ภาคที่ ๒ - ทศกรรฐเยี่ยมพิภพ

แสดงเรื่องเกะกะของทศกรรฐ พบนางงามที่ไหนก็มักข่มขืนสังวาศ ไม่ว่าเปนลูกใครเมียใคร และไปถึงไหนก็เที่ยวท้าเขารบที่นั่น จนบอกยอมแพ้หรือป่นปี้ไปแล้ว จึ่งจะไปต่อไป แต่ไม่ใช่ว่าจะปลอดโปร่งไปทั้งนั้น ที่ถูกแช่งให้อย่างร้ายๆ ก็มี ที่จวนๆ แพ้หรือแพ้ทีเดียวก็มี จะเก็บมากล่าวแต่หัวข้อดังต่อไปนี้

(๑) จะข่มขืนนางเวทวดี บุตรีพระกุศะธวัชมุนี ซึ่งถวายตัวแก่พระนารายน์แล้ว พอทศกรรฐแตะต้องตัวนางก็โกรธ จึ่งทำนายไว้ว่าชาติน่านางจะไปเกิดเพื่อผลาญทศกรรฐ แล้วนางก็เข้ากองไฟตาย นางนี้ภายหลังมากำเหนิดเปนนางสีดา

(๒) ไปทำลายพิธีท้าวมรุตตะราชาครองอุศิรวิค ท้าวมรุตตะยอมแพ้

(๓) รบกับท้าวอนะรัณย์สุริยวงศ์ ผู้ครองนครอโยธยา ท้าวอนะรัณย์แพ้ แต่ทำนายไว้ว่า พระรามจะมาเกิดในสกุลอิกษวากุ (คือสกุลของท้าวอนะรัณย์นั้นเอง) ซึ่งจะเปนผู้สังหารทศกรรฐ

(๔) พระนารทยุยงให้ไปรบพระยมในบาดาล พระยมกำลังจะพุ่งหอกมหากาล แต่พระพรหมาลงมาขอไว้ พระยมจึ่งไม่พุ่งหอก และอันตรธานหายไปเสียจากที่สนามรบ ทศกรรฐก็สำคัญว่าพระยมยอมแพ้ จึ่งกลับจากบาดาล [เรื่องนี้ในรามเกียรติ์ของเราเล่าไปโดยเข้าใจผิด ว่าไปรบกับพวกยักษ์ที่อยู่บาดาล และพระยมก็เรียกว่า “ท้าวมหายมยักษ์” ด้วยซ้ำ]

(๕) ไปตีเมืองโภควดีในนาคโลก ชำนะพญาวาสุกรีนาคราช

(๖) ไปรบกับพวกอสูรชื่อนิวัตกะวัจ เทวดามาไกล่เกลี่ยให้เปนไมตรีกัน

(๗) ไปตีนครอัศมะแห่งกาลกัยชนบท ฆ่าท้าววิทยุชชิวหา ผัวนางศูรปนขาตาย [ในรามเกียรติ์ของเราเล่าว่า ท้าวชิวหารับใช้เฝ้าเมืองลงกาอยู่ ได้แลบลิ้นบังลงกาไว้ ทศกรรฐเอาจักรขว้างลิ้นขาดจึ่งตาย ไม่ตรงกับฉบับสังสกฤตนี้]

(๘) ทศกรรฐเข้านิเวศน์พระวรุณ รบกับบริวารพระวรุณและท้าพระวรุณรบ แต่พระวรุณได้ไปเฝ้าพระพรหมาเสียก่อนนั้นยังไม่กลับ ทศกรรฐจึ่งยกทัพต่อไป

(๙) ไปถึงไพฑูรย์ปราสาท พบมหาบุรุษตัวแดง เปนที่น่ากลัวยิ่งนัก เลยเข้าไปภายในจึ่งพบท้าวพลี คือพญาทานพซึ่งขอพรพระพรหมาได้เปนใหญ่ในไตรภพ แล้วพระนารายน์อวตารเปนวามน คือคนค่อม ไปชำนะด้วยย่างสามขุม ท้าวพลีจึ่งต้องมาอยู่ในภูมิต่ำที่สุดนี้ เรื่องนี้ท้าวพลีเล่าให้ทศกรรฐฟัง และห้ามทศกรรฐอย่าให้เหิมหาญคิดสู้พระมหาบุรุษ ทศกรรฐกำเริบไม่ฟัง ออกมาจะสู้กับพระมหาบุรุษ​ แต่พระมหาบุรุษว่ายังไม่ถึงกาลจึ่งอันตรธานหายไป

(๑๐) รบกับท้าวมนธาตุราช ผู้ครองนครศรีอโยธยา ไม่แพ้ชนะกัน ทำไมตรี

(๑๑) ทศกรรฐขึ้นไปถึงโลกพระจันทร์ จะยิงพระจันทร์​พระพรหมาห้ามไว้ และบอกมนตร์สหัสนาม ซึ่งถ้าแม้ว่ามีมรณภัยมาใกล้จวนถึงแล้ว รำฦกมนตร์นี้ได้ก็จะรอดตายไปได้ครั้ง ๑ [นี่เองน่าจะเปนมูลแห่งข้อความที่กล่าวว่า ทศกรรฐถอดดวงใจใส่กล่องไว้ คือจดมนตร์สหัสนามบรรจุกล่องไว้นั้นเอง และถ้าผู้ใดลอบลักเอากล่องนั้นไปได้แล้ว ทศกรรฐก็คงจำมนตร์ไม่ได้ เปนอันต้องตาย แต่นี่เปนความสันนิษฐานของข้าพเจ้าเอง ไม่ใช่มีข้อความปรากฎในหนังสือรามายณเช่นนั้น ข้าพเจ้าไม่มีเวลาตรวจค้นหนังสืออื่น ถ้าได้ค้นยังนึกว่าน่าจะพบคำอธิบายเช่นนี้ ซึ่งดูค่อยน่าเชื่อมากกว่าที่จะถอดดวงใจจริงๆ ไปใส่กล่องฝากฤษีไว้ แต่ถ้าจะเอากล่องใส่มนตร์ไปฝากฤษีดูก็ควรอยู่]

(๑๒) ทศกรรฐไปพบพระมหาชมพูนุท (ภาค ๑ แห่งพระนารายน์) นั่งอยู่กลางเกาะในปรัศจิมสมุท ทศกรรฐไปท้ารบ พระมหาชมพูนุทหัวเราะเยาะแล้วเอามือผลักทศกรรฐเบาๆ ทศกรรฐล้มลงสลบไป พระมหาชมพูนุทจึ่งลงไปในปล่องใต้พื้นดิน ทศกรรฐพอฟื้นขึ้นก็ตามลงไปในถ้ำนั้นผู้เดียว เพราะยักษ์อื่นๆ ไม่มีใครกล้าไป ทศกรรฐไปพบบุรุษรูปร่างเหมือนพระมหาชมพูนุทนั้นอีกหลายโกฏิ ล้วนร้องรำทำเพลงบำเรอพระมหาชมพูนุท ซึ่งบรรทมอยู่บนแท่น พระลักษมีอยู่งานพัดอยู่ ทศกรรฐก็มีความกำหนัดยื่นมือจะไปจับพระลักษมี ทันใดนั้นพระชมพูนุทมหาปุรุโษดมก็ทรงพระสรวลขึ้น ทศกรรฐตกใจล้มลงสลบไป พระมหาบุรุษตรัสให้ฟื้นขึ้น แล้วตรัสว่าวันนี้ยังไม่ถึงที่ตายให้ไปเสียก่อน ทศกรรฐก็นมัสการแล้วทูลลาออกจากถ้ำ (พระมหาชมพูนุทนี้ตัวเดียวกับพระกะบิลที่ผลาญสาครกุมารหกหมื่นนั้นเอง)

(๑๓) ทศกรรฐกลับลงกา พานางที่ไปเที่ยวแย่งมาได้จากที่ต่างๆ ไปด้วย นางทั้งหมดพากันแช่งว่า ผลกรรมที่ได้ทำการผิดเมียเขามามากแล้ว ขอให้พินาศฉิบหายเพราะเหตุนั้นเอง

(๑๔) นางศูรปนขาต่อว่าทศกรรฐในการที่ฆ่าผัว ทศกรรฐจึ่งไกล่เกลี่ยให้นางไปอาไศรยอยู่กับพญาขรผู้เปนพี่ (ซึ่งเปนน้องทศกรรฐ แต่คนละแม่) แล้วทศกรรฐก็ตั้งให้พญาขรเปนเจ้าผู้ครองรากษสหมื่นสี่พัน ให้ไปตั้งรักษาชนสถาน ให้พญาทูษณ์ไปเปนอุปราชและเสนาบดี

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ