รุ่งขึ้นอีก ๓ วัน ในเวลาบ่ายราว ๑๖ นาฬิกา นุชกำลังสาละวนจัดตู้เสื้อผ้า ที่คุณหญิงได้ซื้อมาให้ใหม่ หญิงที่หล่อนเรียกว่ามารดาได้เดินเข้าในห้องอย่างเงียบเชียบ ในมือถือดอกกุหลาบมาด้วยช่อหนึ่ง นั่งลงบนเก้าอี้แล้วบอกว่า

“วันนี้น้าพงศ์เขาจะมารับนุชไปดูหนัง”

นุชเหลียวมาดูด้วยความประหลาดใจ เพราะหล่อนมิได้รู้สึกตัวว่า คุณหญิงได้เข้ามาในห้องแต่ เมื่อไร เมื่อเห็นช่อดอกไม้ในมือท่านหล่อนก็ละจากงานที่ทำอยู่ เดินเข้ามาหาพลางถามอย่างร่าเริง

“นั่นดอกกุหลาบจากบ้านน้าพงศ์หรือคะ?”

“ไม่ใช่ นายสุนทรส่งมาให้ และสั่งให้บอกว่า วันนี้เขาจะมารับประทานน้ำชาด้วยตามเคยไม่ได้”

“อา!” น้ำเสียงแสดงความผิดหวังอย่างเห็นชัด ส่วนสายตานั้นจับอยู่ที่ดอกกุหลาบประดุจถามว่า วัตถุนั้นผู้ให้มิได้ให้มาสำหรับหล่อนดอกหรือ?

“พ่อพงศ์จะมาถึงนี่ ๒ ทุ่มครึ่ง” คุณหญิงบอก

“อ้อจริง! น้าพงศ์! น้าพงศ์ใจดีแท้ๆ เขาโทรศัพท์มาบอกหรือคะ?”

“เปล่า เขาเขียนการ์ดมา”

“โอ! ขอนุชดูหน่อยได้ไหมคะ น้าพงศ์ใจดีอย่างไรถึงได้นึกถึงนุช”

คุณหญิงส่งนามบัตรที่ถือติดมืออยู่ให้บุตรี หลังบัตรนั้นมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า

“ผมจะมาตามสั่งเวลา ๘.๓๐ ล.ท.”

นุชอ่านทวนความนั้นเป็นครั้งที่ ๒ ด้วยความประหลาดใจ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นดูคุณหญิงพลางถามว่า

“ตามสั่งของใคร? ของคุณแม่หรือคะ?”

คุณหญิงพยักหน้า ในอึดใจนั้นเองริมฝีปากสีแดงของนุช ก็ประทับลงบนแก้มคุณหญิงอย่างเต็มรัก

“How nice of you, Mother dear You are wonderful, wonderful!”

ไม่ต้องสงสัย นุชได้สันนิษฐานและเชื่อความสันนิษฐานของตนเองอย่างแน่ใจว่า คุณหญิงได้จัดการครั้งนี้ เพื่อปลอบใจหล่อน ในข้อที่สุนทรจะมาหาหล่อนไม่ได้ตามที่ได้นัดกันไว้เมื่อวันวาน เมื่อมีมารดาที่อารีและรู้ใจถึงเพียงนี้ใครเล่าจะไม่บูชา ถึงแม้บางคราวคุณหญิงจะได้เคยมึนตึงห่างเหินกับหล่อนประหนึ่งว่าเบื่อหน่ายไม่อยากพบเห็น ซึ่งได้ทำให้นุชฉงนและน้อยใจเป็นหลายหน แต่ในคราวที่ดีท่านก็ดีอย่างน่าพิศวง จนทำให้นุชผู้มีนิสัยไม่ผูกใจจำอยู่แล้วลืมความน้อยใจง่ายยิ่งขึ้น มีตัวอย่างดังเช่นความดีในวันนี้เป็นต้น ที่ทำให้หัวใจของนุชตื้นต้นไปด้วยความรักและกตัญญู

เมื่อนุชได้ถอยห่างไปจากท่านแล้ว คุณหญิงจึงถามขึ้นว่า

“ตู้เป็นอย่างไร ถูกใจไหม? ที่แขวนเสื้อไม่สูง เท่าตู้ที่เรามีในอังกฤษ เพราะว่าเสื้อไทยไม่ยาวเท่ากระโปรง ใส่ชั้นได้อีกชั้นหนึ่งจะได้จุของมากๆ”

“สวยงามดีหมดทุกอย่าง นุชชอบมากที่สุดของที่คุณแม่หาให้ถูกใจนุชเสมอ taste ของเราไม่ผิดกันเลยนี่คะ”

“ดีแล้ว” คุณหญิงกล่าวพลางลุกขึ้นยืน “ไปทำงานเสียให้เสร็จไป๊ลูกไป๊ แม่จะไปช่วยอัมพรเขาจัดห้องของแม่เหมือนกัน อ้อ! ดอกกุหลาบจะต้องการปักขวดบ้างก็เอาซิ แบ่งไว้แล้วเหลือนั้นเอาไปให้แม่”

นุชรับช่อดอกไม้จากมือท่าน แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน พอท่านถึงประตู หล่อนก็วิ่งตามไปส่งส่วนหนึ่ง ให้กับท่านพร้อมกับถามว่า

“อัมพรจะไปด้วยไหมคะ?”

“ยังไม่รู้จ้ะ แม่จะถามเขาดูก่อน”

เวลา ๒๐ นาฬิกา ๒๘ นาที นุชแต่งตัวเสร็จลงมาจากห้อง ก็พอดีรถเฟียตเก๋งของพงศ์แล่นเข้ามาในบ้าน คุณหญิงกับอัมพรอยู่ในห้องรับประทานอาหาร นุชออกไปรับน้าชายที่เฉลียง เมื่อชายหนุ่มขึ้นบันไดมาแล้ว เขาตลึงมองดูหล่อนเป็นครู่ จนนุชเดินเข้าไปใกล้ยื่นมือให้ทั้ง ๒ ข้าง จึงได้สติจับมือหล่อนมากุมไว้….

หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในบัดนี้แต่งกายด้วยสีน้ำตาลอ่อนตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงบ่า เสื้อของหล่อนเป็นเสื้อแพรอย่างบางคอกลมและมีปก ทำด้วยแพรชีฟองปกคลุมลงถึงโคนแขน กับมีสายรัดทำด้วยแพรชนิดเดียวกับตัวเสื้อ คาดที่เหนือเอวขึ้นไปเล็กน้อย ผมของหล่อนเป็นทรงผมบ๊อบ ตัดสั้นเพียงคอหวีขึ้นเหนือหู แต่ปลายงอนออกมาข้างหน้า นุชมิได้ใช้อาภรณ์ประดับกายแม้แต่ชิ้นเดียว และสิ่งที่ทำให้พงศ์ผู้ได้เคยอยู่ในประเทศยุโรปมาหลายปี พิศวงที่สุดนั้นคือนุชมิได้ดัดแปลงตบแต่งแต้มเติมดวงหน้าของหล่อน มิให้ผิดแผกไปจากที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์มาแม้แต่น้อย

“What’s the matter with you?” นุชถามและยิ้มอย่างสดชื่น “อ้า พูดอังกฤษอีกแล้ว ประเดี๋ยวน้าพงศ์โกรธ ออกจากบ้านแล้วนุชจะระวังคำเดียวไม่ให้มีฝรั่งแกม คุณแม่สั่งให้นุชเรียบร้อยอย่างไทยแท้”

“นุชแต่งตัวสีนี้สวยมาก!” พงศ์กล่าวอย่างจริงจัง และยิ้มอย่างอ่อนโยน

“Fine” นุชอุทาน “I want you to be proud of me.”

“Very proud!” พงศ์รับโดยเร็วและหนักแน่น “You are lovely in this dress.”

“สีนวลไปดีกับนุชเสมอ” หญิงสาวกล่าวและยิ้มอย่างยินดีโดยปราศจากความเย่อหยิ่ง “เข้าไปหา คุณแม่กันเถอะค่ะ”

“คุณแม่ออกมาอยู่นี่แล้ว” เสียงคุณหญิงพูดขึ้น พงศ์สะดุ้งเล็กน้อยรีบปล่อยมือจากหลานหันไปทำความเคารพพี่สาว

“น้าพงศ์ชอบนุชแต่งตัวอย่างนี้” นุชรายงาน และก้มลงพิจารณาดูตัวเอง “เราต้องออกจากบ้านกี่โมงคะ?”

“มีเวลาอีก ๑๕ นาที” ชายหนุ่มตอบ “จะต้องการผัดหน้าอีกก็ทัน”

นุชหัวเราะและชำเลืองค้อนเขาอย่างกระชดกระช้อย คุณหญิงพูดว่า

“นั่งลงก่อนชีพ่อพงศ์ จะดื่มอะไรไหม?”

“Whisky and soda” นุชตอบแทน

พงศ์สั่นศีรษะ “น้ำเย็นดีว่า” เขาตอบ

นุชเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร สั่งให้คนใช้จัดน้ำแล้วก็กลับออกมา

เมื่อถึงเวลาจะไปนุชยืนขึ้นจัดผ้าและเสื้อให้เรียบร้อย หยิบกระเป๋าหนังใบเล็กสำหรับใช้ในเวลากลางคืนที่วางไว้บนโต๊ะ แล้วก็เดินเข้าหาคุณหญิง จูบท่านที่แก้มทั้ง ๒ ข้าง และกล่าวว่า

“Good night Mother! Don’t wait for me and sleep well.”

“ขอบใจจ้ะ” คุณหญิงตอบแกมหัวเราะ “ว่าแต่นุชระวังตัวให้ดี อย่าทำให้หลุกหลิกให้ใครเขาว่าได้”

“สำหรับน้าพงศ์ นุชจะระวัง Good night, Mother.”

เมื่อรถเคลื่อนที่แล้ว พงศ์จึงได้ถามถึงอัมพร

“อัมพรไม่มา บอกว่าไม่สบาย” นุชตอบแล้วพูดต่อไปเป็นเชิงปรารภ “ตั้งแต่กลับมาสยามยังไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย จนกระทั่งซื้อของของตัวก็ให้คุณแม่ซื้อ แปลกไหม? นุชเห็นแปลก”

“จะแปลกอะไร ก็แกไม่ชอบเที่ยว ไม่เหมือนนุชนี่”

“จริง!” นุชพูดอ่อยๆ “นุชเป็น...เอ้อ...too fond of pleasure อัมพรบอกกับนุชว่าอย่างนั้น แต่นุชคิดว่าอัมพร take life too seriously...and เอ้อ เขาบอกกับนุชว่าเขาจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต เขาไม่เคยรักใคร She has never been in love!!!”

“ส่วนนุชเห็นจะบ่อยที่สุด!” พงศ์กล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างห้วน

“บ่อยที่สุด!” นุชทวนคำ ไม่แน่ใจว่าเขาถามหล่อนหรือเขาตั้งใจจะประชด “what d... หมายความว่ากระไร? แน่นอน นุช in love บ่อยที่สุด และเวลานี้นุชก็กำลัง in love กับน้าพงศ์อย่างร้าย” พูดแล้วหล่อนก็ขยับตัวและเอนไหล่เข้าไปจนชิดไหล่เขา

ถ้าในเวลานั้นไฟฟ้าในเก๋งเปิดอยู่ นุชจะได้เห็นสีหน้าของพงศ์แดงขึ้นแล้วกลับซีด อีกทั้งจะเห็นได้ว่าในวาระนั้นเขากำลังนั่งตัวแข็งที่อ และบีบมือทั้งสองของเขาไว้แน่น

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ