เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๔๗

วันพรึหัสบดี ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้า โปรดไห้พระบรมวงสานุวงส์ซงเลี้ยงพระสงค์ที่พระที่นั่งราชกิจ พระสงค์ 20 องค์รับพระราชทานฉัน ไม่สเด็ดลงเพราะฝนตก

เวลาบ่ายโมงเสสโปรดไห้ราชเอดเดอร์แกมป์เชินพระบรมวงสานุวงส์มาประชุมเสวยโต๊ะหย่างจีนตามเช่นเคยมาทุกปี เวลาบ่าย 3 โมงเสสสเด็ดขึ้น

วันสุกร์ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาบ่าย 5 โมงเสส สเด็ดออกประทับพระที่นั่งพุดตานทองคำ พายไต้พระมหาเสวตฉัตร นะ ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พร้อมด้วยพระบรมวงสานุวงส์ข้าราชการฝ่ายทหานพลเรือน เฝ้าทูนละอองธุลีพระบาทตามตำแหน่งถ้วนทุกกะซวง เจ้าพนักงานประโคมแตรฝรั่งตามทำเนียม

เจ้าพนักงานกรมวัง กรมมหาดไทย นำเจ้าราชบุตรพระยาลาวท้าวแสนเมืองน่าน เข้าเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาท พระมนตรีพจนกิจ ทูนเบิกและอ่านสุภอักสรเจ้าอนันตวรริทธิ์ เจ้าอุปราชเจ้าราชวงส์นครน่าน ว่าได้แต่งไห้เจ้าราชบุตรคุมต้นไม้ทองเงินเครื่องราชบรรนาการจำนวนปีระกาสัปต18สก ลงมาทูนเกล้าฯ ถวาย

ดำหรัดพระราชปติสันถารโดยควนแล้ว พระมนตรีพจนกิจทูนเบิกนำพระยาราชสัมภารากร กลับจากราชการข้าหลวงเมืองลาวเฉียงเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาท แล้วสเด็ดขึ้น

สเด็ดออกประทับออฟฟิสรับสั่งกับกรมหมื่นเทววงส์ จนเวลา 2 ทุ่มเสสสเด็ดขึ้น

วันเสาร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาย่ำค่ำเสส สเด็ดออกประทับห้องออกขุนนาง ซงปิดทองพระแล้วสเด็ดขึ้นพระแท่นออกขุนนาง

พระมนตรีพจนกิจ อ่านบอกพระยารามรนรงค์สงคราม เมืองกำแพงเพชรส่งไม้เครื่องพระเมรุกรมพระราชวังบวร ฉบับ1

พระยาพิพัธโกสา อ่านบอกพระยาสมุทสาครานุรักส์เมืองสมุทสาครว่า เจ้าอธิการชื่นกับราสดรขอพระราชทานที่เขตพระอุโบสถวัดน้อยนางหงส์ บ้านท่าจีน ยาว 15 วา กว้าง 11 วา เปนที่วิสุงคามสีมา

สเด็ดประทับหยู่ครู่หนึ่ง สเด็ดขึ้นออฟฟิสตรัดกับกรมหมื่นเทววงส์ครู่หนึ่งสเด็ดขึ้นข้างไน

วันอาทิจ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาย่ำค่ำสเด็ดประทับห้องออกขุนนาง ซงปิดทองพระแล้วสเด็ดขึ้นพระแท่นออกขุนนาง

พระมนตรีพจนกิจ อ่านบอกพระยาพิชัยรนรงค์สงครามเมืองสระบุรี ส่งตัวอ้ายโท้ อ้ายเหลาผู้ร้ายตีชิงเงินกับผ้าของแขกลังกาหมองูกับผู้ต้องซัด กับตัวแขกหมองู 2 คนลงมา พระมนตรีได้เปรียบเทียบ ผู้ต้องซัดยอมเสียเงินไห้แขก 140 บาท แขกยอมเลิกแล้วต่อกัน แต่โทสผู้ร้ายนั้นแล้วแต่จะโปรด

พระสุรินทรามาจ อ่านบอกพระยาสมบัติภิรมย์ ผู้รักสาราชการเมืองสงขลา ว่าจีนเฉียวจีนเสงฟ้องกล่าวโทสกรมการเมืองหนองจิก ว่านายแปะหาตัวจีนหยู่มาขอบุตรสาวเปนภรรยา จีนหยู่ไม่ไห้ นายแปะบุตรพระยาหนองจิกและกรมการ จึ่งเกาะจีนหยู่ไว้ จีนหยู่หนีมาได้ นายแปะกับกรมการบ่าวทาส 80 คน 90 คน ตามไปพบกลางทางกลุ้มรุมกันตีฟันเอาปืนยิงจีนหยู่ที่หน้าอกทลุหลังจีนหยู่ตาย แล้วเก็บทรัพย์สมบัติไป และเอาบุตรภรรยาจีนหยู่ไปจำไว้ ได้มีหมายไห้พระยาหนองจิกส่งตัวนายแปะกับกรมการมาถามไห้การรับสารภาพเปนสัจ แต่ของที่ว่าริบมานั้นน้อยกว่าไนคำตราสิน

สเด็ดขึ้นประทับออฟฟิส รับสั่งกับกรมหมื่นเทววงส์ครู่หนึ่ง สเด็ดไปประทับห้องกลางตรงท้องพระโรงกลาง พระราชทานเงินตราเสื้อผ้า แก่ข้าราชการที่ถูกเพลิงไหม้บ้าน 7 นายแล้วสเด็ดขึ้นข้างไน

วันจันท์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาย่ำค่ำสเด็ดออกประทับห้องออกขุนนาง ซงปิดทองพระและพระคัมภีร์แล้วสเด็ดขึ้นพระแท่นออกขุนนาง

พระมนตรีพจนกิจ อ่านบอกพระพิทักส์เทพธานี ปลัดกรุงเก่า ว่าต้องสู่ชื่อนายร้อยสุนะฟ้องผู้มีชื่อหลายคนว่าเปนผู้ร้ายลักกะบือ ได้หาตัวมาชำระรับเปนสัจบ้างไม่รับบ้างยังชำระต่อไป ถ้าได้ความประการไดจะบอกมาครั้งหลัง

พระยาพิพัธโกสา อ่านบอกพระยาสมุทสาครานุรักส์ เมืองสมุทสาคร ส่งเงินค่าแรงจำนวนปีระกาสัปตสกครั้งนี้จีน 300 คน ค่าแรง 15 ชั่ง ค่าดีกา 3 บาท ไห้กรมการคุมเข้ามาส่งและได้ส่งมาแล้ว 76 ชั่ง จีน 1520 คน

สเด็ดขึ้นประทับออฟฟิสรับสั่งกับกรมหมื่นเทววงส์ หมอเกาแวน แล้วสเด็ดไปประทับตรัดกับสมเด็ดกรมพระภานุพันธุ์ กรมหมื่นเทววงส์ กรมหมื่นพิชิต ที่ห้องออกขุนนางจนเวลา 2 ทุ่มสเด็ดขึ้น

วันนี้ชักสพท้าวสมสักดิ์ไปเข้าเมรุวัดกัลยานมิตร

วันอังคาร ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาบ่าย 4 โมง พระเจ้าหยู่หัวสเด็ดออกประทับพระที่นั่งจักรีองค์ตะวันออก เจ้าพนักงานกรมวัง กรมท่า นำกอมมานดันเรือรบอเมริกัน 1 ออฟฟิซเซอร์ 8 คน เข้าเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาท ดำหรัดพระราชปติสันถารโดยสมควนแล้ว ถวายบังคมลาไป สเด็ดขึ้น

เวลาย่ำค่ำสเด็ดออกประทับห้องออกขุนนาง ซงปิดทองพระแล้วสเด็ดขึ้นพระแท่นออกขุนนาง

พระมนตรีพจนกิจ อ่านบอกพระโบรานบุรานุรักส์ พระพิทักส์เทพธานี ว่ามีตราโปรดไห้ทำสาลากลาง ถ้าสาลากลางเก่ามีไห้ซ่อมแซมไว้ ไห้เก็บหนังสือบอกและตราพระราชสีห์หนังสือต่าง ๆ ไว้ไห้มั่นคงนั้น เห็นว่าจะทำก็จะเปลืองพระราชทรัพย์มาก ได้ปรึกสาพร้อมกันเห็นว่า ตึกหน้าวังจันทกเสมชำรุดมีหลังหนึ่งจะได้ช่วยกันจัดซื้อของซ่อมแซม พระโบรานบุรานุรักส์ พระพิทักส์เทพธานีไม่รับพระราชทาน

สเด็ดขึ้นประทับออฟฟิส รับสั่งกับกรมหมื่นเทววงส์จนเวลา 2 ทุ่มเสสสเด็ดขึ้น

วันพุธ ขึ้น7 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาบ่าย 5 โมงเสส สเด็ดออกทางท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรี ประทับหน้าท้องพระโรงกลาง กรมหมื่นเทววงส์นำมิสเตอร์ มินชิน ผู้ดูการสวนเลี้ยงสัตว์ที่ออสเตรเลียเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาท แล้วสเด็ดซงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิถ ซงเรือพระที่นั่งกราบไปโดยทางชลมาคพร้อมด้วยขนวนนำและตาม สเด็ดไปประทับท่าฉนวนวัดกัลยานมิตร สเด็ดซงพระราชยานขึ้นไปประทับพลับพลายก ซงพระกรุนาโปรดไห้กรมหมื่นพรหมวรานุรักส์ไปทอดไตร 15ไตร แล้วซงลั่นฝักแคพระราชทานเพลิงสพท้าวสมสักดิ์ สเด็ดประทับหยู่ครู่หนึ่งสเด็ดกลับพระบรมมหาราชวัง

วันพรึหัสบดี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาบ่าย 5 โมงเสสพระเจ้าหยู่หัวซงเครื่องราชาภรน์หย่างเต็มยสทหานราชวัลลภซงเครื่องราชอิสริยะยสเซนไมคัลเซนยอชสเด็ดออกประทับห้องดอรนิงรูม พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พร้อมด้วยพระบรมวงสานุวงส์ข้าราชการฝ่ายทหานพลเรือนเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาท กรมหมื่นเทววงส์และเจ้าพนักงานกรมท่า กรมวังนำ แอดมิราล แฮมมิลตัน แม่ทัพเรือรบของอังกริดไนประเทสจีน 1 กับออฟฟิซเซอร์ 10 คน ผู้ว่าราชการกงสุลอังกริด 1 เข้าเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาท ดำหรัดพระราชปติสันถารโดยสมควนแล้วถวายบังคมลากลับไป สเด็ดขึ้นประทับซิตติงรูม กรมหมื่นเทววงส์ พระองค์สาย เฝ้าจนย่ำค่ำสเด็ดขึ้น

มีกาดออเนอร์ 100 แตรวง 1 สลุต 9 นัด

วันสุกร์ ขึ้น9 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลากลางวันไม่มีอะไรไม่ได้สเด็ดออก เวลากลางคืนวันนี้โปรดเกล้าฯ ไห้มีการเลี้ยงพระราชทานเปนเกียรติยสแก่ไวซ แอดมิราล แฮมมิลตัน แม่ทัพเรือรบอังกริดที่เข้าเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาทเมื่อเวลาวานนี้

เวลา 2 ทุ่ม พระบรมวงสานุวงส์ข้าราชการที่โปรดเกล้า ฯ ไห้เชินมาประชุมไนการเลี้ยง และไวซ แอดมิราล แฮมมิลตันกับออฟฟิซเซอร์เรือรบ มาคอยเฝ้าทูนละอองธุลีพระบาทพร้อมกันนะพระที่นั่งจักรีห้องดอรนิงรูม เวลา 2 ทุ่มเสสพระเจ้าหยู่หัวสเด็ดออกประทับตรัดกับพระบรมวงสานุวงส์และไวซ แอดมิราล และข้าราชการ ครู่หนึ่งสเด็ดเข้าไปประทับโต๊ะเสวยนะพระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ พระบรมวงสานุวงส์ข้าราชการและไวซ แอดมิราล และออฟฟิซเซอร์ ก็ตามเข้าไปนั่งโต๊ะตามแผนที่ข้างล่างนี้

 

พระเสมอใจ

จมื่นสราภัย

 

หลวงนายสิทธิ

   

หม่อมเจ้าวัธนา

ออฟฟิชเซอร์เรือรบ

พระองค์เจ้าสาย

พระยามหามนตรี

พระองค์เจ้าจิตจเริน

หมอวิลิส

พระองค์เจ้าสรีเสาวภางค์

ออฟฟิซเซอร์เรือรบ

พระองค์เจ้าดิสวรกุมาร

พระยาประภากรวงส์

พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ

พระยาเทพประชุน

กรมหมื่นอดิสร

มิสเตอร์เฟรนช์กงสุล

กรมหมื่นเทววงส์

เจ้าพระยาสรีพิพัธน

สมเด็ดกรมพระภานุพันธุ์

เจ้าพระยาพลเทพ

ที่ประทับ

ไวซ แอดมิราล

สมเด็ดกรมพระจักรพัต

พระยาภาสกรวงส์

กรมหมื่นพิชิต

กัปตันลองค์

กรมหมื่นภูธเรส

พระวิสูตรสาครดิถ

กรมหมื่นสิริธัช

ว่าง-

พระองค์เจ้าชุมพล

ออฟฟิซเซอร์เรือรบ

พระองค์เจ้าวรวรรน

พระยาพิพัธ

พระองค์เจ้าโสนบันดิต

ออฟฟิซเซอร์เรือรบ

พระองค์เจ้าขจร

ว่าง-

หมอเกาแวน

 

จมื่นสุรเดช

พระสรรเพช์

 

เวลายามเสสสเด็ดเสวยแล้วสเด็ดออกประทับ ตรัดกับไวซ แอดมิราล ที่ซิตติงรูมจน 4 ทุ่มเสส ไวช แอดมิราล และออฟฟิซเซอร์ถวายบังคมลากลับไป รับสั่งกับพระบรมวงสานุวงส์เรื่องราชทูตสยามที่ลอนดอนและที่ปารีส จนเวลา 5 ทุ่มเสสสเด็ดขึ้น

วันเสาร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสสสเด็ดออกพระที่นั่งจักรี ซงพระราชยานไปประทับท่าราชวรดิถ สเด็ดลงไนเรือพระที่นั่งเวสาตรี พอเรืออัคราชวรเดชแล่นลงมา สเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งโบตไปขึ้นเรืออัคราชวรเดชล่องน้ำไปออกปากน้ำถึงไลต์เฮาส์ ไวซแอดมิราล แฮมมิลตัน ลงเรือโบตมาคอยรับสเด็ด เขาขึ้นมาเฝ้าบนเรือพระที่นั่งแล้วเชินสเด็ดลงเรือโบตของเขา ชักทงแผ่นดินไปขึ้นเรืออังกริดชื่อ วิ ยิ แลนด์ แล่นออกไปน้ำเขียวที่เรือรบอังกริดจอดหยู่ 3 ลำ ชื่ออาคาเมนนอนลำ 1 ออเดเชียสลำ 1 เดริงลำ 1 จึงสเด็ดลงเรือโบตไปประทับที่เรือรบชื่ออาคาเมนนอน มีทหานรับสเด็ดแถว1 แตรวง 1 คอยรับ พอสเด็ดถึงเป่าเพลงสันเสินพระบารมี ที่เรือออเดเชียสยิงสลุตถวาย 21 นัด กัปตันลองค์รับสเด็ดขึ้นบนเรือ นำสเด็ดทอดพระเนตรที่ต่างๆ ไนเรือนั้น คือที่หยู่ของผู้กำกับการและออฟฟิซเซอร์ และที่ไว้สรรพสัตราวุธทั้งปวง แล้วซ้อมยิงตอปิโด ยิงปืนไหย่ถูกโดดลูกแตกถวาย แล้วยิงปืนเล็กถวายอีก ไวซ แอดมิราล เชินสเด็ดประทับโต๊ะเสวยกลางวันไนเรือนั้นพร้อมพระบรมวงสานุวงส์ที่ตามสเด็ดไป และแอดมิราลด้วย เมื่อยิงตอปิโดนั้นที่เรือรบกางข่ายกันตอปิโดด้วย เสวยแล้ว ไวซ แอดมิราล เชินสเด็ดลงซงเรือโบตไปทอดพระเนตรเรือออเดเชียส มีแถวทหานรับสเด็ดทหานแตรเป่าเพลงสันเสินพระบารมี ยิงสลุตถวาย 21 นัด แล้วเชินสเด็ดทอดพระเนตรที่ต่างๆไนเรือนั้น และซ้อมทหานถวายอีก พระเจ้าหยู่หัวโปรดพระราชทานพระบรมรูปและพระรูปสมเด็ดพระนางเจ้า พระรูปสมเด็ดพระเจ้าลูกยาเทอพระองค์ไหย่แด่แอดมิราลและกัปตันลองค์ แต่กัปตันลองค์หาได้รับพระราชทานพระบรมรูปขนาดไหย่ไม่ และทั้งพระรูปสมเด็ดพระเจ้าลูกยาเทอก็หาได้พระราชทานไม่ อนึ่ง เมื่อจะสเด็ดจากเรืออาคาเมนนอนนั้น ซงปลดดินสอมีพระบรมรูปลงยาที่ซงแขวนพระส้อยนาลิกานั้น พระราชทานเปนรางวันแก่กัปตันลองค์ด้วย และเมื่อสเด็ดเข้าไปไนห้อง ไวซ แอดมิราล ไนเรือออเดเชียส พอจะสเด็ดกลับก็ซงปลดพระดุมที่ข้อพระหัถมีอักสรพระนาม พระราชทานแก่ ไวซ แอดมิราล แล้วสเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งโบตมาขึ้นซงเรือสกรู ไนเรือออเดเชียสยิงสลุตถวายอีก 21 นัด ออกเรือพระที่นั่งแล่นกลับเข้ามาถึงทุ่นปากน้ำ สเด็ดขึ้นซงเรือพระที่นั่งเวสาตรี แล่นเข้ามาประทับหน้าป้อมผีเสื้อสมุท จนเวลา 3 ยามออกเรือพระที่นั่งแล่นกลับขึ้นมา

วันอาทิจ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาย่ำรุ่งถึงท่าราชวรดิถ รอเรือพระที่นั่งครู่หนึ่ง ไห้พระประเทียบทั้งปวงที่จะตามสเด็ดขึ้นไปบางปอินซึ่งค้างหยู่ไนพระบรมมหาราชวัง นอกจากที่ตามสเด็ดลงไปปากน้ำนั้นลงเรือต่างๆ แล้วออกเรือพระที่นั่งและเรือตามสเด็ดขึ้นไปพระราชวังบางปอิน เวลาบ่ายโมงสเด็ดขึ้นประทับพระที่นั่งอุทยานภูมิสเถียรไนพระราชวังบางปอิน

วันจันท์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาบ่าย 5 โมงเสส สเด็ดออกท้องพระโรงพักหน้าประตูเทวราชครรไล รับสั่งกับเจ้านายข้าราชการจนเวลาทุ่มเสส สเด็ดขึ้น

วันอังคาร ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาย่ำค่ำเสส สเด็ดออกท้องพระโรงพักหน้าประตูเทวราชครรไล จนเวลาทุ่มเสสสเด็ดขึ้น

วันพุธ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

ไม่มีอะไรไม่สเด็ดออก

วันพรึหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้า โปรดไห้มีการเลี้ยงพระมาคะบูชา ที่วัดนิเวสธัมประวัติ ตามทำเนียม

เวลาค่ำ 2 ทุ่มเสสสเด็ดออกซงเรือพระที่นั่งเก๋งทองทั้งแท่ง ไปประทับวัดนิเวสธัมประวัติ ซงจุดเทียนสักการะนมัสการไพระอุโบสถ พระอมราภิรักขิตถานาปเรียอันดับสวดพระพุทธมนต์และสวดโอวาทปาติโมข พระสงค์สวดมนต์แล้วสเด็ดออกรายเทียนรอบพระอุโบสถ และซงจุดดอกไม้เพลิง แล้วสเด็ดเข้าไนพระอุโบสถ พระอมาภิรักขิตถวายเทสนาโอวาทปาติโมข แต่ยังไม่ทันจบสเด็ดกลับพระราชวัง

วันสุกร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

วันนี้เปนวันจะสเด็ดพระราชดำเนินประพาสลำน้ำเมืองสระบุรี เวลาเช้า 4 โมงเสสสเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งแหวด 10 แจวชื่อ “สุดสงวน” ของสมเด็ดพระเจ้าน้องยาเทอ กรมพระภานุพันธุวงส์วรเดช ออกทางประตูสาครประพาสไปทางคลองหลังเกาะบางปอินไปถึงหน้าวัดชุมพล เรือสกรูจูงเรือพระที่นั่งขึ้นไปตามลำแม่น้ำ เรือประเทียบก็เปนขบวนเรือจูงทั้งสิ้นไปตามลำน้ำจนเวลาบ่าย 3 โมงเสส ถึงปะรำที่ประทับแรมที่นั่นพร้อมด้วยพระประเทียบ และพระบรมวงสานุวงส์ข้าทูนละอองธุลีพระบาทฝ่ายทหานพลเรือน ที่โดยสเด็ดพระราชดำเนินนั้นด้วย

วันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส ออกเรือพระที่นั่งและเรือพระประเทียบ และเรือตามสเด็ดทั้งปวงจากบ้านสดางค์ เปนขบวนเรือแจวขึ้นไปตามลำแม่น้ำถึงปะรำที่ตำบนบ้านช้างเริงราว หยุดประทับร้อนที่นั่นแล้วออกเรือพระที่นั่งต่อไปทาง 82 เส้น จนเวลาบ่ายถึงปะรำประทับแรมที่เมืองสระบุรี ที่หาดหน้าวัดสมุหประดิถ เรือพระที่นั่งประทับที่แล้ว สเด็ดออกปะรำครู่หนึ่งสเด็ดขึ้น

วันอาทิจ แรม 3 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส สเด็ดพระราชดำเนินขึ้นวัดสมุหประดิถพร้อมกับสมเด็ดพระนางเจ้าและข้างไนทั้งปวง พระครูพุทธฉายาภิบาลกับพระสงค์มารับสเด็ดหยู่ที่สาลาการปเรีย ซงพระราชอุทิสพระราชทานเงินเปนมูลค่ากัปปิยะภันท์แก่พระครู 2 ตำลึง ถานานุกรมและอันดับรวม 11 รูปๆ ละ 1 ตำลึง แล้วสเด็ดเข้าไนพระอุโบสถ แล้วสเด็ดไปประพาสบ้านสาวไห้ ประพาสตลาด และที่ต่างๆ แล้วสเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งคอนโดเลอร์ 4 แจวขึ้นมาตามลำแม่น้ำทาง 39 เส้น ถึงปะรำประทับแรมเมื่อคืนนี้นั้น แล้วสเด็ดขึ้นซงเรือพระที่นั่งแหวดสุดสงวนออกจากที่นั้น พร้อมด้วยพระประเทียบและขบวนทั้งปวงไปตามลำแม่น้ำทาง 95 เส้น ถึงปะรำหาดเขาแก้วหยุดประทับร้อนที่นั้นประมานครึ่งโมง แล้วออกเรือพระที่นั่งกับขบวนทั้งปวง ทาง 101 เส้น เวลาเย็นถึงตำบนบ้านเพรียว สเด็ดประทับเรือพระที่นั่งไนปะรำประทับแรมที่กลางแก่งเพรียว สเด็ดออกซงพระราชดำหริไนการที่จะสเด็ดพระราชดำเนินพระพุทธฉาย แล้วสเด็ดขึ้น

วันจันท์ แรม 4 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาย่ำรุ่งเสส สเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งคอนโดเลอร์ ข้ามฟากไปประทับท่าตรงปะรำ สเด็ดขึ้นขบวนพระประเทียบขึ้นพระวอและเก้าอี้หามเดินขึ้น นะ วัดพระพุทธฉาย ตำบนเขาลม แล้วพระเจ้าหยู่หัวสเด็ดซงพระราชดำเนินขึ้นไปตามระยะทาง ประทับพักเปนระยะ ๆไป แต่กรมการนำสเด็ดไปทางอ้อมหาไปตามทางที่ตรงไม่ ประมานทาง 200 เส้นเสส เวลาเช้า 4 โมงเสสถึงพระฉาย สเด็ดขึ้นไปนมัสการแล้วประทับหยู่ที่นั้น ครั้นถึงเพนสเด็ดซงประเคนพระสงค์ซึ่งจำพรรสาไนวัดพระพุทธฉายนั้นรับพระราชทานฉัน และซงธัมกันท์ 1 ประทับจนเวลาบ่าย 3 โมงเสส สเด็ดขึ้นไปประพาสบนยอดเขาที่มีมนดปพระพุทธบาท ทอดพระเนตรดงจากยอดเขานั้นแล้วสเด็ดกลับ ซงพระราชยานลงมาทำเพรียว ประทับแรมที่ปรรำนั้น

วันอังคาร แรม5 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส สเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งคอนโดเลอร์ ข้ามฟากไปขึ้นที่ท่าเพรียวตรงพลับพลาข้าม ซงพระราชดำเนินไปประพาสบ้านเพรียว แล้วสเด็ดกลับประทับเรือพระที่นั่งสุดสงวน ออกเรือพระที่นั่งจากที่นั้นไปทาง 128 เส้น ถึงปะรำที่ประทับร้อนตำบนบ้านคอก หยุดประทับร้อนครู่หนึ่งสเด็ดต่อไปอีกทาง 214 เส้นถึงตำบนตาลเดี่ยว เทียบเรือพระที่นั่งประทับแรมที่ปะรำพร้อมด้วยเรือพระประเทียบทั้งปวง

วันพุธ แรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้า ออกเรือพระที่นั่งจากปะรำที่ประทับแรมตำบนตาลเดี่ยวไปตามลำน้ำทาง 147 เส้น ถึงที่ประทับร้อนตำบนแก่งคอย รอเรือพระที่นั่งที่ปะรำครู่หนึ่ง แต่หาได้หยุดประทับไม่ เพราะจะรีบไห้ได้ขึ้นแก่งเสียไห้หมด จึ่งออกเรือพระที่นั่งขึ้นแก่งคอย แล้วเรือพระประเทียบทั้งปวงก็ขึ้นตามกันไปแล้วเดินขบวนต่อไป ทาง 201 เส้นถึงปะรำที่ประทับแรมตำบนท่าตูม เทียบเรือพระที่นั่งและเรือพระประเทียบประทับเรือแรมที่นั้น

วันพรึหัสบดี แรม 7 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าย่ำรุ่งเสส สเด็ดพระราชดำเนินโดยสถลมาค ขบวนพระประเทียบนั้นซงพระวอบ้าง วอประเวสวังเก้าอี้หามพระบาทสมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวซงพระราชดำเนินตามทางเข้าไนดงต่อไป รวมทาง 84 เส้นถึงที่พระบาทไหม่ ประทับพักไนปะรำทอดพระเนตรบ่อน้อยที่น้ำมีหยู่เสมอวิดไม่แห้ง และซงจุดเทียนนมัสการพระบาทไหม่ แล้วสเด็ดพระราชดำเนินไปประพาสถ้ำมะขาม ถ้ำมะเกลือ แล้วสเด็ดขึ้นซงพระราชยานกลับลงมาพลับพลา ประทับแรมที่นั้นอีกคืน 1

วันสุกร์ แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส สเด็ดพระราชดำเนินโดยทางสถลมาคเหมือนวานนี้ ไปประพาสเขาคอกทาง 66 เส้น สเด็ดประทับไนปะรำแล้วขึ้นไปประพาสถ้ำอิเหนา ฉายพระรูปที่นั้น เวลาเช้า 5 โมงเสส สเด็ดขึ้นซงพระราชยานตัดทางไปลงที่ตำบนท่าคร้อทาง 33 เส้น สเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งคอนโดเลอร์ประทับที่ปะรำซึ่งประทับแรม เวลาบ่ายสเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งคอนโดเลอร์ขึ้นไปประพาสตามลำแม่น้ำ ขึ้นไปจนพ้นท่าประดู่แล้วกลับที่ประทับแรมตำบนท่าคร้อ ประทับแรมที่นั่น

วันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าออกเรือพระที่นั่งจากท่าคร้อไปตามระยะทาง ถึงปะรำหน้าถ้ำพระ หยุดประทับร้อนที่นั้น แล้วสเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งมาประทับหน้าถ้ำหมี สเด็ดเข้าประพาสไนถ้ำนั้นจนตลอดถึงที่บ่อน้ำขวางหยู่ แล้วสเด็ดกลับลงซงพระที่นั่งไปประทับท่าขึ้นถ้ำพระสเด็ดขึ้นไปประพาสบนถ้ำ แต่พระประเทียบหาได้ขึ้นไม่เพราะสูงชันต้องปีนกะไดขึ้นไป ครั้นประพาสแล้วสเด็ดกลับลงซงเรือพระที่นั่งแหวดสุดสงวนสเด็ดพระราชดำเนินต่อไปประทับปะรำหน้าถ้ำผาสอาง แล้วสเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งออกต่อไปทาง 319 เส้น เวลาบ่าย 4 โมงเสสถึงที่ประทับแรมตำบนหินซ้อน ประทับแรมที่นี้คืนหนึ่ง

วันอาทิจ แรม 10 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส ออกเรือพระที่นั่งล่องลงมาจากตำบนหินซ้อนมาถึงท่าคร้อทาง 319 เส้น หยุดประทับร้อนที่นั่นครู่หนึ่งแล้วออกเรือพระที่นั่งล่องลงมาพร้อมด้วยเรือทั้งปวง ทางอีก 233 เส้นถึงพลับพลาที่ประทับแรม ตำบนบ้านหาด เหนือแก่งคอย หยุดประทับแรมที่นั้น สเด็ดออกตามเคยแล้วสเด็ดขึ้น

วันจันท์ แรม 11 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส ออกเรือพระที่นั่งจากปะรำบ้านหาดล่องลงมาแก่งคอยและต่อลงมาทาง 167 เส้นเสส เวลาบ่าย 2 โมงเสสถึงปะรำที่ประทับร้อนตำบนตาลเดี่ยว หยุดประทับร้อนที่นั้น มีกรมการมาถวายของและพาพวกลาวที่เลี้ยงตัวไหมมานำถวาย ประทับหยู่ประมานครึ่งชั่วโมงแล้วออกเรือพระที่นั่งต่อไปทางอีก 214 เส้น เวลายามเสสถึงพลับพลาประทับแรมตำบนบ้านคอก หยุดประทับแรมที่นั้นคืนหนึ่ง

วันอังคาร แรม 12 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

วันนี้ประทับหยู่ที่พลับพลาตำบนบ้านกอกอีกคืนหนึ่งเพราะวานนี้ติดแก่งและทางไกล ผู้คนเหน็ดเหนื่อยมาก จึ่งโปรดไห้พักวันหนึ่ง

วันพุธ แรม 13 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เช้าโมงเสสออกเรือพระที่นั่งจากตำบนบ้านกอก ล่องลงมาตามลำแม่น้ำทาง 128 เส้น เวลาเช้า 5 โมงเสสถึงพลับพลาที่ประทับร้อนตำบนปากเพรียว หลวงชลภูมิพานิช หลวงบำรุงรัตนบุรี ไปคอยเฝ้าถวายของอยู่ที่นั่น แล้วล่องเรือพระที่นั่งต่อมาทาง 101 เส้น เวลาบ่าย 2 โมงเสสถึงที่ประทับแรมตำบนเขาแก้วอีกคืนหนึ่ง

วันพรึหัสบดี แรม 14 ค่ำ เดือน 3 ปีระกาสัปตสก จุลสักราช 1247

เวลาเช้าโมงเสส สเด็ดพระราชดำเนินขึ้นนมัสการวัดเขาแก้ว สเด็ดไนพระอุโบสถ พระสงค์ลงมารับสเด็ดหยู่ที่นั่น ซงพระกรุนาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานวัตถุกัปปิยะมูลค่า 5 ชั่งช่วยซ่อมแซมพระอาราม แล้วสเด็ดประพาสไนที่ทั้งปวงแล้วสเด็ดกลับประทับพลับพลาประรำ สเด็ดลงซงเรือพระที่นั่งคอนโดเลอร์ล่องลงมาตามลำแม่น้ำ พอพ้นที่ตื้นสเด็ดขึ้นซงเรือพระที่นั่งแหวดสุดสงวนเดินขบวนลงมาทาง 94 เส้น หยุดประทับร้อนปะรำหาดหน้าวัดสมุหประดิถ เมืองสระบุรีครู่หนึ่ง ออกเรือพระที่นั่งเรือขบวนต่อไปจนถึงแก่งบ้านม่วง เรือไฟเล็กจูงลงมา รวมทางแต่เมืองสระบุรีมา 282 เส้น บ่าย 3 โมงเสสถึงปะรำประทับแรมบ้านช้างเริงราง ประทับแรมที่นี่คืนหนึ่ง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ