เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๕๑

วันที่รัชกาล ๗๗๗๑ วัน ๔ ๔ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้าเลี้ยงพระที่วัดอรุณราชวราราม ถวายผ้าจำพรรษาพระสงฆ์ ๑๐๓ รูป มีพระราชมุนีเปนประธานสงฆ์ แต่พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวหาได้เสดจไม่ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเดจพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์เลี้ยงพระแลถวายผ้าจำพรรษา แต่ส่วนเครื่องไทยธรรมของหลวงนั้น ๒๐ รูป พระสงฆ์อีก ๘๓ รูปนั้น ของพระบรมวงษานุวงษฝ่ายน่าฝ่ายใน} ถวาย

เวลาทุ่มเสศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์กลาง พระบริบูรณโกษากรนำเครื่องโต๊ะลายมังกรแดงเข้าไปถวายทรงทอดพระเนตร แลทรงจัดโต๊ะอยู่จนเวลายามเสศเสดจพระราชดำเนินมาที่ออกขุนนางตามเคย พระสุรินทรามาตย์นำใบบอกกรมพระกลาโหมขึ้นกราบบังคมทูล ๓ ฉบับ ฉบับที่ ๑ บอกพระยาประสิทธิสงคราม เมืองกาญจนบุรีมีความว่า เลขส่วยทองจำนวนปีชวดสัมฤทธิ๒๑ศก เลข ๓๓ คน ๆ ละ ๓ สลึง ทองเปนทอง ๓ ตำลึง ๖ สลึง บุตรหมื่น ๑ ทาษ ๓ รวม ๔ คน ๆ ละ ๑ สลึง ๑ เฟื้อง เป็นทอง ๖ สลึง ส่งเงินแทนทองคิดราคาบาทละ ๑๖ เงิน ๕ ชั่ง ๕ ตำลึง พระราชทาน ๑๐ ลด ๒ คงส่ง ๔ ชั่ง ๔ ตำลึง ฉบับ ๒ ว่า พระนิโครธาภิโยค ผู้ว่าราชการเมืองไทรโยคยังหาได้รับพระราชทานเครื่องยศไม่ พระยาประสิทธิ์สงครามขอรับพระราชทานเครื่องยศให้พระนิโครธาภิโยค ฉบับ ๓ ว่า ตำแหน่งที่หลวงศิริพิทักษ์ผู้ช่วยราชการว่างอยู่ ขอหลวงกลางราชภักดีศรีเทพสงครามมหาดไทยเป็นที่หลวงศิริพิทักษผู้ช่วยรับราชการต่อไปแล้ว พระสุรินทรามาตย์นำพระนิโครธาภิโยค หลวงกลางราชภักดี เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระนิโครธาภิโยคถวายขี้ผึ้งหนัก ๕๐ ชั่งจีน หลวงกลางราชภักดีถวายขี้ผึ้งหนัก ๓๐ ชั่งจีน จึ่งมีพระบรมราชโองการดำรัสถามพระนิโครธาภิโยคถึงราษฎรในเมืองไทรโยคมีมากน้อยเท่าใด พระสุรินทรามาตย์รับพระบรมราชโองการมาถาม ได้ความแล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าคนในพื้นเมืองมีสัก ๒๐๐ ครัวเสศ แล้วพระยาราชวรานุกูลนำจ่าเร่งงานรัดรุดข้าหลวงเมืองพิไชยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระบรมราชโองการดำรัสถามถึงพระยาศุโขไทยแลราชการเมืองพิไชยพอสมควร จึงดำรัสถามพระยาภาษกรวงษที่เกษตราธิบดีว่า ศาลาที่เกาะสีชังนั้นทำแล้วฤๅยัง พระยาภาษกรวงษ์กราบบังคมทูลพระกรุณาว่าทำแล้ว จึ่งมีพระราชดำรัสว่าจะเสดจพระราชดำเนินเกาะสีชังในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ เวลา ๔ ทุ่มเสศเสดจขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๗๗๒ วัน ๕ ๔ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า เลี้ยงพระที่วัดโอรสาราม แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหาได้เสดจไม่ โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าราชวรวงษ์เธอ กรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ กรมขุนเจริญผลภูลสวัสดิ์ เลี้ยงพระสงฆ์ ๔๙ รูป ถวายผ้าจำพรรษา พระปรากรมมุนีเปนประธานสงฆ์ แต่ไทยธรรมของหลวงนั้น ๑๐ รูป เหลืออีก ๓๙ รูป เปนของพระราชวรวงษเธอ ทั้งฝ่ายน่าฝ่ายใน} เวลา ๒ ทุ่มเสศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกทอดพระเนตรเครื่องโต๊ะแลทรงจัดอยู่ในพระที่นั่งจักรกรีองค์กลาง ประทับอยู่จนเวลายามเสศเสดจออกขุนนางตามเคย พระมนตรีพจนนิจนำใบบอกในกรมมหาดไทยขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ๗ ฉบับ ๆ ที่ ๑ บอกพระยาไชยวิชิตผู้รักษากรุงเก่า ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉบับที่ ๒ บอกพระยาวิเสศไชยชาญ เมืองอ่างทอง ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉบับที่ ๓ บอกพระยาพิไชยสุนทร เมืองอุไทย ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉบับที่ ๔ บอกพระยาสุนทรสงคราม เมืองสุพรรณบุรี ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉบับที่ ๕ บอกพระยาอุไทยมนตรี เมืองปราจิณบุรี เจ้าอธิการสังกับราษฎรขอที่ผูกพัฒเสมาวัดหาดทรายโดย ยาว ๑๒ วา กว้าง ๖ วา} ฉบับที่ ๖ บอกหลวงสัจพันธ์ เมืองพระพุทธบาทว่า ขุนทิพนำผ้าไตรกระฐินกับเครื่องบริกขารซึ่งโปรดเกล้า ฯ พระราชทานขึ้นไปทอดวัดพระพุทธบาทนั้น ได้ทอดแล้ว ขอถวายพระราชกุศล ฉบับที่ ๗ บอกจ่าเร่งงานรัดรุดข้าหลวงเมืองพิไชย ขอหีบศิลาน่าเพลิงเผาศพพระพลสงคราม ผู้ว่าราชการเมืองน้ำปาด กับให้กรมการคุมถาดหมากคนโทเงินสัปทนเครื่องยศมาส่ง พระสุรินทรามาตย์นำบอกในกรมพระกลาโหมขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ๖ ฉบับ ๆ ๑ บอกพระยาอนุรักษ์โยธา ข้าหลวงหัวเมืองฝ่ายตวันตกความว่า พระยาเสนานุชิตเมืองตกัวป่า จัดเงินภาษีผลประโยชน์งวดเดือนยี่ ปีชวด ส่งหลวงทวีปสยามกิจ ฝากแบงก์เมืองปีนังแล้ว ฉบับ ๒ ว่า พระยาบริรักษภูธร เมืองพังงา จัดเงินภาษี ๕ อย่างงวดที่ ๓ ปีชวด ๓ ส่งหลวงทวีปสยามกิจ ฝากแบงก์เมืองปีนังแล้ว ฉบับ ๔ ว่า พระยาอนุรักษโยธาได้จัดเงินภาษีคอเวอนเมนต์ จำนวนรัตนโกสินทรศก ๑๐๘ ส่งหลวงทวีปสยามกิจ ฝากแบงก์เมืองปีนัง ฉบับ ๖ พระอัษฎงคตพิศรักษา เมืองกระบุรี ความว่า ได้ซื้อเรือสติมลอนที่เมืองเกาะหมากมาลาดตระเวนที่เมืองกระตามท้องตราพระคชสีห์ ที่โปรดเกล้า ฯ ออกไปนั้น เรือลำหนึ่งราคา ๓๕๐๐ เหรียญ ค่าใช้สอยในเรือเบดเสรจเงิน ๙๓ เหรียญ รวมเงิน ๓๕๙ เหรียญ กับพระอัษฎงคตได้จ้างคนทำทางสายโทรเลข ซื้อไม้ อิฐ ปูน } สังกะสี จ้างช่างยกเสาสิ้นเงิน ๑๖๕๐ เหรียญ พระอัษฎงคตได้ทำฏิกายืมเงินที่พระยารัตนเศรษฐี ๒ ฉบับ ตามบาญชีเงิน

แล้วพระสุรินทรามาตย์นำจีนกอยุซินเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทถวายพิมเสนหนัก ๑ ชั่งจีนของพระยารัตนเศรษฐีฝากเข้ามาถวาย จีนกอยุซินถวายผลชิดแช่อิ่ม ๑๒ ขวด จึ่งมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ให้ทำสัญญาบัตรพระราชทานให้จีนกอยุซินเปนผู้ช่วยราชการเมืองระนอง โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรกับข้าราชการ ๑๕ นวย ให้พระรักษาเทพ เจ้ากรมพระตำรวจสนมซ้าย เปนพระพรหมาภิบาล เจ้ากรมพระตำรวจในขวาฝ่ายพระราชวังบวร ถือศักดินา ๑๕๐๐ ให้หลวงพิษณุเทพเลื่อนเปนพระพิษณุเทพเจ้ากรมมหาดไทยตำรวจภูธรซ้ายถือศักดินา ๑๐๐ ให้หลวงฤทธิพลไชยเปนพระรักษาเทพ เจ้ากรมพระตำรวจสนมซ้ายฝ่ายพระราชวังบวรถือศักดินา ๑๒๐๐ ให้หลวงวิทยาธิกรณศักดิ์เปนพระพรหมประสาทศิลป์ ผู้ว่าราชการเมืองพรหมบุรี ถือศักดินา ๓๐๐๐ ให้หลวงอนุรักษ์ภักดีเจ้ากรมไพร่หลวงมหาดเล็กเปนหลวงศรีศักดิ์บริบาล ปลักเมืองสรรคบุรี ถือศักดินา ๖๐๐ ให้หลวงทรงบุรีเปนหลวงชำนาญภักดียกรบัตร เมืองสรรคบุรี ถือศักดินา ๕๐๐ ให้พระอักขระต่างใจเปนพระกลางราชภักดีศรีเทพสงครามมหาดไทย เมืองนครราชสีห์มาถือศักดินา ๑๐๐๐ ให้ท้าวพรหมบุตรราชภักดี เปนที่ราชบุตรเมืองนครพนม ให้ราชบุตรเมืองเรณูนคร เปนพระแก้วโกมล เจ้าเมืองเรณูนคร ขึ้นเมืองนครพนม ให้อรรคฮาด เมืองอากาศอำนวย เปนหลวงพลานุกูล เจ้าเมืองอากาศอำนวย ขึ้นเมืองนครพนม ให้ท้าวสุวรรณสาลเมืองสกลนคร เปนราชบุตรเมืองสกลนคร ให้ท้าวศรีวรราชเมืองสกลนครเปนพระศรีสกุลวงษ์ ผู้ช่วยฝ่ายขวาเมืองสกลนคร ให้ท้าวอินอาษาเมืองสกลนคร เปนพระพิชิตพลหาญผู้ช่วยฝ่ายซ้ายเมืองสกลนคร ให้ท้าวสุริยเมืองกุสุมาล เปนพระอรัญอาสาเจ้าเมืองสกลนคร ให้ท้าวโพธิไพศาลเปนพระพิศาลสิมานุกรักษ์ เจ้าเมืองโพธิไพศาล เวลา ๔ ทุ่มเสศเสดจขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๗๗๓ วัน ๖ ๔ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้ามีเลี้ยงพระที่วัดราชประดิษฐถวายผ้าจำพรรษา มีพระสงฆ์ ๒๘ รูป สมเด็จพระพุทธโฆษาจาริย์เป็นประธานสงฆ์ แต่พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวหาได้เสดจไม่ โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรไปเลี้ยงพระถวายผ้าจำพรรษาแต่ส่วนไทยธรรมของหลวงนั้น ๕ รูป อีก ๒๓ รูปนั้นเป็นของพระเจ้าพี่นางเธอ พระเจ้าน้องนางเธอ พระเจ้าน้องยาเธอ } รวมกัน เวลา ๒ ทุ่มเสศ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกในพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์กลาง ประทับทอดพระเนตรเครื่องโต๊ะอยู่จนเวลายามสามเสศ แล้วเสดจมาองค์ด้านตวันออกพร้อมด้วยเจ้าพนักงานกรมธรรมการ พระธรรมไตรโลกนำเปนประธานสงฆ์ ทรงตั้งตำแหน่งพระสงฆ์ ให้มหาแจ้งเปรียญ ๓ ประโยค วัดพระยาทำเปนพระครูสุนทรากษรวิจิตร มีนิตยภัตรราคาเดือนละ ๒ ตำลึง พระราชทานตาลิปัตรพัดเครื่องยศไตรบริกขารพร้อม แล้วต่อมาพระสมุหกล่ำวัดดาวดึงษ์เปนพระครูปริยัติโกศล มีนิตยภัตรราคาเดือนละ ๒ ตำลึง ตาลิปัตรพัดรองไตรแลเครื่องบริขารพร้อม แล้วถึงพระครูหัวเมืองให้พระวินัยธร คง วัดกลางเปนพระครูสีหราชสมาจารคุณ เจ้าคณะใหญ่เมืองนครราชสีห์มา ให้พระอาจาริย์น้อย วัดสว่างอารมณ์เปนพระครูสวรรควรนายกปิฎกสุนทร เจ้าคณะใหญ่เมืองสวรรคโลก ให้พระสมุทกรุดวัดราชบุรณเปนพระครูสุขะวะโรไทย อธิปไตยสงฆ์นิกรเมืองสุโขทัย ให้พระครูคณานุกูลเปนพระครูโสภณเจตสิการามเมืองไชยา ให้เจ้าอธิการเจียมวัดเขาแก้ว เปนพระครูศีลวิสุทธิญาณเจ้าคณะรองเมืองสระบุรี ให้เจ้าอธิการมีวัดเทพอาวาศ เปนพระครูสุวรรณวิสุทธิอุดมคณาจาริย์เจ้าคณะใหญ่เมืองนครสวรรค์ ให้เจ้าอธิการแหยววัดป่าเรไรเปนพระครูสมุทสมานคุณเจ้าคณะใหญ่เมืองระยอง ให้เจ้าอธิการเทียนวัดเกาะสีชัง เป็นพระครูศรีชพังคสังวร ให้พระปลัดเทศวัดท่าโก เปนพระครูศีลธนารักษ์ เจ้าคณะใหญ่เมืองชุมแสง ให้เจ้าอธิการคำตันวัดบริบูรณ เปนพระครูถาวรศีลวัตรเจ้าคณะใหญ่เมืองภูเขียว ให้เจ้าอธิการอ่อนตาวัดแจ้ง เปนพระครูพิพัฒนศีลคุณ เจ้าคณะรองเมืองภูเขียว ให้พระวินัยธรเมืองพระยาแมน เปนพระครูเมธาวีวรคุณเมืองพิไชย ให้เจ้าอธิการขาววัดบึง เปนพระครูศีลวิสุทธิพรตเมืองนครราชสีห์มา รวม ๑๕ รูป พระครู ๑๕ รูป ครองไตรแล้วเข้ามาถวายอติเรก แล้วถวายพระพรลา พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจกลับประทับที่ออกขุนนางตามเคย พระมนตรีพจนกิจนำใบบอกในกรมมหาดไทยขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ๘ ฉบับ ๆ ที่ ๑ บอกพระศรีพิทักษ์ข้าหลวงเมืองขุขัน ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ฉบับ ๒ บอกส่งต้นหนังสือพระยามหาอำมาตย ข้าหลวงเมืองนครจำปาศักดิ์ว่าความพระยาไชยสุรินทรวงษากล่าวโทษท้าวปัญญากับอ้ายมีชื่อ ๕ คน ว่าท้าวปัญญาใช้ให้อ้ายมีชื่อเอาปืนยิงพระเมืองกับผู้มีชื่อตายนั้น พระศรีพิพักษ์ได้บังคับท้าวปัญญาส่งอ้ายมีชื่อมาชำระแล้ว ฉบับ ๓ ว่าได้สืบจับผู้ร้ายที่ต้นซัด ๘ เรื่อง ได้ผู้ร้าย ๑๓ คน เอาตัวมาถามให้การสาระภาพรับเปนสัตย์ซัดพวกอีกหลายคน พระศรีพิทักษ์ยังจะชำระสืบจับเอาตัวผู้ร้ายต่อไป ฉบับ ๔ ว่า นายเคนอำแดงดีเปนบิดามารดา}อำแดงวันพากันไปหาปลาทางเมืองศีศะเกษ นายเคนให้อำแดงดีอำแดงวัน}นำโคระแทะไปคอยอยู่ใกล้เมืองศีศะเกษ นายเคนไปเสพสุราเมาเอาไม้ตีอำแดงดีภรรยาตาย แล้วเอาบุตรไปฝากไว้กับพี่น้องนายเคน ๆ หลบหนีไป พระศรีพิทักษ์ยังสืบจับตัวหาได้ไม่ ฉบับ ๕ ว่า พระอุทุมพรส่งตัวหลวงพรหมเสนามายังพระศรีพิทักษ์ ๆ ได้เอาตัวมาถามให้การว่าหลวงพรหมเสนากับกำนันรองกับคนมีชื่อพากันไปตั้งเรือนอยู่คลองสังคต หลวงพรหมเหนเปนช่องทางคนเดินไปได้ จึ่งตัดไม้ทำทางให้ช้างม้าโคกระบือเดินไปมาค้าขายได้ พระศรีพิทักษข้าหลวงได้กำชับนายด่านตรวจตราอย่าให้ผู้ใดตัดทางอื่นต่อไป ฉบับ ๖ บอกพระบุรีรัตนเมืองเถินว่าได้ส่งบาญชีเงินบาญชีไม้} ตามท้องตราซึ่งโปรดเกล้า ฯ นั้นแล้ว พระบุรีรัตนได้เกบเงินตั้งแต่ปีกุนปีชวด} รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ ไม้ ๑๖๒๗ ต้นเงินค่าตอไม้ ๔๙๗๒ รูเปีย แบ่งล่วนพระราชทานแล้วคงหลวง ๓๓๑๔ รูเปีย ได้มอบเงินเข้ามาส่งยังเจ้าพนักงานด้วยแล้ว ฉบับ ๗ บอกพระยาศุโขทัยว่าพระพรหมสงครามพระพลเมืองศุโขไทยถึงแก่กรรมตำแหน่งที่ยังว่างเปล่าอยู่ ขอนายฉาดผู้ว่าที่พระมนตรีรักษาผู้ช่วย เปนที่พระพรหมสงครามพระพลต่อไป แล้วพระมนตรีพจนกิจนำนายฉาดผู้ว่าที่พระมนตรีรักษาผู้ช่วย เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทถวายขี้ผึ้งหนัก ๕๐ ชั่งจีน พระสุรินทรามาตย์นำบอกในกรมพระกลาโหมขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ๓ ฉบับ ๆ ๑ บอกพระยารัตนเศรษฐีเมืองระนองว่าภาษี ๕ อย่างจำนวนปีชวดเงิน ๓๓๘๔๑-๗๔} เหรียญ หักจ่ายเงินเดือนโปลิศไปรสนีย์ เงิน ๕๙๒๒-๖๑} เหรียญ พระอัษฎงคตทิศรักษาทำฎีกาเบิกไปจ่ายราชการเมืองกระบุรี ๓ ฉบับ เงิน ๘๙๙๑-๓๓} เหรียญ นายจงใจภักดีข้าหลวงทำทางสายโทรเลขทำฎีกาเบิก ๒ ฉบับเงิน ๑๐๖-๕๐} เหรียญ พระยารัตนเศรษฐีทำทางสายโทรเลขเบ็จเสรจตั้งแต่ปีจอถึงปีฉลูเงิน ๒๒๔๒-๙๐} เหรียญ แต่เครื่องมือใช้สอยเงิน ๓๘๙-๑๘} เหรียญ ยกทูลเกล้าฯ ถวาย หักไว้แต่ค่าสะเบียงอาหารเงิน ๒๒๕๓-๗๒} เหรียญ รวมเงินจ่ายราชการเมืองระนองเมืองกระ} เงิน ๑๗๒๗๔-๑๖} เหรียญ เงินภาษีจำนวนปีชวดยังค้างอยู่เงิน ๑๒๐๐๐ เหรียญ พระยารัตนเศรษฐีขอผัดส่งตามอธิบดีหอรัษฎากรพิพัฒน์ปีละ ๒๐๐ เหรียญทุกปีไป ฉบับ ๒ ว่าด้วยมีตราพระคชสีห์โปรดเกล้า ฯ ไปถึงพระยารัตนเศรษฐีว่าให้แยกเงินภาษีจำนวนรัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ ภาษี สุรา ฝิ่น ดีบุก} ภาษีร้อยชักสาม บ่อนเบี้ยเปน ๕ อย่าง รวมเงิน ๖๓๐ คิดเปนเงินเหรียญ ๓๐๒๔๐ เหรียญ คิดค่าเบิกจ่ายราชการเมืองระนองเมืองกระ} เงิน ๑๔๐๒๙-๖๓ เหรียญ รวมเงินยังค้างอยู่ ๑๒๔๙๕-๔๓ เหรียญ ฉบับ ๓ ว่าภาษี ๕ อย่างซึ่งรับทำเงินปีละ ๖๓๐ ชั่ง ตั้งแต่ปีชวดถึงรัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ ได้ออกทุนให้ราษฎรทำเหมืองแร่ดีบุกขาดทุนสองจำนวนแล้ว ในรัตนโกสินทร๒๓ศก ๑๐๙ ต่อไปพระยารัตนเศรษฐีขอลดภาษี ๕ อย่างลงแต่ ๔๐๐ ชั่ง จะได้บำรุงบ้านเมืองต่อไป ถ้าภาษีเขริญขึ้น จึ่งจะบวกเงินขึ้นต่อภายหลัง แล้วดำรัสถามพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนราธิปประพันธพงษ์ ว่าพระยารัตนเศรษฐีทำภาษี ๕ อย่าง ครบงวดมาส่งเงินเดือนไร กรมหมื่นนรา, กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า มาส่งวันที่ ๑ ตุลาคม ทรงทราบแล้วเวลา ๔ ทุ่มเสศเสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๗๗๔ วัน ๗ ๔ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกห้องไปรเวท ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนแต่งตัวเตมยศเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทโดยลำดับพร้อมกัน พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทววงษ์วโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ นำซิลยอเฟร์เดรีโกอันตวนเนียวเปเรต, กงสุลเยเนราลโปรตุเกตเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทถวายพระราชสาสน์พระเจ้ากาลสบอกข่าวพระเจ้าหลุยพระราชบิดาสิ้นพระชนม์ มีพระราชดำรัสแสดงความเสียพระไทยในการสิ้นพระชนม์แลทรงยินดีที่พระเจ้ากาลสได้ดำรงราชสมบัติ แล้วพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทววงษ์วโรประการ นำซิล ยอเฟร์เดรีฯ ออกมาจากที่เฝ้า แล้วนำเซเวเลีย ลุดซัดตี้ ถวายพระราชสาสน์พระเจ้าแผ่นดินอีตาลี มีพระราชปฏิสันฐารด้วยพอสมควร พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทววงษ์วโรประการนำเซเวเลียลุดซัดตี้ออกมาจากที่เฝ้า แล้วพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทววงษ์วโรประการ กลับเข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ประทับอยู่จนเวลาทุ่มเสศเสดจขึ้น เวลา ๒ ทุ่มเสศเสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์กลาง ทรงทอดพระเนตรถ้วยป้านเครื่องโต๊ะลายคราม ประทับอยู่จนเวลา ๕ ทุ่มเสศเสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๗๙๕ วัน ๗ ๑๐ ๔ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๕ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้าเจ้าพนักงานจัดการที่จะเลี้ยงพระสงฆ์ ในวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แลวันสิ้นพระชนม์กรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย พระสงฆ์ที่มารับพระราชทานฉันนั้นวัดราชโยรสาราม ๑๐ รูป พระราชกระวีเปนประธาน วัดหนัง ๕ รูป พระวิสุทธิโสภณเปนประธาน เวลาเช้า ๔ โมงเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสมมติวงษ์วโรไทย เสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระราชกระวีถวายศีลทรงศีลแล้ว ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตรแก่พระสงฆ์ ๑๕ รูป รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงทอดผ้าไตร ๒ ผ้าขาวพับ ๑๓ สดับปกรณ์พระบรมอัฏฐิพระอัฏฐิเสร็จแล้ว สดับปกรณ์รายร้อยอีก ๒๐๐ รูปแล้วเสด็จขึ้น

เวลาย่ำค่ำแล้วโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเซอ เจ้าฟ้าสมมติวงษ์วโรไทย เสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทรงศีลแล้ว พระสงฆ์ที่มารับพระราชทานฉันเมื่อเช้านี้ สวดพระพุทธมนต์อนัตตลักขณสูตรจบแล้ว พระธรรมวโรดมถวายเทศนากัณฑ์ ๑ จบแล้ว ทรงประเคนไตรแลเครื่องบริกขารตามสมควร เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น วันนี้ไม่ได้เสด็จออกขุนนาง.

วันที่รัชกาล ๗๗๙๖ วัน ๑ ๑๑ ๔ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๖ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๕๓๒)

วันนี้เจ้าพนักงานจัดการตั้งน้ำวงด้าย เริ่มการพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ตามธรรมเนียมแต่ปีนี้โปรดเกล้าฯ ให้จัดการที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แลจะได้โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ หม่อมเจ้าชายหญิง} ในสมเดจพระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าบวรวงษ์เธอ รวม ๘ องค์ จะได้เกษากันต์ในพระราชพิธีนี้ด้วย เจ้าพนักงานจัดการตั้งพระแท่นมณฑล ต่อพระที่นั่งเสวตรฉัตรออกมา ในพระแท่นมณฑลนั้น ตั้งม้าจำหลักปิดทองคำเปลวเปนชั้นลด ๓ ชั้น ชั้นบนตั้งพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ ชั้นลดลงมาตั้งพระพุทธบุศย์รัตน ชั้นล่างตั้งพระครอบพระบรมธาตุลังกา ข้างขวาตั้งพระแก้วจีนแลพระไชยประจำรัชกาล ๒ พระองค์ ข้างซ้ายตั้งพระพุทธบุศย์รัตนองค์น้อยแลพระไชยประจำรัชกาล ๓ พระองค์ แลตั้งเชิงเทียนเงินทอง} แลพานทองปักพุ่มดอกไม้สดทั้ง ๓ ชั้น บนพระแท่นมณฑลนั้นตั้งพระเต้าน้ำพระพุทธมนต์ต่าง ๆ ที่เสาพระแท่นมณฑลทั้ง ๕ เสา ผูกธงกระบี่ธุชครุฑพาหนแลพระแสง หอก ง้าว} พระแสง ทวน ดาบ} พระแสงปืน เขน โล่} ถม ด้านหลังพระแท่นมณฑลนั้นมีบันไดแก้วสำหรับพาดพระแสงต่าง ๆ ที่พระแท่นลาของพระแท่นมณฑลนั้นตั้งพระเต้าน้ำพระพุทธมนต์ พระเต้าต่าง ๆ หลายองค์พานทองรองพระครอบสำฤทธิ์ พระกันไกรพระกันบิดต่าง ๆ ตามอย่างพระแท่นมณฑลพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์แลพระราชพิธีโสกันต์แต่ก่อน ๆ มา ข้างขวา ซ้าย} พระแท่นมณฑลนั้น ตั้งโต๊ะจีนข้างละโต๊ะ โต๊ะข้างขวาตั้งพระพุทธรูปนิรันตราย โต๊ะข้างซ้ายตั้งพระสยามเทวาธิราช แลวางปืนล้อชื่อมหาไชย ฤกษ} มหาจักร ปราบยุค} สำหรับเจ้าพนักงานจะได้ยิงในวันพระสงฆ์สวดอาฏานาฏิยสูตร น่าพระแท่นมณฑลออกมาตั้งพระแท่นทรงกราบ บนพระแท่นนั้นตั้งม้าจำหลักปิดทองเครื่องนมัสการเครื่อง ๕

อนึ่ง โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานจัดการเขาไกรลาศศิลาในพระราชอุทธานริมพระที่นั่งพิมานรัฐยาข้างใน เปนที่พระเจ้าลูกเธอจะได้สรงน้ำพระพุทธมนต์เมื่อเวลาโสกันต์แล้วเวลาบ่ายวันนี้ เจ้าพนักงานจัดตั้งกระบวนแห่ที่แถวกระถางต้นไม้ น่าพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทกระบวนน่านั้น มีธงช้างนำริ้ว ๑ ทหารแตรล้อมวัง ๔๐ ทหารแตรรักษาพระองค์ ๔๐ ต่อมานายทหารปืนใหญ่เดินขวา ซ้าย} นักเรียน ๑๖ คน ปืนล้อ ๒ บอก นายทหารเดินขวา ซ้าย} นักเรียน ๔๐ สารวัดจีน ๒ จีน ๒๐ สารวัดญวน ๒ ญวน ๔๐ สารวัดเด็กชา ๒ เด็กชา ๔๐ สารวัดทหารรักษาพระบรมมหาราชวัง ๒ ทหาร ๔๐ สารวัดทหารกองดับเพลิง ๒ ทหาร ๒๐ สารวัดทหารกรมวังนอก ๒ ทหาร ๒๐ สารวัดกรมราชยาน ๒ ไพร่ ๒๐ สารวัดตำรวจน่า ๒ ตำรวจ ๔๐ ต่อมาต้นเชือก ๒ แตรฝรั่ง ๖ แตรงอน ๔ สังข์ ๒ โหรโปรยเข้าตอก เข้าสาร} ๒ ไม้บันเดาะ ๒ พราหมณ์เป่าสังข์ ๒ โปรยเข้าตอก ๒ ต่อมาเสลี่ยงกง ๒ สำหรับพระเจ้าลูกเธอทรงคือพระองค์เจ้าหญิงเจริญศรีชนมายุ ๑ พระองค์เจ้าหญิงประเวศวรสมัย ๑ หามเสลี่ยงละ ๘ คน พระกลดหักทองขวางเสลี่ยงละ ๑ คู่ เคียง ๑๖ เสลี่ยงละ ๘ คน นางเชิญเครื่องเสลี่ยงละ ๖ คน ข้าหลวงตาม ๒๐๐ เสลี่ยงละ ๑๐๐ คน แล้วถึงเสลี่ยงหม่อมเจ้า ๒ องค์ คือหม่อมเจ้าหญิงทรงศศิคุณ ในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนค์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ๑ หม่อมเจ้าหญิงอับศรสมาน ในพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ ๑ คนหามเสลี่ยงละ ๔ ไม้บันเดาะเสลี่ยงละ ๒ โหรพราหมณ์โปรยเข้าตอกเข้าสาร} เสลี่ยงละ ๒ พระกลดกำมลอเสลี่ยงละ ๑

หม่อมเจ้าอีก ๖ องค์ที่จะเกษากันต์ในพระราชพิธีนี้นั้นไม่ได้เข้ากระบวนแห่ด้วย ได้มาคอยฟังสวดที่พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย คือหม่อมเจ้าหญิงด้วง ในพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช ๑ หม่อมเจ้าชายกลาง ในพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นภูธเรศร์ธำรงศักดิ์ ๑ หม่อมเจ้าชายทัศโนภาษ หม่อมเจ้าหญิงกุสุมา ในพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์ ๒ หม่อมเจ้าชายนิสากร ในพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นศิริธัชสังกาศ ๑ หม่อมเจ้าหญิงเสาวภาคในพระเจ้าบวรวงษ์เธอพระองค์เจ้ายุคุนธร ๑ รวม ๑ องค์

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ที่จะได้โสกันต์นั้น ทรงแต่งพระองค์แล้ว เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท ทรงประเคนผ้าไตรแลย่ามแก่พระสงฆ์ราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย} รวม ๒๐ รูป พระเจ้าบรมวงษ์เธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์เปนประธาน แล้วพระเจ้าลูกเธอเสด็จขึ้นข้างใน พระสงฆ์ออกมาครองผ้าแล้วเข้าไปนั่งที่ตามลำดับในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงส่งพระกรพระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ แลหม่อมเจ้า ๒ องค์ ที่เกยมุมพระที่นั่งบรรณาคมสรณีย์ โปรดเกล้า ฯ ให้เดินกระบวนแห่ตามทางข้างในพระบรมมหาราชวัง กระบวนแห่นี้เข้าทางประตูพรหมศรีสวัสดิ์ ออกทางประตูฉนวนดุสิตสาศดา แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปรับพระกรพระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้า ที่เกยในชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้า ๒ พระองค์เสด็จมาประชุมฟังสวดพระพุทธมนต์พร้อมกันกับหม่อมเจ้าที่ไม่ได้เข้ากระบวนแห่ ๖ องค์ ในพระสูตรหลังพระที่นั่งพระมหาเสวตรฉัตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล ทรงศีลแล้วทรงจุดเทียนที่พระแท่นมณฑลแลที่โต๊ะจีนตั้งพระนิรันตรายแลพระสยามเทวาธิราช แล้วพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ตามธรรมเนียมพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์จบแล้ว ถวายอติเรกพระพรลากลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาส่งพระกรพระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้าแห่กลับมาทางเดิม แล้วเสด็จพระราชดำเนินมารับพระกรพระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้าที่เกยมุมพระที่นั่งบรรณาคมสรณีย์ เปนเสร็จการวันแรกเพียงนี้.

วันที่รัชกาล ๗๗๙๗ วัน ๒ ๑๒ ๔ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๗ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๔ โมงเศส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยพร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการเฝ้าทูลอองธุลีพระบาท ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหมื่นปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล ทรงศีลแล้ว เจ้าพนักงานนำเทียนทองชะนวนถวายทรงจุดแล้วทรงประเคนพระเจ้าบรมวงษเธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ๆ ทรงจุดเทียนไชย เวลานั้นพราหมณ์พิธีเป่าสังข์ เจ้าพนักงานประโคมดุริยางค์ดนตรีแลฆ้องไชย พระสงฆ์พร้อมกันสวดคาถาจุดเทียนไชยเสร็จแล้ว ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตรแก่พระสงฆ์ที่สวดมนต์เมื่อเวลาคืนนี้ ๒๐ รูป กับพระครูคู่สวด ๘ พระพิธีธรรม ๔๐ รวม ๖๘ รูป รับพระราชทานฉันแล้ว ถวายอนุโมทนาแล้วถวายอติเรกพระพรลากลับ แล้วพระพิธีธรรมสวดภาณวารประจำเทียนไชยต่อไป พระราชาคณะนั่งปรกตามธรรมเนียม เวลาย่ำเที่ยงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ มีการแห่พระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงส่งพระกรแลรับพระกรเหมือนเวลาวานนี้ แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย พระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้าเสด็จมาประชุมฟังสวดพระพุทธมนต์พร้อมกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระเจ้าบรมวงษเธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล ทรงศีลแล้ว ทรงจุดเทียนที่พระแท่นมณฑลแลที่โต๊ะจีน พระสงฆ์ที่รับพระราชทานฉันเมื่อเช้าวันนี้สวดพระพุทธมนต์ตามธรรมเนียมพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์จบแล้ว ถวายอติเรกพระพรลากลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นข้างใน ส่งพระกรแลรับพระกรพระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้าแห่กลับ เปนเสร็จการวันที่ ๒.

วันที่รัชกาล ๗๗๙๘ วัน ๓ ๑๓ ๔ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๘ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้ามีการเลี้ยงพระสงฆ์ที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้ โปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระเจ้าบรมวงษเธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีลทรงศีลแล้ว ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตรแก่พระสงฆ์ ๆ รับพระราชทานฉันแล้ว ถวายอนุโมทนา ถวายอติเรกพระพรลากลับ เวลาย่ำเที่ยงแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศมีการแห่พระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้าออกฟังพระสวดพุทธมนต์เหมือนเวลาวานนี้ เวลาย่ำค่ำแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระเจ้าบรมวงษเธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีลทรงศีลแล้ว ทรงจุดเทียนที่พระแท่นมณฑลแลที่โต๊ะจีน พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ตามธรรมเนียมพระราชพิธีซึ่งเคยมา จบแล้วถวายอติเรกพระพรลากลับ เวลาทุ่มเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นข้างใน ส่งพระกรรับพระกรพระเจ้าลูกเธอ แลหม่อมเจ้าแห่กลับ เปนเสร็จการวันที่ ๓.

วันที่รัชกาล ๗๗๙๙ วัน ๔ ๑๔ ๔ ค่ำ ปีฉลูเอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๙ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ มีการแห่พระเจ้าลูกยาเธอแลหม่อมเจ้าที่จะโสกันต์ เกษากันต์} นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงส่งพระกรแลรับพระกรพระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้า แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้าทรงเครื่องภูษาพระสพักขาว เสด็จมาประทับเก้าอี้น่าอาศนสงฆ์ตามลำดับพร้อมกันทั้งหม่อมเจ้า ๖ องค์ ที่ไม่ได้เข้ากระบวนแห่นั้นด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระเจ้าบรมวงษเธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีลทรงศีลแล้ว เจ้าพนักงานแบ่งเส้นพระเกษาพระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้าออกเปนสามส่วน มีพระธำมรงค์ใบมะตูมหญ้าแพรก พันด้วยไหมเงิน ทอง นาค} ผูกที่พระเกษาที่แบ่งสามส่วนนั้น เหมือนกันทุกๆ องค์ ครั้งได้พระฤกษเวลาเช้า ๔ โมงกับ ๓๕ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏรดพระเกษา แลทรงจรดพระกันไกรพระกันบิดโสกันต์และเกษากันต์พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้าองค์ละส่วนพระเกษาที่แบ่งไว้ เวลานั้นพระสงฆ์ก็สวดถวายไชยมงคลขึ้นพร้อมกัน พราหมณ์พิธีก็เป่าสังข์แลประโคมบัณเฑาะว์ เจ้าพนักงานฆ้องไชยแตรสังข์พิณพาทย์กลองแขกก็ประโคมขึ้นพร้อมกัน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าราชวรวงษ์เธอ กรมขุนบดินทร์ไพศาลโสภณ พระเจ้าราชวรวงษเธอกรมขุนเจริญผลพูนสวัสดิ์ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีกรมพระภาณุภันธุวงษวรเดช เจริญพระเกษาต่อไปเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนอาหารบิณฑบาตรแก่พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน พระเจ้าลูกเธอที่โสกันต์แลหม่อมเจ้าเกษากันต์แล้วเสด็จไปสรงน้ำที่เขาไกรลาศศิลาในพระราชอุทยานข้างใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์แล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงษานุวงษ์ฝ่ายน่าฝ่ายใน} แลท่านเสนาบดีไปพระทาน ไปถวาย} น้ำพระพุทธมนต์ตามขัตติยประเพณีเสร็จแล้ว พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้าทรงแต่งพระองค์ตามธรรมเนียมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้าเสด็จมาพร้อมกันแล้ว พระราชทานน้ำพระมหาสังข์แลทรงเจิมพระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ แล้วโปรดให้พระเจ้าลูกเธอทรงประเคนของไทยทานแก่พระสงฆ์ราชาคณะ ๒๐ รูป แล้วพระราชทานน้ำพระมหาสังข์แลทรงเจิมหม่อมเจ้า ๘ องค์ ต่อไปเสร็จแล้ว พระธรรมไตรโลกาจาริย์ประกาศเทวดาตามพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์อย่างที่เคยมาจบแล้ว พระสงฆ์ถวายอติเรกพระพรลากลับ เจ้าพนักงานจัดกระบวนแห่พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้ากลับ เวลาเที่ยงแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นข้างในส่งพระกรแลรับพระกรพระเจ้าลูกเธอตามธรรมเนียม

เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เจ้าพนักงานจัดกระบวนแห่พระเจ้าลูกเธอแลหม่อมเจ้ามาสมโภชที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ หม่อมเจ้า ๖ องค์ที่ไม่ได้เข้ากระบวนแห่นั้นแต่งองค์เสด็จมาประชุมสมโภชพร้อมกัน สมโภชแล้วจัดกระบวนแห่กลับ เปนเสร็จการโสกันต์เกษากันต์แต่เท่านี้

เวลาบ่ายวันนี้ เจ้าพนักงานจัดกระบวนแห่พระสงฆ์ราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย} แลพระครูพระพิธีธรรมรวม ๖๔ รูป จัดกระบวนแห่นั้นตั้งแต่อัฏฏวิจารณ์ศาลามาถึงมุมหอพระสมุดวชิรญาณด้านตวันตก กระบวนแห่มีกรมม้าเกราะทองสรวมเสื้อเกราะขี่ม้า ๔ คู่ทหารแตรสำรับ ๑ ทหารถือปืน ๑๒๐ กรมกองแก้วจินดาลากปืนชื่อมหาฤกษ มหาไชย} มหาจักร มหาปราบยุค} บอกละ ๖ คน สังฆการีแต่งเปนเทวดา ๒ คน แตรฝรั่ง ๔ คู่ แตรงอน ๒ คู่ สังข์ ๒ คู่ โล่ ๒๐ คู่ เขน ๒๐ คู่ ดาบชะเลย ๒๐ คู่ ทวน ๒๐ คู่ วอ ๒ สำหรับพระเจ้าบรมวงษเธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรง ๑ พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นวชิรญาณวโรรสทรง ๑ เสลี่ยงสำหรับพระองค์เจ้านิภาคุณากร ทรง ๑ แคร่ ๑ สำหรับพระราชาคณะขี่มีสัปทนกั้น แต่พระราชาคณะอีกรูป ๑ ไปนั่งปรกหาได้มาแห่ไม่ เวลาย่ำค่ำแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับพระเก้าอี้ที่สนามหญ้าน่าพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ, พระเจ้าลูกเธอ, พระเจ้าน้องยาเธอ, แลข้าราชการ ทอดพระเนตรกระบวนแห่ โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานเดินกระบวนแห่พระสงฆ์มาที่น่าที่นั่งแล้วไปหยุดที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แต่พระครู ๘ พระพิธีธรรม ๓๖ นั้นไม่ได้นั่งแคร่เดินมาตามลำดับกัน พระพิธีธรรมอีก ๔ รูปไปสวดภาณวาร ไม่ได้มาแห่ ครั้นแห่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระเจ้าบรมวงษ์เธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีลทรงศีลแล้ว พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์สัตตปริตพระโพธิวงษเป็นผู้ขัดตำนานสวดมนต์จบแล้ว พระธรรมไตรโลกาจาริย์ประกาศเทวดาเหมือนเมื่อเวลาเช้านี้ จบแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนทอง ๔ เล่มที่บนแท่นสำหรับพระสงฆ์สวดภาณวารแล้ว พระครู ๔ รูปขึ้นนั่งที่ตามลำดับกัน พระธรรมไตรโลกาจาริย์ถวายขัดตำนาน พระครู ๔ รูปสวดธรรมจักกัปปวัตนสูตรจบแล้ว พระครูอีก ๔ รูปขึ้นนั่งที่ตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนทองเหมือนดังกล่าวแล้ว พระธรรมไตรโลกาจาริย์ถวายขัดตำนาน พระครู ๔ รูปสวดมหาสมัยสูตรจบแล้ว พระพิธีธรรม ๔ รูป ขึ้นสวดภาณยักษอาฏานาติยสูตร ภาณพระ ในระหว่างที่สวดอยู่นั้น เจ้าพนักงานยิงปืนมหาฤกษ์ มหาไชย} มหาจักร มหาปราบยุค} แลปืนใหญ่ ปืนเล็ก} ต่อไป พระพิธีธรรมสวด เจ้าพนักงานยิงปืนสลับกันไปจนตลอดรุ่ง

อนึ่ง เมื่อในระหว่างพระพิธีธรรมสวดอยู่นั้น เจ้าพนักงานนำพระมหามงคลย่นทูลเกล้า ฯ ถวาย แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้แจกมงคล พิศสมร กระบองเพ็ชร์ } แก่พระบรมวงษานุวงษ ขุนนางข้าราชการสรวมทั่วกันตามประเพณี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่เวลา ๒ ยามเศษเสด็จขึ้น

วันนี้ พระยาศรีสิงหเทพนำพระยาสุรศักดิมนตรีกลับมาจากกองทัพเมืองหลวงพระบางเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ดำรัสปฏิสัณฐารตามควร.

วันที่รัชกาล ๗๘๐๐ วัน ๕ ๑๕ ๔ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๐ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ มีการเลี้ยงพระสงฆ์ที่สวดมนต์เวลาคืนนี้ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ พระเจ้าบรมวงษเธอกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล ทรงศีลแล้ว ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตรแก่พระสงฆ์ ๖๘ รูปรับพระราชทานฉันแล้ว สมเด็จพระพุฒาจาริย์ดับเทียนไชยพระสงฆ์สวดคาถา เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์มโหรธึกพิณพาทย์ฆ้องไชยขึ้นพร้อมกันเสร็จแล้วพระสงฆ์ถวายอนุโมทนาอติเรกพระพรลากลับ เวลาเที่ยงแล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จขึ้น

เวลาบ่ายเจ้าพนักงานจัดการเวียนเทียนสมโภชพระมหาเสวตรฉัตรและพระพุทธรูปตามธรรมเนียม.

  1. 1. พระยาประสิทธิสงคราม (ขำ)

  2. 2. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สา ปุสสเทโว) ภายหลังเป็นสมเด็จพระสังฆราชวัดราชประดิษฐ

  3. 3. พระเจ้าหลุย (Luis I) พระเจ้าแผ่นดินโปรตุเกส สวรรคต วันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๒

  4. 4. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์

  5. 5. พระเจ้าราชวรวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้ายุคุนธร

  6. 6. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ