เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๕๑

วันที่รัชกาล ๗๖๒๕ วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๖ กันยายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกขุนนาง กรมมหาดไทยอ่านใบบอกเมืองมหาสารคาม ๑ ฉบับ เมืองพระพุทธบาท ๑ ฉบับ เมืองสุพรรณบุรี ๑ ฉบับ เมืองนครนายก ๑ ฉบับ กราบบังคมทูลพระกรุณา

ในใบบอกเมืองมหาสารคามว่า ได้แต่งกรมการเกณฑ์เลขสร่วยคุมเสบียงลงมาส่งกองทัพพระยาราชวรานุกูล

ในใบบอกเมืองพระพุทธบาท ว่าด้วยที่เมืองเกิดโจรผู้ร้ายชุกชุมขึ้น เที่ยวปล้นอาณาประชาราษฎรลูกค้าพานิชที่เดินไปมา บัดนี้ ลอบเข้ามาลักกระบือของนายพันไป

ในใบบอกเมืองสุพรรณบุรีว่าด้วยอ้ายทอง น้องขุนมหาไทยกรมการลอบเอาปืนยิงขุนมหาดไทยพี่ชายตาย

ในใบบอกเมืองนครนายก ว่าด้วยมอบเงินค่านาให้แก่นายกวดมหาดเลกนำมาทูลเกล้า ฯ ถวาย จำนวนเงินเกบได้มากน้อยเท่าใดมีแจ้งอยู่ในบาญชีที่นายกวดเอามาด้วยแล้ว

กรมพระกระลาโหมอ่านใบบอกพระอนุรักษโยธา ๑ ฉบับ บอกเมืองตกั่วป่า ๒ ฉบับ กราบบังคมทูลพระกรุณา

ในใบบอกพระอนุรักษโยธา ว่าด้วยเจ้าภาษีฟืนกับจีนในเหมืองไปเกิดวิวาทกันขึ้นที่จักรกลไฟเรื่องเกบภาษีฟืน จีนนางเหมืองทำขัดข้องมาร้องว่าด้วยชั่งภาษีดีบุก ๖ ชัก ๑ ชั้นหนึ่งแล้ว จะมาเกบภาษีฟืนอิกเปนสองซ้ำ จีนนายเหมืองหายอมให้ไม่

ในใบบอกเมืองตะกั่วป่าอิกฉบับ ๑ ขอรับพระราชทานหีบศิลาน่าเพลิงไปปลงศพพระเรืองฤทธิรักษราษฎร ผู้ช่วยราชการเมืองตะกั่วป่า

แล้วพระยาราชวรานุกูลนำเจ้าราชสัมพันธวงษ์เมืองนครเชียงใหม่ กราบถวายบังคมลาขึ้นไปเมืองน่าน

พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการดำรัสถามเจ้าราชสัมพันธวงษ์ว่าจะขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ด้วยฤๅไม่ เจ้าราชสัมพันธวงษ กราบบังคมทูลพระกรุณาว่าจะขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ด้วย

แล้วมีพระราชดำรัสถามพระยาราชวรานุกูล ต้นไม้เงิน ทอง} เมืองเชียงใหม่ นั้นตรวจแล้วฤๅยัง

แล้วพระยาราชวรานุกูลกราบบังคมทูลว่าตรวจแล้ว แต่ยังหาได้คุมเป็นต้นไม่ แล้วพระราชทานสัญญาบัตรในกรุง ๖ หัวเมือง ๙ รวม ๑๕ นาย

วันที่รัชกาล ๗๖๓๒ วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๓ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เพลาย่ำค่ำ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทประทับห้องไปรเวต

ประชุมกรรมสัมปาทิกทอพระสมุดวชิรญาณ เพราะเวลานั้นพระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรพระยอด ทรงพระดำเนินไม่ถนัด จึ่งไม่ได้ประชุมที่หอพระสมุดวชิรญาณตามเคย ประทับอยู่จนเพลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๓๕ วัน ๑ ๑๒ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๖ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เพลงย่ำค่ำ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจแต่เกยพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท โดยพระราชยานไปประทับเรือพระที่นั่งกลไฟ แล่นขึ้นไปประทับท่าโรงศิริราชพยาบาล แล้วเสดจพระราชดำเนินขึ้นไปประทับตึกเสาวภาค ทรงเยี่ยมประชวรพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ เพราะพระอาการมากกว่าแต่ก่อน พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสถึงพระอาการพอสมควร แล้วเสดจกลับพระบรมมหาราชวัง

วันที่รัชกาล ๗๖๓๗ วัน ๓ ๑๔ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๘ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เพลายามเสศ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการบำเพญพระราชกุศล ซึ่งเป็นวันคล้ายกับวันประสูตรของสมเดจพระบรมชนกนารถ พระบาทสมเดจพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสงฆ์ ๒๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ ครั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตรสดัปกรณ์พระบรมอัฏฐิ เสรจแล้วพระกิตติสารมุนีถวายเทศน์กันฑ์ ๑ ครั้นทรงธรรมจบแล้ว พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสด็จแต่เกยพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โดยพระราชยานไปประทับเรือพระที่นั่งบัลลังก์ ทรงลอยพระประทีป ประทับอยู่จนเพลา ๒ ยามเสศ เสดจพระบรมมหาราชวัง กริ้วกรมตำรวจที่ไม่ได้แห่นำตามเสดจ โปรดเกล้า ฯ ให้รองอธิบดีกรมวังเกาะตัวปลัดกรมพระตำรวจในพระบรมมหาราชวัง เจ้ากรมพระตำรวจฝ่ายพระราชวังบวรขังไว้กว่าจะเสรจลอยพระประทีป เลี้ยงพระเช้าไม่เสดจออก

วันที่รัชกาล ๗๖๓๘ วัน ๔ ๑๕ ๑๑ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๙ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลา ๔ ทุ่มเสศ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัว เสดจออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ บำเพญพระราชกุศลซึ่งเป็นวันคล้ายกับวันสวรรคตของสมเดจพระบรมชนกนารถ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสงฆ์ ๒๐ รูปเจริญพระพุทธมนต์ ครั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตรสดัปกรณ์พระบรมอัฏฐิ เสรจแล้วพระธรรมไตรโลกาจารย์ถวายเทศน์กัณฑ์ ๑ ครั้นทรงธรรมจบแล้ว พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานตราตั้งกรรมสัมปทิกหอพระสมุดวชิรญาณ คือพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ตำแหน่งสภานายก หม่อมเจ้าประภากร ตำแหน่งเลขาธิการ สมเดจพระบรมโอรสาธิราช ตำแหน่งเหรัญญิก พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงษ ตำแหน่งสราณิยกร พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าไชยานุชิต ตำแหน่งบรรณารักษ์ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร ตำแหน่งประฏิคม พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ตำแหน่งผู้ช่วยเหรัญญิก หม่อมเจ้าราชวงษสำเริง ตำแหน่งผู้ช่วยสาราณียกร พระยาราชวรานุกูล ตำแหน่งผู้ช่วยบรรณารักษ์ พระยาพิพัฒโกษาตำแหน่งผู้ช่วยประฏิคม ฝ่ายใน พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าบรรจบเบญจมา ตำแหน่งอุปนายก เสรจแล้วพระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจแต่เกยพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยโดยพระราชยานไปประทับเรือพระที่นั่งบัลลังก์ ทรงลอยพระประทีป ประทับอยู่จนเพลา ๗ ทุ่มเสศ เสดจกลับพระบรมมหาราชวัง เมื่อเช้าเลี้ยงพระ ไม่ได้เสดจออก

วันที่รัชกาล ๗๖๓๙ วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๐ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลา ๒ ยามเสศ พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจแต่เกยพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท โดยพระราชยานไปประทับเรือพระที่นั่งบัลลังก์ ทรงลอยพระประทีป ประทับอยู่จนเวลา ๗ ทุ่มเสศ เสดจกลับพระบรมมหาราชวัง เมื่อเช้าสดัปกรณ์กลานุกาลไม่เสดจออก

วันที่รัชกาล ๗๖๔๐ วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๑ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

วันนี้ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์สิ้นพระชนม์ เวลาบ่ายโมงเสศ ครั้นเวลาย่ำค่ำแล้ว พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวเสดจแต่เกยพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทโดยพระราชยานไปประทับเรือพระที่นั่งกลไฟ แล่นขึ้นไปประทับท่าโรงศิริราชพยาบาล เสดจพระราชดำเนินขึ้นไปประทับตึกเสาวภาค พระราชทานน้ำสรงพระศพพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ แลพระบรมวงษานุวงษ์ แลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยสรงน้ำพระศพ แล้วเจ้าพนักงานทรงเครื่องพระศพ เสรจแล้วเชิญลงในพระลองในเชิญขึ้นประดิษฐานเหนือชั้นแว่นฟ้าชั้นหนึ่ง แล้วพระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตรสดัปกรณ์ เสรจแล้ว เสดจกลับพระบรมมหาราชวัง เจ้าพนักงานได้เชิญพระลองไปขึ้นบนพระเสรี่ยงหิ้วเชิญไปลงเรือศรีที่โรงศิริราชพยาบาลล่องลงไปเทียบศาลต่างประเทศ แล้วเจ้าพนักงานเชิญพระลองไปขึ้นพระยานมาศสามคานประกอบพระโกษมณฑปใหญ่เสรจแล้ว แห่ไปวังพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษ์วโรประการ เชิญขึ้นประดิษฐานเหนือชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น มีเครื่องสูง ๙ คัน แวดล้อมพระโกษ มีแตรสังข์กลองชนะ แตรประโคมตามเวลา พระราชทานพระสงฆ์สวดอภิธรรม กว่าจะพระราชทานเพลิง

วันที่รัชกาล ๗๖๔๑ วัน ๗ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๒ ตุลาคม รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสดจออกหอพระสมุดวชิรญาณ ทรงประชุมที่จะให้สภานายกจัดการหอพระสมุดต่อไป ประทับอยู่จนเวลา ๔ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๔๒ วัน ๑ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๓ ตุลาคม รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เสด็จออกขุนนาง มีใบบอกกราบบังคมทูล ๑๒ ฉบับ

กรมมหาดไทย ๖ ฉบับ

ฉบับที่ ๑ บอกพระยาคธาธรธรณินทร์ เมืองพระตะบอง ว่าด้วยการเฉลิมพระชนม์พรรษา แลถือน้ำพระราชพิธีสารท

ฉบับที่ ๒ บอกพระศรีพิทักษข้าหลวงเมืองขุขันธ์ ว่าด้วยชำระผู้ร้าย ได้ของกลาง ๖ เรื่อง

ฉบับที่ ๓ ว่าด้วยพระศรีพิทักษ์ได้แต่งให้พระพลออกไปตรวจด่านซึ่งต่อแดนกับเมืองเขมร พบหลวงพรหมคัดทางใหม่ให้อ้ายผู้ร้ายลักเอากระบือออกนอกจากพระราชอาณาเขตร ได้เอาตัวหลวงพรหมมาชำระได้ความประการใด จึงจะบอกเข้ามาครั้งหลัง

ฉบับที่ ๔ บอกพระศรีสิทธิกรรม์เมืองมะโนรมย์ ว่าด้วยขอที่ผูกพัทธสีมาวัดเนินสุธาราม

ฉบับที่ ๕ บอกพระยาไชยวิชิต ผู้รักษากรุงเก่า ว่าด้วยน้ำฝนต้นเข้า

ฉบับที่ ๖ บอกจ่าเร่งงานรัดรุด บ้านหลวงเมืองพิไชย ว่าด้วยได้ส่งเงินแทนทองคำ ส่วยสิบเก้าตำลึง

กรมพระกระลาโหม ๒ ฉบับ

ฉบับที่ ๑ บอกพระยาประสิทธิสงคราม เมืองกาญจนบุรี ว่าด้วยพระชินดิฐบดีเมืองท่าตะกั่วชรา ขอหลวงยกรบัตรบุตรพระชินดิษฐบดี เป็นผู้รักษาเมืองท่าตะกั่วต่อไป

ฉบับที่ ๒ ว่าด้วยได้ส่งเงินค่านาพร้อมกับนายพลพันข้าหลวง เป็นเงินร้อยแปดสิบชั่ง

กรมท่า ๔ ฉบับ

ฉบับที่ ๑ บอกเมืองนครไชยศรี ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา

ฉบับที่ ๒ เมืองนครไชยศรี ว่าด้วยน้ำฝนต้นเข้า

ฉบับที่ ๓ บอกเมืองสมุทรปราการ ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา

ฉบับที่ ๔ บอกเมืองพนัสนิคม ว่าด้วยน้ำฝนต้นเข้า กับขอขวดแก้วทศางค์ สำหรับรองน้ำฝน

แล้วพระสุรินทรามาตย์ นำหลวงยกรบัตร เมืองท่าตะกั่วเฝ้าถวายขี่ผึ้งหนัก ๓๐ ชั่งจีน

พระยาราชวรานุกูล นำ

พระยาอรรคราชนารถภักดี ๑

พระวิภาคภูวดล ๑

ขุนประชาคดีกิจ ๑

นายบัญชารามูสถาน ๑

นายบรรหารรามสถิตย ๑

มิศเตอคอลินส์ ๑

นายผาด นายเพิ่ม } พนักงานแผนที่ ๒

กองทหารรักษาพระองค์

นายร้อยเอกหม่อมราชวงษ์กริม ๑

นายร้อยโท นายกอง ๑

นายร้อยตรี นายสาย ๑

กองทหารรักษาพระบรมมหาราชวัง

นายร้อยตรี นายบุตร ๑

กองทหารมหาดเล็ก

นายร้อยโท นายทิม ๑

นักเรียน

นายร้อยตรี นายมลิ ๑

นายเล็ก ๑

นายทองสุก ๑

นายเห่ง ๑

นายสด ๑

รวม ๑๘ นาย กราบถวายบังคมลาขึ้นไปราชการเมืองนครเชียงใหม่

มีพระบรมราชโองการพระราชทานพร แก่ผู้ที่จะไปให้ปราศจากไภยต่าง ๆ แลดำรัสสั่งว่าถ้ามีราชการเกิดขึ้นในการต่างประเทศ ควรจะพูดตลอดไปได้ก็ให้พูด

พระยานรินทรราชเสนีนำ

พระผลกดิฐบดีผู้ว่าราชการเมืองท่ากระดาน ๑ พระสุวรรณไพรสาณฑ์จางวางส่วยทองเมืองการจนบูรี ๑ } ๒ คน กราบถวายบังคมลากลับไปเมือง

พระยาราชวรานุกูลนำ

พระภักดีราชา พระบรรพตภูษาธิการ พระภักดีณรงค์นรินทร์ } ผู้ว่าราชการเมืองบางยม ๑ บรรพต ๑ นางรอง ๑ } พระศรีสุนทรเทพปลัด ๑ หลวงเพชรสงคราม ๑ } เมืองอุไทยธานี หลวงพรหมภักดียกรบัตรเมืองไชยนาท รวม ๖ นาย กราบถวายบังคมลาขึ้นไปรักษาราชการบ้านเมือง โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเสื้อผ้าแลเครื่องยศตามธรรมเนียม กับพระราชทานสัญญาบัตรพระวิสูตรสาครดิฐ เลื่อนเป็นพระยาวิสูตรสาครดิฐ

วันที่รัชกาล ๗๖๔๓ วัน ๒ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๔ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลา ๓ โมงเสศ เสดจกระบวนรถพระราชทานพระกฐินวัดบวรนิเวศ ที่ ๑

มีพระสงฆ์ ๔๑ รูป นายกวดทูลวัด

วัดรังษีสุทธาวาส ที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๙๙ รูป นายรองเล่ห์อาวุธทูลวัด

วัดเทพธิดา ที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๘๖ รูป นายรองพลพันทูลวัด

วัดมหาธาตุ ที่ ๔ มีพระสงฆ์ ๒๔๖ รูป นายพิจิตรสรรพาการทูลวัด.

วันที่รัชกาล ๗๖๔๔ วัน ๓ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๕ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๓ โมงเสศ เสด็จพระราชยานทองคำลงยา พระราชทานพระกฐิน

วัดราชประดิษฐ์ ที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๓๐ รูป นายรองฉันท์ทูลวัด

วัดจักรวัดิราชาวาส ที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๒๘๕ รูป นายสนิททูลวัด

วัดสัมพันธวงษ ที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๓๗ รูป นายรองสนิททูลวัด.

วันที่รัชกาล ๗๖๔๖ วัน ๕ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๗ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

กระบวนราบ

เวลาบ่าย ๓ โมงเสศ เสดจออกทางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท จึงมีพระบรมราชโองการให้เอา } หีบ โต๊ะ กา ถมเครื่องยศมาพระราชทานหลวงจำนงนิเวศกิจ ด้วยความหมั่นกับราชการ

แล้วเสดจทรงพระราชยานงานพระราชพระกฐิน

วัดพระเชตุพน ที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๒๓๗ รูป นายกวดทูลวัด

วัดราชบุรณ ที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๒๐๕ รูป นายรองเล่ห์อาวุธทูลวัด

วัดราชบพิธ ที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๓๕ รูป นายรองพลพันทูลวัด

วัดสุทัศเทพวรารามที่ ๔ มีพระสงฆ์ ๑๙๑ รูป นายพิจิตรสรรพการทูลวัด.

วันที่รัชกาล ๗๖๔๗ วัน ๖ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๘ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๓ โมงเสศเสด็จลงเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์พระราชทานพระกฐิน

วัดอรุณราชวรารามที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๑๒๐ รูป นายกวดทูลวัด

วัดโมฬีโลก ที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๒๕๐ รูป นายรองเล่ห์อาวุธทูลวัด

วัดหงษาราม ที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๕๓ รูป นายรองพลพันทูลวัด

แล้วรับส่งเอาผ้าไพรมาพระราชทาน วัดราชสิทธาราม ที่ ๔ พระราชทานพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงษ์.

วันที่รัชกาล ๗๖๔๘ วัน ๗ ๑๐ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๙ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๓ โมงเสศ เสดจทรงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกรพระราชทานพระกฐิน

วัดประยูรวงษ์ ที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๑๕๐ รูป นายฉันทูลวัด

วัดบุบผาราม ที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๓๐ รูป นายสนิททูลวัด

วัดพิไชยญาติการามที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๕๗ รูป นายรองทูลวัด

วัดอนงคาราม ที่ ๔ มีพระสงฆ์ ๑๒๓ รูป นายพิไนยราชกิจทูลวัด

วันที่รัชกาล ๗๖๔๙ วัน ๑ ๑๑ ๑๑ ค่ำ ปีฉลูเอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๐ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๒ โมงกับ ๕ มินิต

เสด็จทรงเรือพระที่นั่งเทวธิวัฒน์ พระราชทานพระกฐิน

วัดมหาพฤฒารามที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๓๕ รูป นายรองฉันทูลวัด

วัดเทพสิรินทร์ ที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๕๓ รูป นายรองกวดทูลวัด

วัดโสมนัสวิหาร ที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๘๐ รูป นายรองสนิททูลวัด

วัดพระนามบัญญัติที่ ๔ มีพระสงฆ์ ๕๑ รูป นายพิไนยราชกิจทูลวัด.

วันที่รัชกาล ๗๖๕๐ วัน ๒ ๑๒ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๑ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๓ โมง เสดจเรือพระที่นั่งกราบประจำทวีป พระราชทานพระกฐิน

วัดระฆังโฆสิตารามที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๑๗๔ รูป นายกวดทูลวัด

วัดกัลยาณมิตรที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๙๒ รูป นายรองเล่ห์อาวุธทูลวัด

วัดบพิตรภิมุขที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๙๑ รูป นายพลพันทูลวัด

วันที่รัชกาล ๗๖๕๑ วัน ๓ ๑๓ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๒ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๓ โมงเสศ เสดจเรือพระที่นั่งรัตนดิลกพระราชทานพระกฐิน

วัดโพธินิรมิตรที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๒๕ รูป นายกวดทูลวัด แล้วเรียกไตรมาพระราชทาน

วัดหนังที่ ๒ พระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมพระภาณุพันธุวงษวรเดช

วัดนางนองที่ ๓ พระราชทานพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศิริธัชสังกาศ แล้วเสดจพระราชทาน

วัดราชโอรสที่ ๔ มีพระสงฆ์ ๖๕ รูป นายพิจิตรสรรพการทูลวัด.

วันที่รัชกาล ๗๖๕๒ วัน ๔ ๑๔ ๑๑ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

เวลาบ่าย ๓ โมงเสศ เสดจเรือพระที่นั่งกลไฟเอ็ดเดอกง พระราชทานพระกฐิน

วัดราชาธิวาศที่ ๑ มีพระสงฆ์ ๒๔ รูป นายรองฉันท์ทูลวัด

วัดเขมาภิรตารามที่ ๒ มีพระสงฆ์ ๑๙ รูป นายสนองราชบรรหารทูลวัด แล้วพระราชทานจตุปัจจัยแก่พระครูเขมาภิมุขธรรม ชั่งยี่สิบบาท เป็นรางวัลที่รักษาวัดสอาด

วัดเฉลิมพระเกียรติที่ ๓ มีพระสงฆ์ ๑๘ รูป นายรองสนิททูลวัด.

  1. 1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ เป็นราชเลขานุการ อธิบดีกรมอักษรพิมพการ และอธิบดีกรมพยาบาล ในรัชกาลที่ ๕

  2. 2. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  3. 3. หม่อมเจ้าประภากร มาลากุล

  4. 4. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

  5. 5. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป

  6. 6. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

  7. 7. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์

  8. 8. เป็นกรวยแก้วที่ใช้วัดน้ำฝนไม่เกิน ๑๐ มิลลิเมตร

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ