- คำนำ
- คำอธิบาย
- ๑๕๙ ประกาศมหาสงกรานต์ปีมะแมเอกศก
- ๑๖๐ ประกาศเรื่องมิให้ละทิ้งคนเสียจริต
- ๑๖๑ ประกาศให้ผู้รับพระบรมราชโองการฟังรับสั่งให้ชัดเจน
- ๑๖๒ ประกาศพระราชบัญญัติพระสงฆ์สามเณรแลศิษย์วัด
- ๑๖๓ ประกาศขนานนามพระที่นั่งในท่าราชวรดิษฐแลพระที่นั่งสร้างใหม่
- ๑๖๔ ประกาศพระราชบัญญัติให้คัดความมรดกทูลเกล้าฯ ถวายใน ๑๕ วัน
- ๑๖๕ ประกาศให้ใช้คำ กับ, แก่, แด่, แต่, ต่อ, ใน, ยัง, ในที่ควร
- ๑๖๖ ประกาศพิกัดอากรค่าน้ำให้เก็บตามเครื่องมือ
- ๑๖๗ ประกาศว่าด้วยทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
- ๑๖๘ ประกาศมหาสงกรานต์ปีวอกโทศก
- ๑๖๙ ประกาศห้ามข้าเจ้ามิให้ปิดบังความผิดของเจ้านาย
- ๑๗๐ ประกาศว่าด้วยลักษณะให้ลงแกงไดลายมือในหนังสือสำคัญ มณฑลกรุงเทพ ฯ
- ๑๗๑ ประกาศว่าด้วยลักษณะให้ลงแกงไดลายมือในหนังสือสำคัญ ในหัวเมืองทั่วไป
- ๑๗๒ พระราชบัญญัติกฎหมายท้องน้ำ บุกรุก ห้ามยิงปืน แลการเที่ยวอาละวาดของพวกกลาสี
- ๑๗๓ ประกาศให้ยกค่าไม้ปกำใบค่าน้ำมัน
- ๑๗๔ ประกาศพระราชบัญญัติให้ภิกษุสามเณรแลศิษย์วัด เมื่อประพฤติอนาจารแล้วให้มาลุแก่โทษเสีย จะยกโทษให้
- ๑๗๕ หมายประกาศเรื่องตัวเลขเปนพาลให้เจ้าหมู่มูลนายกักขัง แลบอกกล่าวเสียจึงจะพ้นความผิด
- ๑๗๖ ประกาศห้ามพระสงฆ์ไม่ให้บอกบ้ายแทงหวยแลประพฤติอนาจาร
- ๑๗๗. ประกาศให้ผู้ที่ทรงรู้จักมาเฝ้าจะพระราชทานเงิน
- ๑๗๘ ประกาศพิกัดราคาเงินเหรียญบาทแลเงินแป
- ๑๗๙ ประกาศให้เจ้าคณะมีหมายประกาศไปตามพระอารามให้ชำระต้นไม้ต่างๆ ที่ขึ้นบนหลังคาแลกำแพง ให้ชำระลานวัดให้หมดจด ในเวลาเสด็จพระราชทานพระกฐิน
- ๑๘๐ ประกาศพระราชบัญญัติเรื่องที่กระหนาบคาบเกี่ยว แลการกู้หนี้ในระหว่างญาติ
- ๑๘๑ ประกาศให้ตรวจตรารักษาบ้านเรือนแลจับกุมโจรผู้ร้าย
- ๑๘๒ ประกาศขอแรงราษฎรบ้านใกล้เคียงตัดถอนต้นโพธิ์ต้นไทร แลต้นไม้อื่นๆ ที่กำแพง, ป้อม, ประตู
- ๑๘๓ หมายประกาศพระราชกระแสซึ่งทรงตัดสินโทษจีนเสงอำแดงอิ่มผู้ทำวิชาอาคม
- ๑๘๔ ประกาศร่างตราภูมคุ้มห้ามค่านาแก่ไพร่หลวงบางเหล่าเปนพิเศษ
- ๑๘๕. ประกาศมหาสงกรานต์ ปีระกาตรีศก
- ๑๘๖ ประกาศพระราชบัญญัติเรื่องพระสงฆ์สามเณรลักเพศ
- ๑๘๗ ประกาศเรื่องบรรจุของในพระเจดีย์ที่เขาพนมขวด
- ๑๘๘ ประกาศเรื่องข้าเจ้าแขงบ่าวนายแรงข่มเหงราษฎร
- ๑๘๙ ประกาศดาวหางปีระกาตรีศก
- ๑๙๐ ประกาศสุริยอุปราคา
- ๑๙๑ ประกาศพระราชบัญญัติให้ใช้คำนำหน้าชื่อชนต่างๆ
- ๑๙๒ ประกาศร่างพระราชหัดถเลขาพระราชทานนาพระเจ้าลูกเธอ
- ๑๙๓ ประกาศดาวพระเคราะห์พุธเข้าในดวงพระอาทิตย์
- ๑๙๔ ประกาศวางระเบียบให้เจ้านายแต่งพระองค์ในพิธีถือน้ำแลตามเสด็จ
- ๑๙๕ ประกาศทรงอนุญาตให้ข้างในกราบถวายบังคมลาออกจากราชการ
- ๑๙๖ ประกาศการโสกันต์พระเจ้าลูกเธอแลเฉลิมพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
- ๑๙๗ ประกาศให้นำเลขมารับหนังสือพิมพ์คุ้มสักแลสักหลังมือ
๑๖๘ ประกาศมหาสงกรานต์ปีวอกโทศก
ณวันพุธ เดือน ๔ แรม ๘ ค่ำ ปีมะแม ๑ เอกศก
[๑] มีพระบรมราชโองการให้ประกาศ แก่คนทั้งปวงบรรดาที่นับถือพระพุทธสาสนาแลธรรม ปีเดือนวันคืนอย่างเช่นใช้ในเมืองไทยให้รู้ทั่วกัน ในปีวอกโ๑๐ทศกนี้ วันพุธเดือนห้าแรมหกค่ำเปนวันเนา วันศุกรเดือนห้าแรมแปดค่ำเปนวันเถลิงศก ขึ้นศักราชใหม่เปน ๑๒๒๒ ในปีนี้การทำบุญแลเล่นนักขัตฤกษ์สงกรานต์เปน ๓ วัน ตามเคยอย่างทุกปี ตั้งแต่วันพฤหัสบดีเดือนห้าขึ้นค่ำหนึ่งไปจนวันพฤหัสบดีแรมเจ็ดค่ำ จดหมายลงชื่อปีในที่ทั้งปวงให้ว่าปีวอกยังเปนเอกศก ถ้าจดจุลศักราชให้คงเปน ๑๒๒๑ อยู่ ตั้งแต่วันศุกรเดือนห้าแรมแปดค่ำไปจนสิ้นปี คือจนถึงวันจันทร์เดือนสี่แรมสิบห้าค่ำ ซึ่งเปนวันตรุษสุดปีนั้น ให้ใช้ว่าปีวอกโทศก ลงเลขจุลศักราชว่า ๑๒๒๒ แต่เลขตามปีแผ่นดินซึ่งเขียนไว้บนศกนั้นเมื่อเปลี่ยนโทศกแล้ว ให้เขียนเปนเลข ๑๐ไปกว่าจะเปลี่ยนใหม่เถิด ในปีวอกโทศกนี้มีอธิกวาร คือเดือน ๗ เปนเดือนถ้วนนับ ๓๐ วัน คือมีเดือน ๗ แรม ๑๕ ค่ำด้วย คนฟั่นๆ เฟือนๆ เลื่อนๆ ใหลๆ จำการหลังไม่ได้ อย่าตื่นถามว่าทำไมเดือน ๗ เปนเดือนขี้จึงเปนเดือนถ้วนได้ ไม่เคยพบเคยเห็น ที่จริงนั้นเดือนเจ็ดเปนเดือนถ้วนอย่างนี้ ได้เคยมีเมื่อปีระกาเอกศก ศักราช ๑๒๑๑ ครั้งหนึ่ง มีเมื่อปีขาลฉศก ศักราช ๑๒๑๖ ครั้งหนึ่ง ในระยะ ๕ ปีบ้าง ๖ ปีบ้าง เคยมีมาแต่ก่อนอย่าให้สงสัยสนเท่ห์เลย ในปีวอกโทศกนี้ วันเสาร์เดือนห้าขึ้นสามค่ำวันหนึ่ง วันพฤหัสบดีเดือนสิบแรมสิบสามค่ำวันหนึ่ง เปนวันประชุมถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา วันจันทรเดือนหกขึ้นสิบค่ำเปนวันจะทำพระราชพิธีจรดพระนังคัล ให้ราษฎรลงมือภายหลังวันนั้น คือตั้งแต่วันอังคารเดือนหกขึ้นห้าค่ำไป แลห้ามมิให้ลงมือทำนาก่อนฤๅในวันนั้น ตลอดพระราชอาณาเขตร ถ้าถึงวันเพ็ญเดือนหกเปนวันวิสาขนักษัตรบูชา ให้เอาวันเสาร์เดือนหกแรมค่ำหนึ่งเปนวันเพ็ญ จึงจะต้องด้วยนักษัตรฤกษ์ที่เห็นตรง วันพุธเดือนแปดแรมค่ำหนึ่งเปนวันเข้าปุริมพรรษา วันเสาร์เดือนเก้าแรมค่ำหนึ่งเปนวันเข้าปัจฉิมพรรษา วันอาทิตย์เดือนสิบเอ็จขึ้นสิบห้าค่ำสมมติเปนวันมหาปวารณา อาราธนาพระสงฆ์ในพระราชอาณาจักรตรวจดูนักษัตรฤกษ์ในอากาศเปนพยานแล้ว ประพฤติการวินัยกรรมให้ชอบเทอญ แลซึ่งว่าวันอาทิตย์เดือนสิบเอ็จขึ้นสิบห้าค่ำเปนวันมหาปวารณานั้น ว่าตามลัทธิที่พระสงฆ์เปนอันมากทุกบ้านทุกเรือนในพระราชอาณาจักรนี้ นับถือกันว่าเปนอันถูกต้อง แต่ถ้าจะคิดให้เลอียดแล้ว เพราะปีนี้มีอธิกวาร วันในภายในพรรษามีแต่ ๘๘ วัน ในข้างขึ้นเดือนสิบเอ็จนั้นพระจันทร์จะเต็มเสียแต่ในวันเสาร์เดือนสิบเอ็จขึ้นสิบสี่ค่ำ ครั้นวันอาทิตย์เดือนสิบเอ็จขึ้นสิบห้าค่ำ พระจันทร์ตกแรมไปแล้ว ถ้าพระสงฆ์จะถือเลอียดตามพระวินัย ว่าปวารณาทำข้างแรมไม่ได้ ก็จงทำปวารณาเสียแต่ในวันเสาร์เดือนสิบเอ็จขึ้นสิบสี่ค่ำ ก็เปนดีแท้จริงไม่ผิดเลยแต่วันเข้าปุริมพรรษานั้นถูกแน่แล้ว ต้องเอาวันพุธเดือนแปดแรมค่ำหนึ่งเปนแน่ แต่วันเข้าปัจฉิมพรรษนั้นถ้าจะคิดโดยเลอียดดังวันปวารณา จะต้องอธิษฐานปัจฉิมพรรษาในวันพฤหัสบดีเดือนเก้าขึ้นสิบสี่ค่ำ ซึ่งจะมีจันทรอุปราคานั้นชื่อว่าเดือนหนึ่ง แต่หน้าอาษาฒบุรณมีเปนเต็มบริบูรณ์แล้ว ให้ผู้รู้แลผู้จะถือวินัยให้ถูกต้องจงพิจารณาเลือกปฏิบัติเถิดตามชอบใจ จะถือตามนักษัตรฤกษ์อันเลอียด ฤๅจะถือตามลัทธิที่เคยก็ตาม ถ้าไม่ถืออะไรก็แล้วไปเถิด ไม่บังคับบัญชาอะไรมาดอกเปนแต่บอกให้ทราบ เชื่อก็ตามไม่เชื่อก็แล้วไปอย่าว่าอะไรเลย ปีนี้สงกรานต์ทรงพาหนอะไรภักษาหารอะไรถืออะไรจะว่ามาก็ไม่ต้องการ
วันพุธเดือนเก้าขึ้นสิบสี่ค่ำปีวอกโ๑๐ทศก จะมีจันทรอุปราคา จะจับทิศอาคเณ กินเปนอัฑฒคราธกึ่งดวงหย่อนอยู่หน่อยหนึ่ง แล้วเลียบมาข้างทิศทักษิณ แล้วจะคลายออกจนหลุดทิศทักษิณค่อนข้างหรดีหน่อยหนึ่ง ที่กรุงเทพมหานครกรุงเก่าแลลพบุรีขึ้นไปข้างเหนือ ปักษ์ใต้จนเมืองสงขลาเมืองตานีเปนบรรทัดกลาง เวลาแรกจับ ๔ ทุ่มกับ ๔๔ นาที คือ ๗ บาทนาฬิกา แต่ว่าจะเหนพระจันทร์หมองมัวข้างทิศอาคเณก่อนขาดขอบ ๓ บาทนาฬิกา เวลากลางคราธคือจับเกือบถึงกึ่งดวงเปนมากที่สุด เปนเวลา ๒ ยามถ้วนเที่ยงคืนทีเดียว เวลาหลุดขอบพระจันทรเห็นเต็มเมื่อ ๗ ทุ่มกับ ๑๖ นาทีคือ ๓ นาฬิกา แต่พระจันทรยังจะหมองอยู่ข้างทิศหรดีไปอีก ๓ บาทนาฬิกา กำหนดทั้งสามสถานนี้ ถ้าจะทายในเมืองฝั่งทเลตวันออกตั้งแต่เมืองตราดเมืองจันทบุรีขึ้นมาจนเมืองชลบุรีเมืองพนัสนิคม เมืองฉะเชิงเทรา เมืองปราจิณบุรี ในแนวตวันออกกรุงเทพ ต้องทายให้แก่กว่าที่กรุงเทพดังว่าแล้วนั้น ๒ นาฬิกาบ้าง ๓ นาฬิกาบ้าง ตามเมืองที่ห่างไปตวันออก คือให้เพิ่มส่วนที่ ๓ ฤๅกึ่งแห่งบาทเข้าทายเถิด จึงถูกกับเวลานาฬิกาตั้งในเมืองเหล่านั้น แต่ฝ่ายเมืองฝั่งทเลตะวันตกตั้งแต่เมืองนครศรีธรรมราชขึ้นมาจนเมืองเพ็ชร์บุรี เมืองกาญจนบุรี ถ้าจะทายก็ให้ลดลงกว่ากำหนดที่ว่าแล้วนั้น ๒ นาทีบ้าง ๓ นาทีบ้าง คือลดเสียเท่าส่วนที่ ๓ แห่งบาทฤๅกึ่งบาท ตามเมืองที่ไกลแลใกล้กรุงเทพไปข้างตวันตก เพราะเวลาเที่ยงคืนเที่ยงวัน ในฝั่งตวันตก เปนหลังเที่ยงคืนเที่ยงวันในฝั่งทเลตวันออก ๔ นาทีบ้าง ๕ นาทีบ้าง ๖ นาทีบ้าง พยากรณ์จันทรอุปราคานี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคำณวน มิใช่โหรทำถวาย
ประกาศมาณวันพุธเดือนสี่แรมแปดค่ำปีมะแมเอ๙กศก พระยาประสิทธิ์ศุภการ แลพระศรีสุนทรโวหาร เปนผู้รับสั่ง