- คำนำ
- พระศิลปานุจิตรการ (ฉัตร อินทรเสน)
- ประวัติ อำมาตย์ตรี พระศิลปานุจิตรการ (ฉัตร อินทรเสน)
- กฎเรื่องร้องฟ้องความซับซ้อนกันหลายศาล
- กฎว่าด้วยการเรียกสินไหมพินัยคดีความ
- หมายรับสั่งเรื่องความทุกข์ยากของลูกหมู่
- กฎเรื่องลักษณการปกครองหัวเมือง
- กฎเรื่องให้รับน้ำพระพิพัฒนสัจจา
- กฎเรื่องการพิศูจน์เล็บในสำนวนความ
- กฎเรื่องเจ้าหมู่มูลนายเบิกคู่ความไปใช้ราชการ
- กฎเรื่องให้จับกุมคนวิวาททำร้ายกันในที่ต่างๆ
- กฎเรื่องการรับฟ้องตามพระธรรมนูญ
- กฎเรื่องการรับฟ้องต่าง ๆ
- กฎเรื่องการรับฟ้องกล่าวโทษตุลาการผู้พิจารณาความไม่เที่ยง
กฎ เรื่องลักษณการปกครองหัวเมือง
กฎให้แก่ผู้รักษาเมือง ผู้รั้ง กรมการ และขุนยกระบัตร กรมการทั้งหลาย ด้วยพระบาทสมเด็จ บรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการมานพระบันทูลดำรัสเหนือเกล้า ฯ สั่งว่าแต่นี้ไปเมื่อหน้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ผู้ใดไปอยู่รักษาเมือง และผู้รั้งเมือง เอก โท ตรี จัตวา ทั้งปวง และไปราชการพระราชสงคราม และมิได้บอกสารทุกข์ และมิได้มีหนังสือหาและมาเองนั้น มิชอบ จะให้ลงพระราชอาชญาถึงสิ้นชีวิตร อนึ่ง บอกกิจสุขทุกข์มา และมีหนังสือไปหาให้มาและม ก่อน และหนังสือไปหาและพบแต่กลางทางนั้นมิชอบ และจะให้ลงพระราชอาชญาโดยโทษานุโทษ อนึ่ง อย่าให้เจ้าเมืองและผู้รั้งเมือง เก็บเอาลูกหลานราษฎรทั้งหลายมาเปนเมีย และเปนคนใช้ ถ้าพ่อแม่พี่น้องญาติรักสมัคให้ด้วยไมตรีก็ดี กล่าวถามให้คำนับไซร้ ก็ให้ตามพ่อแม่พี่น้องญาติสมัคด้วยนั้น อนึ่งจะตัดไม้ทำเรือนและเอาโดยขนาดเจ้าเมืองทั้งหลายทอดไปพลเมือง ให้ทำโดยเจ้าเมืองทั้งหลาย อันให้ทำแต่ในรัจสำหรับเมืองนั้นก่อน ผิว์จะทำเรือน ทำเรือเจ้าเมือง และบุตรภรรยาเจ้าเมืองนอก ทำเมืองให้เจ้าเมือง ชาวโคและเกวียน พลเมืองตัดไม้นั้น และให้ค่าจ้างเปนค่าราษฎรเคยจ้าง อนึ่งให้เจ้าเมือง ผู้รักษาพยาบาลประชาราษฎรอันมีในจักรวรรดิแขวงเมืองนี้ อย่าให้มีผู้เบียดเบียนกรรโชก รุกรันฆ่าฟันไพร่เมืองท่าน ถ้าและเจ้าเมืองและผู้รั้งเจ้าเมือง มิได้พิทักษ์รักษาราษฎรไพร่เมือง และผู้ร้ายปล้นสดมภ์ เบียดเบียนกรรโชก รุกรันฟันแทงไพร่ทั้งหลายได้ไซร้ จะให้ลงโทษแก่เจ้าเมืองและผู้รั้งจงหนัก ถ้ามีผู้มากรรโชกทำเหลือที่จะว่ามิได้ไซร้ ให้บอกหนังสือเข้าไปยังมหาดไทย ให้เอากราบทูลพระกรุณาให้ทราบฝ่าลออง ฯ อนึ่งจะนั่งพิพากษากิจบ้านเมือง และราษฎรร้องฟ้องสำหรับเมืองนั้นประการใด ให้ยกระบัตรรู้เห็นผิดและชอบนั้นด้วย อนึ่งชาวต่างเมืองไปเปนความด้วยชาวเมืองใด ๆ ไซร้ ให้ยกระบัตรนำชี้แก่เจ้าเมือง อย่าให้ผู้ใดเอาชี้นอกขุนยกระบัตร อนึ่งให้เจ้าเมือง ผู้รั้ง และยกระบัตร พิจารณาดูตราซึ่งจะออกมาเอากระทรวงความทั้งปวงนั้น และชอบด้วยพระราชกำหนดและพระธรรมนูญให้ใช้ตรานั้น จึ่งให้ทำตามพระราชกำหนดแลพระธรรมนูญนั้น ถ้าและตราผู้ใดออกไปเอากระทงความ และมิต้องด้วยพระราชกำหนดและพระธรรมนูญนี้ไซร้ อย่าให้ส่ง และให้บอกหนังสือและเอาตัวผู้ถือตรานั้นส่งเข้ามายังมหาดไทย อนึ่งและเจ้าเมืองจะออกไปรักษาเมือง และรั้งเมือง ก็ดี อย่าให้เอาสมกำลังสังกัดพรรคไว้เปนสมกำลังเอง ครั้นออกไปถึงเมืองไซร้ให้กรมการนำด่านทาง ตำบลใดจะไปต่อตำบลใดก็ดี ให้รู้จักตำบล แล้วและให้เจ้าเมือง ผู้รั้ง และกรมการไปพิจารณาดูด่านจักรวรรดิแขวงเมืองนั้นจงทั่ว ให้รู้จักว่า จักรวรรดิด่านใดไปต่อแดนตำบลใด แลเห็นมีมั่นคง ถ้าและที่ใดชอบกลให้ตั้งด่านจงมั่นคง และตั้งขุนหมื่นกรมการอันพอแกพอรางและไพร่สมควรสรรพไปด้วยศัสตราอาวุธ ผลัดกันอยู่รักษาด่านอย่าให้ขาด ถ้าและทางตำบลใดเห็นจะเล็ดลอดมาได้ และจะรักษายากไซร้ให้ตัดไม้ทับทางตำบลนั้นเสีย แล้วและให้ลงขวากหนามจงหนักหนา และแต่งกรมการ ตำรวจ ตระเวนด่านบรรจบกันทุกตำบลอย่าให้ขาด ถ้าและพบ ลาว มอญ พะม่า ไทยใหญ่ เขมร ราษฎร ไปค้าขาย และหาตราเบิกด่านมิได้ก็ดี มีผู้ถือตราเบิกด่าน ญวน ลาว มอญ พะม่า ไทยใหญ่ เขมร ราษฎร แปลกปลอมนอกตราเบิกด่านก็ดี ให้คุมเอาตัวผู้ถือตราแปกปลอมมานั้น สิ่งเข้าไปยังกรุง ฯ จงฉับพลัน อย่าให้หลบหลีกเปนเหตุการณ์ประการใด ๆ อนึ่งให้เจ้าเมือง และผู้รั้ง รู้สารบาญชีหมู่ทหารและไพร่หลวง ข้าพระโยมสงฆ์ สมนอก สมใน สมกำลัง กรมการ และกรมการและคนแอบแฝงหาสารบาญชีมิได้ และข้าหนีเจ้าไพร่ หนีนาย ให้รู้จักมั่นแม่น และให้รู้ว่าพลเมืองแตกฉานไปอยู่เมืองใด ๆ ก็ดี ไปซุ่มซ่อนอยู่ณะป่าดงก็ดี ให้แต่งไปส้องสุมเอาให้ได้แล้วและให้รู้เหตุไปซุ่มซ่อนอยู่ณะป่าดง ผู้ใดข่มเหงรุกราชบาทให้ราษฎรแค้นเคืองเปนมั่นแม่น อนึ่งถ้าและเห็นเปนเหล่าเปนกอและส้องสุมเอามิได้ ให้บอกหนังสือและส่งตัวผู้ข่มเหงและตำบลที่ราษฎรไปซุ่มซ่อนอยู่และแค้นเคืองนั้น ให้บอกเข้าไปจงแจ้งจงฉับพลัน อนึ่งให้เจ้าเมืองและยกระบัตรและกรมการ ให้รู้สารบาญชีช้างใหญ่น้อยศอกนิ้ว เข้าไปณะมหาดไทยจงแจ้ง อนึ่งให้รู้จักว่าคนเมืองใดตำบลใดมาแอบแฝงอยู่ณะเมืองนั้นมากน้อยเท่าใด ให้รู้จักไว้จงมั่นคง ครั้นมีราชการเมื่อใด จะได้ราชการเมื่อนั้น อนึ่งกรมการซึ่งหาตัวมิได้ ให้จัดเอาเปนพอแกแมรางอันสัตย์ซื่อ มิได้เบียดเบียนประชาราษฎร เปนกรมการให้ครบ อนึ่งให้บำรุงชาวด่านและจัดส้องเอาสมีใหม่ ซึ่งหาบาญชีมิได้ และข้าหนีเจ้าไพรหนีนาย ให้เอาใจเปนชาวต่านจงมั่นคง แล้วบอกสารบาญชีเข้าไปจงฉับพลันให้จงแจ้ง แล้วถ้าและสัสดีเกณฑ์เอาชาวด่านไปราชการสิ่งใด อย่าเพ่อให้ส่งชาวด่านและให้บอกหนังสือเข้ามายังมหาดไทยก่อน เมื่อใดมีหนังสือบอกมาว่าประการใดจึ่งให้ทำตาม อนึ่งให้ว่ากรมการและนายอำเภอ แขวง นายบ้าน ให้พิทักษ์รักษาให้ว่าราชการซึ่งอยู่อำเภอทั้งปวง ผู้ใดเข้าไปรับราชการ ผู้ใดไปแห่งใด ให้พิจารณาได้จงทุกเดือนอย่าให้ขาด และมีราชการสิ่งใดจึ่งจะครบด้วยราชการ อนึ่งให้ขุนหมื่นชาวด่านและไพร่ จงสมควรผลัดกันไปตระเวนด่านถึงแดนต่อแดนจงทุกตำบล จงทุกเดือนอย่าให้ขาด ถ้าได้กิจราชการเปนประการใดไซร้ ให้บอกเข้าไปจงฉับพลันและให้แจ้งแล้ว อนึ่งถ้าและมีตราพระราชสีห์ และตราโกษาธิบดี มาแก่เจ้าเมือง และผู้รั้ง กรมการ ด้วยการพระราชสงคราม และราชการซึ่งบำรุงกรุงเทพพระมหานคร และกิจต้องพระราชประสงค์ และการให้ทำกำแพงและค่ายคูจะรักษาเมืองนั้นก็ดี อย่าให้เจ้าเมืองและผู้รั้งกรมการตอบ และให้รับเอาทำตามตรามานั้น ถ้าและราชการนั้นพ้นกำลังเปนประการใดไซร้ ให้บอกหนังสือฟ้องเข้ามา อนึ่ง ถ้าทอดราชการสิ่งใดแก่พลเมืองทั้งปวง ให้เจ้าเมืองและผู้รั้ง ยกระบัตร พิจารณาแล้วและให้ยกสมกำลังกรมการไว้พอราชการด้วย กรมการเหลือนั้นให้มาตั้งทอดราชการด้วยพลเมืองจงทั่วกัน อย่าให้กรมการป้องกันสมกำลังพรรคพวกบ่าวไพรเหลือนั้นไว้ได้ อนึ่งผู้รับราชการเปนหัวเมือง เอก โท ตรี จัตวา ก็ดี จะรั้งก็ดี ที่จะพิทักษ์รักษาบ้านเมือง การทั้งปวงเอาเปนอารมณ์ ซึ่งชอบด้วยผู้รักษาเมืองร่วมขัณฑสีมา ซึ่งจะให้มั่นคงสืบไปเมื่อหน้านั้น อนึ่งให้รู้ว่าไพร่ทั้งปวงแค้นเคืองด้วยกรมการทั้งปวง ข้าหลวง คนเร็ว ม้าใช้ ไปมากิจราชการ และข่มเหงเอาทรัพย์สิ่งของเงินทองแก่ประชาราษฎรทั้งปวง ให้มีความยากแค้นเคือง และถ้าประชาราษฎรมาฟ้องให้เจ้าเมืองและผู้รั้ง ยกระบัตร ถามข้าหลวง คนเร็ว ม้าใช้ ข่มเหงนั้นเปนสัจไซร้ ให้เรียกเอาทรัพย์สิ่งของเงินทองนั้นส่งให้แก่ราษฎร ถ้าและกรมการ ข้าหลวง คนเร็ว ม้าใช้ ทำเหลือจะถามเอาทรัพย์สิ่งของให้แก่ราษฎรด้วยฉับพลันมิได้ไซร้ ให้กฎหมายจงมั่นแม่น และครั้นข้าหลวง คนเร็ว ม้าใช้นั้นกลับมาแต่ราชการเมื่อใดไซร้ ให้กรมการบอกหนังสือ คุมเอาราษฎร ซึ่งข้าหลวง คนเร็ว ม้าใช้ ทำข่มเหงนั้นเข้าไปยังกรุงเทพ ๆ ถ้าและกรมการผู้ใดข่มเหงราษฎร กรรโชกราษฎร ด้วยสิ่งใดไซร้ ให้ถามจงสัจ แล้วให้กรมการนั้นเข้ามายังกรุงเทพพระนคร อนึ่งถ้าท้าวพระยา พระ เมือง ขุน หมื่น พัน ทนาย และหมู่องครักษ์ และคนเร็วม้าใช้ไปด้วยกิจราชการ เจ้าเมือง และผู้รั้ง กรมการ มิได้ทำตามพระราชกำหนดกฎหมาย และทำล้ำเหลือรุกราช พระสาสนาอาราม และข่มเหงตีด่าฆ่าฟันสมณประชาราษฎรทั้งปวง เอาทรัพย์สิ่งของช้าง ม้า โค กระบือ เกวียน และกรรโชกราษฎรทั้งปวง และให้แค้นเคืองด้วยประการใดก็ดี ถ้าและต้องเจ้าเมือง และผู้รั้ง และกรมการ ไซร้ ให้ยกระบัตรกฎหมายไว้จงมั่นแม่น และให้ ปลัด ยกระบัตร กฎหมายบอกหนังสือเข้าไป ถ้าต้อง ปลัด ยกระบัตร และกรมการ ไซร้ ให้เจ้าเมือง ผู้รั้ง บอกหนังสือเข้าไปยังลูกขุนณะศาลา ถ้าต้องเจ้าเมือง ผู้รั้ง ให้ทุนปลัด ขุนยกระบัตร บอกหนังสือเข้าไปยังมหาดไทย ถ้าและมหาดไทยมิเอาว่า ให้มูลนายพยาบาลนำเอาแค้นเคืองนั้น เข้าไปฟ้องณะศาลาลูกขุน เปนหลายครั้งและมิเอาว่า ให้ทำฎีกาให้มูลนายประชาบาลนำมาฟ้องมิได้ไซร้ ให้ทำฎีกายื่นณะศาลาลูกขุน และให้ขุนดาบนำเอาว่าตามธรรมเนียม และยกระบัตร กรมการ และผู้ได้ว่าราชการนั้น ลอกเอากฎนี้ไว้จงทุกคน อนึ่งให้รู้จักสารบาญชี ซึ่งว่าคนอยู่ณะจังหวัดเมืองนั้น ไพร่หลวง และสมใน สมนอก ข้าพระ โยมสงฆ์ และพลเมืองสมสังกัด ทั้งปวงทั้งนั้น หมู่ใดกรมใดเท่าใด ช้าง ม้า โค กระบือ ไร่ นา เท่าใด ให้เอาสารบาญชีไว้จงแจ้งจงสิ้นเชิง อนึ่งให้รู้สารบาญชีว่าข้าหนีเจ้า ไพร่หนีนาย และคนแอบแฝงมาอยู่บ้านใด ตำบลใด ณะแขวงเมืองนี้ และเดิมเปนหมู่ใดกรมใดและอยู่แขวงเมืองใด และแค้นเคืองด้วยเนื้อความประการใดและจึ่งมาอยู่ณะแขวงนี้ และแต่มาอยู่นี้ช้านานเท่าใด อนึ่งคนจรมาสัตพลัดซุ่มซ่อนอยู่ณะป่าดง ห้วยเขา ณะจักรวรรดิแขวงเมืองนี้ไซร้ ให้รู้จักว่าซุ่มซ่อนอยู่เปนเหล่าเปนกอ ฉกรรจ์อพยบมากน้อยเท่าใด ๆ อยู่แห่งใดตำบลใดเท่าใด และทางใกล้ไกลเมืองเท่าใด ให้รู้จักมั่นแม่น และให้เอาแก่เจ้าเมืองและผู้รั้งให้จัดซ่องไว้สำหรับเมืองจงมั่นคง ถ้าพ้นกำลังให้บอกเข้าไปยังกรุง ฯ อนึ่งคนอยู่อำเภอแขวงเมืองนี้ และให้รู้ที่ภูมิลำเนาตามอำเภอ และรื้อเรือนไปอยู่อำเภออื่นนั้น เปนเหตุสิ่งใดจึ่งไปจากบ้านซึ่งอยู่ และมิได้อยู่เข้าบ้านเลย และตั้งบ้านอื่นนั้นด้วยอันใด และผู้อยู่อื่นมาตั้งบ้านใหม่ปีละเท่าใด และคนอยู่เมืองนี้และไปทำมาหากินอยู่ด้วยผู้ใดก็ดี เมื่องอื่นไซร้ ให้มีหนังสือยกระบัตรและกรมการบอกไปณะเมืองนั้น ว่าคนเมืองไปอยู่ทำมาหากินในบ้านนั้น แขวงเมืองนั้น ถ้าและหาตรายกระบัตรแลกรมการ บอกไปมิได้ และไปอยู่ไซร้ให้บอกหนังสือเข้าไปยังมหาดไทย อนึ่ง บ้านนี้ เมืองนี้ กี่ตำบล และตำบลหนึ่งมีคนมากน้อยเท่าใด มาอยู่ใหม่มากน้อยเท่าใด ให้รู้จักทุกคน อนึ่งผู้จะเปนยกระบัตร ครั้นราชการสิ่งใดจะเอาโดยฉับพลัน มาให้นายอำเภอและแขวงนายบ้านให้รับคนก็ดี ให้ทำตามราชการจงฉับพลันมานั้นก็ดี และมิได้คนไซร้ ให้มัดผูกนายอำเภอและแขวงนายบ้าน ตีรันเอาให้ได้จงฉับพลันให้ทันราชการสิ่งนั้น ถ้ามิได้คน สารโทษนั้นตกอยู่แก่ยกระบัตร อนึ่งถ้าคนอยู่ณะแขวงเมืองนี้ เข้าไปทำราชการและหลบหลีกออกมาก็ดี เปนผู้ร้ายก็ดี ข้าหนีเจ้า ไพร่หนีนาย และคนจรรสัตพลัด และมีตราออกมาให้เอาเข้าไปทำราชการและพิจารณา และยอมจำหน่ายว่าหนีและจับเอาตัวมิได้นั้น โทษอยู่แก่ยกระบัตร และนายอำเภอและนายบ้าน ด้วยมิได้รู้จักสารบาญชี และมิได้ตรวจด่านตระเวนทางให้มั่นคง มิให้คนเล็ดลอดหนีไปจากเมืองนี้ได้ และให้ขุนหมื่นกรมการประกับด้วยชาวด่านตระเวนบรรจบต่อกันเมืองนั้นอย่าให้ขาด ให้รู้จักว่าผู้นั้นมาตระเวนพบกันนั้นแล้ว มันมิพบผู้คนแปลกปลาดหามิได้ ให้บอกหนังสือทัณฑ์บลเข้าไปยังกรุงเทพ ฯ จงทุกเดือนอย่าให้ขาด อนึ่งผู้จะเปนกรมการให้ตั้งใจสมัคภักดีรักษาขอบขัณฑสีมาประชาราษฎรทั้งปวงให้เปนสุข และอย่าให้ตั้งกรมการแขวง นายบ้าน อันขี้ฉ้อโกหกขี้ตระบัด แลแต่ซื่อ ๆ มาเปนกรมการ และแขวง นายบ้านอำเภอใด ถ้าผู้ใดจะมาข่มเหงประชาราษฎรทั้งปวง และรู้เห็นด้วยประการใดไซร้ จะให้เอาเงินหลอมใส่ปากเสีย อนึ่งกฎมาให้ทำสิ่งใด ๆ ให้พิจารณา ก็ให้ทำจงทุกสิ่งให้ชอบด้วยราชการ ถ้ามิได้ทำตามจะให้มีโทษถึงสิ้นชีวิต อนึ่งครั้นปลัด ยกระบัตร เข้าไปกิจราชการก็ดี มารับพระราชทานน้ำพระพิพัฒนสัจจาเมื่อใด จะให้มหาดไทยและกรมวังถามด้วยกิจราชการ และกิจสุขทุกข์ราษฎรทั้งปวง และคนแอบแฝงซุ่มซ่อนจรจัดพลัด ให้ ๆ การจงสิ้น ถ้าและเข้ามาแก้แต่ปากเปล่าและให้การมิได้ไซร้ จะให้มีโทษถึงสิ้นชีวิต อนึ่งถ้าเทศกาล การพระราชพิธีตรุส สารท ไซร้ ยกระบัตรเข้าไปถือน้ำพระพิพัฒนสัจจาโดยการพระราชพิธี อนึ่งถ้าเทศกาลจะทำนาและอาณาประชาราษฎรทั้งปวงทำนานั้นน้อยอยู่ภูมิไซร้ ให้ยกระบัตรและเจ้าเมือง และผู้รั้ง และกรมการ และกำนัน ให้ว่าแก่ราษฎรทั้งปวงนั้น ให้ทำนาจงมั่งคั่งกว่าแต่ก่อนนั้น ถ้าและทำนามากน้อยเท่าใดให้เร่งรัดเอาใจลงอย่าให้พันเทศกาล ถ้าและผู้ใดมิฟัง ให้บอกหนังสือเข้าไป และสิ่งใดจะเปนงานวันอย่าให้เปนงานเดือน และกรมการทั้งหลาย ลอกเอากฎใส่สมุดไว้จงทุกคน แต่ต้นกฎนี้ให้ยกระบัตรเอาไว้ ถ้าและมีผู้จะมาผลัดรับราชการเปนยกระบัตรและกรมการไซร้ ส่งกฎนี้และกฎซึ่งลอกไว้นั้นให้แก่ผู้จะมาเปนกรมการแทนทั้งสิ้น ครั้นสืบไปเมื่อหน้า ให้ผู้เปนขุนยกระบัตรและกรมการทั้งปวง ทำตามกฎหมายนี้และกฎซึ่งมีมาแต่ก่อนนั้นจงทุกประการ ถ้าและมิได้ทำตามกฎมานี้และกฎหมายซึ่งมีมาแต่ก่อนไซร้ จะให้มีโทษถึงสิ้นชีวิต
กฏให้ไว้ณะวันจันทรเดือน ๘ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีมะแมนพศก จุลศักราช ๑๐๘๙ (พ.ศ. ๒๒๗๐ รัชกาลสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ)
----------------------------