คำนำ ในการพิมพ์ครั้งที่ ๑
ในโอกาสที่หม่อมหลวงบุญเหลือ กุญชร เทพยสุวรรณ จะมีอายุครบ ๕ รอบ ในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๔ นี้ บรรดาสานุศิษย์ มิตรสหาย และคนรุ่นน้อง เช่นตัวดิฉัน ใคร่จะจัดทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นการแสดงความเคารพรักต่อหม่อมหลวงบุญเหลือ ซึ่งต่อไปนี้จะขอเรียกว่า “พี่เหลือ” พวกเราได้นัดประชุมปรึกษาหารือกัน และลงความเห็นพร้อมกันว่าจะจัดเลี้ยงชนิดไม่สิ้นเปลืองมาก เพื่อฉลองอายุครบ ๕ รอบของพี่เหลือ แต่เมื่อความแพร่หลายออกไปพี่เหลือก็ได้สั่งห้าม เราจึงพยายามเรียนถามว่า นอกจากจะทำบุญอายุตามประเพณีทางศาสนาแล้วพี่เหลือคิดจะทำสิ่งใดเป็นที่ระลึกบ้าง ก็ได้ทราบว่าจะเขียนหนังสือเรื่อง “ความสำเร็จและความล้มเหลว” พิมพ์ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวออกเผยแพร่โดยไม่จำกัดราคา เก็บเงินมาตั้งเป็นทุนเพื่อบำรุงสมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ และสมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ พวกเราที่คิดจะเลี้ยงฉลอง จึงดำริจะรวบรวมเงินไปสมทบเงินจำนวนที่พี่เหลือจะมอบให้ทั้งสองสมาคมดังกล่าว
ในฐานะที่ดิฉันเป็นน้อง ใคร่จะฉลองพระคุณที่พี่เหลือมีต่อดิฉันนานาประการมาเป็นเวลากว่ายี่สิบปี เมื่อพี่เหลือจะลงทุนลงแรงเขียนหนังสือเก็บเงินมอบให้สมาคม ซึ่งดิฉันบังเอิญเคยเป็นนายกทั้งสองสมาคม ดิฉันจึงรับอาสาจะเขียนคำนำหนังสือให้ เพื่อแนะนำให้ท่านผู้อ่านหนังสือเล่มนี้รู้จักพี่เหลือดีขึ้น
หม่อมหลวงบุญเหลือ กุญชร เป็นธิดาเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร) และหม่อมนวล กุญชรฯ เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๔๕๔ สำเร็จการศึกษาขั้นอุดมศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต และประกาศนียบัตรครูมัธยมและได้ปริญญาโททางวิชาการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมินิโซตา สหรัฐอเมริกา เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วได้เป็นครูในโรงเรียนราษฎร์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เมื่อรับราชการก็ได้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ ๆ หลายหน้าที่ อาทิ เป็นอาจารย์หัวหน้าวิชาภาษาอังกฤษ และหัวหน้าวิชาภาษาต่างประเทศของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์พิเศษสอนวิชาภาษาอังกฤษคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ กรมวิสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ รักษาการรองอธิการวิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน และตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากราชการก็คือปฏิบัติงานในหน้าที่คณบดีคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระหว่างรับราชการ พี่เหลือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต.ม., ต.ช. และ ต.จ.
พี่เหลือได้สมรสกับผู้ที่ดิฉันรู้จักมาเป็นเวลานาน คือ นายแพทย์ชม เทพยสุวรรณ
ในด้านสาธารณประโยชน์ พี่เหลือเคยเป็นกรรมการสัมพันธ์ต่างประเทศ อุปนายกและนายกสมาคมสตรีอุดมศึกษาฯ และปัจจุบันเป็นกรรมการที่ปรึกษาของสมาคมแห่งนี้ เป็นกรรมการที่ปรึกษาโครงการสุขภาพจิตโรงเรียนของสมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย กรรมการบริหารทุนการศึกษาของมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกรรมการผู้ทรงเกียรติของสมาคมและมูลนิธิอื่น ๆ อีกมากมายหลายแห่ง
สำหรับราชการพิเศษนั้น เนื่องจากพี่เหลือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ในหลายด้าน จึงได้รับเชิญให้ร่วมงานราชการหลายแห่ง อาทิ เป็นกรรมการประสานงานวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการศึกษา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้แต่งตั้งขึ้น และด้วยคุณความสามารถในด้านภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ พี่เหลือจึงได้รับเชิญให้เป็นประธานกรรมการประสานงานการเรียนการสอนภาษาอังกฤษระดับชาติ เพื่อประสานงานกับองค์การซิมิโอ เป็นกรรมการบริหารโครงการภาษาอังกฤษ องค์การซิมิโอและอื่น ๆ
โดยเหตุที่พี่เหลือ เกิดในราชตระกูล ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี จึงอาจจะพูดได้ว่า พี่เหลือเป็น “ผู้รู้รอบ” สันทัดในขนบธรรมเนียมประเพณี มีความรู้ด้านภาษาศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี นอกเหนือไปจากนั้น ยังเป็นผู้มีความรู้ในภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาอังกฤษอย่างดีเยี่ยม เป็นที่พึ่งพาของบรรดาผู้ไม่รู้หรือรู้น้อยทั้งหลาย และเนื่องจากอุปนิสัยอันงดงาม จึงต้องเหนื่อยในการตอบปัญหาของรุ่นน้องและศิษย์ทั้งหลายอยู่เสมอมา
สำหรับผู้สนใจในการอ่าน คงจะได้ผ่านงานเขียนของพี่เหลือมาแล้ว พี่เหลือเคยเขียนหนังสือด้านวิชาการหลายเล่ม ที่เขียนคนเดียวก็มี ที่เขียนร่วมกับคนอื่นหรือหน่วยราชการอื่นก็มี ล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยมชมชอบของผู้ได้ศึกษาทั้งสิ้น ทางด้านสารคดีนั้นก็ได้เขียนเรื่องสั้นลงในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และเรื่องที่ท่านผู้อ่านน่าจะติดตามหาอ่านก็คือเรื่อง แนะแนวการอ่านนวนิยาย และแนะแนวการวิจารณ์วรรณคดีประเภทร้อยกรอง เพราะเป็นแนวที่พี่เหลือมีความสันทัดเป็นอย่างมาก ในด้านบันเทิงคดีพี่เหลือก็ได้เขียนเรื่องสั้นไว้หลายเรื่อง โดยเหตุที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย สำนักพิมพ์แพร่พิทยาจึงขออนุญาตไปพิมพ์รวมเป็นเล่มให้ชื่อว่า “ฉากหนึ่งในชีวิต” สำหรับด้านนวนิยายก็เป็นที่ทราบกันว่า เรื่อง “สะใภ้แหม่ม” “ทุติยะวิเศษ” และ “ตกหลุมตกร่องแล้ว ใดใดก็ดี” เป็นที่ติดอกติดใจผู้อ่านหนังสือสตรีสารมิใช่น้อย นอกจากนวนิยายที่พี่เหลือคิดเค้าโครงเรื่องเองแล้ว พี่เหลือยังได้แปลเรื่อง The Talisman ของ เซอร์วอลเตอร์สก๊อต ให้ชื่อว่าเรื่อง “ศิลาถรรพณ์”
ที่ได้กล่าวมาเป็นเพียงงานส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ด้วย “ความรู้รอบ” และ “ประสบการณ์” ประกอบกับคุณค่าของงานเขียนของพี่เหลือเท่าที่ได้ผ่านสายตาของท่านผู้อ่านมาแล้ว คงจะเรียกร้องความสนใจท่านผู้อ่านให้ติดตามเรื่อง “ความสำเร็จและความล้มเหลว” ในทรรศนะของพี่เหลือ ผู้ซึ่งมีความเห็นว่า ทรรศนะของทุกคนอาจแตกต่างกัน เพื่อเรียนทรรศนะของผู้เป็นที่นับถือของหมู่ชนเป็นการประดับความรู้ไว้บ้าง
ดิฉันมั่นใจว่า หนังสือเรื่อง “ความสำเร็จและความล้มเหลว” นี้ มิใช่จะให้เพียงความบันเทิงเท่านั้น แต่จะให้ความรู้และแนวความคิด อันท่านผู้อ่านจะถือเป็นแนวทางดำเนินชีวิตของท่านบ้าง จึงใคร่ขอเชิญชวนให้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามอันอาจจะเกิดจากหนังสือเล่มนี้ ได้ส่งผลสนองให้พี่เหลือที่เคารพรักมีความสุขกาย สบายใจ หายจากโรคาพยาธิทั้งมวล มีอายุมั่นขวัญยืน อยู่เป็นที่พึ่งทางใจของญาติมิตรและศิษยานุศิษย์ตลอดชั่วกาลนาน
อัมพร มีศุข
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๔