นิทานเรื่องที่ ๓ เรื่องพระเจ้าสันหยันยิงเด็กโดยสำคัญว่าเปนเนื้อ

เหลี่ยม ๓ นั้นจารึกไว้เปนนิทานว่า อยู่ในกาลวันหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าสันหยันเสด็จประพาศเนื้อด้วยรี้พลโยธาณป่า แลเด็กเลี้ยงโคผู้หนึ่งกลัว จึงวิ่งเข้าซ่อนอยู่ในสุมทุมไม้ แลพระเจ้าสันหยันทอดพระเนตรเห็นซุ้มพุ่มไม้นั้นไว ๆ อยู่ คิดแต่ในพระทัยว่าเนื้อ ชักพระแสงเกาทัณฑ์ออกยิงถูกซอกคอเด็กตลอดออกไปสันหลัง เด็กนั้นร้องมิออกดิ้นอยู่ในสุมทุมไม้ พระเจ้าสันหยันตรัสแก่ทหารว่า เนื้อถูกเกาทัณฑ์ยังดิ้นอยู่ เร่งไปเอามาจงฉับพลัน ทหารซึ่งมาข้างม้าพระเจ้าสันหยันนั้น จึ่งไปในสุมทุมไม้ เห็นแต่เด็กต้องเกาทัณฑ์ดิ้นอยู่ จึ่งยกเอาเด็กนั้นมาถวายแก่พระเจ้าสันหยัน ๆ เห็นดังนั้นก็หยุดม้าทรงพระกรรแสงหนักหนา แล้วสั่งแก่คนเร็วให้ไปหาบิดามารดาเด็กนั้นมาหาณที่นี้ แลคนเร็วก็ไปเสาะหาพบบิดามารดาเด็กพามาถึงพระเจ้าสันหยัน ๆ พาบิดามารดาเด็กนั้นเข้าไปณเมืองแล้ว สั่งให้แต่งการศพตามธรรมเนียมแล้ว จึ่งเอาทองกองสูงเท่าพระองค์นั้นแล้ว เอาพระแสงเกาทัณฑ์ซึ่งทรงนั้นวางไว้บนกองทอง จึ่งให้บิดามารดาเด็กนั้นเข้ามานั่งใกล้กองทอง ก็เสด็จจากพระที่นั่งนั้นไปนั่งลงใกล้กองทองแล้ว ปราไสโปรดแก่บิดามารดาเด็กว่า เราไม่ทันเห็นว่าบุตรของตัวอยู่ในสุมทุมไม้ เราคิดว่าเนื้อ เรายิงเกาทัณฑ์ไปถูกบุตรของท่านก็ผิดอยู่แล้ว อย่าให้เปนกรรมเปนเวรแก่เราเลย ถ้ามิเอาโทษ (เรา ๆ) ให้กองทองสูงเท่าตัวเรานี้ ถ้ามิยอมเอาทอง จะพยาบาทแทนบุตรของตัว ก็ให้เอาพระแสงเกาทัณฑ์นี้ยิงเราให้ตายแทนบุตรของท่านเถิด บิดามารดาเด็กได้ยินพระเจ้าสันหยันตรัสดังนั้น ก็กราบถวายบังคมแล้วทูลว่า อย่าว่าแต่ชีวิตรบุตรข้าพเจ้าตายผู้เดียว ถึงชีวิตรข้าพเจ้าแลทั้งพวกข้าพเจ้าก็ดี ข้าพเจ้าขอถวายเสดาะเคราะห์ ข้าพเจ้าจะได้ผูกกรรมเวรต่อลอองธุลีพระบาทหามิได้ ขอพระชัณษาพระองค์เจ้าจงยืนพระบารมียิ่ง ๆ ขึ้นไป จะได้ปกเกล้าฯ อาณาประชาราษฎรทั้งปวงได้อยู่เย็นเปนศุข แลพระเจ้าสันหยันได้ยินกราบทูลอ้อนวอนดังนั้น ก็ทรงพระเมตตาแก่บิดามารดาเด็ก ให้พระราชทานเสื้อผ้า โปรดพระราชทานตราคุ้มห้าม บรรดาจังหวัดแว่นแคว้นซึ่งบิดามารดาเด็กอยู่นั้น พระราชทานให้เปนอันขาดทีเดียว แล้วให้ยกเอาทองซึ่งกองไว้นั้นไปส่งให้แก่บิดามารดาเด็กนั้น ยากอยู่ก็เปนเศรษฐีสืบไป เพราะพระเจ้าทรงธรรมแก่บิดามารดาเด็กนั้นแล ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ