- วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
- วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
- วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ดร
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ น
บ้านปลายเนิน คลองเตย
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๔๗๔
กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทราบฝ่าพระบาท
เกล้ากระหม่อมได้คัดรายงานของพราหมณ์ศาสตรี เรื่องปิดทวารทั้ง ๙ ไปถวายสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ครั้นวานนี้เกล้ากระหม่อมไปส่งเณรงั่วที่วัดจึ่งได้พบกับท่าน ท่านแสดงความพอใจเป็นอันมาก และท่านได้แสดงให้ทราบโดยได้เทียบเคียงแล้ว ว่าของเราก็มีเหมือนกันในสังวรคาถาว่า
“จกฺขุนา สํวโร สาธุ | สาธุ โสเตน สํวโร |
ฆาเนน สํวโร สาธุ | สาธุ ชิวฺหาย สํวโร” |
สํวโร แปลว่า ปิด ตรงทีเดียว แต่พระพุทธเจ้าสอนให้ปิดด้วยใจ มิได้ให้ปิดด้วยนิ้วมือ ชะรอยจะโปรดทางของพราหมณ์นั้นแล แต่มาแก้เป็นปิดด้วยใจ เพราะเป็นทางที่จะปิดได้จริงเสมอ การปิดด้วยนิ้วมือจะปิดได้ก็แต่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
ได้มาตริตรองเหตุผล เห็นว่าการปิดตาหูจมูกปากนั้น เพื่อห้ามมิให้รูปเสียงกลิ่นรส อันเป็นของภายนอกเข้า ปิดทวารหนักเบาเพื่อห้ามมิให้คูถมูตอันเป็นของภายในออก เป็นการกระทำด้วยความเพียรเพื่อต่อสู้ความกระวนกระวาย อันจะพึงทำลายญาณหรือสมาธิสมาบัติอะไรนั้น ให้แตกทำลายไปเสียก่อนได้สมมโนรถ
รูปพระภควัมที่ทำปิดทวารทั้ง ๙ นั้น ถ้าจะทำตามคติพระพุทธศาสนาก็ไม่เห็นอะไร เพราะปิดด้วยใจ โดยปรารถนาจะให้เห็นปรากฏ จึ่งทำปิดทวารด้วยมือตามคติของพราหมณ์ ยังยิ่งไปกว่านั้นอีก ไม่ทำตามโศลกที่พราหมณ์กล่าวไว้ ซึ่งให้ปิดด้วยนิ้วแห่งมือทั้งสองกับท้าวทั้งสอง ทำเป็น ๔ มือ ๖ มือเอาอย่างเทวรูปที่ให้มีมือมากแสดงว่ามีฤทธิมาก เพื่อให้เห็นศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
ตามที่กราบทูลมานี้ จะผิดหรือถูกก็เห็นว่าควรจะทราบฝ่าพระบาท จึ่งได้กราบทูลมา
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด