มณฑลอิสาณ

วันที่ ๒๒ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ๒๐ นาที ออกจากที่พักบ้านนาเกาะเดินทางมาในดงมีไผ่ ๒ ข้างทาง ลึกเข้าไปเปนไม้สูง จนถึงที่มีศิลาลาดเปนทางยาวใหญ่อย่างที่หินดาด มีน้ำขังอยู่ตามแอ่งเล็ก ๆ มีพุ่มไม้อยู่ตามแอ่งน้ำเหล่านั้น แล้วเข้าดงทึบต่อมา ถึงที่ต่อเขตรมณฑลอุดรกับมณฑลอิสาณที่หนองพอกแล้ว ออกปากดงบังอี่ถึงที่พักร้อนตำบลบ้านนาคำเวลาเช้า ๒ โมง ๔๐ นาที หนทางที่มาตั้งแต่บ้านนาเกาะถึงตำบลหนองพอกที่ต่อแดนมณฑล ๒๗๐ เส้น ประจวบกับหลัก๑๐๐๐ เส้นจากเมืองมุกดาหาร แล้วมาในเขตรมณฑลอิสาณอิก ๓๐ เส้น ออกปากดงถึงที่พักร้อนบ้านนาคำ หนทางที่เดินในดงสองเวลานี้เปนทางแคบ มีทั้งตอไม้รากไม้เปนทางเดินลำบากมาก เวลาเช้า ๔ โมงออกจากที่พักบ้านนาคำมาตามหนทางมณฑลอิสาณเขตรอำเภอเสนางคนิคมขึ้นเมืองอุบลราชธานี เปนทางในป่าไม้ตะเคียนแลไม้เต็งรังไม้ตะแบกแลอื่น ๆ เปนหนทางกว้างใหญ่แลเรียบดี ต้นไม้สูง ๆ ในทางคงไว้ไม่ได้ตัด ได้อาไศรยบังแสงแดดบ้างพอเดินสบาย เวลาเช้า ๕ โมงถึงตำบลกุดเชียงหมี ระยะทาง ๑๘๐ เส้น มีที่พักแรมรวมระยะทางวันนี้ ๔๘๐ เส้น มีข้าราชการมณฑลอิสาณมารับ คือ หลวงสถานบริรักษ์กรมวัง แลพระอุบลเดชประชารักษ์ ปลัดรักษาราชการเมือง พระอุบลศักดิ์ประชาบาล ยกกระบัตรเมืองอุบลราชธานี แลกรมการอำเภอต่างๆ หลายนาย

วันที่ ๒๓ มกราคม เวลาย่ำรุ่งออกจากที่พักแรมกุดเชียงหมีข้ามลำน้ำเซแดนอำเภอเสนางคนิคมกับแดนเมืองยโสธรต่อกัน แล้วเข้าทางเขตบ้านฮ่องแซงถึงปากดงภูสะมากังหรือบ้านคำบอนเวลาเช้าโมงครึ่งกับ ๒๕ นาที ระยะทาง ๒๕๘ เส้นมีที่พักร้อน ชาวบ้านมาหา ชาวบ้านนี้เปนผู้ไทยเดินมาจากเมืองตะโปนเวลาเช้า ๓ โมงครึ่งเดินทางต่อมาเข้าดงสะมากัง เปนดงมีไม้งาม ๆ แลมีไม้ยมผาอย่างไม้ทำหีบบุหรี่ฝรั่ง เปนดงเล็กกว่าดงบังอี่ แลหนทางเรียบร้อยดี เวลาเช้า ๕ โมงพ้นดงสะมากัง ถึงที่พักแรมตำบลบ้านส้มพ้อ ระยะทาง ๒๖๐เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๕๑๘ เส้น นายร้อยเอก หลวงสมรรถสรรพยุทธ ข้าหลวงโยธามณฑลอิสาณมาคอยรับ

วันที่ ๒๔ มกราคม เวลาย่ำรุ่งออกจากที่พักแรมบ้านส้มพ้อมาตามเขตรบ้านนาฮีแล้วเข้าเขตรบ้านคำไหล ระยะทาง ๓๐๔ เส้น ถึงที่พักร้อนเวลาเช้าโมงหนึ่งกับ ๔๕ นาที เวลาเช้า ๓ โมงออกจากที่พักร้อนออกจากเขตรบ้านคำไหลเข้าเขตบ้านตาสืม แล้วถึงบ้านนาซึมที่พักแรมเวลาเช้า ๓ โมง ๕๐ นาที ระยะทาง ๒๑๑ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๕๑๕ เส้น

เมืองยโสธร

วันที่ ๒๕ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ออกจากที่พักแรมบ้านนาซึม ทางมาเปนโคกไม้เล็กๆ หนทางที่ตัดแลดูแต่ไกลเห็นทิวไม้สองข้างทางข้างหน้าซึ้งงามดี แลที่ริมหนทางที่มามีที่นาดี ๆ เปนอันมาก เมื่อเวลาออกจากบ้านนาซึมเข้าเขตรบ้านนาโป่งแลบ้านเผือฮี มีสระน้ำริมทางแล้วเข้าเขตรบ้านนาซวยใหญ่ บ้านนาซวยน้อย ถึงบ้านนาสีนวลที่พักร้อนเวลาเช้า ๒ โมง ระยะทาง ๓๗๗ เส้น เวลาเช้า ๓ โมง ออกจากบ้านนาสีนวล พ้นเขตรบ้านนาสีนวลมาเข้าเขตรบ้านหนองสรวง บ้านหนองแวง และบ้านคำหม้อ ถึงเมืองยโสธรเวลาเช้า ๔ โมงครึ่ง ระยะทาง๒๖๖ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๖๔๓ เส้น หลวงศรีวรราชผู้ว่าราชการเมือง หลวงยศไกรเกรียงเดชยกกระบัตร แลกรมการคอยรับอยู่

ในการที่มามณฑลอิสาณคราวนี้ อยากจะไปเฝ้ากรมขุนสรรพสิทธิที่เมืองอุบล แต่เปนการขัดข้องด้วยข้าหลวงปักปันแดนกับฝรั่งเศสจะประชุมกันที่เมืองอุบล กรมขุนสรรพสิทธิท่านทรงติดพระธุระรับแขกเมือง จะไปเพิ่มความลำบากถวายหาควรไม่ จึงกะทางหลีกมาเสียเมืองยโสธรห่างเมืองอุบลอยู่ ๒ วัน ฝ่ายกรมขุนสรรพสิทธิเดิมก็จะเสด็จมาพบที่เมืองยโสธร แต่พเอิญเวลานี้ข้าหลวงปักปันเขตรแดนอยู่ที่เมืองอุบลราชธานี จึงเสด็จมาไม่ได้ ได้แต่สนทนากันโดยทางโทรศัพท์.

เวลาบ่าย ๔ โมงไปที่วัดพระธาตุมีพระเจดีย์เก่าเปนรูปปรางค์องค์หนึ่ง พระครูยโสธราจารย์เปนเจ้าอาวาศ แลไปวัดสิงทาแลวัดธรรมหายโศก ที่วัดธาตุแลวัดธรรมหายโศกมีนักเรียนร้องคำไชยมงคลทำนองสรภัญญะ พระสาสนดิลก เจ้าคณะมณฑล เรียบเรียงส่งมา แลวัดธรรมหายโศกเปนวัดธรรมยุติกา

เวลาค่ำหลวงเถกิงรณกาจผู้บังคับการตำรวจภูธร ได้จัดแคนวงกรมตำรวจภูธรมณฑลอิสาณมาเล่นเวลากินด้วย

วันที่ ๒๖ มกราคม เวลาเช้าโมงหนึ่ง ไปดูตลาดแลหมู่บ้านในเมืองยโสธร ๆ นี้ตั้งอยู่บนเนินใกล้ลำน้ำพาชี ที่ว่าใกล้นี้มิใช่ริมน้ำอย่างเมืองที่ตั้งตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลำน้ำทางมณฑลนครราชสิมาแลมณฑลอุดร อิสาณ เช่นลำน้ำพาชีนี้เปนต้น น้ำไหลลงแม่น้ำโขงเวลาฤดูฝนน้ำในแม่น้ำโขงมาก น้ำในลำน้ำเหล่านี้ไหลลงแม่น้ำโขงไม่ได้ก็ท่วมตลิ่งที่ลุ่มเข้าไปลึก ๆ บ้านเรือนต้องตั้งพ้นที่น้ำท่วมจึงมักอยู่ห่างตลิ่ง แต่เมื่อฤดูแล้งน้ำลดแห้งขอดก็กลายเปนอยู่ดอนหาน้ำยากเปนอย่างนี้แทบทั้งนั้น เว้นแต่บางแห่งเช่นเมืองอุบล เพราะที่ริมแม่น้ำมูลตรงนั้นเปนที่ดอน เมืองจึงอยู่ชิดลำน้ำ ที่เมืองยโสธรนี้มีถนนใหญ่เปนทางสี่แยก ริมถนนใหญ่เปนทางสี่แยก ริมถนนใหญ่มีร้านเปนตึกดินอย่างโคราช มีพ่อค้าจีนแลพ่อค้าไทยมาจากโคราชตั้งขายของต่าง ๆ ซึ่งนำมาจากเมืองนครราชสิมามากร้านด้วยกัน แลมีผ้าม่วงหางกะรอกและโสร่งไหมซึ่งทำในพื้นเมืองมาขายบ้างบางร้านหมู่บ้านราษฎรก็แน่นหนา มีจำนวนพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ ๓๐,๐๐๐คน มีถนนเล็ก ๆ เดินถึงกันในหมู่บ้านแต่เปนที่มีฝุ่นมาก.

สินค้าพื้นเมืองยโสธรส่งไปขายเมืองนครราชสิมามีหนัง เขาเร่ว ครั่ง และไหม ได้ความว่าใน ๕ ปีมานี้สินค้าไหมทวีมากขึ้น สินค้าฝั่งซ้ายมาทางเมืองมุกดาหารมาขายถึงเมืองยโสธร มียางกะตังกะติ้วบ้าง และยางกะตังกะติ้วนี้ได้มาจากเมืองหนองสูงข้างฝั่งขวาก็มี และมีพ่อค้าซื้อโคกระบือไปขายคราวหนึ่ง ตั้งแต่ ๔๐๐ ถึง ๕๐๐ บ้าง ลงทางดงพระยาไฟไปขายที่ปากเพรียวทางหนึ่ง ลงทางดงพระยากลางไปขายที่อำเภอสนามแจงแขวงเมืองลพบุรีทางหนึ่ง ลงทางช่องตะโกไปขายที่เมืองพนัศนิคมพนมสารคามแลเมืองนครนายกทางหนึ่ง แต่เดิมลงทางช่องเสม็ด แต่เดี๋ยวนี้ใช้ลงทางช่องตะโก เพราะเปนทางสดวกกว่า พ่อค้าที่ไปปากเพรียวนำกระบือลงไปขายเปนพื้น พ่อค้าที่ไปสนามแจงนำโคลงไปขาย พ่อค้าที่ไปมณฑลปราจิณบุรีมีกระบือแลโคคละไปด้วยบ้าง ฟังดูตามเสียงพ่อค้าว่าการนำโคลงไปขาย ได้กำไรมากกว่ากระบือ เพราะโคเลี้ยงง่าย กระบือเมื่ออดน้ำมักจะเปนอันตรายตามทาง

เวลาเช้า ๔ โมงครึ่งมีการประชุมบายศรี ผู้เฒ่าคนหนึ่งกล่าวคำไชยมงคลเปนทำนองไพเราะ

เมืองเสละภูมิ

วันที่ ๒๗ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ออกจากที่พักแรมเมืองยะโสธรผู้ที่ได้ไปด้วยแยกย้ายกันตรงนี้หลายคน คือได้จัดส่งหม่อมเจ้าชายประสบประสงค์ไปเฝ้ากรมขุนสรรพสิทธิ์ที่เมืองอุบล ด้วยออกไปเมืองนอกแต่เล็กพึ่งกลับเข้ามา ยังไม่ได้เฝ้าเสด็จพ่อ ส่วนพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตรข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลอุดรนั้นเสร็จกิจที่ต้องมาด้วย แต่เขาอยากจะไปเฝ้ากรมขุนสรรพสิทธิ์ ด้วยราชการมณฑลที่ติดต่อกัน จึงวานให้พาหม่อมเจ้าประสบประสงค์ไปส่ง ไปด้วยกันกับนายทองสุกข้าหลวงธรรมการ แลนายแก้วพนักงานหัดกดลายมือ ส่วนข้าราชการมณฑลอุดรที่มาด้วย คือพระยาประจันตประเทศธานีเมืองสกลนคร แลพระยาพิไสยสรเดชเมืองโพนพิไสยเปนต้น ก็ลากลับไปจากที่นี้ กระบวนที่เหลือออกจากเมืองยะโสธรไปเมืองเสลภูมิ หนทางที่มาถึงดอนพระเจ้าแล้วถึงบ้านบ่อ แล้วถึงทุ่งแลบ้านเชียงหวาง มีห้วยแห่งหนึ่งแล้วถึงห้วยหนองปลาตองแลทุ่งบ้านหนองคำ ดงหนองคำทุ่งบ้านพับ ทุ่งบ้านบากบ้านเกิด แล้วถึงทุ่งบ้านเชือกมีที่พักร้อนหยุดพักกินเข้าเช้า แล้วออกจากที่พักร้อนออกทุ่งหัวแตก ถึงลำน้ำยางเขตรเมืองยะโสธรกับเมืองเสลภูมิต่อกัน มีที่พักร้อนอิกแห่งหนึ่งริมฝั่งน้ำยางฟากข้างเสลภูมิ แล้วขึ้นระแทะที่กรมขุนสรรพสิทธิ์ทรงจัดส่งมาประทานสำหรับให้ผลัดกับม้า ต่อมาทางเขตรบ้านโนนยางถึงทุ่งห้วยปลาโพงแล้วถึงเมืองเสลภูมิ เวลาเช้า ๕ โมงเศษ

เวลาถึงที่พักมีชาวบ้านมาหาแห่งละมาก ๆ ทุกแห่ง แลเวลานี้เปนเวลามีดอกพยอม พวกหญิงสาวชาวบ้านมักร้อยเปนมาไลยสวมศีร์ษะเหมือนรัดเกล้า แลต่างหูที่ใช้กันนั้นมีก้านยาวงอนขึ้นข้างหลังเหมือนจอนหูเรียกว่ากะจอน ชาวมณฑลอิสาณใช้ตัดผมเปนพื้นไว้ผมทัดยาว เมื่อถึงที่พักแรมเมืองเสลภูมิ พระราษฎรบริหารผู้รักษาราชการเมืองกะมะลาไศรย แลพระนิคมบริรักษ์ผู้ว่าราชการเมืองเสลภูมิแลกรมการมารับ เวลาบ่าย ๔ โมงไปดูหมู่บ้านแลวัด ตรงเนินแห่งหนึ่งมีศิลาแลงเปนก้อน ๆ เขาเล่าว่าเมื่อครั้งผีบุญราษฎรที่หลงเชื่อว่าหินแร่จะเปนเงิน ได้พากันมาเก็บก้อนกรวดเล็ก ๆ ที่ตรงนี้ไปคนละมากๆ แต่เวลานี้ถ้าใครพูดขึ้นถึงเรื่องผีบุญก็ออกอาย ๆ ตามกัน แสดงอาการประหนึ่งไม่เคยรู้เคยเห็น ระยะทางที่มาวันนี้ตั้งแต่เมืองยะโสธรถึงที่พักร้อนบ้านเชือก ๔๖๑ เส้น ตั้งแต่บ้านเชือกถึงลำน้ำยางแดนเมืองยะโสธรกับเสลภูมิต่อกัน ๑๔๐ เส้น ตั้งแต่ฝั่งน้ำยางถึงที่พักแรมเมืองเสลภูมิ ๒๔๘ เส้น รวมระยะทาง ๘๔๙ เส้น

วันที่ ๒๘ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ไปดูหมู่บ้านเมืองไพ ซึ่งมีศิลาแท่งสลักจมดินอยู่ตามละแวกบ้านนั้น เข้าใจกันว่าเปนหลักเขตรเมืองแต่โบราณ ที่หมู่บ้านนี้มีวัดแห่งหนึ่ง เห็นชาวบ้านกำลังมาตักบาตรที่ลานวัด วิธีรับบาตรทางนี้ชอบกล เขานิมนต์พระเณรมายืนเรียงกันเปนแถวเปิดบาตรคอยรับ ชาวบ้านมีเข้าเหนียวปั้นมาเดินตามกันใส่บาตรเปนแถว แล้วพระยืนยถาสัพพี ดูหลักศิลาแล้วกลับมาทางเดิมเลยที่พักแรมมาถึงที่พักริมลำน้ำพาชีเวลาเช้าโมงเศษ ฝั่งน้ำพาชีตรงนี้เปนเขตรเมืองเสลภูมิกับเมืองร้อยเอ็จต่อกัน ลงข้ามลำน้ำด้วยเรือโถงแล้วขึ้นม้าต่อไปตามฝั่งชี เข้าเขตรบ้านปากหมากค่า บ้านท่าฆ้อ บ้านคอแล้วถึงที่พักร้อนบ้านหำฮอก พระยาขัติยวงศาข้าหลวงบริเวณร้อยเอ็จมาคอยรับ พักกินเข้าเช้าแล้วเดินทางต่อไป เข้าเขตรบ้านหัวบ่อบ้านดอนงัว แลบ้านเก่าน้อยเวลาเช้า ๕ โมงมีที่พักแรม

ระยะทางวันนี้แต่เมืองเสลภูมิไปบ้านเมืองไพ ทั้งหนทางไปแลมาประมาณ ๓๐๐ เส้น ตั้งแต่เมืองเสลภูมิมาถึงฝั่งชี ๔๒ เส้น ตั้งแต่ฝั่งชีข้างเมืองร้อยเอ็จถึงตำบลหำฮอก ๒๐๗ เส้น ตั้งแต่หำฮอกถึงบ้านเก่าน้อยที่พักแรม ๑๕๖ เส้น รวมเพียงระยะทางตั้งแต่ที่พักแรมเมืองเสลภูมิมาถึงที่พักแรมบ้านเก่าน้อย ๔๐๕ เส้น

ที่บ้านเก่าน้อยนี้มีราษฎรชาวบ้านใกล้เคียงมาหามากกว่ามาก มีตาเฒ่าคนหนึ่งเอาด้ายมาขอผูกข้อมือ เมื่ออนุญาตให้ผูกตามประสงค์ก็มีคนเกาะมือถือแขนต่อๆ กันไป เปนการเหมือนช่วยกันผูกอิกเปนอันมาก

เมืองร้อยเอ็จ

วันที่ ๒๙ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ออกจากที่พักแรมบ้านเก่าน้อยเข้าเขตรบ้านอุ่มเม่าเขตรบ้านฮางฮะบ้านโป่งลิง แล้วถึงที่พักร้อนบ้านเล่าคาเวลาเช้า ๒ โมง พักกินเข้าเช้าแล้วเดินทางต่อไปถึงเมืองร้อยเอ็จ เวลายังเช้าจึงแวะนมัสการพระที่วัดกลางแลไปดูหลักศิลาของเก่าขนจากที่ต่าง ๆ รวมไว้ที่น่าบ้านพระยาขัติยวงศา แล้วไปดูหมู่บ้านราษฎรแลตลาด เมืองร้อยเอ็จนี้เปนเมืองโบราณ ยังมีเชิงเทินดินเปนกำแพงเมืองแลมีคูโดยรอบปรากฎอยู่ เวลานี้เปนที่ตั้งที่ว่าการบริเวณแลหัวเมืองที่ใกล้เคียงนำสินค้ามาทางเมืองร้อยเอ็จโดยมาก มีร้านตลาดเปนหมู่ใหญ่ มีชาวเมืองนครราชสิมามาตั้งร้านขายของเปนอันมาก บ้านเรือนราษฎรก็คับคั่งแน่นหนาเปนที่บริบูรณ์ด้วยหนองน้ำแลไร่นา มีการผสมโคกระบือแลเลี้ยงสุกร ใน ๔-๕ ปีนี้มีสุกรจำหน่ายมากขึ้น สินค้าในเมืองมีไหมแลหนังเขานอกนั้นเปนสินค้ามาจากที่อื่นมารวมเปนย่านกลาง ถึงที่พักแรมเมืองร้อยเอ็จเวลาเช้า ๓ โมงครึ่ง ระยะทางตั้งแต่บ้านเก่าน้อยถึงเมืองร้อยเอ็จ ๓๙๒ เส้น พระยาไชยสุนทรผู้ว่าราชการเมืองกาฬสินธุ์ แลกรมการหัวเมืองใกล้เคียงมาคอยรับ แลราษฎรพากันมานั่งคอยอยู่ตั้งแต่เช้าแทบจะเต็มไปทั้งท้องทุ่ง เวลาบ่าย ๔ โมงไปเที่ยวดูภูมิลำเนาเมือง จนถึงวัดบึง พบพระครูเอกุตรสตาธิคุณเจ้าคณะเมืองแล้วไปดูบึงพระลานไชย แลหมู่ร้านแลบ้านราษฎรต่อไป เวลากลับมาถึงที่พักมีประชุมบายศรีตามอย่างที่เคยมา แลพวกพ่อค้ามาหาเปนอันมาก

วันที่ ๓๐ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ออกจากเมืองร้อยเอ็จ หลวงขจรยุตกฤตย์ ซึ่งตามมาในการตรวจทางโทรเลขมณฑลอุดร มณฑลอิสาณ กับนายน่วมมหาดเล็กนักเรียนไปรสนีย์โทรเลข ลาไปเมืองอุบลราชธานี เพราะเมื่อมาตามทางโทรเลข เขาเปนผู้จัดการให้ใช้โทรเลขได้ทุกระยะ แต่ทางต่อไปไม่รวมกับทางโทรเลข จนถึงเมืองพิมายในมณฑลนครราชสิมา เขาสิ้นกิจที่จะต้องไปด้วย ออกจากเมืองร้อยเอ็จมาทางบ้านขอนแก่น บ้านหนามแทง บ้านกาหลง บ้านตำแย บ้านแวงน้อย บ้านแวงควาง ถึงที่พักร้อนบ้านคูโคกเวลาเช้า ๓ โมง ระยะทาง ๔๕๘ เส้น พักกินเข้าเช้าแล้วเวลาเช้า ๔ โมงขึ้นระแทะเข้าเขตรบ้านดงน้อย บ้านสนาม ถึงบ้านนาเลาที่พักแรมเวลาเช้า ๔ โมงครึ่ง ระยะทาง ๒๑๑ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๖๖๙ เส้น ที่พักตั้งอยู่ริมหนองสิมตรงวัดนาเลาซึ่งมีต้นไม้ร่มเย็นดี เวลาบ่าย ๓ โมงครึ่งไปเที่ยวดูถิ่นที่จนถึงวัด พบพระครูวินัยรศฤดี วัดสาทองเมืองร้อยเอ็จตามมาส่งด้วย

การคณะสงฆ์มณฑลอุดรกับมณฑลอิสาณยังผิดกัน มณฑลอิสาณมีเจ้าคณะมณฑล แลจัดการตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์แล้ว แต่มณฑลอุดรยังหาได้จัดไม่ เพราะมณฑลอุดรไม่ใคร่มีพระเข้าไปเล่าเรียนในกรุง ฯ จะเปนด้วยเหตุใดก็สืบไม่ได้ความ แต่ส่วนมณฑลอิสาณมีพระได้เข้าไปเล่าเรียนทั้งธรรมยุติกาแลมหานิกาย จนได้เปนพระราชาคณะแลเปรียญมีหลายรูป มีตัวเจ้าคณะจึงจัดการได้ก่อนมณฑลอุดร แลมณฑลนครราชสิมาด้วย

เขตรเมืองมหาสารคาม

วันที่ ๓๑ มกราคม เวลาย่ำรุ่ง ออกจากที่พักแรมบ้านนาเลา ข้ามห้วยจอกขวาง เข้าเขตรเมืองมหาสารคาม มาถึงที่พักร้อนเมืองวาปีประทุมอันขึ้นต่อเมืองมหาสารคามเวลาเช้าโมงหนึ่ง ระยะทาง ๑๕๐ เส้น เมืองวาปีประทุมตั้งในรัชกาลที่ ๕ ในทำเนียบว่าตั้งที่บ้านนาเลา แต่เจ้าเมืองมาอยู่เสียที่นี่ พระพิทักษ์นรากร ข้าหลวงเมืองมหาสารคาม แลกรมการมารับ แล้วมีบายศรีจานผู้เฒ่าได้กล่าวคำเชิญขวัญแลด้ายผูกข้อมือ เวลาเช้า ๒ โมง ๑๕ นาทีออกจากที่พักเมืองวาปีประทุมเดินทางทุ่งหนองเดิน เข้าเขตรบ้านหนองดินข้ามห้วยน้ำใสเข้าเขตรบ้านปลาบู่ ข้ามห้วยเสียวเข้าเขตรบ้านกุดอ้อ ถึงบ้านหนองผงที่พักแรมริมหนอง เวลาเช้า ๓ โมง ๔๕ นาที ระยะทาง ๒๖๖ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๔๑๖ เส้น

เขตรเมืองพยัคฆภูมิ

วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ เวลาย่ำรุ่ง ออกจากที่พักแรมบ้านหนองผงทางเดินเปนโคกมีไม้เล็กสองข้างทาง เห็นบ้านมาตั้งใหม่แห่งหนึ่งเรียกว่าบ้านดงยางน้อย แล้วถึงทุ่งนาเข้าเขตบ้านกู่แสนตารัดเปนระยะทาง ๔๖๓ เส้น ตั้งแต่เมืองวาปีประทุมต่อกับเขตรเมืองพยัคฆภูมิ์มีทางเล็กแยกไปกู่ คือเทวสถานของโบราณ ประมาณระยะหนทางทั้งไปมา๕๐ เส้น ได้แวะไปดูที่กู่เรียกว่ากู่แสนตารัด เปนปรางค์ก่อด้วยศิลาแลงสูงประมาณ ๓ วา มีเทวรูปศิลาองค์เล็กๆ หักๆ อยู่ภายใน ไม่มีฝีมือทำเปนลวดลายอันใด มีแต่กำแพงศิลาแลงโดยรอบ ตามหนทางที่ไปเมื่อใกล้ถึงเทวสถาน มีเชิงเทินเดินเปนแนวเหมือนจะเปนเมืองเก่า กลับมาออกทางใหญ่เข้าเขตรบ้านนาหาด เวลาเช้า ๒ โมง ๕๐ นาทีถึงที่พักร้อน ระยะทาง ๓๐๒ เส้น ขุนมัณฑลานุการ ข้าหลวงเมืองสุวรรณภูมิ เมืองแพนผู้รักษาราชการเมืองสุวรรณภูมิ์ พระศรีสุวรรณวงศา นายอำเภอเมืองพยัคฆภูมิ์ พระศรีเกษตราธิไชย นายอำเภอเมืองเกษตรวิไสย พระสุนทรพิพิธ นายอำเภอโกสุมพิไสย แลกรมการเมืองต่าง ๆ มาคอยรับ ถามถึงกู่เทวสถานในเขตรเมืองสุวรรณภูมิ์ ว่ามี ๕ แห่ง คือ กู่พระกุนาอยู่ทิศใต้เมืองแห่ง ๑ กู่กะสิงอยู่กลางทุ่งแห่ง ๑ กู่กะโดยอยู่ใกล้เมืองเกษตรวิไสยแห่ง ๑ กู่บ้านด่านแห่ง ๑ กู่บ้านกู่อยู่ใกล้บ้านหัวช้างเมืองพยัคฆภูมิ์แห่ง ๑ เวลาเช้า ๓ โมง ๑๕ นาที ออกจากบ้านนาหาดเข้าเขตรบ้านหนองซำบ้านหัวดง แล้วถึงบ้านหัวช้างที่พักแรมเวลาเช้า ๔ โมง ๕๐ นาที ระยะทาง ๑๔๒ เส้น รวมระยะทางวันนี้ ๔๔๔ เส้น ริมที่พักมีหนองใหญ่เรียกว่าหนองดุม มีบ้านริมหนองเรียกว่าบ้านโพนงานหมู่หนึ่ง แลมีบ้านใกล้ที่พักเรียกว่าบ้านหัวช้างหมู่หนึ่ง เปนหมู่บ้านเล็ก ๆ แลวันนี้พระบรมราชบรรหาร ยกกระบัตรมณฑลนครราชสิมามารับ พร้อมกับนายกวย กรมศึกษาธิการ ซึ่งออกมาเปนข้าหลวงธรรมการมณฑลนครราชสิมา

 

 

  1. ๑. พระศาสนดิลก คำ เดี๋ยวนี้เปนพระยาวิจิตรธรรมปริวัติ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ