พุทธศักราช ๒๔๒๗

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นเช้าโมงนาน กินข้าวแล้วอ่านหนังสือ สามโมงเช้าเจ้าเข่งมาบอกให้เราไปเลี้ยงพระที่อมรินทร์ พระฉันแล้วมาคอยทูลหม่อมบนอยู่ที่ท้องพระโรง เจ้านายผู้ใหญ่มีเสด็จยายแม้นเขียนเป็นหัวหน้า เสด็จมาคอยถวายผ้าคู่และสรงน้ำพระบรมอัฐิ ทูลหม่อมเสด็จลงทรงทักทายเจ้านายแล้ว เสด็จหอพระก่อน สรงน้ำพระแล้วเสด็จหอพระอัฐิ สรงน้ำพระบรมอัฐินั้นทรงจับมือเราสรง แล้วรับสั่งพระนามให้เราฟังทุกพระโกศ เราชาว่าพระโกศสมเด็จพระรูปศิริโสภาคมหานาคนารีว่าพระโกศสมเด็จป้า รับสั่งว่าไม่ใช่ แล้วทรงหยิบพระรูปขึ้นมา เราพึ่งได้เห็นวันนี้ แล้วเสด็จออกมาสรงข้างนอก มีสมเด็จพระมาตาอยู่ที่นั่นด้วย รับสั่งกับเราว่าจำไว้ นี่แหละตาของพ่อ เสด็จมาทรงจุดเทียนที่พระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จออกทรงจุดเทียน เลี้ยงข้าวแช่พระ ห้าโมงนานเสด็จออกไปสรงมูรธาภิเษกหน้าเก๋งราชฤดี แล้วเสด็จกลับมาสดับปกรณ์ผ้าคู่กับขวดน้ำพระบรมอัฐิ เชิญไปตั้งไว้บนพระเศวตฉัตร สดับปกรณ์แล้วเสด็จขึ้น

บ่ายโมงนานเสด็จไปเปิดหอพระสมุดวชิรญาณ เราตามเสด็จ ค่ำไปตามเสด็จวัดพระแก้ว ประทับพุทธมณเฑียร ทรงนมัสการพระพุทธบุษยรัตน์แล้ว เสด็จทางประตูแถลงราชกิจ ทรงพระราชยานไปประทับวัดพระแก้ว เรานั่งไปบนพระเพลาทูลหม่อมบน ประทับทรงนมัสการบนหอพระอุโบสถก่อนจึ่งเสด็จหอราชกรมานุสรณ์และหอราชพงษานุสรณ์ หอพระนาก ทรงพระสุหร่ายพระบรมอัฐิเจ้านายต่างกรม พระองค์เจ้า แล้วทรงอุ้มเราขึ้นประสุหร่าย รับสั่งว่าพี่น้องของเราทั้งนั้น เสด็จกลับยามนาน เสด็จขึ้นทางพระที่นั่งจักรี เรากลับมาอาบน้ำแล้วเล่าถวายสมเด็จแม่ แล้วมานอนเล่าให้ป้าโสมฟัง นอนยามนาน ฟังหนังสือราชประวัติของทูลหม่อมปู่ ซึ่งป้าโสมได้ยืมมาจากหอพระสมุดวันนี้.

วันอังคาร วันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นเช้าโมงหนึ่ง กินข้าวแล้วอ่านหนังสือ เที่ยงแล้วสมเด็จแม่เสด็จกลับจากบน ทูลหม่อมบนก็เสด็จลงมาที่ตำหนัก วุ่นกันใหญ่ สมเด็จแม่ประทับทรงเครื่อง เราปอกข้าวต้มถวายให้เสวย ยังไม่ประสูติ เราไปเฝ้าทูลหม่อมบนบนโน้น ที่มุขเจ้านายผู้หญิงมากันมาก ลุงจักษ์กับเสด็จลุงเทวัญก็มาอยู่ที่หอ เย็นเราไปกินข้าวกับทูลหม่อมบน กลับลงมาเฝ้าสมเด็จแม่ ยังไม่ประสูติ เรามาอาบน้ำ นอนทุ่มหนึ่ง ฟังหนังสือเรื่องบุนทนาวงศ์ของเสด็จน้าเสาวภาคยืมมาจากหอสมุด

วันพุธ วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนโมงนาน อาบน้ำแล้วไปดูเสด็จลุงที่หอ ไม่ได้เสด็จอยู่ เห็นแต่องค์สายนอนหลับอยู่คนเดียว กินข้าว อ่านหนังสือ แล้วเฝ้าทูลหม่อมบน เรามานอนกลางวัน ตื่นบ่ายสามโมงนาน บ่ายสี่โมงกับห้าสิบสี่มินิตสมเด็จแม่ประสูติน้องหญิง เราไม่ตื่น เราชอบน้องผู้ชายมากกว่า เราออกไปเฝ้าเจ้านายผู้หญิงที่มุข ลุงจักษ์ตั้งพระแท่น เสด็จลุงเทวัญเป็นผู้ห้อยกระโจม ทูลหม่อมอาก็เสด็จเข้ามา ทูลหม่อมบนท่านทรงบอกประโคมเอง แล้วเสด็จขึ้นไปหยิบจอกน้ำที่บนมาประทาน ให้เสด็จน้าเป็นผู้ประทาน เสร็จแล้วเสด็จขึ้นไปเสวย เราตามขึ้นไปกินบนโน้น แล้วกลับลงมาเปิดดูน้อง สมเด็จแม่ประทมหลับ เรานอนสี่ทุ่ม.

วันศุกร์ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นเช้าโมงหนึ่ง เล่นตุ๊กตาหมุนของทูลหม่อมอา กินข้าวแล้วสมเด็จแม่รับสั่งให้หา เราไปเฝ้าท่าน พอทูลหม่อมบนประทมตื่นเราขึ้นไปเฝ้า เสด็จขึ้นแล้วเราลงมาเล่น บ่ายแต่งตัวไปบน พันแขนดำด้วย เฝ้าในห้องเขียว เสด็จน้าขึ้นไปตั้งเครื่องเสวย เสวยเสร็จทรงเครื่องลงมาสมโภชน้องเล็ก เราเชิญพานสายสิญจน์ พี่รพีพัฒน์เชิญหีบพระมหาสังข์ เราเดินตามเสด็จมาเองตั้งแต่บนจนถึงพระตำหนัก ประทับตรัสกับขุนนางที่กลางชาลาแล้วเสด็จไปที่ห้องรับแขกเจ้านาย เสด็จลุงเสด็จอยู่ในนั้น ต่างกรมผู้ใหญ่ไม่เห็นเสด็จมา ทูลหม่อมบนเสด็จเข้ามาที่มุข ประทับพระเก้าอี้ รับสั่งให้เจ้าคุณคลี่เป็นผู้อุ้ม น้องหญิงออกมานั่งทำขวัญ เจ้านายผู้หญิงมีเสด็จน้าเป็นต้น นั่งเก้าอี้เวียนเทียน พราหมณ์ทำขวัญแล้วทูลหม่อมบนทรงเจิมน้องหญิง ทูลหม่อมอาองค์ใหญ่ ทูลหม่อมอาองค์น้อย เสด็จลุงเทวัญมาเจิม เจิมแล้วทูลหม่อมอาองค์ใหญ่ได้ประทานกล้องสูบอันหนึ่ง พระยาพลเทพ เจ้าพระยามหินทร์ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์มาเจิม เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์งุ่มง่ามใหญ่ ไม่เห็นตลับแป้งเจิม จนเราชี้ให้แล้วก็ยังคลำไม่ถูก ทูลหม่อมบนทรงรดน้ำสังข์เจิมประทานเราด้วย เสด็จเข้าไปทรงรดสมเด็จแม่แล้วเสด็จขึ้น เราตามเสด็จขึ้นไป กลับลงมากินข้าวเย็นแล้วทำบุหงาร้อยมาลัยถวายเสด็จแม่ แล้วเล่นไพ่ยายแก่ นอนสี่ทุ่ม.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นเช้าก่อนโมง กินข้าวแล้วไปอ่านหนังสือ อ่านในห้องโอฟิต พระศรีสุนทรเป็นผู้สอน เสด็จอาดิศมากำกับด้วย เราอ่านสองโมงเช้า สองโมงนานเลิก ให้อ่านนิดเดียวแต่นโมเท่านั้น เสด็จอาดิศชมเราใหญ่ ครูก็ชมว่าเราไม่ร้องไห้ พี่กิติยากรครูระอา ร้องไห้ทุกวันเกือบเดือน แล้วเรากลับตำหนัก บ่ายห้าโมงไปบน เฝ้าในห้องเขียว เสด็จไปเก็บใบไม้มงคลที่สวนสวรรค์ แล้วเสด็จลงสมโภชน้องหญิงลูกเจ้าสาย เราเชิญพานดวงชาตากับสายสิญจน์เดินตามเสด็จจนถึงดวงชาตาใส่หีบทอง สมโภชแล้วเสด็จขึ้น เรากลับตำหนักกินข้าวเย็น สองทุ่มนานเฝ้าที่มาบอกเรา ว่าทูลหม่อมบนไม่เสด็จพุทธรัตน รับสั่งให้เราไปจุดเทียน เราแต่งตัวไป น้องหญิงใหญ่ตามเราไปด้วย จุดเทียนแล้วมาจุดดอกไม้ กลับมาตำหนัก นอนเกือบห้าทุ่ม.

วันอังคาร วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

สองโมงนานเราไปอ่านหนังสือวันนี้ อ่านกด น้องหญิง (ใหญ่) ไปอ่านก่อนเรา สามโมงนานกลับตำหนัก น้องชายโตตามมาด้วย บ่ายห้าโมงไปบนเฝ้าในห้องไปรเวต ทีหลังสมเด็จแม่รับสั่งใช้เราไปเชิญเสด็จลุงเทวัญมาเฝ้าทูลหม่อมบน เสด็จลุงกลับออกไป เราตามไปด้วย ให้เสด็จอาจิตรเจริญเขียนรูปภาพ เล่นเพลินจนฝนตก ยามนานฝนหายเรากลับตำหนัก นอนสี่ทุ่มนาน.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นแต่เช้า กินข้าวแล้วไปอ่านหนังสือ กลับจากอ่านหนังสือสองโมงนาน สี่โมงพระมา เราจุดเทียน พระฉัน ถวายของไทยทาน พระไปแล้ว ทรงเครื่องน้องหญิง เสด็จลุงเทวัญจดมีด ทรงช้าเต็มทีไม่ใช่คนที่เคยทรง ๆ บ่ายเรานอนกลางวันแล้วแต่งตัวไปบน บ่ายห้าโมงเสด็จขึ้นจากข้างหน้า เสด็จลงมาที่เรือนเรา ขุนนางยืนเฝ้าที่กลางชาลา เจ้านายต่างกรมและเสด็จลุง เสด็จอาประทับที่ห้องรับแขก ทูลหม่อมบนทรงทักเจ้านายขุนนางแล้ว เสด็จประทับที่มุข รับสั่งให้เจ้าคุณคลี่อุ้มน้องหญิงออกมาสรงน้ำ แล้วเวียนเทียน พราหมณ์ทำขวัญตามเคย แล้วทูลหม่อมบนทรงผูกมือ รดน้ำสังข์ เจิมแล้วรับสั่งให้เชิญเจ้านายต่างกรมเสด็จมาทรงเจิม แล้วมาถึงขุนนาง เจ้าพระยาพลเทพ เจ้าพระยามหินทร์ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ตามเคย พอเจิมกันเสร็จแล้ว พระครูพราหมณ์รับน้องหญิงจากเจ้าคุณคลี่ วางในอู่ พราหมณ์เห่คนเดียวก่อน แล้วเป่าสังข์ครบสามครั้งจึงเห่ทั้งสองคนอีกครั้งหนึ่ง เห่แล้วมีขับไม้๑๐ น้องหญิงของเรานี้ทูลหม่อมบนประทานนามว่า เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี เจ้านาย ขุนนาง ข้าราชการ ฝ่ายหน้าฝ่ายในมีทองรูปพรรณบ้าง เงินบ้าง สมโภชตามเคย เสด็จขึ้น เราเชิญพานตามเสด็จไปแล้วกลับตำหนัก กินข้าวแล้วนอนสี่ทุ่ม.

วันอังคาร วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๗

สองโมงเช้าไปอ่านหนังสือ เลิกสามโมงนาน ให้แก้ว๑๑เกล้าจุกแล้วกลับมาตำหนัก บ่ายสี่โมงนานไปบน เฝ้าที่ออกขุนนาง เสด็จขึ้นเกือบค่ำ เสด็จลงสมโภชน้องชายลูกทิพย์เกษร ทูลหม่อมบนประทานชื่อว่า ดิลกนพรัฐ๑๒ สมเด็จแม่ทรงแปลประทานเราว่า ศรีเมืองเชียงใหม่ สมโภชเสร็จเสด็จขึ้นที่หอ ประทับตรัสกับเจ้านาย ทูลหม่อมอาองค์น้อยก็เสด็จมา เรากลับมาตำหนักนอนสี่ทุ่ม ฟังป้าโสมอ่านหนังสือสามก๊ก.

วันศุกร์ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๗๑๓

เช้าไปอ่านหนังสือ บ่ายสามโมงนานไปบน เฝ้าในห้องเขียว ทูลหม่อมบนประทานของวันเกิดเรา เสื้อสี่สำรับกับเครื่องโต๊ะเติมมาใหม่อีกกับของเล่น ย่ำค่ำเราออกไปนั่งคอยอยู่ที่พระที่นั่งมูลสถาน แต่งตัวของได้ประทานวันนี้ ทูลหม่อมบนเสด็จขึ้น รับสั่งว่าเรายังไม่ได้รดน้ำสังข์ เราตามเสด็จไปในที่ ทรงรดน้ำสังข์ เจิมประทานเรา แล้วเสด็จมาห้องเขียว เสด็จลงไปที่เลี้ยงโต๊ะที่เราเชิญ ยี่สิบเอ็ดองค์เสด็จมาประชุมนั่งโต๊ะแต่ยี่สิบ พี่หญิงสุธาทิพยรัตนประชวร เลี้ยงเสร็จมีการเล่นตลก สนุกดีมากกว่าคราวก่อน ทูลหม่อมบนประทานเงินให้เรารางวัลคนละแปดบาทสามคน สี่บาทคนหนึ่ง ยามนานเลิก เรากลับตำหนัก เล่นของเล่น นอนห้าทุ่ม วันเกิดของเราคราวนี้ทหารแตรสก๊อตมาเป่า เสด็จลุงเทวัญประทานดินสอทองเราทำขวัญวันเกิด.

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นเช้าก่อนโมง กินข้าวต้มแล้วแต่งตัวตามเสด็จสมเด็จแม่ไปลงเรือเวสาตรีไปบางปอิน ตามเสด็จคราวนี้พี่น้องเราไปหมดเจ็ดคนทั้งเรา เราใส่เสื้อกำมะหยี่สีเขียว ใส่หมวกของเสด็จลุงกรมหมื่นนเรศฝากมาให้ โมงหนึ่งทูลหม่อมบนเสด็จลงเรือพระที่นั่ง ทรงทักเราว่าแต่งตัวเหมือนรอบินฮู้ด ทรงกอดเราแล้วรับสั่งเรียกว่ารอบินฮู้ดเอย ถ้าถือธนูเสียด้วยจะดีทีเดียว ถึงบางปอินเวลาประมาณบ่ายโมง เรือเวสาตรีต้องหยุดอยู่ที่ด่านบางไทร น้ำน้อยต้องเสด็จเรือไฟเล็กไปถึงวัง หลวงนายศักดิ์อุ้มเราขึ้นมาส่ง เราเดินมาบ้าน นายอยู่กับน้องหญิงเล็กที่บนพระที่นั่ง แดดร้อนมากมาไม่ได้ บ่ายโมงนานป้าโสมมาถึง เราดีใจวิ่งมารับ ย่ำค่ำตามเสด็จสมเด็จแม่ไปวัดนิเวศน์ทรงถวายพุ่ม ดอกไม้ธูปเทียน แล้วเสด็จเที่ยวรอบวัดแล้วเสด็จกลับ เราตามเสด็จกลับมาแล้วตามทูลหม่อมบนเก็บดอกไม้ในวัง ดอกราตรีบานมาก ทูลหม่อมบนทรงเก็บเอง แล้วฝากเรามาประทานสมเด็จแม่ เรากินข้าวแล้วนอนสองทุ่ม.

วันอังคาร วันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๗

โมงนานไปอ่านหนังสือ ป้าโสมให้ไปตามเรามาว่าทูลหม่อมบนรับสั่งให้เราไปเฝ้าในที่ ประทานหนังสือนิทานเรื่องคนไปนอนกับหมี ทูลหม่อมบนทรงแปลเอง รับสั่งให้ไปวานพระศรีสุนทรคัดตัวงาม เราจะได้อ่าน เราเอามาให้พระศรีสุนทร แล้วเราอ่านอยู่จนบ่ายโมงหนึ่ง เรากลับโอฟิตแล้วตามเสด็จเข้ามา ทูลหม่อมบนประทับเสวยในห้องเขียว แล้วเสด็จไปตำหนักเสด็จน้า เราลงมากินข้าวที่ห้องเครื่อง๑๔แล้วกลับเรือน นอนสองทุ่มนาน.

วันพุธ วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นสองโมงเช้า สี่โมงเช้าแต่งตัวไปคอยเลี้ยงพระที่ห้องเหลือง ทูลหม่อมเสด็จออก พระเจ้ามาฉันห้าโมงมีเศษ สมเด็จแม่สรง สรงแล้วเสด็จมาถวายของพระ ทูลหม่อมประทานแมลงมุมกลางพลอยอย่างใหม่ ตีนประดับเพชรเป็นเข็มกลัดพระศอ งามน่าเอ็นดู กับเงินเฟื้องที่จะทรงแจกทาน แล้วมีเทศน์สี่กัณฑ์ ทุ่มนานเลี้ยงโต๊ะเจ้านายผู้หญิง๑๕ เชิญเจ้านายวังหน้ามาประชุมด้วยเจ็ดพระองค์ รับที่ห้องเหลือง เลี้ยงที่พระที่นั่งมูลสถาน เสวยเสร็จแล้วเสด็จมาบนห้องเหลือง ทูลหม่อมประทานของสมเด็จแม่ทรงแจกเจ้านาย เลิกสองยามเรากลับมานอน.

วันพุธ วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๗

สองโมงเช้าไปอ่านหนังสือ อ่านแล้วกลับมาตำหนัก บ่ายสี่โมงไปบน เฝ้าในห้องเขียว แล้วตามเสด็จทูลหม่อมบนไปดูคเชนทรัศวสนาน๑๖ วันนี้ทหารมาก ทหารลุงจักษ์๑๗ก็มาแห่ด้วย เสด็จขึ้น เรากลับมาตำหนัก กินข้าวแล้วฟังคุณยายอ่านหนังสือ เรานอนสองทุ่มนาน.

วันจันทร์ วันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๗

สองโมงเราไปอ่านหนังสือ ครูยังไม่มา เราลงไปดูน้องชายโตที่สนามหญ้า แกกลัวปืน แก้วเอาประทัดมาจุดจะให้แกหายกลัวของต่าง ๆ แล้วเราขึ้นมาอ่านหนังสือ เราให้เงินหลวงแขไปเฟื้องหนึ่งให้ซื้อประทัดลม หลวงแขตื่นกลัวไม่ให้เอาเข้ามาเล่น เราให้ไปเอามาจงได้ แล้วเรากลับมาตำหนัก ปาเล่นสนุก บ่ายป้าโสมให้เราอ่านนิทานเรื่องเจ้าองค์หนึ่งกับตุลาการ เราอ่านแล้วเราอุปมาความเปรียบได้ ป้าโสมรางวัลตุ๊กตาเราตัวหนึ่ง แล้วเราแต่งตัวไปบนเฝ้าในห้องเขียว เสวยแล้วเสด็จออกขุนนาง เราตามเสด็จไปออกขุนนาง แล้วเสด็จโรงทหารหน้า๑๘ที่ทำขึ้นใหม่ ใหญ่โตกว้างขวางสนุกมาก หลวงนายศักดิ์อุ้มเราไปไม่ไหวเหนื่อยหอบ เราต้องเดินตามทูลหม่อมบนเอง เสด็จกลับฝนตกผ้าเราเปียก เสด็จขึ้นแล้วเรามากินข้าว เสด็จน้าชวนเราไปเฝ้าทูลหม่อมย่า เราตามเสด็จเสด็จน้าไป น้องชายเล็กกลัวทูลหม่อมย่าร้องไห้ใหญ่ ยามหนึ่งกลับมาตำหนัก นอน.

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นโมงนาน เที่ยงแล้วแต่งตัวไปบน คอยอยู่ที่พระที่นั่งจักรี บ่ายโมงหนึ่งทูลหม่อมบนเสด็จทรงเครื่องจักรี ป้าโสมชาไม่รู้ ไม่ได้แต่งให้เรา ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าทำไมเราไม่แต่งเครื่องจักรีวันนี้ เขานัดกันแต่งทั้งนั้น ป้าโสมต้องให้เอาของตามไปผลัดใหม่ หลวงนายศักดิ์เป็นผู้แต่งให้เรา กฐินวันนี้ วัดพระเชตุพนที่หนึ่ง วัดราชบูรณะเป็นที่สอง พอเสด็จออกจากวัดที่สองฝนตก ถึงวัดราชบพิธที่สามฝนตกมาก เราเป็นผู้เลี้ยงและแจกของ รับสั่งให้เราถวายบริขารด้วย ทูลหม่อมบนเสด็จกลับทางประตูแถลงราชกิจ เสื้อกังเกงเปียกกันใหญ่เป็นเวลาฝนด้วย เรากลับมาถึงตำหนักบ่ายสี่โมงเศษ แล้วเรามาเล่นที่มุข นอนสองทุ่ม

วัดสุทัศน์ที่สี่นั้นไม่ได้เสด็จ พระราชทานทูลหม่อมอาองค์ใหญ่.

วันจันทร์ วันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ก่อนโมงลงไปอาบน้ำ แล้วมาแต่งตัวไปตามเสด็จกฐิน ทูลหม่อมบนทรงเครื่องแล้วเสด็จเรือไฟ๑๙ ประทับเกือบจะถึงวัดเชิง๒๐ ทรงเรือพระที่นั่งศรี ประทับวัดสุวรรณ ทรงทอดพระกฐิน แล้วทรงแจกธูปเทียนเจ้านายแต่บรรดาที่ตามเสด็จทุกพระองค์ให้บูชาพระ รับสั่งว่าเป็นธรรมเนียมมา ทูลหม่อมปู่ก็เคยทรงแจกมาเหมือนกัน เจ้านายข้างหน้ามาก็ต้องบูชาทุกคน แล้วเสด็จไปทอดพระเนตรพระวิหาร แล้วเสด็จกลับมาเรือกลไฟ ประทับหน้าวังจันทร์ ทรงพระราชยาน สมเด็จแม่กับเสด็จน้าทรงพระวอตามเสด็จในกระบวนทั้งสองพระองค์ ประทับวัดเสนาสน์ สมเด็จแม่ทรงทอดพระกฐิน แล้วเสด็จวิหารพระไสยาสน์ เสด็จวิหารพระอินทร์แปลง มีที่เด็กเรียนหนังสือ ทูลหม่อมรับสั่งให้เสด็จอาดิศเอาเงินไปแจกคนละสลึง ที่ตะพานหน้าวังจันทร์ราษฎรมาถวายของ ที่หน้าวัดพวกอุบาสิกาอุบาสกก็มาถวายของ ทรงแจกเงินทั่วกันหมด แล้วเสด็จมาประทับวังจันทร์ ทรงจุดธูปเทียนนมัสการทูลหม่อมปู่แล้วทอดพระเนตรในวัง เสด็จกลับ ทรงเรือนกบินมาประทับวัดบรมวงศ์ เสด็จน้าทรงทอดพระกฐิน แจกของ แจกเงิน ที่วัดนี้ แล้วเสด็จพระวิหาร วัดนี้สมเด็จตาท่านเป็นเจ้าของ เสร็จแล้วเสด็จกลับถึงวัง (บางปอิน)

เวลาค่ำ เรากินข้าวที่ปะรำหน้าบ้านแล้วอาบน้ำ กลับขึ้นมานอนสองทุ่ม กฐินวันนี้เป็นกระบวนข้างในทั้งสามวัด.

วันพุธ วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นก่อนย่ำรุ่ง ไปปลุกป้าโสมที่ห้อง แล้วป้าโสมอุ้มไปอาบน้ำที่ตะพาน เห็นเรือเก๋งและเรืออื่นอีกหลายลำพายเข้ามาในสระ เรารีบแต่งตัวไป ทูลหม่อมบนรับสั่งให้เรากับน้องไปเรือคอนโดเล่อตามเสด็จ เรือแจวข้ามลำน้ำไปเล่นทุ่งบ้านแป้ง สนุกมากกว่าทุกวัน น้องชายน้อยก็ไปด้วย เราได้ถอนดอกบัวเอง แล้วมาพักที่เรือพระที่นั่งเหลืองกับเรือสิบแจวเทียบกันเข้า เราอาบน้ำแล้วเล่นอยู่บนเรือใหญ่ เรือพวกที่เล่นทุ่งยังมาไม่พร้อมกันหลายลำ น้าแข น้าเสาวภาค น้าประดิษฐาด้วย ลำหนึ่งยังไม่มา หายไป ทูลหม่อมบนรับสั่งให้พระยามหามนตรีไปตาม มีราษฎรมาถวายของลำหนึ่ง ทูลหม่อมบนท่านรับสั่งเรียกว่ามิสซิสแก๊บ ได้ประทานเงินด้วย พาลูกหลานลงเรือมาหลายคน แจกเงินทุกคน เมื่อเสด็จกลับทูลหม่อมบนเสด็จเรือที่เราไป เรามาเรือเหลือง ถึงวังราวบ่ายโมงหนึ่ง บ่ายเสด็จเล่นทุ่งอีก เราไม่ได้ไป ทูลหม่อมบนเสด็จเพียงประตูน้ำเท่านั้น ฝนตกมากต้องเสด็จกลับ เรากินข้าวเย็นแล้วนอนทุ่มหนึ่ง.

วันเสาร์ วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นยิงปืน๒๑ ให้ไปตามป้าโสมมาจากตำหนัก สามโมงเช้าแต่งตัวไปบน คอยอยู่ที่ทรงบาตร ทูลหม่อมบนเสด็จลงทรงบาตร แล้วเสวยพระกระยาหารต้มในสวน๒๒ แล้วเสด็จออกเลี้ยงพระที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พราหมณ์ถวายน้ำสังข์ เสด็จขึ้นเกือบเที่ยง เรากลับมาตำหนักกินข้าวกลางวัน ฝนตกแต่ไม่มากนัก ค่ำไปบน เฝ้าในห้องเขียว รับสั่งให้ไปมีเทศน์ เราไปจุดดอกไม้ (ไฟ) แล้วมีเทศน์ พระอริยกวีเทศน์กฐินทาน เราฟังเข้าใจ เทศน์จบสองทุ่ม ถวายของพระแล้ว เรากลับมาบนพระที่นั่ง แล้วลงไปลอยเรือเล่นในอ่างแก้ว๒๓ ป้าโสมตกน้ำอ่างแก้วเราหัวเราะใหญ่ หญิงสุหร่ายวิ่งมาหมายว่าเราตกลงไป แล้วเราขึ้นมานอน จวนทูลหม่อมบนเสด็จลงแพ ป้าโสมปลุกเรา แต่งตัวตามเสด็จทูลหม่อมบน ในเดือนสิบสองนี้มีเรืออนันตนาคราช เรือไชยสุวรรณหงส์ ทูลหม่อมบนทรงจุดธูป (เทียน) แล้วเห่เรือ แล้วทรงจุด (ธูปเทียน) เรือเล็ก ๆ ตามเคย เสด็จขึ้นเกือบแปดทุ่ม เรากลับมาตำหนักจุดดอกไม้เล่น นอนเกือบสามยาม เราได้เล่าให้ป้าโสมฟังว่าทูลหม่อมรับสั่งว่าโคมชัย๒๔นั้น เป็นของกิงสาม เป็นของกวีนสาม ที่มีฉัตรเก้าชั้นของกิง ฉัตรเจ็ดชั้นของกวีน.

วันจันทร์ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๗

เราตื่นก่อนโมง ไม่ได้เสด็จปทุมวัน ได้ยินว่าทางรถไปลำบาก กินข้าวแล้วเล่นอยู่ที่มุข สมเด็จแม่ประทมตื่น เราขึ้นไปเล่นอยู่ที่สมเด็จแม่ น้าประดิษฐา น้าบุษบันมาเฝ้าสมเด็จแม่ เล่นอยู่กับเรา บ่ายแม่พร้อม๒๕มาทูลว่าให้สมเด็จแม่แต่งพระองค์ เรามาแต่งตัวไปคอยตามเสด็จสวนสราญรมย์ ทูลหม่อมบนเสด็จทอดพระเนตรวังสราญรมย์ก่อน สนุก งามมากจัดไว้จะรับเจ้าฝรั่ง๒๖ที่มาจากสวีเดนนอร์เว ทอดพระเนตรทั่วแล้ว เสด็จสวน วันนี้กุหลาบแดงบานมาก แย่งกันเก็บใหญ่ แล้วเสด็จมาที่สนามโครเก เรากับน้องชายโตน้องชายเล็กเล่นน้ำพุ น้องชายโตจมน้ำ ป้าโสมโดดตามเปียกหมด.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๗

สามโมงเช้าไปอ่านหนังสือ แล้วกลับเข้ามาย่ำเที่ยง ป้าโสมชวนให้เรากินข้าวกลางวันกับน้องหญิงใหญ่ แล้วลงไปเล่นน้ำพุ กลับมาบ่ายโมงนาน บ่ายสามโมงเศษแต่งตัวไปบนคอยตามเสด็จไปสวนสราญรมย์ วันนี้ตามเสด็จสามคน น้องหญิงใหญ่ไปด้วย ถึงสวนแล้วดูช้างแต่งตัวต่าง ๆ เดินให้เจ้าฝรั่งดู เราได้ให้เสด็จอาดิศถามเขาว่า มาอยู่เมืองไทยมีความสุขสบายดีหรือ เขาตอบว่าขอบใจเขาสบาย เดินกระบวนช้างหมดแล้วฝนตก จนยามหนึ่งไม่หาย เสด็จกลับมาถึงเกือบย่ำค่ำ ประทับในห้องเขียว เราคุยถึงเราพูดกับเจ้าฝรั่ง สมเด็จแม่รับสั่งว่าทำไมไม่พูดกับเขามาก ๆ ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าพออยู่แล้ว พูดเท่านั้นพอดี แล้วรับสั่งให้เราเล่นงูกินหางกับน้อง ๆ เสด็จในที่แล้ว เรามากินข้าวกับสมเด็จแม่กับเสด็จน้า ยามหนึ่งกลับมาตำหนัก นอนเล่าให้นายฟังถึงไปมาวันนี้ แล้วให้ป้าโสมอ่านพงศาวดารในรัชกาลที่หนึ่งเล่ม ๖.

วันจันทร์ วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นก่อนโมง กินข้าวแล้วไปเรียนหนังสือ ครูยังไม่มา ทูลหม่อมบนประทมตื่นแล้ว ป้าโสมให้เราไปเฝ้าทูลหม่อมบนในที่ รับสั่งว่าเรากรอ๒๗เสื้อโอเวอโค๊ตมาแล้ว เราเฝ้าอยู่จนสามโมงนาน ออกไปเรียนหนังสือขุนโอวาทสอน แล้วกลับมาตำหนัก บ่ายไปบน ทูลหม่อมบนยังไม่เสด็จออก เราออกไปเล่นกับลุงจักษ์ก่อน เสด็จออกเกือบย่ำค่ำ ทุ่มหนึ่งเสด็จขึ้นไปประทับเสวยในห้องเขียว รับสั่งถึงเรื่องเจ้านายจะไปเมืองนอก เราทูลว่า ถ้าจะรับสั่งให้เราไปแล้วเราเห็นจะไปไม่ได้ เราคิดถึงทูลหม่อมบนกับสมเด็จแม่ ถ้าไปแล้วทูลหม่อมบนเสด็จด้วยเราไปได้ ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าถ้าเราจะไปจะเสด็จไปด้วยกับเรา แล้วทรงคลุกข้าวประทานเรา เรากินข้าวแล้ว สองทุ่มทูลหม่อมบนเสด็จในที่ เราตามเข้าไปทูลลา กลับมาตำหนัก ถึงตำหนักเล่าให้นายฟัง แล้วนอน.

วันจันทร์ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓

เช้าสามโมงเศษไปพระตำหนักทูลหม่อมย่า ทูลหม่อมบนไม่ได้เสด็จลง เราไปเฝ้าทูลหม่อมอา แล้วกลับมาตำหนักนอนกลางวัน ค่ำกินข้าวเย็นแล้วไปพระตำหนักทูลหม่อมย่าอีก ป้าโสมให้ขึ้นไปบน เราขึ้นไป ทูลหม่อมบนเสด็จในที่แล้ว ทุ่มนานเสด็จลงพระตำหนักทูลหม่อมย่า วันนี้พระมอญสวด ไม่มีพระไทยปนเลย ทูลหม่อมบนประทับตรัสกับเจ้านายข้างหน้าแล้วเสด็จเข้ามาข้างใน รับสั่งถึงกรมหลวงวรศักดา๒๘ ว่าท่านมีพระชันษาแก่กว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าแล้ว สมเด็จตาท่านทรงคิดว่า เจ้านายควรจะจัดธูปเทียนไปถวายเป็นการยินดีและเคารพขออายุ๒๙ท่าน ทูลหม่อมบนทรงเห็นด้วย จะเสด็จเวลาพรุ่งนี้ จะถวายต้นไม้ทองเงินกับธูปเทียนและเงินยี่สิบชั่ง แล้วรับสั่งให้เจ้านายข้างในเสด็จ แล้วท่านเสด็จไปเฝ้าทูลหม่อมย่าในที่ รับสั่งให้เสด็จน้ามาเอาไอ้ที่สำหรับเด็กสอนเดินไปถวายทูลหม่อมย่าทอดพระเนตร ทูลหม่อมบนจะทำให้ท่านทรงพระดำเนิน เสด็จไปไหนต้องทรงคลานดูน่าสงสาร แล้วทูลหม่อมย่าทรงจูบกอดทูลหม่อมบนใหญ่ เราหัวเราะใหญ่ เสด็จขึ้นจากพระตำหนักทูลหม่อมย่าแล้ว เรากลับมาตำหนัก นอนฟังป้าโสมอ่านรามเกียรติ์ นอนสี่ทุ่มนาน.

วันจันทร์ วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนเช้ากินข้าว แล้วแต่งตัวไปตามเสด็จสมเด็จแม่ ขึ้นรถไปที่หน้าประตูพรหมไปดูถีบชิงช้าที่ศาลาวัดสุทัศน์ ปีนี้เจ้านายพี่น้องเราไปมาก เสด็จน้าก็เสด็จ เจ้าจอมก็ไปตามเสด็จมาก พระยามนตรีเป็นผู้แห่ แต่งตัวงาม กระบวนแห่ก็มาก เสด็จกลับเวลาห้าโมง เรากลับมาตำหนัก บ่ายไปบน ทูลหม่อมบนประทับอยู่ที่เสด็จน้า เร่งเจ้านายแต่งตัวใหญ่๓๐ แต่งไม่ทัน ได้ถวายไตรแต่พี่จิรประวัติ๓๑คนเดียว แห่บ่ายสี่โมงเศษ เมื่อแห่กลับทูลหม่อมบนรับสั่งกับท้าวศรีสัจจาไม่ให้แจกเงินคนเชิญพระแสงที่มาไม่ทัน แล้วเสด็จขึ้นเสวยในห้องเขียว สองทุ่มนานเรากลับมาตำหนัก นอน โสกันต์คราวนี้แห่ทางใน พี่กิติยากรกับพี่รพีพัฒนอายุสิบเอ็ดปี พี่จิรประวัติอายุเก้าขวบ โกนจุกแล้วจะออกไปลอนดอน แต่งตัวที่ตำหนักเราสององค์ เสด็จน้าทรงแต่งที่บนองค์หนึ่ง กระบวนแห่ก็เหมือนคราวพี่อรพิน แต่คราวนี้ไส่เกี้ยวยอด.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๗

สามโมงเช้าแต่งตัวไปบน ป้าโสมจะให้เราใส่เสื้อกังเกงกำมะหยี่ เราจะใส่เสื้อสักหลาด ถึงบน เขาบอกว่าทูลหม่อมยังไม่ประทมตื่น เฝ้าที่บอกว่าพระยาศรีสุนทรมาแล้ว ป้าโสมให้เราไปอ่านหนังสือ พระยาศรีสุนทรไม่ให้เราอ่านว่าสี่โมงแล้ว เรากลับเข้ามา เจ้าเข่งบอกว่าทูลหม่อมประทมตื่นแล้ว เรารีบไปที่ห้องเหลือง ทูลหม่อมบนเสด็จออกมา แล้วเสด็จน้าเสด็จออกไปทรงบาตร พระสงฆ์ฉันแล้ว พระยาศรีสุนทรอ่านสังเวยเทวดา พระไปแล้วเราตามเสด็จมาในห้องเขียว ทูลหม่อมบนประทานของวันเกิดน้องชายโต๓๒แล้ว (เรา) มากินข้าวกับน้อง ๆ บ่ายสองโมงกลับมาตำหนักพร้อมกับสมเด็จแม่ ย่ำค่ำไปบน ไม่ทันพระเทศน์ เทศน์จบเสียแล้ว ทูลหม่อมบนท่านทรงจัดห้องเหลืองประทานเสด็จน้า เป็นที่รับแขกเจ้านายซึ่งจะเสด็จมาเสวยโต๊ะในวันนี้ ทรงจัดงามจริง ๆ พอสองทุ่มทูลหม่อมบนเสด็จออกมา แล้วเสด็จไปที่เลี้ยงโต๊ะที่พระที่นั่งมูลสถาน เสด็จน้าก็เชิญเสด็จเจ้านายไปเสวย สนุก เจ้านายแก่ ๆ ดูคร่ำครึเต็มที เสวยมีดซ่อมไม่เป็น ทูลหม่อมบนท่านทรงสอนเสด็จยายกินรีเอง หัวร่อกันใหญ่ เสวยโต๊ะเสร็จแล้ว เสด็จขึ้นมาเสวยกาแฟ หมากพลู บนห้องเหลือง แล้วเสด็จน้าถวายฉลากใส่ในชักเปรี๊ยะเป็นรูปปลาทุกพระองค์ สมเด็จแม่ได้สมุดรูป ทรงแจกคนที่ช่วยงานด้วย มีเจ้าจอมมารดาและเจ้าจอมอีกหลายคน เราก็ได้ประทานใบหนึ่ง ได้ย่ามกำมะหยี่ทูลหม่อมบนทรงรับขึ้นฉลากเอง รับสั่งให้เราเป็นผู้ช่วย วันประสูติเสด็จน้าคราวนี้สนุกมาก ทรงทำบุญให้ทานก็มาก เรากลับมานอนห้าทุ่ม.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๗

เราตื่นนอนแต่ย่ำรุ่ง กินข้าวแล้วนั่งเล่น ให้บ่าวไปดูว่าทูลหม่อมบนยังไม่ประทมตื่น เราหมายว่าจะเสด็จเลี้ยงพระวัดราชประดิษฐ์ ไม่ได้เสด็จ ป้าโสมกลับมาบอกเราว่าปลื้มใจนักไปทำบุญวันนี้ เย็นเราไปบนเฝ้าในห้องเขียว ลุงจักษ์ให้ไปตามเราไปรับฎีกา ได้รับมาเจ็ดฉบับ แล้วกลับมาเฝ้าทูลหม่อมบน เราเรียกนาฬิกาว่าในรกา ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าเราเรียกผิด ท่านทรงเขียนประทานเราว่า นาฬิกา แล้วรับสั่งให้เราเขียน รับสั่งว่าเราดีแล้ว รับสั่งให้น้องชายโตอ่าน อ่านไม่ออก แกร้องไห้ เสด็จน้ากริ้วใหญ่ สองทุ่มเสด็จในที่ เรากลับมาตำหนัก นอน.

วันพุธ วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนแต่ย่ำรุ่ง กินข้าวต้มแล้วแต่งตัวไปเฝ้าสมเด็จแม่ แล้วไปบน ทูลหม่อมบนยังไม่ประทมตื่น โมงเศษประทมตื่น เราเข้าไปเฝ้าในที่ สองโมงทูลหม่อมบนเสด็จประทับที่ตำหนักแพ เลี้ยงพระแล้วทอดพระเนตรแห่หนังสือของทูลหม่อมย่าซึ่งแห่ขึ้นไปวัดปรมัย กระบวนมากมีมโหรีผู้ชายวงหนึ่ง มีเครื่องมาก มีแตรด้วย เครื่องเล่นต่าง ๆ ก็มีเป็นอันมาก มีคนโตทีเดียวไกว่แขนไปมา บางทีก็มีเป็นนกอ้าปากงาบ ๆ แห่หมดกระบวนแล้ว ทูลหม่อมจึงได้ออกเรือพระที่นั่งเวสาตรี มาประทับที่เรือชื่อว่า ทูลหม่อมบางกอก แล้วรับสั่งให้เราขึ้นไปบนเรือ เราได้กินไอสกรีม เราดีใจนัก เพราะเราเจ็บอดมาหลายวันแล้ว เราอยู่กับสมเด็จแม่ที่เรือชื่อแผงฆ้า องค์สายจัดไว้ถวายสามลำ เป็นเรือใบทั้งนั้น สบายมาก ชื่อทูลหม่อมบางกอกลำหนึ่ง แผงม้าลำหนึ่ง สารภีลำหนึ่ง แต่เรือที่ทูลหม่อมบนประทับนั้นงาม แต่งมาก มีต้นไม้ด้วย จัดที่อยู่กันเสร็จแล้ว ทูลหม่อมบนเสด็จขึ้นวัด เราไม่ได้ตามเสด็จ เรานอนทุ่มหนึ่ง.

วันอังคาร วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนแต่ย่ำรุ่ง ป้าโสมมาจูบเราใหญ่ บอกเราว่าขึ้นมาบนเรือ เรานอนหลับเสียแล้ว โมงเช้าเราไปกินข้าวที่ดาดฟ้า สี่โมงแต่งตัวมาคอยทูลหม่อมบน สี่โมงแล้วทูลหม่อมบนเสด็จลงเรือเวสาตรี กลางวันถึงวังบางปอิน เราไปพักที่บ้าน บ่ายมาเฝ้าทูลหม่อมบน วันนี้เป็นวันตรงกับวันเกิดน้องชายเล็ก ค่ำทูลหม่อมบนเสด็จไปเฝ้าทูลหม่อมย่า.

วันพุธ วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

เราตื่นนอนก่อนย่ำรุ่ง มาปลุกป้าโสมที่ห้องแล้วลงไปพายเรือกินข้าวในสระ กินเสร็จขึ้นมาเล่นใต้กอไผ่ เย็นลงเรือไปเฝ้าทูลหม่อมบน ตามเสด็จไปเก็บมะยมที่พระตำหนักทูลหม่อมย่า ผลไม้ของทูลหม่อมย่าในปีนี้ออกมาก ลิ้นจี่กีมีผลดอก เงาะต้นเล็กๆ ก็มีดอก ทูลหม่อมบนถวายหีบหูหิ้วนากทูลหม่อมย่าใบหนึ่ง ทรงขัดด้วยผงดินสอ แล้วจัดหมากพลูใส่ในหีบเสร็จ ทูลหม่อมย่าถวายพระศีลพระพรทูลหม่อมบนใหญ่ แล้วรับสั่งว่าจะถวายดอกไม้ไฟ ทูลหม่อมบนทรงชี้เรารับสั่งว่านักเลงดอกไม้ไฟอยู่นี่ ทูลหม่อมย่าก็ประทานเรา แล้วทูลหม่อมบนเสด็จกลับ เราตามกลับมา นอนยามหนึ่ง.

วันเสาร์ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนเช้าอาบน้ำกินข้าว ออกมาดูแต่งตัวเจ้าเกศากันต์ สามโมงเราแต่งตัวไปบน แล้วตามเสด็จไปพระมหาปราสาท ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ เสด็จอุปัชฌาย์ถวายศีล แล้วทูลหม่อมบนทรงตัดจุกเจ้าสองคน๓๓ แล้วลงไปอาบน้ำเขาไกรลาส แล้วอาบน้ำมนต์ที่เบ็ญจา๓๔ ทูลหม่อมบนกับเจ้านายทรงรดน้ำประทานแล้ว กลับขึ้นมาแต่งตัวใหม่ ใส่เสื้อครุย ใส่มงคลตามธรรมเนียมวันนี้มีประกาศเทวดาด้วย เมื่อเวลาพระฉันแล้วพระยถา แล้วทูลหม่อมบนทรงรดน้ำสังข์ประทานเจ้าสองคน พระไปแล้วเสด็จขึ้น เรากลับมาตำหนัก เย็นไปบน ทูลหม่อมบนไม่ได้เสด็จออกทอดพระเนตรแห่ รับสั่งให้เราออกไปดูแห่ แล้วเรากลับเข้ามาเฝ้าในห้องน้ำเงิน แล้วทูลหม่อมบนเสด็จออกมาทรงรดน้ำสังข์ เจิมเจ้าที่โกนจุก แล้วประทานเงินทำขวัญคนละชั่ง แล้วเสด็จพระมหาปราสาท สวดมนต์จบแล้วประกาศเทวดา แล้วยิงอาฏานา๓๕แผ่พิสมร๓๖กระบองเพชร๓๗ สนุก พระสวดภาณยักษ์๓๘สำรับที่สามขึ้น เราหาวนอน ทูลหม่อมบนรับสั่งให้กลับมานอน.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนเช้ากินข้าวแล้วไปเรียนหนังสือ เราอ่านจบวาหนิติ๓๙แล้ว หลวงแขจะให้เราขึ้นสังโยค๔๐ในวันนี้ เราไม่ยอม เที่ยงแล้วเรากลับมาตำหนัก กินข้าวกลางวันแล้วนอน บ่ายสี่โมงเศษแต่งตัวไปบน วันนี้เรานอนยามหนึ่ง.

วันเสาร์ วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๗

ตื่นนอนเช้ากินข้าวแล้วไปเรียนหนังสือ กลับมาจากเรียนหนังสือสี่โมง เล่นอยู่ที่มุข บ่ายไปบน ทูลหม่อมบนยังไม่เสด็จออก เราไปเฝ้าในที่ วันนี้มีคนมาคอยเฝ้ามาก เสด็จออกบ่ายห้าโมงนาน รับสั่งว่าไม่ได้ยินตีห้าโมง แล้วเสด็จออกขุนนาง พระยาศรีสุนทรอ่านใบบอกเรื่องพระยาพิไชยยกกองทัพไปรบฮ่อ๔๑ ยิงปืนถูกอ้ายหมอเถ้า แล้วพระยาราช๔๒ยังไม่ได้ยกขึ้นไปถึง ถ้าพระยาราชจะไม่ยกขึ้นไปแล้ว พระยาพิไชยจะคิดการเอง จะรบใหญ่ทีเดียว ทูลหม่อมบนท่านทรงฉุนพระยาราชมาก เสด็จขึ้นย่ำค่ำแล้ว เสวยในห้องน้ำเงิน เสวยเสร็จเรากลับมาตำหนักพร้อมกับสมเด็จแม่ นอนยามหนึ่ง.

  1. ๑. เราชา – ไม่ทันจะคิด

  2. ๒. เสด็จน้าเสาวภาค – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์พรรณ

  3. ๓. น้องหญิง – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร

  4. ๔. จอกน้ำ – จอกใส่น้ำมนต์

  5. ๕. เจ้าคุณคลี่ – ธิดาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต) ในรัชกาลที่ ๔ ทรงตั้งธิดาซึ่งเกิดแก่ท่านผู้หญิง เป็นเจ้าคุณ แต่ใช้ชื่อเดิม

  6. ๖. เจ้าพระยามหินทร์ – เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ญ เพ็ญกุล)

  7. ๗. เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ – นามเดิม แพ บุนนาค

  8. ๘. น้องหญิงลูกเจ้าสาย – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้านภาจรจำรัสศรี

  9. ๙. เสด็จอาจิตรเจริญ – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

  10. ๑๐. ขับไม้ – มีพราหมณ์สามคน คนหนึ่งขับร้องลำนำหรือขับกล่อม คนหนึ่งสีซอประสานเสียง คนหนึ่งไกวบัณเฑาะว์ให้จังหวะ

  11. ๑๑. แก้ว – หม่อมเจ้าแก้วกัลยา พระพี่เลี้ยงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระองค์เจ้าแก้วกัลยาณีในรัชกาลที่ ๖

  12. ๑๒. ดิลกนพรัฐ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ กรมหมื่นสวรรควิไสยนฤบดี เจ้าจอมมารดาเกิดในสกุล ณ เชียงใหม่

  13. ๑๓. เป็นวันคล้ายวันประสูติพระชันษาครบ ๖ ปี

  14. ๑๔. ห้องเครื่อง – ห้องทำเครื่องพิเศษ อยู่ชั้นต่ำในบริเวณหลังพระที่นั่งจักรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าแขไขดวง ทรงเป็นหัวหน้า

  15. ๑๕. เลี้ยงโต๊ะเจ้านายผู้หญิง – เนื่องในงานคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

  16. ๑๖. คเชนทรัศวสนาน – พระราชพิธีสวนสนามใหญ่ครบจตุรงคเสนา เกิดในรัชกาลที่ ๔ โดยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรวมการพิธีสองอย่างคือ แห่สระสนานใหญ่กับพิธีทอดเชือกดามเชือก (เชือกช้าง) เข้าด้วยกัน และทรงเพิ่มพิธีสงฆ์เข้าด้วย มีคำกล่าวมาแต่โบราณว่าพระราชพิธีนี้ เป็นพิธีที่สำหรับทำให้ประชาชนทั้งปวงมีใจสวามิภักดิ์รักพระเจ้าแผ่นดิน และเป็นมงคลแก่ราชพาหนะ เป็นที่เกรงขามแก่ข้าศึกศัตรู (จากพระราชพิธีสิบสองเดือน)

  17. ๑๗. ทหารลุงจักษ์ – ประชุมพงศาวดารภาค ๙ ว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระราชวัง

  18. ๑๘. โรงทหารหน้า – สถานที่ที่เป็นกระทรวงกลาโหมปัจจุบันนี้

  19. ๑๙. เสด็จเรือไฟ – เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคจากบางปอิน

  20. ๒๐. วัดเชิง – คงจะหมายถึงวัดพนัญเชิง อยุธยา

  21. ๒๑. ยิงปืน – เวลาย่ำรุ่ง

  22. ๒๒. ในสวน = สวนศิวาลัย

  23. ๒๓. อ่างแก้ว – อ่างน้ำใหญ่ สูงไม่ถึงเมตร ก่อด้วยซีเมนต์ มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง อยู่ชั้นล่างระหว่างพระเฉลียงพระที่นั่งจักรีกับพระที่นั่งสมมุติเทวราช

  24. ๒๔. โคมชัย – โคมสีขาว โครงสานด้วยไม้ไผ่ แขวนอยู่บนเสาไม้จริง ยอดเสาปักเศวตฉัตร ใช้ชักในพระราชพิธีจองเปรียง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามของพราหมณ์ ในเดือนสิบสอง

  25. ๒๕. แม่พร้อม – เจ้าจอมมารดาพร้อมในรัชกาลที่ ๕

  26. ๒๖. เจ้าฝรั่ง – ปริ๊นซออสคาร์ ดยู๊กออฟดอสแลนด์

  27. ๒๗. กรอ – ทรงคุ้น

  28. ๒๘. กรมหลวงวรศักดา – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๒ พระองค์เจ้าชายอรุณวงศ์ กรมหลวงวรศักดาพิศาล

  29. ๒๙. ขออายุท่าน – ขอพระพรให้มีพระชนม์ยืนอย่างท่าน

  30. ๓๐. เร่งเจ้านายแต่งตัว – เจ้านายที่แต่งพระองค์เครื่องโสกันต์

  31. ๓๑. พี่จิรประวัติ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช

  32. ๓๒. ทูลหม่อมบนประทานของวันเกิดน้องชายโต – วันประสูติของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วันเดียวกับวันประสูติของสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนารถ

  33. ๓๓. เจ้าสองคน – หม่อมเจ้าที่เกศากันต์คือ ๑ หม่อมเจ้าอนุชาติสุขสวัสดิ์ ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช ๒ หม่อมเจ้าประดิพัทธ์เกษมศรี ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ

  34. ๓๔. เบ็ญจา – เตียงหุ้มผ้าขาวมีเพดานสำหรับหม่อมเจ้านั่งรดน้ำในพิธีเกศากันต์

  35. ๓๕. ยิงอาฏานา – ยิงปืนใหญ่ชื่อมหาฤกษ์ มหาจักร มหาชัย มหาปราบ ในพิธีตรุษสงกรานต์

  36. ๓๖. พิสมร – ใบลานเส้นเล็ก ๆ พับเป็นรูปสี่เหลี่ยม แล้วลงยันต์ตัวขอม

  37. ๓๗. กระบองเพชร – ใบลานยาวประมาณศอกเศษ พับปลายเป็นรูปแหลม ๆ แล้วลงยันต์คาถา

  38. ๓๘. ภาณยักษ์ – คาถาที่พระสวดในพิธีตรุษสงกรานต์

  39. ๓๙. วาหนิติ – วาหนิตินิกร แบบเรียนสำหรับประโยค ๑ วิชาภาษาไทยสมัยนั้น

  40. ๔๐. สังโยค – สังโยคภิธาน แบบเรียนสำหรับประโยค ๑ วิชาภาษาไทยสมัยนั้น

  41. ๔๑. ฮ่อ – ฮ่อเป็นชื่อที่ไทยทางเหนือใช้เรียกจีนที่อยู่ใกล้ชายแดน. จีนหมู่หนึ่งเป็นกบฏต่อพระเจ้ากรุงจีนในราว พ.ศ. ๒๔๐๖ มีสมัครพรรคพวกหมื่นเศษ พากันเที่ยวตีหัวเมืองชายแดนจีนเข้ามาทางหัวเมืองสิบสองจุไทยและหัวพันทั้งหกในรัชกาลที่ ๕ แล้วเลยมาตั้งที่ทุ่งเชียงคำ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๗ ตีได้เมืองเชียงขวาง แล้วเตรียมจะยกมาทางเวียงจันท์เพื่อข้ามมาตีหนองคายกองหนึ่ง อีกกองหนึ่งจะยกมาตีหลวงพระบาง เมื่อทางกรุงเทพฯ ทราบข่าว จึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพไปปราบ ฮ่อแตกหนีไปจากแดนไทยใน พ.ศ.๒๔๑๘ แต่ใน พ.ศ. ๒๔๒๖ ก็กลับยกมาตั้งที่ทุ่งเชียงคำอีก

  42. ๔๒. พระยาราช – พระยาราชวรานุกูล (เวก บุณยรัตพันธุ์) ภายหลังได้เป็นเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช ได้เคยไปรบฮ่อใน พ.ศ.๒๔๒๙๑๘ แต่ครั้งยังเป็นพระสุริยภักดี ใน พ.ศ. ๒๔๒๖ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพไปอีก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ