๑๐

ผู้คบคนทรามย่อมเสื่อม

ผู้คบคนเสมอกันไม่เสื่อมในกาลไหน ๆ

ผู้คบคนที่ประเสริฐกว่าย่อมเจริญเร็ว

เพราะฉะนั้นจึงควรคบคนที่ยิ่งกว่าตน

 

“สองเจ็ดสิบหก ลบสิบเก้า เหลือสองเขียนลงไปสิจ๊ะ”

ครั้นเห็นน้องหญิงถือปากกาค้างอยู่ และเงยหน้าขึ้นมาดูตน ภรณีก็พูดด้วยเสียงแสดงความหงุดหงิดใจ

“ยังไงล่ะ เขียนเข้าสิ จะได้แล้ว ๆ เสีย”

สุภาพทำท่าจะจรดปากกาลง แต่แล้วก็ชะงักอยู่อีก “สองเจ็ดสิบแปด—ฮื่อ ไม่ใช่ สองเจ็ดสิบสี่ต่างหาก แหม พี่ภรน่ะบอกผิด หนูเลยผิดไปด้วย”

ภรณีมองดูเลขซ้ำอีก จึงรู้ตัวว่าได้บอกน้องผิดไปจริง แล้วรู้ต่อไปว่า จิตใจของตัวกำลังอยู่ในความวิปริตก็หัวเราะและว่า “จริงแหละ, ขอโทษ พี่ออกจะเลอะใหญ่ แต่หนูก็เข้าใจดีแล้วไม่ใช่รึ ทำต่อไปเองก็แล้วกันเศษที่เหลือเป็นเซ็นติเมตร เข้าใจไหมจ๊ะ ? พี่มีอะไรอยากจะรีบไปทำเสียให้เสร็จ”

สุภาพทำกิริยาไม่แน่ใจในตัวเอง แต่ไม่อาจที่จะคัดค้าน ก็พึมพำเพื่อซ้อมความเข้าใจ “สองเจ็ดสิบสี่ ลบสิบเก้าเหลือ ห้า—ห้านี่เป็นเซ็นต์หรือ พี่ภร ?”

ภรณีกำลังขยับตัวจะลุกจากที่อยู่แล้ว ก็ต้องหันไปดูเลขอีก แล้วตอบว่า “ถ้าจะตอบเป็นเซ็นต์ก็ห้าสิบเซ็นต์ก็หนูไม่จำสักทีนี่นาว่าร้อยเซ็นต์เป็น ๑ เมตร”

สุภาพก้มลงเขียนต่อไปโดยเร็ว ภรณีแข็งใจดูอยู่ขณะหนึ่ง เมื่อเห็นว่าน้องทำถูกต้องดีแล้วก็พูดว่า

“ข้อหลัง ๆ หนูต้องทำเอง ถ้ามีพี่คอยช่วยหนูก็จะคอยถามพี่เรื่อยละ” ตบศีรษะน้องเบา ๆ ในเชิงสัพยอก “พี่ไปละนะ” แล้วหล่อนก็ลุกจากที่และตรงไปยังห้องของหล่อน

ประมาณเกือบ ๑ ชั่วโมงมาแล้วที่ภรณีต้องต่อสู้กับตัวเองเพื่อรักษาสติสัมปชัญญะให้อยู่กับตัว รู้สึกว่าทำได้โดยยากยิ่งกว่าคราวใด ๆ ที่แล้วมา ก่อนหน้าเวลารับประทานอาหารค่ำเล็กน้อย ในขณะที่หล่อนกำลังรีดผ้า หล่อนได้ยินมารดาเลี้ยงเรียกหาหล่อนด้วยเสียงอันดังและกร้าวอย่างไรพิกล เมื่อหล่อนออกจากห้องทำงานไปยังระเบียงเรือนที่บิดาและมารดาเลี้ยงนั่งอยู่ด้วยกันนั้น นางเยื้อนเห็นตัวหล่อนก็ลุกขึ้นจากที่ในท่าสะบัดพร้อมกับพูดว่า

“พูดกันเองสิพ่อลูก” หัวเราะเสียงปร่า ๆ “จะร่ำรวยหรูหรากันก็คราวนี้แหละ”

ได้ยินถ้อยคำและน้ำเสียงนั้น ภรณีรู้สึกว่าใจเต้น นี่เรื่องร้อนอันใดกำลังมาสู่หล่อนอีกแล้วหรือ ตั้งแต่เช้าจนบ่ายดูนางเยื้อนมีอารมณ์เป็นปกติดี บัดนี้มีอะไรเกิดขึ้นเล่า จึงทำกิริยาขึ้งเคียดใส่หล่อน สมองของภรณีทำการคิดค้นหาเหตุผลต่าง ๆ โดยรวดเร็ว มีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้างในระหว่าง ๒–๓ ชั่วโมงมานี้—?

แต่คิดแล้วก็หาคำตอบมิได้ หรือว่าบิดาของหล่อนเป็นต้นเหตุ ? คุณหลวงกับภรรยาเกิดขัดใจกัน และโดยประการหนึ่งประการใดคุณหลวงหรือภรรยาได้นำชื่อนำเรื่องของภรณีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยที่ภรณีไม่มีส่วนรู้เห็นแม้แต่น้อย ?—แต่ข้อนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ หลวงจำนง ฯ ได้นั่งรับแขกคือนายเจริญสามีของจิตราเป็นเวลาเกือบ ๒ ชั่วโมงตามที่เคยมาประมาณ ๒ หรือ ๓ ครั้ง คราวใดเจริญมาที่บ้านนี้มักจะคุยกับหลวงจำนงฯ เป็นเวลานาน ๆ ถ้าจิตรามาด้วยหล่อนจะเลี่ยงไปคุยกับภรณีตามลำพังสองคน และเมื่อเจริญลาไปแล้ว หลวงจำนงฯ ย่อมมีสีหน้าแสดงความพออกพอใจ ภรณีเคยนึกอยากรู้เสมอว่าสามีของจิตราพูดถึงเรื่องอะไรกับบิดาของหล่อนบ้าง ตัวเขาจึงเป็นที่ถูกใจคุณหลวงนัก แต่ภรณีจะอยากรู้สึกเท่าใดหล่อนก็ไม่มีโอกาสที่จะรู้ได้ เพราะคุณหลวงไม่เคยได้ปริปากพูดถึงเจริญเกินกว่า ๕ คำ นางเยื้อนจะไม่ทนฟังนามของบุคคลผู้นี้ หรือนามของภรรยาของบุคคลผู้นี้ ผู้ซึ่งมาถึงถิ่นที่นางเยื้อนเป็นใหญ่อยู่ ก็ทำอาการดังหนึ่งว่าเขาไม่มีความรู้สึกแยแสต่อนางเยื้อนเลย

วันนี้ แต่พอได้ยินเสียงรถแล่นออกจากบ้าน ภรณีก็ได้ยินเสียงของบิดาหล่อนตะโกนเรียกภรรยาด้วยเสียงแสดงตื่นเต้นไปในทางความยินดี แล้วสามีภรรยาก็ได้พูดกันอยู่นานด้วยเสียงค่อยผิดจากที่เคย คือบุคคลที่อยู่ห่างไม่สามารถจับคำพูดที่ทั้งสองพูดกันได้แม้แต่หนึ่งคำ ครั้นแล้วเสียงดังระยะแรกที่ดังขึ้นก็เป็นเสียงแหลมเสียงกร้าวที่ตะโกนเรียกภรณีนั่นเอง

เมื่อภรรยาไปพ้นแล้ว หลวงจำนง ฯ ไอแล้วกระแอม แล้วอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตั้งต้นด้วยคำว่า “ลูกก็โตแล้วนะ ภร—” แล้วถามอายุถามปีที่ธิดาเกิด แสดงความพิศวงทุกคราวที่ได้รับคำตอบ แล้วปรารภถึงอายุของตนเอง อายุของธิดา วกวนไปมาอยู่นาน ภรณีรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นมิใช่เรื่องสำคัญที่บิดาประสงค์จะพูดกับหล่อนเป็นแน่ แต่ก็เรื่องอะไรเล่าที่เป็นเรื่องสำคัญ ? พยายามระงับความตื่นเต้นอึดอัดอันเกิดจากความอยากรู้ ฟังบิดาพูดและตอบคำถามของบิดา รู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานานแสนนาน แล้วจึงได้ฟังความสำคัญตอนหนึ่ง

“มีคนเขามาขอลูก เขาจะให้ ๘,๐๐๐”

ยังมิทันที่ภรณีจะรู้ตัวว่า ความรู้สึกอย่างใดเกิดขึ้นแก่ตัวเมื่อได้ยินประโยคนั้น หลวงจำนง ๆ ก็พาความนึกคิดของหล่อนให้อลหม่านไปทางอื่น คุณหลวงปรารภถึงฐานะการเงินในบ้าน ซึ่งเป็นเครื่องร้อนแก่คุณหลวงมา ๕–๖ ปีแล้วปรารภถึงความ ‘ซวย’ จับอะไรเข้าก็วอดวาย ปรารภถึงอายุวันราชการของคุณหลวงซึ่งจะถึงที่สุดในเวลา ๒ ปีข้างหน้า ย้อนมาปรารภถึงจำนวนเงิน ๘,๐๐๐ บาท “แต่เขาขอให้เอาใส่แบงค์ เป็นชื่อของลูกครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเขาให้พ่อแม่เป็นค่าน้ำนม”

โดยคำพูดประโยคนี้ ภรณีได้ความคิดว่า มีผู้มุ่งจะมาซื้อตัวหล่อนเป็นครั้งที่สองโดยครั้งนี้ให้ราคาแพงกว่าครั้งก่อนถึงเท่าตัว !

หลวงจำนง ฯ กลับไปพูดถึงเรื่องความสิ้นไปแห่งทรัพย์สมบัติของตน ซึ่งภรณีเคยฟังแล้วหลายหน แต่ยังไม่มีโอกาสที่จะรู้ตลอดโดยละเอียดสักเรื่องเดียว “อยู่อุบลรับเป็นคนกลางซื้อซิ่น ขายซิ่นอุบล ฉิบหาย หมดเข้าไป ๒–๓ พัน” ครั้นทางราชการสั่งย้ายให้ไปประจำจังหวัดชลบุรีได้ตั้งโรงงานย่อยรับจ้างทอผ้าพื้นก็ขาดทุนย่อยยับอีก เมื่อครั้งประจำอยู่จังหวัดกาญจนบุรี จับจองที่ดินปลูกนุ่น ทางราชการสั่งย้ายให้เข้ามาประจำกรุงเทพฯ ต้นนุ่นก็ยืนตายอยู่ในไร่ ทุนที่ออกไปจมอยู่ในดิน ภรณีฟังพลางคิดตามไปพลาง แล้วคิดขึ้นมาด้วยความรันทด ถ้าหล่อนปฏิเสธ ไม่รับข้อเสนอของผู้ที่เจตนามาจะซื้อตัวหล่อน ท่านบิดาจะเสียใจ น้อยใจและโทมนัสสักเพียงใด

“แปดพัน ! ของหมั้นต่างหาก !” หลวงจำนง ๆ กำลังย้อนมากล่าวเรื่องนี้อีก แล้วภรณีจึงได้ยินคำว่า “บันลือ !”

หล่อนรู้สึกวาบในใจ ! แล้วร้อนซ่าไปทั่วทั้งตัว

และในขณะนั้นเอง นางเยื้อนได้มายืนเท้าประตูพูดว่า

“เมื่อไหร่จะกินข้าวกันเสียทีล่ะ พ่อคุณ ลูกเต้าหิวท้องหักหมด”

ในเวลารับประทาน ตามธรรมดาภรณีต้องทำหน้าที่หยิบนั่นส่งนี่ให้ผู้ใหญ่และเด็กที่ร่วมรับประทานอยู่กับหล่อน คุณพ่อต้องการน้ำปลา คุณนายต้องการพริก น้องหญิงตักแกงไม่ถึง น้องชายปัดน้ำหก ภรณีต้องแก้และกันความยุ่งเหล่านี้ด้วยวิธีคาดความต้องการของทุกคนให้ได้ล่วงหน้า แล้วคอยทำคอยจัดสิ่งที่เขาต้องการให้ถึงมือเขาพอเหมาะแก่เวลา

เฉพาะวันนี้ภรณีไม่มีสติพอที่จะอ่านความต้องการของผู้ใดถูก แม้แต่สติที่จะใช้บังคับตัวให้เข้าใจคำพูดที่ดังอยู่รอบข้างก็ยังไม่มีพอที่จะใช้ ความปั่นป่วนในสมองของหล่อนนั้นมีลักษณะอย่างที่หล่อนไม่เคยประสบมาแต่ก่อน

ครั้นพ้นเวลารับประทานอาหารน้องหญิงน้องชายก็ยังยื้อยุดภรณีไว้ให้เป็นเพื่อนเล่น เพื่อนคุย เพื่อนทำงานของเขาอีก โดยปกติภรณีไม่มีความรังเกียจที่จะสนองความต้องการของน้อง อันเป็นความต้องการของหล่อนเองด้วย แต่คืนนี้—คืนนี้—ภรณีรู้สึกว่าทั้งน้องหญิงน้องชายของหล่อนช่างเป็นเจ้าหัวใจหล่อนเสียนี่กระไร

เมื่อมาถึงห้องแล้ว ภรณีปิดประตูใส่กลอนแล้วจึงเปิดไฟฟ้า และนั่งลงบนเสื้อหน้าเตียงนอนพร้อมกับถอนใจอย่างยืดยาว

ตั้งสติสำรวมใจอ่านใจของตนเอง ใจซึ่งมีอาการวับ ๆ หวำ ๆ แช่มชื่นขึ้น แล้วก็หดหู่ลง แล้วก็แช่มชื่นแล้วก็หดหู่อีก ใจดวงนี้มีความยินดีหรือความยินร้ายเป็นใหญ่อยู่ ?

เมื่อได้ฟังจำนวนเงินที่ชายหนึ่งตั้งมาเพื่อแลกกับตัวหล่อน ภรณีปริวิตกด้วยความรันทดว่าบิดาของหล่อนจะโทมนัสสาหัสเพียงไร ถ้าหล่อนปฏิเสธเสียไม่ยอมขายตัวให้แก่ชายผู้นั้น ครั้นเมื่อภรณีรู้ว่าเขาผู้ซึ่งเจริญได้มาเป็นผู้แทนนั้นคือบุคคลคนใดแล้ว หล่อนปริวิตกด้วยความหวั่นหวาดยิ่ง สิ่งใดจะเกิดขึ้นแก่หล่อน ถ้าหากว่าหล่อนรับข้อเสนอของเขา

ภรณีเอนศีรษะพาดกับขอบเตียง เหลือบตาขึ้นดูเพดาน ใช้ความคิดอย่างเคร่งเครียดที่สุด หล่อนเห็นหน้าชายหนุ่มผู้หนึ่งปรากฏอยู่ในห้วงความคิด—ชายผู้นี้ เขามีสิทธิสักเล็กน้อยหรือแม้แต่สักนิดหนึ่งหรือไม่ที่จะติเตียนหล่อน ถ้าหากว่าหล่อนแต่งงานไปกับผู้ใดที่ไม่ใช่ตัวเขา ? หล่อนตอบตัวเองได้ทันทีว่าไม่มี! เขาไม่มีสิทธิแม้แต่สักนิดที่จะติเตียนหล่อน แต่เขาจะต้องผจญกับความเสียใจอย่างสาหัส ถ้า–ถ้าแม้ว่าเขารักหล่อนจริงเหมือนดังที่เขาและน้องของเขาผู้ซึ่งชอบพอกับภรณีพยายามจะให้ภรณีเชื่ออยู่เป็นนิจ

๓ ปีแล้ว ที่เขาและน้องของเขาพยายามจะให้ภรณีเชื่อว่าเขารักหล่อนมากพอที่จะพยายามบำเพ็ญ และพยายามละทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างเพื่อความพอใจของหล่อน ในตอนต้นภรณีก็เชื่อเช่นนั้น เพราะเหตุที่หล่อนมีอายุเพียง ๒๐ ปี มีความรู้ในเรื่องของโลกแต่ในส่วนที่โลกต้องการ เพื่อดำเนินไปสู่ภูมิธรรมอันอุดม แต่ขาดความชำนาญที่จะสังเกตเห็นว่าโลกได้ถูกความชั่วประจำโลกเองดึงดูดมิให้เลื่อนขึ้นสู่ภูมิธรรมอันสูงอยู่ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที หล่อนเชื่อว่าผู้ชายนั้นรักหล่อนพอที่จะบำเพ็ญได้ ละได้ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างเพื่อความพอใจของหล่อน แม้แต่ละนิสัยอันเกิดแต่สันดาน คือนิสัยชอบเสพสุราจนมึนเมา !

แต่ภายหลังเขาเองเป็นผู้ที่ทำความสงสัยให้เกิดแก่ภรณี ตัวเขาและน้องหญิงของเขา กับน้องเด็ก ๆ อีก ๓ คน เป็นกำพร้าบิดา ยังชีพอยู่ด้วยรายได้เล็กน้อย ซึ่งมารดาพี่ชายใหญ่คือตัวเขา น้องหญิงใหญ่คือน้องของเขาช่วยกันทำช่วยกันหา ครอบครัวนี้อยู่บ้านใกล้เคียงกับบ้านที่อยู่ของภรณี คราวใดที่เขาผู้ซึ่งควรจะนับว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวเสพสุรามึนเมา มารดาของเขาน้องหญิงของเขา ก็มาปรับทุกข์แก่หลวงจำนงฯ หรือนางจำนงฯหรือภรณี บางเดือนเขาเมาประมาณ ๓–๔ ครั้ง บางเดือนเขาเรียบร้อยเป็นปกติ บางเดือนเขาเมาแต่เพียงครั้งเดียว คือในตอนต้นเดือน อย่างไรก็ตามเขาทำให้ภรณีสงสัยว่า ความรักที่มีอยู่ในใจเขา จะไม่มีอำนาจพอที่จะช่วยเขาให้ละนิสัยอันเกิดแต่สันดานเสียกระมัง

เพราะเหตุนั้น ภรณีจึงยังมิได้ปลงใจอนุญาตให้เขาคิดถึงหล่อนในฐานะผู้ที่จะร่วมชีวิตกับเขาในอนาคต

ถ้าจะกล่าวถึงตัวเขาแท้ๆ ตัวที่เห็นได้ด้วยตา ได้แก่หน้าของเขา ร่างกายของเขา ท่วงทีวาจาของเขา เหล่านี้เป็นที่พอตาพอใจภรณีไม่น้อย เพราะเขาเกือบจะเป็นชายคนเดียวในโลกทั้งโลกที่ภรณีได้พบปะและได้พูดจาด้วยบางครั้งบางครั้งบางคราว หลวงจำนงฯ เป็นผู้ที่ไม่มีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนติดต่อที่บ้าน นางจำนงฯ มิใช่หญิงชนิดที่จูงใจเพื่อนฝูงของสามีให้มาสู่เคหะของตน ภรณีจึงเป็นผู้ที่เกือบจะกล่าวได้ว่าไม่มีผู้ใดเคยพบเคยเห็น และเป็นผู้ที่เกือบจะกล่าวได้ว่าไม่ได้พบได้เห็นบุคคลใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่เป็นเพศชาย ชายหนุ่มที่ฝากรักต่อภรณีนั้น มีมารดาเป็นผู้ประกอบการค้าเครื่องสำอางอย่างเก่า เช่นแป้งร่ำ น้ำอบไทย กับขนมบางอย่างที่หญิงรุ่นเก่ายังนิยมบริโภค เช่นขนมหน้านวล กะละแมเสวย ฯลฯ และมารดาของเขานั้นไม่มีนิสัยเป็นแม่ค้าหน้าเลือด เป็นผู้ที่ให้เก่งแถมเก่ง ส่วนนางจำนงฯ เป็นผู้ที่พอใจในการได้เล็กได้น้อย หญิงทั้งสองจึงคบหาเป็นสหายกันได้ดี และบุตรชายของผู้ที่ช่างให้ ก็ได้รับการต้อนรับและการโอภาปราศรัยอันดีจากผู้ที่ชอบรับอยู่เสมอ

อนึ่งบิดาของชายหนุ่มผู้นั้นมีบรรดาศักดิ์ชั้นเดียวกับหลวงจำนง ฯ สมัยหนึ่งคุณหลวงทั้งสองได้รับราชการอยู่ในจังหวัดเดียวกัน นี่ก็เป็นเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ชายผู้ฝักใฝ่ในภรณี มีโอกาสได้วิสาสะกับภรณีมากครั้งอยู่

เขาเป็นชายที่สุภาพ อ่อนโยนด้วยมรรยาทและน้ำคำ แววตาของเขาแสดงความหลงใหลในรูปโฉมของหล่อน ส่วนวาจาของเขาแสดงความเข้าอกเข้าใจความไมตรีจิต และความเคารพต่อความเป็นสุภาพสตรีของหล่อน ทุกคราวหลังจากที่ภรณีได้พบเขาแล้ว สมองของหล่อนมักจะครุ่นคิดถึงเขาเรื่อยไปอีกพักหนึ่ง ๆ เป็นเวลานาน เมื่อตัวเขาเป็นที่ต้องตาต้องใจหล่อน ๆ เช่นนี้ แต่ใจเขาเป็นอย่างไรหล่อนไม่รู้ประจักษ์ ภรณีก็วาดลักษณะใจชนิดที่ตรงกับความใฝ่ฝันของหล่อน ยกให้เป็นใจของเขา และเตรียมพร้อมที่จะหลงเชื่อว่านั่นคือใจของเขาแท้ ๆ ถ้าแม้ว่าเขาเองจะไม่เป็นผู้ที่เตือนให้หล่อนได้สติขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว ว่านิสัยอย่างหนึ่งที่เขาแสดงออกทางกายไม่ตรงกับลักษณะของใจที่หล่อนได้สมมุติขึ้นในใจของเขา

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ