กัณฑ์มหาราช

  1. ชูชกพาสองกุมารเดินทาง เวลาคํ่าตาแกก็ผูกเปลนอนเหนือค่าคบไม้ เทพยเจ้าก็ช่วยอภิบาลบำรุงรักษาสองกุมาร.
  2. ล่วงมรรคาได้หกสิบโยชน์ ก็ลุถึงกรุงพิชัยเชตุดรนครหลวงแห่งสีวิรัฐ ชูชกพาสองกุมารผ่านมาตรงหน้าพระที่นั่ง.
  3. พระเจ้ากรุงสญชัย ให้พาพราหมณ์ชูชกมาเฝ้า ทราบความแล้ว ทรงไถ่พระเจ้าหลานทั้งสองด้วยพระราชทรัพย์.
  4. พระเจ้ากรุงสญชัย ยกพยุหแสนยากรไปรับพระเวสสันดร พระชาลีเป็น มัคคุเทศน์ นำพลไปยังเขาวงกฏ.

มหาราชบรรพ

๏ โพธิสตฺโต จ มทฺที จ สมฺโมทมานา สกฺกทตฺติเย อสฺสเม วสึสุ ฯ อันว่าพระโพธิสัตว์ก็ดี เจ้ามัทรีก็ชื่นชม ในอาศรมอนนอดิสูรปรสาท สองปรียาตม์ไปมา เมื่อน้นน ฯ ชูชโกปิ กุมาเร คเหตฺวา ส่วนชูชกาจารย์ ก็เอาราชกุมารท้งงสองภาไปโสดแล สฏฺีโยชนมคฺคํ ปฏิปชฺชิ ก็ไปโดยหนทางบมิโหจ หกสิบประโยชน์ ประมาณมีด่งงนี้ ฯ เทวตา กุมารานํ อารกฺขํ กรึสุ อันว่าเทพยดาก็รักษาสองราช ให้นฤพยาธินฤไภยทุกอนน โสดแล ฯ ชูชโกปิ สุริเย อตฺถงฺคมิเต อันว่าชีชูชก ในเมื่อตวันตกตํ่าคํ่าแล้ว ในเมื่อน้นน กุมาเร คจฺเฉ พนฺธิตฺวา มนนก็จำนองสอง กษัตริย์ไว้ แทบทำทุมต้นไม้ตํ่าน้นน ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา ก็ให้สองกษัตริย์กลิ้งเกลือกนอน เหนือดินดอนบราบน้นน สยํ จณฺฑพาฬมิคภเยน รุกฺขํ อารุยฺห ส่วนชีชูชกเหตุตระดกอยู่ววาน กลววมฤคพาลพาธ เถ้าก็ผาดลคึก ปีนป่ายพฤกษ อยู่น้นน สาขาวิฏปพฺภนฺตเร สยติ ก็นอนในแมกไม้ผฝ่อ ผ้าผูกห่อตนติด อยู่โสด ฯ ตสฺมึ เอโก เทวปุตฺโต เวสฺสนฺตรวณฺเณน อาคนฺตฺวา ในตรบัดน้นน อันว่าเทพบุตรตนหนึ่ง จึงนฤมิตรบิดเพศมา ดุจพระมหากษัตริย์น้นน เอกา เทวธีตา มทฺทีวณฺเณน อาคนฺตฺวา อันว่าเทพธิดาองค์หนึ่งผู้พิเศษ ก็มาด้วยเพศอนนเป็นเจ้าภควดีมัทรี โสดแล กุมาเร โมเจตฺวา ก็มาสำรายราชกุมารท้งงสอง จากจำนำจำนองพราหมณ์น้นน หตฺถปาเท สมฺพาหิตฺวา ก็นวดฟ้นนค้นนตีนมือสองกำพร้า ที่เมลื่อยล้าพราหมณ์มัดผูกน้นน นฺหาตฺวา มณฺเฑตฺวา ก็ให้สองเอารสสระสรง เสร็จสมลงกฏวิภูษิตแลแล้ว ทิพฺพโภชนํ โภเชตฺวา ก็ให้สองราชกุมาร เสวยอาหารอนนทิทพยน้นน ทิพฺพสยเน สยาเปตฺวา ก็ให้สองกษัตริย์ไสยาศน์ ในเหนือ อาศนอนรรฆ์ อนนนีรมิตรมาแต่สวรรค์ โสดแล ฯ อรุณุคฺคมกาเล พทฺธากาเรเนว นิปชฺชาเปตฺวา ในเมื่อพระฮามยาม อรุโณไทย ก็ให้สองดไนยนงพาล อยู่โดย อาการ ก่อนน้นน อนฺตรธายึสุ เทพยดาก็กำบงงรุบาการ อันดรธานไป โสดแล เอวนฺเต เทวตาสงฺคเหน อโรคา หุตฺวา คจฺฉนฺติ อันว่าสองกุมารก็นีรทุกข์นีรโศก บมิโรคบมิร้อนสักอนน เพราะเทพในสวรรค์มาบริรักษ์ โสดแล ฯ

๏ ชูชโกปิ เทวตาวิคฺคหิโต หุตฺวา อันว่าชูชกใจฉกรรจ์ เทพยก็มาอัศจรรย์แก่ใจมนน โสดแล อิทานิ กลิงฺครฏฺํ คมิสฺสามีติ มนนก็รำพึงว่ากูจะไป ยังกาลึงคราษฎร์น้นน อฑฺฒมาเส เชตุตฺตรนครํ ปตฺโต เหตุเทพยดามาอาเพศให้แคล้วคลาศ ถ้วนอัฒมาศก็มาถึง พระนครเชดุดรแดนจักราน้นน ฯ ตํทิวสํ ปจฺจูสกาเล สญฺชโย สิวิมหาราชา สุปินํ ปสฺสิ ในวนนน้นนเมื่อปัศจาศสมยยาม พ่างพระฮามอรุโณไทย อันว่ากรุงสญไชยนรินทร์ ก็เสวยพระสุบินด่งงนี้ เอวรูโป สุปิโน อโหสิ อันว่าฝนนบงงควรดงงนี้ ชี้ให้เห็นเปนปรตยักษ์แก่พระองค์ บพิตรน้นน รญฺโ มหาวินิจฺฉเย นิสินฺนสฺส ในเมื่อกรุงสญไชยราช เสด็จเหนือรัตนสิงหาศน์ที่ธารคำนรร มนตรีคัลคับค่งงน้นน เอโก ปุริโส กณฺโห เทฺว ปทุมานิ อาหริตฺวา อันว่า กระไทยชายผู้หนึ่งดำคมึกลคึก ถือดอกบววหลวง ท้งงสองดวงมาในที่น้นน รญฺโ หตฺเถ เปสิ ก็มาประดิษฐานในพระกร แห่งพระภูธรบพิตรน้นน ราชา คเหตฺวา ทฺวีสุ กณฺเณสุ ปิลนฺธิ อันว่ากรุงสญไชยราชก็ทัดทานวาริชโกมล ในพระกรรณยุคลท่านน้นน เตสํ เรณุ ภสฺสิตฺวา รญฺโ อุทเร ปตติ อันว่าบางสุบงกชก็โบกใบไพโดรเสร็จสุดรุสรังเคาะ ฉะเพาะนะพระอุทรแห่งท้าวเชตุดรน้นน โส ราชา ปพุชฺฌิตฺวา อันว่ากรุงสญไชยราช ก็ตื่นในไสยาศนบรรยงก์ แห่งพระผทมองค์บพิตรน้นน ปาโตว พฺราหฺมเณ ปาเก ปุจฺฉิ คร้นนเช้าธก็ให้หาบโรหิต ท้งงพราหมณ์พฤทธิมามาก ท้าวธก็มีพระภาคโองการสารถาม ความกูฝนนจะเปน ฉนนใด โสดสิ้น จิรปฺปวุฏฺา เต เทว พนฺธวา อาคมิสฺสตีติ พฺยากรึสุ อันว่า พราหมณ์ท้งงหลายก็ทำนายโดยทำนูล บพิตรพระนเรสูรทำเนอ อํเพอพระญาติ พระญา คลาศคลาไปหึง ก็จะมาถึงพระบาท มิยาเลอย โส ปาโตว สสํ นฺหาตฺวา คร้นนอรุโณไทย พระบาทสญไชยก็ชำระ กริตยภิษิตสรรพางค์ ทรงพระสำอาง อาภรณ์ คนธกำจรบรัส ทรงพระพัตรพิจิตรพิพิธ แลแล้ว นานคฺครสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา ธก็เสวอยพระโภชนาหาร อนนนานับประการต่างต่างน้นน อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา แล้วท้าวก็ประดับพระองค์พระภูธร ด้วยสรรพาภรณวิภูษิต แลแล้ว มม วินิจฺฉเย นิสีทิ จึ่งท้าวธเสด็จในตรีมุขยมณฑล แสนสามลคัลค่งงน้นน เทวตา พฺราหมฺณํ กุมาเรหิ สทฺธึ อาเนตฺวา อันว่าเทพยดาก็พาพราหมณ์ แลสองนงรามหลานราช เดอรโดยมารควางมาซซ่องแล ราชงฺคเณ ฺปยึสุ ก็มาประดิษฐาน พระราชกุมาร ในพ่างพระลาญไชยท่านน้นน ตสฺมึ ขเณ ราชา มคฺคํ โอโลเกนฺโต ในกษณน้นนบ้นนพระบาท ก็ทอดพระราชทฤษฎี ยงงพิถียพระพลาญเลอศน้นน กุมาเร ทิสฺวา อาห พระสญไชยราชเจ้าจอมกษัตริย์ ตรบัดบงพระเนตร เห็น กุมาเรศสองราช อนนมีพิลาศลีลา ท้าวธก็ทักด้วยคาถาเปนประถม สรรเสริญชม ด่งงนี้ ฯ กสฺเสตํ มุขมาภาติ เหมํวุตฺตตฺตมคฺคินา ฯ โภนฺโต อมจฺจา ดูกรชาวเจ้า เหง้ายุพราช อีกอมาตยลูกขุน กสฺส กุมารสฺส เพื่อดรุณเด็กใด เอตํ มุขํ อนนมีภักตรนั้นใสตระศักดิ์ อาภาติ เมาะ วิโรจติ งามพึงรักพึงชม โฉมอุดมเรืองรอง เหมํ อิว เมาะ สุวณฺณพิมฺพํ วิย ดูประดุจรูปทองธเกลา สุวณฺณกาเรน แลช่างทองเหลาหล่อแล้ว อุตฺตตฺตํ เมาะ ตาปิตํ แผ้วเผาราคีเรืองไร อคฺคินา ด้วยแสงไฟบเศร้า อาภาติ เมาะ วิโรจติ ดูรุ่งเร้าชัชวาล โอ่ไปดูตรการแก่ตาเรา กว่าชื่น แล นิกฺขํว ชาตรูปสฺส อุกฺกามุขปหํสิตํ ฯ ปหํสิตํ แลภักตรากุมารน้นนโสดงามด่งงฤๅ นิกฺขํ อิว เมาะ สุวณฺณฆฏิกา วิย สุวณฺณปฏิมา วิย ฯ สุวณฺณฆฺฏิกา วิย คือแท่งทองธโกรษธเกลา สุวณฺณปฏิมา วิย คือดุจรูปทองธเหลาธหล่อ ปหํสิตํ เมาะ ชาติมตํ ปภสฺสรํ พิโลญล่อแสงใส อุกฺกามุเข ในปากเบ้าแสงจรัส โฉมบรัสรูจี โหติ ก็มีอำไพรูดูงาม ในพระราชสนามเราด่งงนี้ อุโภ สทิสปจฺจงฺคา สองโสภาพระแต่ง พิศพยงแพ่งพิมพ์ดยวดุจน้นน อุโภ สทิสลกฺขณา สองสุภลักษณ์เลงเลอศนี้ โฉมประเสรอฐเสมอกัน บแปลกเลอย ชาลิสฺส สทิโส เอโก ชายดยวดุจดไนยนารถ ชาลีราชหลานรักแล เอกา กณฺหาชินา ยถา หญิงดยวดุจธิดา ราชกัณหาหลาน ราชน้นน สีหา วิลาว นิกฺขนฺตา พิศดำเนอรลีลา เมื่อสองราลีลาศ ดุจสีหราชร้างคูหา หาภักษน้นน อุโภ สมฺปตฺติรูปกา มีรูปโฉมโนมพรรณ สองเสมอกนนช้า ช่อน ขาวดด่อนดูยงยิ่งนี้ ชาตรูปมยาเยว ดุจรูปทองท้งงแท่ง ภักตราแบ่งบงกช ใสสดอยู่รองรอง อิเม ทิสฺสนฺติ ทารกา ต้งงตาแลลืมพรับ สองงามสับพรรพางค์ เพื่อลูกขุนนางนามใดด่งงนี้ ฯ เอวํ ราชา ตีหิ คาถาหิ กุมาเร วณฺเณตฺวา อันว่า พระบาทก็สรรเสริญสองราชกุมาร ด้วยคาถาสามประการด่งงนี้แลแล้ว เอกํ อมจฺจํ อาณาเปสิ ธก็ใช้อมาตย์ผู้หนึ่ง จึงบันทูลด้วยพระราชโองการด่งงนี้ คจฺฉ ตฺวํ พฺราหฺมณํ ทารเกหิ สทฺธึ อาเนหีติ ดูกรอมาตย์เร่งลุกฉับ มึงไปรับสองกุมารกุมารี แลชีพราหมณ์มานี้ทวัน โส เวเคน คนฺตฺวา ตํ อาเนสิ อันว่าอมาตย์นายมหาดไทย ไปจูงมือพรามหณ์มาด้วยด่วนแล อถ พฺราหฺมณํ ราชา อาห อันว่าสมเด็จบรมนนทลาธิบดี ธจะมีพระบรมราชโองการแก่ชีชูชกาจารย์ ไท้ธก็บรรหารคาถาด่งงนี้ กุโต นุ ตฺวํ ภารทฺวาช ดูกรภารทวาช มึงมาแต่ราษฎร์ด้าวแดนใด ด่งงนี้ อิเม อาเนสิ ทารเก เหตุใดแลชีเถ้าเอาสองเจ้าจยรจรมาในที่นี้ อชฺช รฏฺมนุปฺปตฺโต ก็มาลุถึงราษฎ์วาสี บุรีเราในวนนนี้นชี กุโต อาคจฺฉสิ พฺราหฺมณ ดูกรชูชกาจารย์ มึงมาแต่สถานใด ด่งงนี้ ชูชโก อาห ชูชกก็ทูลพระกรุณาแด่นราธิราชสัญชัยคืน ด่งงนี้ มยฺหนฺเต ทารเก เทว บพิตร อันว่าพระราชกุมารท้งงสอง ข้าสํพองเอามานี้ฤๅนท้าว ทินฺนา วิตฺเตน สญฺชย แลพระแพศยันดรดาบส ให้สองราชเอารสนี้แก่ตูด้วยชอบไส้ อชฺช ปณฺณรสา รตฺติ บพิตร แต่ข้าได้ไคลคราศ ถ้วนอัฒมาศก็มาถึงบัดนี้ แลณท้าว ยโต ลทฺธา เม ทารกาติ กาส แต่ได้สองเจ้า นับควบเท้าถึงวนนนี้แล พ่อฮา ฯ ราชา อาห อันว่าสํเด็จไอสวรรยาธิปัตย์ก็กล่าวแก่กลึงครัษฎวาสี ชีชูชก คืนด่งงนี้ เกน วา วาจเปยฺเยน ดูกรชูชกาจารย์ ชิวหาหวานมึงกล่าว ท้าวใดท่าวทำโดยมึง ด่งงนี้ สมฺมา าเยน สทฺทเห ใครจะชิดจะเชื่อ คำมึงเพื่อการใด แลมา ต้งงใจจงกล่าวนี้ เตตํ ทานมททา ดูกรชีคนใดมีมามาก ใครต้งงตยาคแก่มึงด่งงนี้ ปุตฺตเก ทานมุตฺตมํ ฤๅอาจให้ลูกรัก ลำนักเนตรเปนทานใจแลไปหารบานี้ ฯ ชูชโก อาห อันว่าภารทวาช ก็สนองพระสาสนไทมูรธาษภิษิต สํเด็จบพิตรคืนด่งงนี้ โย ยาจตํ ปติฏฺาสิ อันว่าพระแพศยันดรตนใดตนหนึ่ง เปนที่พึ่งแก่ยาจกน้นน ภูตานํ ธรณีริว ดุจแผ่นดินอนนกว้าง สัตว์ท่ววท้างอาไศรยทุกแห่ง แล โส เม เม เวสฺ สนฺตโร ราชา ท้าวธนั้นแลเลอศ นี้ตายเกอดข้าขอเห็น ท่านน้นน ปุตฺเตทาสิ วเน วสํ ธเสด็จอยูในวรวงกฏ ให้สองราชเอารสนี้แก่กูด้วยชอบไส้ โย ยาจตํ คติ อาสิ บพิตรท้าวตนใดใจดี ชาวสีพีสรวมสู่น้นน สวนฺตินํว สาคโร ดุจสาครควิวคว่าง ทางน้ำหล่งงไหลถึง ทุกแห่งน้นน โส เม เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่า พระแพศยันดรตนน้นน ธหากฝนนฝงงธรรม ท่าวแล ปุตฺเตทาสิ วเน วสนฺติ ธเสด็จอยู่ด้วยอารญยก ธให้สองโบฎกนี้แก่กูแล ณ พ่อฮา ฯ

๏ ตํ สุตฺวา อมจฺจา อันว่าอมาตยคร้นนได้ยินความ แห่งพราหมณ์ทูลใน สนาม ด่งงนี้ เวสฺสนฺตรํ ครหมานา อาห ก็จะนินทาพระมหาบุรุษราช ทยรประกาศคาถา ด่งงนี้ ทุกฺกฏํ วต โภ รญฺา ดูกรชาวพ่อมนตรีมุข ท้าวธหุกเห็น จริง ด่งงนี้ สทฺเธน ฆรเมสินา เปนฤๅษีมีเมีย ศรัทธาเสียสันโดษน้นน กถํ นุ ปุตฺตเก ทชฺชา ดงงฤๅแลมาให้ลูกเต้าต่างตา แก่พราหมณ์พาชูชกนี้ อรญฺเ อวรุทฺธโกเขาขับหนีไปป่า เร่งร่ายกว่ากินเมือง เมื่อแก่น้นน อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ ดูกรฝูงมนตรีไพร่ฟ้า ท่ววหน้าเร่งรัดฟงงกล่าวนี้ ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา ฝูงลูกขุนเท่าใด มาชุมในตรีมุขนี้ กถํ เวสฺสนฺตโร ราชา ท้าวฤๅษีน้นนโสด มาฉุกโฉดฉนนใดด่งงนี้ ปุตฺเตทาสิ วเน วสํ อยู่เปนชีชาวป่า มาล่าให้สองกษัตริย์นี้ชอบฤๅ ทาสํ ทาสิญฺจ โส ทชฺชา อันว่าพระแพศยันดรเปนเจ้า ควรครอกเค้าเปนทานชอบไส้ อสฺสํ จสฺสตรีรถํ หนึ่งควรให้ม้าสามาญ ม้าโยงยานรฐรวศน้นน หตฺถิญฺจ กุญฺชรํ ทชฺชา ช้างชำนิพลายสาญ ควรเปนทานแก่ยาจกไส้ กถํ โส ทชฺช ทารเกติ เหตุใดแลท่านเจ้า มาให้ลูกเต้าสองสงวนชอบฤๅ ฯ

ตํ สุตฺวา กุมาโร ปิตุครหํ อสหนฺโต อันว่าเจ้าชาลี กรษัตรีย์ชาติ คร้นนฟงงคำคณอมาตย บมิอาจอดความทรยศอนนเขานินทาภมาน ออกยาพระราชกุมารได้ โสดเลอย วาตาภิหตสฺส สิเนรุโน อตฺตโน พาหุนา อุปตถมฺเภนฺโต วิย อิมํ คาถมาห เจ้าก็จะกล่าวกนนพระราชบิดา จากความพ้นโลกาประภาษ ดุจด่งงพระมหาบุรุษราชผู้มีฤทธิ์ เงื่อนพระพิศณุเอาพระพาหุดำรง ให้คงพระเมรุราช อนนอาจให้ย้งงอยู่ อนนลมพัดพยู่หพนนฦก เจ้าก็ลคึกผดุงบให้เซร ก็ผเดคืนบให้ ซรวด ก็สวดคาถาทูลแด่พระไอยกาธิบดี ภูมีศวรคืน ด่งงนี้ ยสฺส นาสฺส ฆเร ทาโส อสฺโส จสฺสตรีรโถ หตฺถี จ กุญฺชโร นาโค กึ โส ทชฺชา ปิตามหาติ ฯ โภ ปิตามหา ข้าแต่พระไอยกาธิบดี ศรีสญไชยผ่านหล้า ทาโส วา อันว่าข้าชายช่วงใช้ใกล้ตีนมือก็ดี ทาสี วา อันว่าข้าหญิงคือพระกำนรรก็ดี อสฺโส วา อันว่าม้าเห็จหรรลาเล่ง อสฺสตรีรโถ วา อันว่าม้าเร็วเร่งรถไกว หตฺถี วา อันว่าช้างวางไพรแปลงปลอก นาโค วา อันว่าช้างสารออกมรรมท กุญฺชโร เมาะ เสฏฺโ อนนอาจสาหสหาญยิ่ง อสฺส เมาะ เอกํเสน น อตฺถิ ก็บมีสักสิ่งสักอนน สบกำนรรจริง แล ณ ท้าว ฆเร ในที่ย้าวอยู่กลางดง ยสฺส ปิตุโน แห่งพระองค์พระราชบิดาตนใด วเน วสนฺตสฺส อนนอยู่ในไพรพระหิมพานต์ กลางกันดารพนาสณฑ์ โส ปิตา คือพระราชบิดาตนตูข้านี้ แล ณพ่อ ทชฺชา เมาะ ทเทยฺยาสิ อนนจะพึงเกื้อก่อกรุณาทยาทานเต็มใจ กึ นาม ธนํ แลจะมีสิ่งสินใดภายนอก พฺราหฺมณสฺส แลจะให้แก่พราหมณ์เถ้าผอกหงอกหลง สนองต่างองค์ตูนี้ณท้าว ฯ ราชา อาห อันว่าสมเด็จนฤเบนทราธิบดีตรีภูวนารถ ก็มีพระราชโองการ อนนกัลเว้า แก่พระเจ้าจอมกษัตริย์คืน ด่งงนี้ ทานมสฺส ปสํสาม ดูกรราชผู้เปนหลาน ทานพ่อเจ้ากูสรรเสริญทุกเมื่อไส้ น จ นินฺทาม โปตกา เราบห่อนนินทาทาน ท้าวใจอารยอุดมน้นน กถํ นุ หทยํ อาสิ หววใจออกญาเจ้า ยงงโศกเศร้าฉนนใด ด่งงนี้ ฯ ตุมฺเห ทตฺวา วนิพฺพเกติ เมื่อธให้สูสองราช เปนข้อยขาดแก่พราหมณ์นี้ กุมาโร อาห อันว่าเจ้าชาลีผู้ฉลาด ก็สนองพระสาศนพระไอยกา ปู่พญาคืน ด่งงนี้ ทุกฺขสฺส หทยํ อาสิ ข้าแต่ท้าวผู้ปู่ ลูกท้าวอยู่เปนทุกข์ ใจบศุขสักอันเลอย พ่อฮา อโถ อุณฺหํปิ อสฺสสิ อนึ่ง ท้าวธถอยใจใหญ่ ใคร่ใจหลวงระลวง คือไฟฟอกน้นน โรหณีเหว ตมฺพกฺขี อันว่าพระเนตรทงงสอง บัดนี้หมองดูแดง ดุจแสงดาวโรหินี แลณท้าว ปิตา อสฺสูนิ วตฺตยีติ อันว่าพระราชบิดามีนํ้าตาไหลหล่งง พ้ยงนํ้าคร่งงแสงฉนน แลพ่อฮา ฯ อิทานิ ตํ กณฺหาชินาย วจนํ ทสฺเสนฺโต อาห อันว่าพระราชโปดกก็จะสำแดง คดีแจงโดยดำเนอรกัณหา ก็ทูลแด่พระมานุชาธิบกศรีบมินาน ด่งงนี้ ยนฺตํ กณฺหาชินาโวจ บพิตร อันว่าเจ้ากัณหา ยงงทูลแด่พระราชบิดา ด่งงนี้ อยํ มํ ตาต พฺราหฺมโณ เผือข้าข้อยประดาบ พราหมณ์ร้ายราบภาไป แลณท้าว ลฏฺิยา ปฏิโกเฏติ ตีด้วยเชือกเขาแขง ไม้ท้าวแทงจำแล่นแล ฆเร ชาตํว ทาสิยํ ตามตีตูสรงงเสรอด พ้ยงข้าเกอดกลางเรือนมนน โสดไส้ น จายํ พฺราหฺมโณ ตาต มนนนี้ ใช่ชีพราหมณ์ มีใจลามใจโลภน้นน ธมฺมิกา โหนฺติ พฺราหฺมณา ฝูงพวกพราหมณ์มีมา ย่อมกรุณาแก่คนสิ้นท้าว ยกฺโข พฺราหฺมณวณฺเณน รอยปีศาจสางยักษ์ แปรเพศมลักมาเปนพราหมณ์กมัง ขาทิตุํ ตาต เนติ โน ภาตูไปเปนเหญื่อ เถ้าแร้งเรื่อก็จะกิน ตูแล นียมานา ปีสาเจน บพิตร ท้าวธบเอ็นดูตูผู้ลูก ละผีผูกเผือไป บอยู่เลอย กินฺนุ ตาต อุทิกฺขสีติ มนนตีตูอนาถ ด่งงฤๅราชเลงดู อยู่นี้ ฯ อถ เต พฺราหฺมณํ อมุญฺจนฺเตเยว ทิสฺวา ราชา คาถมาห อนนดับน้นน สํเด็จรัชชาธิเบศ เห็นสองกุมาเรศบมิคลาส ปราศจากพ้นมือพราหมณ์ ท้าวธก็ยกคำงาม กล่าวแก่เจ้าพญานัดดาบพิตรคืนด่งงนี้ ราชปุตฺตี จ โว มาตา อันว่าชนนีสองเจ้า ย่อมหน่อเหน้านามกษัตริย์ ประเสรอฐไส้ ราชปุตฺโต จ โว ปิตา ทงงพระชนกสองราช ย่อมเชื้อชาติ์วรวงษ์ กษัตริย์ไส้ ปุพฺเพ เม องฺกมารุยฺห เมื่อก่อนน้นนสองเจ้า มาน่งงเฝ้าพระปู่ไส้ กินฺนุ ติฏฺถ อารกาติ ด่งงฤๅสองเจ้ามาจำงาย ให้กัลหายอกปู่นี้ ฯ กุมาโร อาห อันว่าพระราชกุมาร ก็สนองสารพระบาทมรรตยาธิราชคืน ด่งงนี้ ราชปุตฺตี จ โว มาตา บพิตร อันว่าพระมารดาตูข้า ใช่ช้าชาติจอมกษัตริย์จริง แลพ่อฮา ราชปุตฺโต จ โน ปิตา ท้งงพระราชบิดาตูข้าก็ดี เผ่ากษัตรีย์สูงศักดิ์ไส้ ทาสา มยํ พฺราหฺมณสฺส เพื่อจะให้ตูข้า เปนช่วงช้าพราหมณ์นี้ ตสฺมา ติฏฺาม อารกาติ ห้ยมตูไกลพระปู่ เพราะอยู่เงื้อมมือพราหมณ์นี้ ฯ ราชา อาห อันว่า สมเด็จธิบดินทร์ คร้นนได้ยินคำเจ้าชาลีหลานราช ท้าวธก็มีพระสาศนสนองคืน ด่งงนี้ มา สมฺเมวํ อวจุตฺถ ดูกรชายชาลีอย่ากล่าว คำนี้ท่าวทับแดปู่แล ฑยฺหเต หทยํ มม คำหลานแก้วกูว้า พยงไฟฟ้าเผาแดปู่ไส้ จิตกายํว เม กาโย ตนปู่นี้พยงพ่าง เขาไว้หว่างเชอรฉกร แลนาเจ้า อาสเน น สุขํ ลเภ นับอยู่อาศนไอสวรรย์ ศุขอนนใดแลจะมี แก่ปู่นี้ มา สมฺเมวํ อวจุตฺถ หลานรักราชอย่าพร้อง คำคยดข้องขัดใจ ปู่นี้ ภิยฺโย โสกํ ชเนถ มํ ฟงงสูสองปรทยด เร่งร้อนสยดแสลงใจ ปู่แล นิกฺกิณิสฺสามิ ทพฺเพน ไว้ปู่จะไถ่สูทงงสอง ด้วยเงินทองทายาทแล น โว ทาสา ภวิสฺสถ ปู่บให้สูสองราช เปนข้อยขาดแก่พราหมณ์นี้ กิมคฺฆิยํ หิ โว ตาต พ่อออกสูอ่อนไท้ ขัดข้าไว้ฉนนใด ด่งงนี้ พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา เมื่อออกญาสู่ส่งให้ เปนช่วงใช้ชีพราหมณ์นี้ ยถาภูตํ เม อกฺขาถ บอกแก่ปู่จงแจ้ง อย่าแกล้งกล่าวเปนนาน หนึ่งเลอย ปฏิปาเทนฺตุ พฺราหฺมณนฺติ ปู่จะใช้ชาวคลงง สิ่งสินตรังตราส่ง แล ฯ กุมาโร อาห อันว่าเจ้าชาลี หลานราช ก็สนองพระสาศนพระไอยกา ปู่พญาคืน ด่งงนี้ สหสฺสคฺฆํ หิ มํ ตาต บพิตร โดยลูกท้าวธว่า ตนข้าค่าทองพนนหนึ่งแล พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา จึงให้ ข้าเปนข้อย แก่พราหมณ์พรอกพร้อยเพรา ช่องชาวนี้ อถ กณฺหาชินํ กฺํ ส่วน อ่อนน้อยกัณหา น้องพงาหลานราชนี้ หตฺถิอาทิสเตน จ แลสิ่งแลร้อยทรัพย์อ้าง คิดค่าช้างเปนเดอม ก่อนแล ฯ ราชา อาห อันว่าพระชนินทราธิราช ก็ประกาศกลางพลไพร่ เพื่อจะให้ไถ่สองหลาน ท้าวธก็มีพระราชโองการแก่เสนาบดี ศรีสมุหนายก ด้งงนี้ อฏฺเหิ กตฺเต ตรมาโน เวอยนายนักการเฮอย เร่งลุกเร็วนิทวัน พฺราหฺมณสฺส อวากริ สิ่งสินซึ่งให้แก่พราหมณ์ ทาสีสตํ ทาสสตํ ค่าร้อยหนึ่ง ขยุมหญิงชาย ควํ หตฺถูสภํ สตํ แสะแนะโคคโชสภ แลสิ่งแลร้อยหนึ่ง ชาตรูปสหสฺสญฺจ ทองพนนหนึ่งกองแก่พราหมณ์ โป ตานํ เทหิ นิกฺกยํ ให้ช่วงใช้แทนสนองหลานกู ตโต กตฺตา ตรมาโน นายนักการผายผนนแล่น พฺราหฺมณสฺส อวากริ นับทรัพย์มาให้แก่พราหมณ์ ทาสีสตํ ทาสสตํ ทงงหญิงชายผชุม แก่พราหมณ์ ควํ หตฺถูสภํ สตํ กาษรสารพังพลาย แลสิ่งแลร้อยหนึ่ง ชาตรูปสหสฺสญฺจ คำพนนหนึ่งหนำใจพราหมณ์ โปตานํทาสิ นิกฺกยํ สิ่งสินเวนเคนมาก อย่าให้ยากใจพราหมณ์ สักสิ่งเลอย ฯ พฺราหฺมณสฺส สพฺพสตญฺจ นิกฺขสหสฺสญฺจ กุมารานํ นิกฺกยํ อทาสิ

๏ เมื่อน้นนพระบาทไท้ จอมจักร
จะไถ่หลานรักสนอง ช่วงไช้
ทองพนนสิ่งสินชัก ประสาท
แลสิ่งแลร้อยให้ แก่เถ้าชูชก โสดแล ฯ

สตฺตภูมิกญฺจ ปาสาทํ อทาสิ แล้วท้าวธก็ประสาทปราสาทเจ็ดช้นน ขาดแก่ พราหมณ์น้นน อีกโสด พฺราหฺมณสฺส ปริวาโร มหา อโหสิ พราหมณ์ก็มี วววม้าค่า คน อำพลด้วยสิ่งสินพิลพั่ง เถ้าก็มั่งมีเปนดี มากแล ฯ โส ธนํ ปฏิสาเมตฺวา อันว่าเถ้าขี้ไร้ไส้เปรต บ่บงงเหตุก็ลำดับ นับเงินทองของแก้ว คแคล้วอยู่นักหนา ที่จะเอาไปฝากอมิดดาเมียมนน โสดแล ฯ ปาสาทํ อภิรูหิตฺวา เถ้าก็ขึ้นโดยบรรไดไลลีก ก็ว่าเวอยพาเด็กเล็กหลีกกูผู้เถ้า แลกูจะเข้าไปในปราสาทนี้ สาธุรสโภชนํ ภุญฺชิตวา พราหมณก็กินโภชนาหาร อนนนานับประการต่างต่างแล มหาสยเน นิปชฺชิ พราหมณ์ก็กล่าวอลูภูอล้าว ชศอคร้าวอิงหมอนนอนอยู่แล ฯ ราชา กุมาเรปิ นฺหาเปตฺวา ส่วนพระบาท ก็ให้เอาพระราชกุมารทงงสองไปโสรดสรง ชำระพระองค์ ด้วยกมนทโลทก อีกอามลก โสดแล โภเชตฺวา อลงฺกริตฺวา ก็ให้สองเจ้าเสวอยพระโภชนาหารแลแล้ว ก็ประดับด้วยแก้วกัณฐีมณีกร สรรพาภรณวิภูสิตน้นน เอกํ อยฺยโก เอกํ อยฺยิกาติ เทฺว อุจฺฉงฺเก อุปเวเสสุํ ส่วนพระบาทสญไชยก็อุ้มเจ้าชาลี ออกนางสบรรษดีก็อุ้มเจ้ากัณหา ชมพงาหลานรักษ น่งงเหนือตักพระองค์ท่าน แล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่า พระสาศดาก็จะสำแดงอรรถนุสนธิ์ พระทศพลก็บันทูลคาถา ดงงนี้ นิกฺกิณิตฺวา จ นฺหาเปตฺวา โภชยิตฺวาน ทารเก สมลงฺกริตฺวา ภณฺเฑหิ อุจฺฉงฺเก อุปเวสยุํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรอาริยกุลบุตร อนนพิสุทธศีลสัตย์ เทฺว ขตฺติยา อนนว่าเหง้าสองกระษัตริย์สุริยพงษ์ นิกฺกิณิตฺวา คร้นนแลท้าวธปลงทรัพย์ไถ่แล้ว เทฺว ทารเก สองอ่อนแก้วหลานรักษ เอตฺตเกน ธเนน ด้วยสินศักดิ์จอมราช เทฺว ทารเก ยงงท้าวน้อยนารถทงงสอง นฺหาเปตฺวา ธก็แส้งสํพองสรงสระ คนฺโธทเกน ด้วยนํ้าสระเสาวคนธ์ อนนเต็มในกมนทลาภิเศก อติเรกด้วยสหรธารา เรืองรจนามณฑลพิธี โภชยิตฺวา เมาะ สุทฺธสาลีนโมทเนน สิริวจฺช สชฺชาเปตฺวา แล้วธก็ให้เบอกบายศรีบอกมิ่ง สาลีนโมทเนน ด้วยเข้าต้นสิ่งสาลี อนนมีรศตระการ สุจิมํสูปเสจเนน ด้วยมางษมัสยาหารรศรวว หอมเทาท่ววทุกพาย สมลงฺกริตฺวา เทฺว ทารเก แลท้าวธก็ให้ประดับ สายใจจอมราชทงงสอง ภณฺเฑน เมาะ อุตฺตเมน อลงฺการภณฺเฑน ด้วยเครื่องทองพิจิตร พิพิธสรรพาภรณ์ต่างต่าง อุปเวสยุํ เมาะ นิสีทาเปสุํ ท้าวธ ก็บให้ห่างหลานรักษ อัญเชอญชักเอาอาศน์ อุจฺฉงฺเก เมาะ อตฺตโน อุจฺฉงฺเก เหนือตักราชราชา ไอยกาธิปอัยเกศ อนนเปนปิ่นเกล้าเชตุดร เมืองมิ่งน้นน สีสํ นฺหาเต สุจิวตฺเถ ยงงสองศรีสระแล้ว ทรงผ้าแก้วจิตรพรัดพราย เพรอดน้นน สพฺพาลงฺการภูสิเต แล้วประดับด้วยเครื่องอาภรณ์เภณี แก้วกัณฐีถนิมมาศน้นน ราชา องฺเก กริตฺวาน น่งงเหนือตักท่านไท้ โลมลูบไล้หลานรักษ ฤๅอิ่มเลอย อิทํ วจนพฺรวิ ยังรศราชโองการ อยฺยโก ปริปุจฺฉถ ท้าวธพระชนนีชนก แห่งสองโบดกด้วยเสน่หน้นน กุณฺฑเล ฆุสิเต มาเล ทรงกุณฺฑลทัดธาร ดอกไม้มาลจวงจันทร์ คลาศแล สพฺพาลงฺการภูสิเต แล้วประดับด้วยสร้อยสังวารวรมาศ สรเอ้งคาดคับควรงาม ชื่นแล ราชา องฺเก กริตฺวาน ท้าวธกระโบบ หลานรัก อุ้มใส่ตักชมเชย ฤๅอิ่มเลอย อิทํ วจนมพฺรวิ ยงงรศราชโองการ กล่าวแก่เจ้าพระญาหลาน ท่านน้นน กจฺจิ อุโภ อโรคา เต ดูกรราชนัดดา สองพระญายงงค่อยอยู่ฤๅ ชาลิ มาตาปิตา ตว อนนเปนพระราชบิดามารดร แห่งสองบงงอรเอารศ ปู่นี้ กจฺจิ อุญฺเฉน ยาเปนฺติ สองดาบศลูกไท้ ยงงค่อยได้ผลภักษ์ ง่ายฤๅ กจฺจิ มูลผลา พหู ลูกไม้ยงงมีมาก รากไม้ภาคพอฉนน ฤๅณเจ้า กจฺจิ ฑํสา มกสา จ ยุงแยงใจขบดิ้น เหลือบร่านริ้นขบแขง โสดฤๅ อปฺปเมว สิรึสปา ฝูงทฤรฆชาติ์ร้ายร่า ในป่วงป่าเปนเข็ญ โสดฤๅ วเน วาฬมิคากิณฺเณ มหิงษาสีหเสือแรด ช้างผู้แผดเพราะชะโมร มากฤๅ กจฺจิ หึสา น วิชฺชติ ขแถกแทงทอท่ยว เขาส้ยมส่ยว สาหสยงงมี ฤๅนาเจ้า ฯ กุมาโร อาห อันว่า เจ้าชาลีก็ทูลแด่พระบาท ราชธานีศวรคืนดงงนี้ อโถ อุโภ อโรคา เต บพิตร อันว่าศุขสวัสดิ์ แห่งสองกษัตริย์ลูกไท้ธก็มี แลพ่อฮา เทว มาตาปิตา มม อนนบงงเกอดตูข้า สองปิ่นหล้าเอารสท่านน้นน อโถ อุญฺเฉน ยาเปนฺติ อนึ่งท้าวธเสวอยศุขภาพ ด้วยลุลาภอาหาร มากแล อโถ มูลผลา พหู ลูกไม้ค่อยครนนเสวอย รากไม้เคอยครนน เสพยไส้ อโถ ฑํสา มกสา จ ยุงร้ายร่านก็บขบ เหลือบเหลือตบก็บตอม โสดเลอย อปฺปเมว สิรึสปา งูมีพรรณก็บติด งูมีพิศม์ก็บตอด โสดเลอย วเน วาฬมิคากิณฺเณ สัตว์ในด่านก็ดูยง สัตว์ในดงก็ดูยิ่งแล หึสา เนสํ น วิชฺชติ จะพาทธก็บมา จะพาทาก็บมี มากโสด ขณนฺตาลุกนมฺพานิ บพิตร ออกนางตูขุดรากบววแลเหง้าบวว แม่ณหววก็บอยู่เลอย วิฬานิ ตกฺกลานิ จ ทงงมนนอ้อนมนนอ่อน มนนพร้าวล่อนมนนไพร มากแล โกลํ ภลฺลาตกํ เพลฺลํ หมากกอกกับพีเนา พัทราเทาเลมล่าแล สา โน อาหจฺจ โปสติ เก็บมาเปนอาหาร ล้ยงลูกหลานพระบาทนี้ ยญฺเจว สา อาหรติ ลูกไม้ใดตระการ รากไม้หวานหวงงเสพยนี้ วนมูลผลหาริยา ลูกไม้ผลไม้ใหญ่ ออกนางใฝ่เอามา มากแล ตํ โน สพฺเพ สมาคนฺตฺวา น่งงปตูตูเต้าไท้ โลมเล้าให้เสวอย ภักษ์น้นน รตฺตึ ภุญฺชาม โน ทิวา ออกนางเดอรคืนคํ่า รุ่งเช้าพรํ่าอดกิน อยู่ไส้ อมฺมา จ โน กิสา ปณฺฑุ บพิตร ออกนางตูโตรดตรอม บัดนี้ผอมเหลือง หลากแล อาหรนฺตี ทุมปฺผลํ เพราะเพื่อแสวงหาลูกไม้ มาถวายแด่ไท้ทรงธรรม บพิตรน้นน วาตาตเปน สุขุมาลี ปทุมํ หตฺถคตมิว ฯ เทว บพิตร ท้าวผู้ผ่านเจ้าอยู่หัว ปทุมํ อิว เมาะ ยถา ปทุมํ ดั่งฤๅ ดงงดอกบววบานแบ่ง ขึ้นแข่งนํ้าเรืองไร มาณเวน แลกรไทชายมาณพนายผู้หนึ่ง หตฺถตเล ปริมทฺทิตํ แลเอามาคลายเคล้นซึ่งมือมนน บงามฉรรแสงเศร้า ทุวณฺณมิลาตํ บัดนี้ เห็นห่ยวเศร้าหายสรด โหติ ก็มีในดอกบงกช น้นนโสด สา อมฺมา อันว่าออกนางนงโพธไท้เทพี แม่มัทรีตูข้าน้อยนารถ สุขุมาลี อันมีสมบูรณ์ใสสระอาจสุขุมาลย์ เนื้อรุหาญทองแท่ง ทุวณฺณมิลาตํ อ้าบัดนี้ ก็เห็นห่ยวแห้งแห่งพระองค์ วาตาตเปน ด้วยลมลงดงแดด เดอรแจ้งแจดจำงาย โหติ ก็มีหลายคราหลายคาบ ดูประดาบสาหส เอวเมว ดุจดอกบงกชบววมาศ แลมา ลุอำนาจในมือชาย อยู่มนนทายมนนทัดถือเหล้น อยู่มนนเคล้ามนนคลี่ไปมา ให้ห่ยวแล อมฺมาย ปตนู เกสา อันว่าเกสานิลพยงพู่ ข้องพฤกษอยู่ดูบาง แลนาท้าว วิจรนตฺยา พฺรหาวเน บุกป่าดงพงกว้าง โดยด่านช้างชรงมไพ วเน วาฬมิคากิณฺเณ ดงใดพาฬมฤคมาก เนื้อเบื้อหลากหลายพรรค์อยู่แล ขคฺคทีปินิเสวิเต เล็บงอนงามอเน่ง เขาข้ยวเปล่งเปลวแสงส่องแล เกเสสุ ชฏํ พนฺธิตฺวา บพิตร ออกนางตูเปนเจ้า ย่อมห่อเกล้าชฎาธาร ทุกเมื่อไส้ กจฺเฉ ชลฺลมธารยิ มีเสทาทงงสอง รักรงงรองหมองหม่นแล จมฺมวาสี ฉมา เสติ นุ่งหนงงเสือนอนแผ่น ใบไม้แท่นปูอาศน์แล ชาตเวทํ นมสฺสติ ไหว้พระเพลองอรเอก เงื่อนปรตเยกสํพุทธเลอศน้นน ฯ เอวํ มาตุ ทุกฺขิตภาวํ กเถตฺวา อันว่าเจ้าชาลี ก็ทูลคดีออกนางพญาตน ด้วยประการกลด่งงนี้ อยฺยกํ โจเทนฺโต อิมํ คาถมาห เจ้าก็จะโจทย์อัยกาธิราช พ้อพระบาทจักราธิบดี ก็มีพระเสาวนีสนองคืน ด่งงนี้ ปุตฺตา ปิยา มนุสฺสานํ บพิตร ชื่อว่าลูกหญิงลูกชาย อนนจะสืบสายสันดานท่านนี้ โลกสฺมึ อุทปชฺชิสุํ ย่อมเปนที่เสนหา ในโลกากรไส้ น หิ นูนมฺหากํ อยฺยสฺส ด่งงจริงใจไอยเกษ เหง้านเรศไอยกาธิบดี ปุตฺเต สิเนโห อชายถ บเห็นที่ท้าวจะเสน่หา แก่พระราชบิดามาตยตูนี้ นาท้าว ฯ

๏ ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ อาจิกฺขนฺโต อาห อันว่าพระสุเรศวรราชก็จะสำแดงโทษแห่งเทหเลหด่งงน้นน ก็ซ้นนมีพระราชโองการ แก่เจ้าพญาหลานคืน ด่งงนี้ ทุกฺกฏญฺจ หิ โน โปต ดูกรหลานอำเภอใดแลท้าวพญาอาธรรม โทษทุษฐกรรมปู่ก็ทำเอง แลนาเจ้า ภูนหจฺจํ กตํ มยา อนนอำเภอไชยสวัสดิ์ ปู่เปนกษัตริย์ก็ทำโทษน้นน โยหํ สิวีนํ วจนา กูผู้อาจยินอยู่ไพร บดานใดตามธรรมอนนชอบน้นน ปพฺพาเชสึ อทูสกํ พ่อออกเจ้าท้าวนิรโทษ ขับหนีโสดนฤเทศน้นน ยํ เม กิญฺจิ อิธ อตฺถิ เครื่องใดอนนพิเสศ ในด้าวเชตุดรเมืองมีนี้ ธนํ ธญฺญฺจ วิชฺชติ ท้งงสิ่งสีนสุรเกษตร พ่อก็จะถวายแก่ท้าวเชษฐเอารส ปู่แล เอตุ เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าพระแพศยันดร จงมาเสวอยพระนครคืนเล่าเทอญ สิวิรฏฺเ ปสาสตูติ จงเจ้ามารักษาราษฎร์สืบเชื้อชาติสุริยาวงษ์น้นน ฯ กุมาโร อาห อันว่าเจ้าชาลีกุมาร ก็สนองสารเสร็จ แด่สมเด็จธิบดินทรคืน ด่งงนี้ น เทว มยฺหํ วจนา บพิตร อันว่าพ่อตูข้าน้อยนารถ ฤๅจะอาจยินคำตู กล่าวนี้ เอหิติ สิวิสุตฺตโม พระบิตุราชเจ้าจุมพล ธบรางจนิมนต์ตู แลจะมา แลนาท้าว ฯ ตโต เสนาปตึ ราชา สญฺชโย อชฺฌภาสถ หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺติ เสนา สนฺนาหยนฺตุ นํ ฯ ภิกฺขเว ดูกร ภิกษุมุนี ผู้มีจัตุปาริสุทธศีล อนนทรงพิริยทรงพรต ตโต เมาะ ตทา ในกาลกำหนดกำหนัดนี้ ท้าวธกัตนิทิเสน่หา เอารสาธิราช ราชา สญฺชโย อันว่า พระบาทบรมภูธรเทพสญชัย สุตฺวา ชาลีกุมารวจนํ คร้นนพระได้ฟงงสองดไนยหลานราช ฟงงฺพระสาศน์หลานรักษ วจนํ ยงงพระราชโองการอนนตรศักดิ์ เจ้าจักรพรรดิภูบาล เจ้าจักรพาฬภูเบศ อชฺฌภาสถ ก็บนนทูลด้วยพระเดชเดชะ ด้วยพระตระบะเดโช เสนาปตึ แก่โยธาธิบดี ทวยโยธีธิบดินทร์ อนนเปนนรินทรามาตย์ ราชเสนาอากยรณ ด้วยสมยนสมุหพระดำรวจ ด่งงนี้ เสนา เมาะ เสนาโย อันว่าเสนาเรา บรู้กี่ขนัดกี่ขนาด อนนอยู่บำเรอราชในวงง อนนจะยงงบำเรอราชนอกวงง ทงงกงในกงนอก ทงงเมืองออกท่านทุกด้าว ทงงเมืองออกท้าวท่านทุกแดน แลแสนยากรน้นนฤๅ หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺติ เมาะ หตฺถิเสนาโย อสฺสเสนาโย รถเสนาโย ปตฺติเสนาโย ฯ คือหมู่ช้างชำนิชำนน ชนชำนาญชาญชำนะ ลางหมู่ดูสรดะสรดื่น ลางหมู่ดูรยืนรย่งง งาสรพร่งงสรพราด ลางหมู่ขี่ผงาจอาจผงร อยู่แก่สมรแผ่นดิน ลางหมู่เอาเดือนก็ได้โดยถวิล ลางหมู่เอาดินก็ได้ด้วยถวัด ลางหมู่งาชรอัดชรแอ้น แล่นก็แล่นชนก็ชน ยลหูก็กางยลหางก็แกว่ง งามถ้วนแห่งบมิช้า ลางหมู่คล้าเอาเสือก็ได้ด้วยอุก ลางหมู่คลุกเอาศึกก็ได้ด้วยอาจ หมู่หนึ่งผาดไล่สีหก็ทนน หมู่หนึ่งผนนไล่สีหก็ท่าว ศึกฟงงข่าวสรีรรวว ย่อมตววหาญตววหื่น เห็นคคลื่นคคลับ ดำรยับเปนแสง ลางหมู่หน้าแดงจกรูล ดูจำรูญจกราด ทั้งตววดาษแผลผลิ ดูพรรฦๅนิพรรฦก ลางหมู่ดูคมึกคมำ แก้มกำยำกินมนน ย่อมตววทนนตววทรับ โจนจำบับจำบงง สัตรูพงงแพ้พ่าย ฯ

๏ อสฺสาเสนาโย คือฝ่ายม้าอัสวดร หมู่นิกรอัศวเดช แลม้านเรศต่างต่าง มีหมู่ด่างหมู่แดง ย่อมม้าแรงม้าเร้า หมู่ม้าเหล่ามาเลือก หมู่ม้าเผือกม้าผ่อง เห็จฟ้า ฟ่องหูฟงง หมู่ม้าปล่งงม้าปลอด ตีนคอขอดคอขด หมู่ม้าหมดม้าหม่น อนนรู้หล่นมิรู้ล้า หมู่ม้าหล่อม้าเหลือง ดูมเลืองมลาก หมู่ม้านาคม้านิล จบทุกดินทุกดาน หมู่ม้ากาลม้าแก้ว โฉมดูแพร้วดูพราย หมู่ม้าซ้ายม้าแซม แนมนายเผ่นน่งงผาย หมู่ม้าฝ้ายม้าฝุ่น สีสรตุ่นเทาเทา ขนกล้ยงเกลาพรายพรรณ เหาะเห็จหรรผนนผยอง ฉลองดินฟ้าอากาศ อาจดรดรงค ฯ รถเสนาโย สำนึงคือรถบรรจง ม้ายรรยงยรรยอง โยงรถทองหรรเห็จ หมู่หนึ่งรถสมเด็จสํแดง ครแลงครไล ดูประไพด้วยแก้ว หมู่หนึ่งแพร้วด้วยกงกาญจน์ บรรสารด้วยกงกำ หมู่หนึ่งทำรถหมดด้วยรัชฏ์ หมู่หนึ่งชรัดด้วยทองแดง แซงด้วยทองดาษ หมู่หนึ่งพาศด้วยสพ้นน ฝั้นด้วยสุพรรณ หมู่หนึ่งกนนด้วยเหล็กหล่อ ก่อด้วยเหล็กหลาย แสงดูพรายพัรเหา หมู่รถเราน้นนโสดสับ อนนประดับด้วยอานด้วยแอก แปรกบรัศกวยนแกว่งผัดกงผนน ญวนชำนันทวยทอด ธงทัดยอดดูแดง หมู่หนึ่งแสงดูขาว หมู่หนึ่งภาวชมภู หมู่หนึ่งดูขยวขจี หมู่หนึ่งสีแสงเหลือง หมู่หนึ่งเรืองแสงเมฆ หมู่หนึ่งแฉกแสงหงษ์ หมู่หนึ่งสรบงแสงแสด แสงพยงแดดดูฉาย หมู่หนึ่งพรายแสงดำ แสงขยวขำคคลับ ประดับดาษแกมกนน ต่างต่างพรรณต่างภาค ใบบรรดากก็ดูงาม ฯ

๏ ปตฺติเสนาโย ส่ำนึ่งคือพลสงคราม รามพิไชยไวยพิชิต หมู่หนึ่งฤทธิ์บรรจง หมู่หนึ่งรงคบรรเจอศ หมู่หนึ่งเลอศด้วยฝีมือ ฦๅด้วยฝีแมน แอนเอาศึกก็ได้บมิคลาศ อาจเอาเศิกก็ได้บมิแคล้ว ย่อมพลแผ้วผลาญม่าห ย่อมพลผ่าพลาญมาร ฤทธิบารรเบิก ก็เกรอกขบฟนนก็ดูร้าว ก็กร้าวขบฟนนก็ดูแรง ย่อมพลแขงตรเบ็งลํ่าสนน ย่อมพลขันธ์ตรเบ็งลํ่าสู่ บรู้ถดรู้ถอย หมู่หนึ่งสอยสัตรูตายรนับ หมู่หนึ่งสับสัตรูตายรนาบ ย่อมพลปราบบรปักษ์ แลทวยหาญเจ้าจอมจักรน้นนโสดหลายส่ำ เล็งดูลํ่าลบินลบ้นน ดูตรหมนนตรหมืน ดูรยืนรยัด ดูลขัดลขืน ดูลปืนลปลาน ย่อมพลลานพลเลือก ย่อมพลสักเงือกสักงู หน้าหลงงดูไหลดาษ อาจรบรวดอวดรบรอบ ย่อมพลขอบพลพันธ์ ย่อมพลสรนนพลสระ ย่อมพลชระพลเชรอด ย่อมพลเฉอดผลฉาน ย่อมพลชาญพลช่ยว ย่อมพลร่ยวพลแรง ย่อมพลแขงพลเข้ม ย่อมพลเล้มพลเหลา ย่อมพลเกลาพลแกล้ว ย่อมพลแผ้วพลผ่า ย่อมพลกว่าพลแกว่น ย่อมพลแล่นพลลํ่า อาจปลํ้าเอาลาภ ปราบกุมภกรรฐ์ปรนนขุนขร กำธรฑูตแผลงตรีกูฏก็เอน ผลักพระเมรุก็ท่าว ผลักผาด้าวก็ทบ ตรหลบเอาดาวมากิน ตรหลบเอาดินก็ได้ด้วยฉับ จับเอาเดือนแลตรวัน เที่ยวทนนบาดานชาญทุกทวีป ด้วยเร้วรีบบให้ห่าง ย่างตีนดยวก็จบ สบอากาศก็จวบ รวบเอาสุราไลยโลกย์ ไตรภพโอฆสงสาร แม้สัตรูประมาณด้วยพนน ทนนถึงหมื่นถึงแสนแด่นถึงล้าน อาจป้องปานเดจดยว สู้ต่อลยวต่อลาว ใจบอ้าวบอ่อน ใจบหย่อยนบหยุด ที่จะยุทธในรณรงค์ ฯ

๏ เสนา สนฺนาหยนฺตุ เมาะ อาวุทฺธํ สชฺชนฺตุ จงสูเร่งทรงอาวุธถ้วนหน้า หมู่ทวยกล้าอาพัทธ เร่งทรงขนัดทรงขรรค์ กุมกุทันธ์กนนกทาห ดาทงงด้งงทงง ดาบ สองตราบจับสูลจำรูลจับศักดิ์ สภักผ้าเกราะผ้ากราย พรายพรายด้วยจุรีจุแรง ลำแพงเพ็ชรเก็จกำจายมาร ผลาญด้วยกงด้วยกำ ทงงฉวยงสดำหน้าไม้หน้าแม่น แกว่นคำแหงแผลงคำเพลอง ดำเลองเสโลหโหล้แหลนหลาย จำหายแสงส่องตรวัน จำหนนแสงส่องฟ้า เหลื้อมๆ หล้าทุกแหล่ง ดูปรแพร่งปรแพรว ทุกลำแกล้วโยธา สูเร่งประดับประดา ดากนนมาอย่าช้า ท้าวธจะให้เสด็จไปรับลูกธเจ้าฟ้าพระศรีสรรเพ็ชญ์ เสด็จมาผ่านพระนคร เชดุดรคืนเล่าแล ฯ เนคมา จ มํ อเนฺวนฺตุ พลนานอกนานตว สบอายดนอายาตร เร่งดยรดาษล้อมโดยตาม พฺราหฺมณา จ ปุโรหิตา ทงงพราหมณ์พฤทธิพราหมณ์เพศ ทงงพราหมณ์เทศพราหมณ์ไทย สบสไมยดาษโดยดูตู ฯ

๏ ตโต สฏฺิสหสฺสานิ เสนาสุรเสนิศ ใจบภิตบพรานตย่อมทวยหาญหกหมื่น โยธิโน จารุทสฺสนา เลงดูชื่นดูชม งามดูสมดูสบาว สรหลนสรหลอน ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา ทรงอาภรณ์อาภาศเร่งดยรดาษดยรโดย อาวุธโบยยยาบ นานาวณฺเณหิ ลงฺกตา ปราบทุกแดนทุกด้าว ฦๅ ทุกท้าวทุกประเทศ เครื่องแก้วเวศไวไว นีลวตฺถธราเนเก โฉมปรไพรปรแพ่ง เครื่องขยวแขงเครื่องขำ ดูกำยำโยธา ปีตาเนเก นิวาสิตา ดาบหอกใหญ่หอกยาว ห่มผ้าดาว ผ้าแดด เหลื้อมๆ แสดแสงเหลือง อญฺเ โลหิตอุณฺหีสา หมู่หมวกแดงเรืองดูรุ่ง แหลนยยุ่งยย้าย คล้ายๆ คลี่ไคลๆ สุทฺธาเนเก นิวาสิตา ลกลไขลขืน ย่อมพลหื่นพลหาญ ห่มเกราะกาญจน์ขยวขาว ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา ย่อมพลดาวพลแดง ย่อมพลแขงพลขันธ์ อาจขนัดขนรรสงคราม นานาวณฺเณหิ ลงฺกตา เล็งดูงามดูง่า แต่งเครื่องอ่าเครื่ององค์ ทรงเครื่องท้าวหลายพรรณ หิมวา ยถา คนฺธโร ดุจหิมวันต์ หิมเวศ หอมพิเสดพิศาล คันธาธารคนธา ปพฺพโต คนฺธมาทโน ชื่อจลาจรเลนทร์ หอมกรเวรกรวล อาจจิญจญจวญใจ นานารุกฺเขหิ สญฺฉนฺโน พฤกษดวงใสดวงสาง ใบกระช่างกระชู กิ่งก้านตรูตระการ มหาภูตคณาลโย ที่ฝูงมารฝูงมาห ทงงผีห่าผีเหว ผีท้องเลว หลายภาค อารักษ์มากนานา โอสเธหิ จ ทิพฺเพหิ มียาทิพย์ยาเทพย์ อันควรเสพย์ควรเสวอย ไข้ลเหอยเห็นหาย ทิสา ภนฺติ ปวนฺติ จ มีแสงพรายแสงพุ่ง มีแสงรุ่งแสงเรือง เหลื้อมๆ เหลืองขาวขยว ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา หมู่ฉลยวฉลาดพลเร้า หมู่เฉลาฉลุทอง ลงงลองแสงฉลับเฉลอมตรหมื่นเตอมกุมภัณฑ์ ทิสา ภนฺตุ ปวนฺตุ จ โฉมหลายพรรณหลายภาค เหลื้อมๆ หลากไรๆ ท่ววทิศไปขจุยขจร ฯ

๏ ตโต นาคสหสฺสานิ ถัดน้นนพลนิกรพวกกรี อนนมีไชยมีชาติ ดูสรพราศถ้วนหมื่น โยชยนฺตุ จตุทฺทส สี่พนนหมื่นพลายหาญ ย่อมตววสารตววสรร เร่งมาพลนนโดยกระษัตริย์ สุวณฺณกจฺเฉ มาตงฺเค พลอยผูกกรพัดรัดดำโพง โยงตาบหน้าสลูกสลาบ ครุฑธยยาบแพรทอง เหมกปฺปนิวาสเส จองจำลองจำหลัก ทรงผ้าปักผ้าปิ่น สทิ่นทยนทองทำ อารูฬฺเห คามณีเยภิ หมอจำนำจำหนับ ให้เร่งขับเร่งขี่ คล้ายๆ คลี่ไคลดล โตมรงฺกุสมาณิภิ ถือทวนถกลเถกองงาอังกุสอ่าองกาย พรายรัตนลออ ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา หมอประเสริฐประสิทธิ์ มาอย่าคลิดอย่าคลาส โดยเสด็จราชเร็วพลนน หตฺถิกฺขนฺเธหิ ทสฺสิตา ไสสามนนสารทธ์อย่าได้กดได้ก่ยว ฝ่ายช้างช่ยวรำรงค์ ฯ ตโต อสฺสสหสฺสานิ อนนดับน้นนม้ายรรยงยรรยอง แคบคับรองควรงาม ย่อมแสะสยามอยุทธ์ โยชยนฺตุ จตุทฺทส จตุทัศสหัศษาหัศเร่งอาต อาคาธทองร้อยราชรจนา อาชานียาว ชาติยา เผ่าอาชาไนย อนนมีไชยมีชาติ์ ขับผายผาดผนนผยอง ลงงลองพรรณอจินต์ สินฺธเว สีฆวาหเน เผ่าสินธพสบทวีป เร็วฤทธิ์รีบเร็วรงค์ ขนสงสรบงสรบาล อารูฬฺเห คามณีเยภิ นายม้าการม้าแกว่น อาจขับแล่นขับเลอ ใจเสมอเพชร์ยรรยง อิลฺลิยาจาปธาริภิ ทรงธนูธนุศ ก่งศรสุดกรส่ง แส้ส้าวดงโดมร ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา นายอัศดรอัศวเดช ทรงเครื่องเทศเครื่องท้าว จรัสท่ววด้าวชัชวาลย์ อสฺสปิฏฺเ อลงฺกตา อานสุพรรณสุแพก นายจำแนกจำนำ ทงงฉวยงสดำดาษดามา ฯ

๏ ตโต รถสหสฺสานิ ถัดน้นนรถทยมล้า ทยมแหล้น กวยนแก้วแกว่นกงไกว ปรไพดลแกมกาญจน์ โยชยนฺตุ จตุทฺทส เรือนพิมานพิมลสบปรตยนปรตเยก ด้วยแก้วเวศไวโพยม อโยสุกตเนมโย โสรมเหล็กหลายเหล็กหล่อ เรืองเปนช่อเปนช้นน กงแกว่งหม้นนบมิคลา สุวณฺณจิตฺตปกฺขเร ให้รจนารจเรข ทองไล้เลขลายขยน นยรมิตรด้วยมณีฉาย อาโรเปนฺตุ ธเช ตตฺถ หมู่นายรถเนืองเร่ง ธงธุชเปล่งธงทอง ลงงลองยวลเยนทร์ จมฺมานิ กวจานิ จ จงแต่งเขนแต่งขันธ์ ผ้าเกราะพรรณพรายแพร้ว ดยรดาษแก้วกรพินธุ์ วิปฺผาเลนฺตุ จ จาปานิ หมู่รู้ศิลปสาตร ให้เร่งผาดเร่งแผลง สรดำแดงด้วยเดโช ทฬฺหธมฺมา ปหาริโน หมู่โยธาโยเทศ ผู้จำเบศจำบงง ปรนงงกนนถวายศิลป์ ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา ฝูงพลพฤนท์พลพาห ห่มผ้าราผ้าราย ดาวดูฉายเฉลาทอง รเถสุ รถชีวิโน นองนายแอยงนายอยืน ฉมวยฉมำปืนยาแม่น เลี้ยงด้วยแกว่นกลางณรงค์ ใจบรรจงอาษาท่านน้นน ฯ

๏ เอวํ ราชา เสนางฺคตํ วิจาเรตฺวา คร้นนท้าวธพิจารณานรพฤนธ์พล พาหนพยุหหมู่จตุรงค์ อนนอลงกฏสำเร็จ เสร็จด้วยประการแลแล้ว ปุตฺตสฺส เม เชตุตฺตรนครโต ยาว วงฺกตปพฺพตา อฏฺฐุสภวิตฺถารํ อาคมนมคฺคํ สมตลํ กตฺวา ท้าวธ ก็มีพระราชโองการ แก่พระสุวรรณสวัสดิ์สมุหนายกด่งงนี้ ชี้ให้เห็น ดูกรอมาตยพลมาตยานุชิต สูเร่งรจิตรจนามรรคาลงการ ที่สงสารสรรเพชญ์ ท้าวธเสด็จคืนยงงเชดุดร นครรัตนราชธานีมีประมาณ แปดอสุภด้วยกว้างยาวแต่ทางวงกฏ มาจรดถึงเชดุดรนครจงราบ ดูชรบาปสิ้นเสมอกนน โสดเทอญ ฯ มคฺคาลงฺการตฺถาย อิทญฺจ อิทญฺจ กโรถาติ อาณาเปนฺโต อาห แล้วจงสูเร่งแต่งเครื่อง อนนจะประดับมรรคา ที่พระเอารสกูจะมาด่งงนี้ จงบริบูรณ์ ท้าวธก็มีพระราชบัณฑูรด้วยพระคาถา ด่งงนี้ ลาชา โอโลปิยา ปุปฺผา อนนว่าคนท้งงหลาย จงเรี่ยรายเข้าตอก ทงงดอกไม้แกมกนน โสดเทอญ มาลาคนฺธวิเลปนา เร่งแขวนรำยวลพรรณบุษปเรข อเนกด้วยคนธาทิกน้นน อคฺฆิยานิ จ ติฏฺนฺตุ พนมรัตนอิกพนมมาลาเลอศนิ์ ตั้งจงเฉิดทยมทาง เยน มคฺเคน เอหิติ ที่ใดกนนดารกลางมูลมารค เอารสราชเจ้าจักมา คาเม คาเม สตํ กุมฺภา หมู่ไหตราเตือนแต่ง แลร้อยแห่งทุกทาน เมรยสฺส สุราย จ ตวงเต็มสุราบานโซรแซร ให้กินแต่เต็มใจ มคฺคมฺหิ ปติตา นฺตุ จงสูประดับในทุกที่ ถ้วนถ้องถี่รัถยา เยน มคฺเคน เอหิติ ทางใดพญาธรรมชอบ เจ้าจักคอบคืนเมืองเล่าแล มํสา ปูวา จ สงฺกุลิโย เข้าพองแดกงาเนืองนมมาก เนื้อนกหลากหลายพรรค์ กุมฺมาสา มจฺฉสํยุตา สังขยาไข่ขนมมนน ขนมถั่ว เนื้อปลาอั่วอากยรณ์ มคฺคมฺหิ ปติตา นฺตุ แลคนท้าวไทยท่ววยรรยงรอบสองข้าง ขอบมรรคา เยน มคฺเคน เอหิติ ทางใดพงาเอารสราช เจ้าจักยาตรยงงบูร สปฺปิ เตลํ ทธิ ขีรํ นมเนอยทธิมูลมนนมาก ถ้วนทุกภาคพอพล อิ่มเทอญ กงฺคุปิฏฺา พหู สุรา กำเสาจรบลรศเอมโอช เข้าฟ่างโสดสราสรับแต่งเทอญ มคฺคมฺหิ ปติตา นฺตุ จงสูประดับโดยมูลมารค ถ้วนถ้องดาษดูงาม เยน มคฺเคน เอหิติ ทางใดที่สนวรสนามรจเรข ท้าวผู้เอกเอารสจะคืนขอบน้นน อาฬาริกา จ สูทา จ มหาทักษิณ ยยืนนายโภชน์ อย่าช้าโฆสนามา ท่ววเทอญ นฏนฏฺฏกคายิโน ขับรำภิรมย์ดำดาอวจ แกล้งปรกวจกลถวายแก่ท่านเทอญ ปาณิสฺสรา กุมฺภถูณิโย ตบมือตีแฉ่ง วายกลองเทศ พิเสศด้วยดุริยางค์ มุทฺทิกา โสกชฺฌายิกา ขับรำสำรวลวางวายโศก โดยเสด็จโลกเจ้าจอม กษัตริย์น้นน อาหญฺนฺตุ สพฺพวีณา ดิงพิลลำลำนักสวรรค์ ดนตรีสสยงสังคีตคายันต์ เภริโย ทินฺทิมานิ จ กลองเล็กกล่นน ฦๅรนนกลองใหญ่ เคงฆ้องไชยสามาญ ขรมุขานิ ธเมนฺตุ แตรสังข์สำนาญนันทเภรีศ สยงก้องปรีดิเปรมใจ นทนฺตุ เอกโปกฺขรา ปี่จีนโสดสรในใดต่าง ทงงกรลุมพางพอฟงง มุทิงฺคา ปณวาสงฺขา มหรทึกสรโพลสังข์สยงมี่ ปยวปี่แก้วแคนผสาร โคธาปริวเทนฺติกา แจรงทรอทรในสารสยงยิ่ง จเข้ดิ่งสารสวรรค์ ทินฺทิมานิ จ หญฺนฺตุ โทลมรรธนิทันทีเทศ รนนกองเกษตรสีมา ท่ววเทอญ กุฏุมฺพา ทินฺทิมานิ จาติ ดิ่งดุริยางค์ ตีเป่า ขับล้วนเหล่าสยงสรวล สำรวลดาดดีดเทอญ ฯ เอวํ ราชา มคฺคาลงฺการํ วิตฺถาเรตฺวา อันว่าพระสญชยราชพระบาทก็พิจารณา ที่ประดับมรรคาไลย ด้วยไกลแต่วงกฏ มาจรดถึงวยง ก็ให้ผดยงทุกประการ แลแล้ว ฯ ชูชโกปิ ปมาณาติกฺกนฺตํ ภุญฺชิตฺวา ส่วนชูชกาจารย์ เหอมอาหารอนนนานา เอากรอยาแวนมาก เถ้าก็อิงอนาก ตากตากตนนอน อยู่แล ชิราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาลมกาสิ เหตุว่าอาหาร ย่อมของหวานอันอชยร ก็มาบยดบยฬอุทรให้ทล ก็ถึงที่กรวนกรวาย รทดรทาย เถ้าก็ตายวายชีวิตแล ฯ

๏ ราชา ตสฺส สรีรกิจฺจํ การาเปตฺวา ท้าวธก็ให้ทำเมรุชูชก รุดเร่งส่งสการ พราหมณ์พลนนทนนในวนนน้นน โสดแล นคเร เภริญฺจาราเปตฺวา ธก็ให้อมาตย คาดเภรี ตีกลองป่าวท่ววไปมา ตรตยงรหาญาติกากรพราหมณ์ ถามท่ววทงง พระนครท่านน้นน กิญฺจิสฺส าตกํ น ปสฺสิตฺวา ก็บมิเห็นเผ่าพรรคพันธุ์พวกพ้อง พี่น้องพราหมณ์ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งจะมารับทรัพย์มรฎก ชีชูชกน้นนโสดเลอย ธนํ ปุน รญฺโ เยว อโหสิ ท้าวธก็ให้เอาสิ่งสินสรรพทรัพย์ ลำดับไว้ในพระคลงง ลํพงง คฤหาศสถาน เล่าแล ฯ อถ สตฺตเม ทิวเส สพฺพเสนาโย สนฺนิปติตฺวา อนนดับน้นน ในเมื่อสิ้นเจ็ดวนนพระบาทสญชย ก็ให้ตรวจไตรรี้พลพหลโยธา อีกอมาตยานิกร เต็มท้งงเชดุดรนองเนือง ในนอกเมืองมากโสด ราชามหนฺเตน ปริวาเรน ชาลิกุมารํ มคฺคนายกํ กตฺวา นิกฺขมิ ธก็ต้งงเจ้าชาลีหลานราช เปนมารคธิบดี ถือเสนีเสนา นำโยธาไปก่อนแล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระสาศดาจารยาธิบดี อนนมีพิริยจรรยา ก็บันทูลคาถา ด่งงนี้ ฯ สา เสนา มหตี อาสิ อุยฺยุตฺตา สิวิวาหินี ชาลินา มคฺคนาเยน วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพตํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรอารยเอารสาธิบดี อนนมีพิริยจรรยา สา เสนา อันว่า เสนานิกรนรนรินท์ สญฺชยนรินฺทสฺส แห่งพระสญชยนภูบดินทรบพิตร มหตี ทฺวาทสอกฺโขภินีสงฺขาตา อนนธคิดควรคณนา เต็มตรวจตราบมีผับ อนนธนับไว้ว่าประมาณมี สิบสองอักเษาเภนีนับพยู่ห์ อาสิ เมาะ อโหสิ ธก็มีถ้วนทุกหมู่ธก็หมาย สา เสนา อันว่าเสนาเราทงงหลายเหลือนับ อุยฺยุตฺตา เมาะ สชฺชิตา แล้วท้าวธก็ให้ประดับประดานับโดยพระราชโองการสารสั่ง นครา ปยาตา แล้วธก็ให้ไหลหล่งงถ่งงออกมา จากพระนคราคคลาคคลํ่า บมิรู้กี่ส่ำกี่แสนเสนา สิวิวาหินี เมาะ สิวิเสนาเอว ย่อมโยธาทวยหาร พระภูบาลไทธเรศตรี ปจฺจตฺถิเกน อภิภวิตุํ สมตฺถา อนนอาจผจญไพรี ในปรถพีทุกทวีป ปายาสิ ท้าวธก็ให้เร็วรีบเร่งไป โบยธไชยช่วยพล อย่าให้จลภายหลัง วงฺกตปพฺพตํ ยงงเขาวงกฏบรรพตราชคีรี ชาลินา สห กับด้วยเจ้าชาลีหลานราช มคฺคนาเยน เปนสมุหมารคนายก ยกพลไปถถ้นน คร้นนเข้าถึงสถาน ที่สองภูบาลเสด็จอยู่น้นน ฯ

๏ ตทา กลิงฺครฏฺวาสิโน กิร พฺราหฺมโณ อตฺตโน รฏฺเ ตํ นาคํ อาหริตฺวา สญฺชยสฺส อทํสุ ในกาลเมื่อฝนตกเต็มเกษตร ประเทศกาลึงคนคร ภูธรกาลึงค์ก็ใช้ พราหมณ์ท้งงหลาย ไถ่เอาปรตยนาเคนทร์ มาถวายแด่พระนเรนทรสญชยคืน เล่าแล โส สามิกํ ปสฺสิตุํ ลภิสฺสามีติ ตุฏฺโ อันว่าปรตยนาเคนทรคชสาร ก็บนนดาลใจชมชื่นหื่นหรรษา เหตุจะได้มาคอบคืนประสบ พบพระบาทเจ้าตนเล่าแล โกญฺจนาทํ อกาสิ จึงจะร้องก้องโกญจนาท ชื่นชมสาธุ์สะเทือนท่ววน้นน ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ อันว่าพระคาถานี้โสด พระสมณโคตมาจารย์ อาไศรยแก่โบราณจรรยา ก็บนนทูลคาถา ด่งงนี้ โกญฺจํ นทติ มาตงฺโค ดูกรอาจารย์ อันว่าพญาสารชื่อปรตย ร้องชมไชยนินนาท กุญฺชโร สฏฺิหายโน ชาติยายุศมหกสิบ ยิ่งพลอิพรเอาธาร กจฺฉาย พชฺฌมานาย กรพัตสารสารสนส้อย ทองทาบห้อยพรวญพราย โกญฺจํ นทติ วารโน นายชำนิเร็วเร่งตรแตร้น เปล่งสยงสทยร อาชานิยา หสิยนฺติ ม้าแมนหยรกึกก้อง กระทืบท้องธรณี เนมิโฆโส อชายถ สารถีเร็วรถคลี กรยวแก้วเมืองขวาง นภํ รโช อฉาเทสิ ธรณีบงงสุบงงเมฆ มืดฟ้าเฉกอัษฎงค์ อุยฺยุตฺตา สิวิวาหินี เสนาทรงธรณิศ ท้าวกบีดิสดาไป สาสนา มหตี อาสิ พลพระสญชยชเยศ ถ้วนทุกเพศทุกพรรณ อุยฺยุตฺตา หารหาริณี โยธาทงนนพลพยูห์ บมิรู้กี่หมู่แคว้นพระนคร ชาลินา มคฺคนาเยน หลานภูธรเสด็จยาตรา เปนมุขมารคนำพล วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพตํ ยงงอจลวงกฏ ที่ท้าวทรงพรตนักบุญ เต ปาวึสุ พรฺหารญฺํ ราชาดุลยสี่ท้าว เสด็จยงงดานด้าวดงหลวง พหุสาขํ มโหทกํ สาขาพวงเพศกิ่ง แนวนํ้าวิ่งวางมา ปุปฺผรุกฺเขหิ สญฺฉนฺนํ บุษบาบานโดยดอก ทุกขนนขอกไขขจร ผลรุกฺเขหิ จูภยํ ช่วงสลอนดวงลูก บภักปลูกเปนแนว ตตฺถ วินฺทุสฺสรา วคฺคู อารัญแถวเถื่อนถ้อง นกรี่ร้องสยงหวาน นานาวณฺณา พหู ทิชา สำนานนกนาเนก ปีกพยงเลขเลขา กูชนฺตมุปกูชนฺติ ภาษาศับทมี่ก้อง ต่างต่างร้องรับกนน อุตุสํปุปฺผิเต ทุเม กาลเมื่อบัลพใบแบ่ง ดอกขึ้นแข่งโผยผล พลพิหคคอย้าย อยู่น้นน เต คนฺตฺวา ทีฆมทฺธานํ อโหรตฺตานมจฺจเย ปเทสนฺตํ อุปาคญฺฉุํ ยตฺถ เวสฺสนฺตโร อหุ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร อริยาธิการทรงเพศ ยตฺถ เมาะ ยสฺมึ ปเทเส ใน ประเทศด้าวแดนใด เวสฺสนฺตโร อหุ ที่ท่านเจ้าใจธรรม์ พระแพศยันดรเสด็จสถิตย์ เต จตฺตาโร ขตฺติยา อันว่าสมเด็จบพิตรทรงสี่พระองค์ คนฺตฺวา เสด็จด้วยจตุรงคราชี แสนเสนีนับโกฏิ ทีฆมทฺธานํ เมาะ ทูรมคฺคํ หนทางโยชน์ยาวไกล อโหรตฺตานมจฺจเย ในเมื่อสิ้นถลยงไถรงค์ครนน ถนนถ้วนเดือนเผด็จ อปาคญฺฉุํ ลุแล้วเสร็จสี่กษัตริย์ ถึงตรบัดบมินาน ตํ ปเทสํ ห้องหิมวันตหิมเวศ ที่ท้าวทรงเพศทรงพรต สองดาบศสร้างสมณะธรรมอยู่น้นน ฯ

มหาราชปพฺพํ นิฏฺิตํ

มหาราชบรรพจบเสร็จ พระศรีสรรเพชบันทูล บริบูรณ์ด้วยพระคาถา ๖๙  แล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ