- วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๔
- วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๔ น
- วันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ พ.ศ. ๒๔๖๔ ดร
- วันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ น
วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔ น
ท่าพระ
วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔
กราบทูล กรมพระดำรง ทราบฝ่าพระบาท
ลายพระหัถรับสั่งปฤกษา เรื่องลายลักษณพระบาท ได้ทราบเกล้าแล้ว
ตามทางที่ทรงพระดำริห์ เกล้ากระหม่อมยังไม่มีความเหนสอดคล้องด้วยยังไม่เคยเหนเลย ที่ในรอยพระบาทจะเปนรูปเรื่องนิทาน แม้ว่าจะมีรูปเรื่องนิทานชาดกอยู่ในรอยพระบาทดูก็ไม่เข้าทีอะไรอยู่นั่นเอง ได้ลองตริตรองหาเหตุผลที่สมควรทำ เหนมีทางอย่างหนึ่ง ดั่งจะพุ่งถวายต่อไปนี้
เมื่อพระเจ้าแผ่นดินสวรรคต สรงพระบรมศพ เอาผ้าซับพระบาทไปบูชาเปนที่รฦกนั้น คงจะเปนธรรมเนียมมีมานานแล้ว การไหว้พระเจ้าด้วยเอาพุทธบัลลังก็เปนเครื่องนำใจนั้น อยู่ฃ้างจะห่างไกลพระองค์ รู้สึกได้ยาก เมื่อวิธีไหว้ผ้าซับรอยท้าวมีขึ้น รู้สึกสนิทใกล้ตัวดี จึงคิดเครื่องนำใจให้รฦกถึงพระพุทธเจ้าด้วยวิธีนั้น คือเอาแผ่นผ้ามาเขียนเปนรอยพระบาท สมมตว่าเปนผ้าซับพระบาทพระเจ้า เอาขึ้นแขวนบูชา ภายหลังผ้าไม่ทน จึ่งฉลักบนแผ่นไม้ แล้วเลยเฃ้าสู่การฉลักตามน่าผา ซึ่งเมืองเราก็มีเรียกว่าพระบาทตะแคง แล้วทีหลังหลงว่าเปนรอยเหยียบจึงลงสู่พื้น นี่เปนเดามูลเหตุที่จะเกิดทำรอยพระพุทธบาทขึ้น
ทีนี้จะเดาด้วยลายลักษณ คือ เมื่อทำรอยพระบาทพระเจ้า ทำไมจึ่งจะให้รู้ได้ว่าเปนรอยพระพุทธบาทต้องเอาตำราหมอดูเฃ้าผสม ตำราหนึ่งว่าใครมีรอยมือรอยเท้าดุจกงจักร ผู้นั้นเปนคนมีบุญ คือเปนนิมิตรที่ว่าจะได้เปนจักรพรรดิในภายน่า จนผีบุญเอาท้าวเหยียบฝากระป๋องซีกาเรต ให้ท้าวปูเปนวงกลมหลอกให้คนดูนับถือโดยนัยนั้น พระพุทธเจ้าก็ยกย่องกันว่ามีบุญเสมอจักรพรรดิ ถ้ามิได้ตรัสเปนพระพุทธก็จะต้องเปนจักรพรรดิแน่นอน จึงได้ทำวงจักรลงไว้ในกลางฝ่าพระบาทเปนหลักก่อน ภายหลังรูปมงคลร้อยแปดจึงตามมา เกล้ากระหม่อมได้เหนตำราดูลายมือของฝรั่ง เรียกว่าปาลมิสตรี มีแผ่นที่เส้นลายมือแลทุก ๆ เส้นให้ชื่อไว้ มีเมอคิวรีแลยุปีเตอเปนต้น เฃ้าใจว่าตำราทางอินเดียต้องมีเหมือนกันอย่างนั้น เส้นไหนที่ถือว่าดีก็เอาสิ่งที่ดีมาให้ชื่อ ลายลักษณพระเจ้านั้น เส้นที่ดีก็ต้องเอาลงหมด แต่ก็ไม่พอ ทีหลังก็เอาชื่อเส้นดีนั้นแลเขียนลงเปนรูปทีเดียว
รอยพระพุทธบาทที่เหนมาโดยมาก มักมีแต่กงจกร ในกงจักรมีเส้นผ่านดังนี้ <img> บ้าง เปนดอกไม้ในนั้นดังนี้ <img> บ้าง ถ้ามีรูปมงคลร้อยแปด สำเนียกในใจว่ารูปประจุอยู่ในวงกลม ดูเหมือนจะเก่ากว่าที่ประจุเตมรอยฝ่าพระบาท
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรส