองด่งงนี้ ฯ ภิกฺขเว ดูกรสวากยบุตร ผู้วิสุทธศีลสังวร ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ดัพน้นน อันว่าพระภูบดิศรสีพีราชเอารส ขัติยดาบศดาบัศนี โอโรหิตฺวาน ปพฺพตา ท้าวผู้พิริยพาห์ ครรไลลาลงจากเขา นิสีทิ ปณฺณสาลายํ เนาในศาลาวาศ นิสิทสมาธิ์เสมออาริย์ ทฬฺหํ กตฺวาน มานสํ ปานปะติมาแมนนิมิตร ท้าวธต้งงจิตรอจล หน่อไท้เทพทศพลพิดก ด่งงนี้
มยํ ปพฺพชิตา นาม อมฺหากํ โกจิ กริสฺสติ
๏ ด่งงจริงตูโสดไซร้ | สมมุติ |
เปนฤษีศีลสุทธิ์ | สืบสร้าง |
ใครห่อนหากประทุษฐ์ | ทำโทษ |
คือคู่ค่นไม้มล้าง | ลู่ลมทับตน มนนแล ฯ |
๏ ตสฺมึ ขเณ สญฺชโย ในกัษณน้นน บ้นนบรมนเรศูรสญไชยราช พระบาท ธมีโองการ สารสุนทรแก่บวรราชเทพี ด่งงนี้ ภทฺเท ผุสฺสติ ดูกรเจ้าสบรรษดี ผู้มี ศิริโสภาภักตร์ อนนเปนที่จำเริญรักจำเริญใคร่ แก่พี่นี้ สพฺเพสุ อมฺเหสุ เอกโต คเตสุ ในเมื่อเราทั้งสอง ปองจะไปสู่ไปหา กูลแก้วตาตูสายสวาดิ์ แลจะไปสระพราดสระพร้อมกนน นี้ณเจ้า โสโก มหา อโหสิ ทุกขกำเดาดาลโศก ซึ่งบุตรวิโยคก็จะบงงเกิดมี มากแล ปมํ ตาว หยุดอยู่เทอญธ ณ เจ้า ตูนี้จะเต้าเข้าไปก่อน แก้วกูแล ตฺวํ คจฺเฉยฺยาสิ มหนฺเตน ปริวาเรน เจ้าจึ่งค่อยเสด็จดลด้วยฝูงชนชาวแม่ ทวยเถ้าแก่กำนนนนาฎ นารีราชบริพาร เจ้าน้นน ชาลี จ กณฺหาชินา จ ส่วนสองดรุณหลานรัก ชาลีลักษณ์เลิศแล้วก็ดี แก้วกรรณหาชินานาฎก็ดี อย่าพาเต้าตามอาตมเข้าไป โดยด่วนเลอย โถกํ กาลํ วีตินาเมตฺวา องค์อุไภยพระหลาน จงอยู่สิ้นกาลกำหนด น่อยหนึ่งแล้ว ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตุ แก้วกูจงไต่เต้า ตามกูเข้าไป ภายหลัง ในลำดัพน้นน ฯ
๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่า พระชิเนนทรอมรนรนายก ดิลกธรรม์ธำรง มีพุทธฎีกาแก่สงฆ์ ทงงหลาย ด่งงนี้ นิวตฺตยิตฺวาน รถํ วุฏฺาเปตฺวาน เสนิโย เอกํ อรญฺเ วิหรนฺตํ ปิตา ปุตฺตํ อุปาคมิ ฯ ภิกฺขเว ดูกรกษิณาสยพ ผู้ปรารภนฤพาน ปิตา อันว่าพระภูมิบาลบิตุเรศ ไทธิเบศบดีศูร กระษัตริย์น้นน นิวตฺตยิตฺวาน รถํ ให้ผนนพิไชยราชรถ คืนอาคต มรรคาไล เล่าแล เสนิโย เมาะ พลนิกาเย ยงงโยธาทุกหมวด ทุกหมู่ตรวจตรา ระวงงระแวดแล ปุตฺตํ อุปาคมิ พระบาทธไปสู่สำนักนิ์ เอารสรักร่วมหฤไทย ท่านน้นน เอกํ วิหรนฺตํ อมจฺจวิรหิตํ อนนอยู่ในกนนดารดง พงพนาวันวิเวก อาไศรยสัลเลขะทำงล แปลกปล่ยวพลพิริยราช ค่าไททาษก็บมี สักตนเลอย ฯ
๏ หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห เอกํ โส ปญฺชลีกโต ปริกิณฺโณ อมจฺเจหิ ปุตฺตํ สีญฺจิตุปาคมิ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุสราพก ราชา สญฺชโย อันว่าพระผู้ผ่านภพ ดิลกโลไกสวรรย์ มหามหิศรทรงธรรม์เทพสญไชย โอรุยฺห ลงจากไอยราอาศน์ อนนโอภาษผูกกระโจมทอง เอกํ โส เมาะ ตตฺถ วามํเส อุตฺตราสงฺคํ เปตฺวา พัตรากรองไกรค่า ห่มห้อยบ่าบงฉวยง ปญฺชลิกโต เมาะ ปคฺคหิตญฺชลิกโต ยอไดพยงภักตรผม ประนมนักขชุลีกร ปริกฺกิณฺโณ เมาะ ปริวาริโต หารแห่หน้าหลงงหลาม ทักษิณพามพลดาษดา อุปาคมิ ไปยงงอาวาศนิเวศ หน่อนเรศร์ราชนรินทร์ สิญฺจิตุํ เมาะ รชฺเชน อภิสิญฺจิตุํ เพื่อภิสิญจภิเศกสวัสดิ์ เชิญดำรงรัตนราไชสูรย์ พิบูลย์เบิกสีมา ท่านแล ตตฺถทฺทส กุมารํ โส อันว่าท้าวสญไชย ราชบพิตรผาดเห็นแล้ว ซึ่งพระลูกแก้วสิเนหา ขัติยวราราชกุมาร รมฺมรูปํ สมาหิตํ ธารถือเพศบรรพชิต บรรพชากิจ อุกาฐ มีมนะสาธุ์สำรวมหม้นน นิสินฺนตํ ปณฺณสาลายํ ธน้นนเอาอุรุพัธ บัตรเฌอเลอลาดปู พ่างประตูศาลาศรม ฌายนฺตํ อกุโตภยํ พยงพระศรีสยมภูวบพิตร เมื่อมารวิชิตรวิเชตร เหตุพ้นไภยพิบัติอุปัทวบีทา อนนบมานมาแต่ที่ใดที่หนึ่งน้นน โสดเลอย ฯ
๏ ตญฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ ปิตรํ ปุตฺตคิทฺธินํ เวสฺสนฺตโร จ มทฺที จ ปจฺจุคฺคนตฺวา อวนฺทิสุํ ฯ อุโภ ขตฺติยตาปสา อันว่าขัตติยดาบศ ท้งงสองพระองค์ เวสฺสนฺตโร จ คือพระพงษประภาษกร แพศยันดรดิลกก็ดี มทฺที จ คือภควดีมัทรี ศรีสุนทรพนิดาก็ดี ตญฺจ ทิสฺวาน ทายทัศนาแน่ตระหนัก ซึ่งท้าวผู้เปนจอมจักร อรรคบิตุรงค์ ปุตฺตคิทฺธินํ เมาะ ปุตฺเตสุ เปเมน สมนฺนาคตํ อนนมีมนจำนง จำนองปองปฏิพัท เอารสรัตน์นเรสูร อายนฺตํ เอาพลจดูรเสด็จมา โดยรัถยามารค ภิมุข ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปรีดีศุขสองสาภิรมย์ ออกอัญเชิญชมชื่นเคารพย์ อฺวนฺทึสุ ลันโทนทบท่าวศิระเกษ กราบบทเรศราชบิดา ท่านแล ฯ มทฺที จ สิรสา ปาเท สสฺสุรสฺสาภิวาทยิ ส่วนสุนิสาศรีสใภ้ ถั่นถึงไหว้สัศสุราบท มทฺที อหญฺหิ เต เทฺว ปาเท วนฺทามิ เต หุสา บพิตรข้าผู้สมมติว่ามัทรี สรวมสดุดีด้วยใจสาธุ์ ซึ่งพระบาทบววทอง ธท้งงคู่แล เตสุ ตตฺถ ปลิสชฺช ส่วนสมเด็จไท้ธเรศตรี ธรณีนารถนายก ปลิสชฺช เมาะ ปลิสชฺเชตฺวา หทเยน นิปชฺชาเปตฺวา กอดสองสุริยกับอก แอบองค์ ให้ซบลงแนบแทบพระหฤไทย ท่านน้นน ตตฺถ เมาะ ตสฺมึ สกฺกทตฺติเย อสฺสเม ท้าวธสถิตย์ประดิษฐาน ในบรรณศาลเสนาศน์ อินทรประสาทประสิทธิถวาย ปาณินา ปริมชฺชถ ชมลูกชายลูกสใภ้ ประลึงไล้ลูบปฤษฎางค์ ด้วยมือมางษลอออ่อน แล ตโต ราชา อันดับน้นนอันว่าท้าวผู้ทรงธรรมิกราชบิดา มหาสมโมติวงษ์ พงษ์จักรพรรดิผ่านเผ้า โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ก็กรรแสงสงโรทเร้ารำจวนใจ เหตุอาไลยลาลด กำศรดแก่สองราชตระกูลท่านแล โสเก ปรินิพฺพุเต คร้นนเสร็จ โสกาดูร พระบาทธบันทูลทุสารคาถา ดงงนี้
กจฺจิ โว กุสลํ ปุตฺต
๏ ดงงฤๅแลดู ไต่ถามแก้วกู ผู้บุตรสุดแสนสิเนหา
กุสลํ เมาะ อโรคภาวํ
อันว่าอาพาธ อาเภทพยาธิโรคา บบีธาทวาทเวอวิกลกลใด
กจฺจิ ปุตฺต อนามยํ
๏ ดงงฤๅแลดู ไต่ถามแก้วกู ผู้ลูกสงสารสายใจ
อนามยํ เมาะ นิทฺทุกฺขภาวํ
อันว่าจาบัลย์ อุบัติเพื่อประเภทไภย บผ่าวเผาใจ จำตรอมจำตรากตรำศัลย์
กจฺจิ อุญฺเฉน ยาเปถ
๏ หนึ่งค่อยเล็มล่ามาล้ยงกนน ท่วยทุเรศอารัญ ละลัดเลาะเสาะหาผลาหาร
กจฺจิ มูลผลา พหู
๏ รากไม้มนนพรรณตระการ ลูกไม้สามาญ มูลมองมากอยู่ ภอสู่เสวอย
กจฺจิ ฑํสา มกสา จ
๏ เหลือบยุงยายีมิสเบอย ยลย่อมยงงเหอย เหือดหายจรลายล่าจร หลีกหนี
อปฺปเมว สิรึสปา
๏ สบส่ำสัตว์ร้ายตววรี ปองอริราวี พ่นพิศม์ผผกแผ่ผืนพงงพาน
วเน วาฬมิคากิณฺเณ
๏ ห้ยมในไพรพฤกษพิศาล ดาษดื่นด้วยพาฬมฤคถึกเถลอง ราชสีห์แสดง
กจฺจิ หึสา น วิชฺชติ
๏ ย่อมสัตว์ตววร้ายตววแรง มนนยงงสยดแทง ขวิดทอแถกถวัดกัดกุมเอาแลฤๅ ฯ
ปิตุ วจนํ สุตฺวา มหาสตฺโต อาห
อันว่าพระแพศยันดรดาบศ เมื่อได้ฟงงพจนคาถา แห่งสมเด็จพระบรมนราราชดำรัส ด่งงน้นน ก็ซ้นนสวดคาถาทูลด่งงนี้ ฯ
อตฺถิ โน ชีวิกา เทว
๏ พระเอยอนนความขวนขวายล้ยงตนตูย่อมมาน
สา จ ยาทิสิกีทิสา
ผสายากอยู่ไพรสานต์ การเลี้ยงชีพโหดหิน
กสิรา ชีวิกา โหม
๏ ห้ยมทุกข์ทุกคํ่าเช้า เททรวงเสร้าโสกาจิณ
อุญฺฉาจริยาย ชีวิตํ
เสียแท่นนอนแผ่นดิน กินลูกไม้ไพรพรํ่าหา
อนิทฺธินํ มหาราช
๏ ฟงงเทอญไทธิบดี ดุจชีชำนินรา
ทเม อสฺสํว สารถิ
นายม้ามนนทรมา ด้วยอาชาเยียหักหาร
ตยมฺหา อนิทฺธิกา ทนฺตา
๏ สิ้นฤทธิแรงร้ายกาจ หมายเหมือนอาตมทรมาน
อสมิทฺธิ ทเมติ โน
ยากไร้ช่วงใช้งาน ไป่ปานลูกปลํ้าปลูกเข็ญ
อปิ โน กีสานิ มํสานิ
๏ ตรากตรอมไผ่ผอมเผือด ช้ำเฉกเลือดตาตูกะเด็น
ปิตุ มาตุ อทสฺสนา
เพราะเหตุแห่แหนเห็น สองสมเด็จบดีสูร
อวรุทฺธานํ มหาราช
๏ พระเอยโอ้ลำบาก ไพร่ขับพรากจยรจากบูร
อรญฺเ ชีวิโสกินํ
อาไศรยหิมวาดูร พูนทุกข์ถวิลกินน้ำตา แล ณท้าว ฯ
- เอวญฺจ ปน วตฺวา ปุน ปุตฺตานํ ปวุตฺตึ ปุจฺฉนฺโต อาห เวสฺสนฺตโร อันว่าพระผู้เผ่าพุทธางกูร แสดงทุกข์อาดูร อนนเดือดร้อนแล้วบมิหึง เมื่อจะถามถึงพฤฒิเหตุแห่งสองรา เอารสาเสมออาตม์ ก็ตรัสด้วยบาทคาถา ด่งงนี้ เยปิ เต สิวิเสฏฺสฺส ทายาทปฺปตฺตมานสา ชาลีกณฺหาชินา จุโภ พฺราหฺมณสฺส วสานุคา ฯ อุโภปิ กุมารา แม้อันว่าชรไมยกุมารกุมารี คือ เจ้าชาลีแลนางกัณหาชินนาฏ ทายาทา เมาะ พนฺธุวนฺตา อันเปนหลานรักราชสุริยวงษ์ เต สิวิเสฏฺสฺส แห่งพระองค์อรรคภูธร เทพดิศรสีพีพล วสานุคา เมาะ พฺราหฺมณสฺส มยา ทินฺนา บัดนี้ตูมละลูกสองคนคู่ชีพิตร ประสิทธิประสาท ให้เป็นข้าขาดแก่พราหมณ์ผู้หนึ่งน้นน ฯ
๏ อจฺจายิกสฺส ลุทฺทสฺส โย เน คาโวว สุมฺภติ ฯ โย โส พฺราหฺมโณ อันว่า พราหมณ์ผู้ใดน้นนพยงผีเสื้อ คือจะฉีกเนื้อเถือทั้งเปนเปนภักษ์ คือจะหํ้าหักคอ แลบลิ้นเลียกินเลือด แล สุมฺภติ เมาะ โปเถติ มนนตีสองเสมอเนตร น่าสังเวช จยนใจจะขาด อาตมจยนจะคราก แตกสองภาคทำลาย แลพ่อฮา อิว โคปาลโก ดุจโคบาลใจบาป กุมรยวกำหราบรนนวววจำวิ่งแล อติวิย ปมาณาติกฺกนฺตสฺส เถ้ากลีลาภโลภ แบมือลโมบมักได้ สมพยาธิไร้รูปร่าง พ่างบรางควานผีป่า ผีภูตห่าเหวโหง ขึ้นจับโลงเหลือกตาหลอกลูก ตูแล ฯ เต ราชปุตฺติยา ปุตฺเต ยทิ ชานาถ สํสถ ปริยาปุณาถ โน ขิปฺปํ สปฺปทฏฺํว มาณวํ ข้าแต่บพิตรภูมีศวรราช ยทิ ชานาถ ผิวพระบาทยงงยินข่าว เต ปตฺเต กล่าวถึงสองกำพร้าบ้างแลฤๅ สํสถ โน กเถถ จงพิปรายประกาศ ราชปุตฺติยา แก่ข้าแลนางน้องนาฏนงพาลภัควดี อนนมีทุกข์ลนนลุงลาญแสลง แทงหฤไทยกลุ้มกลบ เล่ห์บุคคลอนนงูขบสลบล้มลงน้นน สปฺปทฏฺํว มาณวํ เมาะ ยถา วิสนิมฺมทฺทนตฺถาย มนฺตปทํ ปริปุณฺณนฺโต เวชฺโช สปฺปทฏฺํ มาณวํ ติกิจฺฉถาติ ฟงงแฮท้าว เวชฺโช อันว่าแพทย์ผู้รู้มลักแหล่หลาย มนฺตปทํ ปริปุณฺณนฺโต เมื่ออ่านอะลำภายนมนตรา พิชาชาญชงัด วิสนิมฺมทฺทนตฺถาย เพื่อจะเป่าปัดบำบัดพิศม์ ติกิจฺฉติ ประกอบกิจรักษา มาณวํ ซึ่งมาณพ สปฺปทฏฺํ อนนต้องพิศม์สยดบยนลำบาก ยถา หากจะอุประมาฉนนใด ปริปุณฺณาถ โน ขิปฺปํ เมาะ เอวํ ปุตฺตานํ ปวุตฺตึ ปริปุณฺณนฺตา อมฺเห ติกิจฺฉติ อนนว่าท้าวผู้ไกรกยรติกษัตริย์ ปวุตฺตึ ปริปุณฺณนฺตา จงบอกซึ่งอรรถอนุสนธิ์ยุบลเหตุ ปุตฺตานํ แห่งสองกุมาเรศราชเอารส อมฺเห ติกิจฺฉถ คือเอาอำมฤตโยสถ มารินรดรักษา อาตมให้ระสาย ขิปฺปํ พลนนเหือดหายห่างโศก ซึ่งพิศม์พิโยคแยงใจ เอวํ เมาะ ตถา ก็มีอุประไมยเหมือนด่งงน้นน ราชา อาห อันว่าท้าวสญไชย ก็พฤธิปราไศรยสนองถาม ด่งงนี้ เอเต กุมารา นิกฺกีตา อนนสองดไนยหน่อเหน้า เหง้ากรุงโกรมกษัตรีย ชาลี กณฺหาชินา จุโภ คือเจ้าชาลีหลานราช หลานน้อยนาฏกัณหา พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา บิดาเสียสินไถ่ สองเจ้าพ้นจากไพร่พราหมณ์แล้ว ปุตฺต มา ภายิ อสฺส ดูกรพระลูกแก้วเกิดกับอกองค์ อย่าเยียพะวงหว่นนหวาด ได้อัศประสาศสะดวกเทิน ลูกฮา ฯ
๏ มหาสตฺโต อันว่าพระผู้ส้างสมภาร พิสุทธ หวงงสมพุทธิภิเศกสมบัติ ท้าวธมีมนัศเปรมปรา ปรีดาภิรมย์ชมชื่น หื่นหรรษาโมทย์ จึงออกพระโอฐอื้นคาถา ทูลพระบาทพระบิดา ด่งงนี้ กจฺจิ นุ ตาต กุสลํ บพิตรยงงนฤโรค นฤโศกเศร้าแสนเสบอย อยู่ฤๅ กจฺจิ ตาต อนามยํ บพิตรยงงนฤทุกข์ นฤโทษศุขสำราญ อยู่ฤๅ กจฺจิ นุ ตาต มาตุ บพิตรออกนางนาฏ ชนนีอาตมอยู่ดีฤๅ ฤๅ จกฺขุ น ปริหายติ ยยวธทรงโสกานนต์ เนตรยุคลหม่นมวว หมองบ้าง แลฤๅ ราชา อาห อันว่าพระนเรศรราชบิดา ก็ตอบสารคาถาคืน ด่งงนี้ กุสลญฺเจว เม ปุตฺต ดูกรลูกไท้ ความบไข้ขุกเข็ญ ดอกรา อโถ ปุตฺต อนามยํ ดูกรพระลูกความทุกข์บถูกถึง ดอกรา อโถ ปุตฺต เต มาตุ ออกราชมารดาเจ้า นฤโรคเร้านราดูร จกฺขุ น ปริหายติ เนตรจำรูญรงงรอง บรางจะมววหมองมืดเลย ลูกฮา มหาสตฺโต อันว่า พระมหาสัตว์ ก็ทูลท่าวกล่าวคาถาถามด่งงนี้ กจฺจิ อโรคํ โยคนฺเต กจฺจิ วหติ วาหนํ บพิตร อนนว่าวาหนะท้งงผอง รถลำยองยานุมาศ กรินไกรอาศนอัศวาชี ยงงบริบวรณ์ดีหมีเปนใด ท่ยวทางไกลจรหลํ่า บมิรู้มลำบมิรู้มล้า แลฤๅ กจฺจิ ผีโต ชนปโท กจฺจิ วุฏฺิ น ฉิชฺชติ อนึ่งโสด อันว่าเหง้ายุพราช อมาตยหมู่นิกรพฤนท์ ไพร่แผ่นดินแดนสีมา ยงงไพบูลย์ด้วยมางษมัศยา ธัญญาหารปานิโยทก ผาฟ้าฝนตกตามระดูกาล แลฤๅ ฯ ราชา อาห อันว่าพระสญไชยราช ก็กล่าวด้วยบาทคาถาคืน ด่งงนี้ อโถ อโรคํ โยคฺคมฺเม อโถ วหติ วาหนํ อันว่าวาหนะช้างม้า สีวิกากาญจ์คานหามเหมบุษบก กนกรถรูจี ยงงดูดีดูอ่า ขยวเข้าป่าไป่เปนเข็ญ ใดเลอย อโถ ผีโต ชนปโท อโถ วุฏฺิ น ฉิชฺชติ หนึ่งโสดอันว่าหมู่มุขมาตยา ท้งงโยธาทวยราษฎร์ ถ้วนหน้าสาธุ์เกษมสุข ฝนเชยชุกชอบระดูกาล อยู่แล ฯ
เอวํ สลฺลปนตานญฺเจว
๏ เมื่อน้นนนรนารถไท้ | ท้งงสอง |
เปรมศุขสนองคำชม | ชื่นหน้า |
พระภาคย์พ่างเพยียทอง | ปทุมาศ |
อาบอบอายนํ้าฟ้า | เฟื่องฟุ้งจรบลบานแล |
๏ ผุสฺสตีปิ โข เทวี แม้อันว่าพระสบรรษดี ศรีศุภลักษณ์ เลิศฦๅยศ สลฺลกฺเขตฺวา นางท้าวธกำหนดนึกในใจ ด่งงนี้ อิทานิ โสกํ ตนุกํ กตฺวา คาบนี้ไซร้ เห็นที่ไท้ท้งงสามกระษัตริย์ จะบนนเทาทุกข์โทมนัสน้อยลงแล้ว มิอย่า มหนฺเตน ปริวาเรน สทฺธึ ปุตฺตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ ออกนางพระยายุรยาตร ไปสู่สำนักนิอาตมเอารส กับด้วยยศบริพารอนนมหามเหาฬาร ดิเรกน้นน ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระสาศดาจุธาเทพบดินทร์ อินทรอับษรสุเรศ สุรเชษฐชุลิศ ก็มีพระสาศนสุภาสิตแก่สงฆ์ด่งงนี้ อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานํ มาตา เนสํ อทิสฺสถ ราชปุตฺตี คิริทฺวาเร ปตฺติกา อนุปาหนา ฯ ภิกฺขเว ดูกร พุทธภักดี ผู้มีศีลสารอาริย พิสุทธอุดมพิเศศสมาธิ์ ทฺวินฺนํ ขตฺติยานํ เมื่อสองราราชกระษัตริย์ ถ้อถ้อยตรัสจำนรรจา อิจฺเจวํ เมาะ ยถา จุตฺตนเยน โดยด่งงกล่าวมาแต่หลงงแลแล้ว มาตา อันว่าสมเด็จสบรรษดี ศรีรัตนราชนารีสูร ราชปุตฺตี เกิดในตระกูลมัทธราช โฉมอพิลาศเลอศลำยอง คิริทฺวาเร คลาไคลคลองพิถีสถาน ถึงคีรีทวารวงกฏน้นน อนุปาหนา นางท้าวธทายถอดแล้ว ซึ่งปาทุกาแก้วกาญจนผจง ปตฺติกา ลงดินเดินไปสู่ ยงงที่อยู่ขัตติโยรส ปากฏา อโหสิ ก็มีลีลาศอนนปรากฏเฉพาะภักตร์ สองทรามรักราชภรรยาท่านแล ตญฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ มาตรํ ปุตฺตคิทฺธินึ เวสฺสนฺตโร จ มทฺที จ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อวนฺทึสุ ฯ
๏ เวสฺสนฺตโร จ อันว่าสมเด็จเสด็จบพิตรแพศยันดร มทฺที จ มัทรีบดิศรสูรเทพกัลยา ตญฺจ ทิสฺวาน มาตรํ ยลอรรคดามาตย เพื่อพิสวาดิลูกตนมา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เชิญชมชื่นกฤษดา สดุดีด้วยภักดี มทฺที จ สิรสา ปาเท ส่วนองค์อ่อนไท้ ผู้ศรีสะใภ้น้อมเกล้าใกล้บาทาธุลี สสฺสุยา อภิวาทยิ ไหว้สัศสุรีราชเทพี แส้งวาทีท่าวถ่อมทูล มทฺที อหญฺหิ เต อยฺเย ออกมารดาราชตูข้าพระบาท ชื่อมัทรีนารีสูร ปาเท วนฺทามิ เต หุสา สรวมชีพบังคมบังคัลด้วย มูระธาศแทบบาทาทวา เตสุ ตตฺถ ปลิสชฺช ปาณินา ปริมชฺชถ อันว่าพระสบรรษดีศรีรัตนนารีศร สุนทรเทพมกุฎกระษัตริย์ ก็สรวมกอดสองสุริยเอารสรัตน สำผัสพื้นพระปฤษฎางค์ ด้วยหัตถมางษวิมลมุทวอุดม ตตฺถ อสฺสมปเท ธก็สถิตย์สถานในพิศาลอาศรม อนนท้าวเพศนุกรมกระทำถวายน้นนโสดแล ฯ เตสํ ผุสฺสตึ เทวึ วนฺทิตฺวา ิตกาเล ปุตฺตา กุมารกุมาริกาหิ ปริวุตา อันว่าสองดรุณราชชาลี กัณหาชินานารีราช อนนดาษไปด้วยกุมาริกา คณานิกรกุมาร เปนบริวารแวดล้อม อคมํสุ ห้อมแหน แห่เสด็จดล วนฺทิตฺวา ิตกาเล ในกษณเมื่อสองสุริยอดิสร ถวายกรกัลพุม บันสาร โกสุมศิโรตม์ แต่สมเด็จสบรรษดีเจ้าน้นนโสดสถิตย์อยู่ไซร้ มทฺที จ เตสํ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี เยว อฏฺาสิ ฯ มทฺที จ อันว่าบวรภัควดี มัทรีอรเอกองค์พิลาส โอโลเกนฺตีเยว นางท้าวธรมยรมารคเต็มตา ซึ่งกุมารชรไมมาเมื่อน้นน ทิสฺวา คร้นนเห็นแล้ว เต กุมาเร ซึ่งสองพระลูกแก้วแก่นกระษัตริย์ โสตฺถินา อาคจฺฉนฺเต อนนมาโดยสวัสดิภาพ สณฺาเรตุํ น สกฺโกติ ความโศกซาบสยวสกล บ่มิอาจที่จะดำรงตนต้งงอยู่ตามธรรมดาได้เลอย ปริเทวมานา ก็ทรงกรรแสงแครงครวญ รํ่ารำจวญรนนชวนชำงือ ตรุณวจฺฉา วิย คาวี คือโครนรักลูก ดึงสพายผูกโผนไป ตโต ปายาสิ แสลงสลดใจใจจะขาด ลุกจากอาศน์ออกมาหา ลูกแล ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่า พระสรรเพชญ์ ผู้เผด็จด้ามตัณหา ลุปรมาภิ สมพุทธ ทรงวิมุตเสวตรฉัตร ก็บันทานธรรมวัจนบันทูล ให้จดูรเพทธพิไสยสดับ ดงงนี้ มทฺทิญฺจ ปุตฺตกา ทิสฺวา ทูรโต โสตฺถิมาคตา กนฺทนฺตา อภิธาวึสุ วจฺฉา พาลาว มาตรํ ฯ
๏ ภิกฺขเว ดูราพุทเธารส พิริยบำเพ็ญพรตพรหมจรรยา ปุตฺตกา อันว่า สองพงาเหง้ากระษัตรีย์ศุขโสรถดีโดย กนนมามาแกล่ใกล้ ทิสฺวา ยลอ่อนไท้ท้าวผู้แม่แท้ ถนัดแน่แลเห็นเห็นแต่ไกล กนฺทนฺตา ป่วนใจร้องรํ่าศัลย์ แล่นมามาพลนน สู่มารดาดาบศินี วจฺฉา พาลา ด่งงดรุณีเนื้อน้อย อยากนมละห้อยหาแม่ แม่มาดล อภิธาวึสุ แล่นเสลือกสลนลิ่วโลด โดดดัก ดิ้นดิ้นโดยโดย แม่แล มทฺที จ ปุตฺตเก ทิสฺวา ทูรโต โสตฺถิมาคเต วารุณีว ปเวเธนฺติ ถนธาราภิสิญฺจิถาติ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร จำรานธุระปลิโพธ มทฺที จ อนึ่งโสด อันว่าเจ้ามัทรี ปุตฺตเก ทิสฺวา เห็นกุมารกุมารีท้งงสองรา โสตฺถิมาคเต อนนอาคฤดาโดยสวัสดี ทูรโต แต่ทุรัศทุราไลยลิ่วลี่ ถับถึงที่สถานศาลสถิตย์น้นน วารุณีว ปเวเธนฺตี ธก็มีพระกายกัมปนาท พยงปริสาจสางสิงโสดแล ฯ กิร ด่งงได้ยินมา สา มทฺที อันว่า ออกนางพญาเยาวโยค มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวิตฺวา ธกำสรวญกำศรดโศกสุดสยงสิ้นสมฤดี วิสญฺญี หุตฺวา เสวอยวิสัญญีภาพพยงมรณ์ ตากตนนอนเหนือแผ่น ดินน้นน กุมาเรปิ เวเคนาคนฺตฺวา ส่วนอรอุไภยพี่น้อง แล่นซะซ้องแซงกนนมาด้วยด่วนแล มาตรํ ปตฺวา ถึงพระแม่เจ้า สองเจ้าล้มกลิ้งเกล้าเกลือกเกษ เหนืออุทเรศราชมาดรน้นน ตสฺมึ ขเณ ในตรบัดน้นน อันว่ากษิรารศธารา ก็ไหลออกมาจากประโยธรท่านไซ้ ปวิสึสุ เฉกนํ้าในสุหร่ายระหัด อัศจรรย์ดาลดูหลาก ตรงเข้าสู่ปากสองโบดก อาบอิ่มอกเอมใจ ผิวองค์อุไภยพิสุทธิ หน่อสมมุติเทพ แม้ไป่ได้เสพย์รศกระษยร ก็จะนยรชีพ โสดแล
๏ เวสฺสนฺตโรปิ แม้อันว่าพระเพศยันดรธิบดี ปิยปุตฺเต ทิสฺวา คร้นนกุมาร กุมารีทรามรักราช ท้าวธบอาจอดอาดูรได้เลอย วิสญฺี หุตฺวา ทุกข์กำเดาดาลสุม รุมอุรารนนทด เททรวงสลดสลบลง ในที่น้นน มาตาปิตโรปิสฺส แม้อันว่าทวัยราชา คือองค์บิดุราธิราชมาดุรงค์ วิสญฺี หุตฺวา ทรงกรรแสงสาหศรทดรทาย ท่าวทอดกายทรุดลงสลบแล สหชาตา อันว่าหมู่สหชาติโยธาท้งงหกหมื่น ตื่นตระหนก ต่างตีอกรํ่ารักราชกลิ้งเกลือกกลาดกลางดิน บนนดาลพลพฤนทไพร่แลนาย ชายแลหญิงทงงหลายทงงปวงโสด ทิสฺวา เห็นหกกระกษัตริย์ทรงโรทร้องรํ่าไร ซอนซบไป เมื่อน้นน การุญฺํ บมิอาจกล้นน กรุณา ฟายนํ้าตาโสกานนต์ ทุ่มเท้งตนตระด่าว ดิ้นสิ้นสมฤดี เสพยพิสัญญีภาพท้งงผองโสดแล สกลอสฺสมปทํ อันว่าตระมวลสกลอาศรมบท ยุคนฺตวาตปติตํ วิย สาลวนํ อโหสิ ปรากฏดุจสาลวัน อนนต้องยุคันตวายุวาต รนาศรนับหัก ท้าวทับลง เล่ห์น้นน ตสฺมึ ขเณ ปพฺพตนทีสุ พ้นภูเขาท้งงหลายแลนที อนนมีในไพรพระหารญ ก็วิจลอัศจรรย์ดาลดูแปลก แผกกว่าธรรมดาในบัดดยวน้นน มหาปวี กมฺปิ อันว่ามหาปรัถพีผืนผไทแท่น แผ่นผเทศมณฑล สกลกมฺปี ดุจครวีไหวหว่นน ป่นนไปมาเมื่อน้นน มหาสมุทฺโท สงฺขุภิ อันว่ามหาพิศาล สมุทผุดเปนคลื่น ตื่นตีฟองฟุ้งฟัดฝ่งง ดงงจะตีทวงททาย รํ่ารักราชท้งงหลายสลบแล สิเนรุปพฺพตราชา อันว่าพระญาสิเนรุบรรพตาก็บรรดลดาล ประตยนประตยักษ์ โอนมิ เอียงอรรคจุฬาลันโทนโอนโอนต พยงจะกำศรดสงสาร ท่านน้นน ฉกามาวจรเทวโลกา อันว่าทวยเทพ ในช้นนฉ้อสรวง ก็ลลวงลาญลวงลวล เอกํ โกลาหลํ บงงเกิดโกลาหลมหามหัศจรรยาดิเรก เปนเอกอันเดียว ระดมกนน กึกก้อง สารดุจร้องรํ่าศัลย์ โศกแล ฯ อถ สกฺโก เทวราชา ถัดน้นน อันว่าท้าวสหัสเนตร ผู้เปนสุรเชษฐเทพดา จินฺเตตฺวา ธก็จินตนานึก ดงงนี้ ฉขตฺติยา สปริสา วิสญฺิโน ชาตา อันว่าอดิศรกษัตริย์ท้งงหกตน ท่าวท้งงพลพิริยอมาตย์ โอ้เอนดูดูอนาถหนักหนา บารนี้ อุฏฺาย อุทกํ สิญฺจิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ ชื่อว่าใครก็ไป่อาจที่จะอุฏฐา แลจะให้ซึ่งยาเยียกลํ้า หล่อซึ่งนํ้าลงเหนือตน แห่งบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งนั้นก็บมิเนดเลอย หนฺททานิ เนสํ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสาเปสฺสามีติ ผิด่งงน้นน อาตมจะยงงห่าฝนโบษขรพรรษ ให้ปรวัตนาการตกลง เพื่อประสงค์จะสงเคราะห์ เฉภาะแก่ชนท้งงหลายในบัดนี้เทอญ ฉขตฺติยสมาคเม อำมเรศูรสำแดงพล ยงงห่าฝนโบษขรพรรษ ให้ตกในสโมสรกระษัตริย์ท้งงหกน้นน ตตฺถ เย เตมิตุกามา บนนดาคนใดแล ใคร่ปราถนาเพื่อจะอาบ เมล็ดฝนน้นนก็ซุ่มซาบสริราพยพ สบสรรพางค์ผู้ใฝ่น้นน เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น สณฺาติ แม้อันว่าหยาดหน่วยเมล็ดฝน ก็ไป่ติดไป่แปมตนคนผู้ไป่ประสงค์ ซึ่งจะอาบน้นน โสดเลอย ปทุมปตฺเต อุทกํ วิย เมล็ดฝนน้นนกลิ้งกลอก ไหลกระหลอกเลือนไป ดุจนํ้าค้างตกแต่ใบบงกช มีอาการกำหนดเหมือน ด่งงน้นน อิติ ตํ โปกฺขรวสฺสํ อโหสิ เหตุด่งงน้นน อันว่า อุทกพรรษาสวรรค์อนี้โสด จึ่งประกาศชื่อว่าโบษขรพรรษธารา ดิเรกแล ตทา ฉขตฺติยา กาลน้นน อันว่าท้าวธรณี กระษัตรียศวร ท้งงหกตนเปนต้นน้นน อสฺสาสํ ปฏิลภึสุ ได้สมฤดีดำรงอาตม์ คือ อัศประสาศ สะดวกแล ฯ
๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระวิสุทธิเทพทศพล อนนตญาณยศยิ่งธ จึ่งเสด็จแสดงอรรถตรัสแก่สังฆษดม ด่งงนี้ สมาคตานํ าตีนํ มหาโฆโส อชายถ ฯ ภิกฺขเว ดูกรอาริยรอาบาป มหาโฆโส เมาะ การุญฺโฆโส สยงพิลาปเท้งทวง ดินแดนสรวงช่วยเศร้า อาชายถ เกิดแก่ปวงพระญาติ หกราชเข้าคบกนน คาบน้นน มาตาปิตโร อาทึ กตฺวา สพฺพสฺมึ มหาชเน ในเมื่อหมู่โยธี กระทำพระชนกชนนีธาตรีศวรราช เปนอาทิ์อาดูรด้วยพิโยค ยูศัลย์โศกซรวนซบลงแลแล้ว ฯ ปพฺพตา สมนาทึสุ มหี อากมฺปิตา อหุ วุฏฺิธารํ ปวตฺเตนฺโต เทโว ปาวสฺสิ ตาวเท ฯ ปพฺพตา เมาะ ปพฺพตํ นิสฺสิตเทวตา อันว่าเทพยดาอดุลยเดช อนนอยูในเขาหิมเวศวงกฏน้นน สมนาทึสุ เมาะ วิรวึสุ ก็บนนฦๅสรบนนเลงเครงคฤ้านสรทื้นท่ววทุกพายผเทศแล มหี อากมฺปิตา เมาะ อาภูโส กมฺปนฺติ จบจักรวาฬไหวหว่นน ดินฟ้าฟะฟ่นนป่นนปานไกวกว่าชื่นแล เทโว เมาะ เมโฆ อันว่ามหิมาเมฆมืดมิด ชอุ่มอับทิศทิศอนนท่ววทวีปแล นทนฺตา ฟ้าแมลบมล่นนร้อง ท้องฟ้าขยวขขํ่า ยงงฝนพพรํ่าพรอยพรำ อึ้งอึงอัมพรระงม ด้วยกำลงงลมพายุพัดน้นน ฯ
๏ อถ เวสฺสนฺตโร ราชา าตีหิ สมาคจฺฉถ ฯ อถ เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่า พระยาธรรมทานาธิเบศวร์ บพิตรพระเพศยันดร สมาคจฺฉถ พระบาทธได้สโมสร สมาคม อุดมด้วยพระญาติทงงหลายในขณะใด ตทา เมโฆ วสฺสิ ก็ยงงโบษขร พรรษธาราให้หล่อหล่งงลงมาในขณะน้นน ฯ นตฺตาโร สุณิสา ปุตฺโต ราชา เทวี จ เอกโต ยทา สมาคตา อาสุํ ตทาสิ โลมหํสนํ ฯ ฉขตฺติยา อันว่าขัติยาธิบดีศวรดิลก หกพระองค์น้นนฤๅ นตฺตาโร เมาะ เทฺว กุมารา จ คือสองกุมารกุมารีก็ดี สุณิสา ปุตฺโต เมาะ มทฺที เวสฺสนฺตโร จ คือเจ้ามัทรีภัควะดีดวงอนุช แลพระมหาบุรุษ ราชเจ้าก็ดี ราชา เทวี เมาะ สญฺชโย ผุสฺสตี จ คือพระสญไชยผู้ผ่านเผ้าแผ้วแผ่นผงร แลบวรสบรรษดีพนิดาก็ดี สมาคตา ได้มาสู่สันนิบาต เอกโต เมาะ เอกาเน ในเอกอาสน์สถิตย์สถาน ยทา ย่อมมีแล้ว ในกาลเมื่อใด โลมหํสนํ อันว่าลางหลากใจชื่น บงงเหตุหื่นหรรษาสยอง แสยงขนพองเพื่อปรีดี ตทา อาสิ ก็มีในไสมย เมื่อน้นน โสดแลฯ ปญฺชลิกา ตสฺส ยาจนฺติ โรทนฺตา เภรเว วเน เวสฺสนฺตรญฺจ มทฺทึญฺจ สพฺเพ รฏฺา สมาคตา ฯ สพฺเพ ชนา อันว่าหมู่มหาชน คนทงงหลาย นาคราเจว หมายคือ ชาวเชดุดรนครสีมาก็ดี เนคมา ชนปทา จ คือฝูงประชาชาวนิคมคน แลฝูงชาวชนบทน้อยใหญ่ก็ดี สมาคตา ชุมใจไพร่พร้อมเพรียงกัน ปคฺคหิตญฺชลิกา หุตฺวา ถวายอภิวันทกฤษดาญ กฤษดากรานกราบเกล้า ตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา กนฺทิตฺวา ซบแทบเท้าธไห้สอื้น ตาชุ่มชื่นงำงือใจ ยาจนฺติ จึ่งอัญเชิญเจ้าไตรภพภูเบศร์ โฉมแก้วเกษนีนาฎ ด้วยคำอาราธน์รํ่าไรทูล ด่งงนี้ นครํ เนตุกาโม โส อิเธว อภิสิญฺจสิ ตฺวํ โนสิ อิสฺสโร ราชา รชชํ กาเรถ โน อุโภติ ฯ ตฺวํ อันว่าพณเกล้า เหง้านเรศูรอิศรพงษ์ อิสฺสโร ราชา จงเจ้ากูมาเปนเอกองค์อิศรภาพผ่านฟ้า ผ่านแผ่นหล้าโลกากร โน เปนพำนักนิ์แก่ตูข้าราษฎรทงงหลาย ทรพ่อฮา โส ปิตา อ้าบัดนี้ อันว่าท้าวธรารักษธเรศตรีธรนีนารถชนก เต แห่งพระผู้จอมจักร อรรคดิลกโลกยโมลี เลอศนี้ อภิสิญฺจสิ ธมีมนประสงค์สาภินนท์ เพื่อจะถกลการพระราชพิธีถวัลยา พิไชยราชาภิเศก อิธเอว าเน ในอรัญญิกวิเวกวงกาจลนี้แล้ว แท้จริง เนตุกาโม ปราถนาจะนำพณหววแก้วกูคืนคง นครํ ดำรงรัตนราชธานีบุรีรมยพิศาล พยงสุรสถานทิพย์พิเสศน้นน ตุมฺเห อันว่าพระองค์ อุโภ ทงงสองสุริยพงษ์ จักรพรรดิผ่านเผ้า เจ้าจักรพาฬภพนารถ รชฺชํ กาเรถ เชิญท้าวธเสวอยราชเสวอยรมย์ เสวอยสวัสดิอุดมด่งงก่อนเทอญ กุลสนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ ปฏิปชฺชถ พระบาท จงรับราชเบญจพิทธกกุธภัณฑ์ สุวรรณมาลาลงกาภรณ์บวรเสวตฉัตร อนนเป็นบริศการกระษัตริย์ ธิปัตยประยูรแห่งท่านแล ฯ
ฉขตฺติยปพฺพํ นิฏฺิตํ
ฉกระษัตรีย์บรรพจบบริบูรณ์ พระพุทธบันทูล
ทำสำเร็จ เสร็จสำฤทธิพระคาถา ๓๖ เท่านี้ ฯ