โคลงนิราศพระยาตรัง

[๑]ศรีสิทธิวิวิธบวร นครศรีอยุทธเยศ อดุลเดชฟุ้งฟ้า จบแหล่งหล้าเกรงยศ เกียรติปรากฏทั่วด้าว ทุกไทยท้าวพำนักนิ์ เฉกหลักโลกย์ภูลเกษม เปรมใจเมืองมิ่งเย็น เป็นมงคลจักรพาฬ พิศาลสุขสมบูรณ์ ปูนแมนมารังสฤษฏ์ เพื่อบพิตรเจ้าช้าง ยศยิ่งยศฦๅอ้าง อาจให้พึงแสยง ฯ

๏ อยุทธยาโสภิตโพ้น มาแปลง เป็นฤๅ
ฤๅว่าบุญเพรงแสดง พระสร้าง
สิงหาสน์พิมานแสยง สยบโลกย์
แสงสุวรรณพร่างพร้าง พระพริ้มพรายตา ฯ

[๒]

๏ พรายพรายพระพุทธแก้ว มรกต
ศรีสุวรรณแจ่มจรด รุ่งเร้า
พิหารเลื่อนมุขลด รุจิเรข เรืองแฮ
ไตรโลกย์เล็งคํ่าเช้า นอบน้อมกรถวาย ฯ

๏ ดิเรกกรุงเกียรติเจ้า จักรพาฬ
จูงจิตรพลเมืองสถาน สู่ฟ้า
กัลยางค์นิคมชาญ ชายชื่น ชมแฮ
โสภิตภพเลื่องหล้า แหล่งล้วนฦๅเกษม ฯ

๏ เสนาะสารเสาวนิศน้อง รำพัน แถลงนา
ปางนิราแรมขวัญ เนตรไว้
อกเรียมตระลึงศัลย์ สุดสิ่ง รักแม่
แสนกระซิกโศกไข้ ขุ่นไข้ใจเรียม ฯ

๏ แอบองค์นาริศน้อม แนบทรวง
ลูบอุทรเซร็นดวง สวาดิไหม้
อ้าโฉมวิมลพวง มาเลศ เรียมเอย
ควรเตรียกกายเรียมไว้ หว่างห้องทรวงสมร ฯ

[๓]

๏ เกษนีอมเรศเอื้อม องค์แผลง เจ้าฤๅ
ฤๅสุเรนทรชุมแปลง หลากหล้า
ลาลงธรณิศแลง ลองรูป ฤๅแม่
หลีกสุเรนทรยวลหน้า พี่แล้วเนาใด ฯ

๏ สิบทิศทิพยรสฉ้อง ฉมสมร ปองแม่
พ่างพิโดรทรวงอร โอษฐ์อ้อน
งอนธุชรถจันทร เนืองเนตร กูเอย
งามแม่งอนสมรค้อน เคร่าช้าวันเห็น ฯ

๏ เดาะดวงดุจเด็จตั้ง ติดตา อยู่แม่
พูนดำตรูงตฤษณา พิศพื้น
ลำทรวงทิพยสุธา เพ็ญภาคย์ พี่ฤๅ
คลำแม่คลำฤๅลื้น ยอบเช้าคืนงาย ฯ

๏ จักรพรรดิภูวนารถไท้ ทศองค์
ชมวิเชียรเชยอนงค์ เนื่องหน้า
ภิรมย์รสยรรยง ยุพโยค แม่แม่
สนุกนิ์ที่สุดรสห้า แห่งน้องกลเดียว ฯ

๑๐

๏ ถวิลรสรสอ่อนโอ้ เอาใจ พี่นา
สรงสระทิพยมาลัย หลั่งนํ้า
จากสมรพี่เสพใด ฤๅมุ่ง เหมือนเลย
ชายแต่สายเนตรซํ้า ทราบรู้เรียมถวิล ฯ

๑๑[๔]

๏ กรกุมโกเมศช้อน ชูเชย
กลิ่นสุคนธรเหย หื่นฟุ้ง
นาสาประสงค์เสย จูบสั่ง หลายครู่
ทรวงทับทรวงสะดุดสะดุ้ง สะดวกแล้วลาศรี ฯ

๑๒

๏ อยู่เทอญสุดสวาดิสร้อย สงสาร
เรียมจากนุชไปนาน เนิ่นช้า
สาโรชรสเสาวมาลย์ วายกลิ่น แล้วแม่
รักจักโรยแรมหน้า แม่หน้านวลผจง ฯ

๑๓

๏ เสร็จโลมเสร็จสั่งสิ้น สอนสมร พี่นา
ลงสู่สำเภาจร จากคุ้ง
ร้อยยากบ่เคยรอน รักพราก อกแม่
ใจหนึ่งหนามเหน็บสะดุ้ง เนื่องร้อยรุมกระสัน ฯ

๑๔

๏ จากมาเรือล่องนํ้า เนตรไหล
เวรวิบัติกรรมใด พี่สร้าง
แรงบาปจึ่งจูงไกล สมรมิ่ง กูเอย
แรงพี่เดียวสุดมล้าง จากร้อยแรงกรรม ฯ

๑๕

๏ ถึงวัดสามปลื้มยิ่ง อาลัย
คิดแม่ปลื้มใจใจ จักขวํ้า
นับวันจะคอยใคร ครวญปลอบ นางนา
โอ้ที่ปลื้มกลับปล้ำ เปลี่ยนร้อนมาเรียม ฯ

๑๖

๏ มาถึงถิ่นท่าตั้ง ฉางเกลือ
ปากพี่จางใจเฝือ ลิ่วล้ม
เคลิ้มคิดภาชนะเจือ จงเสพ รสแฮ
หวนว่าเกลือเจือสร้ม ม่อน้อยนางแกง ฯ

๑๗

๏ วัดทองทองอร่ามเพี้ยง ศศิฉาย
เรียมยิ่งทุกข์ฤๅมลาย ละห้อย
หวั่นจิตรคิดแหวนสาย สวาดิพี่ ฤๅวาย
อ้าแม่ถอดจากก้อย ส่งให้เรียมนา ฯ

๑๘

๏ มลักเห็นนามท่าบ้าน คอกควาย นาแม่
ควายบ่เห็นกล้ำกลาย ดั่งนี้
เฉกโฉมวิเชียรฉาย มาโนช เรียมเอย
มีแต่นามนุชกี้ เมื่อน้องเรียมเห็น ฯ

๑๙[๕]

๏ เรียมมามาลุด้าว ดาวคะนอง แล้วแฮ
เชิญเทพย์นำสารสนอง ข่าวเจ้า
ดาวนามคะนองหมอง ดาวฤกษ์ บนนา
ดีอยู่ดอกอย่าเศร้า โศกร้อนรุมถวิล ฯ

๒๐

๏ วัดราชบุรณะเบื้อง บุญใคร ทำนา
นามราชฤๅราชใด สืบสร้าง
อ้าแม่นิโทษไฉน นะนาฏ เรียมเอย
เหมือนราชให้เรียมร้าง ไป่รู้วันสม ฯ

๒๑

๏ ถับถึงบางผึ้งยํ่า อัสดง
แลบ่เห็นผึ้งลง ถิ่นถ้อง
อกเรียมนิราจง จิตรจ่อ ผึ้งนา
แลบ่เห็นผึ้งน้อง คู่คล้ายนามบาง ฯ

๒๒

๏ ถึงวัดดอกไม้มุ่ง เมิลหา
หวนกลิ่นพานพัตรา รวดเร้า
ฤๅมีรสบุปผา พรรณชาติ ใดเลย
เฉกดอกมะลิเจ้า พี่ร้างกลิ่นขจร ฯ

๒๓

๏ ถึงลัดจักลัดหน้า เรือจร
ลัดก็กลับเป็นดอน ปิดไว้
ตรงใจพี่อาวรณ์ ส่างสวาดิ แม่แม่
เรียมก็ปิดพักตร์ไห้ รํ่าซ้ำลานาง ฯ

๒๔[๖]

๏ โฉมแม่ถอดรูปไว้ ในตา พี่ฤๅ
รสโอษฐ์โบกนาสา ซาบซํ้า
ถนัดเสียงนาฏเสาวนา เสนาะโสต อยู่แม่
ตรงที่กายเรียมปลํ้า ปลอบห้วงรสสมร ฯ

๒๕

๏ กำสรรดโหยหับห้อง ทรวงอา- ดูรแม่
เชยแต่รสพัตรา เปลี่ยนน้อง
ริ้วรอยแน่งนขา ขีดแน่ว ทรวงเอย
ตอบประจักษ์รอยต้อง พี่ไว้เล็บใด ฯ

๒๖

๏ โอ้โอ๋ละพี่หม้าย มัวเมา มืดแฮ
จิตรพี่เฉาเหลือเฉา โฉดแล้ว
จากนางดั่งตกเขา เมรุพลาด ลงเอย
สุดจะสอดตาแผ้ว แผ่นฟ้าดินหา ฯ

๒๗

๏ สอดโศกทุกคํ่าเช้า อดสู ตัวเอย
เพียงพิกลกายดู ดั่งนี้
อกนางกับอกกู เหมือนดั่ง นี้ฤๅ
ฤๅว่านุชแย้มชี้ ริเหล้นกลใด ฯ

๒๘

๏ เจ็บเรียมสุดหอบหิ้ว หาบหาม แม่ฮา
ยอกซึ่งหนามเอาหนาม แสะเสี้ยน
บ่งพิษพี่จากความ เจ็บแม่ แต่แม่
ฤๅจะเบี่ยงใจเพี้ยน พี่ไว้ตรอมตาย ฯ

๒๙

๏ ถึงแถวแนวบ้านช่อง นนทรี
เรียมก็เมิลทฤษฎี หมู่ไม้
พิศพงพุ่มสดศรี เหลืองโสด แม่เอย
เรียมก็ไข้ไม้ไข้ ช่วยไข้ใจตรอม ฯ

๓๐

๏ พระแผดงเรืองฤทธิ์ไท้ เทพา- รักษ์นา
สิงสถิตศาลสมญา ชื่อไว้
แม้จึ่งจักบูชา เชิญเทพย์ ท่านแฮ
ดาลเดือดทรวงไห้ให้ เหือดร้อนแรงกระสัน ฯ

๓๑[๗]

๏ มาเห็นโชนเชี่ยวบ้าน บางขนง
บางไป่เปรียบบางทรง แม่ไว้
ขนงโฉมแม่สุดวง หางเนตร นางนา
บางใช่เอวบางให้ จากเจ้ามาบาง ฯ

๓๒

๏ สำมะโรงสำเหนียกไม้ บอกบาง
บอกวิโยคเยาวนาง เนื่องน้อง
เห็นศาลตระเหว็จพลาง ลาญสวาดิ แม่นา
เงียบดั่งเคหาห้อง พี่ร้างแรมเขษม ฯ

๓๓

๏ มาถึงนามชื่อคุ้ง จากแดง แล้วแม่
จากบ่แดงเรียมแสยง สยบหน้า
แดงเดือดเนตรเฉกแสง สายเนตร นางนา
จากบ่ปานจากช้า ชื่นช้ารสใจ ฯ

๓๔

๏ เรียมมาถึงท่าคุ้ง นที
นามชื่อบางคาวี หนึ่งนั้น
เห็นบางพร่างวารี แปลนเปลือก ตมแฮ
คลองราคแปลนเกลือกกลั้น พี่ไว้กลบาง ฯ

๓๕

๏ ถึงด่านดาลเดือดดิ้น แดสมร
เมืองสมุทรปราการกร ก่อสร้าง
เพลิงด่านที่สุมขอน เรืองโรจ
ร้อนไป่ป่านราคร้าง ยิ่งร้านเพลิงสุม ฯ

๓๖[๘]

๏ คิดเคียงสารศเบื้อง บัวปราง เจ้านา
นอนกระชงใจคราง ครั่นแค้น
นางเอยจักสระสาง โศกสิ่ง ใดเลย
บรรทุกทุกข์เรียมแหน้น อกแล้วฤๅเห็น ฯ

๓๗

๏ เจ็บจันทกินเรศครั้น ครวญคราง
ศรสอดเสียบอุรภางค์ เมื่อม้วย
ตราตรงตระหนํ่าปาง ปวดยอก ทรวงแม่
เจ็บไป่ปานเจ็บด้วย ที่ร้อนเรียมเลย ฯ

๓๘

๏ ธตรฐเหมราชผ้าย ผาดผยอง
บาศพเนจรจอง จอดเท้า
ทบองค์พระลงสยอง สยบสั่ง เหมนา
เรียมก็ดิ้นดักเด้า ดุจไท้ทวนองค์ ฯ

๓๙

๏ พิโยคจากยศแก้ว กามา กูเอย
เรียมกระสันโศกหา แม่เว้น
นํ้าเนตรพี่ตวงตา ตกพรํ่า วันแม่
ทรวงยิ่งดาลเดือดเต้น ตากร้อนพันแสง ฯ

๔๐

๏ ยามดึกเงียบสงัดด้าว เดือนฉาย แม่ฮา
วับวาบลำพูพราย พร่างพร้อย
หิ่งห้อยจับพฤกษ์ราย เรียงกิ่ง ไกวนา
แสงดั่งพลอยเพชรก้อย กรีดนิ้วนางเฉวียง ฯ

๔๑

๏ นาฬิกานุชพี่เอ้ย บอกยาม
ทรายระรินโรยตาม ช่องน้อย
ประเหลนุชบอกความ ในยํ่า ยามแม่
ทรายดั่งสายเนตรย้อย หยาดน้ำตาเรียม ฯ

๔๒

๏ รุ่งแหลมฟ้าผ่าพื้น แหลมดิน
สายสุชลโรยริน พร่างพร้าง
เจ็บจิตรเพี่อคนฉิน จากสวาดิ แม่แม่
ถนัดดั่งขวานฟ้าขว้าง ชื่อไว้ฤๅหาย ฯ

๔๓

๏ ปากน้ำดุจดั่งน้ำ เนตรเรียม แม่ฮา
เค็มก็เค็มสมรเทียม เทียบน้ำ
ตากตาตระหง่องเตรียม คอยแม่ มาฤๅ
ฟายสุชลปนซํ้า เช่นน้ำเค็มไหล ฯ

๔๔[๙]

๏ เห็นหาดหลังเต่าตั้ง กลางชล
ผุดโขดยามเรียมจน ยั่วเย้า
เพี้ยนพิศละกลกล เต่าโขด เขินเอย
สนุกนิ์ไป่ปานเต่าเค้า โคกโพ้นภูลเกษม ฯ

๔๕

๏ ต้นหนทอดดิ่งดิ้ว ดูชล
สายดั่งสายใจยล แยบชู้
เรียมพรางแม่แกว่นกล กายพี่
เหมือนสมุทรนุชรู้ หยั่งรู้ใจเรียม ฯ[๑๐]

๔๖

๏ ศรเข็มตั้งต่อแต้ม ตาลม
กลเนตรนุชเมียงคม ค่อยค้อน
ตาเรียมสอดประสม สายเนตร นางนา
พิษยิ่งศรเข็มย้อน ยอกย้อนทรวงชาย ฯ

๔๗

๏ สายแสงสุริเยศได้ นาที
พอประจวบลมดี ส่งท้าย
นายงานฉุดลดตี เพลาชัก ฉ้อนา
ใบสะบัดโบกย้าย พี่ย้ายใจกระสัน ฯ

๔๘

๏ ตกลึกเสียงคลื่นครื้น ครวญฟอง
อกพี่เพียงพังพอง พุชํ้า
กูเอยจักคืนครอง นุชเมื่อ ใดเลย
นับแต่วันจักช้ำ โศกซํ้าครวญหา ฯ

๔๙

๏ เห็นเกาะบุรพทิศท้อง ชลธี
เกาะชื่อสีชังตี อกไห้
แสดงเหตุยุบลศรี เสาวภาคย์ เรียมเอย
เกรงจักบากใจได้ อื่นแล้วชังเรียม ฯ

๕๐[๑๑]

๏ สมมุขขับแข่งหน้า นวลแข แม่ฤๅ
คิดเมื่อยามนุชแปร ประหน้า
อิงองค์แอบแกลแล เมียงม่าย
หมายว่ามุขนางถ้า พี่ถ้ารับขวัญ ฯ

๕๑

๏ สมมุขนุชนาฏแม้น เนียรมิตร
อ้าว่ามุขนุชพิศ สวาดิดิ้น
โฉมพักตร์แม่แลติด ตาพี่ ลืมฤๅ
งามไป่วายวันสิ้น สุดหน้าพรหมสรรค์ ฯ

๕๒

๏ เกาะครามเขียวเล่ห์ไล้ ครามลง
พิศพ่างพัตราอนงค์ นุชย้อม
ถนอมปลิดจากอรองค์ มาพี่ แม่นา
โหยระทดทรวงน้อม แนบผ้านางกระสัน ฯ

๕๓

๏ มลักเห็นเกาะไผ่เศร้า โศกตรอม ใจเอย
ไผ่บ่ผอมเรียมผอม ไผ่เศร้า
งอกงายรุ่นเรียงจอม ผาผาด คิดแม่
ริมรุ่นโฉมนุชเย้า ยั่วเย้ายวนใจ ฯ

๕๔

๏ เกาะส้มกลม่วงน้อง นางฝาน
จัดประจงวางจาน เรียบชิ้น
พิศผลพี่แลลาญ ลุงสวาดิ
คิดซึ่งรสมือดิ้น ดุจได้ชิมผล ฯ

๕๕[๑๒]

๏ ปานนี้ศรีสวัสดิ์เจ้า จอมสมร พี่เอย
กันต์จุไรฤๅนอน นั่งเหล้น
แซมพวงพู่เกสร บุบผชาติ ชมฤๅ
ฤๅว่านุชสระเส้น เกศน้องนานสนาน ฯ

๕๖[๑๓]

๏ ลมลงหนาวสุดไซ้ อกอวล อกเอย
เรือแล่นลมหอบหวน ห่วงน้ำ
ลมโอษฐ์รสคำชวน ชมพี่
ลมกระสันเสียวซํ้า ซ่านซํ้าทรวงหนาว ฯ

๕๗

๏ เห็นวาฬดำแหวกหว้าย ชลธี
หางโบกปากปามตี คลื่นคล้าย
กระบอกกระบัดหนี หลีกปาก วาฬแม่
ปองแม่หลีกปากร้าย เพื่อนชู้ชวนเถียง ฯ

๕๘

๏ พิศเพียนทองท่องท้อง ชมวัง
ลมละเลิงลอยหลัง แหวกหว้าย
ปางสมรแม่จรยัง เวียงราช
รูปตะเพียนทองคล้าย แม่คล้ายเพียนทอง ฯ

๕๙

๏ มังกรกระหวัดเกี้ยว ก่ายกัน
แลประหลาดสัตว์พรรณ พวกนํ้า
อกเรียมเร่งกระสัน เสียวโศก แม่แม่
ถนัดดังกอดเอวยํ้า นุชย้ายเรียมตาม ฯ

๖๐[๑๔]

๏ ระลึกระอุ่นอ้อน อกองค์ พี่อา
โหยตระชักชิดอนงค์ เนื่องเนื้อ
ชเลชลาลง ลมลาด อกเอย
โอ้ว่าอุ่นฤๅเสื้อ เปรียบเนื้อนางเดียว ฯ

๖๑

๏ ประโรศเทเวศขว้าง ขวานขวัญ แขวนแม่
หวาดสดกแดผัน ผาดฟ้า
เวหาสป่วนเป็นควัน คลีคลื่น น้อยฤๅ
แผลงซึ่งเปลวปลาบจ้า จ่อจ้องทรวงกง ฯ

๖๒[๑๕]

๏ คล้ายคล้ายอุรเวศเลี้ยว เลอชลา
มารุตโบกใบพา ไล่ซํ้า
ถนัดโฉมเสพรสกา- เมศพี่ เจียวแม่
เรือก็รู้ทีน้ำ นาฏรู้ทีเรียม ฯ

๖๓[๑๖]

๏ ถึงปราณนุชพี่ไห้ โหยหา
ปราณประจักษ์ในนา สิกเศร้า
บอกทางชีพเรียมลา นุชพี่ แล้วแฮ
เร็วแม่มามาเจ้า สั่งน้อยนางเอย ฯ

๖๔[๑๗]

๏ จ้าวลายลายฉากกั้น เตียงนอน นางนา
เขียนเล่ห์ลายสิงขร เขตรนี้
ใฝ่ใจจะขอพร นบเทพย์ ท่านแฮ
เชิญเทพย์จ้าวลายลี้ ลาศให้เห็นองค์ ฯ

๖๕

๏ มาดลเขาเขตรแคว้น ชลธี แม่ฮา
นามชื่อโขลกเขาผี หลอกเหล้น
ละลอกเพรี่ยมพรายตี ฟองฟาด
โคลงซึ่งเรือเรียมเต้น ตราบเท้าอัสดง ฯ

๖๖

๏ นมสาวฤๅไป่ได้ เห็นสาว แม่นา
เห็นแต่เกาะเรียมหนาว จิตรไข้
คิดถันนุชงามจาว มลมาศ เรียมเอย
จูบพี่เจิมรสไว้ หว่างเต้าทรวงนาง ฯ

๖๗[๑๘]

๏ เห็นฟ้าขอดเมฆแผ้ว อัมพร แม่อา
ศรีสไบนุชคอน ขอดเต้า
ทรวงถันยุพาสมร ครัดเคร่ง ทรวงแม่
เพ้อกระชงหัตถ์เท้า ทอดเงื้อมือเผยอ ฯ

๖๘

๏ ทะยานใจใจบ่ได้ เหมือนใจ กูเอย
แลจบที่เทินไศล เถื่อนถํ้า
สอดเนตรทัศนาใน พักตร์แม่ วายเลย
แลบ่พบนุชคํ้า คั่งแค้นทรวงขนาง ฯ

๖๙[๑๙]

๏ คิดวันเราแรกสร้าง สองสม สุขนา
สองประยุทธชาญชม ชะเลิ้น
เลยล่วงนิทรารมณ์ เริงรื่น ยามแม่
เกรงจะพลันพลางเจิ้น จอดถ้าคอยสมร ฯ

๗๐

๏ ธูปทิพย์หอมไป่เว้น วันหาย เลยแม่
นาสิกทิพย์ยังกลาย กลิ่นสร้อย
เสาวคนธ์ฉวีวาย เว้นชื่น ชมฤๅ
เบือนซึ่งนาสิกคล้อย จากน้อยลอยเหิน ฯ

๗๑

๏ รํ่าฝากทุกย่านนํ้า แนวสินธุ์
อาจรเมียลทุกข์ยิน ซึ่งร้อน
แรมนางสุรางค์อินทร์ สามโลกย์ แรมฤๅ
รอยนิรารสซ้อน พี่ไว้เดียวโฉม ฯ

๗๒

๏ แต่เยาว์เยาวยอดสร้อย ศรีสม- บูรณ์เอย
แสนแสน่ห์แสนสนิทชม ชื่นชู้
ตราบได้นิทรารมณ์ สมเญศ ได้แม่
ยังไป่ควรเคียงสู้ สุดสิ้นสมเกษม ฯ

๗๓

๏ ถึงสามร้อยยอดโอ้ อาวรณ์
สุดสั่งสุดโศกสมร สุดเศร้า
สุดยอดยิ่งสิงขร สูงสุด นางเอย
สุดยอดรักรักเจ้า ยิ่งร้อยพันทวี ฯ

๗๔

๏ อ่าวเกลียวเกลียวน้ำวิ่ง เวียนวน
เกลียวกลับพิกลกล ดั่งนั้น
เหลือบเหลียวอ่าวเกลียวฉงน ฉงายเปล่า ใจนา
เย็นแม่เกลียวกลมฝั้น อุ่นเนื้อทรวงเรียม ฯ

๗๕[๒๐]

๏ เห็นเขามองไล่หวิ้ว หวาดทรวง
โอ้แม่โฉมงามพวง พู่ฟ้า
เขามองไล่แลดวง พักตร์แผ่น ผาแม่
เหมือนพี่เมิลมองหน้า นุชเว้เวียนหนี ฯ

๗๖

๏ เมืองใหม่ไร้ถิ่นร้าง แรมคน
เรียมก็แรมนุชทน เทวศเศร้า
ฤๅรอยราชมาจน จำอยู่
เพียงพี่บำราศเคล้า คลาศน้องมาไกล ฯ

๗๗[๒๑]

๏ เศียรวาฬเขาเขตรขั้น สินธู
วาฬช่วยบอกว่ากู กับน้อง
แม้ม้วยชีพจักดู กันยาก แล้วแฮ
วาฬบ่รับคำร้อง รํ่าไห้ดังวาฬ ฯ

๗๘[๒๒]

๏ อำนาจความสัตย์ตั้ง ต่อสมร กูเอย
ทรวงทุเรศไฟฟอน ฟาดฟุ้ง
อรรณพเทพยสาคร ควรแม่ ราแม่
วักซึ่งชลธารทุ้ง ท่าน้ำมาทรวง ฯ

๗๙[๒๓]

๏ ละลืมรสแกล่กลํ้า โภชา
กอบแต่ชลทัดทา ทาบท้อง
ชูช้อนกระยาอา- ดูรมิ่ง กูเอย
เหียนระคายเคืองข้อง ปิดหน้ากันแสง ฯ

๘๐

๏ ประดิงอรดักด้อม ดูเดียว เจ้านา
หลงสะเทินทิศเหลียว เหลือบเศร้า
ระทวยระทดเสียว สายสวาดิ ครวญแม่
เฉวียงซึ่งกรก่ายเก้า กอดหน้าเคียงขนง ฯ

๘๑

๏ แสงเทียนสายส่งส้อง แสงเดือน
ดาลกระเวนใจเหมือน จักบ้า
คิดพักตร์บ่วายเตือน ตวงทวีป รักแม่
ละพี่เมานํ้าหน้า คํ่าเช้าคืนยาม ฯ

๘๒

๏ สาครครวญร้องหวั่น หวาดทรวง แม่ฮา
เรียมรํ่าสืบสารสรวง สอบไข้
เสมอโศกพี่จากดวง มาโนศ เรียมเอย
มาแม่ยาใจให้ พี่น้อยยาใจ ฯ

๘๓

๏ เคยชวนชมซึ่งหน้า สรวลเส สวาดินา
มือนวดแนบจังเก แกะพลิ้ว
พลางโลมลูบลาเพ ปรางมาศ แม่แม่
พลางพี่วอนนางหนิ้ว เนตรค้อนเคืองเรียม ฯ

๘๔

๏ รเศียรแสงแดดส้อง สุดเงา แม่ฮา
เคยนิทรเน้นแนบเพลา พี่เคล้า
สารศลำเพ็ญเยา เยาวรูป เรียมเอย
โอ้พี่เคยกลั้วเกล้า กลิ่นเกลี้ยงเกสร ฯ

๘๕

๏ เททรวงกลับเกลือกกลิ้ง มองหน หาแม่
ฤๅอรินทรยล ยอดชู้
อาทวานาฏจากตน พรากพี่ เอาแม่
เดียงชิสามาสู้ โศกดิ้นเดียวสมร ฯ

๘๖

๏ ลมพานาเวศหว้าย ถับถึง
เขาชื่อนางรำพึง อยู่นั้น
อ้าแม่จักคำนึง นึกเล่ห์ เขาฤๅ
เรียมก็รำพึงอั้น อกชํ้าเฉกเขา ฯ

๘๗

๏ มลักเห็นเกาะทะลุเศร้า แสนศัลย์ อกเอย
ดูดั่งคนเฉาะฟัน เจาะรุ้ง
เฉกวันเมื่อจากขวัญ เนตรนาฏ เรียมนา
เจ็บตลอดทรวงสะดุ้ง ดุจพื้นเกาะสม ฯ

๘๘[๒๔]

๏ ม่านวังฝั่งเล่ห์ย้อม แดงกล ชาดนา
เห็นฝั่งสายสินธุ์ชล เนตรซั้น
วังเวงวิเวกทน ทุกข์เทวศ ราแม่
คิดคะนึงนางกั้น ม่านให้ครวญหา ฯ

๘๙

๏ เขาหมอนหนึ่งน้องร่วม เรียงเขนย
กรตระกองก่ายเกย กอดเกื้อ
อาสูรอรองค์เอย ควรจาก ดอกฤๅ
เขนยจะแนบแทนเนื้อ นิ่มเนื้อทรวงนาง ฯ

๙๐

๏ ฤๅเขนยทวยเทพยท้าว องค์ใด นาพ่อ
มาสถิตสถานใน ที่นี้
พระเอยนุชเจียรไกล จากสวาดิ กูเอย
เชิญนิยมจิตรชี้ ช่องให้คืนสม ฯ

๙๑

๏ เกาะเวียงวังราชนี้ เยียฉงน
แลบ่ยลวังยล หนึ่งน้อย
ฤๅวังราชวิจล ในที่ นี้นา
กลพี่แคลงแม่ร้อย ชั่งเจ้าแคลงเรียม ฯ

๙๒

๏ เกาะโทนแลเล่ห์แกล้ง สาบสรร ไว้ฤๅ
กลเมื่อยามสายัณห์ ยํ่าฆ้อง
เสียงใดจักเทียมทัน เสียงสวาดิ แม่นา
กรประทับโทนร้อง ขับถ้อเรียมเถษม ฯ

๙๓

๏ ถึงแหลมไทรย้อยยํ่า อัสดง
ฤๅพระไทรฤทธิองค์ เอกนี้
อุ้มโฉมอนิรุทธทรง สมเสพ ท่านฤๅ
เชิญช่วยพาเราลี้ ลาศห้องนางนอน ฯ[๒๕]

๙๔

๏ หื่นหอมรสมิ่งไม้ ในสวน นั้นนา
หวลว่ากลกลิ่นนวล แน่งน้อง
กาหลงพี่หลงหวน หาสวาดิ แม่แม่
ลืมละเลิงหลงร้อง เรียกไห้หาสมร ฯ

๙๕

๏ มาลุดีมาลุด้าว ดลทรวง
อวลกลิ่นคันธปวงดวง ดอกไม้
โฉมหอมแม่หอมหวง เหิมสวาดิ พี่นา
มาลุดีทรวงไว้ เฟื่องฟุ้งแทนนาง ฯ

๙๖

๏ ลำดวนควรเด็ดก้าน เชยชม
นวลดั่งศรีนวลนม นุชแท้
เห็นเกดสุกรมตรม ทรวงพี่
กลแม่เด็จดวนแก้ เกศเจ้าแซมถนอม ฯ

๙๗

๏ มะลิลาหอมอบโอ้ ใดดี
เหมือนระเบียบมาลี แม่ร้อย
มาลัยจักแรมศรี สุดสวาดิ ราแม่
นุชจะกรองพู่ห้อย ยื่นให้ใครชม ฯ

๙๘

๏ นิลุบลนิลเนตรน้อง นิลพราย
นพมณีนิลอาย เนตรน้อง
เห็นนิลบุปผาชาย นึกเนตร นางนา
นุชจะส่ายเนตรต้อง ตอบต้องชายใด ฯ

๙๙

๏ ซ่อนชู้ซ่อนกลิ่นนั้น นามใคร ไม้เอย
รักพี่รักสายใจ ยิ่งชู้
อ้าโฉมแม่กลใด ฤๅทราบ กลเลย
เกรงดั่งดอกไม้รู้ ชื่อแท้เรียมแหนง ฯ

๑๐๐[๒๖]

๏ เรียมฟังมยุเรศร้อง ริมดง
ขุนมยุระเวียนวง กู่ก้อง
เรียกนางมยุระลง สังวาส
อายแก่นกเรียมร้อง เรียกเจ้าในใจ ฯ

๑๐๑

๏ เห็นหงส์เคียงคู่เคล้า สาวหงส์
พักตร์สิทธิเกล้าทรง เฟื่อยฟ้อน
ปากรับช่อหัศบง พิโยค หงส์แม่
คิดคู่รสโอษฐ์ป้อน เปลี่ยนชู้ชานสลา ฯ

๑๐๒

๏ โนรีโนริศร้อง บันเสียน เสียงนา
ชวนสุโนรีเลียน ยั่วเย้า
งามสลาบยิ่งสลับเขียน ขนชาด ปานฤๅ
ศรีสไบบ่าเจ้า พี่โพ้นปองเสมอ ฯ

๑๐๓

๏ กางเขนนางนกด้าว ใดนา
จับโศกส่งสารา ข่าวซั้น
ดูหรุนุชวาจา สารสั่ง นกฤๅ
นกบ่ตอบคำนั้น นิ่งแล้วลาเรียม ฯ

๑๐๔

๏ นกแก้วรักแก้วเช่น เรียมรัก
โฉมแม่คือแก้วจัก- ษุนี้
เบญจวรรณดั่งวันชัก ชวนชื่น
แก้วพี่เอยจักลี้ ลับแล้วแลสมร ฯ

๑๐๕[๒๗]

๏ สุริยาลาโลกย์เร้า รถทรง
เมินพิมานเลอลง ล่วงแล้ว
อกเรียมตระลึงหลง หาสวาดิ แม่นา
ดุเหว่าซั้นเสียงแจ้ว ว่าเจ้าสั่งสาร ฯ

๑๐๖

๏ เหลือบเห็นสุริเยศส้อง สบฉาย แสงนา
ฤๅสุริยะบังกาย แม่ไว้
ฉายโฉมยุพาชาย ลีลาศ มาฤๅ
ร้องเรียกนุชไจ้ไจ้ แม่เร้นเรียมไย ฯ

๑๐๗

๏ ชะนีโกนกู่ก้อง กาจดง
หวุยวิเวกเสียงหลง ละห้อย
ยามเย็นพี่เอองค์ อกเปลี่ยว เปล่านา
มาแม่เพื่อนเรียมน้อย หนึ่งแล้วจึงไป ฯ

๑๐๘[๒๘]

๏ ประหวัดประเวศน้อง ในสน- ธยาแม่
เคยแนบภาชนะยล จอกจิ้ม
ยามกินพี่คอยหน หาอร เจ้านา
จับแต่รสแล้วลิ้ม ล่วงแค้นเคืองทรวง ฯ

๑๐๙

๏ ราตรีตีทุ่มฆ้อง ขานเขิน ใจนา
ควรจะเชิญชมเมิล มุ่งม้า
รถจันทร์เทพย์บรรเหิร ผยองเมฆ เร็วแม่
รสฤดีเฉาช้า ชื่นชี้เชือนฉงาย ฯ

๑๑๐[๒๙]

๏ วิจลจิตรจ่อเจ้า เรียมหลง
หลับละเลิงหาองค์ อะเคื้อ
จากแสลงฉวีพงศ์ เพ็ญภาคย์ ควรฤๅ
เอาสไบนุชเกื้อ กอดเกี้ยวทรวงแทน ฯ

๑๑๑

๏ เคยนอนอิงแอบเจ้า ในรา- ตรีแม่
นาสิกสูบกลิ่นนา สิกน้อง
จูบโอษฐ์แม่รับสลา โอษฐ์พี่
ฤๅนิราแรมห้อง ห่างหน้านางไกล ฯ

๑๑๒[๓๐]

๏ บเริ่มนุชร่วมรู้ ในรา- ตรีแม่(เรียมสอน เจ้านา?)
เกรงจะเคยใจคลอน เคลือบเคล้น
ฉุกคิดพี่อาวรณ์ หวาดหวั่น ใจแม่
เหตุจักเป็นเพี่อนเหล้น หลากไว้นางตาม ฯ

๑๑๓

๏ ทุกข์พี่สิ่งนี้แม่ เขินเข็ญ ใหญ่แล
เกลือกมิอดใจเป็น เช่นรู้
หลากหลากซึ่งนางเห็น เหตุพี่ สอนนา
เกรงจะแนะให้ชู้ ลอบเหล้นเรียมสอน ฯ

๑๑๔

๏ บุญใดเรียมนุชสร้าง มานำ สมฤๅ
บาปสิ่งใดหนอจำ จากเจ้า
ผายพี่ไป่เคืองคำ ใดแม่ หนึ่งเลย
อกพี่ร้อนผ่าวเฝ้า กริ่งน้องเคืองเรียม ฯ

๑๑๕[๓๑]

๏ ปางโฉมราเมศน้าว ศรทรง
แผลงราพณ์วายชีพลง แหลกหลู้
เสร็จศึกสีดาคง คืนบาท พระนา
ศึกที่ทรวงเรียมสู้ รบแพ้ฤๅถอย ฯ

๑๑๖

๏ หนึ่งองค์รทเริ่มร้าง แรมสมร
โฉมนาฏเมรีจร จากห้อง
ยังเขตรฝั่งสาคร คงพักตร์ นางแม่
ควรอนงค์นุชน้อง นิ่งให้ครวญหา ฯ

๑๑๗

๏ สี่กรรอนยุทธ์สิ้น รณรินทร์
เสร็จเสด็จบรรทมสินธุ์ สมุทรนั้น
ลักษมีอรรคยุพิน โดยเสด็จ พระนา
รอยว่านุชแกล่งกลั้น กลับให้ชายเชิญ ฯ

๑๑๘[๓๒]

๏ ปางหลานกฤษณเจ้า จากองค์
ศรีอุษาเยาวอนงค์ แน่งน้อย
พลันคืนสู่สมทรง ยุพราช แม่แม่
เรียมจะพลันสมสร้อย เสพเจ้าปางใด ฯ

๑๑๙

๏ ศรีปราชญ์นิราศท้าว จุฬาลักษณ์
รํ่าเรื่องรํ่ารักทุก น่านกว้าง
ทวาทศมาศศักดิ์ สามปราชญ์ รังแฮ
ยังไป่ปานเรียมร้าง รํ่าไห้หาสมร ฯ

๑๒๐[๓๓]

๏ ฤๅทวยเทเวศไท้ ธาดา ท่านนา
เตรียกพักตร์เจิมสมรมา สู่หล้า
ตรีพักตร์พระรักษา สามโลกย์ ฤๅพ่อ
จึ่งอนงค์นุชหน้า หนึ่งหน้าเอ็นดู ฯ

๑๒๑

๏ เออองค์อมเรศท้าว จัตุรพักตร์ พ่ออา
โฉมแม่ยังเยาว์นัก ใหญ่หน้า
เยียวองค์ราชไตรจักร จักเสน่ห์ นางพ่อ
ฝากแม่ใส่หีบฟ้า ซ่อนไว้ทวีปพรหม ฯ

๑๒๒

๏ นุชเอยแต่พี่ร้อง ครวญคะนึง ถึงแม่
แม้ว่าเหวบ่อบึง หุบแห้ง
รุมรับสุชลพึง เพ็ญเพียบ แล้วแฮ
สายพรุณโลกย์เเล้ง ไป่แล้งเทวศเรียม ฯ

๑๒๓

๏ อสุรินทรฆาฏคั้น เคียงสูรย์ แม่ฮา
เวหาสอาดุรดูร มืดคลุ้ม
ทิศานุทิศปูน ปวงเมฆ มัวแม่
มัวมืดแสนทุกข์หุ้ม พี่ไว้ปองเสมอ ฯ

๑๒๔

๏ เจ็บจากเจ็บเนื่องเนื้อ ขุมขน พี่นา
สุดจะยาเยียวจน จวบรู้
หยิบยาจักยาตน ตอนเจ็บ ได้เลย
เว้นแต่ยาใจชู้ ชื่นเนื้อเรียมหาย ฯ

๑๒๕

๏ รำพันรํ่าอาจอ้าง ออกองค์ อรเอย
เข้าระคนทรวงลง รํ่าไว้
สารสมุดสมรคง คำพี่ แทนแม่
ยามเมื่อนอนจักได้ กล่อมช้าแทนนาง ฯ

๑๒๖[๓๔]

๏ ร้อยยี่สิบหกสิ้น แบบฉบับ โคลงแฮ
นิราศตรังไปรับ เศิกสู้
ฉลางบอกแห่งเหตุทัพ พุกามติด ฉลางนา
ควรแก่สํ่าปราชญ์ผู้ อ่านอ้างอวยผล ฯ

[๑] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ และ ๓๔๖ ไม่มีร่ายนำ

[๒] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๒-๓ แต่มีโคลงบทที่ ๑๒๔ แทน ความว่า

๑๒๔

๏  เจ็บจากเจ็บเนื่องเนื้อ ขุมขน พี่นา
สุดจะยาเยียวจน จวบรู้
หยิบยาจักยาตน ตอบเจ็บ ได้เลย
เว้นแต่ยาใจชู้ ชื่นเนื้อเรียมหาย ฯ

[๓] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๖-๙ แต่เป็นโคลง ๒ บทดังนี้

๏ นวลใดฤๅดุจเนื้อ นวลถัน เจ้าเลย
น่วมนุ่มทิพย์บทัน เปรียบแพ้
พระใดซึ่งรังสรรค์ โฉมสวาดิ มานา
งามประโลมโลกย์แท้ แม่แท้คมขำ ฯ
๏ โฉมแม่จักเปรียบด้วย โฉมจันทร์
จันทรอันโฉมพรรณ พร่างพร้อย
เยียวโฉมอัปสรสวรรค์ มาเทียบ ก็ดี
ปานสักกึ่งก้อยน้อย แม่แท้งามฉงาย ฯ

[๔] โคลงบทนี้มีอยู่ในสมุดไทยเลขที่ ๓๔๐ และ ๓๔๓ เท่านั้น

[๕] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ เป็นโคลงบทที่ ๒๗-๒๘ ก่อนบทที่ ๑๙

[๖] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๒๔-๒๘

[๗] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทนี้

[๘] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๓๖-๓๙ แต่เป็นโคลง ๒ บทดังนี้

๏ ภานุมาศรีบรถเงื้อม เงาเขา
แลสงัดเงาเปลา ปลอดหน้า
สายัณห์จะกลั่นเกล้า พักตร์แม่ คอยฤา
เย็นจะห่มศรีฟ้า เฉกฟ้ายอแสง ฯ
๏ ราตรีวิโยคร้าง เรียมครวญ
เคยประคองเคียงนวล แนบน้อง
รอนรสกลกวน กาเมศ
อ้าแม่ใครชวนพร้อง แม่พร้องใครฟัง ฯ

[๙] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะเรียงโคลงบทนี้ไว้หลังบทที่ ๔๖

[๑๐] หลังจากโคลงบทนี้ สมุดไทยเลขที่ ๓๔๖ จะเป็นกลโคลง นิทานคำกลอน และโคลงนิราศนรินทร์

[๑๑] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทนี้

[๑๒] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ มีโคลงแทรกก่อนบทที่ ๕๕ ดังนี้

๏ ฉานฉานละลอกขลั้ง ลมดิน
ฉ่าฉ่าสมุทรสินธุ์ เฟื่องฟื้น
พลพยุหโบกบิน เรือร่อน
เสียงอ่าวโอษฐ์สะอื้น ช่วยให้รักเรียม ฯ

อนึ่ง โคลงบทนี้คล้ายโคลงนิราศชุมพร ของ พระพิพิธสาลี ความว่า

๏ ฉานฉานกระฉอกขลั้ง ลมดิน
ฉ่าฉ่าสมุทรนองสินธุ์ เฟื่องฟื้น
พลพยุหพัดโพยมบิน เรือร่อน
เสียงอ่าวโอดอกสะอื้น ช่วยไห้รักเรียม ฯ

[๑๓] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๑ ไม่มีโคลงบทที่ ๕๖-๕๗

[๑๔] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๖๐-๖๑ ส่วนสมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทที่ ๖๐

[๑๕] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๑ มีโคลงแทรกก่อนบทที่ ๖๒ ดังนี้

๏ พระเอยทรเทิดไท้ ทานทน ใดฤๅ
มนต์แต่มนต์นิจมนต์ ช่วยป้อง
โอ้โฉมนาฏกับตน ตายแน่ แล้วแม่
ฟ้ายิ่งร้องเรียมร้อง ร่ำไห้หาศรี ฯ
๏ คลองเนตรนองเนื่องน้ำ พุธา- ราแม่
สองฟาดฟูมฟองตา ครุ่นคร้าน
เช็ดสายสุชลอา- ดูรแม่ วายเลย
รินแต่ชลเนตรต้าน ตอบแค้นเคืองทรวง ฯ
๏ ฤาควรบั่นจิตรกลิ้ง กลางใจ เจ้านา
ครวญคะนึงเนื่องใน มาดฟ้า
หนีโฉมมิ่งมาไกล อนาถ กูเอย
ควรแม่ควรจากช้า ขาดแล้วฤๅยัง ฯ
๏ นัททีทั้งฮ่าห้อง เหือดสาย สินธุ์นา
ขุนสิเนรุมาศทลาย แม่แม้น
ฟ้าดินจะกลับกลาย จากโลกย์ไปฤๅ
โฉมแม่จากเรียมแค้น คู่ฟ้าดินสูญ ฯ

[๑๖] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ มีโคลงแทรกก่อนถึงบทที่ ๖๓ ดังนี้

๏ แหลมหลวงแลบ่ได้ เห็นหลวง พระเอย
เห็นแต่หาดทรายทรวง วากว้า
แหลมใจนุชนาฏหวง แหนพี่
แหลมกว่าแหลมนี่หน้า นุชรู้เร็วแหลม ฯ

[๑๗] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ และ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทนี้

[๑๘] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๖๗-๗๒

[๑๙] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทที่ ๖๙-๗๐

[๒๐] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทนี้

[๒๑] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ เรียงโคลงบทที่ ๘๑ ก่อน

[๒๒] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ ไม่มีโคลงบทที่ ๗๘-๘๕ และมีโคลงก่อนถึงบทที่ ๘๖ ดังนี้

๏ ตำบลพาณิชด้าว เดินสถาน แม่แฮ
นามว่าเกาะจานจาน กับเข้า
จรัสครบภาชนะพาน มาพี่ แม่นา
งามไป่เคียงจานเจ้า จัดให้เรียมมา ฯ

[๒๓] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทที่ ๗๙-๘๐

[๒๔] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทนี้

[๒๕] ก่อนโคลงบทที่ ๙๔ สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ และ ๓๔๑ มีโคลงแทรก ดังนี้

๏ ชุมพรพระนิเวศท้าว องค์ใด นาพ่อ
ทรงประชุมพรใคร เสกส้อง
เฉกโฉมเริ่มเรียมไป สวมเสพ นางเอย
ญาติประชุมพรน้อง มอบเจ้ามาเรียม ฯ
๏ มลักเห็นเกาะง่ามเงื้อม ชลธี แม่ฮา
ถิ่นนิกรปักษี แอ่นน้อย
เสียรังนิราลี ลาลาศ
บินเรียกผัวจ้อยจ้อย จ่อแจ้วกลสมร ฯ
๏ จวบเขตไชเยศแคว้น ไชยา แล้วแม่
เรียมประทับนาวา จอดเข้า
แช่เสียงคณานา วิห์เรื่อย ร้องแฮ
แรมที่ลางสวนเศร้า โศกเศร้าครวญหา ฯ
๏ ลางสวนหวาดคิดสร้อย สวนสงวน แม่นา
เขาดั่งเขายลยวล จิตรเย้า
เนตรเรียมเร่งเชือนชวน ชมชื่น
ลางบอกลางสวนเจ้า พี่ร้อนใจฉงน ฯ

[๒๖] โคลงบทนี้ในสมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะอยู่หลังบทที่ ๑๐๒

[๒๗] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะเรียงโคลงบทที่ ๑๐๗-๑๐๘ ก่อนบทนี้

[๒๘] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทนี้

[๒๙] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทนี้

[๓๐] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทนี้ ส่วนสมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะเรียงโคลงบทที่ ๑๑๒-๑๑๓ ไว้หลังบทที่ ๑๑๖

[๓๑] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะเรียงโคลงบทนี้ก่อนบทที่ ๑๑๗

[๓๒] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะเรียงโคลงบทนี้ต่อจากบทที่ ๑๑๙

[๓๓] สมุดไทยเลขที่ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทที่ ๑๒๐-๑๒๓

[๓๔] สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ และ ๓๔๒ ไม่มีโคลงบทนี้ อนึ่ง หลังจากโคลงบทที่ ๑๒๕ สมุดไทยเลขที่ ๓๓๙ จะต่อด้วยโคลงนิราศพระพุทธบาท ของ พระมหานาค วัดท่าทราย

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ