ตำนานอากรยาสูบ

หนังสือเจ้าพระยาจักรี มาถึงพระยาสวรรคโลก พระยาสุโขทัย ผู้สำเร็จราชการเมือง

ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า แต่ก่อนเมื่อยังไม่ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ๔๖ ปี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่นั่นที่นี่ ข้อการสุขทุกข์ของราษฎรมีประการใด ๆ ซึ่งราษฎรพูดจากันได้เคยทรงฟังมามาก ไม่เหมือนพระเจ้าแผ่นดินที่ล่วงแล้วแต่ก่อน เห็นเปนประหนึ่งราษฎรทั้งปวงย่อมสำคัญว่าแผ่นดินปัจจุบันตามกาลนั้น ๆ ว่า เปนที่เดือดร้อนต่าง ๆ ปราถนามุ่งหมายแผ่นดินอนาคตไปว่าจะได้ความสุขสบายโดยมากดังนี้ ด้วยว่าปรกติของราษฎรมักคิดสั้น ๆ คิดถึงแต่ตัวและครอบครัวพวกพ้องของตัวเท่านั้น ไม่ได้เอาใจใส่ถึงการแผ่นดิน เพราะฉนั้นเมื่อต้องเสียภาษีอากรบ้างแต่เล็กน้อย ก็มักบ่นว่าร้อนรนอย่างนี้อย่างนั้น เมื่อในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ราษฎรบางพวกก็บ่นว่าร้อนด้วยภาษีอากรสมพักสร ในครั้งนั้นคิดปรารถนาไปต่าง ๆ บางพวกจึงรำพึงหวังพระเดชพระคุณต่อมาก็มีบ้าง เพราะเห็นและเชื่อถือว่าทรงประพฤติในศีลสัจกอปด้วยเมตตากรุณาคุณ และทรงทราบในทางอรรถทางธรรมมาก หวังใจและเล่าลือกันว่า ถ้าได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว เห็นจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เลิกภาษีอากรสมพักสรต่าง ๆ และลดหย่อนผ่อนปรนไปให้น้อยลงกว่าแต่ก่อน ครั้นเมื่อได้เถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกสมดังประสงค์ของคนบางพวกแล้ว ก็ได้ทรงพระราชวิตกอยู่ ด้วยจะทำให้ราษฎรอยู่เย็นเปนสุขทั่วกัน แต่ครั้นจะทรงคิดอนุเคราะห์แต่ราษฎรอย่างเดียว พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย และสมณพราหมณาจารย์ ที่เคยได้สงเคราะห์อนุเคราะห์แต่พระเจ้าแผ่นดินแต่ก่อน เมื่อไม่ได้ตามเคยลดหย่อนไปเพราะภาษีอากรลดลงมากนัก ก็จะต้องลดเบี้ยหวัดเงินเดือนลง ท่านทั้งปวงไม่เห็นการตลอดก็จะมีความมัวหมองร้าวฉานไป จะทรงจัดแจงการนั้นๆ แต่ลำพังเร็ว ๆ ก็ไม่ได้ ต้องอาศรัยเห็นพร้อมยอมกันในพระบรมวงศานุวงศ์เสนาบดีข้าทูลลอองธุลีพระบาทซึ่งเปนประธาน การจึงจะเรียบร้อยได้ โดยพระราชหฤทัยกอปด้วยพระมหากรุณากับไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะได้ทำมาหากินอยู่เย็นเปนสุขทั่วไปในพระราชอาณาเขตร์ และภาษีอากรสิ่งอันใดที่เรียกเปน ๒ ชั้น ๓ ชั้นอยู่นั้น ก็ทรงพระราชดำริห์อยู่เนือง ๆ จะให้ลดหย่อนผ่อนลงเรียกแต่ชั้นเดียวให้เสมอทั่วทั้งพระราชอาณาจักร แต่ทรงพระดำริห์อยู่ตัวยราชการแผ่นดินอื่น ๆ ไป จึงยังมิได้ทรงจัดแจงให้เรียบร้อย

ณปีมะโรงอัฐศก (พ.ศ. ๒๓๙๙) โปรดเกล้า ฯ ให้เสนาบดีผู้ใหญ่ปรึกษาตัดรอนยกเงินภาษีอากรซึ่งเรียกเปน ๒ ชั้น ๓ ชั้นอยู่นั้น จะให้เรียกแต่ชั้นเดียว (ปรึกษาเห็นพร้อมกันว่า ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ นั้น) พระเดชพระคุณหาที่สุดมิได้ และซึ่งราษฎรปลูกยาสูบลงในไร่ในขนัดขึ้นเปนต้น ได้ผลปีหนึ่งคราวเดียวเหมือนต้นเข้าเปลือก ให้เรียกเปนค่าที่ไร่ละสลึงเฟื้อง ห้ามมิให้เรียกเรียงหลุมเปนพันหลุมต่อ ๑ บาทอย่างแต่ก่อน ได้นำคำปรึกษาเสนาบดีผู้ใหญ่ขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าลอองธุลีพระบาท จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้า ฯ สั่งว่า ซึ่งเสนาบดีผู้ใหญ่ผู้ช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินเห็นพร้อมยอมกันแล้ว ก็ให้เจ้าพนักงานพระคลังในขวาหาตัวนายอากรมาว่ากล่าว เจ้าจำนวนได้เรียกหาตัวจีนสอนผู้เปนที่หมื่นภักดีสมบัตินายอากรคนเก่ามาหาฤๅ ว่าเมืองสวรรคโลก เมืองสุโขทัย อากรยาสูบเดิม ๕ ชั่ง ๕ ตำลึง ครั้งนี้โปรดเกล้าฯ จะให้เรียกเงินอากรกับราษฎรเปนค่าที่ตามพิกัดใหม่ไร่ละสลึงเฟื้อง หมื่นภักดีสมบัติจะรับทำได้สักเท่าใด หมื่นภักดีสมบัติว่าเดิมรับทำอากรยาสูลผูกขาดเรียกกับราษฎรพันหลุมต่อ ๑ บาท ณแขวงเมืองสวรรคโลก เมืองสุโขทัยเปนเงินอากรปีละ ๕ ชั่ง ๕ ตำลึง ครั้นถึงปีมะโรงอัฐศกทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ จะให้เรียกเงินอากรยาสูแก่ราษฎรเปนค่าที่ตามพิกัดใหม่ไร่ละสลึงเฟื้องนั้น เงินอากรตกลงมาก จะรับทำต่อไปได้แต่ปีละ ๙ ตำลึง ๓ บาท จึงนำเอาคำหมื่นภักดีสมบัตินายอากรคนเก่าขึ้นปรึกษาเสนาบดีผู้ใหญ่ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณา ทรงพระกรุณาตรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า เดิมหมื่นภักดีสมบัติรับทำอากรยาสูบผูกขาด ณแขวงเมืองสวรรคโลก ณแขวงเมืองสุโขทัย จำนวนปีละ ๕ ชั่ง ๕ ตำลึง มาณปีมะโรงอัฐศกยกพิกัดเก่าเสีย ให้เอาตามพิกัดใหม่เปนค่าที่ไร่ละสลึงเฟื้อง หมื่นภักดีสมบัติจะรับทำได้แต่ปีละ ๙ ตำลึง ๓ บาทนั้น ก็ให้จีนสอนผู้เปนที่หมื่นภักดีสมบัตินายอากรคนเก่าขึ้นมาเรียกอากรยาสูลผูกขาดณแขวงเมืองสวรรคโลก เมืองสุโขทัย ตั้งแต่จำนวนปีมะโรงอัฐศก ปีละ ๙ ตำลึง ๓ บาทสืบไป

และเงินอากรขึ้นพระคลังในขวา ๙ ตำลึง ๒ สลึงเฟื้อง ๕๓๗ เบี้ย ขึ้นพระคลังเดิมพระบวรราชวัง ๒ สลึงเฟื้อง ๗๕๔ เบี้ย ขึ้นกรมขุนกัลยาณสุนทรเฟื้องหนึ่งกับ ๓๓๕ เบี้ย ขึ้นกรมหมื่นอมเรนทรบดินทร์ ๒ สลึงเฟื้องกับ ๗๔๔ เบี้ย ขึ้นกรมหมื่นอดุลยลักษณสมบัติ ๒ สลึงเฟื้องกับ ๒๐ เบี้ย รวมกันเข้าเปนเงิน ๙ ตำลึง ๓ บาท และให้หมื่นภักดีสมบัติส่งเงินอากรยาสูบตั้งแต่จำนวนปีมะโรงอัฐศกสืบไปปีละงวด ๆ เดือน ๔ ปีมะโรงอัฐศกงวดหนึ่ง ส่งเงินแก่เจ้าจำนวนกรมพระคลังในขวาให้ครบปีละ ๙ ตำลึง ๓ บาทจงทุกงวดทุกปีสืบไป อย่าให้เงินขาดค้างล่วงปีไปได้เปนอันขาดทีเดียว ให้หมื่นภักดีสมบัติเรียกอากรยาสูบแก่ราษฎรตามพิกัดใหม่ไร่ละสลึงเฟื้อง อย่าให้เรียกพันหลุมต่อ ๑ บาทเหมือนอย่างแต่ก่อน ถ้าและราษฎรปลูกยาสูบเกิน ๙ หลุม ๑๐ หลุมนั้น ห้ามมิให้เรียกเอาอากรเปนอันขาดทีเดียว ถ้าปลูกที่สัจพระสัจสงฆ์ให้นายอากรมีบาญชีไว้ต่างหาก จะได้ยกไว้เปนเงินเกณฑ์บุญ

อนึ่งให้หมื่นภักดีสมบัติเรียกอากรแต่โดยสัจโดยจริงตามพิกัดอัตรา ห้ามอย่าให้หมื่นภักดีสมบัติเรียกอากรล่วงแขวงล่วงอำเภอให้ล้ำเหลือผิดด้วยพิกัดอัตราแต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เปนอันขาดทีเดียว

อนึ่งสมัคพรรคพวกบ่าวแลทาสหมื่นภักดีสมบัติ ซึ่งไปเรียกอากรด้วยกันนั้น ถ้าเกิดวิวาทแก่กันเปนแต่เนื้อความมโนสาเร่ ก็ให้หมื่นภักดีสมบัติว่ากล่าวในกันเอง ถ้าเปนเนื้อความมหันตโทษข้อใหญ่ ก็ให้ส่งไปยังผู้รักษาเมืองกรมการพิจารณา ว่ากล่าวตามพระราชกำหนดกฎหมาย ถ้าและราษฎรฟ้องหากล่าวโทษหมื่นภักดีสมบัติ ก็ให้แต่งทนายไปว่าไปแก้ต่าง อย่าให้ขัดขวางคดีของราษฎรได้

อนึ่งห้ามอย่าให้ข้าหลวงผู้ไปมากิจราชการ และผู้รักษาเมืองกรมการแขวงนายบ้านนายอำเภอเกาะกุมหมื่นภักดีสมบัติ และพรรคพวกบ่าวและทาสซึ่งไปเรียกอากรด้วยกันนั้นกะเกณฑ์ไปราชการเบ็ดเสร็จ ซึ่งมิได้เปนพนักงาน และเก็บเรือยืมเรือแจวจังกูดถ่อพายเครื่องสำหรับเรือไปให้ป่วยการทำอากรแต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้

อนึ่งให้หมื่นภักดีสมบัติกำชับห้ามปรามว่ากล่าวแก่พรรคพวกบ่าวและทาสซึ่งไปเรียกอากรด้วยกันนั้น อย่าให้กระทำคุมเหงฉกชิงฉ้อกระบัตรทำกรรโชกราษฎรเปนโจรผู้ร้ายปล้นสดมภ์เอาพัสดุทองเงินเครื่องอัญมณีของสมณชีพราหมณ์อาณาประชาราษฎรทางบกทางเรือและสูบฝิ่น กินฝิ่น ซื้อฝิ่น ขายฝิ่น ทำลายพระพุทธรูป พระสถูปพระเจดีย์ พระศรีมหาโพธิ์ พระอุโบสถ พระวิหาร การเปรียญวัดวาอาราม ฆ่าช้างเอางาและขนาย ฆ่าสัตว์อันมีคุณซื้อขายสิ่งของต้องห้าม กระทำให้ผิดด้วยพระราชกำหนดกฎหมายห้ามปรามเก่าใหม่แต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เปนอันขาดทีเดียว

ถ้าถึงเทศกาลพระราชพิธีตรุษสารท ก็ให้หมื่นภักดีสมบัติมาพร้อมด้วยเจ้าเมืองกรมการ กราบถวายบังคมรับพระราชทานน้ำพระพิพัฒน์สัจจาปีละ ๒ ครั้งตามอย่างธรรมเนียมจงทุกปี

ครั้นท้องตรานี้มาถึงวันใด ถ้ามีตราเจ้ากรมพระคลังในขวา ถ้ามีหนังสือเจ้าจำนวนมาด้วยเรื่องราวจำนวนเงินต้องกันแล้ว ก็ให้พระยาสวรรคโลก พระยาสุโขทัย ลอกเอาตรานี้ไว้ แล้วก็ให้ประทวนส่งท้องตรานี้ให้เเก่จีนสอนผู้เปนที่หมื่นภักดีสมบัติคนเก่าขึ้นมาเรียกอากรยาสูบผูกขาดแต่จำนวนปีมะโรงอัฐศกสืบไป ตามหนังสือและรับสั่งมานี้จงทุกประการ

หนังสือมาณวันศุกร์ เดือนอ้ายขึ้น ๘ ค่ำ ปีมะโรงอัฐศก จุลศักราช ๑๒๑๘ (พ.ศ. ๒๓๙๙)

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ