เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๕๑

วันที่รัชกาล ๗๖๕๔ วัน ๖ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๕ ตุลาคม รัตนโกสินทร๒๒ศก เอกศก (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้าโมงเสศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทางพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท เสด็จพระราชดำเนินโดยทางพระราชยาน เลี้ยวไปทางน่าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทออกประตูศรีสุนทรถึงท่าราชวรดิฐประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย มีพระราชดำรัสด้วยพระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการครู่หนึ่ง แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงประทับในเรือพระที่นั่งเวสาตรี พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ แลสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี พระนางเจ้าพระวรราชเทวี พระอรรคชายาเธอ แลพระราชบริพารทั้งปวง มีเรือกลไฟใหญ่เล็กตามเสด็จหลายลำ

ออกเรือพระที่นั่งใช้จักรขึ้นไปเหนือน้ำ ถึงน่าวัดปรมัยยิกาวาศหยุดเรือพระที่นั่งเวสาตรี เสด็จลงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร เรือพระที่นั่งรองสวัสดิชิงไชย มีเรือคลองนำไปประทับท่าวัดปรมัยยิกาวาศ เสด็จพระราชดำเนินเข้าในพระอุโบสถ พระราชทานผ้าพระกฐิน มีจำนวนพระสงฆจำพรรษา พระราชาคณะ ๑ ถานานุกรม ๕ เปรียญ ๒ อันดับ ๑๕ รวม ๒๓ รูป พระคุณวงษ์ ครองกระฐิน ครั้นพระสงฆ์กระทำกฐินนัตการแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนารถถวายเครื่องไทยธรรม แลมีวัตถุเปนมูลค่าจตุปัจจัย ของพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ถวายด้วยชั่งสิบตำลึง แล้วพระสงฆสวดอนุโมทนา

อนึ่ง ได้โปรดเกล้าฯ ให้ทำรูปเทวดาถือพัดโบกสำหรับตั้งในพระอุโบสถคู่หนึ่งแล้วเสร็จมาในครั้งนี้ โปรดเกล้า ฯ ให้กรมพระตำรวจยกขึ้นตั้งบนฐานชุกชี แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้พระยานนทบุรี ซ่อมฐานพระประธานประดับกระจกปิดทองใหม่ การทำนุบำรุงในพระอารามพระคุณวงษ์ได้จัดการมีพระธรรมเทศนาสอนภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกาในทางธรรมวิไนย แลได้ปฏิสังขรณพระอาราม คือปูพื้นกระดานในรหว่างกุฎีรอบพระไตรปิฎก แลได้ซ่อมแซมมุงกระเบื้องกุฎีวิหารศาลาการเปรียญ หอไตร์ ทำถนนซ่อมแซมตพาน ทำรั้ว เขื่อนล้อมเขตรอาวาศด้วย เสร็จการพระราชทานพระกระฐินวัดปรมัยยิกาวาศแล้ว เสด็จลงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร ออกจากปากเกรดมาประทับเรือพระที่นั่งเวสาตรี ซึ่งออกมาคอยอยู่นอกปากเกรด เวลาย่ำเที่ยงแล้วออกเรือพระที่นั่งต่อไป เวลาบ่ายสี่โมงเสศถึงพระราชวังบางปอิน เรือพระที่นั่งประทับท่าแล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นจากเรือพระที่นั่ง พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าไชยันตมงคลผู้ช่วยดูการพระราชวังบางปอิน พระยาไชยวิชิตผู้รักษากรุงเก่า แลกรมการกรุงเก่าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท เสด็จขึ้นทางพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ประทับเรียบในพระที่นั่งอุทยานภูมเสถียรในพระราชวังตามเคยเหมือนอย่างแต่ก่อนมา

วันที่รัชกาล ๗๖๕๕ วัน ๗ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๖ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัว เสดจพระราชดำเนินพร้อมขบวนข้างใน เสด็จลงเรือพระที่นั่งกันเชียงเล็กออกทางประตูสาครประพาศ เสด็จไปประพาสทุ่งหลังเกาะ เวลาย่ำค่ำเสด็จกลับมาประทับในพระราชวังตามทางเดิม

วันที่รัชกาล ๗๖๕๖ วัน ๑ ๑๒ ค่ำ ปีฉลูเอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๗ ตุลาคม รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่ายสองโมงเสศ เสด็จออกทางพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ทรงพระราชดำเนินประทับในเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร พร้อมด้วยเรือกระบวนทหารแลเรือนำเรือคลอง เรือผ้าไตรพระกระฐินเรือดั้งคู่ชัก เรือข้าราชการตามเสด็จพระราชดำเนินกระบวนขึ้นไปทางเหนือเกาะอ้อมลงลำแม่น้ำใหญ่ ประทับน่าวัดนิเวศธรรมประวัติ เสด็จพระราชดำเนินเข้าในพระอุโบสถพระราชทานผ้าพระกระฐิน มีพระสงฆ์จำพรรษาในพระอารามนี้ พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ ถานานุกรม ๕ เปรียญ ๓ อันดับเรียนคันถธุระ ๕ เล่าสวดมนต์ ๑๓ รวมพระสงฆ์ ๒๘ รูป สมเด็จพระพุทธโฆษาจาริยขึ้นไปรับเสด็จด้วย มีไทยธรรมพิเสศพระสงฆ์รับผ้าไตร แลครองไตรทั้งวัด กับมีวัตถุเป็นมูลค่าจตุปัจจัยถวายพระสงฆ์ในวัด ๖ ชั่ง ตามที่เคยมีมาแต่ก่อน โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฎราชกุมาร ถวายของพระสงฆ์สวดอนุโมทนาแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการเจดียฐานทุกแห่ง แลทอดพระเนตรการพระอาราม แลโปรดเกล้า ฯ ให้กรมช่างหล่อเชิญพระพุทธรูปสมาธิ ซึ่งทรงสร้างพระราชทานอุทิศส่วนพระราชกุศลแก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภาขึ้นตั้งในการเปรียญ แลจะโปรดเกล้า ฯ ให้มีการพระราชกุศลฉลองต่อไป แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งออกจากท่าวัดนิเวศธรรมประวัติ มาทางท้ายเกาะประทับท่าพระราชวังแล้วเสด็จขึ้น เวลาค่ำมีเทศนากระฐินทานของหลวงที่วัดนิเวศธรรมประวัติกัณฑ์ ๑ แล้วพระสงฆ์กรานกระฐินตามเคย

อนึ่ง พระยาหามนตรีได้จัดเรือผ้าป่าสำหรับถวายพระสงฆวัดนิเวศธรรมประวัติ วัดชุมพลนิกายาราม มาจอดในสระริมพระที่นั่งไอสวรรยทิพอาศน์ มีเพลง แลแคน แลทแย เป็นการเล่นฉลองเวลาดึก แห่ผ้าป่าไปทอดทั้งสองพระอาราม

วันที่รัชกาล ๗๖๕๗ วัน ๒ ๑๒ ค่ำ ปีฉลูเอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๘ ตุลาคม รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่ายสองโมง เสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งกลไฟเอดเดอกงพร้อมด้วยกระบวนเรือกลไฟ นำตามเสด็จพระราชดำเนินจากท่าพระราชวังบางปอินขึ้นไปตามลำน้ำ ๒ ชั่วโมงถึงป้อมเพชร เสดจลงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร พร้อมด้วยเรือกระบวนเข้าคลองประทับท่าฉนวนวัดสุวรรณดาราราม เสด็จพระราชดำเนินเข้าในพระอุโบสถพระราชทานผ้าพระกระฐินมีจำนวนพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ ถานานุกรม ๓ เปรียญ ๑ อันดับเรียนคันถธุระ ๘ เรียนวิปัสนาธุระ ๔ เล่าสวดมนต์ ๑๙ รวมพระสงฆ์ ๓๗ รูป พระสุวรรณวิมลศีล ครองผ้าพระกระฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นอดิศรอุดมเดชถวายของพระราชทานปัจจัยมูลแก่พระสงฆ์รูป ล กึ่งตำลึง การในพระอารามพระสงฆ์ลงไหว้พระในพระอุโบสถเวลาเช้าทุกวัน มีธรรมเทศนาทุกวันอุโบสถ มีอาจารย์บอกพระปริยัติธรรมแลสอนหนังสือไทยด้วย ได้ปฏิสังขรณหลังคากุฏ ทำพื้นศาลาน่าพระอุโบสถ ทำตพานน้ำ ครั้นพระราชทานพระกระฐินแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระเจดียแลพระพุทธรูปในพระวิหาร โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยารัตนบดินทรให้ช่างเขียนภาพในพระวิหารเรื่องพระราชพงษาวดารกรุงเก่าที่เขียนค้างอยู่นั้นให้สำเร็จ แล้วเสด็จกลับลงเรือพระที่นั่งพายมาประทับเรือพระที่นั่งกลไฟที่น่าวัดพนัญเชิง แล่นขึ้นไปตามลำน้ำประทับท่าพระราชวังจันทเกษม เสด็จขึ้นทรงพระราชยานผ่านพระราชวังจันทเกษมไปประทับพระราชทานผ้าพระกระฐินวัดเสนาศนาราม พระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ ถานานุกรม ๕ เปรียญ ๔ อันดับเรียนคันถธุระ ๑๒ เล่าสวดมนต์ ๓๓ รวมพระสงฆ์ ๕๕ รูป พระธรรมราชานุวัติครองกระฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ถวายของพระราชทานปัจจัยมูลสำหรับพระสงฆ์ทั้งพระอาราม ๓ ชั่ง กับทรงพระราชดำริหว่า พระสงฆมีมากขึ้น ควรขยายเสนาศน์ออกไปอีก โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยารัตนบดินทร์ทำกุฎีฝากระดานข้างด้านตวันตกพระอารามขึ้นอีกหมู่หนึ่ง กับให้ประดับศิลาฐานพระพุทธรูปแลเชิงผนังเชิงเสากับปูพื้นศิลาในพระอุโบสถด้วย พระราชทานเทียนให้พระยาไชยวิชิตไปบูชาพระเจดียแลพระพุทธรูปในพระวิหาร ในพระอารามนี้มีนักเรียน ๕๙ กับนักเรียนวัดศาลาปูน วัดกระษัตราธิราชมาสมทบเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทด้วย อุบาสกอุบาสิกาที่มาคอยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทก็มีมาก พระราชทานพระกระฐินแล้ว เสด็จกลับมาลงเรือพระที่นั่งกลไฟตามทางเดิม ออกจากท่าพระราชวังจันทเกษมมาถึงท่าพระราชวังบางปอินเวลาสองทุ่มเสศ เสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๕๘ วัน ๓ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๙ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

วันนี้ มีกระฐินข้างใน วัดชุมพลนิกายาราม พระราชทานเจ้าจอมมารดาพร้อมไปทอด มีเรือสีเขียนลำหนึ่งกับเรือชลพิมานไชยทรงผ้าไตรพระกฐินกับโปรดเกล้า ฯ พระราชทานจตุปัจจัยมูลกับพระครูธรรมธิวากร ชั่งยี่สิบบาท ตามธรรมเนียมที่เคยได้ในเวลากระฐินทุกปี อนึ่ง กระฐินกรุงเก่าเป็นกระฐินพระราชทานที่บางปอินอีก ๔ วัด คือวัดบรมวงษอิศรวราราม พระราชทานพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ วัดศาลาปูนพระราชทานพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ วัดขุนยวนพระราชทานพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงษ วัดพนัญเชิงพระราชทานพระเจ้าน้องเธอ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล

เวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทางพระที่นั่งวโรภาษพิมานพร้อมด้วยกระบวนข้างในลงเรือพระที่นั่งเล็ก ๔ กันเชียง ทรงประพาศเก็บกระจับตามน่าวัดนิเวศ เวลาย่ำค่ำแล้วเสด็จกลับ มาประทับที่ท้องพระโรงพระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระบรมวงษานุวงษ แลข้าราชการเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ทรงพระราชดำรัสด้วยราชการแลเรื่องการอื่น ๆ ตามสมควรแล้ว เสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๕๙ วัน ๔ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๓๐ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสดจพระราชดำเนินพร้อมด้วยกระบวนข้างใน ลงเรือพระที่นั่งคอนเดอลายอกประตูสาครประพาศไปทางหลังเกาะ เข้าคลองจิก เสด็จประพาศตามทุ่งลาสลิด เป็นที่บัวสายชุมจนเวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จกลับ.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๐ วัน ๕ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๓๑ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยกระบวนข้างในลงเรือพระที่นั่งกลไฟเล็กใช้จักรแล่นข้ามฟากไปประพาศทุ่งบ้านแป้งแล้ว เสด็จกลับ เวลาบ่าย ๕ เสศ เสด็จประพาศทรงเก็บกระจับหน้าวัดนิเวศ เวลาย่ำค่ำแล้ว เสด็จกลับมาประทับที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระบรมวงษานุวงษข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ทรงพระราชดำรัสด้วยตามสมควรแล้วเสด็จขึ้น อนึ่งวันนี้ เจ้าจอมมารดาแสเจ็บพระครรภ จึงโปรดเกล้า ฯ ให้ลงเรือเอดเดอกงที่ท่าพระราชวัง เวลา ๒ ยามล่วงน่า กลับลงไปกรุงเทพฯ ก่อน ครั้นไปถึงท้ายเกาะเกิดเวลา ๒ ยาม ๓๙ มินิต ประสูตรพระเจ้าลูกเธอ เป็นพระองค์เจ้าหญิง ในเรือเอดเดอกง ต้องกลับเรือมาจอดที่ท่าพระราชวังแล้วโปรดเกล้า ฯ ให้เชิญพระเจ้าลูกเธอที่ประสูตรใหม่แลคุณจอมมารดาแสขึ้นพักอยู่ที่พระที่นั่งวโรภาษพิมานข้างใน.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๑ วัน ๖ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาย่ำค่ำแล้ว เสด็จออกที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระบรมวงษานุวงษ แลข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ทรงพระราชดำรัสด้วยการที่จะเลื่อนวันเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แลการอื่น ๆ ตามสมควรแล้วเสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๒ วัน ๗ ๑๐ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาค่ำ เสด็จออกพระบรมวงษานุวงษ แลข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตามเคยเหมือนวันก่อน แล้วเสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๖๓ วัน ๑ ๑๑ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๓ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ โปรดเกล้า ฯ ให้มีการสมโภชพระเจ้าลูกเธอที่ประสูตรใหม่ที่ในพระราชวัง.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๔ วัน ๒ ๑๒ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๔ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาค่ำเสดจออกพระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ทรงพระราชดำรัสด้วยเรื่องราชการแลการอื่น ๆ บ้างตามสมควร แล้วเสดจขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๕ วัน ๓ ๑๓ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๕ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยกระบวนข้างในลงประทับในเรือพระที่นั่งเอดเดอกง แล้วออกเรือพระที่นั่ง ใช้จักรแล่นขึ้นไปเหนือน้ำประพาศทุขบ้านสร้าง ทรงเก็บบัวหลวง เสด็จกลับเวลาบ่าย ๓ โมงเสศ อนึ่งวันนี้เป็นวันที่พระสงฆจะได้สวดพระพุทธมนต์ฉลองไตรปี พระสงฆ์ที่จะมาสวดมนต์นั้นพระราชาคณะ พระครู ถานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการในพระอารามหลวง แขวงกรุงเก่า เมืองลพบุรี เมืองสระบุรี รวม ๕๘ รูป พระราชาคณะ พระครู ถานานุกรม เปรียญ ฝ่ายรามัญ เมืองประทุมธานีเมืองนนทบุรี รวม ๒๖ รูป รวมทั้งคณะไทย คณะรามัญ ๘๔ รูป โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระไชยเนาวโลห รองพานทองสองชั้น ตั้งบนม้าหมู่ที่พระที่นั่งที่ประทับในพระที่นั่งวโรภาษพิมาน มีพานพุ่ม พานดอกไม้ แลเชิงเทียน แลโคมแก้วครอบรายรอบตั้งเครื่องนมัสการทองพิศ เป็นที่พระสงฆ ฝ่ายคณะไทยจะได้สวดพระพุทธมนต์ แลโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระนิรันตรายในพระอุโบสถวัดนิเวศธรรมประวัติ มาตั้งม้าหมู่ที่พระที่นั่งไอสวรรยทิพอาศน มีเครื่องนมัสการกระบะถมเป็นที่พระสงฆ์คณะรามัญจะได้สวดพระพุทธมนต์

เวลาย่ำค่ำแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระธรรมราชานุวัตรถวายศีลแล้ว สวดพระพุทธมนตทวาทศปริต ตามธรรมเนียมการฉลองไตรปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศีล แลพระสงฆเริ่มสวดมนต์ในพระที่นั่งวโรภาษพิมาน แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งกอนโดลา ไปประทับที่พระที่นั่งไอสวรรยทิพอาศน์ ดำรัสพระราชปฏิสัณฐารกับพระสงฆรามัญ มีพระคุณวงษเป็นประธาน แล้วทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระสงฆสวดพระพุทธมนตแล้ว เสด็จกลับมาประทับที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน จนพระสงฆสวดพระพุทธมนตจบแล้ว ดำรัสพระราชปฏิสัณฐารกับพระสงฆ มีพระธรรมราชานุวัตรเป็นประธาน รับสั่งด้วยการปฏิสังขรณพระอาราม พระธรรมราชานุวัตรทูลขอให้พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าไชยานุชิตเป็นผู้ทำการ โปรดเกล้า ฯ ให้ทำทั้งการประดับศิลาในพระอุโบสถ แลทำกุฎี ที่รับสั่งเหมือนวันเสด็จพระราชทานผ้าพระกระฐินนั้น ด้วยให้พระองค์เจ้าไชยานุชิตเป็นผู้ทำทั้งสิ้น พระสงฆถวายอติเรกถวายพระพรลาแล้วเสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๖ วัน ๕ ๑๔ ๑๒ ค่ำ ปีฉลูเอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๖ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๔ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงทรงบาตรในพระราชวัง พระสงฆ์ที่มาสวดมนต์รวม ๘๔ รูปนั้น แบ่งฉันวันละ ๒๘ รูป รับบิณฑบาตรวันละ ๕๖ รูป เข้าประตูเทวราชครรไลย ออกประตูนงคราญประเวศ ครั้นทรงบาตรแล้ว เสด็จออกพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ทรงประเคนสำรับเลี้ยงพระสงฆ์ พระสงฆ์ที่ฉันวันนี้คณธรรมยุติกาเป็นพื้น แบ่งฉันที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ๑๘ รูป มีพระธรรมราชานุวัตรเป็นประธาน ฉันที่พระที่นั่งไอสวรรยทิพอาศน์ ๑๐ รูป มีพระอมราภิรักขิต เป็นประธาน ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้ว ถวายอนุโมทนาตามธรรมเนียมแล้วเสด็จขึ้น.

อนึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้ยกเสาโคมไชยที่น่าพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ๒ เสา มีโคมบริวาร ๑๐ เสา เวลาย่ำค่ำเสศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกชักโคมไชยประโคมแตรสังข์พิณพาทย พระครูอัษฎาจาริยถวายน้ำสังขตามธรรมเนียม ต่อไปจะได้ชักโคมไชยทุกวัน จนถึงเวลาที่สมควรจึงจะได้ลด

กับโปรดเกล้า ฯ ให้มีการลอยพระประทีปที่พระราชวังบางปอิน เจ้าพนักงานได้จัดการที่จะเสด็จลงลอยพระประทีปพร้อมทุกน่าที่ แต่งเรือบัลลังก์ประทับที่น่าพระราชวัง โปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงษานุวงษ์ แลข้าราชการที่ตามเสด็จพระราชดำเนินขึ้นมา แลที่ไม่ได้ตามเสด็จพระราชดำเนินบ้าง แต่งกระทงแลเรือประดับไปด้วยเครื่องแต่งต่าง ๆ เป็นเครื่องสดบ้างเครื่องแห้งบ้าง ทำเป็นรูปสัตวต่าง ๆ บ้าง ปักเทียนถวายสำหรับทรงจุดแล้ว แลลอยไปตามกระแสน้ำ โปรดเกล้า ฯ ให้กรมการกรุงเก่าแต่งเรือกระบวนสำหรับลอยกลางน้ำ มีทุ่นหยวกทอดกลางน้ำแลเรือเจ้าพนักงานล้อมวงทอดเหนือน้ำท้ายน้ำ สองฝั่งน้ำตามประทีปสว่างไสว โปรดเกล้า ฯ ให้ป่าวร้องราษฎรชาวกรุงเก่ามาดูการลอยพระประทีปเป็นการครึกครื้นเอิกเริกมาก มีเรือราษฎรเบียดเสียดกันทั้งสองฝั่งมาคอยดู ครั้นเวลา ๔ ทุ่ม เสด็จลงลอยพระประทีป มีแตรสังข พิณพาท แลแตรวงประโคม เจ้าพนักงานจุดไฟที่ทุ่นหยวก มีฝีพายลงเรือคอนพายขึ้นล่องหลายลำ โปรดเกล้า ฯ ให้เลื่อนเรือพระที่นั่งชลพิมานไชย ซึ่งทรงพระไชยเนาวโลห มาประทับที่เรือบัลลังก์ทรงจุดเทียนแล้ว หลวงพิศณุเสนี ขุนรามเภรี เห่เรือพายขึ้นล่องไปมาจนตลอดเวลาเสด็จขึ้น แล้วทรงจุดเทียนเรือกระทงต่อไป ของหลวงมีเรือพระที่นั่งเอกไชยทรงบุษบกลำหนึ่ง เรือพระที่นั่งสีลำหนึ่ง เรือพระที่นั่งกราบลำหนึ่ง ต่อนั้นไปจึงถึงกระทงของพระบรมวงษานุวงษแลข้าราชการ คือ ๑. เรือศีศะม้าหางปลามีศาลเหมมณเฑียร ของกรมหมื่นอดิศศรอุดมเดช ๒. เรืออิเฟลเตาเวอของกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ ๓. เรือทำเป็นกระทงสามเหลี่ยมประดับตุกกระตาของพระองค์เจ้าไชยานุชิต ๔. กระทงแปดเหลี่ยมประดับด้วยเครื่องนาของกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ๕. เรือพระคันธารราษฎรของกรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ ๖. กระทงบายศรีเขียวตั้งบนหลังปลาของกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ ๗. กระทงพระที่นั่งวิฑูรทัศนาของนายจ่ารง ๘. เรือมลายูมีกระทงกลางของพระชลยุทธโยธินทร์ ๙. เรือยอดรูปคนของพระองค์เจ้าขจรจรัสวงษ ๑๐. เรือศีศะหณุมานมีบุษบกของพระยาอนุชิตชาญไชย ๑๑. เรือศีศะหณุมานมีตุกกระตาสวมศีศะโขนของพระพรหมบริรักษ์ ๑๒. สิงหโตถือเกาทัณฑ์ของพระยานรรัตนราชมานิต ๑๓. เรือสุพรรณหงษมีบุษบกของพระยามหามนตรี ๑๔. เรือกลไฟประดับแฟริแลมป์ของเจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี ๑๕. พระอภัยมณีขี่นางเงือกของพระสุริยภักดี ๑ เรือคีศะนกหญ้าปล้องบุษบกแขกของหลวงสาตราธิกรณฤทธิ์ ๑๗. หณุมานหักก้านบัวของจมื่นจงรักษาองค์ซ้าย ๑๘. เรือแวดของเจ้าหมื่นไวยวรนารถ ๑๙. เรือคีศะนกมีเบ็ญจามียอดของพระยาอนุรักษราชมณเฑียร ๒๐. กระทง ๓ ชั้นมีฉัตรราชวัดรอบของพระอายุไทยธรรม ๒๑. กระทงเครื่องสด ๕ ชั้น ของพระยาเทเวศร ๒๒. กระทงเครื่องสด ๓ ชั้น รี แปดเหลี่ยม บุผ้าแดงของพระอินทราธิบาลจมื่นอินทามาตย์ ๒๓. กระทงเครื่องสด ๓ ชั้น แปดเหลี่ยมบุผ้าขาวของหลวงเดชนายเวร ๒๔. เรือสำปั้นมีชั้นหยวกของพระอินทรรักษา ๒๕.เรือแซเหราของพระราชเศรษฐี ๒๖. ถาดมธุปายาศของพระยาศรีสุนทรโวทาร ๒๗. สีลมสูบน้ำของจมื่นสุรฤทธิพฤฒิไกร ๒๘. เรือศีศะคนถวายบังคมกระทง ๒ ชั้น นายจ่ายง ๒๙. ไลตเฮาสที่ปากเกร็ดประดับผักของหม่อมเจ้าปาน ๓๐. ไลตเฮาสที่บางปอินของพระราชโยธาเทพ ๓๑. โคมเพชร ๓ ชั้น ของพระยาอัษฎาเรืองเดช ๓๒. กระทงช้างเผือกของพระยาจ่าแสนบดี ๓๓. โคลัมออฟวิกตอรี ของทูลกระหม่อมโต ๓๔. ปลาหน้าคนของพระยาวุฒิการบดี ๓๕. สำเภาใหญ่ของหลวงบำราศคดีจีนพระยาไชยวิชิต หลวงอภัยเภตรา ๓๖. นาควาสุกรีของเจ้าหมื่นศรีสรรักษ ๓๗. กระทงแปดเหลี่ยม ๓ ชั้นยอดคนโถ ของนายจ่าเรศ ๓๘. เต่าใหญ่ปักเทียนของจมื่นสราภัยสฤษดิการ ๓๙. กระทงบัวกลุ่ม ๓ ชั้น ของพระณรงค์วิชิต ๔๐. กระทงบัวกลุ่ม ๓ ชั้น ของพระรักษาเทพ ๔๑. กระทง ๓ ชั้น เชิงเป็นเขาของพระพิทักษเทพธานี ๔๒. เรือคู่ตั้งกระทง ๓ ชั้น ของพระองค์เจ้ากาญจโนภาษรัศมี ๔๓. สำเภากระดาษ ของพระโบราณบุรานุรักษ แล้วถึงเรือกระบวนของกรมการกรุงเก่าที่ทำถวายในการลอยพระประทีปทั้ง ๓ วัน คือ เรือเอกไชยเหินหาว เรือเอกไชยหลาวทองคู่ ๑ เรือครุธเหินระเห็ด เรือครุธเกรจไกรจักรคู่ ๑ เรือสุรวายุภักเรือสุรปักษาคู่ ๑ เรือพาลีล้างทวีป เรือสุครีปครองเมือง คู่ ๑ เรือกระบี่รานรอญราพเรือกระบี่ปราบพลมารคู่ ๑ เรือสิงหโตขมังคลื่น เรือสิงหโตฝืนสมุทคู่ ๑ เรือกิเลนลอยชลสินธุ์ เรือกิเลนลินลาสมุทคู่ ๑ เรือเสือคำรามชล เรือเสือคำรณสินธคู่ ๑ เรือปลาฉนากคู่ ๑ เรือลิงป่าคู่ ๑ เรือจรเข้คนองน้ำเรือจรเข้คำรามคู่ ๑ เรือมัจฉาคู่ ๑ เรือปลากระโห้คู่ ๑ แลมีเรือโบด ๑๐ แจวทหารเรือ ๒ คู่ ลอยลงมาแต่เหนือน้ำ เสด็จขึ้นเวลา ๗ ทุ่มเสศ แลจำนวนชื่อกรมการผู้ที่ทำเรือกระบวนนั้น คือ หลวงศรีบริรักษยกรบัตรหลวงสุนทรภักดีผู้ช่วยราชการคู่ ๑ หลวงพลหลวงมหาดไทยคู่ ๑ หลวงนาหลวงคลังคู่ ๑ หลวงวังหลวงบันเทาทุกขราษฎรคู่ ๑ หลวงชำนาญขุนรองเทพสุภาคู่ ๑ หลวงแพ่งหลวงพรหมสัศดี ๑ หลวงศุภมาตรา ขุนรองศุภมาตราคู่ ๑ หลวงกลางหลวงสัจจาคู่ ๑ ขุนชำนิขุนรองวิจารณคู่ ๑ ขุนรองมหาดไทยขุนพิพิธบุรีคู่ ๑ ขุนอินอาญาขุนจ่าศาลแรมคู่ ๑ ขุนบุรินทรรักษาขุนกลองคู่ ๑ ขุนร่องปลัดขุนศรีสองนาคู่ ๑

วันที่รัชกาล ๗๖๖๘ วัน ๕ ๑๕ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๗ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๔ โมง โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอสาธิราช เสด็จลงทรงบาตรในพระราชวัง พระสงฆ์เข้าไปรับบิณฑบาตรเหมือนวันก่อน แล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จออกเลี้ยงพระ พระสงฆ์ฉันวันนี้ คณะมหานิกายเป็นพื้น ฉันที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ๑๘ รูป มีพระญาณไตรโลกะเป็นประธาน ฉันที่พระที่นั่งไอสวรรยทิพอาสน ๑๐ รูป มีพระสุวรรณวิมลศิลเปนประธาน

เวลาบ่าย ๔ โมงเสศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยขบวนข้างในลงเรือพระที่นั่งคอนโดลา ออกทางประตูสังฆสัทธิภัตรการ ขึ้นไปทางเหนือน้ำเลี้ยวเข้าคลองหลังเกาะไปประทับที่ท่าวัดกำแพง เสด็จขึ้นประทับบนศาลาการเปรืยญ ทรงฟังธรรมเทศนามหาชาติที่ราษฎรเรี่ยรายกันมีแลได้พระราชทานเงินติดกัณฑ์เทศ ๓ ตำลึง แลพระราชทานเงินในการซ่อมแซมวัดอีกชั่งหนึ่ง เวลาย่ำค่ำเสด็จกลับมาประทับในพระราชวังตามทางเดิม

เวลา ๔ ทุ่ม เสด็จลงลอยพระประทีปเจ้าพนักงามเตรืยมรับเสด็จตามเคยทุกน่าที่ โปรดเกล้า ฯ ให้เลื่อนเรือพระที่นั่งซึ่งทรงพระไชยมาประทับที่เรือบัลลังก์ ทรงจุดเทียนแล้ว แลทรงจุดเทียนเรือกระทงต่อไป จนถึงเรือกระทงของพระบรมษานุวงษ์แลข้าราชการ แต่เรือกระทงเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เวลาเพิ่มเติมขึ้นอีกบ้างมีจำนวนต่อไปนี้ คือ ๑. เรือศีศะม้าหางปลามีศาลเหมมณเฑียรของกรมหมื่นอดิศรอุดมเดช ๒. อีเฟสเตาเวอกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ ๓. เรือนพระคันธารราษฎรของกรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ ๔. กระทงบายศรีขาวตั้งบนหลังปลาของกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ๕. กระทงสามเหลี่ยมประดับตุกกระตา พระองค์เจ้าไชยานุชิต ๖. กระทงแปดเหลี่ยมประดับเครื่องนา กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ๗. หณุมาณจับมัจฉานุในสระบัวพระองค์เจ้าวัฒนานุวงษ ๘. โคลัมออฟวิคตอริ ทูลกระหม่อมโต ๙. ช้างเผือกพระยาจ่าแสนบดี ๑๐. แพซุงเจ้าของหัวล้านมีกระท่อมหม่อมเจ้าปาน ๑๑. ปลาหน้าคนพระยาวุฒิการบดี ๑๒. เรือสุพรรณหงษมีบุษบกพระยามหามนตรี ๑๓. โคมเพชรสามชั้นพระยาอัษฏาเรืองเดช ๑๔. เรือปลาแรดชั้นสี่เหลี่ยมสองชั้น ๑๕. หณุมานรบยุงเท่าแม่ไก่ พระพรหมบริรักษ์ ๑๖. เรือพาลีพระพรหมบริรักษ์ ๑๗. เก๋งแขกนายจ่ารง ๑๘. เรือตำรวจพระสุริยภักดี ๑๙. หนุมานถูกปลิงเกาะคาง จมื่นจงรักษาองค์ซ้าย ๒๐. เรือศีศะนกบุษบกแขก หลวงสาตราธิกรณฤทธิ ๒๑. กระทงเครื่องสด ๓ ชั้น รี แปดเหลี่ยมบุผ้าแดงของ พระอินทราธิบาล จมื่นอินทามาตย์ } ๒๒. เรือมลายูมีกระทงกลางพระชลยุทธโยธินทร์ ๒๓. เรือกลไฟประดับแฟริแลมป เจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี ๒๔. ถาดมธุปาธาศ พระยาศรีสุนทรโวหาร ๒๕. หนูออกจากผลฟักเหลือง จมื่นสราภัยสฤษดิการ ๒๖. เรือแซเหราพระราชเศรษฐี ๒๗. เรือศีศะนกมีเบญจามียอด พระยาอนุรักษราชมณเฑียร ๒๘. ไกรทองขี่ชาลาวัน พระยานรรัตนราชมานิต ๒๙. เรือศีศะรูปคนถวายบังคมกระทง ๒ ชั้น นายจ่ายง ๓๐. วิชาเยนช่างปืนพระพิรุณ เจ้าหมื่นไวยวรนารถ ๓๑. เรือคู่ตั้งกระทงสามชั้น พระองค์เจ้ากาญจโนภาษรัศมี ๓๒. เรือสำปั้นมีชั้นหยวกพระอินทรรักษา ๓๓. กระทงสามชั้นมีหม้อลายครามปักดอกบัว ๓๔. กระทงสามชั้นพระราชพินิจจัย ๓๕. ใบพลับพลึงพระยาเทเวศรวงษวิวัฒน ๓๖. กระทงเครื่องสดแปดเหลี่ยม ๕ ชั้นหลวงเดชนายเวร ๓๗. สำเภาใหญ่หลวงบำราศคดีจีน ๓๘. กระทรงแปดเหลี่ยม ๓ ชั้นยอดคนโท นายจ่าเรศ ๓๙. กระทงสามชั้นมีฉัตรราชวัดรอบพระยาอุไทยธรรม ๔๐. เรือศีศะโคฉัตรรวงเข้าที่บูชา ๓ ชั้น พระยาเกษตรรักษา ๔๑. กระทงบัวกลุ่ม ๓ ชั้น พระรักษาเทพ ๔๒. กระทรงบัวกลุ่ม ๓ ชั้น พระณรงค์วิชิต ๔๓. ทุ่น ปากน้ำเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๔๔. กระทงสามชั้นเชิงเป็นเขาพระพิทักษเทพธานี ๔๕. สำเภากระดาษพระโบราณบุราณุรักษ แล้วทรงจุดดอกไม้สัญญาให้เจ้าพนักงานจุดดอกไม้ตามเคย แลปล่อยกระบวนของกรมการกรุงเก่าเหมือนอย่างวันก่อน เวลา ๗ ทุ่มเสศเสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๘ วัน ๖ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๘ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๔ โมง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จลงทรงบาตรแลเสด็จออกทรงประเคนเหมือนวันก่อน พระสงฆ์ฉันวันนี้คณะรามัญเป็นพื้น ฉันที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ๑๘ รูป พระปริยัติวงษาจาริยแลพระคุณวงษเป็นประธาน ฉันที่พระที่นั่งไอสวรรยทิพอาศน์ ๑๐ รูป มีพระรามัญ มหาเถรเป็นประธาน

อนึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้มีผ้าป่าบันดาศักดิ์และผ้าป่ากบุงวิเสศถวายพระสงฆ์ในการฉลองไตรปี เป็นจำนวนผ้าป่าบันดาศักดิ์วันละ ๔ รูป ผ้าป่ากบุงวิเสศวันละ ๑๑ รูป รวม ๓ วัน เป็นจำนวนพระสงฆ์รับผ้าป่าบันดาศักดิ์ ๑๒ รูป พระสงฆ์รับผ้าป่ากบุงวิเสศ ๓๓ รูป รวม ๔๕ รูป

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสด็จลงลอยพระประทีปทรงจุดเทียนเรือพระที่นั่งที่ทรงพระไชยแลเรือกระทงตามเคย เรือกระทงของพระบรมวงษานุวงษข้าราชการในวันนี้มากกว่าวันก่อน คือ ๑ เรือกลไฟมีม่านผ้าแดงแต่งประดับห้อยโคนรั้วสมเด็จกรมพระภานุพันธวงษวรเดช ๒ เรือคีศะม้าหางปลามีชั้นห้าชั้นกรมหมื่นอดิศรอุดมเดช ๓ นารายน์ประทมสินธุ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ๔ มังกรจีนทูลกระหม่อมเล็ก ๕ เรือกลไฟประดับโคมกระดาษแลแฟริแลมป์กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ ๖ อิเฟลตาเวอกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ ๓ กระทงบายศรีแดงตั้งบนหลังปลากรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ๘ กระทงสามเหลี่ยมประดับตุกกระตาพระองค์เจ้าไชยานุชิต ๙ กระทงแปดเหลี่ยมประดับลายยี่ปุ่นกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ๑๐ โคลัมออฟวิกตอริทูลกระหม่อมโต ๑๑ มังกรน่าพลับพลาหม่อมเจ้าวัฒนา ๑๒ มังกรน่าพลับพลาพระองค์เจ้าไชยันตมงคล ๑๓ เรือกลไฟประดับแฟริแลมป์เจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี ๑๔ เรือสุพรรณหงษมีบุษบกพระยามหามนตรี ๑๕ เซียนถือฉัตรขี่มังกรจีนพระยาเทเวศรวงษวิวัฒน์ ๑๖ เรือตำรวจพระสุริยภักดี ๑๓ หณุมานเปิดหัวโขนทั่วหลานจมื่นจงรักษาองค์ซ้าย ๑๘ ฉัตรหยวกมีตุกกระตาอ้อดพระยาอนุชิตชาญไชย ๑๙ ซุ้มฝรั่งพระราชโยธาเทพ ๒๐ กระถางต้นไม้มีใยแมงมุมหม่อมเจ้าปาน ๒๑ เรือศีศะนกมีเบญจามียอดพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร ๒๒ เรือโบดเล็กพระยาอนุรักษราชมณเฑียร ๒๓ นาคกลีบบัวพระยาศรีสุนทรโวหาร ๒๔ จรเข้คาบนางตเภาแก้วพระยาพรหมบริรักษ ๒๕ เรือสุครีบมีหณุมานนั่งข้างท้ายพระพรหมบริรักษ์ ๒๖ เรือศีศะนกหญ้าปล้องมีบุษบกแขกหลวงสาตราธิกรณฤทธิ์ ๒๗ เรือศีศะปลาแรดนายจ่ารง ๒๕ ลานนวดเข้ามีจันหันพระอินทราธิบาล ๒๙ เรือกลไฟประดับจานจมื่นสราภัยสฤษดิการ ๓๐ เรือศีศะโคฉัตรลวงเข้าที่บูชาสามที่พระยาเกษตรรักษา ๓๑ เรือมลายูมีกระทงกลางพระชลยุทธโยธินทร์ ๓๒ เรือโบดพระองค์เข้าขจรจรัสวงษ์ ๓๓ พระยาวิชาเยนช่างอิฐเจ้าหมื่นไวยวรนารถ ๓๔ เรือแซเหลาพระราชเศรษฐี ๓๕ ช้างสีปลาศพระยาจ่าแสนบดี ๓๖ เรือสำปั้นชั้นหยวกพระอินทรรักษา ๓๗ เถรกวาดติดจั่นเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๓๘ สำเภาใหญ่หลวงบำราศคดีจีน ๓๙ ปลาหน้าเปนแขกพระยาวุฒิการบดี ๔๐ กระทงสามชั้นมีขวดปักดอกหงอนไก่พระราชพินิจจัย ๔๑ กระทงสามชั้นมีหม้อลายครามปักดอกบัวพระยาราชสัมภารากร ๔๒ เรือศีศะพม่ามีชั้นดอกบานมรุโรยนายจ่ายง ๔๓ เรือปลาชั้นแผงสานโปร่งหลวงเดชนายเวร ๔๔ โคมเพชรสามชั้นสีแดงพระยาอัษฎาเรืองเดช ๔๕ ชั้นเทียนเทวดานายจ่ารง ๔๖ กระทงบัวกลุ่มสามชั้นพระรักษาเทพ ๔๗ กระทงบัวกลุ่มสามชั้นพระณรงควิชิต ๔๘ กระทงสามชั้นเชิงเป็นเขาพระพิทักษเทพธานี ๔๙ สำเภากระดาษพระโบราณบุรานุรักษ์ พอหมดเรือกระทงถึงเรือกระบวนกรมการ ทรงจุดดอกไม้สัญญาให้เจ้าพนักงานจุดดอกไม้ตามเคยแล้วเวลา ๗ ทุ่มเสด็จขึ้น เป็นเสร็จการลอยพระประทีป.

วันที่รัชกาล ๗๖๖๙ วัน ๗ ๑๒ ค่ำ ปีฉลูเอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๙ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เป็นวันเริ่มที่จะมีมหาชาติ ด้วยทรงพระราชดำริหว่าการเทศนามหาชาติ เป็นธรรมเนียมมีมาแต่ก่อน นับว่าเป็นการพระราชกุศลอย่างหนึ่ง เมื่อถึงฤดูออกพรรษาแล้วเคยมีในพระบรมมหาราชวังในเดือน ๑๒ กลางเดือนบ้างข้างแรมบ้าง แต่ในสองสามปีนี้หาได้มีเทศนามหาชาติไม่ เวลานี้เป็นเวลาว่างราชการแต่ถูกตามสมัยที่เคยมีมหาชาติสมควรที่จะมีเทศนามหาชาติที่พระราชวังบางปอิน จะได้เป็นที่เลื่อมใสของผู้ที่ควรจะเลื่อมใส และเป็นการครึกครื้นสนุกสนานด้วย จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานจักการที่จะมีเทศนามหาชาติที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ผูกต้นไม้ตั้งธรรมาศนใต้ต้นไม้ข้างผนังด้านเหนือธรรมาศน์หนึ่ง ด้านใต้สำหรับเทศซ้อนกันธรรมาศน์หนึ่ง ตั้งม้าหมู่รองกระบะถมตั้งพานรองหญ้าแพรก ดอกมลิพรรณผักกาดเข้าสาร เข้าตอก แลพานแก้วเครื่องนมัสการตั้งพานพุ่มเชิงเทียน ต้นไม้ทองเงินนากพนมโคมเวียนกรงนกหม้อปลาฉัตรดอกบัว กระถางต้นไม้โคมใบลานแลโคมแฟรีแลมป์เป็นเครื่องสักการะเรียงสองแถว มีขันสาครสำหรับขังน้ำติดเทียนทำน้ำมนต์คาถาพัน แลตั้งโต๊ะเครื่องบูชากัณฑ์เทศนามีไตรแพรแลเครื่องบริขารภัณฑ์ต่างๆ กับเงินเป็นจตุปัจจัยมูลคิดเทียน ๑๐ ตำลึง ตั้งอาศนสงฆข้างด้านตวันตก ที่ประทับอยู่ด้านตวันออก ที่น่าพระที่นั่งวโรภาษพิมานในสนามหญู้ามีเรือนตเกียงสำหรับบูชาพระมหาชาติสองเรือนโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงษานุวงษแลข้าราชการฝ่ายในจัดของเครื่องบริโภคคาวหวานมีปลาแห้งปลาย่างแลขนมต่าง ๆ เป็นต้น ถวายพระสงฆที่จะมาถวายเทศนาทุกกัณฑ์ เทศนานี้โปรดเกล้า ฯ ให้แบ่งมีเป็น ๕ วันรวมทั้งคาถาพันแลจตุราริสัจจ์ด้วย เพื่อจะได้ทรงสดับคลอดทุกกัณฑ์ รวมเทศนาห้าวันเป็นคาถาพันสองกัณฑ์ มหาชาติ ๑๓ กัณฑ์ มหาชาติซ้อน ๓ กัณฑ์ จตุราริสัจจ์ ๔ กัณฑ์ รวมทั้งหมดเป็น ๒๒ กัณฑ์

ครั้นเวลาทุ่มเสศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งวโรภาษพิมานทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว เจ้าอธิการกันวัดราชบำเพ็ญแขวงกรุงเก่าถวายศีลแลศักราชแล้วถวายเทศนาคาถาพัน ตั้งแต่ทศพรพรรณาเป็นต้นไป ในระหว่างเมื่อหมดกัณฑ์นั้นหยุดพัก ประโคมพิณพาทยตามเพลงคราวหนึ่งแล้วจึงเทศต่อไปอีก จนถึงคาถามหาวันวรรณาจึงจบกัณฑ์หนึ่ง เจ้าอธิการฟักวัดธรรมิกราชแขวงกรุงเก่า ถวายเทศนาเป็นกันฑ์ที่ ๒ ตั้งแต่คาถากุมารบรรพไปจนถึงคาถานครกัณฑ์แลถวายกลับชาติเป็นคำแปลจบแล้วถวายยถาอนุโมทนา เสด็จขึ้นเวลา ๕ ทุ่มเสศ

วันที่รัชกาล ๗๖๗๐ วัน ๑ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๐ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เสด็จออกเวลาบ่ายสองโมงเสศทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระธรรมราชานุวัตรวัดเสนาศนาราม ถวายศิลแลศักราชแล้วถวายเทศนามหาเวศสันดรชาฎกทศพรพรรณาเป็นต้นไป ประดับด้วยพระคาถา ๑๙ พระคาถาจบแล้ว พระญาณไตรโลกยวัดศาลาปูนถวายเทศนามหาเวศสันดรชาฎกหิมพานตพรรณาประดับด้วยพระคาถาร้อยสามสิบแปดพระคาถาจบแล้ว พระครูเทพประสิทธิเทพาบดีวัดเวฬุราชิณถวายเทศนามหาเวศสันดรชาฎกทานกัณฑ์ประดับด้วยพระคาถาสองร้อยเก้าพระคาถาจบแล้ว พระครูพุทธวิหารโสภณวัดศาลาปูนถวายเทศนามหาเวศสันดรชาฎกวันประเวศกัณฑ์ประดับด้วยพระคาถาห้าสิบเจ็ดพระคาถา ครั้นจบแล้วพระเจิมวัดอัมรินทรารามแลเจ้าอธิการชื่นวัดกุฎีทองแขวงกรุงเก่าถวายเทศนามหาเวศสันดรชาดกชูชกบรรพประดับด้วยพระคาถาเจ็ดสิบเก้าพระคาถาซ้อนสองกัณฑ์ พระเจิมขึ้นธรรมาศนด้านเหนือ เจ้าอธิการชื่นขึ้นธรรมาศน์ด้านใต้ ถวายสลับกันไปองค์ละแหล่ พระเจิมได้พระราชทานรางวัลรายเที่ยว ๆ ลกึ่งตำลึง ๗ เที่ยว เป็นเงิน ๑๔ บาท พระชื่นได้พระราชทานรางวัลรายเที่ยว ๆ ลกึ่งตำลึง ๘ เที่ยว ๆ ลบาท ๑ เป็น ๑๗ บาท จบแล้ว เสด็จขึ้นเวลา ๒ ยามเสศ

อนึ่งวันนี้เมื่อเวลาบ่ายเสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระเทศนั้น ได้โปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตร ให้หลวงธรรมวงษประวัติเป็นหลวงธรรมานุวัติจำนง มีตำแหน่งราชการในกรมพระธรรมการถือศักดินา ๖๐๐ ให้ขุนอาณัติวรการเป็นหลวงธรรมวงษประวัต มีตำแหน่งราชการในกรมพระธรรมการถือศักดินา ๖๐๐

วันที่รัชกาล ๗๖๗๑ วัน ๒ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๑ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่ายสามโมงเสศ เสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระมหาวันเปรียญ ๓ ประโยค วัดขุนญวน ถวายศิลแลศักราชแล้ว ถวายเทศนามหาเวศสันดรชาฎกจุลวันพรรณาประดับด้วยพระคาถาสามสิบห้าพระคาถาจบแล้ว พระเอมวัดมหาธาตุกรุงเทพ ฯ กับพระเขียนวัดพุทธยัสวรรย์ แขวงกรุงเก่าถวายเทศนามหาวัน ประดับด้วยพระคาถาแปดสิบพระคาถา ซ้อนสองกัน พระเอมขึ้นธรรมมาศนด้านเหนือ พระเขียนขึ้นธรรมมาศน์ด้านใต้ถวายสลับกันไปองค์ละแหล่จบแล้ว ได้พระราชทานรางวัลพระเอมเที่ยว ๑ เป็นเงินกึ่งตำลึงแล้วพระรอดวัดสุทัศน์เทพวรารามถวายเทศนากัณฑ์กุมารบรรพประดับด้วยพระคาถาร้อยเจ็ดพระคาถาจบแล้ว พระศรีวัดสุวรรณารามกรุงเทพ ฯ ถวายเทศนากัณฑ์มัทรีประดับด้วยพระคาถาเก้าสิบพระคาถา พระศรีองคนี้ถวายเทศนาทำนองอย่างดี ได้พระราชทานรางวัล ๑๐ ตำลึง เสด็จขึ้นเวลา ๗ ทุ่มเสศ.

วันที่รัชกาล ๗๖๗๒ วัน ๓ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๒ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่ายสี่โมงเสศ เสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว มีเทศนาเวศสันดรชาฎกต่อจากวันก่อน พระครูมหาพุทธพิมพาภิบาล ๓ ประโยค วัดไชยโย แขวงกรุงเก่าถวายศิลแลศักราชแล้ว ถวายเทศนากัณฑ์สักบรรพประดับด้วยพระคาถาสี่สิบสามพระคาถาจบแล้ว พระกว้านวัดประยูรวงษาราม พระอยู่วัดจักรวัดิราชาวาศกรุงเทพฯถวายเทศนากัณฑ์มหาราชบรรพประดับด้วยพระคาถาหกสิบเก้าพระคาถาซ้อนสองกัณฑ์ พระกว้านขึ้นธรรมาศนด้านเหนือ พระอยู่ขึ้นธรรมาศนด้านใต้ ถวายสลับกันไปองค์ลแหล่เหมือนวันก่อน ๆ แต่พระกว้านได้พระราชทานรางวัลรายเที่ยว ๆ ลกึ่งตำลึง ๘ เที่ยว ๆล สี่บาทเที่ยว ๑ พระอยู่ได้พระราชทานรางวัลรายเที่ยว ๆ ลกึ่งตำลึง ๑๒ เที่ยว เมื่อจบแล้วได้โปรดเกล้า ฯ พระราชทานรางวัลอีกองค์ ล ๘ บาท เพราะเทศนานกว่าทุกกัณฑ์ถึง ๖ ชั่วโมง เห็นจะเหนื่อยมากแล้ว พระริดปเรียญ ๓ ประโยควัดศาลาปูนแขวงกรุงเก่าถวายเทศนากัณฑ์ฉ่อกระษัตรติยบรรพประดับด้วยพระคาถา ๓๖ พระคาถา จบแล้ว พระสุวรรณวิมลศิลวัดสุวรรณดาราราม ถวายเทศนากัณฑ์นครกัณฑ์จบแล้ว ถวายอนุโมทนาเหมือนอย่างทุกวัน ครั้นเทศจบแล้วเวลา ๓ ยามเสศ เสด็จขึ้น เป็นเสร็จการเทศนามหาเวศสันดรชาฎกเพียงวันนี้

วันที่รัชกาล ๗๖๗๓ วัน ๔ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๓ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

วันนี้จะได้มีพระธรรมเทศนาจตุราริยสัจจ ตามธรรมเนียมที่เคยมีมาแต่ก่อน เวลาบ่าย ๔ โมงเสศเสด็จออกจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระอมราภิรักขิตวัดนิเวศธรรมประวัติ ถวายศิลแลศักราชแล้วถวายเทศนากัณฑ์ทุกขอริยสัจจ์จบแล้ว พระครูจันทรรัศมีวัดพนัญเชิงกรุงเก่าถวายเทศนาทุกขสมุทยอริยสัจจ์จบแล้ว พระครูวิญญานุวัติคณวัดกระษัตราธิราชแขวงกรุงเก่า ถวายเทศนาทุกขนิโรธอริยสัจจ์จบแล้ว พระปริยัติวงษาจาริยวัดบรมวงษอิศรวรารามถวายเทศนาทุกขนิโรธคามินีปติปทาอริยสัจจ์จบแล้ว ถวายยถาพระสงฆ์รับสับพีเหมือนอย่างกัณฑ์ที่สุดทุกๆ วันมา

ในเวลา ๕ วันนี้ เทศนาทุกๆกันฑ์ มีพิณพาทยประโคมทุกระยะ แลเมื่อเทศจบแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนเครื่องบริขารบ้างแลโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชแลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าลูกเธอทรงประเคนบ้าง

อนึ่งราษฎรชาวเกาะบางปอินได้จัดขนมต่างๆเป็นของเพิ่มเติมเครื่องกัณฑ์เทศนามาทูลเกล้า ฯ ถวายบ้าง โปรดเกล้าให้ราษฎรฟังเทศนาที่น่าท้องพระโรงทุกวันเสด็จขึ้นเวลายามเสศ เป็นเสร็จการมีพระธรรมเทศนามหาชาติแลอริยสัจจ์เพียงนี้

กับอนึ่งของคาวหวานเครื่องกันฑ์เทศนี้ โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นของพระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการฝ่ายในนั้น มีรายชื่อต่อไปนี้

คาณาพันกัณท์ที่ ๑ พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี กัณฑ์ที่ ๒ เจ้าจอมมารดาวาด กัณฑ์ทศพรเจ้าฟ้าสุทธาทิพรัตน กันฑพิมพานต์เจ้าฟ้าเยาวมาลนฤมล กัณฑ์ทานกัณฑ์เจ้าจอมมารดาแส กัณฑ์วันประเวศเจ้าจอมมารดาชุ่ม กัณฑ์ชูชกพระนางเจ้าพระวรราชเทวีทั้งสองกัณฑ์ กัณฑ์จุลพนพระองค์เจ้าจุธารัตน กัณฑ์มหาพนกัณฑ์ซ้อนพระอรรคชายาเธอองค์เล็กกันฑ์ ๑ เจ้าฟ้าจันทรากัณฑ์ ๑ กัณฑ์กุมารพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี กัณฑ์มัดทรีพระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ กัณฑ์สักบรรพพระองค์เจ้าสุวภักตรวิไลยภัณฑ์ กันฑ์มหาราชพระนางเจ้าพระวรราชเทวีทั้ง ๒ กัณฑ์ กันฑ์ฉอกระษัตรเจ้าจอมมารดาอ่อน กัณฑ์นครกัณฑ์เจ้าจอมมารดาเกสร กันฑ์ทุกขอริยสัจจ์พระองค์เจ้าอรพินธุเพ็ญภาคย กัณฑ์สมุทยสัจจ์ พระองค์เจ้าอัจฉรพรรณีรัชกัญญา กันฑ์นิโรธสัจจ์เจ้าจอมมารดาวาด กัณฑ์มัคคะอริยสัจจ์พระองค์เจ้าบรรณทรวันวโรภาษ เป็นหมดชื่อผู้ที่ถวายของคาวหวานในกันฑ์เทศนาเพียงนี้.

วันที่รัชกาล ๗๖๗๔ วัน ๕ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๔ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จลงที่พระที่นั่งเก๋งจีนในพระราชวัง แล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงษานุวงษแลพระยาสวัสดิวามดิฐเข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในที่นั้น ทรงพระราชดำรัสด้วยการที่จะฉลองพระที่นั่งแลการอื่นๆ บ้างตามสมควร แล้วเสด็จขึ้น

เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสด็จออกที่ท้องพระโรงพระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระครูอัษฎาจารย์ ถวายน้ำสังข์ตามเคย แล้วเสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๗๕ วัน ๖ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๕ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลา ๒ ทุ่มเสศ เสด็จออกทางพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ทรงพระราชดำเนินไปประทับที่ศาลเจ้าประสาททอง แล้วเสด็จเหมมณเฑียรเทวราช ทอดพระเนตรการชำรุดแลยังค้าง โปรดเกล้า ฯ ให้กรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ ซ่อมแซมให้สำเร็จ แล้วเสด็จกลับมาประทับที่ท้องพระโรงพระที่นั่งวโรภาษพิมาน เวลา ๔ ทุ่มเสศ เสด็จขึ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๗๖ วัน ๗ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๔๑

วันที่ ๑๖ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาย่ำรุ่งแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยขบวนข้างในลงประทับในเรือเอดเดอกงแล้วใช้จักรขึ้นไปเหนือน้ำประพาศทุ่งบ้านสร้างแขวงกรุงเก่า ทรงเก็บบัวสาย แล้วเสด็จวัดขนอนทอดพระเนตรทหารทรงยิงคังคาวแม่ไก่ เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จกลับ

ครั้นเวลา ๕ ทุ่มเสศ โปรดเกล้า ฯ พระเจ้าลูกเธอที่ประสูตรใหม่กับเจ้าจอมมารดาแส ลงเรือกลไฟที่น่าพระราชวังกลับล่วงนำลงมากรุงเทพ ฯ ก่อน.

วันที่รัชกาล ๗๖๗๗ วัน ๑ ๑๐ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๗ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเที่ยงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยขบวนข้างในออกทางพระที่นั่งวโรภาษพิมานลงประทับในเรือพระที่นั่งอุบลบุรทิศที่น่าพระราชวังแล้วออกเรือพระที่นั่งใช้จักรแล่นขึ้นไปเหนือเกาะ กลับเรือพระที่นั่งล่องมาตามลำน้ำผ่านน่าวัดนิเวศธรรมประวัติ เวลาบ่าย ๕ โมงถึงท่าราชวรดิฐ เรือพระที่นั่งเข้าเทียบท่าแล้วเสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง ทรงพระราชดำเนินมาประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัยมีพระราชดำรัสด้วยพระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการที่มาคอยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ด้วยเรื่องราชการแลการอื่น ๆ บ้างตามสมควร แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยพระราชยานมาประทับเกยพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวังแล้วเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศเสดจกลับจากพระราชวังบางปอิน เรือพระที่นั่งเทียบท่าราชวรดิษฐ์ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นจากเรือพระที่นั่งมาประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย มีพระราชดำรัสกับพระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการภอสมควร แล้วเสดจโดยพระราชยานเข้าประตูศรีสุนทร มาประทับที่เกยน่าพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทแล้วเสด็จขึ้น

เวลาบ่ายยามเสศ เสดจออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์กลาง ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว อาลักษณอ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคลจบ พระสงฆ์ราชาคณะ พระครูถานานุกรม ๓๑ รูป หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันทน์ธรรมเจดีย์ เปนประธานสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถวายสะปริทานแล้ว เวลา ๕ ทุ่มเสศ เสดจขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๗๘ วัน ๒ ๑๑ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๘ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๕ โมงเสศ เสด็จออกเลี้ยงพระสงฆ์ที่มาสวดพระพุทธมนต์ ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตร หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันทร์ธรรมเจดีย์ แล้วพระบรมวงษานุวงษทรงประเคนต่อไป แต่อาหารบิณฑบาตรแลของเครื่องไทยธรรมวันนี้เปนของพระบรมวงษานุวงษฝ่ายน่าถวาย เจ้าพนักงานได้ตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน } แลโต๊ะเครื่องสังเวยพราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวยขับไม้เวียนเทียนสมโภชเสร็จแล้ว เสด็จทรงเจิมพระไชยประจำรัชกาลทั้ง ๕ พระมหาเสวตรฉัตร พระมหาพิไชยมงกุฎ} พระแสงต่าง ๆ พระพัชวาลวิชนี พระแส้ร์ เวลาบ่ายโมงเสศเสด็จขึ้น

เวลายามเสศเสด็จออกพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัศการแล้ว อาลักษณอ่านประกาศพระราชพิธีตามเคย พระสงฆ์ราชาคณะ ๓๙ รูป คือ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นประธานสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว เวลา ๕ ทุ่มเสศเสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๗๙ วัน ๓ ๑๒ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๑๙ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๕ โมงเสดจออกเลี้ยงพระทรงถวายอาหารบิณฑบาตร กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ แล้วพระบรมวงษานุวงษ์ก็ถวายต่อไป แต่อาหารบิณฑบาตรแลของเครื่องไทยธรรมวันนี้เป็นของพระบรมวงษานุวงษ์ฝ่ายในเสร็จแล้ว เจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน } เครื่องสังเวย มีพราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวย แลทรงเจิมก็เหมือนอย่างพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาททั้งสิ้น เว้นแต่พระมหาเสวตฉัตรหามีไม่ เวลาบ่ายโมงเสศเสดจขึ้น

อนึ่งในเวลาวันนี้เจ้าพนักงานทหารบก ทหารเรือ } ได้จัดการยิงปืนสลุตสามเวลาในการที่เป็นดิถีตรงกัน กับวันพระบรมราชาภิเศก พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัว

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสดจออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ฝ่ายทหารพลเรือน} แต่งตัวเต็มยศเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทพร้อมกัน ได้โปรดเกล้า ฯ พระราชทานตราจุลจอมเกล้ากับพานทองเครื่องยศ แก่พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการผู้ที่ได้พระราชทานนั้น

คือพระบวรวงษเธอ พระองค์เจ้านันทวัน ได้รับพระราชทานตราทุติยจุลจอมเกล้า ๑ พานทองกลมใหญ่ ๑ พระเต้าทองคำ ๑ บ้วนพระโอษฐทองคำ ๑ พระยาวุฒิการบดี (ศีล) ตราทุติยจุลจอมเกล้า ๑ พานทองกลมใหญ่ ๑ คนโททองคำ ๑ กระโถนทองคำ ๑

พระยาเทเวศรวงษ์วิวัฒน์ (หลาน) ตราทุติยจุลจอมเกล้า ๑ พานทองกลมใหญ่ ๑ คนโททองคำ ๑ กระโถนทองคำ ๑

พระยาพิพิธโภไคยสวรรย์ (โค) ตราทุติยจุลจอมเกล้า ๑ พานทองเหลี่ยมใหญ่ ๑ คนโททองคำ ๑ กระโถนทองคำ ๑

พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย) ตราทุติยจุลจอมเกล้า ๑ พานทองเหลี่ยมใหญ่ ๑ คนโททองคำ ๑ กระโถนทองคำ ๑

พระวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ได้พระราชทานสตาทุติยจุลจอมเกล้าวิเสศ ๑

พระราชทานเสร็จแล้ว เสดจพระราชดำเนินขึ้นบนพระที่นั่งศิวาไลยมหาปราสาท ถวายบังคมพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๔ พระองค์ เสรจแล้วเสด็จขึ้น

เวลาค่ำเจ้าพนักงานได้มาจัดการไว้คอยเสด็จที่พระที่นั่งอนันตสมาคมตามธรรมเนียมราวเวลา ๒ ทุ่มเสส โปรดเกล้า ฯ ให้สมเดจพระบรมโอรสาธิราชเสดจออกมาจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว อาลักษณอ่านประกาศพระราชพิธีจบ พระราชาคณะพระครูถานานุกรม ๓๒ รูป เจริญพระพุทธมนต์ มีพระธรรมวโรดม เป็นประธานสงฆ์

วันที่รัชกาล ๗๖๘๐ วัน ๔ ๑๓ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๐ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาเช้า ๕ โมงเสศ โปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมโอรสาธิราช เสด็จออกมาเลี้ยงพระสงฆ์ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม แต่อาหารบิณฑบาตรแลของเครื่องไทยธรรมวันนี้ เกณฑ์ขุนนางที่ไต้รับพระราชทานพานทองถวาย เสร็จแล้วเจ้าพนักงานได้ตั้งเครื่องสังเวย มีบายศรีแก้วทองเงิน} พราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวยขับไม้เวียนเทียนสมโภช ทรงเจิมเหมือนอย่างพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาททั้งสิ้น.

วันที่รัชกาล ๗๖๘๑ วัน ๕ ๑๔ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอกศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๑ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร๒๒ศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศเสดจออกห้องไปรเวศพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทองค์ด้านตวันออก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษวโรปปราการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ นำมิศเตอนอแมนอังกฤษซึ่งเป็นผู้ทำหนังสือพิมพ์ตรุถ แล เซนเยมบัดเซนตเข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทมีพระราชปฏิสัณฐาร ด้วยตามสมควร แล้วมิศเตอนอแมนก็ถวายคำนับออกมาจากที่เฝ้า แล้วมิศเตอเยทีทอรี มิศเตอเยเอแอนเดอซัน } อังกฤษ พวกห้างหลวงรัตนานุกิจ ซึ่งเอาเครื่องเพชรเข้ามาขายนั้น เข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชปฏิสัณฐาร ไต่ถามทุกข์ภอสมควร คนยุโรปทั้งสองก็ถวายคำนับออกจากที่เฝ้า

แล้วสมเดจพระเจ้าน้องยาเธอ และ พระเจ้าน้องยาเธอ หลายพระองค์ด้วยกันเข้าไปเฝ้าประทับอยู่จนเวลา ๒ ทุ่มเสศ แล้วเสดจออกขุนนาง พระสุรินทรามาตย์ เจ้าพนักงานกรมพระกระลาโหมนำบอกขึ้นกราบบังคมทูล ๔ ฉบับ

ฉบับที่ ๑ บอกพระยาสุรินทรฤๅไชยเมืองเพชรบุรี ถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา

ฉบับที่ ๒ ว่าด้วยมีตราพระคชสีห์ ส่งผ้าไตรกะฐินที่โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้พระยาสุรินทรฤๅไชย นำไปทอดวัดมหาสมณาราม วัดคงคาราม } นั้น พระยาสุรินทรฤๅไชยได้ทอดแล้วขอถวายพระราชกุศล

ฉบับที่ ๓ บอกพระพหลพลหยุหเสนา นายพันตรี เมืองราชบุรีถวายพระราชกุศลในการเฉลิมพระชนม์พรรษา

ฉบับที่ ๔ บอกพระขยันสงครามปลัดผู้รักษาเมืองนครเขื่อนขันธ์ถวายพระราชกุศล ในการเฉลิมพระชนม์พรรษา

มีพระราชโองการดำรัสถาม พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากรว่ากำหนดแจกเบี้ยหวัดวันใด พระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าวรวรรณากรกราบบังคมทูลพระกรุณาว่ากำหนดจะแจก วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน เวลา ๓ ทุ่มเสศ เสด็จขึ้น

วันที่รัชกาล ๗๖๘๒ วัน ๖ ๑๕ ๑๒ ค่ำ ปีฉลู เอก๒๒ศก ๑๒๕๑

วันที่ ๒๒ พฤษจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๔๓๒)

ไม่เสดจออก ไม่มีราชการอไร.

  1. 1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอภันตรีปชา

  2. 2. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

  3. 3. พระโบราณบุรานุรักษ์ (พร เดชะคุปต์) ภายหลังเป็นพระยาโบราณราชธานี

  4. 4. สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

  5. 5. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี

  6. 6. พระเจ้าราชวรวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้านันทวัน

  7. 7. คือเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์ หลาน กุญชร)

  8. 8. พระยาพิพิธโภไคสวรรย์ (โค สุจริตกุล)

  9. 9. พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ