คำนำ

ในงารฉลองโรงเรียนมนุษยนาควิทยาทาน อันสร้างขึ้นเปนอนุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติยศ สมเดจพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ณะวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งพระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวทรงเปนประมุข และจะทรงเปิด ในวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ พระญาณวราภรณ์ กับพระเทพกวี วัดบวรนิเวศ ได้ปรารภจะพิมพ์พระราชหัตถเลขา แห่งพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๕ ซึ่งพระราชทานแด่สมเดจพระมหาสมณเจ้าฯ แต่ข้าพเจ้าได้ตรวจแล้วเหนว่าพระราชหัตถเลขาที่ค้นได้ เนื้อความใม่ค่อยติดต่อกัน และใม่สู้เหมาะแก่งารนี้นัก

อนึ่งข้าพเจ้าเคยทราบมาแต่ก่อน ว่าสมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ ทรงพระนิพนธ์หนังสือไว้ ๒ เรื่อง และได้แสดงพระดำริห์ไว้ว่า หนังสือ ๒ เรื่องนั้นควรจะพิมพ์แจกเปนที่ระลึกถึงพระองค์เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วได้ เรื่องหนึ่ง คือตำนานวัดบวรนิเวศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรด ฯ ให้พิมพ์แจกเมื่อถวายพระเพลิงพระศพสมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ แล้ว ยังเหลืออยู่อีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องพระประวัติซึ่งสมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ ทรงพระนิพนธ์เล่า เปนเรื่องพระประวัติของพระองค์เอง ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์มาจนทรงผนวช ตราบเท่าได้เปนพระราชาคณะ เรื่องนี้ยังหาได้พิมพ์ใม่ ข้าพเจ้าคิดเห็นว่าใม่มีหนังสือเรื่องอื่นจะสมควรพิมพ์แจกในงารฉลองอนุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติยศสมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ ยิ่งกว่าเรื่องพระประวัติตรัสเล่า และหนังสือเรื่องนั้นจะเอาไว้พิมพ์ในโอกาศอื่นต่อไปก็ใม่เหมาะ ยิ่งกว่าพิมพ์แจกในงารฉลองอนุสาวรีย์ของสมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ ในครั้งนี้ ได้แจ้งความที่คิดเหนแก่ท่าน ก็เหนชอบด้วย ข้าพเจ้าจึงรับให้พนักงารในหอพระสมุด ฯ เปนธุระจัดการพิมพ์ถวาย ข้าพเจ้าได้เลือกพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า ฯ ๔ พระรูป ซึ่งฉายตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และต่อมาจนทรงผนวช อันมีอยู่ในคลังรูปของหอพระสมุดสำหรับพระนคร ให้พิมพ์ประกอบในหนังสือเรื่องพระประวัติตรัสเล่านี้ด้วย เสียดายอยู่หน่อยที่พระรูปซึ่งฉายเมื่อทรงพระเยาว์ที่สุดนั้น รูปเดิมเก่าแก่มัวมาก โรงเรียนเพาะช่างผู้จำลองจะทำให้ชัดเจนดีกว่าที่ปรากฎใม่ได้ จะทิ้งเสียก็เสียดาย จึงเอาเข้าไว้ด้วย กับรูปโรงเรียนอีกรูปหนึ่ง

หนังสือเรื่องพระประวัติตรัสเล่านี้ ข้าพเจ้าได้ทราบว่า เหตุที่สมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ จะทรงพระนิพนธ์นั้น ด้วยทรงปรารภว่าศิษยานุศิษย์ของพระองค์โดยมากได้ทราบเรื่องพระประวัติต่อเมื่อพระองค์ทรงพระเกียรติยศสูงแล้ว แต่เรื่องพระประวัติชั้นเดิมพระองค์ได้เคยทรงประสพทุกข์สุข และพยายามเลี้ยงพระองค์มาอย่างไร หามีใครในเหล่าศิษยานุศิษย์จะทราบใม่ จึงทรงพระนิพนธ์เล่าเรื่องพระประวัติของพระองค์ตั้งแต่ประสุตมาจนถึงได้รับพระสุพรรณบัฎเปนกรมหมื่น ฯ และเปนพระราชาคณะ ตั้งพระหฤทัยจะทรงแต่เพียงเท่านั้นเอง หาได้ทรงแต่งค้างอยู่ใม่ พิเคราะห์ดูตามโวหารที่ทรงเล่านี้ ก็เหนสมจริงตามคำที่กล่าว ด้วยทรงยกเรื่องพระประวัติของพระองค์เปนนิทัศนอุทรหรณ์ประทานโอวาทแก่ศิษยานุศิษย์มีอยู่ในนั้นตลอดเรื่อง ข้าพเจ้าเชื่อว่าบันดาผู้ที่ได้รับสมุดเล่มนี้ไป จะเปนศิษยานุศิษย์ของสมเดจพระมหาสมณเจ้า ฯ ก็ตาม หรือที่มิได้เปนศิษยานุศิษย์ก็ตาม คงชอบใจอ่านมิใคร่จะเว้นตัว และเชื่อว่าบันดาผู้อ่านคงอนุโมทนาในการที่พระญาณวราภรณ์ และพระเทพกวีให้พิมพ์เรื่องพระประวัติตรัสเล่าของสมเดจพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสให้แพร่หลาย และรักษาไว้มิให้สูญเสีย

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สภานายก

หอพระสมุดวชิรญาณ

วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๖๗

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ