พระราชหัตถเลขาฉบับที่ ๒
ทูลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ ถึงท่านกลาง ถึงคุณสุรวงศวัยวัฒน์ ด้วยแต่ก่อนฉันได้แจ้งความมาว่าจะออกจากเมืองจันทบุรีมาเกาะเสม็ต เพื่อจะลงมาดูให้ตลอดเขตแดน แลจะได้พบกับคอเวอนแมนเมืองไซ่ง่อนนั้น
ครั้นวัน ๓ ๑๒ฯ ๓ ค่ำ เวลา ๒ โมงเช้าได้ออกจากเมืองจันทบุรี ตรงมาถึงเกาะกงเวลายามหนึ่ง เข้าทอดอยู่ในเกาะ ครั้นวัน ๔ ๑๓ฯ ๓ ค่ำ เวลาเช้าออกจากเกาะกงมาทอดที่น่าเกาะเสม็ตด้านในขึ้นเเดิรดูบนบกแลตีกระเชียงดูตามเกาะซึ่งเปนหมู่เหล่านั้น ครั้นเวลาค่ำเลื่อนเรือมาจอดใกล้ฝั่งบังแหลมเทียน คอเวอเนอยังหาขึ้นมาไม่ รุ่งขึ้นวัน ๕ ๑๔ฯ ๓ ค่ำ ให้เรือพระยาประภากรวงศไปคอยดักอยู่ที่เกาะกง เผื่อว่าเขาจะไม่เห็นเรือฝ่ายเราด้วยจอดชิดฝั่ง
ครั้นรุ่งขึ้นวัน ๖ ๑๕ฯ ๓ ค่ำ เวลาบ่ายสองโมงเศษ คอเวอเนอมาด้วยเรือกลไฟอาลาย มีเรือรบมาด้วยลำหนึ่ง เข้ามาทอดสมออยู่ในอ่าวแหลมเทียนใกล้กับเรือที่นั่ง เรือรบฝรั่งเศสสลุตธงตามธรรมเนียม ครั้นเวลาบ่าย ๔ โมง คอเวอเนอ๑มาหาที่เรือเวสาตรี พร้อมด้วยโคโลเนียลสิเกรตารี คอมมานเดอเรือรบแลออฟฟิศเซอรวม ๑๔ คน พูดกันโดยทางไมตรีประมาณชั่วโมงหนึ่ง เมื่อคอเวอเนอกลับไปเรือรบมูรธาวสิตสวัสดิสลุตคอเวอเนอ แล้วได้ให้ท่านเล็กภาณุรังษีสว่างวงศ กรมหลวงภาณุพันธุวงศวรเดช กรมหมื่นเทวะวงศวโรปการ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ ไปเยี่ยมเยียนคอเวอเนอที่เรืออาลาย ครั้นเวลาจวนอาทิตย์ตกเรือรบฝรั่งเศสสลุตธงสแตนดาดอิก ๒๑ นัด เพราะเขาจะกลับไปในเวลาค่ำวันนี้ไม่มีเวลาสลุต ครั้นเวลาค่ำทุ่มหนึ่งมีการเลี้ยงคอเวอเนอ คอมมดันต์ โคโลเนียลสิเกรตารี กับมองสิเออลอร์ยู ที่เรือเวสาตรีอยู่จน ๔ ทุ่มเลิก การที่ได้พูดจากันนั้นเปนทางพระราชไมตรีสนิธสนมเปนอันดี กำหนดคอเวอเนอจะได้ออกจากที่นี่ไปในเวลา ๕ ทุ่ม ได้จัดให้เรือกลไฟสกรูลำเล็กนำเรือคอเวอเนอออกจากอ่าวจนตกถึงที่กว้าง การที่ได้พบปะกันครั้งนี้เปนการเรียบร้อยดีตลอด
กำหนดเวลาพรุ่งนี้เช้า จะลงไปดูตามฝั่งทเลตลอดจนศิลาขาวที่ปากอ่าวกพงโสม แล้วจะกลับขึ้นมานอนที่เกาะกง แลพักขึ้นมาตามระยะทางโดยลำดับจนถึงกรุงเทพฯตามกำหนด ขอให้แจ้งความแก่พระบรมวงศานุวงศแลข้าราชการซึ่งอยู่รักษากรุงเทพมหานครให้ทราบด้วย
หนังสือเขียนในเรือพระที่นั่งเวสาตรี ที่แหลมเทียน แขวงเมืองประจันตคิรีเขต วัน ๖ ๑๕ฯ ๓ ค่ำ ปีวอกฉอ๑๗ศก ศักราช ๑๒๔๖
สยามินทร์
-
๑. คอเวอเนอคนนี้ชื่อ ธอมสัน (Thompson.) ↩