สักรวาเล่นในการฉลองพระราชลัญจกร ครบหมื่นวันในส่วนศิวาไลย
เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ร.ศ. ๑๑๕
(พ.ศ. ๒๔๓๙)
ตำรวจ๏ สักรวากรมพระตำรวจพร้อม | คำนับน้อมอภิวันท์ด้วยหรรษา |
สมเด็จจอมมกุฎอยุทธยา | ได้ราชาภิเศกเนิ่นเกินหมื่นวัน |
ขอจงมีพระชนม์ยลยืนนาน | พรรษากาลวชิราภิเศกสรรค์ |
ขอสิ่งซึ่งเปนใหญ่ในโลกนั้น | ประสิทธิสรรพ์ทั้งหลายถวาย เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาข้าบาทราชทหาร | เคยชำนาญรบได้ไม่ใช้เสียง |
แต่ฝ่าฝืนขืนร้องสนองเพียง | เฉลิมเลี้ยงลูกขุนภูลมงคล |
ขอถวายบังคมบรมบาท | ไทธิราชจอมนรินทร์ปิ่นพหล |
ขอพระเดชปกหัวทั่วสากล | มีพระชนม์มากยืนหมื่นปี เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวาบังคมบรมบาท | บรมนารถจอมภพจบสถาน |
เสด็จเถลิงถวัลยรัชชัชวาลย์ | รัชกาลที่ห้าสถาวร |
ทรงชุบเกล้าท้าวพระยาข้าขอบขัณฑ์ | โดยราชธรรม์ทศพิธอดิศร |
อันพาลาอาสัตย์ดัษกร | ปลาศถอนหลบลี้หลีกหนี เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาน้อมคำนับอภิวาท | บรมบาทธิบดินทร์ปิ่นสยาม |
บำรุงราษฎร์สาสนาพยายาม | เจริญตามบัญญัติรัชกาล |
ผดุงภพจบสกลมณฑลรัฐ | ดังชั้นฉัตรรัตนามหาศาล |
พระประยูรวงษาข้าบทมาลย์ | ได้สำราญเพราะพระเดชปกเกษ เอย. ๚ |
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน๏ สักรวาบังคมบรมบาท | ไทธิราชบพิตรอดิศร |
พระเดชเด่นดุจดวงทินกร | ทุกนครอ่อนเกล้าอัญชลี |
บำรุงรัฐสวัสดีทวีศุข | นิราศทุกข์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี |
พอครบรอบหมื่นทิวาแลราตรี | หมู่อรีไร้นิราศขาดเข็ญ เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวารับสั่งตั้งเรื่องเล่น | ตำรวจเปนเจ้าเงาะเหมาะนักหนา |
คุณหญิงเปลี่ยนรับบทรจนา | เทเวศร์นารียกหกอนงค์ |
วงชายนั้นเปนสามลราช | ดรุณนาฏอิกมณฑานวลหง |
หกเขยนั้นวงทหารชาญณรงค์ | หกอนงค์เสี่ยงมาไลยร้องไป เอย. ๚ |
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน๏ สักรวามณฑายุพาภักตร์ | สั่งลูกรักนวลอนงค์ยอดสงสาร |
ไปเลือกหน่อกระษัตราอย่าช้านาน | ให้สมการตามจิตรพระบิดา |
แม้นกุศลหนหลังได้สร้างไว้ | ก็จะได้สมมาดปราถนา |
จงรีบรัดจัดแจงแต่งกายา | ทิ้งมาลาเลือกคู่ดูที เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาอย่ากระนั้ันเลยวันนี้ | เล่นกันที่หาเนื้อไม่เบื่อหู |
วงนี้ว่าสามลเปนคนรู้ | เสด็จอยู่น่าพระลานชานชลา |
ให้เจ้าเงาะรีบเข้ามาเฝ้าแหน | อย่าหนักแน่นรอรั้งให้ตั้งท่า |
จึงตรัสเรียกทั้งหกพระธิดา | เจ้ามณฑาเขยไปถึงไหน เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาเจ้าเงาะหัวเราะร่วน | ฟังสำนวนพ่อตาให้มาเฝ้า |
ได้สมจิตรเจตนาเทียวหนาเรา | ชวนเมียเหย่าย่างเหยาะลัดเลาะมา |
ถึงท้องพระโรงไชยไม่ครั่นคร้าม | เห็นพ่อตางุ่มง่ามไม่งามหน้า |
ทำบุ้ยใบ้ให้นางรจนา | เดินกลอกหน้าขวักไขว่ไปมา เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวามองเขม้นเห็นเจ้าเงาะ | มาเดินเยาะขวักไขว่ให้ขายหน้า |
ดูนี่แน่ชอบกลเจ้ามณฑา | หาเนื้อมาได้มากเทียวหลากครัน |
แล้วหวนคิดวิตกถึงหกเขย | กะไรเลยพากันไปที่ไหนนั่น |
นางมณฑาช่างกะไรไม่ว่ากัน | อ้ายเงาะมันทำบอมาล้อ เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวานางมณฑาทำหน้านิ่ว | กลัวจะกริ้วแอบเอียงค่อยเบี่ยงบ่าย |
อ้ายหกเขยมันคงร้อนไม่นอนตาย | ไม่ทันสายก็จะมาอย่าปรารมภ์ |
ที่ช้าหน่อยคงจะคอยเจ้าแขนคอก | เงาะอย่าหลอกล้อเล่นไม่เห็นสม |
อีท่าย้ายพุงร่าไม่น่าชม | รจนาไยไม่ข่มให้อยู่ เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาทราบข่าวว่าท้าวกริ้ว | ออกวิ่งฉิวทั้งหกตกประหม่า |
ถึงในวังแอบหลังภรรยา | คลานเข้ามาเฝ้าองค์พระทรงไชย |
ครั้นถึงที่เฝ้าเห็นเจ้าเงาะ | อ้วนเหมาะเตาะหลับตาน่ามันไส้ |
ไม่สมกับรจนาที่ยาใจ | ช่างกะไรไม่อายขายหน้า เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวากริ้วกราดตวาดว่า | ชวนกันไปไหนมานึกน่าถอง |
ทำให้เงาะโกโรเดินโย้ท้อง | เข้ามามองหน้าตาทำท่าทาง |
เขม้นมองป้องภักตร์แล้วซักถาม | จงแจ้งความให้กระจัดอย่าขัดขวาง |
เจ้าแขนคอกด้วยอะไรอย่าได้พราง | อมบุหรี่แหงนค้างนั่นใคร เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาฟังพระกระทู้ถาม | กราบทูลความตามคดีที่มีเรื่อง |
ด้วยที่บ้านพานจะวุ่นเกิดขุ่นเคือง | เหตุนับเนื่องหาปลามาครั้งนั้น |
พระธิดาว้าวุ่นเฝ้าฉุนโกรธ | พาลหาโทษอ้อมค้อมกระหม่อมฉัน |
จะกินนอนไม่เปนศุขทุกคืนวัน | จึงไม่ทันราชกิจผิดจริง เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาแก้ตัวชั่วจริงละ | ขยับองค์เอะอะท่าจะถอง |
พูดไม่จริงฟันกระเด็นออกเปนกอง | ต้องใส่ลองอย่างฝรั่งชังหน้าตา |
เขาถามถึงแขนคอกพูดออกเปื้อน | ไถลเลื่อนพูดเล่นไม่เปนท่า |
ยกเรื่องราวคราวครั้งไปหาปลา | เจ้ามณฑาฟังได้ฤาไร เอย. ๚ |
พระราชนิพนธ์๏ สักรวาเบื่อฟังรับสั่งดุ | มุทลุเอ่ยขึ้นว่าก็ท้าถอง |
อ้ายข้างบ้านนั้นทำไมจึงไม่ลอง | ทำให้ต้องหาแทนแสนกันดาร |
เขยของเราเข้ามาใหม่ยังไม่คุ้น | อย่าเพ่อวุ่นหงุดหงิดผิดโก้หร่าน |
มันไวดีฤๅมิใช่ได้ทันงาน | ได้ชมหลานชายเล่นเย็นใจ เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาฟังกริ้วให้หวิวจิตร | สุดจะคิดเพทุบายให้หายได้ |
ทรงพิโรธก็เพราะว่าอาชาไนย | ถูกคราวไข้ขาดหญ้าน่ารำคาญ |
เห็นแต่พระชนนีเปนที่พึ่ง | ท่านไม่อึ้งพื้นดีทีสงสาร |
ประชวรหืดหายมาไม่ช้านาน | ถึงเลี้ยงหลานก็ลูกอ่อนพอวอน เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาเจ้าเงาะหัวเราะอี๋ | ทำท่วงทีแกว่งตระบองมือป้องหน้า |
เห็นหกเขยง่วงเหงาเขลาปัญญา | ลุกขึ้นเงื้อง่าท่าจะตี |
สงสารแต่หกนางจะว่างเปล่า | สมเพชเจ้ารจนามารศรี |
เห็นหกเขยแขนลู่ดูสิ้นที | หน้ายู่ยี่เย้ยเยาะหัวเราะ เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาหกเขยฟังเย้ยเงาะ | น่าหัวเราะหยาบหยามไม่งามหน้า |
เสียราษีลูกสาวท้าวพระยา | ได้คนป่างะเงอะเซอะเต็มที |
ถึงจะว่าอะไรก็ไม่ถือ | เหมือนเอามือซนซอนถอนเกษี |
เหม็นเขียวเหลือใจไม่ไยดี | ชอบแต่ตีส่งไปไว้ป่า เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาเงาะป่าทำหน้าเฉย | ทีจะเคยถอนเล่นจึงเห็นขัน |
เพราะหลายองค์หลายคนปะปนกัน | กลิ่นอายนั้นจึงกล้ากว่าทุกวง |
ขอสามลวินิจฉัยให้ได้ชัด | จงทรงตัดสินความตามประสงค์ |
ใครมากคนกว่ากันให้มั่นคง | โปรดให้ตรงอย่าลำเอียงจงเที่ยง เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาเจ้าเงาะนี่เยาะเลอะ | มาเปรียบเปรอะไม่ดูให้รู้แน่ |
เขาว่าเงาะคนเดียวจงเหลียวแล | จะมีแต่วงนี้ฤๅที่ใด |
ไม่เกรงจิตรบิตุเรศพระมารดา | ล่วงละเมิดอาญาน่ามันไส้ |
จงไปหาธูปเทียนแลดอกไม้ | ถวายไททูลขมาอย่าช้า เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาฟังเรื่องเห็นเยื้องยัก | ไม่รู้จักแปลว่าไปท่าไหน |
ทั้งสองข้างต่างรุนหมุนกันไป | เล่นอะไรหัวหูดูไม่ดี |
วานอย่าว่าบอกให้เราใจน้อย | ได้ฟังถ้อยเคืองหูพูดสูสี |
เจ้าเขยใหญ่หน้าแดงแรงเต็มที | ยายช่างดีแก่ใจนิ่งได้ เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวานี่อะไรพระไทยน้อย | ไปตอบถ้อยคำเขาไม่เข้าเรื่อง |
เพราะทั้งหกเขี่ยเข้าเขาจึงเคือง | เงาะก็เปรื่องปากกล้ากว่าทุกวง |
เลยมาถึงพ่อแม่ออกแซ่ซ้อง | ที่มันต้องตัดบทให้ปลดปร่ง |
เอ้ามาลาท่านตาจงสวมองค์ | จับเข้าวงชนกันพวกมัน เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวาหกนางต่างแค้นคั่ง | เปนเหลือฟังเถียงกันสนั่นหู |
รจนาท่านผู้หญิงช่างนิ่งดู | นี่ดีอยู่ฤาว่าชักจักใคร่ฟัง |
มัวแต่หึงเมียน้อยคอยตีตบ | จึงหลีกหลบเอาแต่ผัวต่างตัวหนัง |
ถูกเรื่องราวฉาวฉ่าออกซ่าดัง | ที่มันนั่งอยู่ทั้งกองหมั่นมอง เอย. ๚ |
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน๏ สักรวาฟังคดีพระพี่นาง | ช่างถากถางล้นเหลือจนเบื่อหู |
พวกหกเขยเคยเห็นเคยเปนครู | เปนคนรู้แต่งฎีกามาช้านาน |
เมื่อครั้งก่อนก็เปนเช่นหมอเถ้า | มายั่วเย้าหลายหนจนร้าวฉาน |
สมคเนเพทุบายหลายประการ | ล้วนชำนาญชั้นเชิงละเลิง เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาน่าหัวเราะเมียเงาะว่า | เออตัวข้าแหละเปนหมอก่อความใหญ่ |
เคยรักชอบมาแต่ก่อนร่อนชะไร | เรามิได้หมายสลัดตัดไมตรี |
รู้เหตุร้ายจึงได้เตือนฉันเพื่อนรัก | มากลับปรักปรำว่าน่าบัดสี |
เพราะมีเหตุจึงเปนผลต้นคดี | สุดแต่พระชนนีจะโปรด เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวาฟังบุตรีทีจะพื้น | นี่คนอื่นฤๅไฉนอย่างไรหนอ |
ไม่รักกันเลยอย่างไรน้ำใจฅอ | เรื่องนี้ขอเสียสักทีไม่ดีเลย |
นั่นก็เขยนี่สใภ้มิใช่อื่น | จะมาฟื้นความลับกลับเฉลย |
ให้คนอื่นเห็นไส้ข้าไม่เคย | ถ้าใครเฉยได้เปนพระชนะ เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาเงาะป่าทำท่าล้อ | ชี้ที่ฅอบอกให้ฆ่าตามว่าขาน |
ที่หกเขยรับสัตย์ปัฏิญาณ | ทำก้มคลานหลอกล้อท่านพ่อตา |
เอามือชี้แขนขวาน่าหกเขย | แล้วเยาะเย้ยหลอนหลอกทำกลอกหน้า |
เห็นท้าวไทไม่เปนธรรม์เสียสัญญา | เอาคทาวางที่ฅอหัวร่อ เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวากริ้วกราดตวาดเงาะ | มาออเซาะมุทลุยุให้ฆ่า |
ชิชะเจ้าคมสันเจ้าปัญญา | เพราะว่าหาเนื้อได้มากไม่ยากเย็น |
เจ้าหกเขยดีจริงช่างนิ่งได้ | นี่คือใครมัดมือฤๅไม่เห็น |
ช่างเอามือเข้าพกชกไม่เปน | มัวตื่นเต้นยศใหม่พึ่งได้ เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาหกเขยไม่เฉยได้ | เข้าขวักไขว่ช่วยพ่อตาตั้งท่าสู้ |
บ้างทุบท้องถองหลังอยู่พรั่งพรู | บ้างขุดขู่ดุด่าเต้นท้าทาย |
บ้างฉวยหนวดเงาะดึงทึ้งกระชาก | บ้างชกปากเงาะป่าจนหน้าหงาย |
เสียงเอ็ดอื้อชุลมุนกันวุ่นวาย | เหงื่อโทรมกายไม่คิดชีวิตร เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาเห็นพ่อตาท่ากริ้วกราด | ไม่หวั่นหวาดคอยระวังเตรียมตั้งท่า |
จึงเข้าไปใกล้ชิดพระบิดา | เอาหัตถ์ขวาผลักตกหกคะเมน |
หกเขยเข้ามาต่อยไม่ถอยหลัง | จึงหยักรั้งให้ถนัดขัดเขมน |
ชกถูกจมูกจมล้มระเนน | หกเขยเอนล้มตะแคงสิ้นแรง เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาเขยทั้งหกออกปลกเปลี้ย | เห็นจะเสียทีสู้อยู่ไม่ได้ |
บ้างเซซานเข้าไปควานออฟฟิศใน | บ้างไถลหลีกลัดไปวัดวา |
บ้างปลอมตนขึ้นธรรมาศน์อาศน์ปาฐก | บ้างเวียนวกเข้าดูการร้านนายหน้า |
ไม่กลับไปบ้านตัวกลัวภรรยา | จะดุด่าว่าโง่เง่าเขลาขลาด เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวาหกนางต่างพิโรธ | ทลึ่งโลดไปทั้งกองพี่น้องสาว |
น้อยฤานางรจนาหน้าดังดาว | ไม่ว่ากล่าวลูกผัวให้กลัวมือ |
ไหนจำโนทโจตนาว่ายืนโงก | ที่โต๊ะโตกเต็มทีเช่นนี้ฤา |
ฤๅโงกแต่ในห้องจึงต้องยื้อ | นี่เนื้อคือสอนกันมาจึงกล้า เอย. ๚ |
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน๏ สักรวาฟังคำให้ช้ำอก | พระพี่ยกหยิบข้อมาภ้อว่า |
ไม่ควรกล่าวนอกเรื่องเปลืองปัญญา | ฤๅเห็นสามีแพ้วิ่งแต้ไป |
เอาความอื่นเข้ามากลบกระทบกระเทียบ | ภิปรายเปรียบหนักหนาน่ามันไส้ |
ขืนโต้ตอบเซ้าซี้พิรี้พิไร | เปนผู้ใหญ่ออกซ่าขายหน้า เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวาฟังสนองนางน้องสาว | เสียงออกกราวเมียน้อยสักร้อยกว่า |
นึกว่าสำรวจไม่ใช่สักรวา | ล้วนแต่อารามเก่าเจ้าทำนอง |
ธรรมการล้วนชำนาญผ้าขาวพับ | เข้ากันกับฝ่ายเหนือเหลือสยอง |
เจ้าคุณแม่ทัพฮ่อหมอตริตรอง | แม้ยอมต้องขอขมาผัวข้า เอย. ๚ |
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน๏ สักรวาฟังคดีพระพี่สาว | เอาผ้าขาวออกมาว่าไม่น่าขัน |
ส่วนม้าร้องกินหญ้าธัญญานั้น | ไม่พูดกันปิดเสียยกเมียน้อย |
เอาทัพฮ่อทัพหาญออกขานว่า | พจนาต่อเติมส่งเสริมสร้อย |
ที่มีเมียเปนลครฟ้อนกว่าร้อย | ทั้งเจ้าถ้อยหมอความลามปาม เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวานางมณฑามารศรี | ฟังบุตรีเทลาะกันสนั่นฉาว |
อย่าเฝ้าหึงเข่นเขี้ยวกันเกรียวกราว | ท้องฟ้าขาวจวนจะแจ้งแสงรวี |
รจนาพาผัวออกไปเสีย | ระวังเมียน้อยหนาอย่าให้หนี |
ทั้งหกไปหาผัวเถอะตัวดี | หน่อยจะหนีไปเสียแพตามแย่ เอย. ๚ |
ตำรวจ๏ สักรวาคำนับอภิวาท | บรมบาทบพิตรอดิศร |
จวนพระสุริยนต์พ้นอัมพร | ควรจะจรบังคมลาฝ่าธุลี |
สรรพทุกข์ให้ไกลบรมบาท | สรรพโศกให้บำราศหลีกละหนี |
สรรพโรคสรรพไภยอย่าได้มี | สรรพศุขเกษมศรีทุกเมื่อ เอย. ๚ |
ท่านผู้หญิงเปลี่ยน๏ สักรวาบังคมลาฝ่าพระบาท | พระจอมราษฎร์อยุทธยามหาสถาน |
จวนจะแจ้งแสงศรีรวีวาร | เสียดายการศุขเกษมเปรมปรีดิ์ |
ด้วยได้มารับร้องฉลองพระเดช | การวิเศษแสนชื่นหมื่นดิถี |
พร้อมบรมวงษาข้าธุลี | ต่างยินดีทั่วหน้าถาวร เอย. ๚ |
มหาดเล็ก๏ สักรวาดวงเดือนในเรือนรถ | ก็เลี้ยวลดจวนจะดับลับเวหา |
แสนเสียดายเพื่อนรักสักรวา | จำนิราแรมร้างไปห่างกัน |
ทูลลาเบื้องบงกชบทเรศ | พระปิ่นเกษจอมภพจบสวรรค์ |
พระชนม์จงยาวยืนหลายหมื่นวัน | สารพันราคีอย่ามี เอย. ๚ |
พระยาเทเวศร์๏ สักรวาอาไลยจะไปลับ | เดือนจะดับเหลือจะอยู่จนตรู่ได้ |
อย่าถือโกรธกันเลยนะขออภัย | ท่านผู้ใหญ่ผู้เถ้าหนวดเคราโง้ง |
ขอบังคมบรมบาทบทเรศ | เอาพระเดชปกเกล้าเราทั้งโขลง |
ขอพระชนม์ชนสิบสี่ปีมโรง | ทุกชั่วโมงเสวยศุขอย่าทุกข์ เอย. ๚ |
ทหารมหาดเล็ก๏ สักรวาหวานรศบทสนอง | ช่างเพราะพร้องพจนาจะหาไหน |
งามอักษรกลอนความงามวิไลย | เหมือนจะไม่จากรักสักรวา |
นี่จนใจจนจิตรคิดจรจาก | ขอฝังฝากความรักนี้หนักหนา |
ที่คำไรแก้ไขกันไปมา | ขอทูลลาครรไลไปแล้ว เอย. ๚ |
กรมหลวงพิชิต๏ สักรวาข้าผู้สวามิภักดิ์ | มีสมัคสโมสรอวยพรถวาย |
พระเปนเจ้าเปนใหญ่ทั้งใจกาย | แลบรรยายลำนำคำมงคล |
วาระพระคุณพระครอบเกล้า | บรรจบเข้าครบหมื่นพื้นเปนผล |
เปนคุณเปนศุขทั่วทุกตัวคน | ขอพระชนม์ยั่งยืนหลายหมื่น เอย. ๚ |