๑๘๓ หมายประกาศพระราชกระแสซึ่งทรงตัดสินโทษจีนเสงอำแดงอิ่มผู้ทำวิชาอาคม

คัดจากหมายรับสั่งณวันอาทิตย์ เดือนยี่ แรม ๑๒ ค่ำ ๓ ปีวอกโทศก

ด้วยเจ้าพระยายมราช ชาติเสนางคนรินทร มหินทราธิบดีศรีวิไชย ราชมไหศวริยบริรักษ ภูมิพิทักษโลกากร ทัณฑฤทธิธรนครบาล รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ดำรัสสั่งให้ประกาศแก่ข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย แลกรมการร้อยแขวงกำนันอำเภอ ด่านทางทุกตำบลทั้งในกรุงนอกกรุงให้ทราบทั่วกัน ด้วยจีนเสงผัวอำแดงอิ่มภรรยา ตั้งบ้านเรือนแลจอดแพอยู่ใกล้บ้านพระยาสามภพพ่าย ๆ จับได้กระทงกระดาษมีชื่อพระยาสามภพพ่ายแลภรรยา แลชื่อเจ้าจอมข้างใน ซึ่งเปนญาติพระยาสามภพพ่าย แลชื่ออำแดงสุ่นบ้านใกล้เคียง แลทาสอำแดงสุ่น อยู่ในพื้นกระทง แล้วมีหมากพลูคำหนึ่ง เทียนเล่มหนึ่งจุดลอยมา พระยาสามภพพ่ายเอากระทงกระดาษที่มีชื่อต่างๆ นั้น มากราบเรียนเจ้าพระยายมราช แลกล่าวความสงสัยตามสาเหตุ ว่าเห็นจีนเสงจะทำ เจ้าพระยายมราชจึงได้หาตัวจีนเสงมาชำระแต่แรกปฏิเสธไม่รับ ครั้นภายหลังได้สอบลายมือจีนเสง ก็เห็นว่าลายมือนั้นเหมือนกับอักษรที่จีนเสงเขียนไว้ ในหนังสือประกันทาสเมื่อมาเปนความแต่ก่อน ครั้นไล่เลียงไต่ถามต่อไป จีนเสงรับสารภาพว่าได้ทำจริง ด้วยเปนวิชาได้เรียนมาแต่สมีน้อยผู้ตายแล้ว แลเมื่อยังไม่ตายได้เปนอาจารย์จีนเสงสอนวิชานี้ไว้ จะทำความให้หาย เพราะจีนเสงเปนความอยู่กับอำแดงสุ่น กลัวอำแดงสุ่นจะทำเรื่องราวเปนคำร้องถวายฎีกา แล้วจะให้พระยาสามภพพ่ายกับภรรยานำเรื่องราวนั้นมาส่งให้เจ้าจอมข้างในซึ่งเปนญาติทูลเกล้าฯ ถวาย จึงได้เขียนชื่ออำแดงสุ่นกับทาสซึ่งเปนเจ้าของความ แลผู้ที่ชอบกับอำแดงสุ่นจะช่วยนำความมาร้องฎีกานั้นลอยน้ำไปเสีย เพื่อจะให้ความสูญหายแต่ฝ่ายพระยาสามภพพ่ายกับเจ้าจอมข้างในเห็นว่าสาเหตุอื่นมี เพราะแต่ก่อนตำบลที่บ้านที่แพของอำแดงสุ่น ซึ่งเนื่องกันกับที่ของจีนเสงนั้นเปนของผู้มีชื่ออื่น มาขายไว้แก่เจ้าจอมข้างในๆ ไม่ต้องการที่นั้นบอกขายเสีย จีนเสงได้มาขอซื้อก่อน แล้วภายหลังอำแดงสุ่นจึงมาว่าขอซื้อขึ้นราคาที่นั้นสูงไปกว่าราคาที่จีนเสงว่า เจ้าจอมข้างในจึงได้ขายที่นั้นให้อำแดงสุ่นไป ไม่ขายให้แก่จีนเสง เห็นจีนเสงจะมีความอาฆาฏแค้นแก่เจ้าจอมข้างใน แลพระยาสามภพพ่ายแลภรรยา ซึ่งคิดอ่านกันขายที่นั้นให้อำแดงสุ่น แลอำแดงสุ่นผู้ชิงซื้อที่นั้น ความทั้งปวงนี้ เจ้าพระยายมราชได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสว่า กิริยาที่จีนเสงทำนั้นเหมือนกับคนเสียจริต ถ้าว่าเพศบ้านเพศเมืองอันนี้คนไม่ถือว่าเขียนชื่อกระทำวิชาให้ป่วยไข้ล้มตาย เกิดรำเพรำพัดชมบต่างๆ ได้ แลถ้าว่าราษฎรไม่สดุ้งเสทือนต่อการอย่างนี้แล้ว ก็ควรจะตัดสินว่าเปนกิริยาของคนจริตให้เปนแล้วเลิกไป แต่เพราะเพศรำเพรำพัดแลกระทำวิชาการต่างๆ มากนักจนเปนทางที่หากินของพวกทำวิชาพวกหนึ่งอวดว่าเปนหมอทำ พวกหนึ่งอวดว่าเปนหมอแก้ ฝ่ายผู้ที่เชื่อก็สอดแส่เสียสินจ้างสินบน ให้มากระทำกันบ้าง ที่สงสัยว่าถูกกระทำก็มากันมาแก้ไขวุ่นไปต่างๆ เพราะฉนั้น พระราชกำหนดกฎหมายเก่าจึงว่าให้จับคนเปนชมบผีปอบฆ่าเสียก็มี แลว่าถ้าจับเลขยันต์ได้ในกำลังคุมความให้ปรับคดีเปนแพ้ แลมีเบี้ยปรับก็มี แลอย่างแต่ก่อนแพทย์หมอที่อวดว่ามีวิทยาได้ทำเสน่ห์เล่ห์มนต์ ฤๅทำจะให้ป่วยไข้ล้มตาย ถ้าการเกี่ยวข้องเข้ามาในพระราชวังแลข้าราชการ ก็ได้ลงพระราชอาญาถึงประหารชีวิตเสียก็มี จำไว้ณคุกก็มี เปนตัวอย่างมาเปนหลายเรื่องหลายราย

แลครั้งนี้จีนเสงก็ทำการเอิบเอื้อมเข้ามาเอาชื่อเจ้าจอมข้างใน ในพระบรมมหาราชวังใส่ด้วย แลชื่อพระยาสามภพพ่าย ซึ่งทรงพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้เปนจางวางกรมทหารในใส่ด้วยกระทงทำวิชาลอยไป เปนที่หวาดหวั่นสดุ้งเสทือนแก่ผู้เจ้าของชื่อซึ่งต้องกระทำนั้น แต่ครั้นจะให้ลูกขุนณศาลหลวงปฤกษาโทษ ก็จะปฤกษาว่าแรงไปต่างๆ ตามตัวอย่างที่มีมา เมื่อจะให้ทำตามลูกขุนปฤกษา ก็จะเปนอันทำโทษแก่คนเสียจริตไป ฤๅถ้าลูกขุนจะปฤกษามาให้ปรับเปนสินไหมพินัย เบี้ยปรับนั้นก็จะไม่งามแก่ความโดยตรง เหมือนกับปรับคนอื่นซึ่งคว่างทิ้งตีรันฟันแทงกัน ครั้นจะตัดสินเสียว่าเปนกิริยาเสียจริตดอกให้เลิกความเสีย ก็เพราะกฎหมายเก่ามีว่าให้ทำโทษก็มี เพราะตัวอย่างเคยทำโทษมาก็มีเปนอันมาก ก็จะเปนที่เห็นว่าครั้งนี้วิชาจีนเสงดี จึงลบเลื่อนความหายไม่ต้องโทษทัณฑ์แลเบี้ยปรับ จีนเสงก็จะได้ใจกำเริบว่าวิชาตัวขลัง เมื่อมีข้อขุ่นเคืองกับผู้ใดด้วยเหตุเล็กน้อย เหมือนอย่างเช่นเปนครั้งนี้ก็จะทำดังนี้ไปเนืองๆ คนอื่นๆ จะนับถือมากเข้าใครๆ โกรธขึ้งชิงชังกัน ก็จะมาหาจีนเสงให้ทำ การนั้นก็เปนที่หวาดหวั่นสดุ้งเสทือนแก่ผู้ที่ถูกชื่อกระทำแลถือลัทธิ ว่าคนทำร้ายกันได้ด้วยวิชาการตามเพศบ้านพื้นเมือง

อนึ่งถ้าจีนเสงอยู่ในกรุงเทพฯ นี้ จีนเสงจะได้ใจว่าวิชาขลังทำไปเนืองๆ ก็ดี จะมีผู้นับถือเข้าไปหาให้ทำเนืองๆ ก็ดี การก็จะเอิบเอื้อมไปกระทบพระนามพระองค์เจ้าแลหม่อมเจ้า แลชื่อเสียงชตาราษีของข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน ในพระบรมมหาราชวัง แลพระบวรราชวัง ฤๅผู้ที่จะไปนับถือจีนเสงเข้าจะเปนผู้มีวาสนาบรรดาศักดิ์ ก็จะเปนที่ขุ่นข้องหมองหมางสดุ้งเสทือนไปในผู้มีบรรดาศักดิ์ด้วยกัน เพราะฉนั้นโทษทัณฑ์ตามกฎหมายตามอย่างเก่า ซึ่งควรลูกขุนจะปฤกษาให้ลงแก่จีนเสงครั้งนี้นั้นให้ยกเสียทั้งสิ้น ให้เปนแต่สักหน้าผากจีนเสงว่า (มักทำวิชาการเขียนชื่อคนลอยน้ำทำให้คนตกใจ) อย่างนี้แล้วขับไล่จีนเสงกับบุตรภรรยาแลทาสไปเสียจากแขวงกรุงเทพฯ แลแขวงเมืองนนทบุรี แขวงเมืองประทุมธานี แลแขวงเมืองนครเขื่อนขันธ์ แขวงเมืองสุมทปราการ ซึ่งเปนแขวงใกล้กรุงเทพฯ ทรัพย์สมบัติแลแพแลเรือนให้จีนเสงรื้อขนเอาไปเสียให้พ้นแขวงทั้ง ๕ นี้ในภายใน ๑๕ วัน แต่ที่ดินที่แพจอดฤๅสวนฤๅนาของจีนเสงที่มีอยู่ในแขวงกรุงเทพฯ แลหัวเมืองใกล้ทั้ง ๔ นั้น ไม่โปรดให้จีนเสงเปนเจ้าของ ให้ขาดคืนจากเปนของจีนเสง คงเปนที่หลวง แลห้ามไม่ให้ผู้ใดผู้หนึ่งในแขวงกรุงเทพฯ แลแขวงหัวเมืองทั้ง ๔ นั้นสมคบจีนเสงให้ไปมาหาสู่อยู่กินเปนอันขาดทีเดียว ให้ด่านทั้งปวงในแขวงกรุงเทพฯ แลแขวงเมืองนั้นๆ คอยจับ ถ้าจีนเสงกับบุตรภรรยาทาสล่วงด่านเข้ามาให้จับตัวไว้ แล้วปรับไหมเสียเงินแก่ผู้จับได้คนละสองตำลึงกึ่ง แลผู้ที่ล่วงเข้ามานั้นจะเอาตัวสักเปนไพร่หลวงโรงสี ฤๅจำคุกไว้ตามโทษานุโทษ ถ้าภรรยาจีนเสงอย่ากับผัวแล้วก็พ้นจากห้าม ถ้าทาสจีนเสงส่งเงินไปอยู่กับผู้อื่นแล้วก็พ้นจากห้าม แต่ถ้าจะส่งเงินไปอยู่กับผู้อื่นแล้วอย่าให้มาคบจีนเสงเลย ให้บอกนายอำเภอร้อยแขวงกรมการเปนพยานจึงจะพ้นห้าม ถ้าจะไม่ไปกับจีนเสงจะส่งเงินเสียก็ได้ในคราวนี้ ถ้าจีนเสงกับบุตรภรรยาทาสที่สมัคไปด้วยกัน จะไปตั้งบ้านเรือนอยู่ตำบลใดๆ ในแขวงหัวเมืองอื่นๆ นอกจากแขวงกรุงเทพฯ แลแขวงหัวเมืองทั้ง ๔ ดังว่าแล้วนั้นไม่ห้าม เมื่อจีนเสงไปอยู่ณแขวงหัวเมืองใดๆ แล้ว ถ้าจะมีผู้ใดๆ ในแขวงหัวเมืองนั้นๆ ไปมาหาสู่คบหากับจีนเสง ซึ่งเปนคนสักหน้าด้วยเหตุนี้ ผู้อื่นก็จะได้รู้ว่าผู้นั้นเปนคนพอใจวิชาการกระทำยำเยียแล้วจะได้รู้จักตัวไว้ ถ้ากลัวก็จะได้ระวังตัว ถ้าจีนเสงไปอยู่หัวเมืองใดๆ มีผู้ไปนับถือร่ำเรียนวิชานั้น ฤๅไปหาขอให้กระทำยำเยียแปลกประหลาดมากขึ้นผิดปรกติ ก็ให้จับกุมคุมไว้แล้วบอกข้อความเข้าไปยังกรุงเทพมหานครให้ทราบหมาย

ประกาศมาณวันอาทิตย์ เดือนยี่ แรม ๑๐ ค่ำ ปีวอกโทศก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ