๑๒
๑๒) ทำนบน้อมนำนิทานถวาย บรรยายเรื่องมีมาแต่ก่อน มีสัตรีเดิรป่าพนาจร สองสมรแม่ลูกมาตามกัน ถึงที่ตำบลหนึ่งพึงพิลึก ลูกสอึกขึ้นหน้าผายผัน พ้นที่โคลนมาเคลื่อนจรจรัล ขณะนั้นพ่อลูกเดิรมา ร่วมทางเห็นรอยบทบาท โดยฉลาดเล่ห์ลึกได้ศึกษา เปนหมอดูรู้แน่ในวิญญา จึงผันหน้ามาบอกแก่ลูกชาย อันรอยบทจรทั้งสองนี้ เที่ยงแท้สัตรีแม่นหมาย รีบตามเถิดจะได้โดยง่ายดาย พ่อภิปรายโดยกิจสัญญา เองเดิรหลังจงเสพสัตรีหลัง พ่อจะสังวาสนางที่เดิรหน้า ว่าแล้วรีบเดิรตามมา ก็ได้ร่วมเสนหาทั้งสองชาย ฝ่ายพ่อได้ลูกลูกได้แม่ โดยกระแสสำคัญที่มั่นหมาย แม้นจะเรียกกันตามบรรยาย ก็กลายกลับวีสัยเพศประเพณี ลูกจะเรียกพ่อเอ่ยลูกเขยกู พิเคราะห์ดูว่าจะน่าบัดสี พ่อจะเรียกลูกว่าพ่อตาดี ถ้าแม้นมีลูกเต้าต่อมา บุตรนั้นจะเรียกกันประการใด ใครเปนผู้ใหญ่เร่งว่า แม้นพระองค์คิดได้ด้วยปรีชา ไม่บอกข้าขอให้เศียรทำลายไป
๏ พระกุมารฟังสนองก็ตรองตรึก นิ่งนึกฉงนฉงายจะทายไฉน แต่ปัญหาแก้มาแต่หลังไซร้ ก็สอดคล้องต้องในประเพณี แสดงโดยคดีธรรมทุกบทบาท ก็ไม่คลาดเคลื่อนคลาจากที่ แต่เวตาลเลือนไปหลายที ปฤศนาข้อนี้พัวพัน จะแก้ไปก็ที่ไหนจะถูกถ้วน พระนึกสรวลนิยายนี้ขับขัน พระนิ่งไปมิได้จำนรรจ์ รีบจรัลโดยพนมพนาไลย องค์อสูรเวตาลก็ทูลถาม พระนิ่งความมิได้บอกยุบลไฉน จับข้ามาประสงค์สิ่งใด มิเชื่อจิตต์ข้าจะให้ความสัจจัง แม้นข้าคิดแยบบลกลล่อ แต่พอจะหนีเหมือนครั้งหลัง ขอให้ตกนรกาลนานจีรัง ได้ทุกข์เทวษตั้งแต่หมื่นปี พระทรงฟังเวตาลสาบาลสัตย์ จึงบอกว่าพรหมทัตฤๅษี ให้เรามาพาท่านจรลี จะประกอบพิธีของชีไพร แต่เราไม่แจ้งวิญญา ว่าตำรานั้นจะทำเปนไฉน เวตาลฟังแถลงก็แจ้งใจ จึงทูลไขข้อความตามสัจจา พรหมทัตฤๅษีนี้โกหก จะยกตัวเปนบรมนาถา ไปได้ตำหรับพระอิศรา แต่กุมภกาจมาตั้งพิธี เถิดสระมุจลินท์โดยกำหนด กับทับทิมรกฎริมสระศรี ทั้งภูตสองตัวก็เกิดมี บัดนี้ยังขาดพระตำรา แม้นมันได้ข้าไปอาศรม เอาน้ำพรมให้กระด้างดังแผ่นผา แล้วจะลวงให้พระองค์สรงธารา ในสระมหามุจลินท์ พระกายจะกระด้างดังเหล็กกราด ด้วยอำนาจอินทปัทม์กระแสสินธุ์ แล้วจึงจะจับให้ภูตกิน จะตักน้ำมณีจินดามา ชำระรดให้ข้าเรืองกำลังฤทธิ์ จะพาผ่านทุกทิศในแหล่งหล้า แม้นพระองค์ไปถึงพระสิทธา จะให้สรงธาราอย่าตามใจ ถ้าจะให้น้อมกราบกราน ขอประทานอย่าประนมบังคมไหว้ จงว่ากล่าวลวงล่อต่อไป ให้พรหมทัตนั้นไหว้เปนอย่างมา แม้นมันก้มเศียรลงเมื่อใด จงอย่าไว้ชีวังสังขาร์ ฟันฟอนให้เปนท่อนมรณา โยนให้มหาภูตทันใด แล้วพระองค์จงเอานทีสระซ้าย ชำระกายข้าน้อยให้ผ่องใส ข้าจะพาท้าวผยองล่องฟ้าไป ด้วยกำลังฤทธิไกรข้าเกิดมี ภูวไนยจะได้เปนจักรพรรดิ ตามตรัสพระอิศรังสี พระกุมารฟังสารก็ยินดี รับคำอสุรีแล้วพามา ลุถึงศาลาอาศรมบท พระนักพรตพรหมทัตก็หรรษา จัดแจงแต่งองค์ทรงคทา ทั้งพระขรรค์นั้นมาไว้เคียงองค์ หมายมั่นจะฟันอภัยสิน ให้สิ้นชีวิตด้วยจิตต์ประสงค์ ส่วนสมเด็จอิศเรศร์วราวงศ พระจำนงนิ่งนึกไม่นอนใจ ครั้นถึงจึงส่งเวตาลยักษ์ พรหมทัตตรัสทักปราไส รับตัวเวตาลพาไป ชุบในอินทปัทม์ชลธาร อสุราก็สิ้นสุดฤทธี สุดคิดที่จะรอต่อต้าน แขงกระด้างดังเหล็กกราดกราน เวตาลนิ่งนึกคนึงใน ขอองค์อิศราวราเดช โปรดเกศอย่าให้ท้าวเธอหลงใหล จงหั้มหั่นพรหมทัตให้บรรลัย ขออย่าให้มีภัยพาธา ครั้นจะทัดทูลองค์พระทรงฤทธิ์ จนจิตต์เจ็บอกสหัสา ออกโอษฐมิได้ดังจินดา แต่เพ่งดูนัยนาภูวไนย พรหมทัตตรัสเชื้อเชิญเสด็จ การเสร็จสุจริตผ่องใส พระเสโทซึมทราบพระกายไย เชิญไปสรงสระชำระองค์ พระเฉลยว่าไม่เคยดอกฤๅษี จะอาบในวารีสระสรง เคยสนมพี่เลี้ยงเชิญลง ในขันสาครทรงสำราญ พรหมทัตฟังอรรถตรัสสนอง แม้นไม่ปองจะลงสรงสนาน เชิญมาสั่งสนทนาการ จึงค่อยคืนสถานสถาวร พระพงศกษัตริย์ระมัดระวังองค์ ไม่ลืมหลงคำอสูรสั่งสอน เวตาลนิ่งนึกคนึงนอน เกรงกริ่งภูธรจะไว้ใจ ฤๅษีพรหมทัตทุจริต คิดจะฆ่ากุมารให้ตักษัย จึงกล่าววาจาว่าไป ไฉนไม่มัสการเรามุนี ถึงเปนจักรพรรดิกษัตรา ก็สมควรวันทาฤๅษี พระกุมารขานตอบวาที พระดาบสอย่ามีฉันทา ยังไม่เคยประนมบังคมใคร แต่น้อยคุ้มไวยชันสา จะประนมคมคัลวันทนา ตัวข้าไม่ชำนิชำนาญใจ จงปราณีทำเช่นให้เห็นก่อน จึงจะผ่อนตามอย่างทำนองไหว้ พรหมทัตคิดสำคัญว่าจริงใจ จะใคร่สังหาญผลาญชีวัน จึงน้อมเศียรกราบก้มบังคมลง กุมารทรงฟาดด้วยพระแสงขรรค์ คอขาดกระเดนดิ้นแดยัน จึงบั่นรอนเปนท่อนแล้วโยนมา ให้ภูตสองภักษาแล้วสูญหาย พระผันผายมายังยักษา ไปชุบชลชื่อมณีจินดา อสุราสำราญกมลมี กลับมีฤทธิศักดาเดช ด้วยพระเวทอิศราเรืองศรี เชิญเสด็จทรงหลังสกุณี ผ่านสี่ทวีปด้วนฤทธา อันเครื่องสำหรับจักรพรรดิ โดยสังกัดอยู่ยอดภูผา บ้างเกิดแทบฝั่งคงคา เปนต้นว่าพระขรรค์ชาญไชย ศรแก้วจักรกรดคทาธร ตรีศูลฤทธิรอนเดชมไห ช้างแก้วมงคลคชไกร นางแก้วโฉมวิลัยลอองงาม พาชีมณีประเสริฐเลิศ เกิดตระกูลสินธพชาญสนาม มาประนอมถนอมบาทพระทรงนาม ก็เรืองรามฤทธิเดชมหิมา โดยกำหนดพระพรอิศเรศร์ เปนจักรพรรดิพงศเพศมหา องค์เวตาลราชอสุรา บังคมลาบาทเบื้องธุลีองค์ ขอพระเดชเรืองณรงค์ทรงฤทธิ์ จะคิดได้ให้เสร็จสมประสงค์ จะขอลาอิศเรศร์วราพงศ แต่ข้ามาอยู่ดงก็ช้านาน พระตรัสว่าเราเมตตาสุจริต สุดคิดจะขัดเธอบรรหาร ตรัสแล้วโอบอุ้มองค์เวตาล ขว้างขึ้นคัคณานต์ด้วยศักดา ก็บรรลัยไปเปนเทพบุตร โอนมกุฎสรรเสริญด้วยหรรษา เสด็จทรงช้างแก้วฤทธิวรา เหาะมาโดยทางทิฆัมพน พระองค์ทรงเครื่องจักรพรรดิ แจ่มจำรัสรุ่งเรืองพระเวหน ทรงศรคทาธรฤทธิรณ พระขรรค์จักรแก้ววิมลอาภา อันนางแก้วนั้นเนาพิมานทิพย์ ลอยลิบโดยเสด็จด้วยหรรษา ถึงปรางค์มรกฎรจนา อสุรากุมภกาจนอนใน พระประหารด้วยจักรมณีรัตน์ ตระบัดสิ้นชีพตักษัย สู่สวรรค์ชั้นฟ้าสุราไลย ได้เปนเทพไทอันเพริศพราย องค์พระจักราวราเดช ดับเทวษสองอสูรให้สูญหาย เสด็จเข้านครสุขสบาย ถึงถวายบังคมพระมารดา แล้วเล่าความให้สองพระพี่ฟัง กษัตริย์ทั้งหกหายที่ทุกขา พระครอบครองไอศูรย์สวรรยา เกษมสุขไพร่ฟ้าประชาชี พระภิรมย์สมสุขด้วยนางแก้ว ผ่องแผ้วภิรมย์เกษมศรี แสนสนมกำนัลอัญชลี หมื่นมนตรีเตรียมเฝ้าทุกเวลา ต่างประเทศเกรงเดชระบือยศ ขจรหมดทั่วทุกทิศา มาอ่อนน้อมโอนศิโรตม์วันทนา เปนเมืองขึ้นพระยาจักรพรรดิ ทรงปรึกษาราชกิจธานี โดยคดียุติธรรมบัญชาตรัส ดำรงทรงทศพิธทั้งสิบทัศ พระปราบปรามกำจัดดัสกร สามพระชนนีมารดา ชันสาสิ้นสูญไปก่อน พระเชษฐาชีวาก็ม้วยมรณ์ ยังถาวรอยู่แต่จักรพัตรา พระครองภพถ้วนพันปีแล้ว กับนางแก้วก็ม้วยสังขาร์ สิ้นหมดม้าแก้วคเชนทรา ดับสูญชีวาล่วงไป ตามกุศลผลกรรมได้ทำมา สิ้นตำราเรื่องบุราณเฉลยไข ข้าใช่ปราชญ์อาจแต่งแต่โดยใจ ขออภัยผิดเพี้ยนอย่าฉันทา ยังเยาว์คิดประดิษฐประดับคำ ไม่ชำนาญการจำที่ศึกษา ไม่เสนาะเพราะพริ้งในอักขรา เมตตาช่วยแต้มแต่งต่อเถิดเอย