ออกจากกรุงเทพฯ
ระยะทางกรมหลวงดำรงราชานุภาพ
ตรวจราชการมณฑลอุดร และมณฑลอิสาณ
----------------------------
วันที่ ๑๕ ธันวาคม ร.ศ. ๑๒๕ เวลาเช้า มาขึ้นรถไฟพิเศษที่สถานีกรุงเทพ ฯ พร้อมด้วยพระยาจ่าแสนบดี เจ้ากรมพลัมภัง ๑ เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาดเล็ก กราบถวายบังคมลาไปดูการปกครองท้องที่ ๑ หม่อมเจ้าประสบประสงค์ ๑ หลวงอนุชิตพิทักษ์ ๑ หมอแบรดด๊อก ๑ นายเดอลารอคา ช่างถ่ายรูป ๑ นายเอี๋ยน มหาดเล็กมากับเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ๑ นายทองสุกจะไปเปนข้าหลวงธรรมการมณฑลอิสาณ ๑ นายแก้วพนักงานกรมลหุโทษจะไปฝึกหัดกดลายมือนักโทษตามหัวเมือง ๑ เปนตัวนายที่ไปด้วย๑ พอเวลาเช้า ๓ โมงรถออกจากสถานีกรุงเทพ ฯ ถึงสถานีกรุงเก่า เช้า ๔ โมง ๔๔ นาที ถึงสถานีแก่งคอยเวลาเที่ยง ๘ นาที เปลี่ยนรถจักรแล้วเดินรถต่อไปถึงสถานีปากช่องบ่ายโมง ๔๓ นาที รถไฟหยุดรับน้ำแล้วออกเดินต่อไปถึงสถานีสูงเนินบ่าย ๒ โมง ๕๙ นาที ถึงสถานีเมืองนครราชสิมาเวลาบ่าย ๓ โมง ๔๕ นาที ไปพักณะเรือนที่ทำขึ้นใหม่ที่ตำบลหนองบัว นอกเมืองนครราชสิมา ได้ขนานนามเรือนนี้ว่า“แสนศุข” แล้วเตรียมการที่จะเดินทางอยู่ ๒ วัน
-
๑. พระยาจ่าแสนบดี อวบ เปาโรหิต เดี๋ยวนี้เปนพระยาราชนิกูล
เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ ม.ร.ว. จิตร สุทัศน์ ณกรุงเทพ เดี๋ยวนี้เปนพระยาศรีวรวงศ์.
หม่อมเจ้าประสบประสงค์ เปนหม่อมเจ้าชายใหญ่ในกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ออกไปศึกษาวิชาในยุโรปพึ่งกลับมา ได้รับราชการในกระทรวงมหาดไทย เดี๋ยวนี้เปนผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
หลวงอนุชิตพิทักษ์ ชาย สุนทรารชุน เดี๋ยวนี้เปนพระยาสฤษดิพจนกร.
นายเอี๋ยน โอวาทะสาร เดี๋ยวนี้เปนหลวงวิจารณ์ภักดี
นายทองสุก อินทรรัศมี เดี๋ยวนี้เปนหลวงจรูญชวนะพัฒน์↩