๑๖๗ ประกาศว่าด้วยทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

ปีมะแมเอกศก

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ สุทธิสมมติเทพยพงศ วงศาดิศวรกระษัตริย วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์ตริตรองในการจะทำนุบำรุงพระพุทธสาสนาให้รุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่พระสงฆ์ ราชาคณะ ถานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ ฝ่ายคามวาสีอรัญวาสีทั้งในกรุงนอกกรุง ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการในหัวเมือง เอกโทตรีจัตวา ปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือให้ทราบทั่วกันว่า การในพระสาสนาคือพระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท รักษาพระจตุปาริสุทธิศีลแลจำเริญสมถะวิปัสนา ทำสังฆกรรมมีอุโบสถกรรมเปนต้น แลการที่ปฏิบัติตามโบราณคติทั้งนี้ พระสงฆ์บางพวกก็ประพฤติตามโบราณคติท่านผู้เปนครูอุปัชฌายอาจารยแต่ก่อนสั่งสอนให้ศึกษาสืบๆ มา พระสงฆ์บางพวกได้เห็นพระบาลีในคัมภีร์พระวินัยได้ดำริตริตรองเห็นถ่องแท้แน่ในใจ แล้วปฏิบัติไปตามตนเห็น ด้วยสำคัญว่าอย่างนั้น เปนการฝืนอย่างโบราณดั้งเดิม แลการนั้นผู้ซึ่งไม่ได้รู้ด้วยเห็นด้วยก็เรียกว่าเปนการอุตริขึ้น แลในที่ถูกเที่ยงแท้ในพระบาลีคัมภีร์พระวินัยสิกขาบทนั้น จะให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงรู้เห็น แลเชื่อต้องกันพร้อมเหมือนกันนั้นก็เปนอันยาก พระสงฆ์สองพวกนี้จะประพฤติปฏิบัติแปลกต่างกันบ้าง ในอภิสมาจาริกวัตรเปนต้นว่าพินทุอธิฐานปริโภคนุ่งห่มสบงจีวร อย่างมอญอย่างไทยอย่างไรในหลวงก็ไม่ต้องห้ามตามแต่ใจของพระสงฆ์จะปฏิบัติ เพราะเปนการประพฤติดีไม่เปนการทุจริตไม่ติดไปด้วยการบาปหยาบช้า ไม่เกี่ยวข้องการแผ่นดิน แต่อย่าให้พระสงฆราชาคณะ ถานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการอนุจร แลฆราวาสที่มียศบรรดาศักดิ ที่ไม่มียศบรรดาศักดิ ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการที่นับถือพระสงฆ ซึ่งเปนครูอาจารยแลพวกของตัว ข่มขี่ปรับโทษว่าเปนผิดลงทัณฑกรรม แลติเตียนนินทาว่ากล่าวเสียดสีกระทบกระทั่งแก่พระสงฆพวกอื่น ที่ปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างเล็กน้อยดังนี้ ไม่เปนประโยชนสิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย ถ้าแลประชุมกันมากเปนการใหญ่ฝ่ายสมณะฤๅฆราวาส เปนการแปลกประหลาดณหัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการเมืองนั้นบอกมาให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท จะได้ทรงพระราชดำริห์ตริตรองว่าจะเกี่ยวข้องในการแผ่นดินบ้างฤๅ ๆ ไม่เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จะเปนความดีฤๅร้ายประการใด จะได้โปรดเกล้าฯ ให้ชำระ ที่ไม่ควรจะชำระก็จะไม่ให้ชำระ ด้วยทรงรังเกียจว่าจะเหมือนเรื่องความผู้วิเศษเกิดขึ้นที่เมืองประจันตคิรีเขตร ผู้วิเศษคนนี้คิดทำการโกหกล่อลวงกรมการแลราษฎรที่ไม่มีปัญญา ให้ลุ่มหลงเลื่อมใส แล้วตั้งซ่องประชุมชายหญิงชาวเมืองนั้น ชักชวนหญิงให้ถวายเมถุนธรรมแก่ตัว ทำเล่ห์กลให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จึงทรงรังเกียจในพระราชหฤทัยดังนี้ ถ้าประชุมกันเปนการใหญ่ฝ่ายสมณฤๅฆราวาสในหัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการบอกมาให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ให้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทดังกล่าวแล้วนั้น ข้อหนึ่งพระสงฆในพระอารามใด ขัดสนด้วยบิณฑบาต จึ่งทำเวชชะกรรมเปนหมอยารักษาโรคป่วยไข้ แก่ตระกูลที่มียศบรรดาศักดิแลราษฎร ฤๅทำการช่างต่างๆ แต่พอได้ทรัพย์มูลค่าจตุปัจจัยทั้งสี่เลี้ยงชีวิต ในหลวงก็ไม่ทรงห้าม เว้นเสียจากการที่ประพฤติทุจริต เปนการบาปหยาบช้าทำให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน คือภิกษุประพฤติเปนพาลคบเพื่อนทำอนาจารการลามก สูบฝิ่นสูบกันชาเสพสุราบ้าหรั่น กินน้ำตาลเมาเหล้าอุกินเข้าค่ำ เที่ยวตีชิงวิ่งราวไม่มีหิริโอตตัปปะ แลเปนนักเลงเที่ยวกลางคืนถือเครื่องศัสตราวุธ ปืนเล็กหอกดาบขวานเล็กมีดหมอมีดกรายมีดกะหลาป๋ากล้องใหญ่ กระบองสั้นกระบองยาวมีเหลี่ยมแลไม่มีเหลี่ยม เที่ยวลอบยิงลอบแทงฟันตีกันกับเพื่อนสมณะฤๅคฤหัสถ์ในนอกพระอาราม แลเปนนักเลงเล่นการพนันชนนกเขาชนไก่วิ่งวัววิ่งควาย เล่นโปถั่วหวยกำตัดเล่นปลากัดตัดทุเรียน โพกศีร์ษะห่มผ้าขาวสีชมภู แลเที่ยวดูงานมโหรศพเบียดเสียดแทรกผู้หญิง แลนั่งพูดกับผู้หญิงในที่ลับสองต่อสอง ส้องเสพย์เมถุนธรรมกับด้วยบุรุษสัตรีจนถึงชำเรา แลลงเรือแจวเรือพายไปกับผู้หญิง ขึ้นล่องแข่งเรือเล่นทุ่งเล่นกฐินชักพระ เที่ยวดูเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวรแห่พยุหบาตร ทำองอาจไม่หลีกหลบ แจวเรือพายเรือเดินผ่านกระบวร ทำให้เสื่อมพระราชศรัทธาแลพระเกียรติยศในหลวง แต่บรรดาต่างประเทศที่ไม่นับถือพระพุทธสาสนาเข้ามาอยู่ในพระมหานครนี้ ได้เห็นพระสงฆประพฤติอนาจารอย่างนี้ ก็จะติเตียนนินทาได้ว่าคนไทยชาวสยามนี้เคารพนับถือผู้ที่ไม่สำรวมกาย ไม่ปฏิบัติให้เปนที่เลื่อมใสของผู้เคารพนับถือดังนี้ จะว่างามดีว่าประเสริฐอย่างไร ภิกษุผู้ประพฤติอนาจารให้เกี่ยวข้องการแผ่นดินดังนี้ ในหลวงจะต้องทรงชำระ แลพระสงฆ์ทำการสวนไร่นาตัดไม้ทำเรือ ตัดไม้ไผ่ตัดขอนสักตัดเสาขาย แลล่องแพไม้ขอนสักไม้เสาไม้ไผ่ไม้รวกขาย ล่องเรือฉลอมเรือเป็ด แลเรือแม่ปะเรือกูและ แลเรืออะไรๆ ใหญ่เล็ก บรรทุกข้าวแลสินค้าต่างๆ มาขาย แลขายลงเรือกำปั่นสำเภาปักษ์ใต้ ด้วยกำลังตัวฤๅเข้าส่วนกับฆราวาส เปนสุงกะฆาฎขาดจากอากรสมพักสรภาษี ที่เปนพระราชทรัพย์ของหลวงแลทรัพย์ของราษฎร แลประกอบการดังฆราวาส ไถ่ทาสทำกรมธรรมใส่ชื่อตัว เก็บเอากระยาดอกเบี้ยแก่ผู้มากู้มาขายตัวบุตรภรรยาแลญาติพี่น้องทาสชเลย ฤๅพวกของตัว ผูกดอกเบี้ยแลรับจำนำทำตึกทำเรือนโรงร้านเรือแพขาย แลให้เช่าเก็บเอาค่าเช่า ฤๅเข้าส่วนกับฆราวาส ปราศจากละอาย เปนมิจฉาชีพไม่ชอบในสมณกิจ แลพระสงฆ์อวดความรู้เปนผู้วิเศษทำเวทมนตคาถาเสกน้ำรดน้ำประ ผู้มียศบรรดาศักดิแลราษฎรผู้ดีไพร่ให้เกี่ยวข้องการแผ่นดินทั้งนี้ ในหลวงจะต้องทรงชำระ

ข้อหนึ่งการที่จะว่ากล่าวข่มขี่แลยกย่องทั้งสองนี้ เปนการสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ด้วยว่าพระวินัยสิกขาบทเปนที่ดำรงพระพุทธสาสนาให้ถาวร สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินได้เปนผู้ทนุบำรุงให้รุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า เพราะฉนั้นผู้ที่ทำพระพุทธศาสนาให้มัวหมองจึ่งต้องทรงชำระ ฝ่ายสมณะผู้ประพฤติชอบประกอบการปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท ก็ทรงสงเคราะห์ยกย่องโดยสมควรแก่คุณวิเศษมากน้อย เพราะฉนั้นพระราชาคณะ ถานานุกรมแลเปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร ฝ่ายคามวาสีอรัญวาสี ในกรุงนอกกรุงทั้งปวง จงประพฤติโดยชอบประกอบด้วยศีลสังวร อุสาหศึกษาสอนศิษยานุศิษยในข้อพระวินัยสิกขาบท แลให้เล่าเรียนคันถธุระวิปัสสนาสมณกิจ จึงจะสมควรเปนสมณสักยบุตรสมมตสงฆ์อันประเสริฐในพระพุทธสาสนา เปนที่นมัสการบูชาสการะเนื้อนาบุญของเทวดามนุษย์บุรุษสัตรีที่เปนสัมมาทิฏฐิ ให้พระสงฆ์ทั้งปวงจงมีความปราถนาแลพยายามจิตรแลปัญญา พิจารณาในวินัยสิกขาบทให้เห็นพร้อมกัน เมื่อเห็นผิดชอบประการใดก็ให้ไต่ถามปฤกษากันโดยบาลีแลอรรถกถาอาจริยวาท คือถ้อยคำของอาจารยสั่งสอนสืบๆ มา กับอัตตโนมัติปัญญาของตัว สอบสวนให้ถูกต้องกันเห็นสมควรแล้ว จงอนุโมทนาสาธุแก่กัน ถ้าไม่ชอบใจจงตั้งจิตรเปนอุเบกษาเพิกเฉยไว้ อย่าได้มีจิตรเปนฉันทาคติเปนโทษาคติภยาคติโมหาคติแก่กัน จงเห็นแด่พระเดชพระคุณในหลวงที่ทรงบริจาคพระราชทรัพย์นับมิได้ ออกปฏิบัติด้วยจตุปัจจัยทั้งสี่ โดยสมควรแก่คุณานุรูปอันมีคุณวิเศษมากวิเศษน้อย ได้ทรงทนุบำรุงพระพุทธสาสนาให้ถาวรรุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า

ประกาศมาณปีมะแมเอกศก ในรัชกาลปัตยุบันนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ