ภาคผนวก ข.
ประวัติพระราชโมฬี (แจ่ม บุรณนนท์) วัดราชบุรณะ๑
เกิดวัน ๒ เดือน ๕ ขึ้น ๑๐ ค่ำ ปีขาล พ.ศ. ๒๔๐๙ ณ ตำบลบ้านเกาะ จังหวัดสมุทรปราการ บิดาชื่อ แย้ม มารดาชื่อ จันทน์
เมื่ออายุ ๑๙ ปี บวชเป็นสามเณรอยู่วัดจักรวรรดิราชาวาส เรียนพระปริยัติธรรม ณ สำนักพระมหายิ้ม (เขมน) เปรียญ ๓ ประโยค
ครั้นอายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ อุปสมบทที่วัดกลาง จังหวัดสมุทรปราการ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง) ขณะนั้นเป็นพระธรรมไตรโลกาจารย์ อยู่วัดราชบูรณะ เป็นอุปัชฌาย์ พระสาสนานุรักษ์ (ปาน) ขณะนั้นเป็นพระครูธรรมจริยาภิรัต อยู่วัดมหาพฤฒารามเป็นกรรมวาจาจารย์ พระปลัด (จั่น) วัดนอก จังหวัดสมุทรปราการ เป็นอนุสาวนาจารย์
อุปสมบทแล้วขึ้นมาอยู่วัดราชบูรณะ เรียนพระปริยัติธรรมในสำนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง) ขณะนั้นเป็นพระธรรมไตรโลกาจารย์ แลสำนักท่านพระยาธรรมปรีชา (บุญ) ขณะนั้นเป็นหลวงญาณภิรมย์ บอกพระปริยัติธรรมอยู่ ณ พุทธปรางค์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ครั้นปีขาล พ.ศ. ๒๔๓๓ ได้ ๖ พรรษา เข้าแปลพระปริยัติธรรม ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้เป็นเปรียญ ๓ ประโยค
ในปีนั้นเองได้เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสุตคุณ ถานาพระธรรมวโรดม คือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง) วัดราชบูรณะ มีนิตยภัตร ๘ บาท
ถึงปีมะแม พ.ศ. ๒๔๓๘ ได้ ๑๑ พรรษา เข้าแปลพระปริยัติธรรมเป็นเปรียญ ๖ ประโยค
ในปีนั้นเองได้เลื่อนเป็นพระครูปลัดเอนกอรรถธรรมวิธูร ถานาสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง) วัดราชบุรณะ มีนิตยภัตร ๑๐ บาท
ครั้นปีระกา พ.ศ. ๒๔๔๑ ได้รับตำแหน่งเป็นพระวรญาณมุนี ที่พระราชาคณะ อยู่ในวัดราชบุรณะนั้น มีนิตยภัตร ๑๗ บาท
ครั้นปีกุน พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระราชโมฬีศรีปาวจนาภรณ์ ครั้นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง) ถึงมรณภาพแล้วได้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดราชบุรณะนั้น มีนิตยภัตร ๒๕ บาท
ถึงปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๔๙ ได้ทูลลาสิกขาบทออกรับราชการฝ่ายคฤหัสในกระทรวงธรรมการมาจนปัตยุบันนี้ (ร.๕)๒