สุนทรกัณฑ์

ที่ ๕ - สุนทรกัณฑ์ จับแต่หนุมานเหาะข้ามมหาสมุท พระสมุทมีความปราถนาจะช่วยหนุมาน จึ่งบอกให้ภูเขาไมนากะ ซึ่งอยู่กลางทเลนั้น ผุดขึ้นมาเพื่อให้เปนที่หนุมานหยุดพักร้อน แต่หนุมานบอกว่าจะรั้งรอมิได้ต้องตรงไป ฝ่ายเทวดาพร้อมด้วยคนธรรพ สิทธาและพิทยาธร ปราถนาจะลองฤทธิ์หนุมาน จึ่งสั่งให้นางสุรสาผู้เปนมารดาแห่งนาคทั้งหลาย จำแลงตัวเปนนางยักขินีตัวใหญ่กายสูงถึงฟ้าขวางทางหนุมานไว้ พอหนุมานมาถึง นางก็ร้องห้ามมิให้ไป และร้องท้าให้หนุมานเข้าปาก หนุมานผัดว่าให้เสร็จกิจเสียก่อนจึ่งจะกลับมาให้กิน นางก็ไม่ฟัง อ้าปากกว้างจะกลืนหนุมาน นางอ้าปากกว้างเท่าใดหนุมานก็ทำตัวให้โตขึ้นจนคับทุกครั้ง จนปากนางนั้นอ้ากว้างถึง ๑๐๐ โยชน์เปนที่สุด คราวนี้หนุมานทำตัวเปนเมฆก้อนเล็กเท่านิ้วหัวแม่มือลอยเข้าไปในปากนางสุรสาและกลับออกมาอีกโดยนางไม่รู้สึกตัว แล้วก็กล่าวแก่นางสุรสาว่า ได้เข้าปากตามปราถนาแล้ว ขอทางไปเถิด นางสุรสาก็กล่าวชมเชยความฉลาดของหนุมาน แล้วอนุญาตทางให้ไป [เรื่องพบกับนางสุรสานี้ของเราไม่มี] ต่อจากนี้ไปจึ่งไปพบนางผีเสื้อสมุทชื่อสิงหิกา ผู้มีฤทธิ์ยึดเงาใครได้แล้วก็ยึดตัวได้ นางยึดเงาหนุมานไว้ได้ หนุมานจึ่งเข้าปากนางแล้วเข้าไปแหวะท้องออกมาได้ จึ่งเหาะต่อไปจนถึงเกาะลงกา รวมเปนระยะข้ามมหาสมุทนั้น ๑๐๐ โยชน์ แล้วจึ่งไปลงที่ใกล้นครลงกา [เรื่องเหาะข้ามลงกาและไปลองฤทธิ์กับพระนารทนั้นไม่มีในฉบับสังสกฤต แต่ที่จะเข้าใจว่านึกขึ้นเองนั้น ก็เห็นจะไม่ได้ คงจะต้องไปได้มาจากแหล่งอื่น ดังจะได้อธิบายต่อไปในตอนข้างท้ายนี้] ครั้นเวลาค่ำหนุมานจึ่งนฤมิตรตัวให้เล็กเท่าแมวและลอดเข้าไปในลงกา พบนางลงกา (คือเสื้อเมืองซึ่งเราเรียกว่า “อากาศตไลย”) รบกันจนนางลงกาแพ้แล้ว หนุมานก็เที่ยวค้นนางสีดาทั่วไปในลงกา เข้าไปจนในวังและปราสาทราชฐานที่อยู่ของทศกรรฐและขุนยักษ์ต่างๆ ค้นทั่วไปทุกแห่งหน จนในที่สุดได้ไปถึงสวนอโศกจึ่งเห็นนางสีดา แต่งตัวนุ่งห่มคากรอง ไม่มีอาภรณอย่างใดประดับประดา มีนางรากษสีเปนผู้คุมอยู่ ขณที่หนุมานซ่อนอยู่ในกิ่งอโศก ทศกรรฐลงไปหานางสีดาพูดจาเกี้ยวพาล นางก็ไม่ยินยอม ทศกรรฐจำใจต้องกลับไปวัง พวกนางยักษ์ผู้คุมก็พากันด่าว่านางสีดาด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่างๆ นางสีดาทนไม่ได้คิดจะผูกคอตาย หนุมานเห็นถึงเวลาอันควรจึงกล่าวพระนามพระรามขึ้นและพรรณาข้อความทุกประการ นางสีดาได้ยินก็ดีใจ หนุมานลงจากต้นไม้มาถวายบังคม เล่าความโดยละเอียดแล้วถวายแหวนของพระราม นางสีดาก็ยินดีรับแหวนไว้ แต่ครั้นเมื่อหนุมานจะขอรับไปส่งพระราม นางสีดาไม่ยอม โดยแสดงว่าไม่เปนการสมควรที่จะให้ผู้ชายแตะต้องตัวอีก นางสั่งข้อความให้หนุมานนำกลับไปทูลพระราม และฝากศิราภรณอัน ๑ ไปถวายเพื่อเปนพยานด้วย หนุมานทูลลานางสีดาแล้ว ก็นึกแค้นเคืองทศกรรฐจึ่งแกล้งหักสวนเสียป่นปี้ ชาวสวนนำความไปแจ้งแก่ประหัสต์ผู้เปนเสนาบดี ประหัสต์ใช้ชมพูมาลีลูกชายไปจับหนุมาน ก็กลับไปถูกฆ่าตาย ประหัสต์จึ่งสั่งเสนาห้าตนไปล้อมหนุมานไว้ แล้วนำความไปทูลทศกรรฐ ทศกรรฐใช้ให้โอรสชื่ออักษกุมารไปจับ [ในรามเกียรติ์ของเราเรียกว่า “สหัสกุมาร” แล้วเลยกลายเปนมีจำนวนพันตนไปด้วยซ้ำ] อักษกุมารก็ไปตายอีก ทศกรรฐจึ่งให้อินทรชิตออกไปจับ อินทรชิตแผลงศรนาคบาศไปมัดหนุมานได้ นำตัวไปถวายทศกรรฐ ทศกรรฐซักถามหนุมาน ๆ ก็พูดว่ากล่าวให้ส่งนางสีดาคืนไปยังพระราม ทศกรรฐโกรธจึ่งสั่งให้เอาหนุมานไปฆ่าเสีย แต่พิเภษณ์ ซึ่งเปนผู้รู้จักประเพณีอันดียิ่ง ได้กล่าวทัดทานไว้ โดยชี้แจงว่าหนุมานเปนทูตมา ถ้าฆ่าจะเสียราชประเพณี ทศกรรฐจึ่งตกลงให้เอาไฟจุดเผาหางหนุมาน [ส่วนการลงโทษอย่างอื่นๆ เช่นให้ช้างแทง หรือใส่ครกตำ ไม่มี บางทีพราหมณ์ผู้นำเรื่องมาเล่าในเมืองเราจะเอาข้อความจากหนังสืออื่นๆ มาเพิ่มเติม เพื่อให้หนุมานเก่งยิ่งขึ้น ดังจะได้อธิบายต่อไปโดยละเอียดข้างน่า] หนุมานเมื่อไฟติดหางแล้วก็เผาเมืองลงกาเสียสิ้น แล้วจึ่งไปดับไฟที่หางนั้นในมหาสมุท (ไม่ใช่ในปากอย่างเรื่องของเรา) และเหาะกลับไปหาองคทและวานรซึ่งคอยอยู่เชิงเขามเหนทร เล่าความให้ฟังแล้วพากันกลับไปเฝ้าพระรามที่เขาปรัศรวัน หนุมานนำศิราภรณถวายพระราม และเล่าความละเอียดทุกประการ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ