เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๔๘

วันพุธ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาวันนี้ไม่ได้เสด็จออก ไม่มีราชการอันใด เวลาพรุ่งนี้จะเสด็จพระราชดำเนินพระราชวังบางปะอิน

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าเรือพระประเทียบทั้งปวง ได้ล่วงหน้าขึ้นไปพระราชวังบางปะอิน เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกทางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชยานไปประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ประทับตรัสกับเจ้าพระยาสุรวงศ์และข้าราชการที่มาส่งเสด็จหน่อยหนึ่ง พระนรินทรราชเสนีนำพระพิชัยชนะสงคราม ผู้ว่าราชการ ๑ หลวงศรีรณชิตยกกระบัตร ๑ หลวงฤทธิราญณรงค์ ผู้ช่วยราชการเมืองศรีสวัสดิ กราบถวายบังคมลาไปบ้านเมือง เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งเวสาตรีพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เสด็จจากท่าราชวรดิตถ์มาโดยเหนือน้ำ เวลาเที่ยงเศษถึงวัดปรมัยยิกาวาส พระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร เรือพระที่นั่งบุษบกพิศาลเป็นที่นั่งรอง มีเรือกลอง เสด็จไปประทับท่าฉนวนวัดปรมัยยิกาวาสเสด็จทรงพระราชยานไปประทับหน้าพระอุโบสถ ทรงพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงนมัสการ นายพลพ่ายทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๒๙ รูป ทรงถวายจีวรกฐิน พระสงฆ์อัปโลกนสมมุติให้พระคุณวงศ์ ผู้เป็นอธิบดีสงฆ์สวดยัติทุติยกรรมจบแล้ว เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรม ๖ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่ทรงประเคนบริขาร และพระราชทานจตุปัจจัยค่าราคา ๑ ชั่ง ๑๐ ตำลึง แก่พระสงฆ์ทั้งปวง พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา พระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับทรงเรือที่นั่งศรีเวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกจากวัดปรมัยยิกาวาส เวลาทุ่มเศษถึงพระราชวังบางปะอิน เสด็จขึ้นทางท้องพระโรงเข้าพระราชวังภายในทางพระทวารเทวราชครรไล

วันศุกร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาวันนี้ไม่ได้เสด็จออกและเสด็จไปไหน ทรงแต่หนังสือราชการ

วันเสาร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จทางทวารเทวราชครรไล เสด็จลงท่าพระราชวังทรงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกรพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีและ พระนางเจ้าพระราชเทวีกับทั้งเจ้าจอมฝ่ายใน เรือพระที่นั่งบุษบกพิศาลเป็นที่นังรองข้างในลงเรือชลพิมานไชยทรงผ้าไตร พร้อมด้วยกระบวนหน้าหลัง เสด็จพระราชดำเนินพระกฐินวัดชุมพลนิกายารามที่ ๑ เป็นกระบวนข้างในทั้งนั้น พระสงฆ์ ๑๘ รูปผู้ครองกฐิน พระครูธรรมทิวากร ฐานาไตรปี ๒ แล้วพระราชทานวัตถุจตุปัจจัยมูลค่า ๑ ชั่ง ๒๐ บาท แล้วเสด็จไปทางเกาะนอก ประทับวัดนิเวศน์ธรรมประวัติเป็นที่ ๒ เสด็จพระราชทานพระกฐินเป็นกระบวนข้างในเหมือนกัน พระสงฆ์ ๓๒ รูปผู้ครองกฐิน พระอมราภิรักขิต พระฐานานุกรมเปรียญไตรปี...รูป พระราชทานไตรพระสงฆ์อีกองค์ละไตรทั้งพระอารามเป็นของข้างใน พระราชวัตถุจตุปัจจัยมูลค่า ๕ ชั่ง แล้วเสด็จกลับพระราชวัง เวลาค่ำมีผ้าป่าหลวงทอดวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ วัดชุมพลนิกายารามตามเคย

วันอาทิตย์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าเตรียมการที่จะเสด็จพระราชทานพระกฐินกรุงเก่า เวลาบ่ายโมงเศษเสด็จออกทางทวารเทวราชครรไล เสด็จทรงเรือพระที่นั่งสกรู เสด็จจากท่าราชวังบางปะอินไปประทับท่าพระราชวังจันทรเกษม ทรงพระราชยานไปประทับวัดเสนาสนาราม เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถทรงนมัสการ นายพินัยทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๔๖ ทรงถวายผ้าพระกฐิน พระสงฆ์อัปโลกนกรรม สมมุติให้พระธรรมราชานุวัตร ผู้เป็นประธานอธิบดีแห่งสงฆ์ แล้วสวตยัติทุติยกรรมวาจาจบลง เสด็จทรงประเคนไตรปีฐานานุกรมเปรียญ ๙ รูป พระสงฆ์ครองผ้าแล้วโปรดให้กรมหมื่นภูธเรศถวายบริขาร และพระราชทานกัปปิยจตุปัจจัยเป็นมูลค่า ๑ ชั่ง ๔๐ บาท พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา พระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับทรงพระราชยานมาประทับท่าหน้าพระราชวังจันทรเกษม ทรงเรือสกรูเสด็จไปวัดบรมวงศ์อิศรวรารามที่ ๒ ประทับเรือพระที่นั่งกลางคลองหน้าวัด เสด็จทรงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกร เรือพระที่นั่งบุษบกพิศาลเป็นที่นั่งรอง เสด็จโดยกระบวนไปประทับท่าฉนวนวัดบรมวงศ์ เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงนมัสการ นายชิตทูลรายงานพระสงฆ์จำพรรษา ๒๗ รูป ทรงถวายจีวรกฐิน พระสงฆ์อัปโลกนสมมุติให้พระปริยัติวงษาจารย์ผู้เป็นประธานสงฆ์สวดยัติทุติยกรรมวาจาจบลง ทรงประเคนไตรปี ฐานานุกรมเปรียญ ๖ รูป สามเณร เปรียญ ๒ พระสงฆ์ครองผ้าแล้วกรานกฐิน โปรดให้พระองค์ขจรถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา แล้วเสด็จไปพระวิหารหลวงทรงนมัสการ แล้วเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งมาขึ้นเรือสกรู เสด็จกลับล่องลงมาพระราชวังบางปะอินเวลาทุ่มเศษ

วันจันทร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยข้างในเสด็จไปประพาสทุ่งหลังเกาะ เวลาเกือบเที่ยงเสด็จกลับพระราชวัง

เวลาเย็น เจ้าพนักงานเข้าไปจัดการในพระที่นั่งอุทธยานภูมิเสถียร ในการที่จะเกศากันต์หม่อมราชวงศ์เฉียด บุตรหม่อมเจ้าฉายในกรมหมื่นภูมินทรภักดี เวลาค่ำโปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ ๑๐ องค์ มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นประธานสงฆ์ แล้วสวดพระพุทธมนต์สัตตปริตร เวลา ๒ ทุ่มเศษสวดมนต์จบ พระสงฆ์กลับออกมา เจ้านายข้าราชการก็กลับออกมา

วันอังคาร ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าเสด็จพระราชดำเนินประพาสทุ่งอย่างวันวาน ครั้นเวลาเย็นมีการสวดพระพุทธมนต์ในการโกนจุกอย่างวันก่อน วันนี้สวดธรรมจักก์

วันพุธ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสทุ่งจนเวลาเที่ยงเศษ เสด็จกลับพระราชวังบางปะอิน

เวลาเย็นมีการสวดมนต์โกนจุกอีกวันหนึ่ง เวลาเย็นก่อนสวดมนต์พระเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสไร่กระจับหลังบ้านพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียรจนค่ำ

วันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๔ โมง เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่สวตมนต์ ๑๐ รูป เข้าไปนั่งที่ พอเวลาเช้า ๔ โมงครึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จออกมาทรงประเคนพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นถึงเวลาฤกษ์ ๕ โมง ๒๐ นาที พระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนนมัสการ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายศีล แล้วเสด็จทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์พระราชทานเหนือปอยเกศาหม่อมราชวงศ์เฉียด แล้วทรงจรดกรรไตรจำเริญเกศาหม่อมราชวงศ์เฉียด ขณะนั้นพระสงฆ์ ๑๐ องค์สวดชัยมงคลพร้อมกัน เจ้าพนักงานประโคมดุริยางค์ดนตรีตามธรรมเนียม เจ้าพนักงานกรมภูษามาลาโกนเกศาหมดแล้ว กลับเข้าไปข้างในไปนั่งเตียงอาบน้ำด้านตะวันออกพระที่นั่งอุทธยาน พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์แล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้านายที่มาตามเสด็จพระราชดำเนินไปรดน้ำด้วย ทั้งท่านเจ้าพระยารัตนบดินทรด้วย แล้วหม่อมราชวงศ์แต่งตัวออกมารับน้ำพระมหาสังข์และไปถวายของพระ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา อติเรก ถวายพระพรลากลับไป พระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น

เวลาเย็น พระเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสทุ่งจนค่ำเสด็จกลับ มีการทำขวัญหม่อมราชวงศ์เฉียดเป็นการข้างใน พระราชทานเงินพระคลังมหาสมบัติ ๑๐ ตำลึง พระคลังข้างที่ ๒ ชั่ง

วันนี้ที่กรุงเทพ ฯ มีฤกษ์ยกเสาพระมณฑปแพ ที่จะทำการพระราชพิธีลงสรงเฉลิมพระปรมาภิไธยในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระองค์ใหญ่เวลาฤกษ์ยกเสาเช้า ๕ โมง ๓๗ นาที

วันศุกร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าก่อนโมง พระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปประพาสทุ่งริมเกาะพระ จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จกลับ

เวลาบ่ายโมง สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีเสด็จทรงเรือพระที่นั่งกลไฟไปประทัปปากคลองวัดสุวรรณดาราราม เสด็จลงทรงเรือพระที่นั่งทวยเทพถวายกรโดยกระบวนเรือนำและตาม มีเรือนำเรือดั้ง ๓ คู่ มีเรือไชยทรงผ้าไตร ไปพระราชทานกฐินวัดสุวรรณดารารามที่ ๑ แล้วเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งกลไฟไปพระราชทานกฐินวัดศาลาปูนที่ ๒ เสด็จกลับถึงพระราชวังบางปะอินเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ

วันเสาร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าก่อนโมงเสด็จพระราชดำเนินทรงเรือพระที่นั่งโบดเหลือง พร้อมด้วยข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายใน เสด็จไปประพาสทุ่งเกาะพระจนเวลาบ่าย ๓ โมงเสด็จกลับ เสด็จประพาสทุ่งนั้น เสด็จออกทางประตูน้ำ ทั้งเสด็จไปเสด็จกลับ

วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าย่ำรุ่งแล้ว พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงเรือพระที่นั่งออกประตูสังฆสิทธิ์ภัตรการพร้อมด้วยข้างใน เสด็จไปประพาสทุ่งคลองบ้านสร้าง เสด็จเข้าไปในทุ่งไกลมากจนถึงริมชายป่า มีช้างพลายใหญ่ลงมาชายป่า ๓ ช้าง แล้วทรงยิงล้ม ๒ ช้าง เวลาค่ำจนถึง ๒ ทุ่มเศษเสด็จกลับพระราชวังบางปะอิน

วันจันทร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๒ โมงเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าและเจ้าจอมฝ่ายใน เสด็จประพาส และทรงยิงนกที่วัดชุมพลนิกายาราม แล้วเสด็จไปประพาสทุ่งริมเกาะเกิด เสด็จโดยเรือเล็ก แต่เรือพระที่นั่งเวสาตรีนั้นแล่นตามลงมาทอดคอยอยู่ที่นั้น เวลาเช้า ๕ โมงเสด็จกลับทรงเรือพระที่นั่งเวสาตรีเสด็จล่องลงมา เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จถึงเมืองปทุมธานี พระยาพิทักษ์ทวยหารจัดหนองกระจับไว้ถวาย เสด็จลงทรงเก็บพร้อมด้วยข้างใน ลงทรงเก็บอยู่จนเวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จกลับล่องลงมาเวลาทุ่มเศษเสด็จถึงท่าราชวรดิตถ์ประทับเรือพระที่นั่ง แล้วเสด็จขึ้นประทับตรัสกับเจ้านายข้าราชการครู่หนึ่งขึ้น โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอทรงจุดเทียนในการสวดมนต์ยกเสาโคมชัยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ แล้วเสด็จมาประทับมุขพระที่นั่งจักรี เจ้านายถวายพระราชกุศลที่พระราชทานพระกฐิน เสด็จขึ้นข้างในเวลา ๒ ทุ่ม

วันนี้เป็นกำหนดที่จะใกล้สวดมนต์ฉลองไตรปี ที่ได้พระราชทานในการพระกฐินตามเช่นเคยมาทุกปี จัดการในพระที่นั่งอนันตสมาคมตามเคย

จำนวนพระสงฆ์ที่ได้รับผ้าไตรพระกฐินไตรปีในจำนวนปีจอ อัฐศกนี้ พระราชาฐานานุกรมเปรียญที่มาสวดมนต์ได้ ๕๙๑ สามเณรหม่อมเจ้า สามเณรเปรียญ ๒๔ ชราอาพาธมาไม่ได้ ๕๕ หัวเมืองไกล ๙ รวมพระสงฆ์สามเณรที่ได้รับไตรหลวง ๖๗๙ รูป เวลาค่ำพระสงฆ์ที่จะได้สวดมนต์มาพร้อมกัน ๕๘๑ รูป แบ่งสวดสองแห่ง คณะธรรมยุติกนิกาย ๑๕๙ คณะเหนือ คณะกลาง คณะใต้ ฝ่ายมหานิกาย ๓๖๔ รูป รวม ๕๔๓ รูปสวดในพระที่นั่งอนันตสมาคม คณะรามัญนิกาย ๔๘ รูป สวดที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท

เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จออกประทับพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดเทียนมนัสการ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ถวายศีล ทรงศีลแล้ว กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระ สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยพระครูเปรียญฐานานุกรม พระ ๓ ประโยค พระพิธีธรรมอาจารย์ วิปัสสนาในกรุงหัวเมืองรวม ๓ คณะรวม ๕๔๓ องค์ เจริญทวาทสปริตร เสด็จประทับตรัสกับกรมพระปวเรศครู่หนึ่ง เสด็จมาประทับตรัสกับเจ้านายอีกครู่หนึ่ง เสด็จขึ้นข้างใน

วันอังคาร ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าวันนี้มีการเลี้ยงพระที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ แล้วยกเสาโคมชัย โคมประเทียบ โคมบริวาร ตามพระราชพิธีจองเปรียงแต่วันนี้ไป

เวลาเช้า ๔ โมงพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงทรงบาตรที่ท้องฉนวนหน้าพระที่นั่งนงคราญสโมสร เจ้าพนักงานนำสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ฐานานุกรมเปรียญ พระสามประโยค สามเณรหม่อมเจ้า สามเณรเปรียญ หัวเมืองในกรุง คณะเหนือ คณะกลาง คณะใต้ คณะรามัญ เข้าไปรับบิณฑบาตในพระบรมมหาราชวัง พระสงฆ์ ๓๙๔ รูป สามเณร ๒๔ รวม ๔๑๘ องค์

จะได้ฉันวันนี้ กรมพระปวเรศ กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ฐานานุกรมเปรียญ ฉันที่ในพระที่นั่งอนันตสมาคม ๑๖๗ รูป พระราชาคณะฐานานุกรมฉันที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ ๓๐ รูป รวมฉันวันนี้ ๑๙๗ รูปครั้นเวลาเช้า ๕ โมงเศษยังไม่ได้เสด็จออก พระบรมวงศานุวงศ์พร้อมกันประเคนอาหารบิณฑบาตพระสงฆ์รับพระราชทานฉัน พอพระสงฆ์ฉันได้ครู่หนึ่งเสด็จออกทรงจุดเทียนนมัสการ แล้วทรงปิดทองพระพุทธรูปและพระคัมภีร์ แล้วพระมหาราชครูพิธีถวายน้ำพระมหาสังข์ พระสงฆ์ฉันแล้วเสด็จไปประทับตรัสกับกรมพระปวเรศครู่หนึ่ง เสด็จประทับพระเก้าอี้หน้าพระที่นั่งโธรน พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา อติเรก ถวายพระพรลากลับ เสด็จออกขุนนาง

พระมนตรีพจนกิจอ่านบอกพระโบราณบุรานุรักษ์ พระพิทักษ์เทพธานี ปลัดกรุงเก่า ๒ ฉบับ ๆ หนึ่งขอที่เขตพระอุโบสถวัดปมุงบ้านลี โดยยาว ๑๐ วา กว้าง ๖ วา เป็นที่วิสุงคามสีมา อีกฉบับหนึ่งถวายพระราชกุศลทอดกฐินหลวงวัดตูม วัดศาสดากับใบบอกพระปราจีนบุรี ปลัดเมืองปราจีนบุรีฉบับ ๑ ใบบอกหลวงวิเศษภักดี ยกกระบัตรเมืองพนมศกฉบับ ๑ ความต้องกัน ถวายพระราชกุศลทำบุญให้ทานและว่าด้วยมีการเล่นในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา แล้วเสด็จขึ้น

เวลาค่ำโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปทรงสดับพระธรรมเทศนาที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระอริยมุนีถวายเทศนากฐินทานกัณฑ์หนึ่ง เครื่องกัณฑ์ไตรแพรสมณบริขารและกัปปิยมูลค่าจตุปัจจัยราคา ๑๐ ตำลึงตามเคย เวลา ๒ ยามพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงทรงลอยพระประทีปตามขัตติยประเพณี แล้วเสด็จขึ้น

วันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๕ โมง เสด็จลงทรงบาตรที่ท้องฉนวนเช่นวันก่อน กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย เปรียญฐานานุกรม สามเณรรวม ๔๑๘ องค์ เข้าไปรับบิณฑบาต

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดเทียนนมัสการสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายศีล แล้วเสด็จทรงประเคนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ฐานานุกรมเปรียญรับพระราชทานฉันในพระที่นั่งอนันตสมาคม ๑๖๗ รูป ฐานานุกรมฉันที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ๓๐ รูปรวมฉันวันนี้ ๑๙๗ รูป ทรงประเคน แล้วเสด็จทรงปิดทองพระพุทธรูปและพระคัมภีร์ แล้วพระครูพิธีถวายน้ำพระมหาสังข์ตามเคย พระสงฆ์ฉันแล้วเสด็จประทับตรัสกับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ครู่หนึ่ง ทรงหลั่งพระเต้าษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา อติเรก ถวายพระพรลากลับไป เสด็จออกขุนนางครู่หนึ่งเสด็จขึ้นข้างใน

เวลาค่ำ โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปทรงสดับพระธรรมเทศนาที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระญาณสมโพธิถวายเทศนาจีวรทานกัณฑ์หนึ่ง เครื่องกัณฑ์อย่างวันก่อน

เวลา ๒ ยามเศษ เสด็จลงทรงลอยพระประทีปตามเคย มีผ้าป่าหลวง ๘ ถวายพระสงฆ์หัวเมือง

วันพฤหัสบดี แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๔ โมงเศษเสด็จลงทรงบาตรในพระบรมมหาราชวังตามเคยอย่างวันก่อน กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ฐานานุกรมเปรียญ สามเณรหม่อมเจ้า สามเณรเปรียญ รวม ๔๑๘ องค์เข้าไปบิณฑบาต

เวลาเช้า ๕ โมงเศษเสด็จออกประทับพระที่นั่งอนันตสมาคมทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว เสด็จทรงประเคนพระสงฆ์ สมเด็จพระวันรัตน พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ฐานานุกรมเปรียญรวม ๑๖๗ รูปรับพระราชทานฉัน ทรงปิดทองและอะไร ๆ ตามเคย พระสงฆ์ฉันแล้วถวายอนุโมทนาอติเรก ถวายพระพรลากลับไป เสด็จออกขุนนาง พระมนตรีพจนกิจอ่านบอกพระยาพิชัยณรงค์สงคราม ๒ ฉบับ ๆ หนึ่งขอที่เขตพระอุโบสถวัดอัมพวันเมืองสระบุรีโดยยาว ๗ วา ๒ ศอก เป็นที่วิสุงคามสีมา อีกฉบับหนึ่งว่าโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรพระกฐินไตรปี เครื่องบริขารไปทอดวัดเขาแก้ว วัดสมุหประดิษฐ์นั้นได้ทอดแล้ว ถวายพระราชกุศล เสด็จขึ้นข้างใน

เวลาค่ำ โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปทรงสดับพระธรรมเทศนาที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระอริยมุนีถวายเทศนาปฏิสังขรณ์ทานกัณฑ์ ๑ เครื่องกัณฑ์และบริขารอย่างเวลาวานนี้ เวลาสองยามเศษเสด็จลงทรงลอยพระประทีปตามธรรมเนียม มีผ้าป่าหลวง ๔ ถวายพระหัวเมืองเหมือนกัน

อนึ่ง วันนี้เปลี่ยนฤดูวสันต์เป็นเหมันต์ มีการสรงน้ำเปลื้องเครื่องมหามณีรัตนปฏิมากรอย่างเช่นเคยมา ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนิน โปรดให้กรมขุนเจริญเสด็จไป

วันศุกร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า มีการเลี้ยงพระกาลานุกาลในพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ พระสงฆ์ราชาคณะฐานานุกรมหัวเมือง......รูป หม่อมเจ้าสามเณรและเณรเปรียญ......รูป รับพระราชทานฉัน เจ้าพนักงานเชิญพระบรมอัฐิและพระอัฐิแต่หอพระธาตุมนเทียรไปโดยราชยานแล้วเชิญขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งเศวตฉัตร และโต๊ะจีนตามเคย ไม่ได้เสด็จออก โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล

วันนี้เป็นวันเริ่มการสวดมนต์ที่วังพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิ์ประวัติในการที่ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาพระเกียรติยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม เจ้าพนักงานจัดการตามธรรมเนียมราชการ เวลาเย็นพระสงฆ์ ๑๐ องค์เจริญพระพุทธมนต์ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการไปประชุมพร้อมกันในที่นั้น

เวลา ๒ ทุ่มเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงรถพระที่นั่งพร้อมด้วยกระบวนนำ และตามเสด็จไปประทับวังพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิ์ประวัติ เสด็จขึ้นบนตำหนักประทับตรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์อยู่จน ๔ ทุ่มเศษ เสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง อนึ่งเมื่อแรกเสด็จไปนั้นบ่าวขุนรุทธสำแดง บ่าวนายแก้วภักดี ถือหอกมาคอยนายอยู่ริมรถพระที่นั่งประทับ โปรดให้ลงพระราชอาญานายแก้วภักดี ขุนรุทธสำแดง คนละ ๓๐ ที หน้าวังพระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ

วันเสาร์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๓ โมงเศษ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติทรงเลี้ยงพระสงฆ์ที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้

เวลาเช้า ๔ โมงเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงรถพระที่นั่งเทียมม้า ๔ ทรงเครื่องแต่งพระองค์เครื่องจักรีบรมราชวงศ์ทรงสยามนพรัตนราชวราภรณ์ เสด็จพระราชดำเนินจากพระบรมมหาราชวังพร้อมด้วยกระบวนนำและตามเสด็จไปประทับวังพระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ เสด็จขึ้นประทับบนตำหนักพอได้พระฤกษ์เช้า ๔ โมง ๔๕ นาที เสด็จไปประทับที่พระแท่นสรง พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติทรงผลัดผ้าทรงและทรงสะพักขาวเข้าสู่พระแท่นสรง เจ้าพนักงานประโคมสังข์แตรพิณพาทย์กลองแขกฆ้องชัยตามธรรมเนียม พระสงฆ์ ๑๐ องค์สวดชัยมงคลพร้อมกัน พระเจ้าอยู่หัวโปรดพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าฝ่ายในที่ทรงพระชนมพรรษาเจริญมากทั้งที่ทรงกอรปด้วยเกียรติคุณเสด็จประทานน้ำทุกพระองค์ แล้วท่านเสนาบดีถวายน้ำพระพุทธมนต์ พราหมณ์ถวายน้ำกลศสังข์ตามธรรมเนียม ครั้นสรงเสร็จแล้วพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นบนตำหนักพระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ ทรงแต่งพระองค์ตามสีวันขึ้นมาบนตำหนัก พระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับบนพระที่นั่งโธรนพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพร้อมกัน พระยาศรีสุนทรโวหารอ่านประกาศยกกระแสที่ทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าสวัสดิประวัติได้ทรงพระอุตสาหะเล่าเรียนวิชาหนังสือชำนิชำนาญ ได้รับราชการในออฟฟิศหลวงมาแต่ทรงพระเยาว์ ได้ทรงจัดการดีเรียบร้อยขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอันมาก เป็นหลักฐานในราชการและเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยสนิทอย่างยิ่ง และมีพระอัธยาศัยซื่อตรงดำรงอยู่ในธรรมสัตย์สุจริตโอบอ้อมอารีทั่วไป เหินห่างจากทางอคติทั้ง ๔ ประการ และมีความจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมควรแก่ตำแหน่งอันใกล้ซิด เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยเป็นอันมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม รับราชการต่างพระเนตรพระกรรณ มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ อัชนาม ทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ เจ้ากรมเป็นหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ถือศักดินา ๖๐๐ ปลัดกรมเป็นหมื่นสมันตบริรักษ์ ถือศักดินา ๔๐๐ สมุหบัญชีเป็นหมื่นสมัคอมรพล ถือศักดินา ๓๐๐

ครั้นอ่านประกาศแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติเข้าไปหน้าพระที่นั่ง ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏและทรงเจิมพระราชทาน แล้วพระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยยศมหาจักรีบรมราชวงศ์ ๑ เครื่องราชอิสริยยศมงกุฎสยามมหาสุราภรณ์ ๑ พระแสงดาบฝักทอง ๑ มาลาเศร้าสเทิน ๑ หีบลงยา ๑ กาน้ำทองคำ ๑ ขณะนั้นพระสงฆ์สวดชัยมงคล เจ้าพนักงานประโคมพิณพาทย์ แตรสังข์ตามธรรมเนียม แล้วกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ ถวายต้นไม้ทอง เงิน ธูปเงิน เทียนทอง กระเป๋าเครื่องแต่งพระองค์อย่างเล็ก ๑ แล้วเสด็จประทับพระเก้าอี้ข้างล่าง พระสงฆ์ถวายอติเรกแล้วเสด็จประทับโต๊ะเสวย ๆ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ เสวยแล้วเสด็จมาประทับตรัสอยู่จนบ่ายโมงเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง

สมเด็จพระนางเจ้าเสด็จทั้งสองเวลา

เวลาค่ำวันนี้ไม่มีอันใด

วันอาทิตย์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาย่ำค่ำ เสด็จออกประทับห้องออกขุนนาง ทรงปิดทองพระแล้ว เสด็จขึ้นพระแท่นออกขุนนาง

พระมนตรีพจนกิจอ่านบอกพระยาไตรเพชรรัตนสงคราม เมืองนครสวรรค์ ว่าได้ทำโรงสเตชั่นโทรเลขด้วยไม้กระดานขอนสัก ๕ ห้อง ยาว ๖ วา ๒ ศอก ขื่อ ๙ ศอก เครื่องบนไม้จริง แต่ยังมุงกระเบื้องไม่ทันต้องมุงแฝกไว้ก่อน ต่อเมื่อสิ้นฤดูฝนจึงจะมุง ถ้าทำการสิ้นเท่าใดจะบอกมา อีกฉบับ ๑ ว่าหม่อมเทวาธิราชเบิกเงินส่วยเป็นเงินเดือนปีวอก ฉศก ปีระกา สัปตศก ทั้งเสมียนทนายคนใช้ รวมเป็นเงิน ๑๔ ชั่ง ๑๖ ตำลึง กับใบบอกพระยาพิชัยรณรงค์สงคราม เมืองสระบุรี ว่าได้หาตัวนายกองส่วยผลเร่ว ๔ กองมาเร่งได้เงิน ๒๔ ชั่ง ๑๐ ตำลึง ๑ บาท คิดหาบละ ๕ ตำลึง เป็นเร่ว ๙๘ บาท ๔ สลึง ให้นายกองคุมลงมาส่ง

พระสุรินทรามาตย์อ่านบอกพระศรีสุพรรณดิษฐ์ ปลัดเมืองกาญจนดิษฐ์ ว่าได้แต่งกรมการกำกับเสนาออกเดินประเมินเก็บเงินค่านาในเมืองกาญจนดิษฐ์ ได้เงินครั้งนี้ ๒๐ ชั่ง มอบให้กรมการคุมเข้ามาส่งครั้งหนึ่งก่อน

พระยาพิพัฒโกษาอ่านบอกพระยาพิพิธพิสัย เมืองตราดฉบับ ๑ ส่งเงินแทนรงส่วยจำนวนปีมะเมีย จัตวาศก เงิน ๓ ชั่ง ๒๙ บาท จำนวนปีมะแม เบญจศก เงิน ๓ ชั่ง ๑ บาท ๒ สลึง รวมสอง จำนวนเงิน ๖ ชั่ง ๓๑ บาท ให้หลวงอาจจำนงนายกองคุมเข้ามาส่ง

พระยาพิพัฒโกษานำพระยาสมุทบุรานุรักษ์กราบถวายบังคมลาออก ไปรักษาราชการบ้านเมือง พระราชทานถาดหมาก คนโททองคำ เสื้อผ้า

พระราชทานพระแสงดาบฝักถมกรมหมื่นสรรพสิทธิ ด้วยเมื่อตั้งกรมนั้นท่านยังไม่ได้รับพระราชทาน แล้วเสด็จขึ้นประทับออฟฟิศครู่หนึ่ง เสด็จขึ้นข้างใน

วันจันทร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาวันนี้เริ่มการที่จะได้พระราชทานเบี้ยหวัดจำนวนปีจอ อัฐศก เจ้าพนักงานได้จัดการในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ณ ท้องพระโรงกลางตามซึ่งเคยมาทุกปี เวลาเช้าเจ้าพนักงานเชิญเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงผนวชเข้ามารับพระราชทานฉันตามเคย สำรับเลี้ยงพระวันนี้ของหลวง ๒ ของเกณฑ์ข้าราชการที่รับราชการในพระคลังมหาสมบัติ ๑๔ พอถ้วนกับขัตติยวงศ์ที่ทรงผนวช เวลาเช้า ๔ โมงโปรดให้...เวลาเช้า ๕ โมงโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จออกมาทรงประเคน เวลาบ่าย ๒ โมงเศษเสด็จออกท้องพระโรงกลางทรงจุดเทียนนมัสการ แล้วเสด็จทรงจุดเทียนที่เครื่องสังเวยที่โต๊ะพระสยามเทวาธิราชและพระครอบศิลาทองและทรงเจิมพระสยามเทวาธิราช และพระครอบศิลาทองและถุงเงินถุงกระดานนับเงินเสร็จแล้ว โหรจุดเทียนหน้าบายศรีทองเงินบูชาฤกษ์ทำขวัญเงินและพราหมณ์รดน้ำสังข์ที่ถุงเงินถุงกระดานนับเงิน แล้วเสด็จทรงประเคนแผ่นประมาณนิยมบัตรแด่กรมพระปวเรศ กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระ พระราชพงศ์ หม่อมเจ้าสามเณร แล้วพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา อติเรก ถวายพระพรลากลับไป พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานสัญญาบัตร หม่อมราชวงศ์ฉายเป็นหม่อมดำรงรามฤทธิ์ ราชนิกูล ศักดินา ๘๐๐ หม่อมราชวงศ์ผิวเป็นหม่อมทศทิศฦๅเดช ราชนิกูล ศักดินา ๘๐๐ ขุนวิสูตรพลบาล เป็นหลวงพลกายกรีธา ปลัดจางวางทหารในไทย นา ๑๐๐๐ ขุนวิจารณจำนง เป็นหลวงโยธาไพจิตร นา ๑๐๐๐ นายพุ่ม ทหารมหาดเล็ก เป็นขุนชาติวิชา กรมทหารใน นา ๔๐๐ นายเลื่อน ทหารมหาดเล็กเป็นขุนศิลปศาสตร์ กรมช่างทหารใน นา ๔๐๐ แล้วโปรดเกล้า ฯ ให้แจกเบี้ยหวัดไวยาวัจกรแทนต่างกรมและหม่อมเจ้าที่ทรงผนวช กรมพราหมณ์โหรดาจารย์ พราหมพฤฒิบาศโหรช่าง ๑๐ หมู่ ทหารใน และกรมอื่น ๆ เป็นอันมาก เวลาบ่าย ๔ โมงเศษเสด็จขึ้น เวลาค่ำไม่มีอันใด พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาศประชวรพระอาการมาก

วันอังคาร แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาวันนี้ไม่มีราชการอันใด ไม่ได้เสด็จออก เพราะพระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาศประชวรพระอาการมาก ไม่ได้เสด็จออก

วันพุธ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าก่อนย่ำรุ่ง พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาศซึ่งประชวรนั้นสิ้นพระชนม์ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระอาลัยเป็นอันมาก

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ สมเด็จกรมพระภาณุพันธุ์และพระเจ้าน้องยาเธอทั้งปวง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตามตำแหน่งเข้าไปที่ตำหนักพระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาศ เชิญพระศพสรงน้ำตามโบราณประเพณี แล้วทางเครื่องพระศพตามขัตติยตระกูล เชิญพระศพลงลองเหลี่ยมอย่างเล็กปิดทองคำเปลว ยกขึ้นเฉลี่ยงหิ้ว มีกลองชนะแตรสังข์ จ่าปี่จ่ากลองเครื่องสูงแห่มาตามประตูพรหมศรีสวัสดิ์ เชิญขึ้นชั้นแว่นฟ้า ๓ ชั้นมีพระมณฑปเล็กประกอบนอก เวลาทุ่มเศษเสด็จออกประทับหอธรรมสังเวช ทอดพระเนตรจัดตั้งพระโกศแล้วทรงทอดผ้าไตร ๓๐ ผ้าขาวพับ ๓๐ กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระพระราชาคณะฐานานุกรมเปรียญ ๖๐ สดับปกรณ์แล้วเสด็จกลับขึ้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระราชดำริที่จะพระราชทานเพลิงที่วัดราชบพิธ พระเจ้าลูกเธอซึ่งสิ้นพระชนมนี้พระชันษาปี ๑ กับ ๓ เดือน ๑๘ วัน

อนึ่ง ที่หอธรรมสังเวชนั้นมีพระศพพระองค์เจ้าอนงนพคุณอยู่ที่นั่น โปรดเกล้าฯ ให้เชิญไปไว้ที่วังกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม มีเครื่องสูง กลองชนะ แตรสังข์ เครื่องแห่ แห่ไปส่งพระศพใส่เฉลี่ยงแปลง

วันพฤหัสบดี แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

วันนี้ไม่ได้เสด็จออกขุนนาง เป็นวันพระไม่มีการอันใด

วันศุกร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลานี้ไม่ได้เสด็จออกขุนนางเพราะยังไม่ใคร่ทรงสบาย เป็นแต่สมเด็จกรมพระองค์น้อยเข้าไปเฝ้าข้างใน ทรงพระราชดำริเรื่องการพระเมรุพระเจ้าลูกเธอทั้งสิ้น

วันเสาร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาบ่ายไม่ได้เสด็จออกขุนนาง วันนี้เริ่มการพระราชพิธีฉัตรมงคล คือสมโภชพระมหาเศวตฉัตรตามเช่นเคยมาทุกปี คือเป็นวันที่คล้ายกับดิถิที่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เจ้าพนักงานได้ตั้งการในพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นวันแรก แต่ทุกปีมานั้นได้ตั้งการในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทซ่อมในการเฉลิมพระปรมาภิไธย จึ่งโปรดให้ตั้งการในพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นที่หนึ่ง เจ้าพนักงานเชิญพระชัยวัฒน์ทั้ง ๕ รัชกาลตั้งบนม้าหมู่มุขเหนือเชิญลุ้งพระมหาพิชัยมงกุฎเครื่องเบญจวิวิธราชกกุธภัณฑ์และพระแสงสรรพาวุธต่างๆ ตั้งบนพระที่นั่งเศวตฉัตร

เวลายามเศษพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดเทียนนมัสการพระพิมลธรรมถวายศีลแล้ว อาลักษณ์อ่านประกาศ ๆ จบแล้ว พระพิมลธรรมและพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย พระครู ฐานานุกรมผู้ใหญ่ เปรียญประโยคสูงรวม ๓๑ องค์ สวดสัตตปริตรเวลา ๕ ทุ่มเศษสวดมนต์จบแล้วเสด็จขึ้น

วันอาทิตย์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดเทียนนมัสการ เมื่อก่อนจะเสด็จออกนั้นเจ้านายทรงประเคนพระสงฆ์ ๓๑ องค์ มีพระพิมลธรรมเป็นประธานรับพระราชทานฉัน ของหลวงทรงประเคน ๑ ถวายพระพิมสธรรม นอกนั้นของพระบรมวงศานุวงศ์เจ้าพระยาและพระยาที่ได้รับพระราชทานพานทองและโต๊ะกาถวายพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย ฐานานุกรมเปรียญอีก ๓๑ องค์ รับพระราชทานฉัน ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วเสด็จทรงประเคนเครื่องบริขาร และโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าของถวายบริขาร พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา แล้วเสด็จมาทรงจุดเครื่องสังเวย พราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวย ๔ ลา มีขับไม้ตามธรรมเนียมแล้วพระมหาราชครูพิธีพราหมณ์ทั้งปวงเบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช ๓ รอบตามประเพณี แล้วขณะเวียนเทียนนั้นเจ้านายจุดธูปเทียนบูชาเครื่องวิวิธราชกกุธภัณฑ์ตามเคย ครั้นเวียนเทียนแล้วทรงเจิมเครื่องวิวิธราชกกุธภัณฑ์สรรพราชศัสตราวุธแล้วเสด็จขึ้นข้างใน วันนี้พราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวยต้องพระราชหฤทัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานรางวัลคนละ ๕ ตำลึง

เวลาค่ำมีการสวดมนต์ ในพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร ทุกปีมานั้นเคยมีการนี้ที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ แต่ครั้งนี้พระที่นั่งไพศาลทักษิณซ่อมใหม่จึงโปรดให้เลื่อนมาทำที่นี่ เวลายามเศษเสด็จออกพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์เข้าไป พระสงฆ์วันนี้ ๓๗ องค์ เสด็จทรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศววิยาลงกรณ์ถวายศีล แล้วอาลักษณ์อ่านประกาศ ๆ จบแล้ว กรมพระปวเรศ กรมหมื่นวชิรญาณหม่อมเจ้าพระ สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย พระครูฐานานุกรมเปรียญ ๓๗ องค์ เจริญพระพุทธมนต์สัตตปริตร เวลา ๔ ทุ่มเศษสวดมนต์จบ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น

วันจันทร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๔ โมง ๕๒ บางคนว่า ๕๕ นาที ธรณีไหวโดยทั่วไป ชนที่นั่งอยู่ในเรือนหรือยืนอยู่ให้หน้ามืดเหมือนหนึ่งเป็นลมเวียนศีรษะ ระย้าแก้วและสิ่งของที่ห้อยไว้แกว่งไกวไปมา และของที่ตั้งในเรือนที่เป็นของสูงก็ไหวโยกไป เรือนใหญ่น้อยทั้งตึกและเรือนไม้มีความรู้สึกว่าแกว่งไปน้อย ๆ และได้ข่าวว่าน้ำในคลองและในที่ต่างๆ กระฉอกเป็นคลื่นเป็นอยู่ ๒ พักรวมประมาณ ๔๕ วินาทิก็หายเป็นปกติ เหตุที่มีพระธรณีไหวฉะนี้ ว่าตามสยามโบราณวิธีว่าเป็นเหตุอภินิหารของผู้เจริญด้วยอิสริยยศ จะรุ่งเรืองวัฒนาการ ด้วยพระบารมีจึงได้เป็นเหตุเช่นนี้ แสดงแก่อเนกชนทั้งหลาย ถ้าจะว่าตามอย่างนั้นก็พอสมกับสมัยมหามงคลพิธีในวันนี้ ถือเป็นดิถีที่คล้ายกับวันเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติบรมราชาภิเษกแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปัจจุบันนี้ และในวันนี้ก็เป็นกาลกำหนดที่จะเสด็จออกพระราชทานเครื่องราชอิสริยยศผู้ที่สมควรจะดำรงเกียรติยศ แล้วจะได้ถวายบังคมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ล่วงมาแล้วในพระบรมราชวงศนี้ทั้ง ๔ พระองค์ตามเช่นเคยมีมาทุกปี แต่ในปีนี้ทรงพระราชดำริว่าสมเด็จพระบรมราโชรสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบนวพรรษา สมควรที่จะดำรงเกียรติยศรับเครื่องราชอิสริยยศปฐมจุลจอมเกล้าได้ จึงได้กำหนดว่าจะพระราชทานในวันนี้เวลาบ่าย ๔ โมง ถ้าจะนับเนื่องในเหตุที่เป็นขึ้นในวันนี้ ว่าเป็นการแสดงพระบรมเดชานุภาพพระบารมีของพระเจ้าอยู่หัวและแสดงพระเกียรติยศของสมเด็จพระบรมราโชรสที่จะเจริญพระเกียรติศักดิ์ต่อไป ตามโบราณวิสัยนับถือกันมาก็ได้ แต่ถ้าว่าอีกอย่างหนึ่งตามตำราของนักปราชญ์ที่รู้ของที่เป็นจริงในโลก คือนักปราชญ์ฝ่ายข้างอัษฎงค์ประเทศ ที่เป็นผู้ค้นหาสืบสวนได้พยานมั่นคงแล้ว เห็นว่าที่บังเกิดแผ่นดินไหวอย่างนี้เป็นเพราะภูเขาไฟซึ่งเรียกว่า (วอลเคโน) ระเบิดให้เขานั้นแตกทำลายลงในพื้นแผ่นดินอย่างหนึ่ง เป็นด้วยแม่แร่สุพรรณถันหรือแร่อื่น ๆ จะระเบิดขึ้นจากแผ่นดิน หรือบ่อน้ำมันดินบังเกิดระเบิดขึ้นอย่างหนึ่งมีเรื่องราวต่าง ๆ พิสดารในหนังสือต่าง ๆ ที่นักปราชญ์ได้ตกแต่งไว้โดยอเนกประการ แต่ในครั้งนี้ตามความรู้สึกว่าจะไหวมาแต่ทางทิศเหนือและทิศใต้ทั้งสองข้าง

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ที่สวดมนต์เข้าไปในนั้น ทรงจุดเทียนนมัสการ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ถวายศีล แล้วเสด็จทรงประเคนกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส หม่อมเจ้าพระ สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย พระครู ฐานานุกรมเปรียญ ๓๗ องค์รับพระราชทานฉัน ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วเสด็จทรงประเคนบริขารแก่กรมพระปวเรศ และโปรดให้กรมหมื่นวชิรญาณ หม่อมเจ้าพระและพระสงฆ์ทั้งปวงเข้าไปรับบริขารในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี และพระบรมวงศ์ฝ่ายในด้วย สำหรับวันนี้ของทรงประเคนหนึ่ง นอกนั้นสมเด็จพระนางเจ้าและพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในพระองค์ละที่ พระสงฆ์รับของแล้วถวายอนุโมทนา อติเรก ถวายพระพรลากลับไป ทรงจุดเทียนสังเวยพราหมณ์อ่านดุษฎี ๔ ลา แล้วเจ้านายจุดธูปเทียนบูชาเครื่องวิวิธราชกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชถ้วนตติยวาร แล้วทรงเจิมเครื่องเบญจวิวิธราชกกุธภัณฑ์ พระแสงต่างๆ ตามธรรมเนียมแล้วเสด็จขึ้น

เวลาบ่าย ๕ โมง พระเจอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศอย่างพลเรือน ทรงฉลองพระองค์ครุย เสด็จออกประทับพระที่นั่งโธรน ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และตำรวจมหาดเล็ก ทหารมหาดเล็กเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทตามลำดับกับตำแหน่ง เจ้าพนักงานประโคมแตรฝรั่งมโหระทึกก้องนฤนาท แล้วท่านอัครมหาเสนาบดีมนตรีมาตยข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายทหารพลเรือนเดินเข้าไปเฝ้าถวายคำนับแล้วไปยื่นเฝ้าโดยลำดับตำแหน่งถ้วนทุกกระทรวง และพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการดำรัสว่า ในครั้งนี้พระบรมราโชรสมีพระชนมพรรษาครบ ๙ พรรษาแล้วและเมื่อพระองค์มีพระชนมพรรษาครบ ๙ พรรษา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระบรมชนกมหาราชาธิราชเจ้า ก็ได้พระราชทานเครื่องราชอิสริยยศนพรัตนราชวราภรณ์ และในกาลครั้งนี้ก็จะโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องนพรัตนราชวราภรณ์และเครื่องราชอิสริยยศปฐมจุลจอมเกล้าด้วยทั้งสองดวง แต่เครื่องราชอิสริยยศนพรัตนราชวราภรณ์นั้น จะโปรดพระราชทานในการพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย ทรงพระราชดำริว่าจะพระราชทานพร้อมกันทั้งสองดวงก็จะกีดกันลำบาก จึงทรงกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานปฐมจุลจอมเกล้า ฯ เสียในวันนี้ให้ต้องตามกฎหมายเครื่องราชอิสริยยศจุลจอมเกล้า ฯ

ครั้นมีพระบรมราชโองการ ให้หาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่เข้าไปหน้าพระที่นั่ง ทรงสวมเครื่องราชอิสริยยศปฐมจุลจอมเกล้า กับดิโปลมา ๑ แล้วมีพระบรมราชโองการให้หาผู้ที่จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยยศในวันนี้เข้าไปหน้าพระที่นั่งโธรน ทรงสวมเครื่องราชอิสริยยศและดิโปลมาพระราชทาน คือ กรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ปฐมจุลจอมเกล้า ๑ เจ้าพระยาพลเทพสรรพพลเสพเสนาบดี (พุ่ม) ปฐมจุลจอมเกล้า ๑ พระยาศริสิงหเทพ (อ่วม) ทุติยจุลจอมเกล้า ๑ พระยาราชพงษานุรักษ์ (ชม) ทุติยจุลจอมเกล้า ๑ นายรองเสน่ห์มหาดเล็ก (พิน) บุตรพระยาศรีสรราช (วัน) ตติยจุลจอมเกล้า ๑ แล้วพระราชทานดวงสตาวิเศษแด่พระยาเพชรพิชัย ซึ่งได้รับตติยจุลจอมเกล้าแล้ว ๑ แล้วพระราชทานพรแด่ผู้ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยยศใหม่ และที่รับมาแต่ก่อน และผู้ที่ไม่ได้รับที่มาประชุมทั่วกันแล้วเสด็จขึ้นจากที่ประชุม เสด็จไปประทับพระที่นั่งศิวาลัยมหาประสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องถวายบูชาและทรงถวายบังคมพระบรมรูปทั้ง ๔ รัชกาล เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์กลองชนะมโหระทึกตามโบราณราชประเพณี แล้วพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายทหารพลเรือนจึงพร้อมกันขึ้นไปถวายบังคมพระบรมรูปพระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๔ รัชกาล ในหน้าพระที่นั่งพระเจ้าอยู่หัวในปัจจุบันนี้ แล้วพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น ภายหลังสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวีและพระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในจะได้ออกมาถวายบังคมพระบรมรูปด้วยตามธรรมเนียม

เวลา ๔ ทุ่มเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทด้วยวันนี้มีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งนี้ เสด็จออกทรงจุดเทียน พระธรรมวโรดมถวายศีล อาลักษณ์อ่านประกาศแล้ว พระธรรมวโรดม พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย พระครู ฐานานุกรมเปรียญ ๓๕ รูปเจริญพระพุทธมนต์ยังไม่ทันจบ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น

เวลาเช้า ๒ โมง เวลาเที่ยง เวลาบ่าย ๔ โมง เจ้าพนักงานทหารบก ทหารเรือยิงสลุตตามธรรมเนียม

วันอังคารแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๕ โมงเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงจุดเทียนนมัสการ พระธรรมวโรดมถวายศีล ทรงศีลแล้วทรงประเคน พระสงฆ์ ๓๕ องค์รับพระราชทานฉัน สำหรับวันนี้ทรงประเคน ๑ นอกนั้นของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าทั้งนั้น พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วทรงประเคนบริขารและโปรดให้เจ้าของสำรับประเคนบริขาร พระสงฆ์ถวายพระพรลากลับไป เสด็จทรงจุดเทียนเครื่องสังเวย พราหมณ์อ่านดุษฎีสังเวย ๔ ลา พระมหาราชครูพิธีพราหมณ์ทั้งปวงเบิกแว่นเวียนเทียนอย่างวันก่อน แล้วเสด็จขึ้น

เวลาเกือบทุ่ม เสด็จออกทางพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานไปประทับหอธรรมสังเวช ทรงจุดเทียนมนัสการพระพุทธรูป พระพรหมมุนีถวายศีล แล้วพระพรหมมุนีฐานานุกรม เปรียญ ๑๕ รูปสวดพระพุทธมนต์ พระสงฆ์สวดจบแล้วทรงทอดผ้าไตร ๑๐ ไตร พระพรหมมุนีฐานานุกรมเปรียญ ๑๐ รูป สดับปกรณ์พระศพพระองค์เจ้าประไพพรรณพิลาศ ของหลวงแล้วจอมมารดาเจ้าภาพพระศพทอดผ้าไตร ๕ ไตร ฐานานุกรม เปรียญ ๕ รูป สดับปกรณ์พระศพ แล้วสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศนากัณฑ์หนึ่ง จบลงทรงทอดผ้าไตร ผ้าสบง ๔ ผืน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระรับสัพพี ๔ องค์สดับปกรณ์ แล้วถวายอติเรก ถวายพระพรลากลับไป พระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับ

วันพุธ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้า ๕ โมง โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จออกไปทรงประเคนพระสงฆ์ ๑๕ องค์ที่สวดมนต์เมื่อคืนนี้ รับพระราชทานฉันที่หอธรรมสังเวช เวลาเกือบบ่ายโมงพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกประทับหอธรรมสังเวช ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ แล้วทรงประเคนเครื่องบริขารแด่พระพรหมมุนี ฐานานุกรมเปรียญ ๑๐ รูป โปรดให้พระฐานานุกรมเปรียญอีก ๕ รูปเข้าไปรับของที่หน้าฉาก เจ้าจอมมารดาของพระเจ้าลูกเธอประเคนของแล้วพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา อติเรก ถวายพระพรลาไป มีสดับปกรณ์ของหลวง ๑๐๐ ของเจ้าภาพ ๑๐๐ แล้วพระธรรมวโรดมถวายเทศนากัณฑ์ ๑ เวลาบ่ายโมงเศษเสด็จขึ้น

เวลาเย็นไม่มีอันใด

วันพฤหัสบดี แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ อัฐศก ศักราช ๑๒๔๘

เวลาเช้าไม่มีอันใด เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินทรงรถพระที่นั่งไปประทับวัดราชบพิธ ทอดพระเนตรการทำพระเมรุ เวลาพรุ่งนี้เป็นวันยกเสา เสด็จทอดพระเนตรงานอยู่จนเวลายามเศษ เสด็จกลับพระบรมราชวัง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ