ฉากที่ ๒ – ห้องหนังสือในบ้านขุนเจริญชวนะกิจ

(ขุนเจริญนั่งอ่านหนังสืออยู่)

ขุนเจริญ

อ้ายพูนโว้ย! อ้ายพูน!

พูน

(ขานจากในโรง) ขอรับ (เข้ามาทางประตูซ้าย)

ขุนเจริญ

มีหนังสือจากคุณหญิงละม้ายไหมวันนี้

พูน

ไม่มีขอรับ (ออกไป)

ขุนเจริญ

(พูดไปทางคนดู) ฮือ พิลึก ควรจะเขียนหนังสือมาเทียวถ้ามาไม่ได้ เจ้าคุณวัชน่ะไม่สงไสยเลยจนนิดหนึ่ง เอออ้ายเรานี้และไม่ระวังตัวจะเลยไม่ได้แม่ถวิล ถ้าแม่ถวิลหลุดไป เงินก็ไปด้วยหลายร้อยชั่งอยู่ ก็ดีหรอกแม่ถวิลหน้าตาก็พอจะรักได้ แต่ถึงหน้าตาจะเลวยังไง อ้ายเงินมันก็ช่วยให้ลืมความไม่สวยไปได้ พับผ่าซิ ถ้าเจ้าคุณวัชแกไปได้ระแคะระคาย เรื่องเรากะเมียแกละก็จบเทียว แต่นั่นแหละอ้ายเจ้าบุญสมน้องเรามันประพฤติ์ตัวเปนนักเลง เปนเจ้าชู้ แกมัวไปสงไสยอ้ายน้องเสีย เราคงรอดไปได้ทางนี้เอง ก็ดีหรอกมีน้องกะเขาคนก็พอพึ่งพาอาไศรยได้

(พูนเข้ามา)

พูน

คุณหญิงละม้ายดูเหมือนมาแล้วขอรับ ผมเห็นรถจอดที่ร้านแขกริมนี้ ท่านเคยจอดรถที่นั่นก่อนเสมอ แล้วเดินมาขอรับ

ขุนเจริญ

ดีละ แน่ะเอาฉากนี่บังน่าต่างเสียหน่อยเถอะ ยายแก่บ้านตรงข้าม, หน้าตาแกบอกอยู่ว่าเปนคนบ้าปากบอน (พูนยกฉากไปตั้งบังหน้าต่างแล้วออกไป) เออต้องเตรียมตัวพูดจาให้ดี ท่าทางสงไสยเรื่องแม่ถวิลเสียนิดๆ แล้ว (ละม้ายเข้ามาทางประตูซ้าย)

ละม้าย

แหม ตรึกตรองอะไรน่ะ ออกเคืองไหมต้องคอย

ขุนเจริญ

อ๋อ ฉันทราบอยู่แล้วว่า ธรรมดาผู้หญิงจะไปไหนให้ถูกเวลาไม่ได้ เสียไป เชิญนั่ง

ละม้าย

โธ่ คุณควรจะสงสารฉันแท้ๆ เทียว หมู่นี้ละเจ้าคุณพื้นเสียเละเทะเหลือทน แล้วก็หึงพ่อบุญสมออกหยำเยอะ ข้อนี้แหละมันน่าขันแท้ๆนะ

ขุนเจริญ

(พูดป้อง) ขอบใจท่านพวกบริษัทปากบอนช่วยพูดเรื่องนี้ป่าวไว้

ละม้าย

จนฉันอยากให้ท่านยอมยกแม่ถวิลให้เสียแล้วละ ท่านจะเชื่อเสียมั่งว่าเขารักกันจริงทางโน้น ยังไงค๊ะ

ขุนเจริญ

จริง จริง แล้วตัวหล่อนเองก็จะได้แลเห็น ว่าการที่ตัวหล่อนเองสงไสยฉันในเรื่องแม่ถวิลนะไม่มีมูลเลย

ละม้าย

ฉันเชื่อคุณ ที่จริงน่ารำคาญมีคนใส่ความฉันต่างๆ แม่เสงี่ยมที่ฉันนึกว่าเปนคนชอบกันแท้ๆ ก็ยังใส่ความฉันได้ต่างๆ ถ้ามันมีมูลเหตุมั่งก็ไม่น่าน้อยใจ

ขุนเจริญ

นี่แหละมันน่าเคืองจริงๆ อ้ายตอนไม่มีมูลนี่น่าแค้นจริง ถ้าเรื่องอะไรที่เขาว่า ๆ เราทำ ถ้ามันมีมูลเหตุสักนิดหน่อยก็ไม่ค่อยน่าโกรธ

ละม้าย

โธ่ ฉันน่ะไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเลยเทียว แล้วเจ้าคุณก็ฉุนและสงไสยสนเท่ห์อะไรต่างๆ ก็ที่จริงฉันไม่มีความผิดอะไรสักนิดเดียว

ขุนเจริญ

นี่แน่แม่ละม้ายฉันจะบอกให้ เปนความผิดของหล่อนเองที่หล่อนต้องคับแค้นใจเช่นนี้ เมื่อผัวหึงษ์และสงไสยใจเมียโดยไม่มีเหตุ ก็เท่ากะประพฤติ์ผิดสัญญา เพราะธรรมดาคนที่จะแต่งงานกัน ต้องเข้าใจว่าเชื่อถือน้ำใจกันและกันไม่ใช่หรือ ก็เมื่อมาเกิดไม่เชื่อน้ำใจเช่นนี้แล้ว ก็นับว่าสัญญานั้นเปนอันเสีย เพราะฉนั้นผู้หญิงที่ถูกผัวสงไสยเช่นนั้น ต้องคิดอ่านหลอกผัวเสียให้เข็ดเพื่อเปนการลงโทษ

ละม้าย

ฮือ ฉันบางทีอ้ายกลิ่นบ้านนอกมันจะยังอบรมอยู่ในตัวมาก ชาวบางกอกเขาจะนิยมกันอย่างไรไม่ทราบ แต่การที่จะลงโทษผัวอย่างคุณว่าน่ะ ยังไม่เห็นชอบ

ขุนเจริญ

จริงเทียวที่หล่อนว่า นี่เปนความคิดชาวบ้านนอกแท้ นี่แน่ฉันจะบอกให้ ชื่อหล่อนน่ะมันดีเสียเหลือเกินคนจึงได้ใส่ความหล่อนนัก อ้ายเรื่องนี้เหมือนคนอ้วนตายเพราะความอ้วนนั่นเอง นี่ชื่อดีนักจะต้องเสียคนเพราะความดีอันนั้นเอง

ละม้าย

อ้อ ถ้าเช่นนั้นคุณแนะนำให้ฉันประพฤติ์ชั่วสำหรับรักษาชื่อยังงั้นหรือ

ขุนเจริญ

ยังงั้น

ละม้าย

ฮะฮะ! นี่ก็เปนตำราปลาด ต้องเสียชื่อเสียก่อนจึงจะรักษาชื่อต่อไปได้ ฉันรับว่าฉันไม่เข้าใจ

ขุนเจริญ

นี่ก็เพราะความอบรมบ้านนอกยังติดมาในตัวหล่อน

ละม้าย

จริงค่ะ แต่ถึงฉันจะประพฤติ์ชั่วก็ขอให้คุณเข้าใจเถอะว่า คงจะเปนไปได้เพราะผัวฉันข่มขี่ ไม่ใช่เพราะเชื่อคำแนะนำคุณ (ลุกขึ้น)

ขุนเจริญ

พุทโธ่แม่ละม้าย ฟังฉันก่อนเถอะ – (พูนเข้ามาซ้าย) ฮะ! นั่นเสือกเข้ามาทำไมวะอ้ายพูน ใครเรียกใครร้องมึงเมื่อไร ขืนเสือกไปนักเถอะคงได้ดีวันหนึ่ง

พูน

รับประทานโทษเถอะครับ แต่ผมนึกว่าคุณคงจะไม่อยากให้เจ้าคุณวัชท่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ขุนเจริญ

เจ้าคุณวัช! ตาย!

ละม้าย

อกแตก ฉันฉิบหายละคราวนี้ โธ่ นี่จะทำยังไงละ อู๊ยตายแล้ว ขึ้นกระไดกัง ๆ มาแล้ว เออแอบหลังฉากนี่แหละ (เข้าไปแอบหลังฉาก)

ขุนเจริญ

ส่งหนังสือนั่นมานี่ (นั่งทำง่วง หนังสือวางบนตัก พระยาวัชรินทร์เข้ามาทางประตูซ้าย)

พระยาวัช

นี่ยังงี้ ไม่มีละ ไม่อ่านหนังสือก็เขียนหนังสือดีจริง ๆ เทียว (กระแอม) พ่อบุญส่ง

ขุนเจริญ

โอ เจ้าคุณ (วางหนังสือแล้วลุกขึ้น) รับประทานโทษเถอะขอรับ ผมอ่านหนังสือนี่ออกง่วง ขอบพระเดชพระคุณใต้เท้าที่มาเยี่ยมผม ดูเหมือนเจ้าคุณยังไม่ได้มาที่นี่เลย ตั้งแต่ผมจัดห้องขึ้นใหม่ นั่นแหละขอรับผมมีสุรุ่ยสุร่ายอยู่ก็แต่ในเรื่องหนังสือนี่แหละ

พระยาวัช

ดีมาก ดีมาก แหมแต่ฉากก็ยังใช้ให้เปนประโยชน์ได้– (เดินเข้าไปทางฉาก) แขวนแผนที่นะ

ขุนเจริญ

ขอรับ ฉากนั่นเปนประโยชน์มาก (ชวนเจ้าคุณให้มานั่งเสียให้ห่างฉาก)

พระยาวัช

แหม อ้ายฉากนั่นดี ถ้าจะหาอะไรเร็วๆ

ขุนเจริญ

(พูดป้อง) ถ้าจะซ่อนอะไรเร็วๆ ก็เปนประโยชน์

พระยาวัช

ฉันมาวันนี้ ก็คิดว่าจะมาพูดธุระส่วนตัว (แลดูอ้ายพูน)

ขุนเจริญ

อ้ายพูนเองออกไปเสียก่อนก็ได้วะ มีธุระอะไรข้าจะเรียก

พูน

ขอรับ (ออกไปทางซ้าย)

ขุนเจริญ

ใต้เท้าจะพูดธุระหรือครับ

พระยาวัช

เดี๋ยวนี้ฉันน่ะมีความเดือดร้อนในใจอย่างที่สุดอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งฉันจะบอกตรงๆ ไหนๆ ก็เปนคนชอบพอกันเปนหนักหนา เดี๋ยวนี้แม่ละม้ายน่ะทำให้ฉันได้รับความทุกข์ใจมากเทียว

ขุนเจริญ

ยังงั้นหรือขอรับ ผมเสียใจ

พระยาวัช

ฉันมาแลเห็นแน่นอนเสียแล้วว่า หล่อนไม่มีความรักในตัวฉันเลยจนนิดเดียว แต่ยังร้ายกว่านั้น ฉันได้ความจากคนที่ควรรู้ความจริงว่าหล่อนรักอยู่กะคนอื่น

ขุนเจริญ

อ๊ะ อะไรยังงั้นเทียวหรือขอรับ

พระยาวัช

ยังงั้นซิ แล้วนี่แน่ ดูเหมือนฉันจะรู้ตัวคนนั้นแล้วละ (ตบขาขุนเจริญ ขุนเจริญสะดุ้ง)

ขุนเจริญ

แหมใต้เท้าทำให้ผมตกใจมากเทียว

พระยาวัช

ฉันรู้อยู่แล้วว่าพ่อบุญส่งคงจะเห็นใจฉัน

ขุนเจริญ

เชื่อผมเถอะขอรับ ถ้าใต้เท้าจับตัวคนที่รักกับคุณละม้ายได้จริงละก็ผมคงเสียใจเท่า ๆ กะใต้เท้าหรือมากกว่าก็เปนได้

พระยาวัช

เชื่อ เชื่อ นี่แหละมีเพื่อนอย่างแกยังงี้มันทำให้สบายใจ ก็แกทายถูกไหมล่ะว่าใคร

ขุนเจริญ

ทายไม่ถูกเลยครับ เห็นจะไม่ใช่หลวงพจนกิจนะครับ

พระยาวัช

ไม่ใช่ ก็ถ้ามันเปนเจ้าบุญสมละจะว่ายังไง

ขุนเจริญ

น้องผมหรือครับ อะไร! ไม่เปนได้แน่เทียว

พระยาวัช

เพื่อนเอ๋ย ความสัตย์ในใจของแกเองทำให้คาดผิด ทำให้ชั่งความชั่วความดีของคนอื่นด้วยความชั่วความดีของตัวเอง

ขุนเจริญ

ก็เปนครับ คนที่ทราบอยู่แน่ว่าใจของตนตั้งอยู่ในความสัตย์ ก็ไม่ใคร่อยากนึกว่าใจผู้อื่นจะชั่วได้

พระยาวัช

ถูก แต่น้องชายของแกไม่ได้ถือธรรมะดีเหมือนตัวแก ไม่เคยได้ยินพูดอย่างแกเลยเทียว

ขุนเจริญ

แต่ผมเชื่อว่าคุณละม้ายยังมีความมั่นคงในใจอยู่มาก

พระยาวัช

เฮ้ย พ่อบุญส่ง ผู้หญิงสาวน่ะ เมื่อถูกผู้ชายหนุ่มๆ รูปร่างดีๆ ป้อยอเข้าหนักมันจะมั่นไปได้ถึงไหนเทียว

ขุนเจริญ

ก็จริงอยู่ครับ

พระยาวัช

ฉันน่ะมันแก่กว่าแม่ละม้ายมากนัก เพราะฉะนั้นหล่อนก็ไม่น่าจะรักฉันมากเหมือนฉันรักหล่อน แต่ที่ฉันเจ็บใจนักน่ะ คือที่ตรงหลานชายเจ้าคุณอมรเพื่อนแก้วของฉันมาทำฉันเสียได้ นี่แหละเจ็บมาก

ขุนเจริญ

จริงขอรับ เมื่อมีอะกะตัญูปนอยู่ด้วยเช่นนั้นก็ยิ่งเจ็บหนักขึ้นเปนสองชั้น

พระยาวัช

เมื่อคุณพ่อเขาตาย ฉันหรือก็ได้รับมาเลี้ยงดูไว้จนเติบใหญ่ไม่ให้ได้ความเดือดเนื้อร้อนใจเลย

ขุนเจริญ

ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่า พ่อบุญสมจะทำกะใต้เท้าผู้มีพระเดชพระคุณได้ถึงเพียงนั้น แต่ถ้ามีพยิงพยานแน่ว่าได้เปนจริงแล้วก็ ฮึ! เถอะ ผมตัดไม่นับเปนน้องอีกเลยทีเดียว คนที่เคยได้รับความอุปถัมภ์ค้ำชูของเขาแล้ว กลับตอบแทนด้วยการฬ่อลวงเมียเขาเช่นนี้ เปนคนเลวอย่างที่สุด มนุษย์ไม่ควรคบอีกต่อไปทีเดียว

พระยาวัช

แหมแกช่างผิดกะน้องแกจริงๆ เทียว

ขุนเจริญ

ผมยังไม่เชื่อว่าคุณละม้ายจะเปนไปได้อย่างเจ้าคุณว่า

พระยาวัช

ฉันก็ไม่อยากจะใส่ความหล่อนหรอก แต่หมู่นี้หล่อนบ่นอยู่บ่อยๆ ในเรื่องฉันไม่ให้เงินส่วนตัวหล่อนต่างหาก แล้วเมื่อวานซืนนี้เองแหละเกือบพูดออกมาตรงๆ ว่า ถ้าฉันตายเสียหล่อนก็ไม่เสียใจ ก็นี่แหละฉันกะหล่อนก็มีความเห็นต่างกันอยู่เสมอในเรื่องการใช้จ่ายของหล่อน เพราะฉนั้นฉันคิดจะแบ่งทรัพย์สมบัติของฉันให้กะหล่อนเสียส่วนหนึ่งต่างหากทีเดียว สำหรับหล่อนจะได้เปนเหมือนกะเปนโสดแก่ตัว แหละเมื่อฉันตายไปแล้วหล่อนก็คงจะได้เห็นหรอกว่าฉันไม่ลืมนึกถึงหล่อน นี่แน่ฉันทำหนังสือไว้ ๒ ฉบับอยากให้แกดูและออกความเห็น ฉบับหนึ่งเปนหนังสือแบ่งสมบัติให้แม่ละม้ายได้รับเงินใช้จ่ายปีละร้อยชั่งเสมอไป ในเวลาที่ฉันยังมีชีวิตร์อยู่ อีกฉบับหนึ่งเปนพินัยกรรม์ยกมรฎกให้แม่ละม้ายเมื่อฉันตายแล้ว

ขุนเจริญ

การที่เจ้าคุณคิดเช่นนี้ เปนเครื่องแสดงความกรุณาของเจ้าคุณอย่างยิ่ง

พระยาวัช

ฉันไม่อยากให้แม่ละม้ายมีสาเหตุที่จะบ่นได้อีกต่อไปว่าฉันประพฤติ์ข่มขี่ต่างๆ เออนี่แน่ ว่าแต่เรื่องแกกะเรื่องแม่ถวิลนะยังไง

ขุนเจริญ

ช่างก่อนเถอะขอรับ (แลดูไปทางฉาก)

พระยาวัช

ฉันเสียใจที่แกไม่ได้ตามประสงค์ นั่นและ ที่จริงถ้าฉันจะยกให้กะแกเสียก็ได้ เขาก็ทำยังงั้นถมไป ตัวผู้หญิงไม่ต้องมีเสียง แต่ฉันมันเข็ดมาแล้ว เพราะยังงั้นไม่อยากยกแม่ถวิลให้ใครที่เขาไม่เต็มใจ หาไม่ถ้าไปเกิดหยุกหยิกกันเหมือนฉันกะแม่ละม้าย ก็จะพากันมาซัดเอาฉันเข้า แต่ในส่วนตัวแกน่ะฉันเสียใจมาก

ขุนเจริญ

ขอเสียทีเถอะครับ อย่าพูดเรื่องผมเลย เรื่องของเจ้าคุณเองสำคัญกว่ามาก (พูดป้อง) ความฉิบหายมาราย ๆ แล้ว เดี๋ยวแม่ละม้ายก็จะเกิดเคืองขึ้นมา

พระยาวัช

ฉันไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมแกจึงห้ามไม่ให้ฉันบอกแม่ละม้ายเรื่องแม่ถวิล ฉันเชื่อว่าแม่ละม้ายคงช่วยแก

ขุนเจริญ

ขอเสียเถอะครับ ผมยังไม่มีอกมีใจจะพูดเรื่องตัวเอง มัวนึกแต่ถึงเรื่องของใต้เท้า

(อ้ายพูนเข้ามา)

พูน

คุณบุญสมขอรับ พูดอยู่กับคุณเปล่งกลางถนน คุณบุญสมว่าท่านทราบแล้วว่าคุณอยู่

ขุนเจริญ

ไม่ได้ ถ้าจะเข้ามาละบอกเสียเถอะว่าข้าไม่อยู่ไปจากบ้านทั้งวันเทียว

พระยาวัช

ประเดี๋ยว นึกอะไรออกอย่างหนึ่งแล้ว ให้พ่อบุญสมขึ้นมาเถอะ

ขุนเจริญ

(พูดกับบ่าว) เอ้าถ้ามาก็ให้ขึ้นมาเถอะ (พูนออกไป)

พระยาวัช

นี่แน่เพื่อนเอ๋ย ช่วยกันหน่อยเถอะ ก่อนพ่อบุญสมมา ขอฉันซ่อนที่ไหนสักแห่งเถอะ แล้วแกต่อว่าน้องแกเข้าเรื่องแม่ละม้าย ฉันจะได้ฟังว่าเขาจะตอบยังไง จะได้รู้เท็จแลจริงกันเสียที

ขุนเจริญ

อะไรใต้เท้าจะให้ผมช่วยในการสาวไส้น้องชายผมเองเทียวหรือขอรับ

พระยาวัช

อ้าวก็แกว่าแกเชื่อว่า น้องแกไม่เปนจริงตามเขาหา ก็ถ้ายังงั้นจริงแล้ว แกควรจะยินดีที่มีโอกาศสอบสวนความให้แจ่มแจ้ง (เอาละน่ะเดินไปทางฉาก) ฉันแอบหลังฉากนี่ก็ได้ เหอ! มีคนอยู่แล้ว ฮะนี่ยังไงกัน

ขุนเจริญ

ฮะ! ฮะ! ก็น่าขัน ผมต้องสารภาพกับใต้เท้าว่าผมไม่ใช่ฤาษีอย่างที่ใต้เท้าหมาย นั่นนางผู้หญิงลครคนหนึ่งที่มากวนผมอยู่บ่อยๆ พอได้ยินใต้เท้าขึ้นมาก็หนีเข้าไปแอบอยู่หลังฉากนั่น

พระยาวัช

อ้อ! (หัวเราะ) ไม่นึกเลยว่าแกจะเปนคนยังงี้ ฮะ! ฮะ! เอาเถอะฉันหาที่ซ่อนใหม่ เออห้องนั้นได้ไหมล่ะ (ชี้ประตูขวา)

ขุนเจริญ

ได้ขอรับเชิญเข้าไปเถอะ

พระยาวัช

เจ้าชู้ เจ้าชู้ (หัวเราะแล้วออกไปทางประตูขวา)

ขุนเจริญ

เออ สิ้นเคราะห์ไปทีหนึ่ง หวุดหวิดเทียวตกกะรกซิ (นายบุญสมเข้ามาทางประตูซ้าย)

บุญสม

เฮอคุณพี่นี่เปนอะไรกัน อ้ายพูนจะไม่ให้ผมขึ้นมาเสียแล้ว นี่คุณพี่คบผู้หญิงมาไว้ในบ้านละกะมัง

ขุนเจริญ

เปล่า เปล่า

บุญสม

ก็เจ้าคุณวัชหนีไปไหนเสียล่ะ อยู่กะแกเมื่อตะกี้ไม่ใช่หรือ

ขุนเจริญ

ท่านอยู่ แต่พอได้ยินว่าแกจะขึ้นมาท่านก็หลบไปเสีย

บุญสม

ทำไม ท่านกลัวผมจะยืมเงินท่านหรือ

ขุนเจริญ

ไม่ใช่ยังงั้น ฉันเสียใจที่ทราบข่าวว่าแกทำให้เจ้าคุณวัชท่านไม่พอใจในส่วนตัวแกมาก

บุญสม

ทำไม

ขุนเจริญ

บอกตรงๆ ท่านสงไสยว่าแกพยายามจะทำสนิทกับคุณละม้ายนัก

บุญสม

ผมหรือ จะตายจริง เปล่าเลยเทียวพับผ่าซิ ฮะ! ฮะ! อ้อนี่เจ้าคุณวัชรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วว่ามีเมียสาวหรือ หรือคุณละม้ายเกิดรู้สึกขึ้นมาว่ามีผัวแก่

ขุนเจริญ

ไม่ใช่เรื่องสำหรับหัวเราะเล่น

บุญสม

จริง จริง แต่ผมขอบอกกล่าวว่าผมไม่รู้ไม่เห็นเลยทีเดียวในเรื่องนี้

ขุนเจริญ

(พูดเสียงดัง) ถ้าเจ้าคุณวัชท่านได้ยินน้องชายพูดยังงี้ท่านจะยินดีมากทีเดียว

บุญสม

จริงอยู่หรอก ครั้งหนึ่งผมได้นึกว่าดูเหมือนคุณละม้ายจะชอบผม แต่ผมไม่ได้ข้องแวะเข้าไปเลยเทียวให้ตายซิ คุณพี่ก็รู้อยู่แล้วว่าผมน่ะรักแม่ถวิล

ขุนเจริญ

ถึงคุณละม้ายจะแสดงกิริยาชอบแกสักเพียงใดก็ดี แกไม่ควร–

บุญสม

นี่แน่คุณพี่ผมจะบอกให้ ผมเชื่ออยู่ว่าผมคงจะไม่ตั้งใจทำผิดคิดร้ายต่อใครเลยเทียว แต่ถ้าผู้หญิงสาวสวยจะมาแสดงกิริยารักผม และถ้าผู้หญิงคนนั้นมีผัวแก่จนเกือบเปนพ่อเขาได้–

ขุนเจริญ

(พูดซ้อน) แกจะทำไม

บุญสม

ผมก็เห็นจะต้อง–เอ้อ–

ขุนเจริญ

ทำไม

บุญสม

ต้องขอยืมธรรมะของคุณพี่มาหน่อยเท่านั้นแหละ แต่ที่จริงผมปลาดใจมาก ที่เอาชื่อผมไปควบกะคุณละม้าย ผมเข้าใจอยู่เสมอว่าคุณพี่เองน่ะเปนคนชอบของคุณละม้าย

ขุนเจริญ

พ่อบุญสม การเถียงเช่นนี้ไม่เปนเรื่องเลย

บุญสม

ผมสาบาลได้เทียว ผมเคยได้เห็นคุณพี่กับคุณละม้ายพูดกันด้วยไนยตา

ขุนเจริญ

อย่าเล่นตลกยังงั้นน่ะ ไม่เข้าเรื่องเลย

บุญสม

โธ่ผมพูดจริงๆ น่า คุณพี่จำไม่ได้หรือวันนั้นน่ะเมื่อผมไปบ้านเจ้าคุณวัช–

ขุนเจริญ

เลิกทีน่ะ!

บุญสม

ผมพบคุณพี่นั่งคุยอยู่กะคุณละม้าย–

ขุนเจริญ

ขอทีน่ะพ่อคุณเถอะ!

บุญสม

นั่งอยู่ด้วยกันสองต่อสองยังไงล่ะ

ขุนเจริญ

นี่แน่จะบอกอะไรให้ เจ้าคุณวัชได้ยินอ้ายเราพูดกันนี่หมดแล้วล่ะ ฉันรู้อยู่ว่าแกคงจะแก้ตัวให้หลุดไปได้ ถ้าไม่ยังงั้นก็ไม่ยอมให้แอบฟังหรอก

บุญสม

เจ้าคุณวัชหรือ ฮะ! อยู่ที่ไหน

ขุนเจริญ

อยู่ในนั้นแน่ะ (ชี้ประตูขวา)

บุญสม

ต้องเอาตัวออกมา

ขุนเจริญ

อย่าเลยน่ะ

บุญสม

เจ้าคุณขอรับ (เปิดประตู) เชิญออกมาเถอะขอรับ (พระยาวัชรินทร์ออกมา บุญสมไหว้) อะไรใต้เท้ามาแอบฟังอยู่ได้นี่

พระยาวัช

(ยิ้ม) พ่อบุญสม ฉันสงไสยแกผิดไป ขอโทษเถอะน่ะพ่อคุณ ฉันดีใจมากที่ได้ยินความจริง หายโกรธเทียวพับผ่าซี

บุญสม

ที่จริงถ้าเจ้าคุณจะสงไสยคุณพี่ก็ได้เท่ากันกะสงไสยผม ถูกไหมคุณพี่

พระยาวัช

เออ เออ ฉันเชื่อละ

ขุนเจริญ

(พูดป้อง) อยากให้ไปเสียให้พ้นทั้งสองคนแหละตกกะรกซิ (อ้ายพูนเข้ามาทางซ้ายตรงไปพูดกับขุนเจริญ)

พูน

ท่านเสงี่ยมมาหาคุณ กำลังขึ้นมา

ขุนเจริญ

ตายให้ขึ้นมาไม่ได้ บอกให้คอยเดี๋ยว ข้าจะลงไปหาข้างล่าง (อ้ายพูนออกไป) รับประทานโทษเถอะขอรับ ผมต้องลงไปข้างล่างประเดี๋ยว มีคนมาหาพูดธุระ ผมจะรีบกลับขึ้นมาเทียว (เข้าไปพูดกับพระยาวัชรินทร์) ใต้เท้าครับโปรดผมด้วย อย่าขยายเรื่องอีนางลครขึ้นนะครับ

พระยาวัช

เออ เออ (ขุนเจริญออกไปทางซ้าย) พ่อบุญสม ถ้าแกได้คบค้าสมาคมกับพี่ชายแกบ่อยๆ ก็จะกลับเนื้อกลับตัวได้

บุญสม

คุณพี่แกมันธรรมธรรโมเหลือเกินนัก ความที่กลัวเสียชื่อน่ะ จนผู้หญิงเกือบห้ามขาดไม่ให้เหยียบกระไดเรือน

พระยาวัช

พ่อบุญสมหาความเขาน่า จริงพี่ชายแกน่ะเขาไม่ใช่เจ้าชู้ แต่ก็ไม่ใช่พระอรหันต์ (พูดป้อง) มันน่าขยายอีเรื่องนางลครจริงนะ

บุญสม

เฮ้อ คุณพี่น่ะถึงไม่ใช่อรหันต์แกก็เปนฤาษีอะไรอันหนึ่ง

พระยาวัช

อย่าว่าเขานักนะ เขาอาจจะรู้เข้านะ

บุญสม

อ๊ะใต้เท้าจะเก็บไปบอกหรือครับ

พระยาวัช

ไม่ใช่ แต่ว่า– (เข้าไปใกล้) นี่แน่อยากหัวเราะเยาะพี่ชายเล่นไหมล่ะ

บุญสม

ก็ดีขอรับ

พระยาวัช

ก็เอา ช่วยกันหัวเราะใหญ่เสียเถอะ นี่แน่ะเมื่อฉันเข้ามาน่ะพี่แกกำลังมีผู้หญิงมาหาอยู่เทียว

บุญสม

คุณพี่หรือครับ อ๊ะผิดไปละ

พระยาวัช

อย่าอึงไป เปนผู้หญิงลคร เดี๋ยวนี้ก็ยังอยู่ในห้องนี้

บุญสม

งั้นหรือครับ

พระยาวัช

อย่าอึงไป (ชี้ไปทางฉาก)

บุญสม

อยู่หลังฉากนั้นหรือครับ ฮะ! เปิดดูสักทีเถอะ

พระยาวัช

อย่าน่า พ่อคุณเถอะ แน่ะพี่ชายแกขึ้นกระไดกักๆ มาแล้ว

บุญสม

ดูนางลครของคุณพี่สักนิดเถอะครับ

พระยาวัช

อย่าเลยน่ะ พี่ชายแกจะโกรธฉัน

บุญสม

ไม่เปนไรหรอกขอรับ ผมช่วยใต้เท้าซิ

พระยาวัช

มาแล้ว มาแล้ว

(นายบุญสมตรงเข้าไปเปิดฉากพอขุนเจริญโผล่เข้ามา ยืนตลึงกันทุกคน นายบุญสมแลไปทางคนโน้นทีคนนี้ที แล้วก็เดินก้มหน้าออกจากห้องไป)

ขุนเจริญ

เจ้าคุณขอรับ ถึงดูยังงี้จะดูเหมือนความพิรุธของผมจะปรากฎอยู่ก็จริง แต่ผมขอชี้แจงให้ใต้เท้าฟังสักหน่อย

พระยาวัช

เชิญ

ขุนเจริญ

เรื่องราวเปนยังงี้ คุณละม้ายทราบอยู่ว่าผมมีความรักใคร่ในแม่ถวิล และคุณละม้ายทราบอยู่ว่าเจ้าคุณหึง จึงได้มาหาผมที่นี่เพื่อจะฟังคำผมอ้อนวอนเรื่องแม่ถวิล ก็เมื่อใต้เท้าขึ้นมาคุณละม้ายกลัวอยู่ในเรื่องใต้เท้าหึงอย่างที่ผมกราบเรียนแล้ว ก็หลบเข้าไปเสีย นี่แหละขอรับเปนความสัตย์จริงในเรื่องนี้ เชื่อผมเถอะ

พระยาวัช

ฮึ แจ่มแจ้งดีพอใช้ ก็คุณหญิงก็เห็นจะให้การเหมือนกันละซี

ละม้าย

ดิฉันไม่รับรองยังงั้นเลยจนคำเดียว

พระยาวัช

อ๊ะ ชอบกล ก็โกหกให้มันเหมือนๆ กันมิดีกว่าหรือ

ละม้าย

ที่ขุนเจริญเรียนเจ้าคุณน่ะไม่มีจริงในคำเดียว

พระยาวัช

ฉันเชื่อหล่อน ให้ตกกะรกซิ

ขุนเจริญ

(พูดกับละม้าย) คุณนี่จะขายกันเสียแล้วหรือ

ละม้าย

ขอให้ฉันให้การของฉันเองเถอะ

พระยาวัช

ปล่อยเขาเถอะ บางทีเขาจะหาเรื่องเล่าได้ดีกว่าท่านขุนสอน

ละม้าย

ฟังดีฉันเถอะเจ้าคะ ดีฉันมานี่ไม่ใช่ด้วยธุระเกี่ยวข้องกะหลานสาวเจ้าคุณ ดีฉันไม่รู้เลยว่าขุนเจริญรักกะแม่ถวิล ดิฉันมาเพราะถูกขุนเจริญฬ่อลวง เมื่อมาแล้วก็ยังได้พูดแทะโลมจะให้ดีฉันน่ะประพฤติ์นอกใจเจ้าคุณ

พระยาวัช

ฮือ! ความจริงจะออกละ

ขุนเจริญ

คุณหญิงนี่เปนบ้าเสียแล้ว

ละม้าย

ตรงกันข้าม ดีฉันหายบ้าแล้ว ความฉลาดของท่านขุนเองเปนเครื่องรักษาให้หาย (เข้าไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าพระยาวัชรินทร์) เจ้าคุณจะเชื่อดีฉันหรือไม่เชื่อดีฉันก็ตาม แต่ดีฉันจะต้องกราบเรียนตามตรง เมื่อดีฉันได้ยินเจ้าคุณแสดงความเมตตา และความรักของเจ้าคุณในตัวดีฉันเมื่อตะกี้จับใจดีฉันจริงๆ แล้วได้ตั้งใจไว้ทีเดียวว่าถ้าออกไปเสียจากบ้านนี้ได้โดยไม่มีใครรู้เห็นในเรื่องนี้ ดีฉันจะตั้งใจประพฤติ์ ให้สมกะที่เจ้าคุณได้รักใคร่เมตตาดีฉัน จะทดแรนแทนคุณให้เต็มสติกำลังของดีฉันแท้ๆ ส่วนอ้ายอสรพิษที่แกล้งทำตัวเปนเพื่อนสนิทของเจ้าคุณ แล้วคิดล่อลวงชักชวนเมียเจ้าคุณให้ประพฤติ์นอกใจนั้น ดีฉันเห็นใจจริงของมันแล้วในวันนี้ เมื่อนึกว่าดีฉันได้ฟังคำมันพูดและเชื่อถือเข้าไปมั่ง แล้วทำให้ดิฉันนึกชังตัวเหลือที่จะอธิบายได้ ก็การมันเปนเช่นนี้แล้วเจ้าคุณจะลงโทษดีฉันยังไงก็ตาม ดีฉันผิดไปแล้วก็จะก้มหน้าทน (ร้องไห้)

พระยาวัช

กลับไปบ้านเสียก่อน แล้วถึงค่อยพูดกัน (ละม้ายออกไป)

ขุนเจริญ

ใต้เท้าขอรับ ผมเสียใจที่มาเกิดความขึ้นเช่นนี้เปล่าๆ พระอาทิตย์พระจันทร์เปนพยานอยู่–

พระยาวัช

ว่าเองน่ะเปนคนอับปรี! ข้าไม่อยากฟังเสียงเองเลย

ขุนเจริญ

พุทโธ่ใต้เท้าขอรับ เสียแรงใต้เท้าได้กรุณาผมมามาก ขอให้ฟังผมหน่อย ธรรมดาคนที่มีสติปัญญาย่อม–

พระยาวัช

ย่อมไม่คบคนระยำอย่างเอง! (เดินกระทืบตีนออกไป)

จบชุดที่ ๓

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ