พระราชปุจฉาที่ ๓
ว่าจะเอาทองพระพุทธรูปวัดมงคลบพิตรซึ่งหักพังอยู่นั้น กับทั้งทองเครื่องประดับสำหรับพระบาง มาหล่อเปนพระพุทธรูปขึ้นอิกองค์หนึ่งจะควรฤๅไม่
๏ ศุภมัสดุ จุลศักราช ๑๑๘๙ สุกรสังวัจฉรนักษัตรนพศกวสันตฤดูอาสุชมาสศุกรปักษ์ จาตุทัศมีดิถีครุวารบริเฉทกาลกำหนด สมเด็จพระบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ผู้ดำรงราชธรรมทศพิธ ฉัพพิธยาไศรยไตรจริยา อรรคสาสนาสนูปถัมภ์บำรุงพระพุทธสาสนาให้รุ่งเรืองด้วยอามิศบูชาแลปฏิบัตติบูชา เปนมหาสักการอันประเสริฐ เสด็จออกณพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน เวลาค่ำเจ้าพนักงานกราบบังคมทูลพระกรุณา รายงานสรรพการพระราชกุศล ซึ่งทรงสร้างพระไตรปิฎกแลทรงสร้างพระพุทธรูป พระสถูปเจดีย์พระวิหารอุโบสถแลการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมทั่วทุกตำแหน่งพระอารามใหญ่น้อยทูลเกล้าฯ ถวายพระราชกุศลทรงพระโสมนัศตรัสประภาษ โดยพระราชหฤทัยบันเทิงในพระทานบารมี แลพระศีลบารมี ที่ได้ทรงบำเพ็ญมา ล้วนทรงพระราชศรัทธาอันอุกฤษฐ แล้วทรงพระเต้าทักษิโณทกอุทิศส่วนกุศลโกษฐาส ให้ทั่วไปแก่สัตวโลกในอนันตจักรวาฬ เพื่อจะให้เปนปัจจัยแก่พระโพธิญาณสิ่งเดียว พระหฤทัยจะยังสรรพราชกุศลสมภารโพธิญาณบารมีให้แก่กล้า ด้วยพระสัมมัปธานวิริยหากให้ทรงพระอุสาหะ จึงมีพระราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้พระยาธิเบศบดีจางวางมหาดเล็ก ดำเนินพระราชโองการออกไปเผดียงสมเด็จพระสังฆราช แลพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง ว่าทรงพระราชรำพึงถึงพระพุทธรูปวัดมงคลบพิตร เปนมหาพุทธรูปอันใหญ่หลวง พระมหาวิหารนั้นมีหลังคาฝาหนังหักพังทำลายสิ้นสูญมาช้านาน พระพุทธรูปต้องตรำฝนทนแดดลมมาจนชำรุดทรุดโทรมไปทั้งพระองค์ ทรงสังเวชพระไทยนัก ครั้นจะทรงคิดจัดแจงให้ขึ้นไปเชิญเอาลงมาบุรณปฏิสังขรณ์เหมือนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ได้เชิญลงมาครั้งก่อนๆ นั้นก็เห็นเปนที่ยากนัก ด้วยพระพุทธรูปวัดมงคลบพิตรทั้งพระองค์ก็ใหญ่ ทั้งทองก็มิได้หล่อติดกันเปนแท่งทั้งพระองค์ ก่ออิฐกับปูนกระทำเปนแกนใน แล้วตีตารางเหล็กสรวมลงไว้ จึงเอาแผ่นทองมาบุปรับกันเข้าตรึงเปนแผ่นๆ ไปทั่วทั้งพระองค์ ยากที่จะชะลอใส่ล้อเลื่อนลากเชิญลงมาได้ ครั้นจะทิ้งไว้ก็เปนกังวล พระไทยมิได้วายที่จะทรงพระปริวิตก บัดนี้ทรงพระราชศรัทธาจะใครให้รื้อเอาแต่แผ่นทองขนลงมาให้สิ้นเชิง จะเอาทองเพิ่มเติมเข้าแล้วจะทรงสร้างหล่อเปนพระพุทธรูปขึ้นใหม่ แต่พระองค์นั้นจะมิได้ใหญ่เท่ากับพระองค์เดิม พระราชดำริห์จะทรงกระทำดังนี้จะควรฤๅมิได้ควรจะมีโทษฤๅมิได้มีโทษประการใด
อนึ่งพระบางเปนพระพุทธรูปเชิญลงมาแต่เมืองเวียงจันท์ ครั้นจะเชิญเข้าประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเล่า พระพุทธลักษณวิลาศก็มิได้งามบริบูรณ์เหมือนด้วยพระพุทธรูปฉลองพระองค์ จะเชิญไว้ด้วยกันก็จะไม่จำเริญพระเนตรเฉลิมพระราชศรัทธา ครั้นจะเชิญไปประดิษฐานไว้ในพระอารามแห่งใดแห่งหนึ่งก็เกรงโจรแลผู้ร้าย ด้วยสรรพเครื่องสักการบูชาประดับพระองค์ล้วนแล้วด้วยแก้วแลทอง ทั้งสิ่งของเครื่องสักการบูชาอื่นๆ ก็มีมาก พระอัธยาไศรยประกอบด้วยพระกรุณาคุณ จะมิให้ราชไภยอบายทุกข์บังเกิดแก่ฝูงคนที่เปนโจรแลผู้ร้าย จึงมีพระราชบริหารดำรัสหาฤๅว่า แม้นจะเอาสรรพเครื่องสักการบูชานั้นมา ที่ควรจะยุบจะหลอมก็จะยุบจะหลอมที่ควรจะจำหน่ายก็จะจำหน่าย ได้วัตถุทองเงินมาแล้วจะหล่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นไว้องค์หนึ่ง ให้สำเร็จด้วยสิ่งของเครื่องสักการบูชาดังนี้ จะควรฤๅมิได้ควรประการใด ให้สมเด็จพระสังฆราชประชุมพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงให้พร้อมกันค้นดูพระบาฬีคัมภีร์พระอรรถกถาถวายวิสัชนาเข้ามาให้แจ้ง
แก้พระราชปุจฉาที่ ๓
๏ อาตมภาพ สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระพนรัต พระพิมลธรรม พระธรรมอุดม พระพุทธโฆษาจารย์ พระพรหมมุนี กรมหมื่นนุชิตชิโนรส พระเทพมุนี พระธรรมไตรโลก พระญาณสมโพธิ พระโพธิวงศ์ พระปรากรม พระญาณวิริย พระวิเชียรโมฬี พระศรีสากยบุตร พระวินัยมุนี พระราชกระวี พระเทพโมฬี พระศรีวิสุทธิวงศ์ ๑๙ พระองค์พร้อมกัน
ขอถวายพระพรเจริญพระราชศิริสวัสดิพิพัฒมงคลพระชนมศุขทุกประการ แด่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารพระองค์สมเด็จบรมธรรมิกราชาธิราชเจ้า ผู้ทรงพระบวรศรัทธาธิคุณวิบูลยอัธยาสาสนานูปถัมภกพุทธการกธรรม์สรรพอามิศปฏิบัตติบูชามหาภินิหารอันประเสริฐ ด้วยมีพระราชโองการดำรัสให้ราชบุรุษ อัญเชิญพระราชบริหารมาเผดียงอาตมาทั้งปวงว่าทรงพระราชรำพึงถึงพระพุทธปฏิมากรวัดมงคลบพิตร พระศิริสัณฐานนั้นใหญ่หลวง แลพระมหาวิหารนั้น มีหลังคาแลผนังหักพังทำลายมาช้านาน พระพุทธรูปต้องตรำฝนทนแดดมาจนชำรุดไปทั้งพระองค์ทรงสังเวชยิ่งนัก บัดนี้ทรงพระราชศรัทธา จะให้รื้อเอาแต่แผ่นทองขนลงมาให้สิ้น จะเอาทองอื่นเพิ่มเติมเข้าอิก แล้วจะทรงสร้างหล่อเปนพระพุทธรูปขึ้นใหม่ แต่พระองค์นั้นจะย่อมลงบมิคงเสมอกับพระองค์เดิม พระราชดำริดังนี้ จะควรฤๅมิได้ควร จะมีโทษฤๅมิได้มีโทษประการใดนั้น
อาตมาภาพ พระราชาคณะทั้งปวงพร้อมกัน พิจารณาในคัมภีร์ต่างๆ พบพระบาฬีในคัมภีร์จุลคัณถีมหาวัคค อรรถาธิบายความตามวารพระบาฬีว่า ถ้าพระเจดีย์ชำรุดคร่ำคร่าก็ดี อยู่ในที่อันหาบุคคลจะรักษามิได้ก็ดี ตั้งอยู่ในที่อันมิควรแลที่ใกล้มิจฉาทิฐิ แลที่ใกล้ชนอันเปนบาปก็ดี เบื้องน่าบุคคลจะปราถนาให้เปนบุญ จะทำลายพระเจดีย์เสียก็ดี จะชลอมาแลจะกระทำด้วยอุบายอันใดอันหนึ่งก็ดี สุดแท้แต่กระทำพระเจดีย์นั้นให้เปนองค์ปรกติขึ้นดังแต่ก่อนแล้ว ก็มีผลานิสงส์มากแก่บุคคลผู้นั้น ดุจหนึ่งชีวกโกมารภัจ อันถวายซึ่งติขิณโอสถพอกพระบาทสมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าทำลายพระโลหิตซึ่งห้ออยู่นั้นออกเสียให้สิ้น แล้วถวายพระโอสถสมานพระมังษะ กระทำให้พระบาทหายแผลเปนปรกติดังเก่า ประกอบด้วยบุญผลานิสงส์เปนอันมาก
อนึ่งถ้าจะว่าด้วยพระพุทธรูปเล่า อรรถาธิบายก็เหมือนกันกับพระเจดีย์ ประการหนึ่งผิวพระเจดีย์แลพระพุทธรูปอันกระทำไว้ก่อนนั้นบมิได้งาม ชนทั้งหลายปราถนาจะกระทำให้งามกว่าเก่า จักทำลายเสียแลจะชลอมาก็ดี แต่ถ้าว่ากระทำให้เปนองค์ปรกติขึ้นดังเก่าได้แล้ว ก็จะมีผลานิสงส์เปนอันมากแก่ชนพวกนั้น เหตุกระทำด้วยกุศลจิตรเปนเดิมดุจชีวกโกมารภัจ แลความในพระบาฬีนั้นว่าแต่กระทำให้เปนปรกติดังเก่า จะได้ออกความชัดว่า ถ้าบุคคลรื้อองค์พระพุทธรูป มากระทำเปนองค์พระพุทธรูป รื้อองค์พระเจดีย์มากระทำเปนองค์พระเจดีย์ พระองค์จะใหญ่เท่าพระองค์เดิมแลจะย่อมกว่าพระองค์เดิมก็มิได้กำหนด คงเรียกว่ากระทำให้เปนปรกติดังเก่า จะได้ออกความชัดดังนี้หามิได้
อาตมภาพทั้งปวงปฤกษาพร้อมกัน เห็นโดยอัตโนมัตยาธิบายถวายวิสัชนาว่า ถ้าบุคคลกระทำด้วยจิตรเจตนาเปนกุศลแล้วก็คงเปนกุศลโดยแท้ แต่บุราณจารีตขัติยราชประเพณี มิได้ทรงกระทำสืบๆ กันมาแต่ก่อน เหมือนครั้งเมื่อกรุงเทพมหานครแต่บุราณนั้น พระพุทธไสยาศน์วัดปาโมกข์ กระแสน้ำเซาะตลิ่งรุ้งเข้าไปใต้รากพระวิหาร สมเด็จพระมหากระษัตริย์เจ้าแต่ก่อน ก็ให้ประชุมพระราชาคณะปฤกษาว่าถ้าจะรื้อองค์พระพุทธรูปไปก่อขึ้นใหม่นั้นจะควรฤๅมิได้ควร ครั้งนั้นพระราชาคณะซึ่งสามารถในพระปริยัติโดยยิ่งพร้อมกัน ถวายพระพรให้ชลอไปทั้งพระองค์ ไปประดิษฐานไว้ในที่อันควร แล้วก่อพระวิหารสรวมลงให้เปนปรกติเหมือนดังเก่า
อนึ่งครั้งเมื่อแผ่นดินสมเด็จพระบรมไอยกาธิราชเจ้านั้น ก็ได้อัญเชิญพระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปทรงยืนสูง ๗ ศอกลงมาแต่กรุงเก่าชำรุดไปทั่วทั้งพระองค์ ก็เหลือที่จะปฏิสังขรณ์ให้เปนปรกติได้ จึงมีพระราชโองการดำรัสให้เผดียงปรึกษาพระราชาคณะว่า ถ้าจะทำลายเอาทองในองค์พระเจ้านั้น มาหล่อหลอมให้เปนพระองค์ขึ้นใหม่ จะควรฤๅมิได้ควร ครั้งนั้นเจ้าพระคุณราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงพร้อมกันถวายพระพร ให้อันเชิญเข้าประจุไว้ในพระเจดีย์วัดพระเชตุพน ซึ่งข้อพระราชปุจฉาประการนี้ อาตมภาพทั้งปวงพิจารณาได้ความในพระบาฬี มิได้ออกความชัด ข้างบุราณจารีตราชประเพณี ก็มิได้ทรงกระทำเปนเยี่ยงอย่างสืบๆ กันมา
ประการหนึ่งซึ่งพระราชปุจฉาว่า จะเอาสิ่งสรรพเครื่องประดับเครื่องบูชาของพระบางนั้นมา ที่ควรจะยุบจะหลอมก็จะยุบจะหลอม ที่ควรจะจำหน่าย ได้วัตถุทองเงินมาแล้ว จะหล่อสร้างเปนพระพุทธรูปขึ้นใหม่อิกพระองค์หนึ่งเพราะจะมิให้ราชไภยกับอบายทุกข์บังเกิดแก่ฝูงคนที่เปนโจรผู้ร้าย จะควรฤๅมิได้ควรประการใดนั้น
อาตมภาพพระราชาคณะทั้งปวงพร้อมกัน ขอพระราชทานอนุโมทนาในส่วนพระราชกุศล ที่มีพระกระมลเมตตาแก่ฝูงคนที่เปนโจรแลผู้ร้าย กลัวจะต้องราชภัยอบายทุกข์นั้น ก็นับเนื่องเข้าในพระเมตตาบารมีมีผลมากยิ่งนัก แต่อาตมาภาพทั้งปวงพิจารณาดูในคัมภีร์ต่างๆ พบพระบาฬีในคัมภีร์ทุติยสมันตปาสาทิกาอรรถกถา อรรถาธิบายความว่า ดอกไม้อันบุคคลปลูกไว้เพื่อประโยชน์จะบูชาแต่พระเจดีย์องค์หนึ่ง แล้วนำไปบูชาพระเจดีย์องค์อื่นต่อไปอิกนั้นบมิได้ควร อนึ่งถ้าเห็นฉัตรแลธงอันบุคคลปักไว้บูชาแก่พระเจดีย์องค์หนึ่ง ผิวฉัตรแลธงซึ่งเหลือจากบูชาในที่นั้น จะนำไปถวายแด่พระเจดีย์องค์อื่นต่อไปอิกก็ควรมิได้มีโทษ ได้ความในพระบาฬีแต่เท่านี้
อาตมภาพทั้งปวง พิจารณาในพระคัมภีร์ต่างๆ ทั้งพระบาฬีแลอรรถกถาก็มิได้มีเยี่ยงอย่างเปนที่อ้างอิงออกความชัตแต่คัมภีร์ใดคัมภีร์หนึ่ง ซึ่งจะถวายวิสัชนาว่าควรโดยแท้ บมิได้ควรโดยแท้นั้นมิได้มีเหตุหาเยี่ยงอย่างอ้างอิงเปนพยานบมิได้ ขอถวายพระพร ฯ