เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๔๙

วัน ๒ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาเช้าโมงเศษ ถึงเกาะริ้น ทอดเรือพระที่นั่งหน้าเกาะด้านตะวันออก เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นบนเกาะ ทรงพระราชดำเนินประพาสหาดทราย แล้วเสด็จหาดปะการัง อยู่ข้างหน้าเกาะอีกด้านหนึ่ง แล้วประทับอยู่จนย่ำค่ำ เสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับเรือพระที่นั่ง เวลาย่ำค่ำเศษ ออกเรือพระที่นั่งจากเกาะริ้นขึ้นมาข้างเหนือ เวลา ๔ ทุ่มเศษ ถึงเกาะสีชัง ทอดเรือพระที่นั่ง ประทับแรม

วัน ๓ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งกรรเชียงไปประทับที่ท่าช้าง หน้าวัดเกาะสีชัง เสด็จพระราชดำเนินจากเรือพระที่นั่งพร้อมด้วยกระบวนนำตามเสด็จพระราชดำเนินฝ่ายหน้าฝ่ายในประทับในพระอุโบสถ พระราชทานพระกฐิน มีจำนวนพระสงฆ์จำพรรษา เจ้าอธิการ ๑ อันดับ ๗ รวม ๘ รูป เจ้าอธิการจันทสรครองกฐิน โปรดพระราชทานวัตถุเป็นมูลกัปปิยภัณฑ์แด่พระสงฆ์ที่รับพระกฐิน ๘ รูปๆ ละแปดบาท แล้วโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินแจกสัปปุรุษและชาวบ้านที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินแก่พระยาสมุทรบุรานุรักษ์ ช่วยในการเลี้ยงดูต่างๆ เป็นเงิน ๓ ชั่ง พระราชทานพระกฐินแล้ว เวลาย่ำค่ำ เสด็จพระราชดำเนินกลับมาเรือพระที่นั่ง ประทับแรมเกาะสีชังอีกราตรีหนึ่ง

วัน ๔ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งกรรเชียง เรือกลไฟสำหรับบรรทุกน้ำ จูงลงไปทางท้ายเกาะสีชัง ประทับเกาะท้ายค้างคาว เสด็จประพาสหาดทราย เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับมาประทับเรือพระที่นั่ง ครั้นเวลา ๑๐ ทุ่ม ออกเรือพระที่นั่งจากเกาะสีชังตรงมาปากน้ำเจ้าพระยา

วัน ๕ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาเช้า ๒ โมงครึ่ง เรือพระที่นั่งถึงสมุทรปราการ ทอดเรือพระที่นั่งตรงพระสมุทรเจดีย์ เสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งกรรเชียงไปประทับพระสมุทรเจดีย์ นมัสการพระสถูปและพระปฏิมาในพระวิหาร และทอดพระเนตรการต่าง ๆ แล้วเสด็จกลับลงเรือพระที่นั่งกรรเชียง เรือกลไฟสติมลันช์ จูงเข้าคลองที่เมืองสมุทรปราการชื่อคลองตาเค็ต ทอดพระเนตรหมู่บ้านตามลำคลอง ถึงบ้านตำบลหนึ่งมีการแต่งงานบ่าวสาว กำลังจะยกขันหมากขึ้นเรือนข้างฝ่ายหญิง โปรดให้หยุดเรือพระที่นั่ง มีพระราชประสงค์จะใคร่ทอดพระเนตร ด้วยการเช่นนี้ยังไม่ได้ทอดพระเนตรมาแต่ก่อน ประทับเรือพระที่นั่งที่หน้าบ้าน เจ้าของบ้านลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับสั่งถามถึงเงินทุนกองกันเท่าไร ได้ความว่าไม่มีเงินทุน เป็นคนขัดสน กำพร้าไร้บิดามารดาทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิง จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินสองชั่งให้เป็นทุน ฝ่ายชายชั่งหนึ่ง ฝ่ายหญิงชั่งหนึ่ง โดยทรงพระมหากรุณาแก่อาณาประชาราษฎรผู้ขัดสน แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับทอดพระเนตรยกขันหมากบนเรือน คนที่จะแต่งงานกันนี้ฝ่ายชายเป็นจีน ชื่อ จีนไช อายุ ๒๘ ปี ฝ่ายหญิงเป็นไทย ชื่อ เจิง อายุ ๒๕ ปี วิธีการแต่งงานเป็นอย่างไทยกับจีนเจือกัน ขันหมากนั้นมีเด็กจีนถืออ้อยมัดปลอกกระดาษแดง ๑ คู่ เด็กจีนถือขวดสุราตั้งในขันทองเหลืองคู่ ๑ จีนผู้ใหญ่ถือม้าล่อคู่ ๑ เด็กจีนถือขันมะพร้าวอ่อนคู่ ๑ เด็กไทยแต่งตัวสวมเกี้ยวและสร้อยอ่อน ถือโต๊ะรองเทียนขี้ผึ้งคู่ ๑ เด็กไทยถือผ้าขาวสำหรับบูชาผีเรือนพับ ๑ ผ้าม่วงจีน ๑ ผ้าตาไหมกับแพรแถบสิ่งละสามสำหรับไหว้ผู้ใหญ่ ผ้าเหล่านี้ผู้หญิงสาวถือ แล้วถึงเด็กไทยแต่งตัวเช่นว่า แล้วถือขันหมากคู่ ๑ มีโต๊ะรองขนมและผลไม้ต่าง ๆ ถือตามขึ้นไปด้วย รวม ๓๒ โต๊ะ ครั้นขันหมากขึ้นบนเรือนเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับมาลงเรือพระที่นั่ง เรือกลไฟจูงออกจากคลองมาประทับเรือพระที่นั่งอุบลบุรพทิศ เวลา ๕ โมงเช้า ออกเรือพระที่นั่งจากเมืองสมุทรปราการ เป็นเวลาน้ำลง เรือพระที่นั่งทวนน้ำ ถึงท่าราชวรดิษฐ์เวลาบ่าย ๓ โมง ประทับเรือพระที่นั่ง แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นอันมาก รับสั่งกับผู้ที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทตามสมควรแก่เวลา กรมมหาดไทยนำพระอินทราธิบาล ซึ่งกลับมาจากราชการเมืองหลวงพระบาง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย แล้วเสด็จขึ้นทรงพระราชยานมาประทับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้วเสด็จขึ้น

เวลาทุ่มเศษ เสด็จลงสมโภชเดือนพระเจ้าลูกเธอ พระราชทานนามว่า พระองค์เจ้าหญิงโกมลเสาวมาลย์

วัน ๖ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาย่ำค่ำเศษ พระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ครึ่งยศ ทรงสร้อยจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จออกประทับพระที่นั่งพุดตาน ภายใต้พระมหาเศวตฉัตร ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เจ้าพนักงานประโคมแตรฝรั่งมโหระทึก ทหารเป่าแตรสรรเสริญพระบารมี ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว กรมวัง กรมมหาดไทยนำเจ้านายเมืองนครหลวงพระบางเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระยาศรีทูลเบิกนำพระบริรักษ์โยธี ปลัดขวาเมืองพิไชย ผู้นำ ๑ เจ้ามหินทรเทพนิภาธร ๑ เจ้าศรีสุพรรณว่าที่ราชบุตร ๑ เจ้าปาน ๑ เจ้าศรีสนไชย ๑ เจ้าบวรพันธุ์ ๑ บุตรเจ้ามหินทรทั้งสามคน เจ้าสวมคำ บุตรเจ้าอุปราชคำบัว ๑ เจ้ายม บุตรเจ้าราชบุตรแก่น ๑ รวมเจ้านายเมืองหลวงพระบางเข้าเฝ้า ๗ คน จำนวนคนที่ลงมา เจ้านครหลวงพระบาง ๑ เจ้าศรีสุพรรณว่าที่ราชบุตร ๑ เจ้านายบุตรหลานชาย ๑๓ หญิง ๑๒ รวม ๒๗ ไพร่ชายหญิง ๕๐ รวม ๗๗ แล้วพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสปฏิสันถารมีเนื้อความดังต่อไป แล้วโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยยศมงกุฎสยามมหาสุราภรณ์ ม.ส.ม. ทรงสวมพระราชทานแต่ไม่ได้พระราชทานดิโปลมา แล้วพระราชทานเครื่องยศอื่น ๆ แต่เจ้าพนักงานส่งให้

คือ มาลากำมะหยี่สีลูกหว้าเกี้ยวทองขอบทอง ๑ เสื้อทรงประพาสกำมะหยี่สีลูกหว้าขลิบทองคำ ๑ ดาบฝักสักหลาดแดงบั้งทอง ๑ หอกคอทองคู่ ๑ พานทองกลมเครื่องในพร้อม ๑ คนโททอง ๑ กระโถนทอง ๑ ประคำทองสาย ๑ ประคำโมราสาย ๑ เสื้อเข้มขาบปริวัดี ๑ เสื้อเข้มขาบดอกใหญ่ ๑ เสื้อญี่ปุ่นแพรจีนเจา ๑ ผ้าส่านวิลาศ ๑ แพรขาวหงอนไก่ ๑ แพรโล่ดอก ๑ ปูมเขมร ๑ ผ้าเกี้ยว ๑ ผ้าลายอย่าง ๑ อัตลัดดอกสะเทิน ๓ พับ อัตลัดดอกลาย ๒ พับ ผ้าขาว ๕๐ ศอกหลายพับ ผ้าลายกุศราชใหญ่เล็กหลายกุลี ปัสตูแดง ๓ พับ การที่พระราชทานเครื่องยศเจ้านครหลวงพระบางใหม่นี้ เพราะของเดิมสูญไป จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานใหม่ และโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยารัตนบดินทร เบิกเงินพระราชทานเจ้านครหลวงพระบาง ๓๐ ชั่ง สำหรับซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคใช้สอยไปก่อน แล้วเสด็จขึ้น

วัน ๗ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๒ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงรถพระที่นั่งพร้อมด้วยกระบวนนำตาม เสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดราชประดิษฐ์ที่ ๑ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว มหาดเล็กทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ๑ หม่อมเจ้าพระ ๑ ฐานานุกรม ๗ เปรียญ ๑ พระมหาดเล็ก ๑ อันดับเรียนคันถธุระ ๒ อันดับเล่าสวดมนต์ ๑๔ รวม ๒๗ รูป แล้วทรงถวายผ้าพระกฐิน พระสงฆ์กระทำอุปโลกนกรรม และมอบผ้าพระกฐิน ถวายสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ด้วย ญัตติทุติยกรรมจบแล้ว ทรงประเคนไตรปีแก่ หม่อมเจ้าพระ ฐานานุกรม เปรียญ พระสงฆ์ครองผ้า เสร็จแล้วโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระภาณุพันธุวงศ์วรเดช ถวายของแล้ว พระสงฆ์สวดถวายอนุโมทนา จบแล้ว เสด็จพระราชดำเนินจากวัดราชประดิษฐ์ไปประทับวัดบวรนิเวศที่ ๒ มีจำนวนพระสงฆ์จำพรรษา พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ๑ หม่อมเจ้าพระราชาคณะ ๑ ฐานานุกรม ๑๐ เปรียญ ๒ อันดับเรียนคันถธุระ ๗ อันดับเล่าสวดมนต์ ๑๕ รวมพระสงฆ์ ๓๘ รูป ทรงถวายกฐินแล้วพระสงฆ์กระทำอุปโลกนกรรมและสวดญัตติทุติยกรรม ถวายพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์ ถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินประทับพระราชทานพระกฐิน วัดบุญศิริมาตยารามที่ ๓ มีจำนวนพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ หม่อมเจ้าพระ ๑ ฐานานุกรม ๑ เปรียญ ๑ พระมหาดเล็ก ๑ อันดับเรียนคันถธุระ ๖ อันดับเล่าสวดมนต์ ๙ รวมพระสงฆ์ ๒๒ รูป พระวินัยรักขิต ได้รับผ้าพระกฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากรถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดมหาธาตุที่ ๔ ทรงจุดเทียนธูปเครื่องนมัสการทองน้อยในพระวิหารแล้ว เสด็จพระราชดำเนินประทับในพระอุโบสถ พระราชทานพระกฐิน จำนวนพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ ฐานานุกรม ๒ เปรียญ ๘ พระพิธีธรรม ๔ อันดับเรียนคันถธุระ ๖๕ อันดับเรียนวิปัสสนาธุระ ๗๐ อันดับเล่าสวดมนต์ ๑๑๓ รวมพระสงฆ์ ๒๖๘ รูป พระญาณสมโพธิครองกฐิน แล้วกระทำอนุโมทนา โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมขุนบดินทรไพศาลโสภณ ถวายของ เวลาบ่าย ๔ โมงครึ่ง เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ และพระเจ้าลูกเธอ ซึ่งเสด็จไปทรงเล่าเรียนประเทศยุโรป ๔ พระองค์ และข้าราชการซึ่งไปราชการเมืองยุโรป ได้กลับเข้ามาถึงกรุงสยามแล้ว พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้ากิติยากรณ์วรลักษณ์ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าจีระประวัติวรเดช หม่อมเจ้าเพิ่ม พระดรุณรักษา ขุนวิจิตรวรสาส์น นายสอาด เลฟเตแนนต์ กัปตัน เปลี่ยน มิสเตอวิลเลียม ครูพระเจ้าลูกเธอ นายชิด บุตรพระยาสมุทรบุรานุรักษ์ ซึ่งกลับมาจากยุโรป ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในวันมาถึงนั้นเอง

วัน ๑ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานลงยาราชาวดี พร้อมด้วยพนักงานนำตามเสด็จทุกตำแหน่ง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับพระราชทานพระกฐินวัดพระเชตุพนเป็นที่ ๑ มีจำนวนพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๔ พระครูฐานานุกรม ๒๔ เปรียญ ๕ พระพิธีธรรม ๔ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๓๙ เรียนวิปัสสนาธุระ ๗๕ เล่าสวดมนต์ ๑๑๗ รวมพระสงฆ์ ๒๒๘ รูป ทรงจุดเทียนเครื่องทองทิศ นมัสการพระพุทธปฏิมา และทรงจุดเทียนเครื่องทองน้อย เครื่อง ๕ นมัสการพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และทรงจุดเทียนเครื่องทองน้อย นมัสการพระอัฐิ พระเจ้าอัยกาเธอกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส แล้วพระราชทานผ้าพระกฐิน พระสงฆ์อุปโลกน์สวดญัตติทุติยกรรม ถวายผ้าพระกฐินแก่พระพิมลธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตรปี ๘ ไตร พระมงคลเทพมุนีกับพระครูฐานานุกรมในพระอัฐิ สดับปกรณ์พระอัฐิพระเจ้าอัยกาเธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส แล้วทรงประเคนไตรปีแก่พระราชาคณะ พระครูฐานานุกรมเปรียญที่นอกจากสดับปกรณ์ มีเปรียญวัดสามจีนมาสมทบรับไตรปี ๑ รูป สามเณรเปรียญในวัดพระเชตุพนรับไตรปี ๑ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐินและอนุโมทนา เสร็จแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรศักดาพิศาล ถวายเครื่องบริขาร แล้วพระสงฆ์ถวายยถาสัพพีติโยและเกณิยานุโมทนาคาถากาลทานสุตคาถา ถวายอติเรกภวตุสัพพมังคลัง อนุโมทนาพระราชกุศลแล้ว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยกระบวนหน้าหลัง ไปประทับพระราชทานพระกฐินวัดราชบุรณะที่ ๒ มีพระสงฆ์อยู่ในพระอาราม พระราชาคณะ ๒ ฐานานุกรม ๑๐ เปรียญ ๒ พระพิธีธรรม ๔ พระมหาดเล็ก ๓ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๓๐ เรียนวิปัสสนาธุระ ๓๙ เล่าสวดมนต์ ๑๐๑ รวมพระสงฆ์ ๑๙๑ รูป พระธรรมไตรโลกาจารย์ครองผ้าพระกฐิน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานธูปเทียน ๘๐ เล่ม ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค ไปจุดบูชาพระอสีติมหาสาวกในพระวิหาร ครั้นพระสงฆ์กรานกฐินอนุโมทนากฐินแล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ ถวายเครื่องบริขาร พระสงฆ์สวดอนุโมทนาพระราชกุศล จบแล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนเช่นว่ามาแล้ว ไปประทับพระราชทานพระกฐินวัดราชบพิธที่ ๓ มีจำนวนพระสงฆ์อยู่ในอาวาสตลอดพรรษากาล หม่อมเจ้าพระราชาคณะ ๑ หม่อมเจ้าพระเปรียญ ๑ หม่อมเจ้าพระสามัญ ๑ ฐานานุกรม ๖ เปรียญ ๒ พระมหาดเล็ก ๓ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๖ เล่าสวดมนต์ ๑๒ รวมพระสงฆ์ ๓๒ รูป หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ได้รับผ้ามหากฐิน มีหม่อมเจ้าสามเณรเปรียญ รับไตรปีองค์ ๑ สามเณรเปรียญรับไตรปีองค์ ๑ ครั้นพระสงฆ์ครองผ้าแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมงกุฎราชกุมาร ถวายของ พระสงฆ์สวดถวายอนุโมทนา แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดสุทัศน์เทพวรารามที่ ๔ เสด็จขึ้นบนพระวิหาร นมัสการพระศรีศากยมุนี แล้วเสด็จประทับพระราชทานพระกฐินในพระอุโบสถ มีจำนวนพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส พระราชาคณะ ๑ ฐานานุกรม ๙ เปรียญ ๘ พระพิธีธรรม ๔ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๔๖ เรียนวิปัสสนาธุระ ๔๕ เล่าสวดมนต์ ๙๗ รวม ๒๑๐ รูป พระธรรมวโรดมครองผ้าพระกฐิน มีสามเณรเปรียญรับไตรปีรูป ๑ โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศิริธัชสังกาศถวายบริขาร พระสงฆ์สวดอนุโมทนาแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาย่ำค่ำเศษ ประทับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จขึ้น

วัน ๒ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๒ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เสด็จลงเรือพระที่นั่งเทวาธิวัตรพร้อมด้วยเรือกระบวนนำ คือเรือแซ กองมอญตีกรรเชียง เรือดั้ง เรือคู่ชักทหาร เรือพาย และเรือไชยสุพรรณหงส์ทรงผ้าไตรพระกฐิน เรือกราบกัญญา กรมอาสาหกเหล่านำกลองแขก เรือปลัดกรมพระตำรวจนำตามเวร เรือกรมมหาดไทยกรมพระกลาโหมประตูหน้า เรือกระบวนตามเสด็จพระราชดำเนิน เรือพระที่นั่งรองเพชรรัตนดาราราย และเรือกราบกัญญาผูกม่าน พระบรมวงศานุวงศ์ เรือกราบกัญญากรมพระตำรวจ กรมวัง กรมมหาดเล็ก และเรือข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเป็นอันมาก ประทับท่าฉนวนวัดอรุณราชวราราม พระราชทานพระกฐินเป็นวัดที่ ๑ มีพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๒ ฐานานุกรม ๕ เปรียญ ๓ พระพิธีธรรม ๔ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๒๐ เรียนวิปัสสนาธุระ ๒๐ เล่าสวดมนต์ ๔๓ รวมพระสงฆ์ ๙๗ รูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนธูปเครื่องทองทิศ นมัสการพระพุทธปฏิมากร และเครื่องทองน้อยเครื่อง ๕ พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วพระราชทานพระกฐิน พระสากยมุติวงศ์ครองผ้าพระกฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ถวายเครื่องบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาแล้ว เสด็จออกจากพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนธูปเครื่องทองน้อย นมัสการพระพุทธรูป ฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งออกจากฉนวนวัดอรุณราชวราราม เลี้ยวเข้าคลองบางกอกใหญ่ ประทับวัดโมลีโลกยาราม พระราชทานพระกฐินเป็นที่ ๒ มีพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ ฐานานุกรม ๔ เปรียญ ๑ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๕ เรียนวิปัสสนาธุระ ๖ เล่าสวดมนต์ ๑๕ รวม ๓๓ รูป พระราชานุพัทธมุนีครองผ้าพระกฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ ถวายของเครื่องไทยธรรมแล้ว เสด็จพระราชดำเนินประทับวัดสังขจาย พระราชทานพระกฐินเป็นวัดที่ ๓ มีพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ ฐานานุกรม ๓ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๒ เรียนวิปัสสนาธุระ ๕ เล่าสวดมนต์ ๒๑ รวม ๓๒ รูป พระอริยศีลาจารย์ครองผ้าพระกฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์ถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดราชสิทธาราม พระราชทานพระกฐินเป็นวัดที่ ๔ พระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ ฐานานุกรม ๔ เปรียญ ๑ พระพิธีธรรม ๔ พระมหาดเล็ก ๒ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๑๔ เรียนวิปัสสนาธุระ ๒๖ เล่าสวดมนต์ ๓๕ รวม ๘๘ พระสังวรานุวงศ์เถระ ครองผ้าพระกฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินจากพระอุโบสถ ประทับที่กุฏิไว้รูปสมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนธูปเครื่องทองน้อย ทรงสักการะแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนธูปนมัสการ พระศิราศนเจดีย์และพระศิริจุมพฏเจดีย์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับมาท่าราชวรดิษฐ์ เสด็จขึ้นเวลาย่ำค่ำเศษ

วัน ๓ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๒ โมง พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ พร้อมด้วยกระบวนนำตามเหมือนเวลาวานนี้ เปลี่ยนแต่เรือพาลีล้างทวีป เรือสุครีพครองเมือง เป็นเรือคู่ชักออกจากท่าราชวรดิษฐ์ล่องน้ำไปเข้าคลองผดุงกรุงเกษม ประทับท่าฉนวนวัดเทพศิรินทราวาส พระราชทานพระกฐินเป็นที่ ๑ มีพระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ หม่อมเจ้าพระ ๑ ฐานานุกรม ๓ เปรียญ ๔ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๑๕ เล่าสวดมนต์ ๒๐ รวม ๔๕ รูป พระอริยมุนี ได้รับผ้ามหากฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนารถถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินประทับวัดโสมนัสวิหาร พระราชทานพระกฐินเป็นที่ ๒ พระสงฆ์จำพรรษา สมเด็จพระราชาคณะ ๑ พระราชาคณะ ๒ พระครูฐานานุกรม ๑๔ เปรียญ ๓ พระมหาดเล็ก ๒ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๓๐ เล่าสวดมนต์ ๔๒ รวม ๙๔ รูป สมเด็จพระวันรัตปริยัติวิวัฒนวงศ์ ได้รับผ้ามหากฐิน มีหม่อมเจ้าสามเณรรับไตรปี ๑ สามเณรเปรียญรับไตรปี ๑ โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจันทรทัตจุธาธารถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับวัดพระนามบัญญัติ พระราชทานพระกฐินเป็นที่ ๓ พระสงฆ์จำพรรษา พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ๑ พระราชาคณะ ๑ พระครู ๑ พระครูฐานานุกรม ๙ เปรียญ ๒ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๘ เล่าสวดมนต์ ๑๖ รวม ๓๘ รูป พระกิตติสารมุนีได้รับผ้าพระมหากฐิน มีสามเณรเปรียญรับไตรปี ๑ รูป กับแขกอินเดียชื่อธรรมทาสโบรวะ ซึ่งแขกบาบูจันทรทาส ส่งเข้ามาศึกษาข้อปฏิบัติในพระพุทธศาสนา ในสำนักพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ได้รับพระบรมราชานุญาตบวชเป็นสามเณรมาเฝ้า โปรดพระราชทานไตร ๑ ไตร โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ถวายของ แล้วเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง เวลาย่ำค่ำแล้ว

วัน ๔ ๑๐ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินลงเรือพระที่นั่งประจำทวีป พร้อมด้วยเรือกระบวนเหมือนวันก่อน เปลี่ยนแต่เรือศรีประภัศรไชยเป็นเรือผ้าไตรพระกฐิน เรือพระที่นั่งรองประพาสแสงจันทร์ เสด็จพระราชดำเนินไปเข้าคลองบางกอกใหญ่ ประทับวัดอินทาราม พระราชทานพระกฐินเป็นที่ ๑ พระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๑ ฐานานุกรม ๓ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๕ เรียนวิปัสสนาธุระ ๑๒ เล่าสวดมนต์ ๖ รวม ๒๗ รูป พระวิเชียรธรรมคุณาธารครองผ้าพระกฐิน โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร ถวายของ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานผ้าไตรพระกฐิน ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการไปทอดวัดนางนอง พระเจ้าน้องยาเธอกรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ไปทอดวัดหนัง แล้วเสด็จพระราชดำเนินจากวัดอินทาราม ไปประทับพระราชทานพระกฐิน วัดราชโอรส พระสงฆ์จำพรรษา พระราชาคณะ ๒ ฐานานุกรม ๕ พระอันดับเรียนคันถธุระ ๑๐ เรียนวิปัสสนาธุระ ๑๕ เล่าสวดมนต์ ๓๕ รวม ๖๗ รูป ทรงจุดเทียนธูปเครื่องทองน้อย เครื่อง ๕ นมัสการพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วพระราชทานพระกฐิน พระปรากรมมุนีครองผ้าพระกฐิน โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ถวายของ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ทรงจุดเทียนธูปเครื่องทองน้อยนมัสการแล้ว เสด็จมาทรงจุดเทียนนมัสการที่ต้นพิกุลข้างพระอุโบสถ แล้วเสด็จกลับลงเรือพระที่นั่ง พร้อมด้วยกระบวนหน้าหลังทั้งปวงกลับมาประทับท่าราชวรดิษฐ์ เสด็จขึ้นจวนย่ำค่ำ

ในการพระกฐินครั้งนี้ พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการแต่งตัวเต็มยศ ในวัน ๑ ๑๒ ค่ำ และวัน ๒ ๑๒ ค่ำ สองวัน นอกนั้นแต่งตัวครึ่งยศ แต่กรมทหารและกรมตำรวจแต่งเต็มยศทุกวันตลอดการพระกฐิน รวมวันเสด็จพระราชดำเนินพระกฐินทางสถลมารคสองวัน ทางชลมารค ๓ วัน รวม ๕ วัน รวมพระอารามที่เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐิน คณะธรรมยุติกนิกาย ๗ พระอาราม คณะมหานิกาย ๑๐ พระอาราม รวม ๑๗ พระอาราม

วันนี้ เริ่มการพระราชกุศลที่หอนิเพธพิทยา ในการที่จะพระราชทานพระสุพรรณบัฏ ตั้งพระอัครชายาเธอ หม่อมเจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์เป็นพระองค์เจ้า และฉลองพระพุทธรูปรำพึง ประจำวันพระชนมพรรษาในพระอัครชายาเธอ และการทำบุญครบร้อยวัน ตั้งแต่วันที่พระอัครชายาเธอสิ้นพระชนม์มานั้นด้วย เจ้าพนักงานได้เชิญพระพุทธรูปที่จะฉลองและพระสุพรรณบัฏ ตั้งม้าหมู่ในหอนิเพธพิทยา เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกประทับที่นั้น พระสงฆ์ ๑๕ รูป มีกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นประธาน สวดสาธยายพลสูตรสารานิยธรรมสูตร และมาติกา จบแล้วสดับปกรณ์ ผ้าไตรส่วนของหลวง ๑๐ ไตร ของเจ้าภาพ ๕ ไตร แล้วหม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ถวายเทศนาธรรมจักรกัปวัตนสูตร ฐานานุกรมวัดราชบพิธสวดจบแล้ว บรรพชิตญวนจึงสวดกงเต๊ก เสด็จขึ้น ๕ ทุ่ม

วัน ๕ ๑๑ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงประเคน พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว พระยาศรีสุนทรโวหารอ่านคำประกาศ แล้วทรงติดแผ่นพระสุพรรณบัฏที่พระโกศ ประโคมแตรสังข์พิณพาทย์ กำหนดใช้พระนามว่า พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ แต่บัดนี้เป็นต้นไป แล้วพระสงฆ์อนุโมทนาสดับปกรณ์รายร้อย ของหลวง ๑๐๐ ของเจ้าภาพ ๑๐๐ และของพระบรมวงศานุวงศ์สดับปกรณ์ด้วยตามสมควร เสด็จขึ้นบ่ายโมง ๑ เวลาย่ำค่ำเศษ เสด็จออกมุขเด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทอดพระเนตรบรรพชิตญวน จีน ทำพิธีกงเต๊กขึ้นสะพาน แล้วเสด็จหอนิเพธพิทยา มีสวดมนต์เหมือนเวลาวานนี้ สวดอนุตริยสูตร แล้วพระเทพโมลีถวายเทศนา ฐานานุกรมสวดอนัตตลักขณสูตร เสด็จขึ้น ๔ ทุ่มเศษ

วัน ๖ ๑๒ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาเช้า โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าลูกเธอ เสด็จออกปฏิบัติพระสงฆ์และสดับปกรณ์ที่หอนิเพธพิทยา เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกมุขเด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทอดพระเนตรบรรพชิตญวนขึ้นโต๊ะรำนิ้วตามวิธีกงเต๊ก และทรงโปรยผลมะนาว เฟื้อง สลึง และฉลาก แล้วเสด็จหอนิเพธพิทยา สวดมนต์เหมือนวันก่อน สวดมัตกวิภังคสูตร แล้วพระศรีวิสุทธิวงศ์ถวายเทศนา ฐานานุกรมสวดอาทิตปริยายสูตรจบแล้ว เสด็จขึ้น ๒ ทุ่มเศษ

วัน ๗ ๑๓ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

เวลาเช้า โปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าลูกเธอ เสด็จไปปฏิบัติพระสงฆ์และสดับปกรณ์ที่หอนิเพธพิทยา เป็นเสร็จการพระราชกุศลเท่านี้

วัน ๑ ๑๔ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๒ ๑๕ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๓ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๔ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๕ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๖ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๗ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๑ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๒ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๓ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๔ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๕ ๑๐ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

ไม่มีอันใด

วัน ๖ ๑๑ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๗ ๑๒ ๑๒ ค่ำ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๑ ๑๓ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๒ ๑๔ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

วัน ๓ ๑๕ ๑๒ ปีกุน นพศก ศักราช ๑๒๔๙

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ