เล่นถวายที่ทเลพรหมาศ
คืนที่ ๑ ณวัน ๗ ๙ฯ ๑๒ ค่ำ ปีวอกจัตวาศก ๑๒๓๔
คุณพุ่ม๏ สักรวาขอถวายอภิวาท | มีพระราชโองการประทานเรื่อง |
ให้ทูลกระหม่อมจอมกระษัตริย์จำรัสเรือง | ด้วยโปรดเปรื่องเปนพระอนุชา |
พระนิพนธ์ต้นรับสั่งให้ตั้งบท | จัดจำแนกแจกจดตามยศถา |
ออกพระโอษฐโปรดคิดเรื่องปิดตา | อยู่โยงท่านจะบัญชาให้ใคร เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวามิได้เกี่ยงคิดเบี่ยงบิด | จะยอมปิดตาเล่นเช่นรับสั่ง |
จงชวนกันรีบร้อนไปซ่อนบัง | อย่านิ่งนั่งให้ป่วยการนานเวลา |
ด้วยจับได้ไว้แต่ครั้งเมื่อคราวก่อน | ไม่เกี่ยงงอนหลบลี้หลีกหนีหน้า |
เล่นพอให้สรวลเสได้เฮฮา | ตำรวจหาที่ซ่อนขึ้นก่อน เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาพากันซ่อนที่ล้อมวง | รักษาองค์ธิบดินทร์ปิ่นนาถา |
ปืนกระสุนมัดหวายไม้ขว้างกา | เครื่องสาตราหอกกระบี่มีทุกคน |
แล้วตีฆ้องห้ามมิให้ใครเข้าออก | สัญญาบอกกะแตฆ้องก้องกาหล |
ใครขืนตัดน่าฉานผ่านตำบล | โทษไม่พ้นกฎหมายถึงตาย เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาพาสมรซ่อนในหนอง | ตะโกนก้องเรียกหาจรเข้ |
ว่าครั้งนี้คงได้อมสมคเน | ขึ้นลอยเร่ดูโบ้โร่โตสนัด |
พอแอบซ่อนบังกายอยู่ชายบึง | ใครถามถึงตัวเราเจ้าจงกัด |
ถ้าไม่พอมันเขี้ยวอย่าเลี้ยวลัด | ฉันชื่อทัดพี่ไกรทองท้องเดียว เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาเห็นวงคุณสงคราม | ลงงุ่มง่ามดำดึ่งพึ่งจรเข้ |
ลำตำรวจก็ฉลาดคาดคเน | ออกไปเร่แอบอ้อมพึ่งล้อมวง |
ยังแต่ตนจนจิตรคิดวิตก | จะขึ้นบกซ่อนตัวก็กลัวหลง |
คลานขึ้นเรือพระที่นั่งดังใจจง | เข้าห้องสรงแอบเข้าไปดังใจ เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาลำหลวงกระทรวงซ่อน | ไม่ทุกข์ร้อนด้วยว่ามีที่อาไศรย |
ด้วยรู้แท้แน่ชัดสนัดใจ | ว่าพระไทยน้อยนักขี้มักเคือง |
เห็นทูลกระหม่อมพระองค์น้อยเคยต่อยเคาะ | ก็นิ่งเหนาะเสียไม่ตอบประกอบเรื่อง |
เห็นจะไม่จับตัวด้วยกลัวเคือง | เชิญบาทเบื้องขึ้นนั่งตักกวักเรียก เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวามิใช่จะใจน้อย | ถ้าถูกต่อยแม้นได้โต้โมโหหาย |
มาเล่นขับเอาข้างเดียวเจียวคุณยาย | อย่าวุ่นวายทีนี้มิได้กลัว |
อันท่านเล็กเด็กหนูมาดูหมิ่น | ช่างเล่นลิ้นดูเบาพูดเย้ายั่ว |
จงคิดบอกออกโอษฐขอโทษตัว | บอกดีชั่ววงเด็จยายจึงหาย เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาทูลหม่อมน้อยคอยขยับ | ถ้าแม้นจับยายพุ่มจะรุมต่อย |
ถึงเปนเด็กเล่าก็รศมดตะนอย | ฉันก็คอยทูลเพ็ดเสด็จยาย |
ขอแรงเจ้าโฮเลนช่วยเต้นโลด | ท่านดาโกรธอยู่เมื่อเช้าเล่าไม่หาย |
ท่านศุขด้วยช่วยกันว่าให้ได้อาย | พรุ่งนี้ตายแล้วเรื่องเสื้อต้องเนื้อ เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาอย่าโฮเลนช่วยเต้นโลด | รู้ว่าโปรดวงคุณยายจึงหมายต่อย |
ด้วยเปนคนริร่ำช่างสำออย | ดีแต่คอยทูลเพ็ดกับเด็จยาย |
ที่จริงจิตรคิดจับวงพระสงคราม | เที่ยวงุ่มง่ามหลบลี้ดีใจหาย |
เปนชาติเชื้อพลายชุมพลคนแยบคาย | รู้มากมายมนต์เวทวิเศษ เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาชาละวันครั้นเห็นคน | ทำแยบยนต์ดำลงไปมิให้เห็น |
ในน้ำจิตรคิดอุบายหมายเขม้น | ถ้าใครเล่นลอดมาจับจะงับกิน |
ด้วยเราเปนไกรทองต้องแทนคุณ | แม้นใครวุ่นลงมาจับงับให้สิ้น |
ขึ้นผุดโผนโจนทยานสท้านดิน | นายทัดปลิ้นวิ่งไปสบาย เอย. ๚ |
พระองค์เจ้า๏ สักรวามาประนมบังคมบาท | แล้วลีลาศหลีกลัดไปวัดเกาะ |
หาท่าหนีที่บังยังพิเคราะห์ | เห็นจะเหมาะก็แอบมิกะฏิพระ |
ฉวยเสียทีขึ้นเจดีย์ที่ท่าวัด | เมื่อเต็มขัดลงน้ำดำมุดสวะ |
กระบวนน้ำดำหนีมีมากละ | แต่กันตะเข้ร้ายร่ายมนต์ เอย. ๚ |
ช่างเขียน๏ สักรวาวงช่างไม่วางวิ่ง | นั่งไม่นิ่งมือหยิบกระดิบเดี้ยม |
จ้ำจิบจิบรอบเกาะละเลาะเลียม | ไปจอดเทียมลำนาวาพระยารักษ์ |
จงระวังให้อยู่เย็นเปนผู้ตรวจ | สั่งตำรวจที่ล้อมวงพระทรงศักดิ์ |
แม้นใครไล่จับมาอย่าเกรงภักตร์ | อย่าทายทักจับส่งจางวาง เอย. ๚ |
เจ้าจำเริญ๏ สักรวามาประนตบทรัช | แล้วเลี้ยวลัดหางเสือเรือปิกนิก |
เอาเชือกเกลียวเหนี่ยวผูกไม่ดุกดิก | หัวเราะคิดทำขยับต้องจับละ |
ด้วยเปนพระที่นั่งหลวงกระทรวงห้าม | ใครลวนลามจงให้โปรดเปนโทษหละ |
เราเปนข้าอยู่ข้างในไว้ธุระ | แม้นขืนจะจับเราเอาโทษ เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาเห็นไม่โยงเที่ยวโพงวิ่ง | ไม่นั่งนิ่งตรงเข้าจับออกสับสน |
พอคว้าได้ภรรยาทำหน้าจน | ดูเหมือนบ่นว่าจำเภาะคราวเคราะห์ร้าย |
จึงบอกว่าไปอยู่โยงอย่าโกงนะ | เราไม่ละตัวท่านเหมือนมั่นหมาย |
อย่าขืนขัดดัดจริตทำกรีดกราย | จะต้องอายเขานะจ๊ะจริงนะ เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาจับไม่ได้ไพล่วิ่งหนี | ลงซ่อนที่ในโถสโมสร |
ข้างต้นเถาปลายนั้นเท่าอ่างมังกร | จะแอบซ่อนปิดตาฝาไม่มี |
กระโดดโผนโจนลงโอ่งน้ำปลา | ให้แสบหูแสบตาพากันหนี |
แล้ววิ่งวงลงในถังขังวารี | ใครจับพี่พี่จะดำน้ำเสีย เอย. ๚ |
ช่างเขียน๏ สักรวาฟังสมรเหมือนกลอนแห้ง | เจ้าของแซงเข้ามาหมายทายถูกเหมาะ |
กลอนกระโดดโลดโผนโจนวิ่งเราะ | ลงไปเกาะไหน้ำปลาน่าอายใจ |
ท่านเห็นดีแล้วฤาวงคุณสงคราม | เที่ยวเก็บความเก่าเก่าของเขาได้ |
สิ้นกลอนสดหมดพุงยุ่งฤาไร | เข้านั่งใกล้หม่อมเมียบอกเสีย เอย. ๚ |
ช่างเขียน๏ สักรวาฟังเงียบเซียบสงัด | ฤๅข้องขัดเคืองจิตรคิดไม่ไหว |
ฉันขอโทษเธออย่าโกรธกลับกริ่งใจ | อดไม่ได้คันปากอยากเคาะแคะ |
อันวิไสยสักรวารักษาซื่อ | ท่านอย่าถือเคยเล่นกันกระนั้นแหละ |
นายตาบช่วยว่าให้ตรงอย่าหลงแวะ | อย่ายิ้มแหะเชิญตรองร้องขึ้น เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวามาแทรกให้แปลกหู | จะนิ่งอยู่ก็ไม่ได้ให้ขัดข้อง |
จะขอห้ามความไปดังใจปอง | เพราะไม่ต้องที่จะขวางมากลางคัน |
ด้วยทูลกระหม่อมไล่จับวงพระสงคราม | ยังกล่าวความติดต่อเปนข้อขัน |
ไม่ควรร้องสองบทประชดประชัน | ขอเชิญทั่นกลับไปให้ไกล เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวากลัวต่อยกร่อยแท้แท้ | ทำอ้อแอ้อู้อี้เห็นดีฤๅ |
ท่านตาครูรู้ฦกช่างฝึกปรือ | ทำชึบจื๊อเชื่อจิตรคิดอย่างไร |
มาออกตัวกลัวต่อยทำหงอยหงิม | ถูกเยาะยิ้มวิ่งรี่หนีไปได้ |
อย่าวุ่นวายหมายจับจงกลับไป | จับลำในคุณมหาน่าปี๊บ เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาพูดเลอะเปรอะไปดอก | ฉันแกล้งหลอกคุณยายอย่าวายวุ่น |
เดิมตั้งจิตรคิดขยับจะจับคุณ | เสียงว้าวุ่นอึกทึกนึกรำคาญ |
จึงนิ่งฟังคารมที่คมกรอด | ช่างเล็ดลอดมาประกวดอวดโวหาร |
ตรงเข้าจับคุณสงครามยามกันดาร | ถึงเพื่อนบ้านก็ไม่ละแล้วคะ เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาฟังว่าน่าอดสู | ไปสอดรู้มาแต่ไหนฤๅใครบอก |
ย่อมเข้าใจในกลอนพูดย้อนยอก | มากลับกลอกค่อนว่าดูน่าแคลง |
ทำไว้ตัวเปนตาครูรู้เสียหมด | ร้องสองบทคล้ายกับบอจนฅอแห้ง |
ยอมให้จับไม่ดิ้นเพราะสิ้นแรง | ไม่กล่าวแกล้งยอมอยู่โยงไม่โกง เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวารีบร้อนคิดซ่อนหนี | จะหาที่ก็ไม่ได้เหมือนใจหมาย |
จึงหมอบเฝ้าอยู่อย่างนี้ดีสบาย | ท่านคุณยายจงช่วยกันสรรพไภย |
ถึงมาทแม้นพระมหาจะมาจับ | คงได้รับมือกันให้หวั่นไหว |
จะปล้ำลงคงคาชลาไลย | ไม่ยอมให้จับกายเหมือนหมาย เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาฉุยฉายหมายเขม้น | ไปซ่อนเร้นอยู่ที่ไหนบ้างเล่าเหนอ |
เที่ยวตามไปในพรหมาศก็ไม่เจอ | มาพบเธอท่านครูหมอบอยู่นี่ |
ย่องขยับหมายจะจับแล้วกลับคิด | ดูจริตเหมือนเปนท้าวขึ้นคราวนี้ |
เข้าหมอบเมียงเคียงบาทาฝ่าธุลี | คงเลื่อนที่เสียแท้แท้คุณแก่ เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาคุณมหาเข้ามาจับ | วิ่งขยับหวุดหวิดผิดไปได้ |
พอทูลกระหม่อมอ้อมมาแอบนึกแปลบใจ | ก็ฉวยได้บั้นพระองค์ส่งไปแทน |
สั่งกำชับกับวงคุณสงคราม | อย่าเบาความกอดพระหัดถ์มัดให้แน่น |
มาแอบหลังหลายครานึกน่าแค้น | แล้วยิ้มแป้นด้วยว่าหนุนคุณท้าว เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาพระมหาสงคราม | บังคมราบกราบงามลงสามหน |
เข้าจับบาททูลกระหม่อมจอมสกล | อาญาล้นเกล้าแล้วคราวนี้ |
ด้วยคุณพุ่มจับสันบั้นพระองค์ให้ | ต้องจับไว้ตามตรงอย่าทรงหนี |
จงโปรดด้วยช่วยอยู่โยงเสียสักที | กระหม่อมนี้จับได้ถวายโยง เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาฟังไม่ชัดถนัดแน่ | ฉันหมอบแต้อยู่ที่นี่ประสีประสา |
มิได้ไปใกล้เคียงเรียงภักตรา | เหตุไรมาจับส่งพระสงคราม |
ได้ยินเสียงมาสำออยทำอ้อยอิ่ง | เฝ้าวอนวิงยำเยงทีเกรงขาม |
เตะปากปับเลือดนองลงสองชาม | หนีสงครามวิ่งตะโพงมาโยง เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาฟ้าขาวดาวจรเข้ | ดารากรร่อนเร่หันเหหาง |
นภางค์พื้นชื่นฉ่ำด้วยน้ำค้าง | จะสว่างเสียแล้วหนอต้องรอรา |
ทูลลาบาทบทเรศวิเศษโฉม | ถึงจากไปใจคงโทมนัศหา |
ด้วยรักใคร่ในพระเดชเจตนา | ขอเปนข้าเคียงพระบาททุกชาติ เอย. ๚ |
คุณมอญ๏ สักรวาเวลาแปดทุ่มเที่ยง | ขอหลีกเลี่ยงลาไปจวนไก่ขัน |
ข้าลอองบาทบงสุ์พระทรงธรรม์ | ถวายอัญชลิตอิศรา |
พระนรินทร์ปิ่นปักเปนหลักโลก | จงส่างโศกเปนบรมศุขา |
ขอพระเดชปกเกล้าชาวประชา | ชันษายาวยืนสักหมื่น เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาดารารายคล้ายประดับ | แสงเงินจับบูรพาท้องฟ้าขาว |
นกเขาคูคูขันกระชั้นเช้า | ดุเหว่าเร้าเรงเร่งเปล่งสำเนียง |
เสียดายหนอข้อคำยังจำได้ | จะจากไปยังไม่วายเสียดายเสียง |
แสนเสนาะเพราะระเบียบร้องเรียบเรียง | แล้วหมอบเมียงทูลลารีบมา เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาเกือบจะใกล้ไก่จะขัน | เวลาล่วงดวงบุหลันลับไศล |
เหลือบดูแขแลดูภักตร์ให้หนักใจ | จะลับไปจากกันเหมือนจันทรา |
จันทร์กระจ่างกลางเวหาศลีลาศลับ | เมื่อไรจะกลับส่องกระจ่างสว่างหล้า |
แต่จากภักตร์เพื่อนสักรวาคลา | จะง่วงเหงาเศร้าอุราคอยท่า เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาดาวเคลื่อนดวงเดือนดับ | มัวพยับมืดคลุ้มชอุ่มฝน |
ดุเหว่าส่งเสียงก้องร้องระคน | สุดจะทนหนาวในใจรัญจวน |
นิจาเอ๋ยเคยชื่นทุกคืนค่ำ | จะต้องจำแรมโรยยิ่งโหยหวน |
เสียดายกลอนสักรวาเวลาจวน | ขอลานวลมิ่งสมรไปก่อน เอย. ๚ |
พระองค์เจ้า๏ สักรวาฟ้ามัวเมฆหมอกหมาย | พอพระพายพัดแรงเปิดแสงศรี |
ดูดาวดับลับแสงพระจันทรี | ดูเร็วรี่รีบรถบทจร |
เสียดายหนอจวนใกล้ปัจจุสสมัย | ขออำลาคลาไคลไกลสมร |
จะจำใจจำพรากจำจากจร | ในอกร้อนร้อนรักจำจาก เอย. ๚ |
คืนที่ ๒ ณวัน ๑ ๑๐ฯ ๑๒ ค่ำ ปีวอกจัตวาศก ๑๒๓๔
คุณพุ่ม๏ สักรวาอภิวาทบาทบงกช | จะจับบทบอกผ้าป่าว่าวิถาร |
ทูลหม่อมตัวขรัวส้มเปนสมภาร | เราคิดอ่านแห่กระจาดเหมือนราษฎร |
กรมช่างตั้งให้ว่าที่ทายก | หาตลกมาฉลองร้องครึ่งท่อน |
คุณมหาหน้าฉลาดพิณพาทย์มอญ | คนลครองค์ประเสริฐเปนเถิด เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาตาครูชูอยู่ริมวัด | ได้ทราบชัดว่าฎีกามาแจกให้ |
จัดพิณพาทย์มอญพลันได้ทันใด | ด้วยจะไปแห่ผ้าป่าไม่ช้าที |
จึงรีบพายมาถึงซึ่งท้องทุ่ง | เอ๊ะลืมถุงปี่แก้วเสียแล้วนี่ |
จะกลับไปเล่าก็ไกลเสียเต็มที | ปี่ก็มีมาบ้างเป่าพลาง เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาบังคมบรมบาท | แล้วลีลาศครรไลไปผ้าป่า |
เกณฑ์รองงานแปดกรมเอาโคมมา | ลงนาวาจุดสว่างกระจ่างไฟ |
เอาไม้พลองกระบองสั้นนั้นไปด้วย | แม้นฉุกฉวยคนเมาเข้ามาไขว่ |
จะได้ช่วยทักถามห้ามปรามไป | ถ้าผู้ใดเกะกะไม่ละ เอย. ๚ |
พระองค์เจ้า๏ สักรวาน้อมประนมบังคมบาท | ด้วยเปนราชการงานผ้าป่า |
ลครดีที่ไหนไปหามา | เสมียนตราจางวางเผือกไปเลือกคัด |
ทั้งรุ่งจันขำแตรแก่เก่งแก่น | ฝ่ายขุนแผนก็ระดมประสมประสัด |
พิณพาทย์ดีมีอยู่รู้ชัดชัด | ไม่ต้องจัดหาที่ไหนวุ่นวาย เอย. ๚ |
ช่างเขียน๏ สักรวาวงช่างหวังเอาบุญ | สู้ลงทุนซื้อจ่ายจำหน่ายของ |
ได้เสร็จสรรพจับใส่กระจาดกอง | บรรทุกท้องนาวาแล้วคลาไคล |
เรียกจำเริญหลานรักพยักหน้า | จงจัดหาเงินงานเปนการใหญ่ |
ใครมาช่วยให้กำนนทุกคนไป | รับสั่งให้แห่โคมฮึกโหม เอย. ๚ |
เจ้าจำเริญ๏ สักรวาเจริญไวยได้รับสั่ง | ก็สมหวังด้วยศรัทธามาแต่ไหน |
แล้วจัดร่มกาเสื่อผ้าไตร | ตะลุ่มใส่ถ้วยโถทั้งโอจาน |
แล้วหยิบเงินห้าชั่งด้วยยังจน | ร้องเรียกคนขนของก้องทั้งบ้าน |
แล้วเลี้ยวลัดตัดมาไม่ช้าการ | ถวายท่านติดเทียนทองของฉัน เอย. ๚ |
คุณมอญ๏ สักรวารู้แน่ว่าแห่ผ้าป่า | แต่งกายาใส่เสื้อลงเรือเก๋ง |
ล้วนชาววังผิวพรรณดังจันทร์เพ็ง | ก็รีบเร่งเร็วมาแต่สายัณห์ |
พบเรือพิณพาทย์มอญลครผู้หญิง | รำดีจริงจางวางเผือกช่างเลือกสรร |
หยิบส้มพวงเพิ่มผ้าป่าศรัทธาครัน | ขรัวพ่อทั่นพอใจชมผลส้ม เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาแห่ผ้าป่ามาถึงวัด | ดึกกำดัดคาดงามสักยามสอง |
ถึงกระฎีขึ้นกระไดเข้าไปมอง | เห็นส้มสองพวงมีนึกดีใจ |
ช่วยปาผึงตึงตังหลังกฏิ | ดูเอาซิเที่ยงคืนหาตื่นไม่ |
สูบบุหรี่ปาตีเข้าขี้เซาไป | ฉวยได้ไข่ของชอบลอบปา เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาพิณพาทย์มอญกระง่อนกระแง่น | เข้าติดแน่นตะโพนโยนเพริดผริ่ง |
ปี่ออดอ๊อดออระต๋อยเสียงอ้อยอิ่ง | ระนาดหริ่งรัวปร๋อฉิ่งล่อฉับ |
ออกน่าผ้าป่าใหญ่ไปตามตรง | เสียงฆ้องวงโหน่งหนอดคอยหยอดรับ |
เอ๊ะนี่โคมเปนอย่างไรมาไพล่ดับ | จอดประทับน่าวัดยุงกัด เอย. ๚ |
พระองค์เจ้า๏ สักรวาลครฦๅชื่อมาเล่น | หนูแย้มเปนจมื่นไวยใจแกล้วกล้า |
หนูอินเปนนารีศรีมาลา | หนูหงษ์เปนสร้อยฟ้าลาวหน้านวล |
หนูโหมดเปนขุนแผนแสนฉลาด | กับหนูตาดวันทองประคองสงวน |
แห่ผ้าป่างดงามตามกระบวน | เปนการส่วนกุศลเพิ่มผล เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาเถรส้มนั่งอมก๋อ | รูปอ้อต้อเคี้ยวหมากปากไคว่ไคว่ |
เสียงไข่ปาตูมตามถามว่าใคร | พอเห็นไฟแจ้งว่าผ้าป่าชัด |
แล้วครองผ้าสีดำดูคร่ำม่อ | เดินกอมก้อตาปรอยค่อยประหยัด |
แลเห็นส้มพวงใหญ่ใจฮึดฮัด | เบือนสบัดหน้ากลับไม่รับ เอย. ๚ |
พระราชนิพนธ์๏ สักรวาไม่รับส้มทำอมก๋อ | อย่างไรพ่อจางวางไข่ไฉนนั่น |
จะสู้ทิ้งไข่เค็มเต็มสำคัญ | ถ้ากระนั้นจะถวายรายเครื่องยา |
บุหรี่ฝรั่งทั้งกันชายาแดงด้วย | อาเพี่ยนรวยวันนี้ดีนักหนา |
จะได้ปาตีกันกับท่านดา | กับทั้งม้าโหว่ด้วยช่วยสูบ เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาออกชื่อไข่ใจหวิวหวิว | กำลังหิวเหลือใจจะใคร่ฉัน |
ทุกสิ่งสิ้นฝิ่นกันชาที่ว่านั้น | อย่ารำพรรณยังไม่เคยเลยคุณยาย |
แล้วจึงชักผ้าป่าว่าบุบบิบ | ตรงเข้าหยิบของคุณป้ามาถวาย |
พอท่านวีกับท่านดามาภิปราย | จึงแจกจ่ายกันชาฝิ่นให้กิน เอย. ๚ |
พระราชนิพนธ์๏ สักรวาตาดากับม้าโหว่ | นั่งยิ้มโก๋ได้ยินข่าวคราวขัดสน |
จึงนั่งนึกปฤกษากันสองคน | ทีเปนผลบุญเราแล้วคราวนี้ |
เข้าในวัดลัดมาหาขรัวส้ม | นั่งบนพรมซดน้ำชาดมยาบุหรี่ |
ให้มึนเมาหาวนอนอ่อนเต็มที | นอนพุ่มลี่หลับสบายเหมือนตาย เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาเถรส้มนั่งก้มหน้า | นึกตรึกตราตรมจิตรคิดถวิล |
ด้วยไปรับของที่ชั่วมัวมลทิน | เอาอับฝิ่นเข้าไว้ในกุฎี |
จึงหยิบฝิ่นกับกันชาปาลงน้ำ | ให้สิ้นดำของชั่วมัวหมองศรี |
แล้วตรึกตรองข้อความตามคดี | ยายคนนี้จะแกล้งฆ่าขรัวตา เอย. ๚ |
พระราชนิพนธ์๏ สักรวาเธอทั้งสองนั่งตรองตรึก | ใจบึกบึกกลัวจะว่าหน้าตาเสีย |
ช่วยกันรั้งไว้แน่นจนแขนเพลีย | จับนัวเนียนั่งแอกกระแทกลง |
นั่งเปนกลุ่มรุมกันคุยออกเพ้อเจ้อ | กำลังเผลอเลอะใหญ่จนใหลหลง |
พอมึนเมาเข้าอิกก็หลับลง | อับฝิ่นคงอยู่กับที่ดิบดี เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาขึ้นไปบนกุฎี | ดูท่วงทีจริตติดฉำเฉ็ง |
จึงชวนกันผันแปรเที่ยวแลเล็ง | พิศเพ่งเห็นอับตลับยา |
พอเปิดขึ้นเห็นฝิ่นสิ้นทั้งอับ | ตรงเข้าจับอาเพี่ยนได้หนักหนา |
จึงถามเถรส้มพลันไม่ทันช้า | จงเร่งว่าตามจริงอย่านิ่ง เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาแจ้งความไปตามสัตย์ | แต่อยู่วัดเปนสมภารนานหนักหนา |
ยังไม่เคยสูบฝิ่นกินกันชา | เพราะผ้าป่าเจ้ากรรมมาทำความ |
วงวัดหงษ์เอากันชาเข้ามาแฝง | มิได้แจ้งว่ามีของที่ต้องห้าม |
รูปให้การหมดจดล้วนงดงาม | ดังนี้ตามสัตย์จริงทุกสิ่งเอย. ๚ |
พระราชนิพนธ์๏ สักรวาพวกผ้าป่าสารภาพ | เรียนให้ทราบเรื่องตามเดิมความหลัง |
ครั้งเสด็จสิงคโปร์เล่าอยู่เฝ้าวัง | ตั้งกองคลั่งสูบยาคว้าตะบึง |
เมื่อคราวไปเมืองกัลลักกะตา | ได้สูบยาหลายหนมาจนถึง |
ใช่จะสูบครั้งผ้าป่าอย่าคนึง | ไม่เชื่อจึงสืบถามเนื้อความ เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาฟังว่าสารภาพ | ศิโรราบรับยุบลเรื่องหนหลัง |
แต่ก่อนเก่ายังไม่ออกอยู่นอกวัง | ว่าท่านตั้งสูบยามาช้านาน |
ถึงมาบวชอยู่ฉนี้ก็มิอด | อย่าเลี้ยวลดกล่าวแกล้งแถลงสาร |
สูบอยู่กับใครใครจงให้การ | เร่งคิดอ่านตรองตรึกจะสึก เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาสูบบุหรี่ไม่มีผิด | ว่าข้างกิจทางวินัยก็ไม่ห้าม |
แต่เรื่องฝิ่นกินกันชาว่าใส่ความ | ให้การตามสุจริตไม่ปิดบัง |
เมื่อเสด็จไปสิงคโปร์นั้น | ได้ชวนกันสูบกล้องลองเล่นมั่ง |
ท่านใหญ่ขวาเล่าก็รู้อยู่เฝ้าวัง | จะจริงจังฉันใดแจ้งใจ เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาให้การพานเคลือบแฝง | มากล่าวแกล้งกลบเกลื่อนให้เงื่อนหาย |
ด้วยอ้างคุณใหญ่ขวาว่าเยื้องกราย | เปนแยบคายเลี่ยงลัดเห็นขัดความ |
เขาจับฝิ่นไว้ได้เปนของกลาง | ยังแอบอ้างพยานไปจะให้ถาม |
จึงกราบทูลพระกรุณาสง่างาม | เห็นลุกลามอึกกะทึกควรสึก เอย. ๚ |
พระราชนิพนธ์๏ สักรวาฟังตำรวจมากราบทูล | นเรนทร์สูรทรงสดับโปรดรับสั่ง |
ว่าตาเถรบวชนานการรุงรัง | ทำปิดบังสูบฝิ่นกินกันชา |
จะลงโทษตามการก็พานแก่ | ให้ใส่แต่เสื้อเหลืองเครื่องกาสา |
ส่งไปไว้วงอาลักษณ์ซ้อมสักรวา | พระสูบยาเปนตัวอย่างข้างน่า เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวารับพระราชโองการ | ก็รีบคลานออกมาหาช้าไม่ |
เบิกเสื้อคลังวิเศษพลันมาทันใด | แล้วส่งให้เถรทิดสวมติดกาย |
พาตัวส่งพระยาศรีสุนทร | ไว้ร้องกลอนสักรวาว่าถวาย |
ยกให้เปนเจ้าหมู่ผู้ตัวนาย | คุมพวกรายนักสวดศิษย์บันทิด เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาขรัวตานั่งหน้าจ๋อย | ทำตาปรอยรับประนอมยอมจะสึก |
เผื่อนานไปเปนเจ้ากรมพอสมนึก | ได้อยู่ตึกนั่งก๋าสู้ตาฟัก |
มาอุดอู้อยู่ในศีลหากินยาก | แสนลำบากไม่มีศุขติดกุกกัก |
รับเสื้อเหลืองสวมใส่โดยใจรัก | นั่งร้องสักรวาดังรับสั่ง เอย. ๚ |
คุณพุ่ม๏ สักรวาลมชายพระพายพัด | ดึกกำดัดเดือนดับพยับฝน |
ขอถวายบังคมลาฝ่ายุคล | ไปคงทนทุกข์ถึงคนึงนาน |
เคยหมอบใกล้ได้ฟังรับสั่งตรัส | สารพัดพระสุนทรแสนอ่อนหวาน |
ขอเปนข้ากว่าจะถึงซึ่งนิพพาน | ได้โปรดปรานมาแต่เล็กเด็กเด็ก เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวามาร้องท้องพรหมาศ | บังคมบาทธิบดินทร์ปิ่นนาถา |
แสนเสียดายเพื่อนรักสักรวา | จะคลาศคลาร้างกันไปวันนี้ |
ขอนารายน์ฤทธิรงค์พระทรงศักดิ์ | บำรุงรักษาเขตรประเทศที่ |
เฉลิมภพเมืองลพบุรี | เชิญอวยศรีสวัสดิพงษ์ทุกวง เอย. ๚ |
คุณมอญ๏ สักรวาขอเฉลิมเพิ่มพระเดช | พระสุริเยศลอยเถลิงถเกิงแสง |
ต่างภาษาก็ทราบชัดทรงดัดแปลง | นิพนธ์แซงแซกซ้อนเปนกลอนไทย |
เสนาะล้ำคำแก้แปลกระจัด | ช่างเหยาะหยัดยอดปัญญาจะหาไหน |
ขอพระทรงธรณีอย่ามีไภย | บังคมใต้บาทมูลทูลลา เอย. ๚ |
มหาสงคราม๏ สักรวาใกล้สว่างกลางพิภพ | เมฆหมอกกลบเวหาน่าฉงน |
ขอทูลลาภูวนารถบาทยุคล | ต้องจำจนจำไปใจรำคาญ |
แสนเสียดายเพื่อนรักเปนหนักหนา | จะลับตาครรไลไปสถาน |
ใต้บาทบงสุ์จงเปนศุขสำราญ | เมื่อไรจะพานพบเล่นเช่นนี้ เอย. ๚ |
ทูลกระหม่อม๏ สักรวาก้มเกล้าเคารวะ | สมเด็จพระปรมินทร์บดินทร์สูร |
บังคมลาคลาคลาศบาทมูล | จงเพิ่มภูลซึ่งพระบารมี |
ทุกถ้วนหน้าพยายามตามเสด็จ | ไม่ขามเข็ดคิดถวิลถึงถิ่นที่ |
มาพรักพร้อมซ้อมสมทบในลพบุรี | ได้เปนที่ปรากฎพระยศ เอย. ๚ |
ช่างเขียน๏ สักรวาบังคมบรมบาท | จากทเลพรหมาศคลาศคลาบ้าน |
ไปข้างหลังยังเปนห่วงราชการ | ด้วยติดงานเรื่องเห่ว้าเหว่ใจ |
ไม่มีใครจัดแจงแต่งข้างหลัง | ให้สมหวังหมดจดสดสุกใส |
แสนอาไลยเพื่อนรักหนักฤไทย | ต้องจำไกลจากรักนักเลง เอย. ๚ |
พระองค์เจ้า๏ สักรวาจวนแจ้งแสงเดือนคลาศ | น้ำค้างหยาดระยับจับเวหา |
เห็นเดือนตกอกเอ๋ยจะเลยลา | เสียดายรศพจนาแสนอาวรณ์ |
บังคมลาฝ่าพระบาทลีลาศเลย | ไปตามเคยศุโขสโมสร |
ต่างคิดเกริ่นกรายถวายพร | จะจากจรพรหมาศลีลาศ เอย. ๚ |
เจ้าจำเริญ๏ สักรวาน้อมประนมบังคมบาท | ทูลลาราชปรมินทร์ปิ่นสยาม |
เสียดายท้องพรหมาสง่างาม | ด้วยเปนยามดึกด่วนจวนเวลา |
เปนจนใจไกลลอองต้องล่องน้ำ | ถวายลำตามตรงชื่อหงษา |
พอเปนที่ศุขเกษมเปรมปรา | ขอพระบารมีนั้นกันไภย เอย. ๚ |