ฉากที่ ๑ – ห้องริมเฉลียงในบ้านท่านเสงี่ยม

(ท่านเสงี่ยม คุณชิ้น หลวงพจนกิจ นายเสริม กับขุนเจริญนั่นสนทนากันอยู่)

 

ท่านเสงี่ยม

เอ๊ะนี่ยังไงแม่ละม้ายยังไม่เห็นมา บอกกะฉันไว้ว่าจะมา

(ละม้ายกับถวิลเข้ามา)

คุณชิ้น

แหมพอพูดถึงก็มาเทียว อายุหล่อนคงยืนละ

ท่านเสงี่ยม

เจ้าคุณวัชล่ะ

ละม้าย

ประเดี๋ยวเห็นจะมาหรอกยะ ฉันขี้เกียจคอยก็พาแม่ถวิลมาเสียก่อน (ขุนเจริญเข้าไปพูดกับถวิล)

คุณชิ้น

อุ๊ยหล่อนมาก็ดีแล้วละยะ พวกเหล่านี้กำลังนินทาคนว่าคนลับหลังใหญ่เทียว

ละม้าย

เรื่องอะไรกันคะ

คุณชิ้น

เดี๋ยวนี้ไม่ยอมกันว่าแม่เสนน่ะสวย โต! ที่จริงผิวเขานวล

ละม้าย

คะ เมื่อพามาใหม่ๆ ก็ดีหรอก

คุณชิ้น

อะไรหล่อนก็ ฉันสบถได้เทียวว่าผิวของเขาดีจริงนะ

ละม้าย

ก็จริงน่ะซิคะ ใครว่ากระไรล่ะ ก็แม่เสนหามาก็เปนของแม่เสนน่ะซิ

หลวงพจน์

จริงครับ คุณพูดถูก ผิวอย่างของแม่เสนจะไม่ดียังไงได้ เมื่อเสียก็แอบไปปฏิสังขรณ์เสียครู่หนึ่งก็ดีอย่างเก่า

คุณชิ้น

เกลียดจริง ๆ คุณพูดยังงี้ เออก็พี่สาวล่ะ

นายเสริม

คุณหญิงเขียวน่ะหรือจ๊ะ ฮือ! บางทีเมื่อรุ่นๆ จะดีจริง เดี๋ยวนี้อายุมิเข้าไปห้าสิบหกเปนอย่างน้อยแล้วหรือ

คุณชิ้น

หาความ อายุเข้าห้าสิบสองหรือห้าสิบสามเปนอย่างมาก ที่จริงดูหน้าเขาก็ยังไม่แก่กว่านั้นหรอก

นายเสริม

ถ้าเห็นหน้าได้ก็พอจะเดาถูก เดี๋ยวนี้เห็นแต่แป้งที่ผัดเข้าไว้ออกเปรอะ หรือฝุ่นผัดหน้าลครทีเดียวก็ไม่รู้

คุณชิ้น

อุ๊ยพ่อเสริมนี่และเกลียดแท้ๆ เทียว ก็แม่เจียมล่ะ

หลวงพจน์

ปากเขางามนะครับ

ละม้าย

งามซิ จีบเข้าไว้ออก จนพูดแทบไม่ออก (ทำเลียน) “อ๊อหล่อนสบายหรือยะ? เชิญนั่งสิยะ”

(พระยาวัชรินทร์เข้ามา)

ท่านเสงี่ยม

อ้อเจ้าคุณมา เชิญสิเจ้าคะ

พระยาวัช

(พูดป้อง) ตาย อยู่นี่เปนโขลงเทียว แม่ละม้ายนี่ขืนคบพวกนี้นักจะเสียคนสักวันหนึ่ง

คุณชิ้น

แหม เจ้าคุณคะ ดิฉันดีใจเจ้าคุณมาแล้ว เต็มทีเจ้าคะ พวกเหล่านี้นินทาคนเหลือเกิน แม่ละม้ายของเจ้าคุณด้วยนะเจ้าคะ

พระยาวัช

คุณเห็นจะเดือดร้อนมาก

คุณชิ้น

แน่ละเจ้าคะ ไม่ยอมให้ใครดีเสียหมดเทียว แต่แม่เงินยังไม่พ้นถูกติเลยคะ

ละม้าย

ไหนคนอ้วนๆ ที่พบที่นี่เมื่อวานซืนใช่ไหม

คุณชิ้น

โถ! ตาตั้งใจ๊จะให้ตัวผอมก็ไม่ผอมเองจะทำยังไง

ละม้าย

ฉันรู้แล้ว ได้ยินหมอฝรั่งเขาว่าน้ำตาลทำให้อ้วนสู้อดน้ำตาล อดจนขาดเทียว เขาว่าขนมเปนเลิกกันไม่กิน พอจะแต่งตัวไปไหนทีใส่สะเตต้องไห้บ่าวช่วยกันดึงด้วยปันจั่น จะให้เอ็วเล็กจริงตั้งใจให้ผอมจริง

คุณชิ้น

ฉันขอบใจหล่อนจริงที่ช่วยแก้เสียมั่ง

พระยาวัช

แก้ดีจริง

คุณชิ้น

ดิฉันละก็ได้ยินใครนินทาคนหรือติเล็กติน้อยละรำคาญแท้เทียว ยังไงคะเจ้าคุณ

ท่านเสงี่ยม

เจ้าคุณน่ะไม่ต้องถามท่านหรอก ท่านเปนคนไม่ชอบการพูดขันๆ ตลกคะนอง

พระยาวัช

ผมเห็นว่าพูดให้ขันแล้วไม่จำเปนต้องติเตียนคน

ท่านเสงี่ยม

เจ้าคุณน่ะถ้าให้มีพระราชบัญญัติห้ามนินทาคนได้คงชอบมาก

พระยาวัช

แน่ทีเดียว ถ้ามีพระราชบัญญัติห้ามนินทา ห้ามใส่ความเสียได้คงมีคนยินดีกันมาก

ท่านเสงี่ยม

อะไรเจ้าคุณจะคิดบังคับปากคนเทียวหรือ

พระยาวัช

แน่ทีเดียว ควรจะมีพระราชบัญญัติห้ามไม่ให้ใครนินทาคน เว้นเสียแต่แม่หม้ายที่หาผัวใหม่ไม่ได้ (ท่านเสงี่ยมสะบัดหน้าแสดงอาการโกรธ)

คุณชิ้น

ก็คนที่เปนแต่เก็บความมาเล่าละเจ้าคะ เจ้าคุณจะลงโทษด้วยหรือ

พระยาวัช

คนที่เก็บเรื่องมาเล่าต่อก็เสมอกับคนสมโจร ต้องเอาโทษด้วยเหมือนกัน

นายเสริม

ที่จริงผมนึกว่า เรื่องอะไรๆทั้งนั้น ที่ว่ากันว่าใส่ความน่ะ มันต้องมีความจริงอยู่ด้วยนิดหนึ่งทั้งนั้นแหละ

พระยาวัช

(พูดป้อง) ไม่ได้ ขืนอยู่อีกอกจะแตก (ดัง) ผมลาทีมีธุระต้องไปดูเสียหน่อย (ออกไป)

หลวงพจน์

คุณละม้ายครับ เจ้าคุณของคุณนี่ท่านเปนคนปลาดคนหนึ่ง ผมมีเรื่องอะไรขันเรื่องท่านหลายเรื่องเทียว แต่นั่นแหละท่านเปนผัวของคุณ

ละม้าย

ไม่เปนไรหรอกคะ เล่าเถอะ

ท่านเสงี่ยม

ไปเล่นไพ่กันเถอะ เขาเตรียมไว้ที่เฉลียง (พากันออกไปเฉลียง ถวิลลุกจะตามออกไป)

ขุนเจริญ

ประเดี๋ยวเถอะจ้ะ (ถวิลนั่งลงอย่างเดิม) ฉันเห็นอยู่หรอก ว่าหล่อนไม่ชอบฟังเขาพูดกันอย่างตะกี้นี้

ถวิล

จะชอบอย่างไงได้ ทั้งนินทาทั้งใส่ความ

ขุนเจริญ

ที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจร้ายกาจอะไรหรอก

ถวิล

ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งเกลียดมากขึ้น ถ้าจะว่ากันเพราะเกลียดกันก็พอจะเข้าใจได้

ขุนเจริญ

ถูกแล้ว การที่แกล้งใส่ความกันเล่นโดยไม่มีเหตุน่ะ ยิ่งเสียกว่าใส่ความสำหรับแก้แค้นกัน แต่หล่อนเดือดเนื้อร้อนใจแทนคนอื่นๆได้ ทีกับฉันละช่างใจดำเสียจริงๆ

ถวิล

ขอเสียทีเถอะคะ อย่าพูดยังงี้อีกเลย ฉันได้ขอกะคุณแต่ก่อนแล้ว

ขุนเจริญ

พุทโธ่แม่ถวิล เจ้าคุณลุงของหล่อนหรือท่านก็ยินยอมแล้ว นี่ไม่มีอะไรเพราะอ้ายน้องชายฉันเทียว

ถวิล

พุทโธ่คุณพูดยังงั้นได้นี่ ฉันขอบอกคุณว่าในส่วนตัวฉันน่ะคงจะไม่ช่วยปักปำพ่อบุญสมด้วยเลยเทียว ถึงจะสุรุ่ยสุร่ายจนชั้นพี่ของเขาเองก็ไม่รักแล้วก็ชั่งเถอะ

ขุนเจริญ

โธ่ แม่ถวิลอย่าโกรธฉันเลยน่ะ หล่อนไม่รู้หรือว่าฉันน่ะรักหล่อนเพียงไร (จับมือถวิล ละม้ายกลับมายืนที่ประตู ขุนเจริญเหลียวไปเห็นเข้าเลยเปลี่ยนทำนองพูด) ไม่ได้ ไม่ได้เทียว ขอทีเถอะ ถึงฉันจะสนิทสนมกับคุณหญิงละม้าย–

ถวิล

อะไรแม่ละม้าย

ขุนเจริญ

นั่นแหละ ถ้าเจ้าคุณท่านสงไสยละก็ฉันก็ตายน่ะซิ

ละม้าย

(เดินเข้ามา) อะไรกัน แม่ถวิลแม่เสงี่ยมเรียกหาหล่อนอยู่น่ะ (ถวิลเดินออกไปที่เฉลียง) ขอให้คุณอธิบาย

ขุนเจริญ

เคราะห์ร้ายจริงๆ แม่ถวิลไปทราบมายังไงไม่ทราบในเรื่องที่ฉันสนิทสนมกะหล่อน แล้วว่าจะเอาความไปบอกกะเจ้าคุณ ฉันกำลังว่ากล่าวห้ามปรามอยู่

ละม้าย

อ้อ ว่ากล่าวห้ามปรามก็ต้องจับมือด้วยหรือ

ขุนเจริญ

ฮื้อ กะเด็กกะเปียกเท่านั้น เออก็ว่าแต่หล่อนน่ะ เมื่อไรถึงจะไปดูห้องหนังสือใหม่ของฉันล่ะ

ละม้าย

ฉันออกไม่ไว้ใจเสียแล้วละ ถึงเจ้าคุณกวนใจฉันเท่าไรก็จริง แต่ฉันยังตะขิดตะขวงอยู่ คงจะไม่ยอมคิดแก้แค้นทาง–

ขุนเจริญ

ทางเดียวที่หล่อนจะทำได้น่ะซิ (ทำเล่นตา)

ละม้าย

เกลียด! ออกไปเฉลียงเสียทีเถอะ ประเดี๋ยวเขาก็จะถามถึงกันขึ้น

ขุนเจริญ

อย่าเข้าไปด้วยกันเห็นจะดีกว่า เดี๋ยวก็จะเก็บไปพูดยังโง้นยังงี้

ละม้าย

เออดีละ แต่ไม่ต้องนึกหรอกว่าฉันจะปล่อยแม่ถวิลให้ไปพ้นตาฉันไปอีก (ออกไปเฉลียง)

ขุนเจริญ

ฮือ! อ้ายเราไม่เจ้าปัญญานักเห็นจะจวนหกคะเมนละ แรกคิดจะประจบแม่ละม้ายไว้สำหรับทำทางให้ได้สมประสงค์เรื่องแม่ถวิล กลายเปนคนสนิทสนมจริงจังไปเสียแล้ว เฮอ! ไม่ช้าเขาคงจับได้หรอก ฮือ! อยากใช้เล่ห์เฉกลดี! ฮะฮะ! (ออกไป)

----------------------------

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ