พุทธศักราช ๒๔๒๖

จดหมายเหตุรายวัน

ของ

สมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ

วันพุธ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้า อาบน้ำ กินข้าว แล้วเล่นตุ๊กตา ลุงจักษ์ให้ไปจุดเทียนสวดมนต์ที่สวนหลวง เปิดอนุสาวรีย์ แล้วกลับมาเฝ้าทูลหม่อมบนในที่ ถวายลูกจันทน์ผลหนึ่ง ท่านเสด็จไปหยิบสังข์มารดเรา ผูกมือ เจิม ทำขวัญวันเกิด เสด็จออกมาที่ห้องเขียวหยิบเสื้อมาให้สมเด็จแม่ใส่เรา ทูลหม่อมบนท่านทรงลืม คิดว่าเรายังไม่ได้จุดเทียน ท่านให้เราไปอีก เราทูลว่าเราไปแล้ว ท่านเลยให้เราเล่นตุ๊กตา ท่านว่าตุ๊กตาเราได้น้อย ท่านให้แม่วาศไปซื้อตุ๊กตาที่เรือนพี่อรพินมาให้เราอีก เราตื่นเสื้อที่ ๑ เสียแต่กังเกงขาสั้นไป ตุ๊กตาที่ ๒ ทหารหมุนที่ ๓ ปืนกับเครื่องอาวุธที่ ๔ ท่านเสด็จไปในที่แล้ว เรามาเรือน คุณยายถามเราว่าได้อะไรบ้าง เราเอาหนังสือไปให้คุณยาย คุณยายถามว่าทูลหม่อมบนทรงแล้วหรือ คุณยายให้ไปสรงน้ำทรงขมิ้น เราเข้าไปในห้อง แล้วให้ไปตามยายอิน๑๐มาสมโภช แล้วเราเล่นตุ๊กตาอยู่กับเจ้านาย สักยามหนึ่งให้ป้าโสม๑๑เล่านิทาน เรานอนหลับ.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้าแต่งตัวใส่เสื้อกังเกงขาว ป้าโสมรับไปที่บน๑๒ เราพบแม่แส๑๓ๆบอกเราว่าทูลหม่อมบนไม่เสด็จ เราไปห้องสมเด็จแม่ พบเสด็จน้า๑๔อยู่หน้าห้อง เสด็จน้าให้เราไปปลุกสมเด็จแม่ เราขึ้นไปเห็นสมเด็จแม่ทมตื่นแล้ว หญิง๑๕นั่งอยู่ด้วย สมเด็จแม่ให้เราแต่งตัวใหม่ เราใส่เสื้อแพร ใส่หมวกได้วันเกิด คอยรถ เราเดินเล่นอยู่เมื่อเขามาทูลว่ารถมา สมเด็จแม่ เสด็จน้า กับน้องชายโต๑๖ไปด้วย เราขึ้นรถเดียวกันไปถึงสวนหลวง๑๗ สมเด็จแม่ไปเก็บดอกไม้ เราวิ่งตามไป เราเก็บดอกกุหลาบ หนามตำมือสองแห่ง เราไม่ร้องไห้ ลุงจักษ์ให้เราไปจุดเทียน แล้วเรามาเก็บดอกไม้ เราไปดูน้ำพุ เราทิ้งดอกกุหลาบลงไป ลุงจักษ์มาทูลว่าถึงฤกษ์แล้ว เราตามสมเด็จแม่มาที่พลับพลา แล้วไปชักเชือกเปิดผ้าคลุมอนุสาวรีย์ สมเด็จแม่ให้เราไปบอกลุงจักษ์ว่าทูลหม่อมบนรับสั่งว่าเปิดแล้วให้กลับมาเลี้ยงพระที่ตำหนัก ท่านประทานเงินเราสี่เฟื้อง ลุงจักษ์ให้เราสี่เฟื้อง เรารับแทนน้องชายน้อย๑๘สี่เฟื้อง

กินข้าวเย็นแล้วเราขึ้นไปเฝ้า เอามาลัยไปถวาย กำลังหมออยู่งาน๑๙ เราเลยไปห้องสมเด็จแม่ ให้ป้าโสมเล่านิทาน เรานอนหลับบนพระแท่นสมเด็จแม่ของเรา.

วันเสาร์ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๖

วันนี้เราขี้เกียจอ่านหนังสือ เตือนให้เราอ่าน เราร้องไห้สองหน เราอ่านเล็กน้อย กลับมายายอินล้อเรา เราชกกับยายอิน ห้าโมงเย็นเราไปบนเฝ้าในที่๒๐กับน้องชายโต ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าเราตื่นไดรี เราใช้คนไปหยิบมาถวาย ทีหลังเราขี่ม้ากลับมากับพี่น้อง ชวนกันไปดูช้างแถวนอก ช้างมี ๓ ตัว

วันพฤหัสบดี วันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เย็นเราไปเฝ้าทูลหม่อมบน พบคุณยายนั่งอยู่ที่ห้องเขียว เราถามว่าอุ้มน้องชายเล็ก๒๑มาหรือ แล้วเราเข้าไปในที่ รับสั่งถามเราว่าสมเด็จแม่ทำไมถึงไม่เสด็จมา เราทูลว่าไม่ทราบ เราไม่ได้ขึ้นไปบนโน้น เสด็จน้าให้เราอุ้มน้องชายเล็กออกมา เราไม่อุ้ม แม่แสอุ้มออกมา หมอเกาแวน๒๒มาเฝ้า เอาขวดสีเขียว ๆ มาถวาย ท่านทรงรับไว้ รับสั่งว่ายังอ่อนเพลีย เราออกมากินข้าว เห็นน้องชายยุคล๒๓นอนหลับอยู่ที่ห้องเขียว เฝ้าทูลหม่อมบนพร้อมกันทั้งสองคน เรากลับมาตำหนักก็ไปเฝ้าสมเด็จแม่ ทูลว่าทูลหม่อมบนรับสั่งถามถึง แล้วก็ลงมาเร่งให้จดไดรี แล้วเรานอน.

วันศุกร์ วันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

วันนี้เราอ่านหนังสือมาก เราไม่ขี้เกียจ แล้วมาเล่นกับพี่อรพิน เย็นเราไปบนกับเจ้านายหลายองค์ เราไปนั่งกินข้าวที่โต๊ะหินหลังห้องสมเด็จแม่ เราพลาดเก้าอี้ลงมา ป้าโสมรับไว้ เราไม่เจ็บ แต่เราร้องไห้ สมเด็จแม่เลยประทานหนูดอกพุทธชาดเราตัวหนึ่ง ทูลหม่อมบนไม่ได้เสด็จออก เราเฝ้าในที่ กลับมาอาบน้ำ ทาขมิ้น แล้วฟังนิทานเรื่องแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เราฟังอยู่กับพี่กิติยากร๒๔ เราเกลียดแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์นัก.

วันเสาร์ วันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราอ่านหนังสือสะกดอักษรต่ำไม่หมด เพราะเราขี้เกียจ เราไปเฝ้าทูลหม่อมบน วันนี้ไม่เย็นนักพี่จุฑารัตน์๒๕มาบอกเราว่าทูลหม่อมบนเสด็จออกข้างหน้า เราไปเสด็จขึ้นแล้ว เราไปเฝ้าในที่ ป้าโสมบอกเราว่าเครื่องโต๊ะมาถึงแล้ว เสด็จอาดิศ๒๖บอกว่าส่งมาข้างใน เราดีใจวิ่งไปทูลทูลหม่อมบน ท่านรับสั่งให้เอาไปในโน้น เราออกมาบอกแล้วเราไปดู เห็นกองอยู่ เราเปิดหีบซ่อมมีดออกดู เจ้าเข่ง๒๗ยังไม่อยู่ เรากลับเข้าไปทูล รับสั่งว่าให้รอแกก่อน ฟ้าชาย๒๘ตื่นเครื่องโต๊ะแล้ว เจ้าเข่งมาก็ขนของมาประทาน เราดีใจมาก ตั้งแต่วันเกิดเราบ่นบ่อย ๆ เพราะเราจะชวนพี่น้องเลี้ยงโต๊ะเล่นเครื่องกาไหล่ทั้งนั้น เราตื่นมากกว่าตุ๊กตา.

วันอังคาร วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

บ่ายสามโมงนานเราไปบน เฝ้าในห้องเขียว เราได้ของเล่นเพิ่มอีกสามสิ่ง เราทูลขอเติมให้พี่น้องอีกคนละสองสิ่ง จะได้เท่า ๆ กัน เฝ้าที่มาบอกเราว่าลุงจักษ์ให้มาเรียกเราไปจุดเทียนสวดมนต์ก่อฤกษ์พระเจดีย์ที่วัดราชบพิธ เราเรียกหมวกกับเกือกถุงตีนใส่แล้ว ทูลลาทูลหม่อมบน ลุงจักษ์อุ้มเราขึ้นรถเหลือง พี่รพีพัฒน์๒๙ไปด้วย เราไปถึงพลับพลา จุดเทียน พอพระสวดเสร็จเรากลับเข้าวัง ไปในห้องเขียว เฝ้าทูลหม่อมบนครู่หนึ่ง เราออกมากินข้าว กินแล้วเราไปเฝ้าเสด็จลุงเทวัญ๓๐ ย่ำค่ำเรากลับตำหนัก.

วันศุกร์ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

วันนี้เราออกไปรับฎีกา๓๑กับลุงจักษ์แล้วเอามาถวายทูลหม่อมบน แล้วเราออกมากินข้าว เสร็จแล้วมานั่งคอยอยู่ห้องเหลือง ทุ่มหนึ่งเสด็จสมโภชเจ้านายทรงผนวชที่พระที่นั่งอมรินทร์ เราตามเสด็จไป ฝนตกถึงท้องพระโรง ทรงทักน้าตุ้ย๓๒กับเสด็จยาย๓๓ แล้วเสด็จบนพระที่นั่งไพศาลทักษิณ บูชาเทวดาแล้วเสด็จออก เราเห็นเสด็จอาดิศกับเสด็จอาวัฒนา๓๔ประทับเก้าอี้มีไตรรองพานวางอยู่ตรงหน้า เวียนเทียนแล้วเสด็จขึ้น เรากลับตำหนัก หาวนอนเต็มที ไม่ได้อาบน้ำ นอนเลย.

วันจันทร์ วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าเราขึ้นเสลี่ยงไปที่พระที่นั่งพุทธนิเวศน์ จุดเทียนเลี้ยงพระสดับปกรณ์ ทำบุญวันประสูติทูลหม่อมย่าที่สิ้นพระชนม์ พระนาม สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ เราจุดเทียนทำบุญเสร็จ กลับมาเฝ้าทูลหม่อมบนถวายพระราชกุศลแล้วกลับตำหนัก กินข้าวกลางวันกับพี่รพีพัฒน์

ตอนเย็นลุงจักษ์ให้มาตามเราไปวัดบวรนิเวศ ถวายพุ่มแทนทูลหม่อม เราขึ้นรถไปกับลุงจักษ์ ถึงวัดไปในโบสถ์บูชาพระพุทธชินศรีแล้วไปที่พระเจดีย์ ไปวิหารพระศาสดา แล้วไปถวายพุ่มที่กุฏิเสด็จอาวรวรรณ๓๕ เสด็จอาวัฒนา เสร็จแล้วกลับมาขึ้นรถกลับมาที่วัดพระแก้ว ทูลหม่อมบนเสด็จทรงเปลื้องเครื่องพระแก้ว พอเรามาถึงสักครู่ก็เสด็จกลับ เราตามมาส่งเสด็จที่อัฒจันทร์.

วันพุธ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้าอาบน้ำแล้วอ่านหนังสือ กินข้าวแล้วแต่งตัวคอยสมเด็จแม่ สามโมงเช้าเสด็จลงเรือไปบางปอิน เรากับน้องชายเล็กตามเสด็จถึงตำหนักแพเราเห็นเสด็จลุงกรมหมื่นภูธเรศ๓๖กับลุงจักษ์ยืนอยู่กับเสด็จลุงเทวัญ เราคม๓๗เสด็จลุง มีขุนนางหลายคนมาส่งเสด็จ เราไม่ทันดู ลงมาถึงเรือเราเห็นสินอ้วน๓๘ เราบอกให้ป้าโสมดู เสด็จลุงเทวัญลงเรือมาด้วย พอออกเรือเรานั่งคุยมากับพี่จุฑารัตน์ พี่อัจฉรพรรณี๓๙ พี่วรลักษณ์๔๐ พี่อรพิน ดูเรือ ดูแพบ้าง ดูวัดบ้าง ป้าโสมชี้บอกเรามาตามทาง เราออกไปหาเสด็จลุง เห็นเจ้าสาย๔๑มาด้วย บ่ายสองโมงนานถึงวังบางปอิน เราดีใจมากนัก เราว่าเราไปถึงจะกอดทูลหม่อมบน พอขึ้นจากเรือสมเด็จแม่กับเรากับน้องชายเล็กและเจ้านายพี่น้องไปเฝ้าทูลหม่อมบนที่พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พอทูลหม่อมบนเสด็จออกมาเราวิ่งไปกอด ท่านก็ทรงกอดเราแล้วตรัสกับสมเด็จแม่กับน้องชายเล็ก ท่านไม่ให้น้องชายเล็กไปตำหนักเพราะแดดร้อน แล้วสมเด็จแม่ถวายของกับหนังสือที่เสด็จลุงเทวัญฝากขึ้นมาถวาย เราเล่นอยู่จนเย็นก็มาอาบน้ำที่ตะพานของทูลหม่อมบน เราขึ้นจากน้ำ เขาบอกว่าทูลหม่อมบนเสด็จไปทรงธรรม เราแต่งตัวแล้วตามขึ้นไปบนพระที่นั่งวโรภาสพิมาน พระอมราเทศน์ เทศน์จบตรัสกับเสด็จลุงเสด็จอาแล้วเสด็จกลับ เราก็มากินข้าว แล้วเรากลับตำหนัก เราไม่เห็นสมเด็จแม่ เขาบอกเราว่าเสด็จอยู่สนามโครเก เราให้นาย๔๒อุ้มตามไป แล้วเรากลับมาตำหนัก พูดเล่นกับเจ้านายพี่น้อง พอทหารเป่าแตรสองทุ่มเรานอน.

วันเสาร์ วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นโมงเศษ เรากินข้าวแล้วอ่านหนังสือ เราขี้เกียจเต็มที เราอ่านน้อย ป้าโสมเตือนให้เราอ่าน เราร้องไห้ บ่ายที่ตำหนักแต่งตัวเจ้าอีก เจ้านายพี่น้องกลับมาจากบนบอกเราว่าทูลหม่อมบนเสด็จขึ้นแล้ว เราให้จันไปเอาผลไม้มาเลี้ยงกัน แล้วเราอาบน้ำแต่งตัวขึ้นรถถีบไปบน วันนี้น้องเราไปเฝ้าหมด ทั้งตัวเราด้วยเป็นหกคน วุ่นใหญ่ น้องหญิงใหญ่๔๓ผลักน้องชายโตหกล้ม เสด็จน้าหักมือน้องหญิง เสวยแล้วเสด็จไปในที่ เราไปคอยอยู่ที่เจ้าฟังสวด เจ้าชายจรูญ๔๔ร้องไห้ เราถามก็ไม่พูด ป้าโสมบอกเราว่าคิดถึงย่า๔๕ ทรงเครื่องแล้วเสด็จออก เราตามเสด็จไป น้องชายโตแย่งดอกไม้เรา เราร้องไห้ แล้วเรากลับออกไปอีก พี่อัจ๔๖ทำน้ำข้าวตังหกรดเราผ้าเปียก เราร้องไห้ กลับมาข้างใน สมเด็จแม่ทรงหักมือเรา ว่าเราร้องไห้บ่อย ๆ พระสวดมนต์จบ เรากลับตำหนัก เราเล่าให้คุณยายฟังว่า ทูลหม่อมบนกำลังตรัสกับสมเด็จตา๔๗ กับเจ้าพระยาสุรวงษ์๔๘ พี่อัจทำน้ำหกรดผ้าม่วงของเรา เราเสียดาย กับเรื่องหญิงจรัส๔๙ไปทำข้าวของของทูลหม่อมบนล้มเป้งป้าง ทีหลังเรานั่งดูเจ้าชายเศรษสิริ๕๐ลูกชายเสด็จอานเรศ๕๑นั่งเล่นเรือกับ(เล่น)พัดของเรา น่าเอ็นดู เรารัก ช่างพูดด้วย เราขอ ย่าว่าให้โตอีกหน่อยจะพามาให้เราใช้ เรานั่งเล่นอยู่จนยามหนึ่ง เรานอน.

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เมื่อวานเราปวดท้องไม่สบาย วันนี้เราค่อยสบาย กินข้าวได้มากกว่าวานนี้ เที่ยงแล้วเราฟังหนังสือราชพงศาวดารย่อ นอนหลับ ตื่นบ่ายโมงเศษ กินข้าวได้มาก บ่ายสองโมงเศษทูลหม่อมบนเสด็จมาเยี่ยมเรา แล้วเสด็จขึ้นบน เราไปเฝ้าสมเด็จแม่ เย็นเราอาบน้ำแล้วเข้าไปนอนฟังหนังสือพงศาวดารเขมร แล้วเราให้ป้าโสมเล่าถึงราชทูตออกไปเมืองลอนดอนแต่ครั้งแผ่นดินทูลหม่อมปู่ เราเคยเห็นรูปมีที่พระที่นั่งจักรี เสด็จยายแม้นเขียน เสด็จยายกินรี๕๒มาเยี่ยมเรา ย่ำค่ำสี่สิบเรานอน.

วันพุธ วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นก่อนโมง อาบน้ำกินข้าวแล้วไปบนพร้อมกับน้องเราสี่คน เราไปนั่งอยู่ในห้องเขียวสักครู่หนึ่ง ก็เข้าไปเฝ้าทูลหม่อมบนในที่กับแม่แส น้องชายโตตามเข้าไปเฝ้าในที่ด้วย เสด็จออกมาที่ห้องเขียว เรากับน้องเราได้ประทานเหรียญทองผูกคอ เหรียญนี้หน้าหนึ่งมีตราครุฑกับตราพระเกี้ยว อีกด้านหนึ่งมีหนังสือว่าที่ระลึกรัชกาลที่ ๕ เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ จุลศักราช ๑๒๔๕ เหรียญนี้พระราชทานทั่วไป บางคนได้เงินเป็นพื้น บางคนได้ก้าไหล่ แต่พระองค์เจ้าที่ทรงทำกระจาด๕๓ได้ทองหนึ่งเงินหนึ่งเหมือนกันทุกพระองค์ ที่ไม่ได้ทำกระจาดนั้นได้ทองแต่ทูลหม่อมย่า๕๔กับสมเด็จตากับวังหน้า๕๕ และพวกลูกเธอพี่น้องของเราเท่านั้น เราตามเสด็จไปเลี้ยงพระที่พระที่นั่งอมรินทร์ เราเห็นพระโกศทูลหม่อมทวด๕๖ตั้งอยู่บนบุษบกทองคำ กับพระยืนองค์หนึ่งทรงเครื่องงามตั้งอยู่ระหว่างเสาข้างเหนือ แล้วเราได้ประทานเหรียญเงินอีกเหรียญหนึ่ง แล้วเสด็จไปทรงทิ้งทาน เราได้สี่ผล สลึงสาม เฟื้องหนึ่ง๕๗ เสด็จขึ้นเราตามเสด็จมา เห็นคนถวายดอกไม้ธูปเทียน เราถามป้าโสมว่าถวายทำไมกัน ป้าโสมบอกเราว่า ตั้งแต่ทูลหม่อมบนบรมราชาภิเษกมาครบสิบหกปีปีนี้เท่ากันกับทูลหม่อมทวด จึงทรงทำบุญเป็นการใหญ่ ของทูลหม่อมทวดส่วนหนึ่ง สวดมนต์แต่วานนี้ พระสงฆ์ห้าสิบแปดเท่าพระชันษา หล่อพระฉลองพระองค์ด้วย ที่เราเห็นนั่นแหละมาตั้งฉลองบรรดาข้าราชการจึ่งพร้อมใจกันถวายธูปเทียน เที่ยงแล้วทูลหม่อมบนเสด็จออกขุนนาง รับสั่งไม่ให้เราออกไป เรานั่งอยู่ข้างใน ทูลหม่อมย่าเสด็จมา รับสั่งถามเราว่าฟ้าชายหายดีแล้วหรือ เราทูลว่าหายแล้ว ทูลหม่อมบนเสด็จขึ้นประทับที่ ถวายเหรียญทูลหม่อมย่าแล้วทรงแจกเจ้านายที่ยังไม่ได้ เราเห็นเสด็จยายแม้นเขียนถวายหนังสือฉบับหนึ่ง ใส่พานทอง เราถามป้าโสม ๆ บอกเราว่าหนังสือถวายพระพร บ่ายลูกทูลหม่อมอาองค์ใหญ่๕๘มาคอยถวายดอกไม้ธูปเทียน เราไปชวนมากินของหวานกับขนมปังที่หน้าห้องสมเด็จแม่ แล้วเราให้ตุ๊กตาเล็ก ๆ ด้วย.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

โมงนานเราไปบน สองโมงทูลหม่อมบนเสด็จออก แล้วเสด็จเข้ามาสรงน้ำมูรธาภิเษกที่ชาลาข้างเหนือ เรานั่งดูเพลินทีเดียว เสด็จขึ้นจากที่สรงผลัดพระภูษาแล้ว ทรงรับพระเต้าเบญจครรภมาจากพระครูพราหมณ์ ทรงรดเรากับน้องเราสามคน แล้วเสด็จขึ้นทรงเครื่องในที่ เสด็จออกทรงประเคนพระแล้วเวียนเทียน รับสั่งใช้เราไปจุดเทียนเครื่องสังเวย เรากลับมาเสด็จขึ้นแล้ว เราไปห้องสมเด็จแม่ บ่ายโมงนานเรานอนหลับ สามโมงเราตื่น อาบน้ำแล้วไปเฝ้าในห้องเขียว ทูลหม่อมบนประทานเงินนายเหรียญหนึ่ง เราทูลขอให้หญิงสุหร่าย๕๙เหรียญหนึ่ง เย็นเราตามเสด็จไปดูทรงปักฉลากที่กระจาด ลุงจักษ์ให้เราเอาหนังสือมาถวายทูลหม่อมบนฉบับหนึ่ง ทุ่มนานเรากลับ สองทุ่มเรานอน.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

สามโมงเช้าเฝ้าที่๖๐มาบอกเราว่า เจ้าเข่งให้เราไปจุดเทียนเลี้ยงพระทำบุญวันสิ้นพระชนม์สมเด็จย่า สี่โมงแล้วเราแต่งตัวไปกับน้องชายโต ถึงพระที่นั่งทรงธรรมเห็นพระเทศน์ ป้าโสมบอกว่าเข้าพรรษามีเสมอ เราขึ้นไปบนพุทธนิเวศน์นิมนต์พระเจ้ามา เราจุดเทียน พระสวดจบแล้วเราประเคนสำรับ พระฉันไปแล้ว พระสดับปกรณ์มา เราทอดผ้าแล้วชาวคลังเอาเงินมาให้เราจบ เราจบแล้วส่งให้สังฆการี แล้วเรากลับ

บ่ายสี่โมงเราไปบนเฝ้าในห้องไปรเวต ไปถึงประเดี๋ยวก็เสด็จขึ้น เสด็จในที่ ทรงเครื่องแล้วเสด็จออกขุนนาง เราแอบดูที่พระทวาร เห็นต้นไม้ทองเงินตั้งอยู่บนโต๊ะ ป้าโสมบอกเราว่าเมืองขึ้นของทูลหม่อมบนเขาทำมาถวาย จะเป็นเมืองอะไรไม่ทราบ ให้ทูลถามทูลหม่อมเองเถิด เสด็จขึ้นมาเราทูลถาม รับสั่งว่าเมืองนางรอง๖๑ กับเมืองพนมสารคาม๖๒ ค่ำรับสั่งให้เราไปสวดมนต์ที่พุทธนิเวศน์ แต่ให้รอเทศน์ไว้คอย ทูลหม่อมบนจะเสด็จ เราไปนิมนต์พระ สวดมนต์จบเรานั่งคอยจนสองทุ่มนานยังไม่เสด็จ เราหาวนอนเต็มทีเลยกลับตำหนัก พอถึงก็ถอดเสื้อแล้วนอน.

วันอังคาร วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้ายังไม่ทันอาบน้ำ สมเด็จแม่กับเสด็จน้ากลับมาจากบน เกือบบ่ายห้าโมงเราแต่งตัวไปบน เฝ้าในห้องเขียว เสวยแล้วเสด็จไปห้องเหลือง เสด็จกลับเข้ามาทรงเครื่อง ทุ่มเศษเสด็จออกห้องเหลือง ทรงจุดเทียนบนพระแท่น แล้วทรงจุดที่พระแท่นพระชันษา พระวัดราชบพิธสวดมนต์สามสิบเอ็ดรูปเท่าพระชันษาทูลหม่อมบน วันนี้เป็นวันฉลองพระชันษา๖๓ จัดห้องเหลืองงามมาก พระกำลังสวดมนต์เรานอนหลับ สวดจบปี่พาทย์ขึ้นเราตกใจตื่นขึ้น ทูลหม่อมรับสั่งให้เราไปจุดดอกไม้ นายเสนออุ้มเราไปจุดดอกไม้แล้วเรากลับตำหนัก เจ้านายต่างกรมเสด็จมาหลายพระองค์ ถึงตำหนักยามเศษเรานอน.

วันพุธ วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าเราแต่งตัวไปบน ทูลหม่อมบนยังไม่เสด็จออก เราเข้าไปในห้องน้ำเงิน ดูเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เราชอบพระมหามาลาเพชร ดูงามมาก แล้วไปดูตู้พระแสง เราเคยเห็นพระแสงองค์หนึ่งทูลหม่อมบนเคยทรงเสด็จกฐิน ป้าโสมบอกเราว่าพระแสงหัตถ์นารายณ์ ในห้องนี้มีของหลายอย่าง เราเดินดูจนทั่ว เกือบห้าโมงเสด็จออกห้องเหลือง เราออกไปเฝ้า เลี้ยงพระที่สวดมนต์คืนนี้ พระไปแล้ว ทูลหม่อมบนประทับตรัสอยู่กับสมเด็จตา บ่ายโมงเศษเราหิวข้าวกลับมาตำหนัก จะอยู่จนเวียนเทียนดูปล่อยสัตว์ก็หิวนัก มาถึงเราเล่าให้นายฟังถึงได้เห็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขาดแต่พระมหาพิชัยมงกุฎ ป้าโสมบอกว่าเชิญออกไปตั้งบนพระที่นั่งภัทรบิฐ ถ้าเราเห็นจะชอบ งามมาก เกือบบ่ายห้าโมงเราไปบน ทูลหม่อมบนกำลังเสวย เราเข้าไปเฝ้าในห้องเขียวแล้วออกมากินข้าว กินยังค้าง เจ้าเข่งมาบอกเราว่ารับสั่งให้เราไปแจกทานคนแก่ เราออกไป จ่ายงอุ้มเราไปแจกทาน คนแก่มาก แจกคนละสลึง แจกแล้วเรากลับมากินข้าวต่อ แล้วไปเล่นหน้าห้องเสด็จน้า ทุ่มนานเสียงประโคม พระเข้ามา เราชวนพี่น้องเรารีบไปบนพระที่นั่งบรมราชสถิตย์ พระสวดห้ารูป มีหนังสือด้วย๖๔ โหรก็สวด ป้าโสมบอกเราว่าสวดสะเดาะพระเคราะห์ แล้วเรานอนหลับหลังพระเก้าอี้ เราร้อนนัก ตื่นขึ้นมาป้าโสมจะอุ้มเรามาตำหนัก เราไม่มาจะอยู่จุดดอกไม้ ป้าโสมอุ้มเรามาห้องสมเด็จแม่ นายรับเรามาตำหนัก นายว่าคุณยายกลับแล้ว เอาตุ๊กตามาฝาก เรามาถึงตำหนักกินข้าวอีก ห้าทุ่มเรานอน.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าเราแต่งตัวไปบน เข้าไปในห้องน้ำเงินอีก ดูรถเล็ก ๆ กับเรือไฟ ป้าโสมบอกเราว่าเรือมงกุฎลำหนึ่ง เรือมหาวชิรุณหิศลำหนึ่ง เสด็จออกเราออกไปเฝ้า ทูลหม่อมบนเลี้ยงพระห้ารูป พระไปแล้วรับสั่งกับทูลหม่อมอาองค์น้อย๖๕ บ่ายเราชวนพี่น้องมากินข้าวที่ห้องรับแขกของสมเด็จแม่ แล้วไปอาบน้ำ โคมแก้วแตกบาดเรา เราร้องไห้ แล้วเรามานอนหลับบนพระแท่นของสมเด็จแม่ บ่ายสี่โมงตื่นไปเฝ้าในห้องเขียว รับสั่งให้เราไปแจกทานคนแก่อีก เราแต่งตัวออกไป เห็นเจ๊กแต่งตัวมาคอยเฝ้า กับพระญวน เราไปเขายืนคำนับเรา แจกทานที่หน้าพระที่นั่งจักรี เวลาแจกนั้นตีปี่พาทย์ด้วย กลับมาทูลหม่อมบนเสด็จไปทรงเครื่อง สมเด็จแม่รับสั่งว่าจะเสด็จวัดพระแก้ว เราจะกินข้าวกลัวจะไม่ทัน ใส่หมวกแล้วไปคอยอยู่ห้องเหลือง เห็นเสด็จอุปัชฌาย์๖๖ ประทับอยู่บนอาสนสงฆ์ มีคนอยู่งานพัดถวายด้วย ทูลหม่อมบนเสด็จออก ประทับตรัสกับเสด็จอุปัชฌาย์แล้วเสด็จวัดพระแก้ว ข้างหน้าสนุกมาก จุดไฟงามมาก เสด็จถึงวัดทรงจุดเทียนพระสงฆ์แล้วเสด็จกลับ ถึงบนพระที่นั่งนิมนต์พระมาถวายไตร เราก็ถวายไตรพระแล้วเรามากินข้าว พี่น้องเราก็ไปกินด้วยกัน แล้วเรากลับมาที่ห้องเหลือง พระสวดเรานอนหลับ สวดจบเราตื่นยังหาวนอน เรากลับแล้วไปเที่ยวดูซุ้มในวัง เรานึกได้ที่เรือนเจ้าบัว๖๗ เคยมีคนขายตุ๊กตาขายไข่ เราเคยซื้อไข่ ป้าโสมว่าสามปีเข้าปีนี้แล้ว ยังอุตส่าห์จำไว้ได้ ไม่ใช่เรือนเจ้าบัว เรือนเจ้าโสภา๖๘ แล้วเรากลับตำหนัก สี่ทุ่มเศษเรานอน.

วันศุกร์ วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าเราแต่งตัวแขวนตราจักรีไปบน ยังไม่เสด็จออก เรานั่งอยู่สักครู่หนึ่ง ทูลหม่อมบนเสด็จออกทรงจุดเทียนเลี้ยงพระ ได้เวลาเสด็จลงไปสรงมูรธาภิเษก เสด็จอุปัชฌาย์ทรงรดน้ำถวายทูลหม่อมบนด้วย สรงแล้วเสด็จขึ้นมาทรงเครื่องในห้องน้ำเงิน เจ้าเข่งมาบอกให้เราไปจุดเทียนสังเวยเทวดา เราลงไปจุดแล้วกลับขึ้นมา ทูลหม่อมบนทรงเครื่องเสร็จก็เสด็จออก พระยถาแล้วกลับไป เสด็จออกพระที่นั่งจักรี เราไม่ได้ตามเสด็จออกไป แอบมองดูที่พระทวารเห็นตำรวจยืนเป็นแถวกับเจ้านาย แล้วขุนนางเดินเข้ามาถวายคำนับทูลหม่อมบนแล้วไปยืนตามที่ เจ้าพระยาภาณุวงษ์๖๙นำกงซุลต่างประเทศเข้ามา เราเห็นคนหนึ่งแต่งตัวมีพู่บ่าด้วย แล้วมีผู้หนึ่งอ่านแอดเดรสถวายพระพรทูลหม่อมบน แล้วเรามานั่งกับสมเด็จแม่ ทูลหม่อมบนเสด็จขึ้น เปลี่ยนเมียพระยาภาส๗๐ เอาฉากมาถวาย รับสั่งกับเปลี่ยนแล้วเสด็จขึ้นมาบนพระที่นั่งบรมราชสถิตย์ เจ้านายผู้หญิงถวายพระพร มีทูลหม่อมย่าเป็นต้น เสด็จป้าองค์ยิ่งกับท้าววรจันเป็นผู้อ่าน ทูลหม่อมบนทรงอ่านตอบแล้วรับสั่งว่าคนมาคอยหามาก เสด็จออกมีคนคอยเฝ้ามาก ผู้หญิงก็ถวายดอกไม้หลายคน เสด็จออกประทานผ้ากับเงินห่อหนึ่ง แล้วทรงทักคนที่มาเฝ้า แล้วเสด็จขึ้นทรงแจกข้างใน เราเก็บก๊าดของทูลหม่อมบนได้อันหนึ่ง เราถวาย ท่านประทานให้เราเอามาเล่น ให้ป้าโสมอ่าน เราให้อ่านแล้วเรากลับตำหนัก ป้าโสมบอกเราว่าเงินห่อละสิบตำลึง ผ้าสองสำรับทรงแจกเท่าพระชันษา บ่ายห้าโมงเสด็จน้าให้มาตามให้เราไปบน เฝ้าในห้องเขียว ทูลหม่อมบนทรงลืม รับสั่งให้เราไปแจกทานแล้วรับสั่งว่าวันนี้ไม่มี มีต่อพรุ่งนี้ ย่ำค่ำแล้วฝนตก รับสั่งให้เราไปจุดเทียนวัดพระแก้ว ประทานเทียนจุดไฟฟ้าให้เราไป จ่ายงอุ้มเราไปทรงวอ จุดเทียนแล้วกลับมาดูซุ้ม ข้างหน้า๗๑สนุก พระยาโชฎึกให้ตุ๊กตางิ้วเรา เรามาคอยตามเสด็จอยู่ที่ห้องสมเด็จแม่ ทุ่มหนึ่งเสด็จออกทรงเลี้ยงโต๊ะ สองทุ่มเศษเลิก เสด็จทรงพระราชยานไปตำหนักแพ๗๒ ทรงเรือไฟเที่ยวทอดพระเนตรตามแม่น้ำ.

วันเสาร์ วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

เราไปบนเกือบบ่ายห้าโมง พระเทศน์จบกัณฑ์หนึ่งแล้ว เราไปถึงประเดี๋ยวเทศน์จบอีกกัณฑ์หนึ่ง แล้วเสด็จลงมาแจกทาน เรากับน้องชายโตช่วยทูลหม่อมบนแจก ทูลหม่อมบนทรงแจกยังไม่หมด รับสั่งให้เราแจกต่อไป แจกเสร็จแล้วเราตามเสด็จข้างหน้า รับสั่งให้เราแจกอีก เสด็จขึ้นเสวย เราอยู่แจกจนหมดจึงกลับมาเฝ้าในห้องเขียว แล้วออกมากินข้าวเย็นที่พระเฉลียง แจกก๊าดเชิญพี่น้องเรากินโต๊ะพรุ่งนี้ ที่ตัวไม่มาเราให้ยายอินกับหญิงสุหร่ายไปเชิญ ย่ำค่ำแล้วรับสั่งใช้เราไปจุดเทียนวัดพระแก้ว ราชพันอุ้มเราไปทรงวอ ถึงวัดจุดเทียน พระสวดมนต์แล้วเรากลับ พระสวดมนต์วันละห้ารูปทั้งสามวัน มาถึงพระที่นั่งจักรีเห็นแต่งที่พระสวดมนต์ ยังไม่เสด็จออก เรามานั่งคอยอยู่จนทุ่มนาน หาวนอนเลยกลับตำหนัก ขี่เสลี่ยงมา เห็นซุ้มหายหาวนอน เที่ยวดูซุ้มจนสองทุ่มเศษกลับมาตำหนัก อาบน้ำแล้วกินขนมปัง ยามเศษเรานอน.

วันอาทิตย์ วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าเราแต่งตัวไปบน เลี้ยงพระที่พระที่นั่งจักรีสามสิบรูป เราขึ้นไปถึงยังไม่เสด็จออก ห้าโมงนานเสด็จออกเลี้ยงพระ พระฉันแล้วพระศรีสุนทร๗๓มายืนอ่านประกาศหน้าเครื่องสังเวย แล้วเสด็จขึ้น เกือบบ่ายโมงเรากลับตำหนัก กินข้าวกลางวัน บ่ายสี่โมงนานเราไปบน เห็นคนนั่งเวียนเทียนรอบพระที่นั่งข้างล่าง เราขอหลีกไป ทูลหม่อมบนกำลังเสวยอยู่ในห้องเขียว ห้าโมงเจ้านายพี่น้องแต่งตัวแฟนซีไปตามก๊าดเราเชิญ เราแต่งทหารบก น้องชายโตแต่งทหารเรือ แต่งไทยแต่พี่ผ่อง๗๔องค์เดียว ย่ำค่ำแล้วทูลหม่อมบนทรงพาไปนั่งโต๊ะพร้อมกันที่พระที่นั่งมูลสถานบรมอาศน์ เรานั่งตรงกับน้องชายโต รวมพี่น้องซึ่งนั่งโต๊ะทั้งตัวเราด้วยยี่สิบคน ที่นั่งโต๊ะไม่ได้ก็ไปพร้อมกัน เลี้ยงเสร็จแล้วหมายจะมีเซอคัสเหมือนคราวก่อน ไม่มี เพราะทูลหม่อมบนท่านไม่ได้รับสั่งไว้ เรากลับตำหนัก ถอดเสื้อแล้วไปเที่ยวดูซุ้ม

เมื่อวันแรมห้าค่ำนั้น เจ้านายขุนนางแต่งตัวสวมเสื้อเยียรบับทุกคน วันนี้ทูลหม่อมบนเสด็จเที่ยวทอดพระเนตรนอกวัง เราตามไปทันทีเขามีโรงหวย เสด็จขึ้น เป็นการเสด็จการเฉลิมพระชนมพรรษาในวันนี้ เรากลับมาตำหนัก สี่ทุ่มเศษ เรานอน.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

บ่ายสี่โมงเราได้ยินเสียงยิงปืนสลุต เรารีบมาจะอาบน้ำแต่งตัวไปบน หมอมากวาดยา เราต้องรออยู่ กวาดยาแล้วไปบน เสด็จขึ้นแล้ว แม่วาศบอกเราว่าเสด็จอยู่บนดาดฟ้า ป้าโสมอุ้มเราตามไป พบทูลหม่อมบนกับสมเด็จแม่ทอดพระเนตรอยู่บนโน้น เราก็ไปดู เห็นทหารกับช้างงายาว๗๕กับม้า แต่งเครื่องมายืนรับแขกเมือง ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าเจ้าเมืองออสเตรีย เสด็จกลับลงมาเสวยในห้องเขียว ค่ำเสด็จในที่เรากลับมาตำหนัก ยายอินมาเล่าถึงไปดูรับแขกเมือง แล้วเราไปนั่งเล่นกับคุณยาย เราเล่าถึงช้างงายาวชื่อพระยาปราบไตรจักร แล้วเมื่อกลางวันสมเด็จแม่ประทานขันครอบนากสำรับหนึ่งกับกระโถนนากใบหนึ่ง สองทุ่มเศษเรานอน.

วันศุกร์ วันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้าอาบน้ำกินข้าวแล้วนั่งเล่น สี่โมงเช้าเราแต่งตัวใส่เสื้อเยียรบับนุ่งต่วน ขึ้นเสลี่ยงไปกับน้องชายโต ไปห้องสมเด็จแม่ ยังไม่ตื่นประทม เราปลุกประทม ประทมตื่นแล้ว เรามาเฝ้าทูลหม่อมบน ทรงพระอักษรอยู่ที่ห้องเขียว ห้าโมงยังไม่เสด็จ สมเด็จแม่ให้เรากินข้าวกลางวัน ย่ำเที่ยงแล้วเสด็จออก ทรงฉลองพระองค์เยียรบับขาว ทรงพระภูษาเขียนทองพื้นขาว มหาดเล็กก็นุ่งขาวทั้งนั้น ทรงพระราชยานทอง ทหารยืนรายทางตลอด ถึงวัดพระแก้วเสด็จบนโบสถ์ เจ้านายขุนนางพร้อม พระสงฆ์นั่งอยู่ด้วย อ่านหนังสือแล้วชุบพระแสงในหม้อน้ำ (มนต์) พราหมณ์เชิญน้ำใส่ถ้วยโมราประดับเพชรมาถวาย เสวยแล้วประทานเรากับน้องกิน เจ้านายมีวังหน้าเป็นต้น ขุนนางกินน้ำทุกคน เสร็จแล้วเสด็จกลับ จ่ายงอุ้มเราตามเสด็จมาทางข้างใน เราเห็นยายอินนุ่งขาวห่มขาวผ้าปักทอง ผู้หญิงมาก เต็มไปทั้งวัด เสด็จกลับมาทรงพระราชยาน ขากลับมีแต่เรากับน้องชายโต น้องหญิงใหญ่กลับเสียก่อน แกร้องไห้ฉุนน้องชายโต เสด็จถึง ถวายบังคมพระบรมอัฐิแล้วทรงผลัดพระภูษา เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งไพศาล ข้างในถือน้ำเสร็จแล้ว เสด็จบนพระที่นั่ง เรากลับตำหนัก บ่ายสามโมงนานฝนตก เราเล่นน้ำฝน ยายอินเดินมา เราใช้บ่าวไปเรียกมาเล่นกับเรา ห้าโมงเราไปบนเฝ้าในห้องเขียว ทุ่มนานเสด็จพระมหาปราสาท เสด็จทางใน ทรงจุดเทียนแล้วพระศรีสุนทรอ่านประกาศ พระสวดมนต์ มีหม่อมเจ้าสาว ๆ นั่งเก้าอี้ฟังสวด เรารู้จักแต่หญิงมณฑากับหญิงเสมอวงษ์ สวดจบ เรากับเจ้านายช่วยกันถวายเทียนพระสงฆ์ เราหาวนอน ยังไม่เสด็จขึ้น เรากลับตำหนัก สี่ทุ่มเรานอน.

วันจันทร์ วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

สามโมงเช้าเราแต่งตัวขึ้นเสลี่ยงไปกับน้องชายโต เอาข้าวกับกล้วยให้ปลาในสระ เฒ่าแก่มาบอกให้เราไปทรงบาตร พระหมดแล้วเราไปบน อยู่ที่หน้าห้องรับแขกของสมเด็จแม่ พอทูลหม่อมบนประทมตื่น เราไปเฝ้าบนพระที่นั่งดำรงสวัสดิ์ชั้นบน ห้าโมงเศษเสด็จ สมเด็จแม่อุ้มเราลงมา ถึงพระมหาปราสาททูลหม่อมบนทรงจุดเทียนเลี้ยงพระ โถยาคู๗๖วันนี้ของเจ้านายต่างกรม เมื่อวานของขุนนาง เสด็จขึ้นแล้วเรากลับตำหนัก นอนกลางวัน บ่ายสี่โมงตื่นแล้วแต่งตัวไปบนกับเสด็จน้า สองทุ่มเสด็จพระมหาปราสาท วันนี้ปี่พาทย์มโหรีไม่ได้ประโคม หม่อมเจ้าที่จะกวนข้าวทิพย์แต่งตัวนุ่งขาวห่มขาว ไม่เหมือนวันก่อน ทรงจุดเทียน พระให้ศีลแล้วพระศรีสุนทรมายืนอ่านประกาศเหมือนทุกวัน พระสวดจบแล้วเสด็จมาข้างใน ทรงรดน้ำสังข์เจิมหม่อมเจ้า แต่หม่อมราชวงศ์ทรงรดด้วยพระเต้าทอง เพราะไม่ได้เป็นเจ้า รดสังข์ไม่ได้ หม่อมเจ้าลงไปแล้ว ทูลหม่อมบนทรงพระราชยานเสด็จไปโรงกวนข้าวทิพย์ เรากับน้องหญิงใหญ่ขึ้นพระราชยานไปด้วย หม่อมเจ้านั่งกะทะ กะทะละสองคน๗๗ ทูลหม่อมบนทรงรดน้ำสังข์ทุกกะทะ แล้วทรงพระเต้าฤษีรดอีก จุกหลุดเราเก็บถวาย ประทานให้เจ้าพนักงานไว้ เจ้านายเทนมเนยน้ำส้ม หม่อมเจ้าจับพายกวน ปี่พาทย์ประโคมแล้วเสด็จกลับขึ้นอัฒจันทร์หน้าพระที่นั่งจักรี กริ๋งพระทวารหลายหนไม่มีใครเปิด เสด็จเข้าทางพระทวารห้องออฟฟิศหน้าห้องสมเด็จแม่ ประทับพระทวารหน้าห้อง รับสั่งให้หาสมเด็จแม่ เรากลับตำหนัก สี่ทุ่มเศษเรานอน.

วันจันทร์ วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

ห้าโมงเช้าแต่งตัวใส่เสื้อปักทอง ใส่สังวาลเพชรกลัดเข็มพระรูปทูลหม่อมบนกับสมเด็จแม่ ไปคอยตามเสด็จที่พระที่นั่งจักรี ทูลหม่อมบนทรงฉลองพระองค์เต็มยศทหารหน้า๗๘ เที่ยงแล้วเสด็จออกทรงพระราชยานทอง เราไปวอสองคนกับน้องหญิงใหญ่ ประทับวัดราชประดิษฐ์ที่หนึ่ง ทูลหม่อมอาองค์น้อยเลี้ยง แจกของเจ้านายด้วย เจ้านายผู้ชายได้รัดประคด เจ้านายผู้หญิงได้กระเช้ากับดอกไม้ช่อ เสร็จแล้วเสด็จวัดจักรวรรดิเป็นที่สอง วัดสัมพันธวงศ์ที่สาม วัดปทุมคงคาที่สี่ บ่ายสามโมงนานเสด็จกลับ เราเปลื้องเครื่องอาบน้ำที่บน แล้วกลับมาหาหมอกวาดยา แล้วแต่งตัวไปบน ซื้อของกินสนุกนัก สมเด็จแม่ขายขนมจีนแกงไก่ เราซื้อแจกเจ้านาย แล้วซื้อฝากคุณยาย เจ้าสาย๗๙กับเจ้าจอมก็ขายอีกหลายคน ทุ่มหนึ่งกลับตำหนัก เราเล่าให้คุณยายฟังว่าพระอริยมุนีที่อยู่วัดเทพศิรินทร์จวนตายแล้ว ทูลหม่อมบนรับสั่งบอกเราว่า วัดนี้เป็นวัดทูลหม่อมย่าที่สิ้นพระชนม์ ท่านทรงสร้างถวาย เกือบสองทุ่มเรานอน.

วันพุธ วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นโมงเช้า กินข้าวแล้วโกนผม สี่โมงนานแต่งตัว นุ่งเยียรบับแดง ใส่เสื้อเยียรบับม่วง ใส่มาลัยเพชร แต่งเสร็จแล้วขึ้นเสลี่ยงตามสมเด็จแม่ไปบน ทูลหม่อมบนกำลังแต่งพระองค์อยู่ที่เรียกว่าท้องพระโรง ภูษามาลาเข้ามาทรงเครื่องถวาย ทรงพระมหากฐินที่ทำซ่อมขึ้นใหม่ งามมาก ทรงพระแสงขรรค์เนาวโลหะ แล้วเสด็จไปทรงพระที่นั่งพุดตาล เราไปวอสองคนกับน้องหญิงใหญ่ เราสนุกมาก คนที่ดูก็มาก เป็นคราวแรกที่เราได้ตามเสด็จ๘๐ กระบวนพยุหยาตรา๘๑ดูไม่ใคร่จะทัน กระบวนมากจริง ๆ เราไปถึงหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ เห็นสมเด็จแม่กับเสด็จน้า ประทับทอดพระเนตรอยู่ที่ศาลาเหนือพระที่นั่งสุทไธศวรรย์กับน้องเราสามคน ทูลหม่อมทรงโปรยเงินตลอดทางจนถึงวัด ประทับทรงเปลื้องเครื่อง ถวายกฐินแล้วเสด็จต่อไปจนถึงวัดที่สาม เราเป็นผู้เลี้ยงและแจกของ วัดพระเชตุพนที่หนึ่ง วัดราชบูรณะที่สอง วัดราชบพิธที่สาม วัดสุทัศน์ที่สี่ ห้าโมงนานเดินกระบวน เที่ยงแล้วถึงวัด กลับมาถึงในวังเวลาพลบ เรากลับตำหนัก แจกของเล่นน้องทุกคน แต่ขวดหมึกเราให้ป้าโสมไว้สำหรับจดไดรีของเรา อาบน้ำแล้วไปนอนเล่นกับป้าโสมถึงไปวันนี้ เราตื่นทูลหม่อมอาองค์น้อยมาก ชวนเราให้กินมะพร้าวอ่อนแล้วท่านรับสั่งว่า จะลงท้องอย่ากินเลย เป็นครั้งแรกที่เราได้ตามเสด็จ เราถามหลวงนายศักดิ์บ้าง นายซุ้ยบ้าง แล้วมาซักป้าโสมบ้าง คุยกันอยู่จนสองทุ่มนาน เรานอน.

วันพุธ วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้าแต่งตัวแล้วทูลลาทูลหม่อมปู่ มากับสมเด็จแม่ไปลาคุณยาย แล้วมาบน ทูลหม่อมบนยังเสด็จอยู่ในที่ เราไปที่ท้องพระโรงหลังที่ติดกับพระที่นั่งจักรี เฝ้าเจ้านาย ป้าๆ น้าๆ อาๆ ทูลหม่อมบนเสด็จมาแล้ว สมเด็จแม่กับเสด็จน้าเสด็จไปลงเรือก่อน เราตามเสด็จทูลหม่อมลงเรือเวสาตรีกับน้องชายโต ทูลหม่อมบนประทับตรัสกับขุนนาง หลวงนายศักดิ์อุ้มเรามาลงเรือก่อน เรือออกจากตำหนักแพประมาณบ่ายโมงหนึ่ง แล้วเรือเดินขึ้นไปกลับที่หน้าวัดราชาธิวาส เมื่อเราจะมาป้าโสมทรงกรรแสง เรือเดินมาถึงปากน้ำบ่ายสี่โมง ทูลหม่อมบนเสวย เราออกดีใจจะได้กินของแสลง เราอดมาหลายวันเพราะเราเจ็บเป็นไข้ เสวยแล้วเสด็จไปรับของถวาย เรามากินข้าวเรือหยุดที่หน้าป้อมผีเสื้อสมุทร มียิงสลุตแล้วเรือเดินมาถึงสันดอน เราได้ข่าวที่ทูลหม่อมบน ท่านรับเตลกราฟว่าลูกเสด็จอาโส๘๒ออกเป็นผู้หญิง ว่าออกเมื่อวันอังคาร เรือจอดอยู่ที่สันดอน นอนทุ่มหนึ่ง.

วันอาทิตย์ วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เรือมาถึงหน้าป้อมผีเสื้อสมุทร ที่ป้อมยิงสลุต ถึงตำหนักแพบ่ายโมงหนึ่ง เราตามเสด็จทูลหม่อมบนขึ้นมาทรงทักทายเจ้านายขุนนาง และตรัสถามถึงราชการตามเคย แล้วเสด็จขึ้นจากตำหนักแพ ประทับอยู่ข้างหน้า รับสั่งให้เราเข้ามาก่อน จะได้เตรียมตัวไปดูโล้ชิงช้า เรากลับเข้ามาข้างใน ป้าโสมวิ่งไปรับ จูบเราใหญ่ เพราะคิดถึงเรามาก อุ้มเราเข้ามา เราเห็นเจ้านายผู้หญิงเสด็จขึ้นไปคอยรับเสด็จมาก เราเฝ้าท่านแล้วกลับตำหนักหาคุณยาย ตรวจของ ได้ให้ผ้าพื้นป้าโสมผืนหนึ่ง จะให้ลุงจักษ์ผืนหนึ่ง บ่ายสามโมงนานแต่งตัวไปบน บ่ายห้าโมงแล้วจึ่งได้ไปขึ้นรถหน้าพระที่นั่งจักรี คราวนี้ไม่ได้ไปกระบวนช้าง ทูลหม่อมบนไม่ได้รับสั่งไว้ จัดไม่ทัน ไปดูที่ศาลาวัดสุทัศน์ตามเคย แต่เกือบค่ำไม่ได้เห็นอะไร พระยาโชฎึกเป็นผู้แห่ กระบวนมากกว่าพระยาราช กลับมาเกือบทุ่ม แล้วตามเสด็จไปสมโภชลูกแม่ทับทิม๘๓ ชื่อวุฒิไชยเฉลิมลาภ๘๔ กลับตำหนักเล่นต่อ๘๕กับป้าโสม นอนห้าทุ่ม.

วันเสาร์ วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าไปบน ทูลหม่อมบนยังไม่ประทมตื่น เสด็จเข้าที่บนพระที่นั่งดำรงสวัสดิ์ ลุงจักษ์เข้ามาจัดที่พระฉัน เราไปนั่งเล่นอยู่ด้วย เกือบห้าโมงเราไปบนโน้น นั่งอยู่กับสมเด็จแม่สักครู่หนึ่ง ทูลหม่อมบนประทมตื่น พระเข้ามา ประโคมขึ้น รับสั่งให้เราลงมาทรงประเคน แล้วเรามานั่งฟังหนังสือพระราชพงศาวดาร ตอนเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าทรงตั้งการอุปราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าเป็นกรมพระราชวัง (บวร) เราฟังอ่านถึงพอรับพระสุพรรณบัฏแล้วก็ให้ป้าโสมเล่าต่อไป พอได้ยินพระสุรเสียงทูลหม่อมบน เราออกมาที่พระฉัน ทูลหม่อมบนรับสั่งให้ภูษามาลาไปเชิญพระเกี้ยวยอด๘๖ข้าหลวงเดิมมา แล้วท่านทรงลองเรา รับสั่งชมว่าหน้าเราคล้ายพระพักตร์ของท่าน รับสั่งจะให้เราแต่งถ่ายรูป แล้วเสด็จมาประทานสายนาฬิกาคุณตาราชประสิทธิ์๘๗ เสด็จขึ้นแล้วเรากลับตำหนัก วันนี้ที่ตำหนักแต่งตัวพี่เยาวมาล๘๘ แต่งอย่างฟังสวดไปถ่ายรูป เย็นเราไปบน เฝ้าที่ห้องเขียว องค์จร๘๙มาทำกรอบอยู่ที่พระเฉลียง ทูลหม่อมบนท่านต้องประทานเครื่องให้กิน ทุ่มนานเสด็จออกพระที่นั่งจักรี เจ้านายที่จะโสกันต์ถวายไตร เสด็จขึ้นแล้ว เรากลับตำหนัก นอนยามนาน.

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นนอนเช้ากินข้าวแล้วเล่นกับน้องชายโต พี่เยาวมาลมาแต่งตัวที่มุข บ่ายสี่โมงนานเราแต่งตัวไปบน ทูลหม่อมบนทรงฉลองพระองค์เยียรบับ ทรงพระภูษาเขียนทอง เสด็จลงมาคอยอยู่ที่เกยเป็นนาน เจ้านายที่จะโสกันต์ยังไม่ลงมา ต้องเร่งกันหลายหน ทูลหม่อมบนท่านทรงฉุนหน่อย ๆ แห่เย็นมาก แห่กลับค่ำ เมื่อถึงพระมหาปราสาทรับสั่งใช้เราเอาหนังสือมาถวายเสด็จน้าใบหนึ่ง เจ้านายที่โสกันต์นั้นคือพี่จันทราสุรัทวารหนึ่ง พี่สุวภักตรวิไลยพรรณหนึ่ง พี่เยาวมาลนฤมลหนึ่ง แต่พี่จันทรานั้นอายุสิบสอง สององค์สิบเอ็ด มีการแห่และการเล่นหลายอย่าง วันนี้เราไม่ทันดู เห็นแต่โอละพ่อ๙๐ สมเด็จตากับลุงจักษ์กำกับกระบวน เมื่อเวลาแห่กลับมาถึง เจ้านายขึ้นไปแล้ว ทูลหม่อมบนทรงแจกเงินคู่เคียง๙๑ สมเด็จตากับลุงจักษ์ก็ได้ประทานด้วย เสด็จขึ้นแล้ว เราขึ้นเสลี่ยงที่มุมโรงละครกลับมาตำหนัก กินข้าวแล้วไปนอนฟังป้าโสมเล่าพงศาวดาร หลับสองทุ่มนาน.

วันจันทร์ วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

บ่ายสามโมงนานแต่งตัวไปบน ทูลหม่อมบนยังเสวยอยู่ในห้องเขียว สี่โมงทูลหม่อมบนทรงเครื่องแล้วเสด็จลงมาประทับตรัสกับน้าตุ้ยกับเจ้าคุณเอม๙๒ที่พระที่นั่งทรงธรรม แล้วเสด็จมาประทับพระเก้าอี้ที่ริมเกย กระบวนยังไม่ทันเข้ามา เจ้านายลงมาแล้ว แกเข็ดเมื่อวานนี้ ทูลหม่อมบนท่านต้องรับสั่งให้หาเก้าอี้มาให้นั่ง พอกระบวนเข้ามา ทูลหม่อมบนประทับบนเกย ส่งลงยานุมาศแล้ว กระบวนเดินจนหมดข้าหลวง ทูลหม่อมเสด็จทางหน้าโรงละคร มาบนพระที่นั่งแล้ว เสด็จออกพระทวารพระที่นั่งจักรี ทรงพระราชยานมาประทับเกยที่นั่งอาภรณ์พิโมขปราสาท เมื่อเราไปถึงเห็นพวกโมงครุ่ม๙๓ แล้วได้เห็นขุนนางนั่งในปะรำที่สนามหญ้า พอเสด็จขึ้นเรากลับตำหนัก ช่วยแก้ของ (แต่งองค์) พี่เยาวมาล ป้าโสมบอกเราว่าพี่จันทราแต่งองค์ที่พระตำหนักทูลหม่อมย่า พี่กลาง๙๔แต่งที่เรือนของพี่กลางเอง พี่เยาวมาลเป็นของสมเด็จแม่ทรงแต่ง คุยกันถึงแห่โสกันต์ ยามหนึ่งเรานอน.

วันอังคาร วันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นก่อนโมงกินข้าวแล้วเล่นต่อ นายกับป้าโสมเตือนให้อ่านหนังสือ สมเด็จแม่เสด็จกลับจากบน เราขึ้นไปกินเครื่องฝรั่งบนโน้น วันนี้เครื่องมาก ทูลหม่อมอาองค์ใหญ่ท่านทรงทำบุญ เอาของมาถวายสมเด็จแม่ พราหมณ์มายกอุหลุบ๙๕ที่ตำหนัก เราลงไปรับ ลูกพระครูเป่าสังข์ เราแจกเงินพราหมณ์ทุกคน ท้าวศรีสัจจาเป็นผู้นำมา ของที่เอามานั้นมีข้าวตอกเป็นต้น บ่ายสามโมงเศษไปบน ทูลหม่อมบนยังเสวยอยู่ในห้องเขียว เสวยแล้วทรงเครื่องเสด็จมาที่เกย เรียกกระบวนเข้ามา ส่งเจ้านายลงยานุมาศเหมือนทุกวัน หมดกระบวนแล้วเสด็จพระมหาปราสาท วันนี้ฝรั่งมาดูมาก ตามเสด็จบนพระมหาปราสาท หลวงนายศักดิ์อุ้มเรามาทางนอกทุกวัน ต่อแห่กลับจึงตามเสด็จทางข้างใน เมื่อกระบวนมาถึง มีละครสี่คนมือถือดอกไม้ทองเงินออกไปรำ แห่กลับ รำบนชาลาพระมหาปราสาท ป้าโสมบอกว่าพึ่งมีเมื่อแผ่นดินทูลหม่อมปู่ แห่กลับเรากลับตำหนักตามเคย พี่เยาวมาลกับเราช่วยแก้ของ เปลื้องเครื่องเสร็จเรามากินข้าว วันนี้หลวงนายศักดิ์ให้ลูกกระรอกเราตัวหนึ่ง เราใส่หม้อกรัณฑ์ไว้ แล้วนอนฟังหนังสือพงศาวดารตอนพระเจ้าอู่ทองเสวยราชสมบัติ นอนเกือบยาม.

วันพุธ วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นเช้าโมงหนึ่งแล้วแต่งตัวไปบน สองโมงนานทูลหม่อมบนเสด็จลงมาส่งเจ้านายที่เกยแล้วขึ้นพระมหาปราสาทเหมือนเวลาเย็น แต่โอละพ่อและโมงครุ่มไม่ได้เล่น เมื่อเจ้านายขึ้นบนปราสาทแล้วเปลี่ยนเครื่องทรงถอด๙๖ ออกไปข้างหน้า นั่งบนเก้าอี้ ภูษามาลาแยกพระเกศาแล้วพระถวายศีล ทูลหม่อมบนเสด็จไปทรงรดน้ำสังข์ แล้วทรงตัดจุก แล้วสมเด็จตากับกรมหลวงวรศักดา กรมขุนภูวไนย กับกรมขุนบดินทร์ กรมขุนเจริญทรงแบ่งกันตัด พระฤกษ์สามโมงมีเศษ โกนแล้วลงไปสรงน้ำเขาไกรลาศก่อน แล้วขึ้นมาที่ที่สรง ทูลหม่อมบนประทานน้ำก่อน แล้วถึงวังหน้ากับเจ้านายต่างกรมกับเสนาบดี ข้างในก็ทรงรดหลายพระองค์ มีสมเด็จแม่เป็นต้น นอกจากเจ้านายมีเจ้าคุณกลาง๙๗คนหนึ่ง เสร็จแล้วขึ้นมาแต่งองค์นุ่งจีบห่มตาดออกไปถวายของพระ ทูลหม่อมบนทรงรดน้ำสังข์ เจิม แล้วกลับมาที่พระที่นั่งอาภรณ์ เจ้านายโสกันต์ทรงเครื่องต้น ทรงชฎามหากฐินทั้งสามองค์ มยุรฉัตร๙๘ เชิญเครื่อง๙๙ เปลี่ยนเครื่องขาวแต่งแดงหมด คู่เคียงสวมเสื้อครุยงาม ๆ แห่กลับแล้วเรามาตำหนัก บ่ายแต่งตัวไปบน ตอนแห่ไปสมโภชเปลี่ยนทรงมงกุฎทั้งสามองค์ ถึงพระมหาปราสาท เวียนเทียนสมโภช แล้วทูลหม่อมบนประทานหีบลงยากับแหวนองค์ละสี่วง เงินองค์ละสองถุงใหญ่กับถุงเล็กอีกถุงหนึ่ง เจ้านายข้างหน้าทรงเจิม ข้างในสมเด็จแม่กับเสด็จยายแม้นเขียนสองพระองค์เท่านั้น แห่กลับได้ยินว่าเกิดวุ่นกัน บางคนว่าง บางคนว่าช้าง ทูลหม่อมบนรับสั่งถามก็ไม่ได้ความ ของแต่งตัวพวกนางสระ๑๐๐ หัวจุกหายไม่มีเกี้ยวเป็นสามคน เรากลับตำหนักได้ยินแต่โจษกันเรื่องนี้ แต่พูดไม่ใคร่เหมือนกัน เรานอนยามหนึ่ง.

วันเสาร์ วันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นนอนเช้าออกมาพบลม้ายเมียเสด็จลุงเทวัญพาเจ้าชายลูกมาหาเรา เสด็จแม่เสด็จกลับจากบนรับสั่งให้เจ้าไขศรี๑๐๑มาตามเราขึ้นไปบนโน้น เราขึ้นไปกินเครื่องฝรั่งแล้วนั่งเล่นกับเจ้าไขศรี บ่ายสามโมงนานเราไปบน ทูลหม่อมบนเสด็จอยู่ในห้องเขียว ทรงเครื่องเสด็จออก พวกขุนนางทูลลา เสด็จขึ้นแล้วทรงกอดเรา รับสั่งว่าเมื่อไรจะโตเป็นหนุ่ม เสด็จน้าพาลูกลม้าย๑๐๒มาเฝ้า รับสั่งใช้เราไปเชิญหีบพระมหาสังข์ เราไปเชิญกับเจ้าเข่ง แกบ่นใหญ่ว่าเรายังเด็กนักไม่ควรจะทรงใช้ แกต้องอุ้มเราขึ้นหยิบ เราเชิญมาถวายทูลหม่อมบน ท่านทรงอี๋๑๐๓เราใหญ่ ประทานน้ำสังข์ เจิม แล้วประทานเงินชั่งหนึ่ง ยายอินก็ได้ประทานเบี้ยหวัดเติมสองชั่งตามที่เคยได้ เป็นส่วนที่รักเรา เราดีใจมากที่ทูลหม่อมบนทรงใช้เรา แล้วเราทูลลากลับตำหนัก ฟังป้าโสมเล่าถึงแผ่นดินพระพุทธยอดฟ้า หลับไม่ต้องกอดกับนาย.

วันจันทร์ วันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๖

สี่โมงเช้าแต่งตัวไปบน เฝ้าบนพระที่นั่งดำรงสวัสดิ์ ทูลหม่อมบนรับสั่งใช้เราไปเลี้ยงพระ๑๐๔ ป้าโสมอุ้มเรามาส่งลุงจักษ์ที่พระทวารพระที่นั่งจักรี เราไปวอถึงตำหนักแพ เลี้ยงพระแล้วไปดูปล่อยปลา แล้วกลับมาเฝ้าทูลหม่อมบนถวายหางว่าวเรือขนมจีน๑๐๕ กับหางว่าวพระสงฆ์ที่มาฉัน มีเสด็จอุปัชฌาย์กับกรมหมื่นวชิรญาณวโรรสเป็นต้น รวมทั้งหม่อมเจ้าพระและราชาคณะฐานายี่สิบรูป แล้วเราลงมากินข้าว แล้วกลับขึ้นไปทูลถามทูลหม่อมบนถึงเรื่องเลี้ยงโต๊ะจีน รับสั่งว่าบ่ายสองโมงให้เรามากินเถิด เรากลับมาทูลสมเด็จแม่ แล้วกลับตำหนัก บ่ายสองโมงเราแต่งตัวอย่างจีนไปกินโต๊ะที่ห้องสีชมพู ถัดห้องไปรเวตออกไป ทูลหม่อมบนกับเจ้านายต่างกรมบ้าง พระองค์เจ้าก็มากหลายพระองค์ เครื่องโต๊ะของพระยาโชฎึกทำถวาย มีพัดด้ามจิ้วกับแพรแดงเป็นของแจก แต่พัดของทูลหม่อมบนสะเปลนดิด งามมาก เลี้ยงเสร็จ เมื่อเสด็จขึ้นรับสั่งกับป้าโสมว่าเรากินช้อนชาหก ยังจะอยากนั่งโต๊ะสูง ให้นั่งโต๊ะเตี้ย เราอึ้ง แล้วเรากลับตำหนัก เล่นตุ๊กตา นอนทุ่มนาน.

วันอาทิตย์ วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

บ่ายสี่โมงแล้วแต่งตัวไปบน เฝ้าในห้องเขียว รับสั่งให้ไปตามเสด็จเผาศพพระยาไชยสุรินทร์๑๐๖ รับสั่งให้นุ่งสีกรมท่า ใส่เสื้อดำ เราออกมาบอกป้าโสมแล้วออกมากินข้าว แต่งตัวไปตามเสด็จ ทูลหม่อมบนทรงรถ เรากับพี่หญิงสุทธาทิพยรัตน์ กับพี่กลาง พี่เล็กไปรถพระที่นั่ง เจ้านายพี่น้องที่ตามเสด็จใส่เสื้อขาวนุ่งสีกรมท่าบ้าง น้ำเงินบ้าง ทุกองค์ ถึงเมรุรับสั่งว่าพระยาไชยสุรินทร์ได้เป็นพระพี่เลี้ยงแต่ยังทรงพระเยาว์ จึ่งได้เสด็จมาเผา เขาทำเมรุผ้าขาวมีแขกสวดด้วย ทูลหม่อมบนเสด็จเข้าไปประทานเพลิงในเมรุ เราพึ่งจะเคยเห็นเผาศพคราวนี้ ดูมาถี่ถ้วน ย่ำค่ำเสด็จกลับ เราไปห้องสมเด็จแม่ ท่านรับสั่งถามว่าทรงจุดฝักแคหรือเสด็จเข้าไปเผาในเมรุ เราทูลแล้วมากินข้าวอาบน้ำที่บน กลับจากบนสองทุ่ม ถึงตำหนักนอนยามหนึ่ง.

วันจันทร์ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

บ่ายสี่โมงนานไปบน เฝ้าในห้องเขียว เสวยแล้วเสด็จออก แต่ไม่ได้ทรงเครื่อง เสด็จขึ้น รับสั่งให้เราเอาหนังสือไปให้เสด็จอาสวัสดิ์๑๐๗คัดฉบับหนึ่ง วันนี้รับสั่งใช้เรามาก ทรงชมว่าเราได้ราชการ สมเด็จแม่กับเสด็จน้าก็ทรงชมเรา พอเราจะกลับ จันบอกเราว่าฉลากพวกพระยาไชยสุรินทร์เอามาถวายแล้ว เรากลับขึ้นไปเฝ้าอีก เราทูลทูลหม่อมบน ท่านเสด็จออกไปทรงรับมา แล้วประทานเราสองผล เราทูลขอให้น้องชายน้อยสองผล ถนอมน้องพระยาไชยสุรินทร์เอามะนาวมาให้เราถุงหนึ่งสามสิบผล กับฉลากถุงหนึ่งสิบห้าผล หีบของเล่นสองหีบ เราขึ้นฉลากแล้วกลับตำหนักยามหนึ่ง แจกผ้าพื้นกับเงินเฟื้องพวกบ่าว แล้วนอนสี่ทุ่ม สมเด็จแม่รับสั่งว่าเมื่อเช้ามืดฝนตก.

วันพุธ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นเช้าก่อนโมง กินข้าวแล้วแต่งตัวไปเฝ้าสมเด็จแม่ สองโมงสมเด็จแม่ทรงเครื่อง จุดธูปเทียนทูลลาทูลหม่อมปู่ แล้วเสด็จไปบน พบเสด็จน้าที่พระเฉลียง ทูลหม่อมบนเสด็จไปทูลลาทูลหม่อมย่า เสด็จกลับขึ้นมาทรงผูกมือน้องสามคน แล้วเสด็จมาประทับตรัสกับเจ้านายผู้หญิงที่มาคอยส่งเสด็จ แล้วเสด็จทางพระทวารจักรี เรากับน้องชายโตตามเสด็จทูลหม่อมบน เจ้านายขุนนางมาส่งเสด็จที่ตำหนักแพตามเคย ประทับตรัสสักครู่หนึ่งก็เสด็จลงเรือพระที่นั่ง เรือออกจากท่าเวลาประมาณสามโมงเช้า น้ำน้อยเรือเวสาตรีไปไม่ถึง ต้องเสด็จเรือสดูร ถึงบางปอินเวลาบ่าย คราวนี้เจ้านายพี่น้องตามเสด็จมาก เหลือแต่พี่กิติยากรกับพี่ผ่องไม่ได้ไป เย็นเสด็จอาทองแถม๑๐๘เอารถมาให้ น่าเอ็นดูดี เทียมม้าก็ได้ เราตื่นรถขึ้นนั่งที่สารถี ทูลหม่อมบนเสด็จลงมาทรงลากประทานเรา แล้วเสด็จประทับที่ตะพาน เกือบค่ำเสด็จขึ้นไปบนเรือน ทอดพระเนตรเจาะหน้าต่างใหม่ แล้วรับสั่งว่าคิดถึงสมเด็จป้าที่สิ้นพระชนม์๑๐๙ แล้วประทับทรงผูกดอกไม้ประทานสมเด็จแม่กับเสด็จน้า เราลงมาเล่นกับพี่น้องข้างล่าง สองทุ่มแล้วเรานอน ยังไม่เสด็จขึ้น.

วันเสาร์ วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นเช้าก่อนโมง จะไม่อาบน้ำขมิ้นก็เป็นคราบ ต้องทนอาบ หนาวเต็มที กินข้าวต้มแล้วแต่งตัวคอยสมเด็จแม่ สองโมงเช้าสมเด็จแม่เสด็จไปลงเรือท่าหน้าบ้านเสด็จลุงเทวัญ เราลงเรือปิกนิกลำหนึ่ง มีเจ้าจอมมาในเรือสมเด็จแม่สอง คุณหญิง๑๑๐กับข้อ๑๑๑ เจ้านายสอง ป้าโสมกับน้าเสาวภาคย์ เรือออกจากท่าแจวมารอเรือนกบินอยู่ครู่หนึ่งเรือมา พระยานรรัตนกับหลวงสรสิทธิเอดิกงสมเด็จแม่กำกับเรือนกบิน ทูลหม่อมบนทรงเรือโบดเหลืองเรือไฟจูง ออกเรือนาฬิกาตีสามโมง เรือมาตามระยะทาง (เรา) เล่นของเล่นบ้าง ดูตามบ้านราษฎรบ้าง ได้เห็นบ้านแห่งหนึ่งตีเหล็ก จางวางแขบอกว่าเขาเรียกบ้านอรัญญิก ตีดาบขาย มีกรุยปักบอกร่องน้ำตลอด บ่ายสองโมงเรือถึงท่าเจ้าสนุกซึ่งเรียกว่าบ้านขวาง กรมการทำพลับพลารับเสด็จ ทูลหม่อมบนเสด็จขึ้นจากเรือแล้วทรงจัดที่ให้เจ้านายเจ้าจอมพัก เย็นฝนตกปรอย ๆ ไม่มีแดดวันยังค่ำ ทูลหม่อมบนเสด็จไปทรงม้า เรานอนทุ่มหนึ่ง.

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

สมเด็จแม่เสด็จมาปลุกเราแต่ยังไม่สว่าง เพราะเถ้าแก่ตลับกับคุณท้าวนากยายกลั่น เจ้าพนักงานแกนึกว่าสิบทุ่มแล้ว ลุกขึ้นเอะอะกันวุ่น ทูลหม่อมบนก็ต้องประทมตื่น รับสั่งว่าโหรดีต้องใส่ประคำไม้กระบอก ย่ำรุ่งแล้วเสด็จจากที่ประทับบ้านขวาง ทูลหม่อมทรงม้า เราไปรถกับสมเด็จแม่ นายไปด้วย คราวนี้เป็นคราวแรกเราตามเสด็จกระบวนม้ากระบวนหนึ่ง รถเทียมม้ากระบวน รถยี่ปุ่นกระบวน วอกระบวน ช้างกระบวน ข้าวของเครื่องใช้บรรทุกเกวียน ระยะทางตั้งแต่บ้านขวางถึงบางโขมดร้อยห้าสิบเส้น มีบ้านราษฎร มีของขาย มีข้าวหลามเป็นต้น ถึงที่ประทับร้อนหนองคนทีทางสามร้อยห้าสิบเส้น ถึงเขาตกสี่ร้อยห้าสิบเส้น เราได้ลงจากรถจุดธูปเทียนบูชาแล้วขึ้นรถ รวมระยะทางห้าร้อยแปดสิบเส้น ตั้งแต่ท่าเจ้าสนุกจนถึงค่ายหลวง ทำเต็นอยู่ทั้งนั้น พระที่นั่งของทูลหม่อมปู่ก็ยังมี ทูลหม่อมบนประทับที่เต็น เต็นของทูลหม่อมบนงามมาก ข้างในก็อยู่เต็นทั้งนั้น เราอยู่กับสมเด็จแม่ เสด็จน้าประทับเต็นหนึ่ง บ่ายทูลหม่อมบนเสวย รับสั่งให้สามคนที่ถูกใส่ประคำมารำถวาย เย็นเสด็จขึ้นนมัสการพระพุทธบาท เราตามเสด็จทางข้างหน้าขึ้นบันไดนาก สมเด็จแม่เสด็จทางข้างใน ทูลหม่อมบนเสด็จเข้าในพระมณฑป ทรงนมัสการพระพุทธบาท ถวายต้นไม้ทองเงินคู่หนึ่ง ตาดคลุมผืนหนึ่ง แล้วสมเด็จแม่กับเจ้านายเจ้าจอมเข้าไปบูชา แล้วทูลหม่อมบนรับสั่งให้สามคนมารำถวายพระพุทธบาท แต่งตัวนุ่งต่วนห่มแพรสี รำแล้วถอดลูกประคำ เสด็จศิลาเจ็ดยอด เป็นมงกุฎของทูลหม่อมมาทรงสร้าง แล้วทรงพระดำเนินทอดพระเนตรตามพระวิหารเล็ก ๆ เราได้เห็นที่แห่งหนึ่งริมพระเจดีย์ ได้ยินทูลหม่อมบนรับสั่งว่าวิหารพระยาแกรกสร้าง มีพระศรีอาริย์อยู่ในนั้น เสด็จกลับ เรานอนสองทุ่ม.

วันจันทร์ วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นย่ำรุ่งไปคอยทรงบาตร ทรงบาตรแล้วเสด็จถ้ำประทุน ทูลหม่อมบนทรงม้า เราไปรถกับสมเด็จแม่ ถึงถ้ำประทุนไม่มีเทียน ทูลหม่อมบนทรงฉุน รับสั่งให้ดำรวจไปต่อว่าเจ้าเข่ง ได้เทียนไปต่อทีหลัง เสด็จเข้าถ้ำเสียก่อน ต้องใช้เทียนเล็ก ๆ ที่เราเอาไปบูชาพระ ต้องรี ๆ ข้าวสารเข้าไป ในถ้ำนั้นมีพระเจดีย์องค์หนึ่งเป็นศิลา ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าของทูลหม่อมปู่ทรงสร้างไว้ แล้วไปวอ ไปดูที่รอยตีนพรานบ่อพรานล้างเนื้อ แล้วเสด็จถ้ำระฆัง ต้องปีนเขาสูง ป้าโสมไม่ให้เราขึ้น เราร้องไห้ว่าเสียแรงได้มาแล้ว เราจะขึ้นให้ได้ ต้องยอมให้เราขึ้น ถึงปากถ้ำลงไม่ได้ ได้แต่มองดู เราทูลถามทูลหม่อมบนว่าเรียกถ้ำอะไร รับสั่งว่าเรียกถ้ำใครเคาะระฆัง แล้วเสด็จกลับ เย็นเสด็จเที่ยวอีก ทูลหม่อมบนทรงช้าง เสด็จน้าก็ทรงช้าง ข้างในที่ยังไม่เคยขี่ช้างไปช้าง เราไปวอกับสมเด็จแม่ ถึงธารเกษมเสด็จลงจากช้างพระที่นั่ง เสด็จน้ากับเจ้าจอมไม่ได้ลงเดินตามเสด็จมา ได้ยินรับสั่งว่ามีเกยช้างมา เสด็จทอดพระเนตรตามพื้นปราสาท เราไม่เห็นเป็นอะไร เห็นมีแต่พื้น รับสั่งให้คนเก็บดอกโศกมาถวาย เราเห็นว่าแต่ก่อนคงสนุก มีต้นโศกตามลำธารร่มดี ป้าโสมทูลถามว่าใครสร้าง ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าของพระเจ้าอยู่หัวปราสาททอง แล้วเสด็จกลับ เรามาช้างพระที่นั่ง ประทับที่หินดาษ แต่ไม่ได้เสด็จลงจากช้าง เสด็จกลับมาค่ายหลวงประมาณสองทุ่ม ได้ยินเสียงปืน เราพูดว่าปืนใครยิงอะไร สมเด็จแม่รับสั่งว่าพลุ เราทูลถามว่าศพใคร ท่านรับสั่งว่าเขาคงบูชาพระพุทธเจ้า สักครู่หนึ่งแม่แสมาเชิญเสด็จสมเด็จแม่กับเรา ว่ามีผู้ยิงปืนตกมาในค่าย เราไปทีหลัง เอะอะกันมาก แล้วจึ่งได้ความว่าปืนทหารหน้ายิงคนบนเขา ว่ากลิ้งลูกหินลงมา เรากลับมานอนสี่ทุ่ม.

วันพฤหัสบดี วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นก่อนย่ำรุ่ง โมงเศษเสด็จจากค่ายหลวง ทูลหม่อมบนทรงม้า เรามารถเทียมม้ากับสมเด็จแม่ นายมาด้วย ประทับร้อนบางโขมด องค์สาย๑๑๒ทำเต็นรับเสด็จ ประทับอยู่นาน ราษฎรมาถวายของคนละเล็กละน้อย ประทานเงินทั่วกันหมด เจ้าพระยาพลเทพ๑๑๓ทำของเลี้ยง แดดอ่อน เสด็จจากที่ประทับร้อน ข้างในขี่ม้าตามเสด็จ ฝุ่นมาก ม้าลำพองนัก ต้องลงจากม้าหมด เหลืออยู่แต่เสด็จน้าองค์เดียว ทรงมาจนถึงที่ประทับ เราต้องยืมแว่นตากันฝุ่นของสมเด็จแม่มาใส่ ถึงที่ประทับบ้านขวางประมาณห้าโมงเศษ ท่านผู้หญิงอิ่ม๑๑๔ ยายพี่หนู๑๑๕มาเฝ้าถวายตาลอ่อน แล้วใครเราไม่รู้จักเอาสัตว์มาถวาย เราได้ประทานหมีตัวหนึ่ง น้องหญิงใหญ่ได้ประทานนกกะทา น้องชายโตได้ประทานไก่ฟ้าพระยาลอ ย่ำค่ำแล้วเรานอน.

วันศุกร์ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๖

สามโมงเช้าเรือออกจากที่ประทับบ้านขวาง เรือไฟจักรท้ายจูงเรือปิกนิกของเรา เที่ยงแล้วถึงบ้านอรัญญิก ทูลหม่อมบนเสด็จขึ้นก่อน พอเรือสมเด็จแม่ถึง สมเด็จแม่เสด็จขึ้น เราตามเสด็จขึ้นไป ทูลหม่อมบนประทับอยู่ที่ลานวัด ทรงซื้อมีดต่าง ๆ ทรงซื้อดาบประทานเราเล่มหนึ่ง วัดนั้นชื่อวัดเทพถาวร มีผู้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ มีพระสงฆ์หลายรูป ทูลหม่อมบนถวายเงินพระ สมเด็จแม่ก็ถวาย ชาวบ้านที่นั่นเป็นลาวทั้งสิ้น มีของทองดอกบวบทำเป็นเครื่องแต่งตัวมาถวายด้วย ทูลหม่อมบนทรงซื้อหลายอย่าง ประทับซื้ออยู่ใต้ร่มไม้ พวกขายมานั่งแน่น แล้วเสด็จกลับลงเรือพระที่นั่ง ออกจากบ้านอรัญญิกถึงบางปอินย่ำค่ำ เรือเราจอดหน้าบ้านเสด็จลุงเทวัญขึ้นหลังวัง พอเรามาถึงทูลหม่อมบนก็เสด็จลงมาที่เรือน น้องชายกลาง๑๑๖ น้องชายน้อย น้องชายเล็กมาจากบางกอก คุณยายก็มาด้วย เรานั่งคุยเล่าถึงที่ได้ไปเห็นแล้ว นอนสองทุ่ม.

วันพุธ วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

เราตื่นนอนเช้ากินข้าวแล้วไปเรียนหนังสือ วันนี้พระยาศรีสุนทรมา เราได้ให้ดุมมุกมีอักษรพระนามแกสำรับหนึ่ง ห้าโมงนานกลับมาตำหนัก บ่ายไปบน เฝ้าในห้องน้ำเงิน เสวยแล้วเสด็จไปพระมหาปราสาท เสด็จทางใน มีเจ้าโกนจุกสองคน แล้วออกไปข้างหน้า ทรงจุดเทียนพระสวดมนต์ แล้วเสด็จไปตรัสกับสมเด็จตา ถึงเรื่องทัพพระยาราชยังไม่ได้ยกไปถึงไอ้ฮ่อ รับสั่งให้เกณฑ์คนเพิ่มเติมไปอีก ให้พระยาพิชัยยกไปตั้งอยู่ที่ทุ่งเชียงคำ๑๑๗ เราได้ยินทูลหม่อมบนรับสั่งว่ามันมาเสมอ แล้วรับสั่งราชการอื่นต่อไป ใบบอกนั้นเรื่องพระวิภาคภูวดลไปถึงเมืองน่าน ได้ทำแผนที่แล้ว ยามเศษเสด็จขึ้น เรากลับมาตำหนัก นอน.

วันศุกร์ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

ตื่นสองโมงเช้า อาบน้ำกินข้าวแล้ว เรียนหนังสือในห้องรับแขก แล้วมากินข้าวกลางวัน บ่ายสี่โมงนานไปบน ขี่เสลี่ยงไปด้วยกันสามคน น้องชายโตน้องชายน้อยไปพร้อมกับเราเฝ้าในห้องเขียว ทุ่มหนึ่งลุงจักษ์ให้มาตามเรา เราไปแวะในห้องโอฟิต เสด็จลุงเทวัญให้ดอกจามจุรีเรามาถวายทูลหม่อมบน เราเอามาถวาย เรากราบทูลว่าของกรมหมื่นนเรศ รับสั่งให้เรากลับไปถาม เรากลับมาทูลอีกว่าของกรมหมื่นภูธเรศ รับสั่งถามถึงต้น พระเทพผลูเป็นผู้เอามาก็ไม่รู้จัก บอกแต่ว่าเขาว่าต้นมีที่บางกะปิ ลุงจักษ์สั่งให้หาต้นมาถวายทูลหม่อมบน แล้วเราไปเสวยโต๊ะกับลุงจักษ์ น้องชายโตตามไปทีหลัง ป้าโสมให้มาตามเราว่าทูลหม่อมบนรับสั่งให้หา เรากลับมา ได้ประทานฉลากสี่ผล เราขอแถมได้อีกผลหนึ่ง ได้เสื้อกุยเฮงสองเสื้อ เราให้ลุงจักษ์เสื้อหนึ่ง ให้นายเสนอเสื้อหนึ่ง แล้วเรากลับมาเฝ้าทูลหม่อมบน เมื่อเรายังไม่ได้ออกไปหาลุงจักษ์ เราได้ยินทูลหม่อมบนรับสั่งถึงทูลหม่อมปู่ว่า เมื่อยังพระเยาว์ ทรงพระดำเนินเล่นอยู่ พระชันษาเห็นจะคราว ๆ กับเรา เขาร้องว่าขโมย ท่านรับสั่งถามว่ามีหางหรือไม่มี เสด็จวิ่งไปทอดพระเนตร แล้วรับสั่งว่ามันก็คนนี่เองนึกว่าจะมีหาง ท่านทรงหมายว่าจะมีหาง สองทุ่มแล้วกลับมาจากบน นอนยามนาน.

วันอาทิตย์ วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๖

สามโมงนาน เจ้าเข่งให้ส่องโคม๑๑๘มาบอกเราให้ไปเลี้ยงพระที่พุทธนิเวศ เราแต่งตัวแล้วขี่เสลี่ยงไป สี่โมงนานให้นิมนต์พระ พระสงฆ์สิบห้ารูปเข้ามาฉัน ฉันแล้วสดับปกรณ์ร้อยหนึ่ง เมื่อพระกำลังฉัน ป้าโสมพาเราไปดูพระกุฏิที่ทูลหม่อมบนประทับเมื่อทรงผนวช สนุกลายเขียน เป็นเรื่องของทูลหม่อมบนทั้งนั้นตั้งแต่โสกันต์จนทรงผนวช แล้วกลับมาถวายพระราชกุศลทูลหม่อมบนที่บนห้องเขียว เที่ยงนานเสด็จในที่ เรามากินข้าวกลางวันกับเสด็จน้า บ่ายโมงนานกลับตำหนักนอนกลางวัน ตื่นนอนแล้วไปบนเฝ้าในห้องเขียว ย่ำค่ำแล้วรับสั่งให้ไปสวดมนต์มีเทศน์ เราไปถึงนิมนต์พระมาสวดมนต์ สวดจบแล้วมีเทศน์ พระโพธิวงษ์เทศน์ เทศน์จบแล้วแจกเงินเจ้านายพระองค์ละสลึง เหลือแจกถวายกรมขุนเจริญผลไปแจกเจ้าพนักงาน เป็นเสร็จการทำบุญวันประสูติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ากับสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระสาธุศีลสังวรนำ พระวัดพระเชตุพนทั้งนั้น มีเจ้านายต่างกรมเสด็จมาสองพระองค์ คือกรมขุนบดินทร์กับกรมขุนเจริญ ข้างในเสด็จหลายพระองค์ แล้วเรากลับมาถวายพระราชกุศลทูลหม่อมบนในที่ ยามหนึ่งกลับตำหนัก นอนสี่ทุ่ม.

  1. ๑. เป็นวันคล้ายวันประสูติพระชันษาครบ ๕ ปี

  2. ๒. ลุงจักษ์ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม

  3. ๓. อนุสาวรีย์ – ที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตนพระราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรัตน

  4. ๔. ทูลหม่อมบน – พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถ

  5. ๕. ในที่ – คือ พระที่นั่งอมรพิมานมณี

  6. ๖. สมเด็จแม่ – สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

  7. ๗. แม่วาศ – เจ้าจอมมารดาวาศ ในรัชกาลที่ ๕

  8. ๘. พี่อรพิน – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าอรพินธุ์เพ็ญภาค

  9. ๙. คุณยาย – สมเด็จพระปิยมาวดี

  10. ๑๐. ยายอิน – ท้าวอินทรสุริยา (อาบ ชูโต)

  11. ๑๑. ป้าโสม – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าโสมาวดี กรมหลวงสมรรัตน์สิริเชษฐ์

  12. ๑๒. ที่บน – ที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังพระที่นั่งจักรี

  13. ๑๓. แม่แส เจ้าจอมมารดาแส ในรัชกาลที่ ๕

  14. ๑๔. เสด็จน้า – สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนารถ

  15. ๑๕. หญิง – คงจะเป็นหม่อมเจ้าหญิงอัปสรสมาน กิติยากร

  16. ๑๖. น้องชายโต – พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

  17. ๑๗. สวนหลวง – สวนสราญรมย์

  18. ๑๘. น้องชายน้อย – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย

  19. ๑๙. หมออยู่งาน – หมอนวด

  20. ๒๐. เฝ้าในที่ – เฝ้าในห้องพระบรรทม

  21. ๒๑. น้องชายเล็ก – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ

  22. ๒๒. หมอเกาแวน – Peter Gowan แพทย์หลวงชาวสก๊อต

  23. ๒๓. น้องชายยุคล – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร

  24. ๒๔. พี่กิติยากร – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนารถ

  25. ๒๕. พี่จุฑารัตน์ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าจุฑารัตนราชกุมารี

  26. ๒๖. เสด็จอาดิศ – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  27. ๒๗. เจ้าเข่ง – หม่อมเจ้ายี่เข่งในพระราชวรวงศ์เธอชั้น ๑ พระองค์เจ้าเพ็ชรหึง เป็นพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ ๕

  28. ๒๘. ฟ้าชาย – พระองค์เอง

  29. ๒๙. พี่รพีพัฒน์ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์

  30. ๓๐. เสด็จลุงเทวัญ – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ

  31. ๓๑. ฎีกา – หนังสือที่ราษฎรร้องทุกข์ทูลเกล้าฯ ถวาย สมัยนั้นเสด็จฯ ออกรับฎีกาจากราษฎรเป็นปรกติ หากไม่ทรงสามารถเสด็จฯ โดยพระองค์ได้ ก็โปรดฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทรงรับแทนพระองค์

  32. ๓๒. น้าตุ้ย – พระเจ้าราชวรวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าดวงประภา

  33. ๓๓. เสด็จยาย – คงจะเป็นพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๒ พระองค์เจ้าแม้นเขียน

  34. ๓๔. เสด็จอาวัฒนา – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์

  35. ๓๕. เสด็จอาวรวรรณ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

  36. ๓๖. เสด็จลุงกรมหมื่นภูธเรศ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าทวีถวัลยลาภ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์

  37. ๓๗. คม – ถวายบังคม

  38. ๓๘. สินอ้วน – พระยาสมุทรานุรักษ์

  39. ๓๙. พี่อัจฉรพรรณี = พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าอัจฉรพรรณีรัชกัญญา

  40. ๔๐. พี่วรลักษณ์ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าวรลักษณาวดี

  41. ๔๑. เจ้าสาย – พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์

  42. ๔๒. นาย – พระพี่เลี้ยงสุด เป็นพี่สาวต่างชนนีกับสมเด็จพระปิยมาวดี

  43. ๔๓. น้องหญิงใหญ่ – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าพาหุรัตมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์

  44. ๔๔. เจ้าชายจรูญ – พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤดากร

  45. ๔๕. ย่า – เจ้าจอมมารดากลิ่น ในรัชกาลที่ ๔

  46. ๔๖. พี่อัจ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าอัจฉรพรรณีรัชกัญญา

  47. ๔๗. สมเด็จตา – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๒ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์

  48. ๔๘. เจ้าพระยาสุรวงษ์ – เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค)

  49. ๔๙. หญิงจรัส – หม่อมเจ้าหญิงจรัสโฉม เกษมสันต์

  50. ๕๐. เจ้าชายเศรษสิริ – หม่อมเจ้าชายเศรษฐสิริ กฤดากร

  51. ๕๑. เสด็จอานเรศ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศวรฤทธิ์

  52. ๕๒. เสด็จยายกินรี – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๓ พระองค์เจ้ากินรี

  53. ๕๓. กระจาด – เครื่องกัณฑ์เทศน์

  54. ๕๔. ทูลหม่อมย่า – สมเด็จพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอพระองค์เจ้าลม่อม (ทูลหม่อมแก้ว) กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร เพราะเหตุที่ร่วมเจ้าจอมมารดากับสมเด็จพระมาตามหัยกา (คือกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ผู้เป็นพระบิดาสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) และได้ทรงทำนุบำรุงในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมาแต่ยังทรงพระเยาว์ จึงทรงยกย่องไว้ในที่สมเด็จพระราชชนนี พระโอรสจึงตรัสเรียกว่า ทูลหม่อมย่า พระองค์เองตรัสเรียกเสด็จยาย

  55. ๕๕. วังหน้า – กรมพระราชวังบวร บวรวิชัยชาญ

  56. ๕๖. ทูลหม่อมทวด – พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

  57. ๕๗. สี่ผล สลึงสาม เฟื้องหนึ่ง – เงินเหรียญใส่ในลูกมะนาวสำหรับทิ้งทาน ผลละสลึงสามผล ผลละเฟื้องหนึ่งผล

  58. ๕๘. ลูกทูลหม่อมอาองค์ใหญ่ – พระเจ้าวรวงศ์เธอ (หม่อมเจ้าและพระองค์เจ้าเสรษฐวงศ์วราวัติ) กรมหมื่นอนุพงศ์จักรพรรดิ พระโอรสสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์

  59. ๕๙. หญิงสุหร่าย – หม่อมเจ้าหญิงสุหร่าย นพวงศ์

  60. ๖๐. เฝ้าที่ – ข้าราชการหญิงเฝ้าพระที่นั่งในพระราชฐาน

  61. ๖๑. เมืองนางรอง – ปัจจุบันเป็นอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

  62. ๖๒. เมืองพนมสารคาม – อยู่ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา

  63. ๖๓. วันนี้เป็นวันฉลองพระชันษา – เป็นงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบสามสิบเอ็ดพรรษา

  64. ๖๔. มีหนังสือด้วย – ในพระราชพิธีที่มีสวดนพเคราะห์ พระสงฆ์มีสมุดดำ เขียนคาถาที่สวดวางไว้ด้วยในระยะที่จะพลิกดูได้

  65. ๖๕. ทูลหม่อมอาองค์น้อย – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช

  66. ๖๖. เสด็จอุปัชฌาย์ – สมเด็จพระมหาสมณเจ้า พระองค์เจ้าฤกษ์ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

  67. ๖๗. เจ้าบัว – พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา

  68. ๖๘. เจ้าโสภา – หม่อมเจ้าโสภา นพวงศ์

  69. ๖๙. เจ้าพระยาภาณุวงษ์ – เจ้าพระยาภาณุวงษ์มหาโกศาธิบดี (ท้วม บุนนาค)

  70. ๗๐. เปลี่ยนเมียพระยาภาส – ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงษ์

  71. ๗๑. ข้างหน้า – พระราชฐานฝ่ายหน้า

  72. ๗๒. ตำหนักแพ – ท่าราชวรดิฐ

  73. ๗๓. พระศรีสุนทร – พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)

  74. ๗๔. พี่ผ่อง – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าหญิงผ่อง

  75. ๗๕. ช้างงายาว – พลายหอมจันทน์ ได้มาแต่ด่านเมืองซ้ายในรัชกาลที่ ๔ ขึ้นระวางพระราชทานนามว่า เจ้าพระยาปราบไตรจักร งาดูได้ที่พิพิธภัณฑ์สถาน

  76. ๗๖. โถยาคู – คือโถข้าวยาคูสำหรับถวายพระในพระราชพิธี แต่งอย่างวิจิตรประกวดกัน

  77. ๗๗. หม่อมเจ้านั่งกะทะ กะทะละสองคน – หม่อมเจ้าที่จะกวนข้าวทิพย์นั่งประจำกะทะละสององค์

  78. ๗๘. เต็มยศทหารหน้า – เต็มยศทหารบก

  79. ๗๙. เจ้าสาย – พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ พระมารดา สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์

  80. ๘๐. เป็นคราวแรกที่เราได้ตามเสด็จ – เป็นคราวแรกที่ได้ตามเสด็จพระราชดำเนินออกนอกพระราชฐานเป็นทางการ

  81. ๘๑. กระบวนพยุหยาตรา – กฐินหลวงกระบวนพยุหยาตรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องต้น

  82. ๘๒. ลูกเสด็จอาโส – หม่อมเจ้าหญิงประวาศสวัสดี พระธิดาพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา ซึ่งเวลานั้นทรงรับราชการอยู่ที่กรุงลอนดอน

  83. ๘๓. แม่ทับทิม – เจ้าจอมมารดาทับทิมในรัชกาลที่ ๕

  84. ๘๔. วุฒิไชยเฉลิมลาภ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร

  85. ๘๕. เล่นต่อ – เครื่องเล่นชนิดหนึ่งเป็นหินรูปต่าง ๆ สีต่าง ๆ ต่อเป็นบ้าน เป็นสะพาน เป็นหอคอยได้

  86. ๘๖. พระเกี้ยวยอด – เครื่องประดับชนิดหนึ่ง ทำด้วยทองคำฝังเพชรมียอดแหลม สวมครอบพระเมาลี ที่ทรงเรียกว่าพระเกี้ยวยอดข้าหลวงเดิม ก็เพราะพระเกี้ยวยอดองค์นี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเมื่อโสกันต์

  87. ๘๗. คุณตาราชประสิทธิ์ – พระยาประสิทธิศัลการ (หงส สุจริตกุล) เป็นพี่สมเด็จพระปิยมาวดี ในรัชกาลที่ ๖ เป็นเจ้าพระยาสิริรัตนมนตรี

  88. ๘๘. พี่เยาวมาล – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล กรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี

  89. ๘๙. องค์จร – พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าขจรจรัสวงษ์ กรมหมื่นปราบปรปักษ์

  90. ๙๐. โอละพ่อ – การเล่นกลางแจ้ง เล่นที่สนามหญ้าหน้าพระที่นั่งจักรี เนื่องในงานพระราชพิธีโสกันต์

  91. ๙๑. คู่เคียง – ขุนนางที่เดินสองข้างในกระบวนแห่

  92. ๙๒. เจ้าคุณเอม – เจ้าคุณจอมมารดาเอม เจ้าจอมมารดากรมพระราชวังบวร บวรวิไชยชาญ

  93. ๙๓. พวกโมงครุ่ม – พวกเล่นการเล่นกลางแจ้งอีกพวกหนึ่ง

  94. ๙๔. พี่กลาง – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าหญิงสุวภักตร์วิไลยพรรณ

  95. ๙๕. ยกอุหลุบ – เมื่อเสร็จพิธีตรียัมปวายแล้ว พราหมณ์มักนำน้ำสังข์เข้ามารดถวายเจ้านายชั้นสูง ถวายพระศีลพระพรและถวายของ

  96. ๙๖. เครื่องทรงถอด – ทรงพระภูษาขาวจีบ ทรงฉลองพระองค์ผ้าขาวชายขลิบทอง ตัดอย่างฉลองพระองค์ครุย ทรงสวมแต่พระกรข้างซ้าย แขนฉลองพระองค์ข้างขวาโอบขึ้นไปพาดเฉียงพระอังสา ทรงนวมทับ ทรงบานพับที่ต้นพระกรข้างขวาข้างเดียว ทรงสายรัดพระองค์ มีของผูกข้อพระหัตถ์พระบาท

  97. ๙๗. เจ้าคุณกลาง – ชื่อปุก เป็นธิดาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ)

  98. ๙๘. มยุรฉัตร – มยุรฉัตรในที่นี้หมายถึงนางเชิญพุ่มทำด้วยหางนกยูง มีด้ามถือ เดินนำหน้าพระยานุมาศ

  99. ๙๙. เชิญเครื่อง – นางเชิญเครื่อง เดินตามกระบวนแห่

  100. ๑๐๐. นางสระ – เด็กผู้หญิงแต่งตัวใส่เกี้ยว นุ่งผ้าลายพื้นเขียว ห่มแพรสีแสด เดินพนมมือตามกระบวนแห่

  101. ๑๐๑. เจ้าไขศรี – หม่อมเจ้าหญิงไขศรี ปราโมช

  102. ๑๐๒. ลูกลม้าย – หม่อมเจ้าไตรทศประพันธ์ พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเทววงศ์วโรทัย

  103. ๑๐๓. ทรงอี๋ – ทรงโปรดปราน

  104. ๑๐๔. รับสั่งใช้เราไปเลี้ยงพระ – เนื่องในวันเทศกาลตรุษจีน เป็นราชประเพณีมาแต่รัชกาลที่ ๔ ให้เลี้ยงขนมจีนพระที่ตำหนักแพ และมีเลียงโต๊ะจีนในพระราชฐานและตั้งเรื่องสังเวยพระป้าย

  105. ๑๐๕. หางว่าวเรือขนมจีน – บัญชีชื่อผู้ที่จัดเรือขนมจีนมาเลี้ยงพระที่ตำหนักแพ

  106. ๑๐๖. พระยาไชยสุรินทร์ – ชื่อเดิมชื่อเจียม เป็นบิดาของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน)

  107. ๑๐๗. เสด็จอาสวัสดิ์ – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ กรมพระสมมตอมรพันธุ์

  108. ๑๐๘. เสด็จอาทองแถม – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพศาสตรศุภกิจ

  109. ๑๐๙. สมเด็จป้าที่สิ้นประชนม์ – สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระราชเทวี

  110. ๑๑๐. คุณหญิง – เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เนื่อง (สนิทวงศ์) เจ้าจอมมารดาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท

  111. ๑๑๑. ข้อ – เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ข้อ (สนิทวงศ์)

  112. ๑๑๒. องค์สาย – พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์

  113. ๑๑๓. เจ้าพระยาพลเทพฯ – นามเดิม รอด กัลยาณมิตร

  114. ๑๑๔. ท่านผู้หญิงอิ่ม – ภริยาเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร)

  115. ๑๑๕. พี่หนู – พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี

  116. ๑๑๖. น้องชายกลาง – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๕ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง

  117. ๑๑๗. ให้พระยาพิชัยยกไปตั้งอยู่ที่ทุ่งเชียงคำ – ในปีนี้ฮ่อกลับมาตั้งอยู่ที่ทุ่งเชียงคำ แล้วตีหัวเมืองขึ้นหลวงพระบางเข้ามาอีก จึงโปรดฯ ให้พระยาพิชัย (มิ่ง) กับพระยารณชัยชาญยุทธ (ครุธ) แต่ยังเป็นพระยาสุโขทัย คุมทัพเมืองเหนือขึ้นไปก่อน แล้วให้พระยาราชวรานุกูล (เวก บุญยรัตพันธ์) ยกตามไปทางหลวงพระบางอีกกองหนึ่ง และให้เตรียมกองทัพใหญ่ไว้ (ถ้าจำเป็นก็จะโปรดฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ซึ่งสำเร็จราชการมหาดไทยเป็นแม่ทัพใหญ่ขึ้นไป) แต่ปรากฏว่าฮ่อยกมาคราวนี้ไม่แข็งแรงเหมือนคราวก่อน จึงไม่ต้องยกกองทัพหลวงไป

  118. ๑๑๘. ส่องโคม – ในพระราชฐานชั้นในมีพระราชกำหนดว่าผู้สัญจรไปมาในเวลาค่ำคืนต้องถือโคมหรือเทียน หากเป็นเวลาเสด็จพระราชดำเนินก็มีพนักงานส่องโคมนำเสด็จ ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ