สร้างพระเมรุ
ส่วนพระเมรุมาศสำหรับถวายพระเพลิงนั้น เรียกนามตามเขาพระสุเมรุ ซึ่งอยู่ณท่ามกลางจักรวาฬ ฯ พระเมรุนั้น แปตารางกว้าง ๑๑ เมตร์ มีมุข ๔ มุข มุข ๑ กว้าง ๕ เมตร์ ส่วนการปรุงพระเมรุนั้นให้ทำตามส่วนสูงของเสา เสาทั้ง ๔ นั้น ให้เอาไม้ตะเคียนหรือไม้ยางยาว ๑๕ เมตร์ ๘๐ เซนติเมตร์ ตามธรรมเนียมสำหรับพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตราธิราช ผู้เปนเจ้าแผ่นดิน ฯ
เสานั้นฝังลงในดิน ๓เมตร์ คงเหลือบนดินสูง ๑๕ เมตร์ ๘๐ เซนติเมตร์ ตั้งแต่ปลายเสานั้นขึ้นไปมีหลังคาเรียกแปตาราง รูปเหมือนพระเจดีย์แปตารางนั้น
ชั้น ๑ ยาวมุมละ ๑๑ เมตร์ ๕๐ เซนติเมตร์ สูง ๙๐ เซนติเมตร์ ฯ
ชั้น ๒ ยาว ๙ เมตร์ สูง ๑ เมตร์ ฯ
ชั้น ๓ ยาว ๗ เมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๑๐ เซนติเมตร์ ฯ
ชั้น ๔ ยาว ๕ เมตร์ ๖๐ เซนติเมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๒๐ เซนติเมตร์ ฯ
ซัน ๕ ยาว ๔ เมตร์ ๖๐ เซนติมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๓๐ เซนติเมตร์ ฯ
ชั้น ๖ ยาว ๓ เมตร์ ๗๐ เซนติเมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๔๐ เซนติเมตร์ ฯ
ชั้น ๗ ยาว ๓ เมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๕๐ เซนติเมตร์ ฯ
ชั้น ๘ ยาว ๒ เมตร์ ๓๕ เซนติเมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๖๐ เซนติเมตร์ ฯ
ชั้น ๙ ยาว ๑ เมตร์ ๙๐ เซนติเมตร์ สูง ๒ เมตร์ ๒๕ เซนติเมตร์ ฯ
รวมส่วนสูงแปตาราง ๑๒ เมตร์ ๒๕ เซนติเมตร์ ตรงชั้นที่ ๙ นั้นมีคอระฆังข้างบนใหญ่ ๑ เมตร์ ๒๐ เซนติเมตร์ มีบัลลังก์รองหน้าพรหม ๔ หน้า ใหญ่หน้าละ ๑ เมตร์ ๓๐ เซนติเมตร์ สูง ๑ เมตร์ ๒๐ เซนติเมตร์ ฯ มีบัวกลุ่ม ๗ ชั้น ชั้น ๑ กว้าง ๙๐ เซนติเมตร์ สูง ๕๐ เซนติเมตร์ ฯ ชั้น ๒ กว้าง ๗๕ เซนติเมตร์ สูง ๔๐ เซนติเมตร์ ฯ ชั้น ๓ กว้าง ๖๕ เซนติเมตร์ สูง ๓๕ เซนติเมตร์ ฯ ชั้น ๔ กว้าง ๕๕ เซนติเมตร์ สูง ๓๐ เซนติเมตร์ ฯ ชั้น ๕ กว้าง ๔๘ เซนติเมตร์ สูง ๒๕ เซนติเมตร์ ฯ ชั้น ๖ กว้าง ๔๐ เซนติเมตร์ สูง ๒๐ เซนติเมตร์ ฯ ชั้น ๗ กว้าง ๓๒ เซนติเมตร์ สูง ๑๕ เซนติเมตร์ ฯ
บนบัวกลุ่มมียอดสูง ๕ เมตร์ และยอดสูงอีก ๓ เมตร์ รวมกับส่วนลึกที่ฝังไปในดินอีก ๓ เมตร์ และตั้งแต่บนดินไปถึงแปตาราง ๑๕ เมตร์ ๘๐ เซนติเมตร์ ส่วนสูงแปตารางไปถึงคอระฆัง ๑๒ เมตร์ ๒๐ เซนติเมตร์ ส่วนสูงตั้งแต่คอระฆังไปยอดบน ๘ เมตร์ ฯ
รวมทั้งหมด ๓๖ เมตร์ ฯ
การสร้างพระเมรุนี้ ออกญาเทพนิมิต (รส) จางวางช่างเขียนเปนแม่งาร ซึ่งรับเหมาเบ็จเสร็จเปนเงินราคา ๓๒,๕๐๐ เหรียญตามธรรมเนียม ต้องทำตามคำสั่งของออกญาวังวรเวียงไชย (จวน) เสนาบดีกระทรวงพระบรมราชวัง พระคลังและเร็จจณาอธิบดีผู้ตรวจ ฯ
พระเมรุพระกรุณาในพระบรมราชานุโกษฐ เริ่มลงมือทำณวันอาทิตย์ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ ปีเถาะนพศก ตรงกับวันที่ ๑๑ เดือนเสบตอม ค.ศ. ๑๙๒๗ ทำณที่ดินซึ่งมีกำแพงอิฐ ก่อโดยรอบอยู่ข้างทิศเหนือพระบรมราชวัง ข้างหน้าหรือข้างทิศตวันออกศาลาเรียนเร็จจณา (เขมรเรียกทุ่งเมรุ) พระเมรุนั้นมุงด้วยใบไม้ ดาดด้วยเสื่อกะจูด และกรุกระดาษบนเสื่อ แล้วปิดกระดาษทองเขียนลายเหมือนอย่างกะเบื้อง ฯ
ส่วนเสาพระเมรุนั้นสูง ๑๘ เมตร์ ๘๐ เซนติเมตร์ คิดทั้งฝังลงไปในดินด้วย ฯ
ตั้งแต่แปตารางไปถึงบัลลังก์ ๑๐ เมตร์ ฯ
ตั้งแต่บัลลังก์ไปส่วนสูงข้างบน ๒๖ เมตร์ ฯ
รวมตั้งแต่บนพื้นดินขึ้นไปเปน ๓๖ เมตร์ ฯ
พระกรุณาพร้อมด้วยท่านเลอเรซิดัง สุเปริเยอร์ และพระสงฆ์นายก พระราชวงศานุวงศ เสนาบดีนาหมื่นสรรพมุขมนตรี ได้ยกเสาพระเมรุโดยกระบวนพิธีตามธรรมเนียม เมื่อณวันพุธ แรม ๘ ค่ำเดือน ๑๑ ปีเถาะนพศก พระพุทธศักราช ๒๔๗๐ ตรงกับวันที่ ๑๙ เดือนโอกโตบ ค.ศ. ๑๙๒๗ ฯ