คำอธิบาย
โคลงดั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนี้ เป็นผลงานเพียงเรื่องเดียวของพระยาตรังที่ระบุเวลาแต่งไว้ท้ายเรื่องว่าเป็นปี พ.ศ. ๒๓๖๑ วรรณกรรมเรื่องนี้มีลีลาการนำเสนอต่างไปจากวรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติเรื่องอื่น ๆ ซึ่งมักแต่งร้อยเรียงพรรณนาความเรื่อยไปแต่ต้นจนจบ แต่วรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติของพระยาตรังจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อ ๆ และแต่งพรรณนาความในเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียด ทำให้มีความยาวมากกว่าวรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติเรื่องใด ๆ
เนื้อเรื่องโคลงดั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัยเริ่มต้นด้วยร่ายดั้นสดุดีพระเกียรติ จากนั้นเป็นคำประพันธโคลงดั้นบาทกุญชรจำนวน ๔๗๘ บท แบ่งออกเป็น ๒๖ หัวข้อ หัวข้อแรก คือ เรื่อง “กล่าวเมีอง” เป็นบทพรรณนาถึงพระบรมมหาราชวังอย่างละเอียด และ สภาพภูมิสถานกรุงรัตนโกสินทร์โดยทั่วไป อาทิ
๕๕
๏ เทวสถานสถิตไว้ | ระวางเมือง |
สายสาดสองเสาทวาร | ย่อนช้า |
สำหรับนคราเรือง | รายเรียบ |
โถงถง่านงามหล้า | เลิศหลาย ฯ |
๕๖
๏ มีฉางพลูเพียบทั้ง | ธัญญา |
หอทะเบียนบวกหมาย | หมู่ไว้ |
ลูกขุนนอกปรึกษา | ทุกขโทษ |
ทั้งตึกดินเดชได้ | รักษา ฯ |
หัวข้อต่อมากล่าวถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรื่องช้างเผือกมาสู่พระบารมี เรื่องม้าต้น เรือพระที่นั่ง และพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค จากนั้นเป็นเรื่องมอญเมาะตะมะมาพึ่งพระโพธิสมภาร เรื่องทหารถวายมือ โดยกล่าวถึงเหล่าทหารอาสาชาติต่าง ๆ อาทิ มอญ ญวน มลายู และจีน แสดงฝีมือด้วยการประลองยุทธ์ถวาย รวมทั้งบรรยายถึงแสนยานุภาพของกองทัพไทย ลำดับต่อไปกล่าวถึงพระราชพิธีโสกันต์ ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) กล่าวถึงพระราชพิธีสิบสองเดือนว่าแต่ละเดือนมีพิธีใดบ้าง และพรรณนาถึงพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ดังเช่น
๒๒๗
๏ การเศิกพระแกว่นแกล้ว | ชาญเชิง |
ดำริกลใดหมาย | แม่นแม้น |
มาไกลกว่าสารเถิง | ทันถั่น |
พระแต่งพระตอบแก้ | มอดมือ ฯ |
๒๓๕
๏ สบสรรพพระร่วมรู้ | เรืองปราชญ์ |
ทรงพระอัชฌาชาญ | เชี่ยวพ้น |
ทุกประเทศทวยราษ- | ฎรชื่น ชมแฮ |
ดำริดำรัสล้น | เลิศเหลือ ฯ |
จากนั้นกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อราษฎร และสดุดีพระองค์ประดุจดังพระอิศวร พระอินทร์ พระพรหม พระโพธิสัตว์ และพระเมตไตรย แม้แต่เทพดายังถวายพรให้ทรงพระเจริญ สุดท้ายกล่าวถึงเหตุผลในการประพันธ์ว่าเพื่อต้องการเฉลิมพระเกียรติยศในพระองค์ท่านพร้อมทั้งขอให้พระเกียรติคงอยู่คู่ฟ้าดิน เป็นที่น่าสังเกตว่าพระยาตรังแต่งวรรณกรรมเรื่องนี้ด้วยความตั้งใจสูง เลือกสรรถ้อยคำด้วยความประณีตบรรจง มีความเปรียบเด่น ลีลาการแต่งแพรวพราว อาทิ ใช้ลักษณะกลบทและกระทู้ในบางตอน ทำให้ผู้อ่านได้รับความเพลิดเพลินถึงแม้เนื้อเรื่องจะเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระและบรรยากาศที่เคร่งขรึมจริงจัง ดังตัวอย่าง
โคลงกลบท
๓๔๐
๏ หวังหวังวรวากย์ว้า | วายปาก แลฤๅ |
คือสมุทรไหลเป็น | เปรียบอ้าง |
บังคัลคดีฝาก | ฝืนชอบ ชมนา |
คุงคู่ชีวาว้าง | วอดมรณ์ ฯ |
๓๔๑
๏ วอดมรณ์หมายมอบสิ้น | สุดพงศ์ |
พงศ์ภักดีสอนสอน | สู่ใต้ |
ใต้บาทบาทบงสุ์ | กชรัช เรืองแฮ |
ตราบพระเสด็จใดได้ | ตรัสตรอง ฯ |
โคลงกระทู้
๓๘๔
๏ พระยศพิเศษสร้าง | สบสรรพ์ |
พระยศดุรดาลดล | ดื่นด้าว |
พระยศยุทธทางธรรม์ | ธรราช เรืองแฮ |
พระยศเผยอไท้ท้าว | ทั่วเมือง ฯ |
๓๘๕
๏ พระฤทธิ์ฤทธิลาดฟ้า | ดินไหว |
พระฤทธิ์ฤทธิลลาญเลือง | โหล่งล้วน |
พระฤทธิ์ฤทธิกษัย | สูญเศิก |
พระฤทธิ์ฤทธิมาม้วน | แผ่นพาล ฯ |
ดังนั้น เมื่อประกอบกับเนื้อความที่พระยาตรังแต่งพรรณนาเรื่องราวอย่างละเอียด เป็นผลให้ผู้อ่านสามารถใช้เป็นหลักฐานค้นคว้าทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้เป็นอย่างดี ผลงานวรรณกรรมของพระยาตรังเรื่องนี้จึงสมควรได้รับการยกย่องว่ามีคุณค่าทั้งทางวรรณศิลป์และเอกสารอ้างอิงทางวิชาการ
โคลงดั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนี้ พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ สำหรับการพิมพ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๔ ได้ตรวจสอบต้นฉบับกับสมุดไทยซึ่งเก็บรักษาไว้ที่กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ ในหมวดวรรณคดี หมู่โคลง ชื่อเรื่องเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๒ จำนวน ๒ เล่ม คือ
๑. เลขที่ ๑๘๕ ตู้ ๑๑๔ ชั้น ๒/๕ มัดที่ ๑๖ ประวัติ สมบัติเดิมของ หอสมุด เป็นสมุดไทยดำ เส้นดินสอ มีเนื้อความถึงโคลงบทที่ ๑๐๙
๒. เลขที่ ๑๘๖ ตู้ ๑๑๔ ชั้น ๒/๕ มัดที่ ๑๑๖ ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุด เป็นสมุดไทยดำ ร่ายเขียนด้วยเส้นทอง ส่วนโคลงเขียนด้วยเส้นรงค์ มีเนื้อความสมบูรณ์ ที่หน้าต้นเขียนเส้นทองว่า “พระเกียรดิ์พระบาทสมเดจ์บรมนารถบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัวว ซึ่งทรงพระคุณอันประเสรอฐ” และมีข้อความเขียนด้วยดินสอขาวเพิ่มเติมภายหลังว่า “โคลงดั้นยอพระเกียรติ์ เสดจสภานายกทรงประทานมาแต่ห้องอาลักษณ ณ วัน ๓ ๗ ค่ำ ปีชวด สัมฤทธศก ๑๒๕๐”
การตรวจสอบชำระในครั้งนี้ ได้ถือตามต้นฉบับสมุดไทยเลขที่ ๑๘๖ อันเป็นสมุดไทยฉบับหลวงเป็นหลัก เข้าใจว่าใช้เป็นต้นฉบับที่พิมพ์ในครั้งแรกเพราะข้อความส่วนใหญ่ตรงกัน ดังนั้น เมื่อพบว่าคำใดผิดเพี้ยนไปจาก สมุดไทยเลขที่ดังกล่าวก็ได้แก้ไขให้ตรงกัน พร้อมทั้งปรับอักขรวิธีตัวสะกดบางคำให้ถูกต้องตามหลักภาษาปัจจุบัน ส่วนข้อความที่แตกต่างจากสมุดไทยเลขที่ ๑๘๕ นั้นก็ได้จัดทำเป็นเชิงอรรถไว้ รวมถึงได้ทำเชิงอรรถอธิบายความในเหตุการณ์และสถานที่ซึ่งพระยาตรังกล่าวถึงในเนื้อเรื่องด้วย