ตำนานอากรรักษาเกาะ
หนังสือหมื่นวิเศษอักษรนายเวรกรมท่าเจ้าจำนวน มายังท่านพระยาวิชยาธิบดี พระระยอง พระยาสาครสงคราม พระยาพิพิธพิสัย พระพิไชยชลธี ด้วยจีนกิมตุ๋นทำเรื่องราวยื่นให้กราบบังคมทูลพระกรุณา ว่าเดิมจีนแป๊ะผู้เปนที่ขุนรักษาสมุทคิรีเปนนายอากรเจ้าของเกาะในทเลฝั่งตวันออกที่ขึ้นอยู่ในแขวงเมือง บางลมุง ระยอง จันทบุรี เมืองตราษ เมืองปัจจันตคิรีเขตรระวังสลัดศัตรูเข้าพักอาศรัยในเกาะ แลหาสิ่งของซึ่งเกิดในเกาะซื้อขายทำมาหากินแต่พรรคพวกของตัวฝ่ายเดียว ขอถวายกำไรที่ซื้อหาได้ให้เปนประโยชน์แก่แผ่นดินปีละ ๑๓ ชั่ง ขุนรักษาสมุทคิรีรับรักษาเกาะหาสิ่งของซื้อขายได้ ๒ ปีแล้ว มีกำไรหาบวกเงินขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายไม่ จีนกิมตุ๋นเห็นว่ายังมีกำไรอยู่ ขอประมูลเงินขึ้นทูลเกล้า ฯ อีก ๑๐ ตำลึง รวมเดิมประมูลเปนเงิน ๑๓ ชั่ง ๑๐ ตำลึง ถ้ารักษาเกาะซื้อขายสิ่งของครบปีมีกำไร จะบวกเงินขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายอีกนั้น ได้หาตัวขุนรักษาสมุทคิรีนายอากรรักษาเกาะคนเก่ามาว่ากล่าวให้สู้ประมูล ขุนรักษาสมุทคิรีนายอากรคนเก่าว่าอากรสูงอยู่แล้วไม่รับประมูล ยอมให้จีนกิมตุ๋นรับทำตามเรื่องราวนั้น ได้นำเรื่องราวจีนกิมตุ๋นแลคำขุนรักษาสมุทคิรีนายอากรคนเก่าขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทแล้ว มีพระบรมราชโองการตรัสเหนือเกล้า ฯ สั่งว่าได้เสด็จออกไปประพาสในทเลฝั่งตวันออกจนถึงเมืองตราษ ฝั่งตวันตกจนถึงเมืองสงขลา ได้ทอดพระเนตรเห็นฝั่งแลเกาะในทเลฝั่งตวันตกตวันออก ทุกแห่ง ทุกตำบล แลทรงพระราชดำริห์เห็นว่า เกาะในทเลเปนที่เปลี่ยวอ้ายสลัดศัตรูจะเข้าพักอาศรัยแอบแฝงอยู่ได้ แต่เกาะในทเลฝั่งตวันตกนั้นมีรังนก นายอากรรังนกแต่งคนออกไประวังรักษาอยู่ ถ้ามีสลัดศัตรูมาเมื่อใดได้รู้เร็ว แต่เกาะในทเลฝั่งตวันออกนี้ แต่ก่อนมีนายอากรฟองเต่าตนุคอยระวังรักษาอยู่อ้ายสลัดศัตรูไปมาอาศรัยก็เปนที่เกรงขามบ้าง แลเมื่อในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์เห็นว่ามีนายอากรเก็บฟองเต่ามาซื้อขายเปนการบาป โปรด ฯ ให้ยกเลิกเสีย ตั้งแต่นั้นมาเกาะในทเลฝั่งตวันออกไม่มีผู้ใดระวังรักษา พวกสลัดศัตรูกำเริบเข้าอาศรัยตีเรือลูกค้าได้ไปเนือง ๆ ตัวเต่าที่อาศรัยขึ้นถ่ายฟองในเกาะนั้นพวกจีนไหหลำมาตั้งกองจับฆ่าเอาเนื้อทำเค็มไปซื้อขายจนเปนสินค้าได้ แลคนในกรุงเทพ ฯ คนหัวเมืองก็พากันเอาอย่างจับตัวเต่าตัวกระฆ่ากินแลซื้อขายบ้างจนตัวเต่าตัวกระในเกาะสาบสูญไปเกือบจะหมดอยู่แล้ว การก็ไม่เปนประโยชน์สิ่งใดกับแผ่นดิน จึงโปรดเกล้า ฯ ให้ปรึกษาท่านเสนาบดีทั้งปวงว่า เกาะในทเลนี้จะทิ้งไว้ให้เปนที่เปลี่ยวดีหรือจะให้มีเจ้าของคอยระวังรักษาอยู่เหมือนอย่างแต่ก่อนดี ท่านเสนาบดีทั้งปวงก็ให้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่ามีผู้รักษาเปนเจ้าของนั้นดี มีคุณหลายประการ ทิ้งไว้ไม่มีเจ้าของระวังรักษานั้นไม่มีคุณแลประโยชน์สิ่งใด แลซึ่งขุนรักษาสมุทคิรีรักษาเกาะมาถึง ๒ ปีแล้วมีกำไร ไม่บวกเงินขึ้นให้เปนประโยชน์แก่แผ่นดิน จีนกิมตุ๋นเห็นว่าอากรยังมีกำไรอยู่ ขอรับรักษาเกาะแลหาสิ่งของซึ่งเกิดในเกาะซื้อขายตามพิกัดเดิม ประมูลเงินขึ้นอีก ๑๐ ตำลึงรวมเดิมประมูล ๑๓ ชั่ง ๑๐ ตำลึงนั้นมีความชอบอยู่ ให้ตั้งจีนกิมตุ๋นเปนผู้รักษาเกาะแลหาสิ่งของซึ่งเกิดในเกาะต่อไปเถิด แต่เกาะสีชังเปนเกาะหน้าด่านมีผู้คนระวังรักษามากอยู่แล้วให้ยกเสีย แลไม้กฤษณาหวายพัศเดาซึ่งเกิดในเกาะต่าง ๆ เปนของสำหรับไพร่ส่วยตัดส่งส่วยทูลเกล้า ฯ ถวายแลใช้ราชการเบ็ดเสร็จจะห้ามเสียไม่ได้ ไพร่ส่วยจะร้องขาด แลของอื่น ๆ ที่มีในเกาะให้เปนสิทธิ์แก่ผู้รักษาเกาะนั้น เจ้าจำนวนได้เรียกนายประกันจีนกิมตุ๋นไว้มั่นคง สมควรกับเงินของหลวงอยู่แล้ว จึงตั้งจีนกิมตุ๋นเปนที่ขุนรักษาสมุทคิรีออกมารักษาเกาะในทเลฝั่งตวันออก ตั้งแต่ณวันอังคารขึ้นค่ำ ๑ เดิอน ๕ ปีมะโรงยังเปนนพศกสืบไป แลให้ขุนรักษาสมุทคิรีส่งเงินเข้าท้องพระคลัง เดือน ๔ งวดหนึ่ง เงิน ๑๓ ชั่ง ๑๐ ตำลึงให้ครบจงทุกปี อย่าให้เงินของหลวงค้างล่วงงวดปี แต่จำนวนหนึ่งได้นั้น ให้ผู้ว่าราชการเมืองกรมการหมายให้นายกำนัน นายบ้าน นายอำเภอ ประกาศข่าวร้องราษฎรซึ่งอยู่ในแขวงบ้านแขวงเมืองให้รู้จงทั่ว ว่าเกาะในทเลฝั่งตวันออกนี้ ให้ขุนรักษาสมุทคิรีรับอาสาเปนเจ้าของระวังรักษา ส่งเงินเข้าท้องพระคลังเปนประโยชน์กับแผ่นดินแล้ว ห้ามอย่าให้ราษฎรคนใดคนหนึ่งไปหาสิ่งของซึ่งเกิดในเกาะแลตัดฟืนไปซื้อขายตามอำเภอใจเหมือนแต่ก่อน ถ้าราษฎรคนใดจะไปทำมาหากินในเกาะทำไรทำสวนแลตัดฟืนซื้อขายเปนอาณาประโยชน์ ก็ให้ไปว่ากล่าวต่อขุนรักษาสมุทคิรีให้รู้ก่อน ขุนรักษาสมุทคิรียอมให้ทำจึงทำได้ ถ้าไม่ได้บอกกล่าวขุนรักษาสมุทคิรีให้รู้ก่อนไปลักลอบตัดฟืนแลหาสิ่งของ ซึ่งเกิดในเกาะแลจับตัวเต่าตัวกระ แลขุดฟองเต่าไปซื้อขาย ขุนรักษาสมุทคิรีพบปะจับได้ก็ให้เอาตัวมาส่งยังผู้ว่าราชการเมืองกรมการ คดีเช่นนี้ฝ่ายจำเลยจะแก้ตัวว่าขุดฟองเต่ามาได้ ที่หาด ที่ฝั่ง แลจับตัวเต่าตัวกระในน้ำในหาดนั้นไม่ได้ ต้องปรับไหม่ให้แก่ขุนรักษาสมุทคิรี เพราะเหตุนี้จะตัดสินไปเปนอันยากไม่มีพยาน ต้องเอาสิ่งของที่จับได้เปนสำคัญขึ้นตั้งปรับ ๑๐ ต่อแลค่าสินบลด้วย ประการหนึ่งของในน้ำราษฎรมีเครื่องมือได้เสียอากรน้ำแล้ว จะหากินในท้องทเลที่แห่งใดตำบลใด ห้ามมิให้ขุนรักษาสมุทคิรีห้ามปรามเกาะกุม ประการหนึ่งเรือลูกค้าแลเรืออื่นๆ จะไปมาอาศรัยเข้าตักน้ำตัดฟืนในเกาะไปใช้สอยไม่ได้ซื้อขายเปนอาณาประโยชน์ ก็อย่าให้ขุนรักษาสมุทคิรีจับกุมเอาพัสดุทองเงินให้ราษฎรลูกค้าได้รับความเดือดร้อน ถ้าขุนรักษาสมุทคิรีจับตัวผู้ลักลอบหาสิ่งของซึ่งเกิดในเกาะและตัดฟืนได้แขวงเมืองใด ก็ให้เอาตัวไปส่งยังผู้ว่าราชการเมืองกรมการชำระว่ากล่าวตัดสิน อย่าให้ขุนรักษาสมุทคิรีปรับไหมเอาเองตามอำเภอใจ แลให้ขุนรักษาสมุทคิรีตั้งใจรักษาเกาะโดยสัจซื่อสุจริต อย่าให้ขุนรักษาสมุทคิรีแลพรรคพวกซึ่งรักษาเกาะด้วยกัน จับตัวเต่าตัวกระซึ่งอาศรัยที่ฝั่งแลที่เกาะฆ่ากินซื้อขาย ให้ตัวเต่าตัวกระสาบสูญพืชพันธุ์ไปได้ ให้ทนุบำรุงให้เกิดพืชพันธุ์ขึ้นให้มากจะได้เปนผลประโยชน์กับแผ่นดินไปข้างหน้าอึก ถ้ามีผู้ฟ้องร้องว่าขุนรักษาสมุทคิรีแลพรรคพวกฆ่าตัวเต่าตัวกระกิน แลซื้อขายพิจารณาเปนสัจจะปรับไหมทำโทษจงหนัก ถ้าขุนรักษาสมุทคิรีจะซื้อขายสิ่งของซึ่งเกิดในเกาะให้ผู้ใดไป ก็ให้ทำตั๋วฎีกาประทับตราให้ไว้แก่ผู้ซื้อเปนสำคัญจงทุกราย อย่าให้เคลือบแฝงพาลพาโลจับกุมเปนสองซ้ำได้ ถ้าผู้ใดซื้อของไปได้ตั๋วฎีกาแล้ว ของนั้นไม่ได้ซื้อขาย ไปกลางทางเปนเหตุต่าง ๆ ตั๋วฎีกาเปียกน้ำแลหายไปก็ดีจะมาขอตั๋วฎีกาใหม่อีก ถ้าของยังไม่ได้จำหน่ายจริง ก็ให้ขุนรักษาสมุทคิรีทำตั๋วฎีกาให้ใหม่อีกอย่าให้ขัดขวาง แลให้ขุนรักษาสมุทคิรีกำชับว่ากล่าวห้ามปรามบุตรภรรยาบ่าวทาสแลสมัคพรรคพวกซึ่งรักษาเกาะด้วยกันนั้น อย่าให้คบหากันเปนโจรผู้ร้ายปล้นสดมภ์ตีเรือลูกค้า ฉ้อกระบัตรเอาพัสดุทองเงินแก่ลูกค้าพาณิชสมณชีพราหมณ์อาณาประชาราษฎร ซึ่งไปมาอาศรัยอยู่ในเกาะกระทำให้ผิดด้วยพระราชกำหนด กฎหมายห้ามปรามเก่าใหม่แต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เปนอันขาด อนึ่งฝิ่นมีเจ้าภาษีรับผูกขาดส่งเงินเข้าท้องพระคลังแล้ว ห้ามขุนรักษาสมุทคิรีคบหากันลักลอบซื้อฝิ่นขายฝิ่น กินฝิ่นที่เกาะได้เปนอันขาดทีเดียว ประการหนึ่งถ้าราษฎรฟ้องหากล่าวโทษพรรคพวกขุนรักษาสมุทคิรีซึ่งไปรักษาเกาะด้วยกันนั้น ด้วยข้อคดีสิ่งใด ๆ ก็ให้ส่งตัวผู้ต้องคดีไปให้ผู้ว่าราชการเมืองกรมการชำระว่ากล่าวตามพระราชกำหนดกฎหมาย ถ้าคดีต้องตัวขุนรักษาสมุทคิรีก็ให้แต่งทนายไปว่าต่างแก่ต่าง อย่าให้ขัดขวางคดีของราษฎรไว้เนิ่นช้า อนึ่งถึงพระราชพิธีตรุษสารทก็ให้ขุนรักษาสมุทคิรีไปพร้อมด้วยผู้ว่าราชการเมืองกรมการกำนันนายอำเภอณพระอุโบสถอารามใดอารามหนึ่ง ซึ่งเคยกระทำสัตยานุสัตย์ ให้ไปพร้อมกันที่อารามนั้นแล้ว บ่ายหน้าต่อกรุงเทพ ฯ ตั้งสัตยานุสัตย์ต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รับพระราชทานน้ำพระพิพัฒน์สัตยาปีละ ๒ ครั้งจงทุกปีอย่าให้ขาดได้ ถ้าผู้ว่าราชการเมืองกรมการลุหนังสือนี้แล้วมีตราโกษาธิบดีตั้งมาด้วยฉบับหนึ่ง เรื่องราวจำนวนเงินต้องกันแล้วก็ให้ยึดเอาต้นตราโกษาธิบดีไว้ แล้วให้หมายยกขุนรักษาสมุทคิรีคนเก่าออกเสียจากที่ผู้รักษาเกาะ แล้วให้ประทวนส่งต้นหนังสือเจ้าจำนวนให้แก่ขุนรักษาสมุทคิรีคนใหม่เข้ารับรักษาเกาะตามท้องตราสืบไป
หนังสือมาณวันอังคาร ขึ้นค่ำ ๑ เดือน ๕ ปีมะโรงยังเปนนพศก (พ.ศ. ๒๔๑๐)
----------------------------