พระราชปุจฉาที่ ๑

ข้อ ๑ ว่าด้วยการสร้างหอพระในพระราชวังจะควรฤๅไม่

ข้อ ๒ ว่าด้วยการสร้างหอพระกับสร้างพระวิหาร จะมีผลเสมอกันฤๅต่างกัน

ข้อ ๓ ว่าถ้าจะมีผู้เชิญพระไปไว้ยังพระวิหาร แล้วเข้าอาไศรยอยู่ในหอพระฤๅรื้อหอพระไปปลูกเสียที่อื่น แล้วปลูกที่อาไศรยลงในที่นั้นจะมีโทษฤๅไม่

----------------------------

๏ ศุภมัสดุ จุลศักราช ๑๑๘๘ โสณสังวัจฉรมิคสิรมาศศุกรปักษ์ปัญจมีดิถีจันทวารกาลกำหนด สมเด็จพระบรมนารถ บรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ผู้ดำรงทศพิธราชธรรมอันมหาประเสริฐ เสด็จออกณะพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน พร้อมด้วยพระประยูรวงศานุวงศ์แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทเฝ้าเบื้องบงกชมาศ เพลาค่ำทรงฟังพระธรรมเทศนาจบแล้ว ตรัสประกาศด้วยพระราชปุจฉา จึงมีพระราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้พระยาธิเบศบดีจางวางมหาดเล็ก เชิญพระราชปุจฉาออกไปเผดียงถาม สมเด็จพระสังฆราชและพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงว่า พระมหากระษัตราธิราชเจ้า แลเศรษฐีคหบดี สกูลที่มีจิตรตื่นอยู่ด้วยกุศล ประกอบไปด้วยศรัทธาประสาทเลื่อมใสผูกพันในพระพุทธคุณอยู่เปนนิตย์ ย่อมมีความปราถนาจะกระทำสักการบูชาพระบรมธาตุแลพระพุทธรูปพระสถูปเจดีย์ให้เปนนิจ เพื่อประโยชน์จะให้เปนอาจิณกุศล แล้วเห็นผลในทัศนานุตริยธรรมว่าเปนมหามงคลอันใหญ่ยิ่ง จึงสร้างหอพระขึ้น เชิญพระบรมธาตุแลสร้างพระพุทธรูป พระสถูปพระเจดีย์ มาประดิษฐานไว้กระทำสักการบูชา ซึ่งสร้างหอพระไว้ในคามเขตรเปนที่นิเวศดังนี้จะควรฤๅมิได้ควร อนึ่งสร้างหอพระกับสร้างพระวิหาร จะมีผลเสมอกันฤๅจะต่างกัน แม้นมีบุคคลจะเข้าใจว่าเปนเคหสถานอยู่ในที่คามเขตเปนราชนิเวศอยู่ในพระราชวัง มิได้เปนที่พระอาราม ก็จะเชิญพระบรมธาตุ แลพระพุทธรูป พระสถูปพระเจดีย์ไปประดิษฐานไว้ในพระวิหารแห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วจะเข้าอาไศรยอยู่ในหอพระตามความปราถนา ถ้ามิดังนั้น จะรื้อหอพระไปปลูกเสียที่อื่น จะปลูกที่อาไศรยลงในที่นั้น ตามปราถนาแห่งตน บุทคลกระทำดังนี้จะมีโทษฤๅมิได้มีโทษประการใด ให้สมเด็จพระสังฆราชาธิบดี แลพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง ค้นหาพระบาฬีแลคัมภีร์พระอรรถกถา ถวายวิสัชนาเข้ามาให้แจ้ง

แก้พระราชปุจฉาที่ ๑

อาตมภาพสมเด็จพระสังฆราช ๑ สมเด็จพระวันรัตน ๑ พระพิมลธรรม ๑ พระธรรมอุดม ๑ กรมหมื่นนุชิตชิโนรส ๑ พระพรหมมุนี ๑ พระพุทธโฆษาจารย์ ๑ พระเทพโมฬี ๑ พระญาณวิริย ๑ พระอริยวงศ์ ๑ พระญาณสมโพธิ ๑ พระสุเมธ ๑ พระเทพมุนี ๑ พระอุดมญาณ ๑ พระอมรโมฬี ๑ พระศรีวิสุทธิวงศ์ ๑ พระศรีสุธรรมมุนี ๑ พระรัตนมุนี ๑ พระศรีสมโพธิ ๑ พระญาณไตรโลก ๑ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ๒๐ รูป ขอถวายพระพรเจริญพระราชศิริสวัสดิ์พิพัฒมงคลพระชนมศุขจงทุกประการ แด่สมเด็จบรมพิตรพระราชสมภารพระองค์สมเด็จบรมธรรมิกราชาธิราชเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐด้วยมีพระราชโอการให้พระยาธิเบศบดีจางวางมหาดเล็ก เชิญพระราชปุจฉาออกมาเผดียงถามว่า พระมหากระษัตราธิราชเจ้า แลเศรษฐีคหบดีกระกูลที่มีจิตรตื่นอยู่ด้วยกุศล ประกอบด้วยศรัทธาประสาทเลื่อมใส ผูกพันในพระพุทธคุณอยู่เปนนิจย่อมมืความปราถนาจะกระทำสักการบูชาพระบรมธาตุ แลพระพุทธรูปพระสถูปพระเจดีย์ให้เปนนิจเพื่อประโยชน์จะให้อาจิณกุศล แล้วเห็นผลในทัศนานุตริยธรรมว่าเปนมหามงคลอันใหญ่ยิ่ง จึงสร้างหอพระขึ้นเชิญพระบรมธาตุ แลสร้างพระพุทธรูปพระสถูปพระเจดีย์ มาประดิษฐานไว้กระทำสักการะบูชาซึ่งสร้างหอพระไว้ในที่คามเขตร แลเปนที่นิเวศวังดังนี้ จะควรฤๅมิได้ควรนั้น

แก้ข้อ ๑

๏ อาตมภาพแลพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง รับพระราชทานค้นหาพระบาฬีแลคัมภีร์อรรถกถาต่างๆ ได้ความในพระคัมภีร์อรรถกถามหาปรินิพพานสูตรว่า “ทีฆายุกพุทฺธานฺหิ สรีรํ สุวณฺณขนฺธสทิสํ เอกฆนเมว โหติ ภควา ปน อหํ น ตฺวา ปรินิพฺพายามิ มยฺหํ สาสนํ ตาว สพฺพตฺถ วิตฺถาริกํ ตสฺมา ปรินิพฺพุตสฺสาปิ เม สาสปมตฺตํปิ ธาตุํ คเหตฺวา อตฺตโน วสนฎฺาน เจติยํ กตฺกา ปริจรนฺโต มหาชโน สคฺคปรายโนเยว โหตูติ ธาตูนํ วิกิรณํ อธิฏฺาสิ” แปลเนื้อความตามวารพระบาฬีว่า พระสริรกายแห่งสมเด็จพระสรรเพชญ์พุทธเจ้าซึ่งมีพระชนมชีพอันยืนนั้น เมื่อพระพุทธองค์ดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพาน พระบรมธาตุเปนแท่งเดียวงามเหมือนท่อนทอง จะขจัดขจายหามิได้ “ภควา” อันว่าสมเด็จพระพุทธองค์ผู้ทรงพระภาคเจ้าแห่งเรา พระพุทธองค์ทรงพุทธวิตกว่า ตถาคตจะสถิตย์อยู่โปรดสัตว์มิได้นานนัก ก็จะเข้าสู่พระปรินิพพาน พระสาสนาแห่งตถาคตยังหาแผ่ไปในที่ทั้งปวงไม่ เหตุดังนั้นเมื่อพระตถาคตดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานแล้ว หมู่มหาชนจะถือเอาซึ่งพระธาตุ มาตรว่าเท่าเมล็ดพรรณผักกาด ไปกระทำเปนเจดียฐานไว้ในที่อยู่แห่งตน บำรุงรักษาบูชาเปนเนืองนิตย์ “สคฺคปรายโนเยว โหตุ” จงให้มีสวรรค์เปนที่ไปในเบื้องน่า แท้จริง พระพุทธองค์ทรงพระวิตกดังนี้ จึงทรงพระอธิฐานให้พระธาตุแตกกระจายออกไปเปนสามสถาน หวังพระไทยจะให้สัตวได้เสวยสมบัติทั้งสามประการ อนึ่งพระบาฬีในคัมภีร์สถูปวงศ์ว่า “โสฬสโกฏินาคสหสฺสปริวุตฺโต อาคนฺตฺวา ฯลฯ มณฺฑิรกนาคภวนํ คจฺฉนฺโต ฉนฺนวุตฺติโกฏิธเนน ปูชํ กตฺวา สตฺตรตเนหิ เจติยฺจ เจติยฆรฺจ มาเปตฺวา ธาตุโย ปริหรติ” แปลเนื้อความว่า ผอบทองใส่พระบรมธาตุเปล่งพระรัศมีสว่างอยู่ในกลางทราย พระยากาลนาคจึงเชิญเสด็จพระบรมธาตุกับทั้งผอบทองลงไปสู่มณเฑิยรนาคราช นิมิตรเปนเจดีย์แลเจดีย์ฆรสถานแล้วด้วยแก้วแลทองอันผ่องใสไพโรจประดิษฐานไว้เปนที่บูชา ครั้นนานมาพระอรหันต์จึงให้พระโสณุตรเถรลงไปเชิญเสด็จขึ้นมา บรรจุไว้ในห้องเหมมาลิกเจดีย์ในลังกาเปนเยี่ยงอย่างมาดังนี้

อาตมภาพเห็นว่าทรงสร้างหอพระเจ้าไว้ประดับด้วยเงินแลทองอันพิจิตร เปนที่ประดิษฐานแห่งพระบรมสารีริกธาตุ แลพระพุทธปฏิมากรพระสถูป แลธรรมเจดีย์คือพระไตรปิฎก ด้วยพระสันดานนั้นชุ่มชื่นอยู่ในคุณพระรัตนไตรย ได้บูชาด้วยเครื่องสรรพสักการะ ทรงรฦกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ด้วยวิบูลศรัทธามหากุศลราษีอันประเสริฐ มีผลกำหนดนับด้วยพระพุทธญาณนั้นมิได้ เปนบุญญาภิสันทัง ไหลหลั่งมาแห่งกองกุศลมิได้ขาดสายกระแสบุญเปนเนืองนิจทุกค่ำเช้า อาตมภาพทั้งปวงเห็นว่าหาโทษมิได้ มีแต่กุศลฝ่ายเดียว จะเปนเหตุให้เสวยสุขสมบัติในสวรรค์โดยแท้ ฯ

แก้ข้อ ๒

ซึ่งทรงพระราชปุจฉาว่า สร้างหอพระเจ้ากับสร้างพุทธวิหาร จะมีผลเสมอกันฤๅจะต่างกันนั้น อาตมภาพทั้งปวงพิจารณาเห็นว่า สร้างหอพระเจ้ากับวิหาร ถ้าประมาณใหญ่น้อยเท่ากัน บริจาคทรัพย์ลงกระทำมีประมาณเท่ากันก็มีผลเสมอกัน ถ้าวิหารใหญ่กว่าหอพระเจ้า วิหารมีผลมาก เหตุบริจาคทรัพย์มาก ทั้งประโยคความเพียรยินดีมากกว่ากัน วิหารทานนี้มีผลมากนัก สมด้วยพระบาฬีในคัมภีร์ติกกนิบาตว่า พระมหาปนาทแต่ชาติก่อนกับบิดาได้สร้างศาลามีเสาแลกรอบฝาแล้วด้วยไม้มะเดื่อ มุงด้วยหญ้า พื้นฝาแล้วด้วยไม้อ้อ ถวายพระปัจเจกโพธิ ปรนิบัติพระปัจเจกโพธิด้วยจีวรบิณฆบาตถึง ๗ องค์ ได้ไปเสวยสมบัติในสวรรค์ จุติจากสวรรค์ลงมาเปนพระยามหาปนาท มีปราสาททิพย์ ๗ ชั้น แล้วด้วยแก้ว ๗ ประการสูงประมาณ ๒๕ โยชน์

แก้ข้อ ๓

อนึ่งทรงพระราชปุจฉาว่า แม้มีบุทคลจะเข้าใจว่าเปนเคหสถานอยู่ในที่คามเขตร เปนราชนิเวศอยู่ในพระราชวัง มิได้เปนที่พระอาราม จะเชิญพระบรมธาตุแลพระพุทธรูป พระสถูปพระเจดีย์ ไปประดิษฐานได้ในวิหารแห่งใดแห่งหนึ่งแล้ว จะเข้าอาไศรยอยู่ในหอพระเจ้าตามความปราถนานั้น อาตมภาพพิจารณาเห็นว่ามีโทษ เหตุไม่เคารพ ชิงเอาที่อยู่แห่งพระเจ้ามาเปนที่อยู่ของตน ด้วยจิตรเปนอกุศลนับเข้าในโลภมูล

อนึ่งแม้ว่าจะรื้อหอพระเจ้าไปปลูกไว้ในที่อื่นโดยเคารพ แล้วจะเอาที่อันนั้นปลูกเปนที่อยู่ก็ควร เหตุเดิมนั้นมิได้อุทิศถวายไว้ทั้งที่ ถ้าเดิมนั้นตกแต่งอุทิศถวายไว้ทั้งที่ แม้มีบุทคลจะรื้อหอพระเจ้าไปปลูกเสียที่อื่น จะปลูกที่อาไศรยลงในที่อันนั้นก็ไม่ควร เหตุเดิมนั้นได้อุทิศถวายไว้ทั้งที่ ถ้าหอพระเจ้าชำรุดทรุดโทรมลง ควรจะกระทำซ่อมแปลงทำนุบำรุงให้เหมือนดังเก่า ถ้ามิดังนั้นจะรื้อไปปลูกเสียที่อื่น ก็ให้ปลูกหอพระเจ้าลงไว้ ให้เหมือนดังเก่าจึงจะควร ขอถวายพระพร ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ